พอเห็นว่าใกล้จะถึงจวนผิงเหอกงแล้ว คุณหนูรองเหอยังไม่เก็บสายตากลับมาจากหน้าฟู่จาวหนิงตลอดทางนางเอาแต่มองฟู่จาวหนิงยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าใบหน้านี้มันงามเสียเหลือเกิน ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกแปลกประหลาดตลอดทางฟู่จาวหนิงถามนางเกี่ยวกับเรื่องคุณชายน้อยไปพอสมควร หลักๆ ล้วนวนอยู่ที่อาการป่วยเขาไม่ได้พูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับอาการป่วยของเขาเลยคุณหนูรองเหอรู้สึกแปลกประหลาดสุดๆ"คุณหนูรอง ถึงแล้วขอรับ" คนขับรถหยุดรถม้าฟู่จาวหนิงเตรียมลงจากรถม้า คุณหนูรองเหอไม่รู้ว่าตนเองคิดอะไรอยู่ ดึงมือของนางเอาไว้"แม่นางฟู่ ข้าไม่ได้ขู่ท่านนะ แม่ของข้าไม่มีทางดีกับท่านเพราะท่านหน้าตาดีแน่ ถ้าหากท่านรักษาน้องข้าไม่ได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังบอกถึงสาเหตุอะไรไม่ได้ แม่ของข้าจะเอาชีวิตของท่านไปจริงๆ"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าคุณหนูรองเหอคนนี้น่ารักเสียจริง"เช่นนั้นท่านจะให้ข้าหนีไปตอนนี้หรือ?""ไม่ใช่ ข้าอยากให้ท่านคิดให้ดี ถ้าหากรักษาไม่ได้ล่ะก็ ท่านต้องพูดอะไรออกมาหน่อย ต่อให้จะแต่งคำน่าฟังอะไรออกมาหน่อยก็ยังดี ข้าขอบอกกับท่านไว้ ถึงอย่างไรให้พูดอะไรก็ได้ที่ทำให้แม่ของข้ารู้สึกว่ามีหวัง เช่นนี้นางจะไม่สัง
องค์หญิงใหญ่โมโหจนตบโต๊ะ "ข้าจะบอกท่านไว้นะ ท่านอย่าได้คิดเพ้อเจ้อเชียว ข้าไม่มีทางให้นังสารเลวพวกนั้นได้คลอดลูกชายแล้วมาแย่งของของอันเอ๋อร์ของข้าหรอก!"ทั้งหมดของจวนผิงเหอกงนี้ควรจะเป็นของอันเอ๋อร์ภรรยาน้อยสองคนในเรือนตะวันตกนั่น นางส่งคนไปไปกรอกยาแท้งลูกไว้นานแล้ว นายท่านยังคิดว่าพวกนางจะมีลูกได้รึสีหน้าผิงเหอกงขรึมลงมามาอีกแล้วมาอีกแล้ว ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้ หญิงเหี้ยมคนนี้เริ่มอาละวาดอีกแล้วเขาตบตะเกียบลงดับป้าบ"ไม่กินแล้ว!"""เดิมทีก็ไม่ควรกินอยู่แล้ว!"นายท่าน ฮูหยิน หมอเทวดาฟู่มาถึงแล้ว"เสียงของผู้ดูแลเหอดังแว่วมาแต่ไกล"มาแล้ว!"องค์หญิงใหญ่พุ่งออกไปด้านนอกทันทีผิงเหอกงเองก็รีบตามออกไป เขาเองก็อยากรู้อยากเห็นต่อหมอเทวดาฟู่เหมือนกัน! ได้ยินว่าพอองค์ชายสองเคยพบนางแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ในกลุ่มคนที่กินเห็ดเชียนเสวี่ยหออันดับหนึ่งที่เมืองหลวงวันนี้ อันที่จริงก็มีเขาอยู่ด้วย!ตอนนั้นเขาก็อยู่ที่หออันดับหนึ่งด้วยแต่น่าเสียดายก่อนหน้าที่จะได้กินเห็ดเชียนเสวี่ยเขากำลังนวดมือนวดเอวอยู่กับภรรยาผู้น้อยอยู่ ไม่ได้สนใจว่าข้างนอกเอะอะอะไรกันจนตอนที่กินเห็ดเชียนเสวี่
