เสิ่นเชี่ยวพอเห็นก็รู้สึกสงสัย "นี่คืออะไรหรือ? ยังต้องมัดพวกเราไว้ด้วยหรือ?""ตอนนี้ยังไม่ต้อง"ฟู่จาวหนิงคิดในใจอีกเดี๋ยวพอข้าทำให้พวกท่านชาไปทั้งตัวแล้ว ยังต้องมามัดอีกทำไมกัน นางก็แค่เผื่อเอาไว้ก่อนเท่านั้น"ท่านคนเดียวรักษาพวกเราสองคนหรือ?" เสิ่นเชี่ยวถามขึ้นมาอีก"ใช่แล้ว""ท่านจะเหนื่อยเกินไปไหม?" เสิ่นเชี่ยวเป็นห่วงนางขึ้นมาสายตาที่มองนางอย่างกังวล ฟู่จาวหนิงนิ่งงันไปครู่หนึ่ง"พวกท่านนอนลงบนเตียงเถอะ"ฟู่จิ้นเชินกุมมือภรรยา "ฮูหยินไม่ต้องกลัว ข้าอยู่ข้างๆ""ได้"เสิ่นเชี่ยวดวงตาเหมือนจะร้องไห้ฟู่จาวหนิงหลังจากที่พวกเขานอนลงไปก็ปิดประตู สืออีสือซานคอยเฝ้าอยู่ด้านนอกฟู่จาวหนิงทำความสะอาดมือ สวมถุงมือ ให้พวกเขานอนตะแคง ส่วนตนเองก็หยิบยาชาออกมา"ข้าจะฝังเข็มให้พวกเท่านก่อน เช่นนี้พวกท่านจะหลับไป"ทั้งสองคนนอนตะแคง มองไม่เห็นเข็มในมือนางฟู่จาวหนิงฉีดยาชาให้กับพวกเขาอย่างไม่ลังเลรอจนพวกเขาหลับจึงเริ่มงานสิ่งของในหัวของพวกเขานั้น นางทดลองใช้แม่เหล็กดูก่อน ก็ยังไม่สามารถดึงออกมาค่อยได้ ต่อให้จะใช้คีมปากแหลมเบอร์เล็กที่สุด ก็คีบออกมาไม่ได้เหมือนกันกระทั่งว่า ยั
องค์รัชทายาทต้าชื่อคิดใช้โอกาสนี้สังหารอ๋องเจวี้ยนเสียความคิดสังหารต่ออ๋องเจวี้ยนของเขาควบกลั่นไว้นานแล้ว"อ๋องเจวี้ยนถ้าอยู่ที่แคว้นเจา ข้าเองก็ทำอะไรเขาไม่ได้จริงๆ แต่ตอนนี้เป็นโอกาสดีแล้ว!"องค์รัชทายาทต้าชื่อคุยกับที่ปรึกษาของเขา ดวงตาดุดัน"ข่าวลือที่ส่งมาจากแคว้นเจา จักรพรรดิแคว้นเจาไม่ยอมให้เขาออกจากแคว้นเจา ดังนั้นอ๋องเจวี้ยนจึงถือโอกาสแอบหลบหนีมา ปิดบังองค์จักรพรรดิแคว้นเจาไว้ เช่นนั้นเขาคงไม่ได้นำองครักษ์เงามังกรมาด้วย จึงทำได้เพียงแอบปรากฏตัวเท่านั้น""องค์รัชทายาทพูดได้ถูกต้อง ถ้าไม่ใช่มีคนเปิดเผยออกมา พวกเราก็ยังไม่รู้ว่าจอมยุทธสวมหน้ากากที่ช่วยองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้ที่ถนนวันนั้นคืออ๋องเจวี้ยน!" ที่ปรึกษาเอ่ยขึ้นมา"เขาต้องมาเพื่อฝูอวิ้นแน่นอน"องค์รัชทายาทต้าชื่อรู้สึกว่าตนเองคาดเดาไม่ผิดถึงอย่างไร คนอย่างฝูอวิ้นใครจะไม่อยากแต่งด้วยกัน?อ๋องเจวี้ยนอยู่ที่แคว้นเจา ก็เป็นเหมือนหนามตำตาของจักรพรรดิแคว้นเจา เขาเองก็ไม่มีแรงช่วยใด แต่ถ้าหากเขาสามารถแต่งกับฝูอวิ้นได้ก็จะต่างไปแล้ว!เขาจะมีแรงช่วยจากต้าชื่อ กระทั่งถ้าอยู่ต่อในแคว้นเจาไม่ได้ เขาก็มาเป็นราชบุตรเขยองค์ห
