"อ๊า! เจ็บๆๆ เจ็บจะตายอยู่แล้ว!"ท่านอารองเสิ่นคิดจะกอดเข่า แต่มือพอแตะโดนก็ยิ่งเจ็บ เขาเจ็บจนร้องออกมาอย่างเวทนาคนขับรถไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรไป จึงรีบพาเขาตรงไปที่พัก ที่นั่นมีคนจากบ้านสองของตระกูลเสิ่นอยู่หลายคนพวกเขาล้วนรอข่าวดีที่ท่านอารองจะนำกลับมาแต่คิดไม่ถึงว่าที่รออยู่กลับเป็นคนที่สลบไสลไปแล้ว"เกิดอะไรขึ้น?""คุณท่านสลบไปแล้ว! เหงื่อแตกไปทั้งตัว เสื้อผ้าเปียกปอนไปหมดเลย!"พอเห็นสภาพท่านอารองเสิ่นที่ถูกบีบคั้น คนของบ้านสองก็หน้าถอดสีกันหมด"เร็ว รีบไปเชิญหมอมา!"แต่หมอใหญ่ที่วิชาแพทย์ดีที่สุดในสมองพวกเขาคือฟู่จาวหนิงท่านผู้เฒ่าบ้านสองรีบกระชากเสื้อคนขับรถ "เกิดอะไรขึ้น? เล่ามาให้ละเอียด!"รอจนคนขับรถเล่าเรื่องราวออกมาตะกุกตะกักจนหมด สีหน้าของคนบ้านสองก็ดำเหมือนหมึกขึ้นมา"มีหลักการแบบนี้ด้วยหรือ! ฟู่จาวหนิงช่างกล้านัก!""เสิ่นเสวียนยังปกป้องนางอีกด้วย ยอมให้ผู้ติดตามของนางลงมือทำร้ายผู้อาวุโสของตระกูลเสิ่นขนาดนี้?""ดูท่า เสิ่นเสวียนจะสงสัยพวกเราเข้าแล้ว ไม่ได้มีจิตใจเช่นเดียวกับพวกเรา"สีหน้าคนบ้านสองซับซ้อนขึ้นมา มองหน้ากันไปมา"ฟู่จาวหนิงดูท่าจะโหดเหี้ยมเอา
หลังจากนี้เขาจะรู้สึกได้ถึงสุขภาพแข็งแรงของคนทั่วไปเป็นครั้งแรกแล้วว่าเป็นแบบไหนพอคิดถึงจุดนี้นางก็รู้สึกสงสารเขาขึ้นมาหน่อยๆหลายปีมานี้ใช้ชีวิตมาไม่ง่ายเลยจริงๆ"หนิงหนิง ขอบคุณเจ้ามาก"น้ำเสียงเซียวหลันยวนติดสะอื้นหน่อยๆฟู่จาวหนิงยิ้มๆ "หลังจากนี้ก็ดีกับข้าหน่อยล่ะ""แน่นอน""ยินดีด้วยอ๋องเจวี้ยน" เสิ่นเสวียนเอ่ยขึ้นมาแล้ว เลิกกอดกันเสียทีได้ไหม?เซียวหลันยวนตอนนี้จึงปล่อยตัวฟู่จาวหนิง เขาหมุนตัวไปทางเสิ่นเสวียน เอ่ยขึ้นอย่างตั้งใจ "ท่านลุงอย่าได้ห่างเหินนักเลย เรียกข้าว่าอายวนก็พอแล้ว"ก่อนหน้านี้ทำไมไม่เคยได้ยินเขาพูดแบบนี้เลย?แต่เสิ่นเสวียนก็ไม่เกรงใจเช่นกัน "เช่นนั้นหลังจากนี้ข้าจะเรียกเจ้าว่าอายวน""ขอรับ ท่านลุง""มาพูดเรื่องของผิงเหอกงหน่อย" เสิ่นเสวียนนวนคิ้ว "ตอนนี้ที่ลำบากสุดก็คือการที่ฝ่าบาทจะรับมือกับตระกูลเสิ่น ฟุ่จาวหนิงอยู่ในบ้านตระกูลเสิ่นมาตลอด ผิงเหอกงกับองค์หญิงใหญ่ทั้งสองคนถึงเวลาเกรงว่าจะทำไม่ดีกับนาง"เซียวหลันยวนกุมมือฟู่จาวหนิง เอ่ยขึ้นอย่างสงบ"ดังนั้น หนิงหนิงจึงไม่ต้องไปด้วยตัวตนฐานะของบ้านตระกูลเสิ่น""อื๋อ?"เสิ่นเสวียนกับฟู่จาวหนิงมอง
