ในจวนองค์ชายสองพระชายาองค์ชายสองโมโหจนไม่ยอมกินอะไรไปหนึ่งวัน ตอนถึงช่วงค่ำก็รู้สึกว่าท้องน้อยห้อยลงมา รู้สึกทรมานมากนางร้อนรนจนทนไม่ไหว ให้องค์ชายสองไปเชิญหมอหลวงมาทันทีหมอหลวงหลังจากจับชีพจรนางแล้วก็กังวลเล็กน้อย"พระชายาองค์ชายสองช่วงนี้ต้องพักผ่อนให้ดีดี ปล่อยให้อารมณ์ดีเสียหน่อย อย่าโกรธหรืออย่าฉุนเฉียว..."คำพูดของหมอหลวงยังไม่ทันพูดจบ พระชายาองค์ชายสองก็โมโหโบกมือ ถ้วยกาน้ำชาบนโต๊ะข้างๆ จนหล่นเครื่องเคลือบเหล่านั้นตกลงพื้นเสียงดังเพล้ง ลอยกระจายเป็นชิ้นๆมีเศษชิ้นเล็กชิ้นหนึ่งกรีดไปบนข้อมือนาง ปาดจนนางเป็นแผลทันที"อ๊า!"ถึงแม้แผลนั้นจะตื้นมาก แต่พระชายาองค์ชายสองก็ตกตะลึงจนหน้าซีด"นี่ต้องเป็นลางร้าย! จะต้องเป็นลางร้ายแน่ๆ! ท้องข้าไม่ค่อยสบายขึ้นมาก่อน ตอนนี้ยังเลือดออกอีก นี่สวรรค์กำลังเตือนข้าใช่ไหม? ข้าโชคร้ายอยู่สินะ? ลูกของข้า ลูกของข้าจะเป็นอะไรหรือเปล่า?"พอเห็นนางตื่นเต้นหวาดกลัวขนาดนี้ หมอหลวงก็รีบเตือนขึ้นมา"พระชายา ท่านอย่าเพิ่งลนลานสิ ไม่เป็นไรมันไม่เป็นไร แต่ว่านี่เป็นแค่แผลต้นๆ ไม่ถือว่าเลือดออกด้วยซ้ำ...""เจ้าจะไปรู้อะไร!" พระชายาองค์ชายสองร้อง
"จริงหรือ?"พระชายาองค์ชายสองดวงตาเป็นประกาย ถ้าเป็นเช่นนี้จริง ก็ถือว่าไม่เลวอยู่นะ ถือเป็นหลักประกันไปด้วยตอนนี้นางก็กังวลอยู่ตลอด กลัวว่าจู่ๆ จะไม่สบายตรงไหน กว่าจะเชิญหมอหลวงมาจะไม่ทันการเอา ยิ่งไปกว่านั้นบางครั้งบางจุดที่ไม่สบายก็บอกหมอหลวงไม่ได้ อย่างเช่นตอนนี้ตรงนั้นของนางรู้สึกคันหน่อยๆ พอตอนเช้าตรู่ก็ทนแทบไม่ไหว"มีหมอเทวดาหญิงด้วยหรือ?""มีสิ ก็คนที่หออันดับหนึ่งคนนั้นไง ก่อนหน้านี้ข้าเล่าให้เจ้าฟังแล้วนี่?""ที่ท่านบอกว่าเป็นคนช่วยพ่อครัวใหญ่ ฝีมือมีดร้ายกาย ใช้มีดฉับๆ ไม่กี่ทีก็ฝานเห็ดเชียนเสวี่ยจนเรียบร้อยคนนั้นน่ะหรือ?"ก่อนหน้านางได้ยินองค์ชายสองบรรยายไว้เช่นนี้ ในหัวสมองมีภาพของหญิงสาวกลางคนนิ้วด้านรอบเอวหนาคนหนึ่งผุดขึ้นมาเหมือนกับกำลังพูดถึงแม่ครัว"ใช่ นางคนนั้นเลย"ในสมององค์ชายสองผุดภาพหน้าฟู่จาวหนิงขึ้นมาหลายวันนี้หาไม่เจอเลย เขาฝันก็ยังฝันเห็นฟู่จาวหนิงเลย นี่น่าจะเป็นยิ่งคิดถึงมากก็เก็บไปฝันถึงสินะ"แล้วคุณพานางมาก็ได้""ได้ เจ้าเองก็ทำตามที่หมอหลวงบอก พักผ่อนให้ดี ข้าจะรีบไปหาตัวมา"องค์ชายสองปลอมพระชายาองค์ชายเสร็จ ก็ส่งคนออกไปค้นหาฟู่จาวหนิงต่