อันที่จริงองค์รัชทายาทเองก็รู้ความตกต่ำของซ่งอวิ๋นเหยา แต่เขาตอนนี้ไม่มีซ่งอวิ๋นเหยามาพัวพันแล้ว ดังนั้นจึงทำเป็นไม่รู้เรื่อง"ไม่กล้าปิดบังใต้ฝ่าพระบาท""ช่างเถอะ" องค์รัชทายาทแม้ในใจจะไม่ค่อยชอบนัก แต่คิดๆ แล้วจึงถามขึ้นมา "เจ้าคิดว่าซ่งอวิ๋นเหยาตอนนี้ยังมีประโยชน์อะไรหรือ?""ไปบอกนางว่าอ๋องเจวี้ยนมายังต้าชื่อ ยิ่งไปกว่านั้นยังคิดจะมารับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไปแต่งงานด้วย คิดแล้วคงไม่ต้องให้ใต้ฝ่าพระบาทลงมือหรอก ซ่งอวิ๋นเหยาก็สามารถไปหาเรื่องพวกเขาได้""เจ้าพูดได้ถูกต้อง"ถึงอย่างไรให้พวกเขาไปกัดกันเอง ท่านคอยดูมหรสพก็พอองค์รัชทายาทคิดๆ แล้วถามขึ้นอีก "ได้ยินว่าฟู่จาวหนิงคนนี้งดงามยิ่งกว่าซ่งอวิ๋นเหยา เทียบเคียงได้กับฝูอวิ้นเลย อันนี้เรื่องจริงไหม?""ใต้ฝ่าพระบาท องค์ชายสองคอยหาวิธีจะเอาฟู่จาวหนิงเข้าไปในจวนอ๋องให้ได้ พระชายาองค์ชายสองไม่ไช่ว่าตั้งครรภ์หรอกหรือ? เขาอยากจะเรียกฟู่จาวหนิงเข้าไปในฐานะแพทย์หญิง ถึงอย่างไรอยู่ใกล้กว่าก็ได้เปรียบนี่นะ" ที่ปรึกษาสองวันนี้ก็ตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว"เขาไม่รู้ตัวตนฐานะที่แท้จริงของฟู่จาวหนิงหรือ?""น่าจะยังไม่รู้ ตัวตนฐานะอ๋องเจวี้ยนเพิ่งจ
ครอบครัวนี้กับพระชายาองค์ชายสองถือว่าเป็นญาติกันอยู่ แม้จะไม่ได้สัมพันธ์ใกล้ชิดนัก แต่เพราะตำแหน่งขุนนางที่ท่านผู้เฒ่ามีอยู่นั้นยังมีประโยชน์อยู่ พระชายาองค์ชายสองปกติจึงยังพอไปมาหาสู่กันบ้างพระชายาองค์ชายรองวันนี้ไม่ได้มา นางเดิมทีครรภ์ยังไม่มั่นคง แน่นอนว่าไม่มีทางมาสถานการณ์แบบนี้ แต่องค์ชายสองมาแล้วตอนที่เหอเซี่ยนอันเดินเข้าไปในศาลาตั้งศพ องค์ชายสองก็เพิ่งมาถึงเขาได้ยินคนข้างๆ ร้องขึ้นอย่างตกตะลึง"นี่ นี่ไม่ใช่คุณชายน้อยเหอหรือ?""ขาของคุณชายน้อยเหอทำไมจึงเดินได้แล้วกัน?""ได้ยินว่าจวนผิงเหอกงเชิญหมอเทวดาไปรักษานี่นา"องค์ชายสองพอได้ยินประโยคนี้ จึงค่อยๆ หันหน้ามองมา และก็เห็นเหอเซี่ยนอันเดินเข้ามาจริงๆหมอเทวดา?องค์ชายสองคิดถึงฟู่จาวหนิงขึ้นมาทันทีเขาหลายวันนี้หาตัวฟู่จาวหนิงไม่เจอมาตลอด น่าจะเพราะหาตัวไม่เจอ ดังนั้นจึงยิ่งยึดติด บวกกับพระชายาองค์ชายเองก็ตั้งครรภ์ เขาไปแตะตัวนางไม่ได้เลย จึงยิ่งรู้สึกปรารถนาต่อตัวหญิงสาวขึ้นไปอีก ในหัวเองพอมีเงาของฟู่จาวหนิง พวกอนุภรรยาในเรือนหลังก็ไม่อยู่ในสายตาแล้วแล้วในจวนอ๋องพระชายาองค์ชายสองเองก็จับตามองอย่างเข้มงวด ไม่ยอมให