ที่ลือกันไว้ไม่ผิดเลยองค์หญิงใหญ่คนนี้มีปัญหาใหญ่นั่นอยู่ฟู่จาวหนิงรู้สึกอยากจะเลิกแผนการยืมการรักษาคุณชายน้อยจวนผิงเหอกงเพื่อสร้างชื่อทิ้งไปทันทีหลังจากนั้นนางก้ได้ยินผิงเหอกงเอ่ยขึ้น"ฮูหยิน เดิมทีเป็นพวกเราที่เชิญเขามา ยอมรับไปแล้วจะเป็นอะไร? หมอเทวดาฟู่ยอมมาที่นี่ก็ดีมากแล้ว เจ้าเป็นแบบนี้ ถ้าเผื่อนางโมโหจนกลับไปจริงๆ แล้วอันเอ๋อร์ของพวกเราจะทำอย่างไร?"อื๋อ? บางทีผิงเหอกงน่าจะยังพอไหวอยู่?"โมโหหนี? นางกล้าหนีด้วยหรือ?" องค์หญิงใหญ่ร้องเชอะขึ้นมาอีกครั้งสืออีสือซานตอนนี้จึงเดินขึ้นหน้ามา ไป๋หู่เองก็มายืนข้างกายฟู่จาวหนิง กระทั่งเสี่ยวชิ่นเองก็ยังยืดหลังตรงมายืนอยู่ข้างหน้าฟู่จาวหนิง ขวางนางเอาไว้ท่าทางของพวกเขาเช่นนี้ กำลังแสดงท่าทีอย่างเห็นได้ชัด ว่าพวกเขาสามารถปกป้องฟู่จาวหนิงได้ยิ่งไปกว่านั้นฟู่จาวหนิงยังไม่ได้มาคนเดียว มีพวกเขามาด้วยองค์หญิงใหญ่ถลึงตาโต "นี่เป็นใครกัน? นี่หมายความว่าอย่างไร?"มาทำท่าทางโอ้อวดวรยุทธ์เช่นนี้ต่อหน้านางทำไมกัน?ไป๋หู่เอ่ยขึ้นเสียงขรึม "คุณหนูของพวกเรายอมมารักษาคุณชายน้อยของพวกท่านก็ถือว่าไม่เลวแล้ว นางไม่ใช่คนที่พวกท่านจะรังแกได
ผิงเหอกงกับองค์หญิงใหญ่แน่นอนว่าต้องตามมาด้วยองค์หญิงใหญ่ปากบอกไม่เชื่อวิชาแพทย์ของฟู่จาวหนิง แต่ว่าตอนที่เห็นนางเดินไปที่เตียงของเหอเซี่ยนอัน ใจของนางก็ยังแขวนขึ้นมาถึงคอ เฝ้ารออย่างตึงเครียดขึ้นมาบางที บางทีถ้าทำได้ล่ะ?นางดูไม่มีอะไรที่ยอดเยี่ยมกว่าคนอื่นๆ องค์ชายสองหาตัวนางไปทำไมกัน?ฟู่จาวหนิงมองคนบนเตียงเหอเซี่ยนอันนอนอยู่ที่นั่น หน้าอกพองยุบ เห็นชัดว่ายังไม่หลับ แต่เขากลับหลับตาปิดสนิทใบหน้าเด็กชายสิบกว่าขวบคนนี้บวม ขาวซีด ดูแล้วเหมือนหมั่นโถวแป้งหมัก เบียดจนหน้าตาดูเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด"อันเอ๋อร์ เจ้าไม่ต้องกลัวนะ นี่คือหมอคนใหม่ที่ข้าเรียกมาให้เจ้า เจ้าให้นางลองดูเสียหน่อย ไม่ต้องกลัว ถ้าหากนางไม่มีฝีมือ ข้าจะตัดมือนางทิ้งเสีย" องค์หญิงใหญ่ปลอบเหอเซี่ยนอันลมหายใจเหอเซี่ยนอันเกร็งขึ้นมาหน่อย แต่ยังคงไม่ยอมลืมตาช่วงนี้เขาเป็นเช่นนี้ตลอด พอมีหมอใหญ๋มา เขาก็จะไม่ลืมตาไม่พูดจา ทำการต่อต้านเพราะหมอพวกนั้นแต่ละคนก็เหมือนกัน ตอนเข้ามาก็ตัวสั่นเทา สายตาที่มองเขา เหมือนกับจะหวาดกลัว แล้วยังดูน่าสงสารอีกพอเอ่ยปาก ก็จะพูดอะไรที่เป็นการแก้ตัวให้ตนเอง อย่างเช่นบอกว่าเดิม
