"อ๊า! เจ็บๆๆ เจ็บจะตายอยู่แล้ว!"ท่านอารองเสิ่นคิดจะกอดเข่า แต่มือพอแตะโดนก็ยิ่งเจ็บ เขาเจ็บจนร้องออกมาอย่างเวทนาคนขับรถไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรไป จึงรีบพาเขาตรงไปที่พัก ที่นั่นมีคนจากบ้านสองของตระกูลเสิ่นอยู่หลายคนพวกเขาล้วนรอข่าวดีที่ท่านอารองจะนำกลับมาแต่คิดไม่ถึงว่าที่รออยู่กลับเป็นคนที่สลบไสลไปแล้ว"เกิดอะไรขึ้น?""คุณท่านสลบไปแล้ว! เหงื่อแตกไปทั้งตัว เสื้อผ้าเปียกปอนไปหมดเลย!"พอเห็นสภาพท่านอารองเสิ่นที่ถูกบีบคั้น คนของบ้านสองก็หน้าถอดสีกันหมด"เร็ว รีบไปเชิญหมอมา!"แต่หมอใหญ่ที่วิชาแพทย์ดีที่สุดในสมองพวกเขาคือฟู่จาวหนิงท่านผู้เฒ่าบ้านสองรีบกระชากเสื้อคนขับรถ "เกิดอะไรขึ้น? เล่ามาให้ละเอียด!"รอจนคนขับรถเล่าเรื่องราวออกมาตะกุกตะกักจนหมด สีหน้าของคนบ้านสองก็ดำเหมือนหมึกขึ้นมา"มีหลักการแบบนี้ด้วยหรือ! ฟู่จาวหนิงช่างกล้านัก!""เสิ่นเสวียนยังปกป้องนางอีกด้วย ยอมให้ผู้ติดตามของนางลงมือทำร้ายผู้อาวุโสของตระกูลเสิ่นขนาดนี้?""ดูท่า เสิ่นเสวียนจะสงสัยพวกเราเข้าแล้ว ไม่ได้มีจิตใจเช่นเดียวกับพวกเรา"สีหน้าคนบ้านสองซับซ้อนขึ้นมา มองหน้ากันไปมา"ฟู่จาวหนิงดูท่าจะโหดเหี้ยมเอา
หลังจากนี้เขาจะรู้สึกได้ถึงสุขภาพแข็งแรงของคนทั่วไปเป็นครั้งแรกแล้วว่าเป็นแบบไหนพอคิดถึงจุดนี้นางก็รู้สึกสงสารเขาขึ้นมาหน่อยๆหลายปีมานี้ใช้ชีวิตมาไม่ง่ายเลยจริงๆ"หนิงหนิง ขอบคุณเจ้ามาก"น้ำเสียงเซียวหลันยวนติดสะอื้นหน่อยๆฟู่จาวหนิงยิ้มๆ "หลังจากนี้ก็ดีกับข้าหน่อยล่ะ""แน่นอน""ยินดีด้วยอ๋องเจวี้ยน" เสิ่นเสวียนเอ่ยขึ้นมาแล้ว เลิกกอดกันเสียทีได้ไหม?เซียวหลันยวนตอนนี้จึงปล่อยตัวฟู่จาวหนิง เขาหมุนตัวไปทางเสิ่นเสวียน เอ่ยขึ้นอย่างตั้งใจ "ท่านลุงอย่าได้ห่างเหินนักเลย เรียกข้าว่าอายวนก็พอแล้ว"ก่อนหน้านี้ทำไมไม่เคยได้ยินเขาพูดแบบนี้เลย?แต่เสิ่นเสวียนก็ไม่เกรงใจเช่นกัน "เช่นนั้นหลังจากนี้ข้าจะเรียกเจ้าว่าอายวน""ขอรับ ท่านลุง""มาพูดเรื่องของผิงเหอกงหน่อย" เสิ่นเสวียนนวนคิ้ว "ตอนนี้ที่ลำบากสุดก็คือการที่ฝ่าบาทจะรับมือกับตระกูลเสิ่น ฟุ่จาวหนิงอยู่ในบ้านตระกูลเสิ่นมาตลอด ผิงเหอกงกับองค์หญิงใหญ่ทั้งสองคนถึงเวลาเกรงว่าจะทำไม่ดีกับนาง"เซียวหลันยวนกุมมือฟู่จาวหนิง เอ่ยขึ้นอย่างสงบ"ดังนั้น หนิงหนิงจึงไม่ต้องไปด้วยตัวตนฐานะของบ้านตระกูลเสิ่น""อื๋อ?"เสิ่นเสวียนกับฟู่จาวหนิงมอง