ณ เมืองหลวง แคว้นเจาบนถนนที่คึกคักหญิงสาวที่สวมชุดงดงามนางหนึ่งกำลังนำทหารหลายคนของนางไปดักขบวนแห่เจ้าสาวขบวนหนึ่งอย่างดุดัน“หลีกไป นี่คือคุณหนูใหญ่จากตระกูลของหมอเทวดาหลี่ หากว่าพวกเจ้าทำให้คุณหนูไม่พอใจระวังจะเดือดร้อน!” ผู้คนที่กำลังเดินอยู่บนถนนต่างพากันรีบหลีกทางให้ในทันที ด้วยกลัวว่าจะถูกลูกหลง เหล่าชาวเมืองมองไปที่ขบวนแห่เจ้าสาวที่ถูกตกแต่งด้วยความรู้สึกเห็นใจ “นี่เจ้าสาวจากตระกูลไหนกันเนี่ย? ไปทำอะไรให้คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ขัดใจกัน?”“เจ้าไม่รู้หรือ? วันนี้เป็นวันแต่งงานของรัชทายาทเซียวกับคุณหนูตระกูลฟู่ คนที่นั่งอยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวนั่นก็ต้องเป็นคุณหนูฟู่นั่นแหละ”โครม เกี้ยวเจ้าสาวถูกทหารของตระกูลหลี่ใช้กำลังบังคับให้หยุดลง หลังจากที่เกี้ยวเจ้าสาวเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง ก็ได้ยินเสียงตุ๊บดังออกมา คล้ายจะเป็นเสียงของศีรษะที่กระแทกอะไรสักอย่าง“ไปเอาตัวฟู่จาวหนิงมา! แล้วก็ไปถอดชุดเจ้าสาวของนางทิ้งซะ!”คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ชี้นิ้วไปยังเกี้ยวเจ้าสาวก่อนจะสั่งออกมาอย่างวางอำนาจ ทันใดนั้นทหารรับใช้ก็วิ่งไปแล้วยื่นมือไปเปิดม่านบังเกี้ยวเจ้าสาวทันทียายเฒ่าผู้ดูแลพิธีที่ยืนอยู่ด้านข้
สมองจาวหนิงผุดภาพร่างกายที่อ่อนแอของผู้เฒ่าฟู่ขึ้นมาฟู่จาวหนิงกับรัชทายาทเซียวเดิมทีมีการหมั้นหมายอยู่ สุขภาพผู้เฒ่าฟู่เองก็ย่ำแย่ลงทุกวัน ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือสามารถเห็นหลานสาวแต่งเข้าจวนตระกูลเซียวได้อย่างราบรื่น ได้มีที่พึ่งพิงในภายภาคหน้า แต่ตระกูลเซียวก็ไม่ยอมเอ่ยเรื่องงานมงคลเสียทีช่วงนี้อาการป่วยของผุ้เฒ่าฟู่ก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว เขาเป็นลมหมดสติอยู่บ่อยครั้ง พอตื่นขึ้นมาก็จะคว้ามือของนางและกังวลเรื่องงานแต่ง ฟู่จาวหนิงก็ร้อนรน ดังนั้นแต่ละวันจึงเอาแต่เซ้าซี้รัชทายาทเซียว หลังถูกปฏิเสธมาหลายครั้ง นางจึงหยิบยกเอาคุณงามความดีที่บิดามารดาของนางเคยช่วยชีวิตองค์รัชทายาทไว้ออกมาให้องค์จักรพรรดิประทานจัดงานแต่งงานให้รัชทายาทเซียวก็ถูกบีบจนต้องจำใจยอมรับการแต่งงานกับฟู่จาวหนิงเซียวเหยียนจิ่งเองก็เป็นบุรุษรูปงามอันดับต้นๆ ในเมืองหลวงจริงๆ คิ้วกระบี่ดวงตาดอกท้อ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเชิด รูปหน้ายอดเยี่ยม ร่างสูงโปร่ง เสื้อคลุมสักหลาดพอดีตัวดูสูงส่ง ขับเน้นร่างของเขาออกมาจนตัวดูเป็นคนแต่นิสัยเป็นสุนัขเสียอย่างนั้นไม่แปลกที่หลี่จื่อเหยาหลงใหลเขามาตลอดพอคิดถึงสถาน