ฟู่จาวหนิงพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ยังตัดสินใจว่าจะไปอยู่หนึ่งคือนางเองก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นอาการป่วยของลูกชายผิงเหอกงจริงๆ สองคือ ถ้าหากอีกฝ่ายบุกเข้ามาเชิญจริงๆ ตอนนี้เซียวหลันยวนเองก็อยู่ที่นี่ด้วย ซ้ำยังกำลังเป็นช่วงสำคัญที่สุดในการรักษาใบหน้าด้วย นางไม่อยากให้เรื่องมาบานปลายใหญ่โต ถึงตอนนั้นจะดึงเขาลำบากไปด้วย"แล้วก็ เพื่อเสิ่นเสวียนด้วย"ตระกูลเสิ่นตอนนี้กำลังลำบาก เสิ่นเสวียนเองก็ยิ่งลำบากองค์จักรพรรดิต้าชื่อคอยรับมือกับตระกูลเสิ่นอยู่เช่นนี้ หลังจากนี้เกรงว่าคงจะไม่เหลือเส้นทางไว้ให้ครอบครัวของเสิ่นเสวียนอีกแล้วนอกจากตัวเสิ่นเสวียนเองที่พยายามต่อต้าน จุดที่นางช่วยได้ก็ต้องทำให้เต็มที่แล้วก็พฤติกรรมสังหารหมอที่รักษาลูกชายไม่ได้ขององค์หญิงใหญ่ ครอบครัวนั้นก็คงไม่ใช่คนดีอะไร แต่ ถ้าหากนางรักษาคุณชายน้อยได้ล่ะ อย่างน้อยก็คือว่าบีบผิงเหอกงกับองค์หญิงใหญ่ไว้ได้แล้ว หลังจากนี้อย่างน้อยก็ไม่ใช่ศัตรูกันยิ่งไปกว่านั้นที่สำคัญที่สุดคือ นางสามารถยืมจุดนี้สร้างชื่อได้ ถึงตอนนั้นก็เป็นไปได้มากว่าจะสามารถใช้เส้นสายที่นางชิงมาได้ในต้าชื่อเข้าสนับสนุนเสิ่นเสวียนในเมื่อคิดจะไปยังจวน
เซียวหลันยวนขมวดคิ้ว "เวลาขนาดนี้แล้ว พวกเขาคืนนี้คงไม่ปล่อยเจ้าไปแน่""ข้าพาสืออีสือซานกับไป๋หู่สามคนไปด้วย""พาเสี่ยวชิ่นไปด้วย" เสิ่นเสวียนเอ่ยขึ้น "ถ้าหากต้องค้างคืนที่นั่นจริง ข้างกายเจ้าไม่มีสาวใช้สักคนคงไม่ค่อยสะดวกนัก"เสี่ยวชิ่นวิ่งเข้ามา กอดห่อผ้าห่อใหญ่มาด้วย "นายท่าน คุณหนูจาวหนิง ข้าเก็บของที่ควรเอาไปด้วยมาหมดแล้ว""อืม เจ้าติดตามคุณหนูไปก็ต้องตื่นตัวหน่อยนะ" เสิ่นเสวียนกำชับมา"ข้าน้อยทราบแล้ว"เสี่ยวชิ่นยังดีอกดีใวจที่ฟู่จาวหนิงใช้งานนาง ไม่เช่นนั้นเวลาเช่นนี้ฟู่จาวหนิงก็เอาแต่พาพวกสืออีไป เห็นได้ชัดว่านางไร้ประโยชน์ในเรือน คนจากจวนผิงเหอกงยังคงเร่งมาอยู่"ยังไม่เจอคนอีกหรือ? หมอเทวดาฟู่นี่ก็หน้าใหญ่เหมือนกันสินะ?"ฟู่จาวหนิงพาเสี่ยวชิ่นเดินออกมาพอคุณหนูรองเหอเห็ฯนาง ดวงตาก็ถลึงตาโตขึ้นทันที นางก็โพล่งออกมาทัน "ให้ตายเถอะ! ทำไมถึงงามกว่าที่ได้ยินมาเสียอีก!"สาวใช้นางถลึงตาอ้าปากค้าง พยักหน้าด้วยสัญชาตญาณ "งดงามมากจริงๆ"ฟู่จาวหนิงในชุดกระโปรงสีฟ้าน้ำทะเลสาบ และยังมีเสื้อนอกสีน้ำเงินปักดอกไม้ลายเงินอีกตัวหนึ่ง ดูแล้วทรงสง่าและดูสบายดีด้วยปอยผมที่ขมับกดไว้เ