เหอเซี่ยนอันมองฟู่จาวหนิงอย่างงงงันเขาเดิมทีพอเห็นหมอก็จะโกรธจัด อาละวาดต่างๆ นานา แล้วจะสร้างเรื่องยุ่งยากกับทรมานเหล่าหมอพวกนั้นแต่ว่าตอนนี้พอได้ยินฟู่จาวหนิงไม่เดินตามหลักการเดิมเช่นนี้ เขาก็งงงันไป"ถ้าหากข้าไม่ให้ความร่วมมือล่ะ?" เขาถามกลับอย่างงงๆถึงอย่างไรเขาก็รักษาไม่ได้อยู่แล้ว หมอตั้งมากมายก่อนหน้านี้ก็รักษาไม่ได้ ตอนนี้หมอหญิงอายุน้อยคนหนึ่งจะรักษาได้อย่างไรกัน? นางดูแล้วยังอายุน้อยกว่าพี่หญิงสามเสียอีก พี่หญิงสามวันๆ ยังเอาแต่อาละวาดเป็นเด็กอย่างไร้เหตุผลอยู่เลย"ถ้าท่านไม่ให้ความร่วมมือ เช่นนั้นข้าก็จะหันหน้ากลับแล้ว ท่านไม่ให้ความร่วมมือแล้วข้าจะรักษาอย่างไรกัน?"ฟู่จาวหนิงผายสองมือออก ทำสีหน้าเหมือนข้าเองก็ทำอะไรไม่ได้แล้วนะ "ถึงอย่างไรข้าเองก็ไม่ได้ขาดคนไข้แบบท่านเสียหน่อย ท่านไม่อยากจะรักษา ก็ยังมีคนอยากให้ข้าไปรักษาอยู่อีก จะว่าไป คนที่ป่วยหรือไม่ป่วยจะลุกขึ้นยืนได้หรือไม่ได้ก็ไม่ใช่ข้าเสียหน่อย""ท่านไม่ใช่หมอที่บ้านพวกเราเชิญมาหรือ? ถ้าข้าไม่ให้ความร่วมมือแล้วท่านยังกล้าไปอีกหรือ? ท่านคิดว่าท่านจะหนีออกไปได้หรือ?"เหอเซี่ยนอันร้องลั่นขึ้นมาอีกคนอื่นจะไป
"ข้าช่วยอะไรท่านได้หรือ?""แม่ของเจ้าโปรดปรานตัวท่านมาก ให้ความสำคัญกับท่าน ในใจนางนอกจากท่านคนอื่นคือขยะ นางอยากจะด่าก็ด่าอยากจะฆ่าก็ฆ่า แต่ว่าข้าเองก็ขี้ขลาด ถ้านางยังร้องจะทำร้ายจะสังหารข้าอีกข้าจะตกใจมาก ดังนั้นท่านต้องช่วยข้าเตือนนาง แล้วเคารพต่อตัวหมออย่างข้าด้วย ไม่ใช่แค่ท่านต้องให้ความร่วมมือ แต่คนในบ้านก็ต้องให้ความร่วมมือด้วย""ข้าจัดการนางเอง!" เหอเซี่ยนอันโพล่งออกมาฟู่จาวหนิงพยักหน้า "เช่นนั้นก็ต้องพึ่งพาท่านแล้ว ท่านคือเขาที่พึ่งลูกใหญ่ของจวนผิงเหอกงแล้วนะ มา ท่านภูเขาที่พึ่ง มารู้จักกันหน่อย ข้าชื่อฟู่จาวหนิง มาจากเมืองหลวงแคว้นเจา ผู้อาวุโสจี้แห่งพันธมิตรโอสถใต้หล้าคืออาจารย์ของข้า ข้าเชี่ยวชาญวิชาแพทย์ ถนัดเรื่องทฤษฏียา จรรยาบรรณแพทย์ก็ไม่เลว ถัดจากนี้จะเป็นหมอรักษาหลักให้ท่านโดยต้องเข้าออกจวนผิงเหอกง"นางยื่นมือไปทางเหอเซี่ยนอันเหอเซี่ยนอันมองมือนาง ไม่เข้าใจ ฟู่จาวหนิงจึงจับมือของเขาเขย่าๆ "นี่คือมารยาทการจับมือ ใช่ตอนทักทายแบบพบหน้ากันครั้งแรก หรือการหารือข้อตกลง""ข้า ข้าชื่อเหอเซี่ยนอัน ตอนปีใหม่จะอายุสิบสองแล้ว" เหอเซี่ยนอันแนะนำตัวอย่างตะกุกตะกัก "แต่ก่อน