เสียงโครมดังขึ้น เซียวเหยียนจิ่งรู้สึกว่าเลือดถูกต้มจนเดือดปุดขึ้นมาถึงกระหม่อม"ฟู่!จาว!หนิง!"เขากัดฟันเอ่ยชื่อฟู่จาวหนิงออกมาทีละคำๆนางกล้าดีอย่างไร จึงกล้ามาหยามหมิ่นเขาเช่นนี้?ชาวบ้านรอบๆ ก็ล้วนตาโตพูดไม่ออกกันหมด จากนั้นจึงมองพวกเขาทั้งสองและพยักหน้าเห็นด้วยแบบไม่รู้ตัว พวกเขารู้สึกว่าสิ่งที่คุณหนูฟู่พูดออกมานั้นถูกต้องเซียวเหยียนจิ่งจ้องนางอย่างเกลียดชัง "ฟู่จาวหนิง เจ้าอย่ามาเสียใจภายหลังแล้วกัน! ข้าตอนนี้จะคอยดู ว่าเจ้าจะไสหัวกลับไปอย่างไร! เจ้าอย่าลืมว่าปู่ของเจ้า ตอนนี้เขาก็เหมือนจะเหลือแค่ลมหายใจเฮือกสุดท้ายแล้วสินะ เจ้าเชื่อไหมว่าพอเจ้าเหยียบเข้าประตูจวนไปและเขารู้ว่าเจ้าถูกถอนหมั้น เขาคงขาดใจตายทันทีแน่?"ฟู่จาวหนิงจ้องเขาตาลุกโชนเซียวเหยียนจิ่งเจ้าผู้ชายขยะ ป่านนี้แล้วยังจะมาคุกคามนางอีก!แต่ฟู่จาวหนิงก็รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นไม่ผิดเลย ผู้เฒ่าฟู่เวลานี้คงทนรับเรื่องแรงๆ ไม่ไหวเซียวเหยียนจิ่งพอเห็นนางไม่โต้กลับ ก็หัวเราะเสียงเย็นขึ้นมา "แล้วก็ที่เจ้าหยามหมิ่นรัชทายาทอย่างข้าวันนี้ ข้าจดจำไว้หมดแล้ว เจ้าอย่าได้หวังว่าจะหาสามีได้อีก"เขาจะคอยดูว่าตระกูลไหนจะก
"จวนอ๋องเซียว?"ชายหนุ่มในรถม้าพอลิ้มรสสามคำนี้ น้ำเสียงก็เปลี่ยนทันควัน "ไสหัวไปไกลๆ"เซียวเหยียนจิ่งตะลึงงันด้วยโทสะ รู้ถึงตัวตนฐานะเขาแล้ว แต่กลับยังไล่ให้เขาไสหัวไป?"ไม่ได้ยินที่ท่านอ๋องพูดหรือ?" ทหารตบลงที่หัวม้า ม้างามก็ยกเท้าหน้าขึ้นทันที ถีบพัดเซียวเหยียนจิ่งออกไปอย่างแรง"อ๊า!"เซียวเหยียนจิ่งถูกม้าถีบจนปลิว ตกกระแทกลงไปที่หน้าหลี่จื่อเหยาพอดี นางรีบร้อนเข้าไปประคองตัวเขา "พี่เซียว!"นางกระโจนตัวขึ้น ถลึงตาไปทางรถม้าด้วยความโกรธ "อ๋องเจวี้ยนอะไรกัน! คุณหนูอย่างข้าไม่เห็นจะเคยได้ยิน ขนาดพี่ชายองค์รัชทายาทก็ยังรักข้ายอมให้ข้ามาตลอด แล้วเจ้าสูงส่งกว่าท่านพี่องค์รัชทายาทหรือ? ข้าจะบอกเจ้านะ บิดาข้าคือหมอเทวดาหลี่!"ทหารที่เดิมทีชักกระบี่ออกมาแล้วพอได้ยินคำว่าหมอเทวดาหลี่ ท่าทางก็หยุดลงทันที เขาหันหน้าไปมองฟู่จาวหนิง ลังเลขึ้นมา"อ๋องเจวี้ยนจะเสียเวลาอีกไม่ได้ โทษของเจ้าคนโง่ที่ไม่เคารพต่อท่านอ๋อง ข้าจะสั่งสอนนางแทนท่านอ๋องเอง"ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นเสียงขรึม กระชากกระบี่ของทหารออกมา สาวเท้าขึ้นหน้าไปทางหลี่จื่อเหยา ชูกระบี่ แสงเย็นวาบ เสียงแควกดังขึ้น หลี่จื่อเหยารู้สึกหน้าอ