พอเห็นว่าใกล้จะถึงจวนผิงเหอกงแล้ว คุณหนูรองเหอยังไม่เก็บสายตากลับมาจากหน้าฟู่จาวหนิงตลอดทางนางเอาแต่มองฟู่จาวหนิงยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าใบหน้านี้มันงามเสียเหลือเกิน ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกแปลกประหลาดตลอดทางฟู่จาวหนิงถามนางเกี่ยวกับเรื่องคุณชายน้อยไปพอสมควร หลักๆ ล้วนวนอยู่ที่อาการป่วยเขาไม่ได้พูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับอาการป่วยของเขาเลยคุณหนูรองเหอรู้สึกแปลกประหลาดสุดๆ"คุณหนูรอง ถึงแล้วขอรับ" คนขับรถหยุดรถม้าฟู่จาวหนิงเตรียมลงจากรถม้า คุณหนูรองเหอไม่รู้ว่าตนเองคิดอะไรอยู่ ดึงมือของนางเอาไว้"แม่นางฟู่ ข้าไม่ได้ขู่ท่านนะ แม่ของข้าไม่มีทางดีกับท่านเพราะท่านหน้าตาดีแน่ ถ้าหากท่านรักษาน้องข้าไม่ได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังบอกถึงสาเหตุอะไรไม่ได้ แม่ของข้าจะเอาชีวิตของท่านไปจริงๆ"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าคุณหนูรองเหอคนนี้น่ารักเสียจริง"เช่นนั้นท่านจะให้ข้าหนีไปตอนนี้หรือ?""ไม่ใช่ ข้าอยากให้ท่านคิดให้ดี ถ้าหากรักษาไม่ได้ล่ะก็ ท่านต้องพูดอะไรออกมาหน่อย ต่อให้จะแต่งคำน่าฟังอะไรออกมาหน่อยก็ยังดี ข้าขอบอกกับท่านไว้ ถึงอย่างไรให้พูดอะไรก็ได้ที่ทำให้แม่ของข้ารู้สึกว่ามีหวัง เช่นนี้นางจะไม่สัง
องค์หญิงใหญ่โมโหจนตบโต๊ะ "ข้าจะบอกท่านไว้นะ ท่านอย่าได้คิดเพ้อเจ้อเชียว ข้าไม่มีทางให้นังสารเลวพวกนั้นได้คลอดลูกชายแล้วมาแย่งของของอันเอ๋อร์ของข้าหรอก!"ทั้งหมดของจวนผิงเหอกงนี้ควรจะเป็นของอันเอ๋อร์ภรรยาน้อยสองคนในเรือนตะวันตกนั่น นางส่งคนไปไปกรอกยาแท้งลูกไว้นานแล้ว นายท่านยังคิดว่าพวกนางจะมีลูกได้รึสีหน้าผิงเหอกงขรึมลงมามาอีกแล้วมาอีกแล้ว ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้ หญิงเหี้ยมคนนี้เริ่มอาละวาดอีกแล้วเขาตบตะเกียบลงดับป้าบ"ไม่กินแล้ว!"""เดิมทีก็ไม่ควรกินอยู่แล้ว!"นายท่าน ฮูหยิน หมอเทวดาฟู่มาถึงแล้ว"เสียงของผู้ดูแลเหอดังแว่วมาแต่ไกล"มาแล้ว!"องค์หญิงใหญ่พุ่งออกไปด้านนอกทันทีผิงเหอกงเองก็รีบตามออกไป เขาเองก็อยากรู้อยากเห็นต่อหมอเทวดาฟู่เหมือนกัน! ได้ยินว่าพอองค์ชายสองเคยพบนางแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ในกลุ่มคนที่กินเห็ดเชียนเสวี่ยหออันดับหนึ่งที่เมืองหลวงวันนี้ อันที่จริงก็มีเขาอยู่ด้วย!ตอนนั้นเขาก็อยู่ที่หออันดับหนึ่งด้วยแต่น่าเสียดายก่อนหน้าที่จะได้กินเห็ดเชียนเสวี่ยเขากำลังนวดมือนวดเอวอยู่กับภรรยาผู้น้อยอยู่ ไม่ได้สนใจว่าข้างนอกเอะอะอะไรกันจนตอนที่กินเห็ดเชียนเสวี่