ฟู่จาวหนิงพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ยังตัดสินใจว่าจะไปอยู่หนึ่งคือนางเองก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นอาการป่วยของลูกชายผิงเหอกงจริงๆ สองคือ ถ้าหากอีกฝ่ายบุกเข้ามาเชิญจริงๆ ตอนนี้เซียวหลันยวนเองก็อยู่ที่นี่ด้วย ซ้ำยังกำลังเป็นช่วงสำคัญที่สุดในการรักษาใบหน้าด้วย นางไม่อยากให้เรื่องมาบานปลายใหญ่โต ถึงตอนนั้นจะดึงเขาลำบากไปด้วย"แล้วก็ เพื่อเสิ่นเสวียนด้วย"ตระกูลเสิ่นตอนนี้กำลังลำบาก เสิ่นเสวียนเองก็ยิ่งลำบากองค์จักรพรรดิต้าชื่อคอยรับมือกับตระกูลเสิ่นอยู่เช่นนี้ หลังจากนี้เกรงว่าคงจะไม่เหลือเส้นทางไว้ให้ครอบครัวของเสิ่นเสวียนอีกแล้วนอกจากตัวเสิ่นเสวียนเองที่พยายามต่อต้าน จุดที่นางช่วยได้ก็ต้องทำให้เต็มที่แล้วก็พฤติกรรมสังหารหมอที่รักษาลูกชายไม่ได้ขององค์หญิงใหญ่ ครอบครัวนั้นก็คงไม่ใช่คนดีอะไร แต่ ถ้าหากนางรักษาคุณชายน้อยได้ล่ะ อย่างน้อยก็คือว่าบีบผิงเหอกงกับองค์หญิงใหญ่ไว้ได้แล้ว หลังจากนี้อย่างน้อยก็ไม่ใช่ศัตรูกันยิ่งไปกว่านั้นที่สำคัญที่สุดคือ นางสามารถยืมจุดนี้สร้างชื่อได้ ถึงตอนนั้นก็เป็นไปได้มากว่าจะสามารถใช้เส้นสายที่นางชิงมาได้ในต้าชื่อเข้าสนับสนุนเสิ่นเสวียนในเมื่อคิดจะไปยังจวน
เซียวหลันยวนขมวดคิ้ว "เวลาขนาดนี้แล้ว พวกเขาคืนนี้คงไม่ปล่อยเจ้าไปแน่""ข้าพาสืออีสือซานกับไป๋หู่สามคนไปด้วย""พาเสี่ยวชิ่นไปด้วย" เสิ่นเสวียนเอ่ยขึ้น "ถ้าหากต้องค้างคืนที่นั่นจริง ข้างกายเจ้าไม่มีสาวใช้สักคนคงไม่ค่อยสะดวกนัก"เสี่ยวชิ่นวิ่งเข้ามา กอดห่อผ้าห่อใหญ่มาด้วย "นายท่าน คุณหนูจาวหนิง ข้าเก็บของที่ควรเอาไปด้วยมาหมดแล้ว""อืม เจ้าติดตามคุณหนูไปก็ต้องตื่นตัวหน่อยนะ" เสิ่นเสวียนกำชับมา"ข้าน้อยทราบแล้ว"เสี่ยวชิ่นยังดีอกดีใวจที่ฟู่จาวหนิงใช้งานนาง ไม่เช่นนั้นเวลาเช่นนี้ฟู่จาวหนิงก็เอาแต่พาพวกสืออีไป เห็นได้ชัดว่านางไร้ประโยชน์ในเรือน คนจากจวนผิงเหอกงยังคงเร่งมาอยู่"ยังไม่เจอคนอีกหรือ? หมอเทวดาฟู่นี่ก็หน้าใหญ่เหมือนกันสินะ?"ฟู่จาวหนิงพาเสี่ยวชิ่นเดินออกมาพอคุณหนูรองเหอเห็ฯนาง ดวงตาก็ถลึงตาโตขึ้นทันที นางก็โพล่งออกมาทัน "ให้ตายเถอะ! ทำไมถึงงามกว่าที่ได้ยินมาเสียอีก!"สาวใช้นางถลึงตาอ้าปากค้าง พยักหน้าด้วยสัญชาตญาณ "งดงามมากจริงๆ"ฟู่จาวหนิงในชุดกระโปรงสีฟ้าน้ำทะเลสาบ และยังมีเสื้อนอกสีน้ำเงินปักดอกไม้ลายเงินอีกตัวหนึ่ง ดูแล้วทรงสง่าและดูสบายดีด้วยปอยผมที่ขมับกดไว้เ