"ขอข้าดูขาของเจ้าหน่อยสิ ไม่ดูแล้วจะรักษาอย่างไร?"ฟู่จาวหนิงตีมือเขาคุณหนูรองเหอตกตะลึงไป นี่กล้าตีมือเขาออกด้วยหรือ?แต่น้องชายที่ทำตัวเหมือนจอมมารอาละวาดในอดีตมาตลอด ตอนนี้กลับถูกตีจนไม่พูดอะไร แต่กลับร้องขึ้นมาอย่างตื่นเต้นว่า "ขาของข้ามันพิการไปแล้วยังจะดูอะไรอีก!""เมื่อครู่บอกไว้ว่าอะไรนะ? จะให้ความร่วมมือกับข้าใช่ไหม แล้วตอนนี้จะไม่ให้ความร่วมมือเสียแล้วหรือ? จะว่าไป ขาพิการหรือไม่พิการ นั่นไม่ใช่สิ่งที่หมออย่างข้าต้องดูหรือไรกัน? เจ้าเองก็ไม่ใช่หมอเสียหน่อย เจ้ารู้อะไรบ้าง?"ฟู่จาวหนิงพูดพลางเงยหน้ามองไปทางคุณหนูรองเหอ "ท่านจับมือเขาไว้ อย่าให้เขาขยับตัวส่งเดช""อ๋า? ข้าจับหรือ?""หรือจะให้ข้าเรียกองครักษ์ข้าเข้ามาล่ะ""ข้าจับเอง ข้าจับเอง" คุณหนูรองเหอรีบจับแขนของเหอเซี่ยนอันไว้"เจ้ากล้าหรือ...""ชู่ว" ฟู่จาวหนิงตัดบทเหอเซี่ยนอันนางเลิกขากางเกงของเหอเซี่ยนอันขึ้นไป จนเผยให้เห็นน่องและหัวเขาของเขานางเปิดกล่องยา หยิบค้อนไม้อันเล็กด้ามหนึ่งออกมา เคาะลงไปบนน่องกับหัวเข่าของเหอเซี่ยนอัน"ท่านกำลังทำอะไรน่ะ!""อย่างนี้เจ็บไหม?" ฟู่จาวหนิงถาม"ไม่ ไม่เจ็บ...อ๊า! ต
"แล้วหลังจากเจ้ากินลูกกลอนแก้พิษนั่นไป ในสองวันนั้ยังกินอะไรที่แตกต่างกันลงไปอีกบ้าง" ฟู่จาวหนิงถามต่อ"ไม่มี" เหอเซี่ยนอันพูดออกมาตะกุกตะกัก "ที่ข้าโมโหที่สุดก็คือ วันนั้นคนที่กลับมาจากล่าสัตว์ทั้งหมดมีแค่ข้าที่ล้มป่วย คนอื่นไม่เป็นอะไรกันเลย"คุณหนูรองเหอเอ่ยขึ้นบ้าง "และเพราะเรื่องนี้แม่ของข้าเลยไปที่บ้านของแต่ละคน ลากพวกเขามาด่าเสียชุดใหญ่ บอกว่าจะต้องมีคนไหนที่ไม่ดูแลเขาดีดีแน่"ต่มา คนเหล่านั้นก็ส่งของขอขมาเข้ามาชุดใหญ่ แต่เพราะขาเหอเซี่ยนอันพิการไปแล้ว องค์หญิงใหญ่จึงสั่งให้คนเอาของพวกนั้นโยนทิ้งออกไปทั้งหมด ตัดความสัมพันธ์กับบ้านเหล่านั้น ตอนเจอกันข้างนอกก็ยังด่าแว้ดๆ เข้าให้อีกตอนนี้คนเหล่านั้นพอเจอองค์หญิงใหญ่ ก็จะเดินอ้อมออกไปกันหมดหาเรื่องไม่ไหวก็หลบเสียเลยสินะ?"หลังจากที่เจ้าล้มป่วยครั้งนั้นนอนไปสามวัน พอผ่านไปสามวันจึงคิดจะลุกขึ้น ก็พบว่าตนเองยืนไม่ได้แล้วใช่ไหม?""ใช่""แล้วสามวันนั้น ขาของเจ้ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?""มี มันเมื่อยอยู่ตลอดเวลา เมื่อยแล้วก็อ่อนแรงด้วย แต่หมอบอกว่าน่าจะเพราะเดินจนเหนื่อยเกินไปบนภูเขา ต่อมาจึงบอกว่าลมเย็นเข้าสู่ร่างกาย ลมเย็นมาส