สถานที่ที่เสิ่นเสวียนพัก คนนอกน่าจะไม่รู้พวกเขาล้วนไม่อยากให้ฟู่จาวหนิงถูกเปิดโปงเสิ่นเสวียนเองก็ได้ยินข่าวที่ชิ่งอวิ๋นเซียวส่งเข้ามา รู้ว่าฟู่จาวหนิงน่าจะไม่รู้เรื่องในบ้านของผิงเหอกง จึงเข้ามาบอกนางก่อน"ผิงเหอกงเป็นราชบุตรเขยองค์หญิงใหญ่ เพียงแต่ตอนนั้นองค์หญิงใหญ่ถือว่าแต่งออกไป บอกกับผิงเหอกงชัดเจนว่าไม่ได้รับเขามาเป็นราชบุตรเขย แต่นางแต่งออกไปเหมือนหญิงสาวธรรมดา นางเองก็คอยปรนนิบัติพ่อแม่สามี ไม่ให้คนนอกเรียกผิงเหอกงว่าราชบุตรเขย แต่ก็ยังเหลือยศผิงเหอกงไว้ให้เขาต่อ ส่วนนางเองก็เป็นฮูหยินผิงเหอกง""รักแท้หรือ?" ฟู่จาวหนิงถาม"ในตอนนั้นเหมือนจะใช่อยู่ ทั้งสองคนฮือฮาหวือหวาน่าดู มีเรื่องดีดีลือกันออกมาตั้งหลายปี""หาได้ยาก"เสิ่นเสวียนส่ายหัว "แต่ต่อมาองค์หญิงใหญ่ก็คลอดลูกสาวติดกันถึงสามคน ผิงเหอกงทนการกดดันต่อการสืบเชื้อวงศ์ตระกูลไม่ไหว จึงรับภรรยาผู้น้อยมาอีกหลายคน ในบ้านทะเลาะกันหนักหน่วง องค์หญิงใหญ่เองก็ฝีมือร้ายกาจ ไม่ยอมให้ภรรยาผู้น้อยเหล่านั้นได้ให้กำเนิดลูกชายเลยแม้แต่คนเดียว"ฟู่จาวหนิงถลึงตาอ้าปากค้างคิดว่าเป็นเรื่องราวรักที่สวยงามเสียอีก ใครจะไปคิดว่าตอนจบจะน
"สถานที่นี้ หลายปีก่อนหน้าก็ไม่ได้ปิดบังเขา เขาต้องเคยไปจะต้องไปหาที่บ้านหลังอื่นาาแล้วแน่ๆ ถึงได้มาที่นี่"ตอนนั้นเขาป่วยจนไม่ไหวแล้ว จึงไม่อยากจะปิดบังท่านอารอง เพราะตอนนั้นเขายังรู้สึกว่าถ้าตนเองป่วยตาย พอแม่กับบ้านตระกูลเสิ่นจากสามารถไหว้วานให้บ้านสอง ให้พวกเขาช่วยคิดหาวิธี ไม่ปล่อยวางเรื่องที่จะช่วยพี่ใหญ่กลับมาแต่ตอนนี้..."จาวหนิงปลอมโฉมเสีย อย่าให้คนจำได้ก็พอ" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น "ถ้าอย่างนั้นให้ข้าพานางหลบไปก่อน""กลัวแค่ว่า..." จะไม่มีประโยชน์ยังไม่ทันพูดว่าไม่มีประโยชน์ ด้านนอกก็มีเสียงเอะอะลอดเข้ามาแล้ว มีคนรีบตรงเข้ามาทางนี้"อาเสวียน! แม่นางฟู่!"เสียงท่านอารองเสิ่นดังลอดเข้ามา เขายังดูร้อนรนมากด้วย จังหวะก้าวทั้งหนักทั้งเร่ง"ท่านผู้เฒ่ารองท่านเข้าไปไม่ได้..." เสียงของไป๋รื่อดังลอดเข้ามาด้านนอก แล้วยังมีเสียงคนอีกหลายคนเตือนขึ้นมา"เขามาถึงแล้ว" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นท่านอารองเสิ่นนางรู้จัก อายุก็มากแล้ว ร่างกายก็ผอมโซ สีหน้าเองก็ดูไม่ค่อยดี ดูท่าองครักษ์ด้านนอกพอเห็นเขาก็คงไม่กล้าจะขวางจริงๆ หรอกถ้าเผื่อไปกระแทกตรงนั้นตรงนี้เข้าจะทำอย่างไรกัน?ดังนั้นพอความ