พอเห็นว่าใกล้จะถึงจวนผิงเหอกงแล้ว คุณหนูรองเหอยังไม่เก็บสายตากลับมาจากหน้าฟู่จาวหนิงตลอดทางนางเอาแต่มองฟู่จาวหนิงยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าใบหน้านี้มันงามเสียเหลือเกิน ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกแปลกประหลาดตลอดทางฟู่จาวหนิงถามนางเกี่ยวกับเรื่องคุณชายน้อยไปพอสมควร หลักๆ ล้วนวนอยู่ที่อาการป่วยเขาไม่ได้พูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับอาการป่วยของเขาเลยคุณหนูรองเหอรู้สึกแปลกประหลาดสุดๆ"คุณหนูรอง ถึงแล้วขอรับ" คนขับรถหยุดรถม้าฟู่จาวหนิงเตรียมลงจากรถม้า คุณหนูรองเหอไม่รู้ว่าตนเองคิดอะไรอยู่ ดึงมือของนางเอาไว้"แม่นางฟู่ ข้าไม่ได้ขู่ท่านนะ แม่ของข้าไม่มีทางดีกับท่านเพราะท่านหน้าตาดีแน่ ถ้าหากท่านรักษาน้องข้าไม่ได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังบอกถึงสาเหตุอะไรไม่ได้ แม่ของข้าจะเอาชีวิตของท่านไปจริงๆ"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าคุณหนูรองเหอคนนี้น่ารักเสียจริง"เช่นนั้นท่านจะให้ข้าหนีไปตอนนี้หรือ?""ไม่ใช่ ข้าอยากให้ท่านคิดให้ดี ถ้าหากรักษาไม่ได้ล่ะก็ ท่านต้องพูดอะไรออกมาหน่อย ต่อให้จะแต่งคำน่าฟังอะไรออกมาหน่อยก็ยังดี ข้าขอบอกกับท่านไว้ ถึงอย่างไรให้พูดอะไรก็ได้ที่ทำให้แม่ของข้ารู้สึกว่ามีหวัง เช่นนี้นางจะไม่สัง
องค์หญิงใหญ่โมโหจนตบโต๊ะ "ข้าจะบอกท่านไว้นะ ท่านอย่าได้คิดเพ้อเจ้อเชียว ข้าไม่มีทางให้นังสารเลวพวกนั้นได้คลอดลูกชายแล้วมาแย่งของของอันเอ๋อร์ของข้าหรอก!"ทั้งหมดของจวนผิงเหอกงนี้ควรจะเป็นของอันเอ๋อร์ภรรยาน้อยสองคนในเรือนตะวันตกนั่น นางส่งคนไปไปกรอกยาแท้งลูกไว้นานแล้ว นายท่านยังคิดว่าพวกนางจะมีลูกได้รึสีหน้าผิงเหอกงขรึมลงมามาอีกแล้วมาอีกแล้ว ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้ หญิงเหี้ยมคนนี้เริ่มอาละวาดอีกแล้วเขาตบตะเกียบลงดับป้าบ"ไม่กินแล้ว!"""เดิมทีก็ไม่ควรกินอยู่แล้ว!"นายท่าน ฮูหยิน หมอเทวดาฟู่มาถึงแล้ว"เสียงของผู้ดูแลเหอดังแว่วมาแต่ไกล"มาแล้ว!"องค์หญิงใหญ่พุ่งออกไปด้านนอกทันทีผิงเหอกงเองก็รีบตามออกไป เขาเองก็อยากรู้อยากเห็นต่อหมอเทวดาฟู่เหมือนกัน! ได้ยินว่าพอองค์ชายสองเคยพบนางแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ในกลุ่มคนที่กินเห็ดเชียนเสวี่ยหออันดับหนึ่งที่เมืองหลวงวันนี้ อันที่จริงก็มีเขาอยู่ด้วย!ตอนนั้นเขาก็อยู่ที่หออันดับหนึ่งด้วยแต่น่าเสียดายก่อนหน้าที่จะได้กินเห็ดเชียนเสวี่ยเขากำลังนวดมือนวดเอวอยู่กับภรรยาผู้น้อยอยู่ ไม่ได้สนใจว่าข้างนอกเอะอะอะไรกันจนตอนที่กินเห็ดเชียนเสวี่