ที่ลือกันไว้ไม่ผิดเลยองค์หญิงใหญ่คนนี้มีปัญหาใหญ่นั่นอยู่ฟู่จาวหนิงรู้สึกอยากจะเลิกแผนการยืมการรักษาคุณชายน้อยจวนผิงเหอกงเพื่อสร้างชื่อทิ้งไปทันทีหลังจากนั้นนางก้ได้ยินผิงเหอกงเอ่ยขึ้น"ฮูหยิน เดิมทีเป็นพวกเราที่เชิญเขามา ยอมรับไปแล้วจะเป็นอะไร? หมอเทวดาฟู่ยอมมาที่นี่ก็ดีมากแล้ว เจ้าเป็นแบบนี้ ถ้าเผื่อนางโมโหจนกลับไปจริงๆ แล้วอันเอ๋อร์ของพวกเราจะทำอย่างไร?"อื๋อ? บางทีผิงเหอกงน่าจะยังพอไหวอยู่?"โมโหหนี? นางกล้าหนีด้วยหรือ?" องค์หญิงใหญ่ร้องเชอะขึ้นมาอีกครั้งสืออีสือซานตอนนี้จึงเดินขึ้นหน้ามา ไป๋หู่เองก็มายืนข้างกายฟู่จาวหนิง กระทั่งเสี่ยวชิ่นเองก็ยังยืดหลังตรงมายืนอยู่ข้างหน้าฟู่จาวหนิง ขวางนางเอาไว้ท่าทางของพวกเขาเช่นนี้ กำลังแสดงท่าทีอย่างเห็นได้ชัด ว่าพวกเขาสามารถปกป้องฟู่จาวหนิงได้ยิ่งไปกว่านั้นฟู่จาวหนิงยังไม่ได้มาคนเดียว มีพวกเขามาด้วยองค์หญิงใหญ่ถลึงตาโต "นี่เป็นใครกัน? นี่หมายความว่าอย่างไร?"มาทำท่าทางโอ้อวดวรยุทธ์เช่นนี้ต่อหน้านางทำไมกัน?ไป๋หู่เอ่ยขึ้นเสียงขรึม "คุณหนูของพวกเรายอมมารักษาคุณชายน้อยของพวกท่านก็ถือว่าไม่เลวแล้ว นางไม่ใช่คนที่พวกท่านจะรังแกได
ผิงเหอกงกับองค์หญิงใหญ่แน่นอนว่าต้องตามมาด้วยองค์หญิงใหญ่ปากบอกไม่เชื่อวิชาแพทย์ของฟู่จาวหนิง แต่ว่าตอนที่เห็นนางเดินไปที่เตียงของเหอเซี่ยนอัน ใจของนางก็ยังแขวนขึ้นมาถึงคอ เฝ้ารออย่างตึงเครียดขึ้นมาบางที บางทีถ้าทำได้ล่ะ?นางดูไม่มีอะไรที่ยอดเยี่ยมกว่าคนอื่นๆ องค์ชายสองหาตัวนางไปทำไมกัน?ฟู่จาวหนิงมองคนบนเตียงเหอเซี่ยนอันนอนอยู่ที่นั่น หน้าอกพองยุบ เห็นชัดว่ายังไม่หลับ แต่เขากลับหลับตาปิดสนิทใบหน้าเด็กชายสิบกว่าขวบคนนี้บวม ขาวซีด ดูแล้วเหมือนหมั่นโถวแป้งหมัก เบียดจนหน้าตาดูเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด"อันเอ๋อร์ เจ้าไม่ต้องกลัวนะ นี่คือหมอคนใหม่ที่ข้าเรียกมาให้เจ้า เจ้าให้นางลองดูเสียหน่อย ไม่ต้องกลัว ถ้าหากนางไม่มีฝีมือ ข้าจะตัดมือนางทิ้งเสีย" องค์หญิงใหญ่ปลอบเหอเซี่ยนอันลมหายใจเหอเซี่ยนอันเกร็งขึ้นมาหน่อย แต่ยังคงไม่ยอมลืมตาช่วงนี้เขาเป็นเช่นนี้ตลอด พอมีหมอใหญ๋มา เขาก็จะไม่ลืมตาไม่พูดจา ทำการต่อต้านเพราะหมอพวกนั้นแต่ละคนก็เหมือนกัน ตอนเข้ามาก็ตัวสั่นเทา สายตาที่มองเขา เหมือนกับจะหวาดกลัว แล้วยังดูน่าสงสารอีกพอเอ่ยปาก ก็จะพูดอะไรที่เป็นการแก้ตัวให้ตนเอง อย่างเช่นบอกว่าเดิม