"อาเสวียน เจ้าพูดอะไรออกมากัน? ไม่เข้าใจความพยายามของข้าเลยหรือ?"ท่านอารองเสิ่นถอนใจเสียงหนัก ทำท่าเตรียมจะพูดคุยดีดีกับพวกเขา"ท่านมีอะไรต้องพยายามกัน?"คำพูดนี้ของเสิ่นเสวียนดูประชดประชันหน่อยๆ แต่ว่าท่านอารองเสิ่นก็ฟังไม่ออก เสิ่นเสวียนยังไม่อยากจะแยกตระกูลเสิ่นออก หลักๆ คือเวลายังไม่เหมาะสม ตอนนี้ถ้ามาตัดขาดทางใครทางมัน เกรงว่าพวกเขาจะทำตัวเป็นสุนัขจนตรอกกันเขาเองยังมีบางเรื่องที่ทำไม่เสร็จ จึงคิดจะให้คนเหล่านี้อยู่กันนิ่งๆ ก่อนแต่ตอนนี้พวกเขากลับทำตัวเหมือนหมาจนตรอกขึ้นเสียแล้ว คิดจะลงไม้ลงมือกับฟู่จาวหนิง"ตระกูลเสิ่นของพวกเราตอนนี้มีสถานการณ์เช่นไรห เจ้าเองก็รู้ สวนตระกูลเสิ่นตอนแรกก็จะส่งให้พวกข้า แล้วป้ายชื่อคำว่าสวนตระกูลเสิ่นนั่นองค์จักรพรรดิรุ่นก่อนก็ทรงเขียนให้ด้วยตนเอง ตอนนั้นคนทั้งต้าชื่อล้วนกำลังคิด ว่าใครเองก็ไม่โดดเด่นเท่านั้นบ้านตระกูลเสิ่นของพวกเรา"ท่านอารองเสิ่นถอนหายใจเคร่งขรึมออกมา"องค์จักรพรรดิรุ่นที่แล้วยังมีรับสั่ง ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร ก็ห้ามบุกรุกเข้ามายังสวนตระกูลเสิ่นค้นบ้านจับคน สวนตระกูลเสิ่นเป็นสิ่งที่เหล่าประชาชนต้าชื่อรู้สึกว่ายอดเยี่ยมมาโ
ฟู่จาวหนิงรู้สึกเหมือนตนเองกำลังถูกเล่นตลก"ไม่ใช่หรือไร? เจ้าเองก็เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง เห็นบอกว่าแต่งงานแล้วด้วย แต่เจ้าก็มาพักอยู่บ้านคนอื่นตัวเดียวนานขนาดนี้ เจ้าคิดว่าใครจะเชื่อเจ้าลงกัน? ดังนั้นเจ้าก็ต้องช่วงชิงตัวตนฐานะออกมา หลังจากนี้หากต้องแต่งงานจริง เจ้าก็ยังสามารถเลือกสามีที่ดีได้ กระทั่งว่ายังมีความสามารถที่จะสนับสนุนตนเอง จนไม่ต้องถูกบ้านสามีกดขี่หัวเอาไว้ด้วย"คนบางคนจากบ้านสามี: เขาไปกดขี่หัวหนิงหนิงตั้งแต่เมื่อไรกัน?"ข้าต้องขอบคุณท่านจริงๆ ที่พิจารณาเพื่อข้าอย่างละเอียดขนาดนี้" ฟู่จาวหนิงอยากจะหัวเราะออกมาเสียจริงให้ตายเถอะ ถ้าไม่บอกนางก็ไม่รู้เลย ว่าท่านอารองจะคิดแทนนางเสียขนาดนี้ นี่คิดไปถึงวันข้างหน้าแล้วด้วย"เจ้าตอนนี้อยู่กับอาเสวียน ก็ถือว่าพึ่งพาอาเสวียนอยู่ เช่นนั้นก็ถือว่าเป็นคนบ้านเดียวกัน ข้าตอนนี้ในฐานะผู้อาวุโสของตระกูลเสิ่น จะไม่คิดแทนพวกเจ้าได้อย่างไรกัน? คุณชายน้อยขอผิงเหอกงคนนี้ ถ้าพูดเรื่องตัวตนฐานะก็ถือว่าสูงส่งอยู่ ตอนนี้หมอใหญ่ตั้งมากมายก็ยังรักษาเขาไม่ได้ นี่เป็นโอกาสของเจ้าแล้ว""ถ้าเจ้าตอนนี้รักษาองค์ชายได้สำเร็จ ไม่ใช่แค่สามารถได้ทั้งชื่อเ