ที่ลือกันไว้ไม่ผิดเลยองค์หญิงใหญ่คนนี้มีปัญหาใหญ่นั่นอยู่ฟู่จาวหนิงรู้สึกอยากจะเลิกแผนการยืมการรักษาคุณชายน้อยจวนผิงเหอกงเพื่อสร้างชื่อทิ้งไปทันทีหลังจากนั้นนางก้ได้ยินผิงเหอกงเอ่ยขึ้น"ฮูหยิน เดิมทีเป็นพวกเราที่เชิญเขามา ยอมรับไปแล้วจะเป็นอะไร? หมอเทวดาฟู่ยอมมาที่นี่ก็ดีมากแล้ว เจ้าเป็นแบบนี้ ถ้าเผื่อนางโมโหจนกลับไปจริงๆ แล้วอันเอ๋อร์ของพวกเราจะทำอย่างไร?"อื๋อ? บางทีผิงเหอกงน่าจะยังพอไหวอยู่?"โมโหหนี? นางกล้าหนีด้วยหรือ?" องค์หญิงใหญ่ร้องเชอะขึ้นมาอีกครั้งสืออีสือซานตอนนี้จึงเดินขึ้นหน้ามา ไป๋หู่เองก็มายืนข้างกายฟู่จาวหนิง กระทั่งเสี่ยวชิ่นเองก็ยังยืดหลังตรงมายืนอยู่ข้างหน้าฟู่จาวหนิง ขวางนางเอาไว้ท่าทางของพวกเขาเช่นนี้ กำลังแสดงท่าทีอย่างเห็นได้ชัด ว่าพวกเขาสามารถปกป้องฟู่จาวหนิงได้ยิ่งไปกว่านั้นฟู่จาวหนิงยังไม่ได้มาคนเดียว มีพวกเขามาด้วยองค์หญิงใหญ่ถลึงตาโต "นี่เป็นใครกัน? นี่หมายความว่าอย่างไร?"มาทำท่าทางโอ้อวดวรยุทธ์เช่นนี้ต่อหน้านางทำไมกัน?ไป๋หู่เอ่ยขึ้นเสียงขรึม "คุณหนูของพวกเรายอมมารักษาคุณชายน้อยของพวกท่านก็ถือว่าไม่เลวแล้ว นางไม่ใช่คนที่พวกท่านจะรังแกได
ผิงเหอกงกับองค์หญิงใหญ่แน่นอนว่าต้องตามมาด้วยองค์หญิงใหญ่ปากบอกไม่เชื่อวิชาแพทย์ของฟู่จาวหนิง แต่ว่าตอนที่เห็นนางเดินไปที่เตียงของเหอเซี่ยนอัน ใจของนางก็ยังแขวนขึ้นมาถึงคอ เฝ้ารออย่างตึงเครียดขึ้นมาบางที บางทีถ้าทำได้ล่ะ?นางดูไม่มีอะไรที่ยอดเยี่ยมกว่าคนอื่นๆ องค์ชายสองหาตัวนางไปทำไมกัน?ฟู่จาวหนิงมองคนบนเตียงเหอเซี่ยนอันนอนอยู่ที่นั่น หน้าอกพองยุบ เห็นชัดว่ายังไม่หลับ แต่เขากลับหลับตาปิดสนิทใบหน้าเด็กชายสิบกว่าขวบคนนี้บวม ขาวซีด ดูแล้วเหมือนหมั่นโถวแป้งหมัก เบียดจนหน้าตาดูเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด"อันเอ๋อร์ เจ้าไม่ต้องกลัวนะ นี่คือหมอคนใหม่ที่ข้าเรียกมาให้เจ้า เจ้าให้นางลองดูเสียหน่อย ไม่ต้องกลัว ถ้าหากนางไม่มีฝีมือ ข้าจะตัดมือนางทิ้งเสีย" องค์หญิงใหญ่ปลอบเหอเซี่ยนอันลมหายใจเหอเซี่ยนอันเกร็งขึ้นมาหน่อย แต่ยังคงไม่ยอมลืมตาช่วงนี้เขาเป็นเช่นนี้ตลอด พอมีหมอใหญ๋มา เขาก็จะไม่ลืมตาไม่พูดจา ทำการต่อต้านเพราะหมอพวกนั้นแต่ละคนก็เหมือนกัน ตอนเข้ามาก็ตัวสั่นเทา สายตาที่มองเขา เหมือนกับจะหวาดกลัว แล้วยังดูน่าสงสารอีกพอเอ่ยปาก ก็จะพูดอะไรที่เป็นการแก้ตัวให้ตนเอง อย่างเช่นบอกว่าเดิม
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ
ฟู่จาวหนิงถูกจูบจนเคลิ้มหลับไปอีกรอบเซียวหลันยวนได้ยินเสียงหายใจลึกของนางแล้วก็จนใจเขาเลือดพุ่งขึ้นมาแล้ว แต่นางกลับหลับไป ดูท่าในเมืองเจ้อระยะนี้นางคงจะเหนื่อยมากจริงๆเขาเองก็ไม่ได้ทรมานนาง กอดนางแล้วหลับไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเดิมทีกำลังรอว่าจะฝันอีกครั้ง ดีที่สุดคือได้ฝันเห็นลุงหวังพูดอะไรกับอ๋องเจวี้ยนว่ากล่องใบนั้นเปิดอย่างไรแต่เมื่อคืนนี้นางก็ฝันจริงๆ น่าเสียดายที่ฝันร้าย ในฝันตนเองอยู่ในตำหนักเพียงคนเดียว จะอย่างไรก็ออกไปไม่ได้ และไม่มีใครด้วย ทุกแห่งมีแต่แสงทึม ในความมือเหมือนมีเสียงอะไรที่น่ากลัว ทำให้นางรู้สึกกลัวมากหลังจากสะดุ้งตื่น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งตัว"องค์หญิงใหญ่ ท่านฝันร้ายหรือ?" เฉินเซียงถูกนางทำสะดุ้งตื่นตาม รีบลุกขึ้นนั่งองค์หญิงใหญ่ไม่ค่อยฝันร้ายเท่าไร แต่บางครั้งก็จะฝันร้ายบ้างสักครั้ง แสดงว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านไปได้ไม่ค่อยดีนักเฉินเซียงเครียดขึ้นมาแล้วพวกนางตอนนี้ผ่านความน่าเวทนามากมาแล้ว ไม่น่าแย่กว่านี้แล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงทนรับไม่ไหวแล้วนางมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอย่างตึงเครียด หวังว่านางจะปฏิเสธแต่นางก็ยังผิดหวัง องค์หญิงใ
"รุ่นหลังของตระกูลปันมีกี่คนหรือ?""รุ่นหลังของตระกูลปันก็มีอยู่ไม่น้อยเลย พวกเขามีช่างที่มีฝีมือ ในตอนนั้นหลบหนีจากภัยพิบัติได้ เหลือรุ่นหลังเอาไว้ ตอนนี้คนที่มีอำนาจในตระกูลปันชื่อว่าปันมู่ พวกเขาไหว้วานขบวนพ่อค้าให้ส่งจดหมายเข้ามา บอกว่าคนเองก็อยู่ระหว่างทางมาแคว้นเจาแล้ว"ปันมู่เซียวหลันยวนจำชื่อนี้ไว้"แล้วเจ้าเป็นรุ่นหลังจากตระกูลไหนกัน?""ใต้ฝ่าพระบาท ข้าคือรุ่นหลังจากตระกูลเหมิ่ง ตอนนั้นปู่ข้าได้รับมอบหมายงานกะทันหัน ทิ้งสิ่งของเพื่อส่งมอบให้กับจักรพรรดิรุ่นใหม่ องค์หญิงใหญ่จากไปแล้ว แต่ยังทิ้งลูกหลานไว้ ก็คือฝ่าพระบาทนั่นเอง ข้าระลึกเสมอว่าต้องนำสิ่งของส่งให้ถึงมือท่าน"แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือไม่ เขาได้รับสิ่งของที่จักรพรรดินีทิ้งไว้แล้วหรือยัง เขาส่งเครื่องพยากรณ์ออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้"เจ้าหมายถึงเครื่องพยากรณ์หรือเปล่า?""