ท่านอารองเสิ่นสีหน้าเปลี่ยนไปในพริบตาหลานชายสองคนของเขานั้นมีพรสวรรค์อยู่ แต่เพราะการเรียนแพทย์ไม่ใช่เรื่องง่าย เขาให้หมอฉงคอยสอนพวกเขา แล้วยังเตรียมจะหาหมอมีชื่อคนอื่นให้พวกเขาอีกด้วยก็นั่นล่ะ งานประชุมหมอใหญ่ครั้งนี้ เขาเองก็คิดจะพาหลานสองคนนี้ไปเข้าร่วมอยู่ ถ้าถึงเวลาแล้วสามารถถูกหมอมีชื่อในงานประชุมหมอใหญ่รับเป็นศิษย์ได้ด้วย นั่นก็จะแตกต่างไปทันทีหลังจากนั้นค่อยไปหาพวกหนังสือสะสมบางส่วนของบ้านตระกูลเสิ่น จะต้องมีอยู่หลายเล่มที่เป็นคัมภีร์ยาที่ไม่เคยปรากฏในโลกมาก่อนเเป็นแน่ จากนั้นก็ให้พวกเขาค้นคว้าสักสองปี บานของเขาก็จะมีหมอเลื่องชื่อปรากฎขึ้นสองคนแล้ว!หมอเลื่องชื่อที่อายุยังน้อย อนาคตจะสดใสเสียขนาดไหนกัน!แต่ว่าตอนนี้ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็เอ่ยถึงหลานชายสองคนนี้ขึ้นมา แล้วจะให้พวกเขาไปยุ่งกับการรักษาโรคประหลาดของลูกชายผิงเหอกงกับองค์หญิงใหญ่อีก แล้วถ้าหากรักษาไม่ได้ขึ้นมา อาจจะถูกองค์หญิงใหญ่สังหารทิ้งก็ได้นี่!"ฟู่จาวหนิง เรื่องนี้เอามาพูดตลกกันได้ด้วยหรือ? เจ้าเป็นหมอ พวกเขายังไม่ใช่เสียหน่อย..."ท่านอารองยังไม่ทันพูดจบ ฟู่จาวหนิงก็ตัดบทเขาขึ้นมา "ยังไม่ใช่หมอแต่แค่เรียนมาก
"เจ้าๆๆ! เสิ่นเสวียน! เจ้าพาใครมากันนี่ นางๆๆ กล้าสาปแช่งข้า!" ท่านอารองเสิ่นโมโหจนหน้ากลายเป็นสีตับหมูไปแล้ว ชี้มาทางฟู่จาวหนิง กระทั่งมือยังสั่นเทา"ท่านอารอง ท่านพูดอะไรกัน? จาวหนิงไม่ใช่คนแบบนั้นเสียหน่อย นางเป็นคนที่ว่าง่ายรู้เรื่องมาโดยตลอด"เสิ่นเสวียนเอ่ยขึ้น"เจ้าไม่ได้ยินหรือ?""ไม่นี่ ข้าได้ยินแต่นางบอกว่าจะแบ่งโอกาสครึ่งหนึ่งให้กับลูกพี่ลูกน้องสองคน ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ถ้าจาวหนิงไปที่จวนผิงเหอกง ข้าจะพาลูกพี่ลูกน้องสองคนนั่นส่งไปด้วย ควรจะให้โอกาสพวกเขาเสียหน่อย จะไม่ให้ไม่ได้"เสิ่นเสวียนพูดจบก็บอกพวกของหลิวหั่ว "ส่งแขก เรือนนี้เล็กเกินไป คนมาอยู่เยอะไม่ได้"เขาพาฟู่จาวหนิงหันกลับเข้าประตูไป ไม่สนใจท่านอารองเสิ่นอีก"เสิ่นเสวียน! เจ้าถูกนางล่อลวงสติสตังไปแล้วใช่ไหม? เจ้าทำไมถึงเป็นแบบนี้กับนาง? เจ้าทำไมถึงกล้าไล่ข้าเพื่อนางกัน? เสิ่นเสวียน ในใจเจ้ามีความกตัญญูอยู่บ้างไหม?""ซ่า!"น้ำเย็นถังหนึ่งสาดเข้ามา สาดลงไปบนตัวเขา จนลูกตาเลอะไปหมดแล้วในวันฤดูใบไม้ร่วงแก่ๆ ใกล้เข้าฤดูหนาวแบบนี้ น้ำถังหนึ่งพอสาดเข้ามาก็เย็นวาบไปถึงหัวใจเลยท่านอารองเสิ่นสั่นสะท้านขึ้นมาทันที"