ใต้ฝ่าพระบาทรู้จริงๆ ด้วย ใช่แล้ว ของสิ่งนี้อยู่ในมือข้ามาหลายปีแล้ว ข้าปกป้องเอาไว้ไม่ค่อยปล่อยไปไหน ตอนนี้ก็ส่งให้กับมือใต้ฝ่าพระบาทได้เสียที ในที่สุดข้าก็ได้พักผ่อนเสียที..."ลุงหวังบอกถึงตำแหน่งที่ซ่อนเครื่องพยากรณ์เซียวหลันยวนฟังเ
ฟู่จาวหนิงเก็บเครื่องพยากรณ์กลับเข้าไปในมิติ แล้วก็ถูกเซียวหลันยวนกอดเข้าไปในผ้าห่มเขาคลุมผ้าห่มนางให้ดี จูบไปที่ปากนางเบาๆ เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า "เจ้าก็นอนให้สบาย ข้าจะทำการอย่างระวัง""ได้"เซียวหลันยวนเป่าเปลวเทียน ออกประตูไปอย่างแผ่วเบา"ท่านอ๋อง?" ชิงอีออกมาจากมุมมืดรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ ที่ท่านอ๋องจะออกไปตอนดึกขนาดนี้ คืนนี้ไม่ใช่ควรอยู่กับพระชายาหรอกหรือ?"ไป" เซียวหลันยวนกลับไม่อธิบายอะไรมากตอนมาถึงทางตาเฒ่าอู๋ ในคืนเงียบสงัดเช่นนี้ กลับได้ยินเสียงไอค่อกแค่กอยู่แค่กๆๆๆมีทั้งที่ดังขึ้นครั้งสองครั้ง และมีที่ดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดมีทั้งที่ดังจนปอดแทบฉีก ทำเอาคนที่ไม่ไอฟังแล้วรู้สึกคันขึ้นมาที่คอเลย แทบจะไอตามไปด้วย"ท่านอ๋อง คนเหล่านี้ป่วยหนักมาก" ชิงอีเอ่ยขึ้นเสียงต่ำเขาเห็นว่าท่านอ๋องยังมาที่ตาเฒ่าอู๋ทางนี้ จึงรู้สึกกังวลขึ้นหน่อยๆ"อืม ดังนั้นหวังว่าจาวหนิงจะค้นคว้ายาที่สามารถสะกดอาการป่วยนี้ออกมาได้ ไม่ให้มันระบาดต่อไปอีก ไม่เช่นนั้นก็ไม่อยากจะคิด"เซียวหลันยวนถึงแม้จะปวดในที่ฟู่จาวหนิงอยู่ที่นี่ แต่เขาก็เข้าใจดี ตอนนี้เมืองเจ้อต้องการนางจริงๆไม่ใช่แค่เมืองเ
"ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่
"กล่องใบนี้ เป็นงานฝีมือของตระกูลปัน"แตกต่างกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ได้กล่องมาแล้วศึกษาอยู่นานแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เซียวหลันยวนหมุนๆ ดูก็สรุปออกมา"ตระกูลปัน?""อืม" เซียวหลันยวนพูดไปด้วย มือเองก็คลำๆ ไปด้วย "หลานหรงไม่ใช่ว่าค้นข้อมูลเกี่ยวกับตงฉิงมาหรือ? ตอนนั้นลุงเสิ่นเองก็มอบหนังสือมาให้ ด้านบนมีการแนะนำตระกูลบางส่วนของตงฉิงไว้ ตระกูลปันก็อยู่ในนั้นด้วย""พูดเช่นนี้ ตระกูลปันก็เป็นช่างอย่างนั้นหรือ?"ฟู่จาวหนิงอดคิดถึงหลู่ปัน(นักประดิษฐ์เลื่องชื่อในประวัติศาสตร์จีน)ขึ้นมาไม่ได้ที่นี่ก็มีตระกูลปันด้วย ดูแล้วก็ลึกลับเอาการ"อืม เข้าใจแบบนี้ได้"เซียวหลันยวนตอนเพิ่งเริ่มยังดูช้าๆ อยู่ ลูบๆ คลำๆ แต่ไม่นานนักก็ดูรวดเร็วขึ้นมา กล่องไม้ที่ดูสมบูรณ์แบบนั่นไม่รู้เขาทำอีท่าไหน ตรงนี้กลับดึงได้ตรงนั้นกลับกดได้ขึ้นมาฟู่จาวหนิงมองเขาเล่นอยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่ได้ถามอะไร นั่งมองเขาเปิดกล่องใบนั้นอยู่ข้างๆนิ้วของเขามีข้อต่อชัดเจน เรียวสวย เล็บสะอาดเรียบร้อยราวกับเป็นงานศิลปะสองมือนี้ ไม่เอาไปเล่นเปียโนคือน่าเสียดายมากตอนที่ความคิดฟู่จาวหนิงเริ่มเตลิด ก็ได้ยินเสียงดังแกร๊ก กล่องเปิดออกแ
"ขโมยมาจากไหนกัน?" ฟู่จาวหนิงมองเขา"ห้องข้างฝั่งตะวันตก"พอเขาพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าใจขึ้นมาทันที สมองนางร้อยเรียงเรื่องราวออกมาอย่างรวดเร็วนางถามขึ้นอย่างตกตะลึง "องค์หญิงใหญ่ออกไปข้างนอกมาหรือ? ่นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้วหรือ?"เซียวหลันยวนนับถือสมองของนางจริงๆ ที่คิดได้เร็วขนาดนี้"ใช่แล้ว เจ้าพูดถูกต้อง ข้าประเมินนางต่ำไป คิดไม่ถึงว่านางจะฝันเรื่องแบบนี้ได้จริงๆ"เซียวหลันยวนเองก็รู้สึกเกินคาดถึงแม้เขาจะให้คนจับตาดูองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้ แต่ก็เป็นแค่ความเคยชินที่ชอบให้เรื่องอยู่ในการควบคุมเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นฝันของนางเป็นจริงนางมีความสามารถเช่นนี้ ไม่แปลกที่หลายปีมานี้ก็ยังรักษาชื่อเสียงในเรื่องโชคไว้ได้ แล้วยังทำให้ฝ่าบาทต้าชื่อดึงนางไว้แน่นโดยไม่ยอมปล่อยมืออีกแล้วก็ไม่รู้ว่าจะฝันเห็นถึงอะไรบ้างด้วย"ท่านหมายความว่า นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้ว?"ฟู่จาวหนิงพอคิดๆ ก็รู้สึกไม่ถูก "แล้วนางไปกล่อมชายชราให้ส่งของให้นางไม่ได้ ก็เลยเลือกขโมยมาอย่างนั้นหรือ?!"ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ความทรงจำเกี่ยวกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นของนางก็คงต้องล้างใหม่เสียแล้วเรื่องแบบนี้ก็
คืนนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน่าจะเพราะออกไปด้านนอกตากลมหนาวมา กลางดึกจึงจับไข้จนมึนงง แล้วก็ไอจนนอนไม่ได้แต่นางไม่รู้ ว่าตอนที่นางไอจนสลึมสลือ มีเงาดำร่างหนึ่งเข้ามาในห้องนางอย่างไร้ซุ่มเสียงเฉินเซียงที่นอนอยู่บนแคร่นิ่มข้างๆ พลิกตัวมา ในปากพึมพำอะไรคำสองคำ จากนั้นก็หลับไปอีกเงาดำชะงักไป รื้อค้นในห้องขึ้นมาน่าจะเพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีชั้นเก็บของอะไรไว้ซ่อนของได้มาก เพียงไม่นาน เขาก็หาของเจอวางอยู่ในลังที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนำมาด้วยถึงแม้ลังจะใส่กลอนไว้ แต่พอเห็นกลอนนั่น เงาดำก็รู้ว่ากุญแจอยู่ที่ไหน จึงเด็ดปิ่นปักผมเล่มหนึ่งออกมาจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น พอบิดออกก็กลายเป็นกุญแจจริงๆคนในวังส่วนมากล้วนใช้วิธีการนี้กลอนถูกปลดออกทันที พอได้ของที่ห่อผ้าไว้ เงาดำก็จัดการลงกลอนลังอีกครั้ง นำปิ่นปักผมคืนกลับไป จากนั้นก็ออกประตูมาอย่างไร้ซุ่มเสียงเพียงไม่นาน ของชิ้นนี้ก็มาอยู่ตรงหน้าเซียวหลันยวน"ท่านอ๋อง อีกเดี๋ยวให้พระชายาดูดีไหม ของนี่อยู่ในมือลุงหวังคนนั้นแล้วยังย้ายไปอยู่ในมือองค์หญิงใหญ่อีก พวกเขาติดโรคมากันหมดแล้ว ทางที่ดีท่านอย่า
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าตอนนี้ต่อให้จะรับประกันดีแค่ไหน เซียวหลันยวนก็ยังกังวลตนเองอยู่ดีก็เหมือนกับที่เขาไม่ยอมกลับเมืองหลวง นางก็รู้สึกกังวลว่าเขาจะติดโรคระบาดที่นี่"พรุ่งนี้ท่านกลับเมืองหลวงเถอะ เอาจริงๆ ท่านอยู่ที่นี่ข้าก็เป็นห่วงอยู่ตลอด แล้วท่านก็ตามข้ามาแบบนี้อีก""พรุ่งนี้จะดูสถานการณ์ ข้ารับปากเจ้า จะไม่คอยตามเจ้าแล้ว""ไม่ตามแล้วหรือ?""ใช่ แค่รู้ว่าทุกวันเจ้าผ่านไปอย่างไร ทำอะไรบ้าง ในใจข้าก็พอเข้าใจแล้ว จะไม่ตามอีก"แม้จะเป็นห่วง แต่ตอนนี้พอได้ติดตามมาวันหนึ่ง ได้รู้ว่านางใช้ชีวิตผ่านไปอย่างไร ก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้อะไรเลย ทำได้แค่คอยจินตนาการผ่านถ้อยคำบนจดหมายเขาจะมาถ่วงแข้งขานางไม่ได้ เพราะแม้แต่เขาก็รู้ ว่าเมืองเจ้อตอนนี้ขาดฟู่จาวหนิงไม่ได้"ถ้าอย่างนั้นท่านไปพักกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเถอะ ทางนั้นอย่างน้อยก็ไม่มีคนป่วย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าในโรงหมอก็ยังมีความเสี่ยงสูง"พรุ่งนี้ข้าไม่อยู่ที่โรงหมอ ข้าจะไปที่อื่นหน่อย"ฟู่จาวหนิงเห็นว่าเซียวหลันยวนมีแผนการของตนเองอยู่ จึงไม่ได้ถามอะไรเขามากขึ้น ถึงอย่างไรเขาปล่อยนางให้อยู่ที่นี่รักษาคนป่วยได้ ไม่ได้ดึงดันจะพ