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ
ฟู่จาวหนิงถูกจูบจนเคลิ้มหลับไปอีกรอบเซียวหลันยวนได้ยินเสียงหายใจลึกของนางแล้วก็จนใจเขาเลือดพุ่งขึ้นมาแล้ว แต่นางกลับหลับไป ดูท่าในเมืองเจ้อระยะนี้นางคงจะเหนื่อยมากจริงๆเขาเองก็ไม่ได้ทรมานนาง กอดนางแล้วหลับไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเดิมทีกำลังรอว่าจะฝันอีกครั้ง ดีที่สุดคือได้ฝันเห็นลุงหวังพูดอะไรกับอ๋องเจวี้ยนว่ากล่องใบนั้นเปิดอย่างไรแต่เมื่อคืนนี้นางก็ฝันจริงๆ น่าเสียดายที่ฝันร้าย ในฝันตนเองอยู่ในตำหนักเพียงคนเดียว จะอย่างไรก็ออกไปไม่ได้ และไม่มีใครด้วย ทุกแห่งมีแต่แสงทึม ในความมือเหมือนมีเสียงอะไรที่น่ากลัว ทำให้นางรู้สึกกลัวมากหลังจากสะดุ้งตื่น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งตัว"องค์หญิงใหญ่ ท่านฝันร้ายหรือ?" เฉินเซียงถูกนางทำสะดุ้งตื่นตาม รีบลุกขึ้นนั่งองค์หญิงใหญ่ไม่ค่อยฝันร้ายเท่าไร แต่บางครั้งก็จะฝันร้ายบ้างสักครั้ง แสดงว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านไปได้ไม่ค่อยดีนักเฉินเซียงเครียดขึ้นมาแล้วพวกนางตอนนี้ผ่านความน่าเวทนามากมาแล้ว ไม่น่าแย่กว่านี้แล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงทนรับไม่ไหวแล้วนางมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอย่างตึงเครียด หวังว่านางจะปฏิเสธแต่นางก็ยังผิดหวัง องค์หญิงใ
"รุ่นหลังของตระกูลปันมีกี่คนหรือ?""รุ่นหลังของตระกูลปันก็มีอยู่ไม่น้อยเลย พวกเขามีช่างที่มีฝีมือ ในตอนนั้นหลบหนีจากภัยพิบัติได้ เหลือรุ่นหลังเอาไว้ ตอนนี้คนที่มีอำนาจในตระกูลปันชื่อว่าปันมู่ พวกเขาไหว้วานขบวนพ่อค้าให้ส่งจดหมายเข้ามา บอกว่าคนเองก็อยู่ระหว่างทางมาแคว้นเจาแล้ว"ปันมู่เซียวหลันยวนจำชื่อนี้ไว้"แล้วเจ้าเป็นรุ่นหลังจากตระกูลไหนกัน?""ใต้ฝ่าพระบาท ข้าคือรุ่นหลังจากตระกูลเหมิ่ง ตอนนั้นปู่ข้าได้รับมอบหมายงานกะทันหัน ทิ้งสิ่งของเพื่อส่งมอบให้กับจักรพรรดิรุ่นใหม่ องค์หญิงใหญ่จากไปแล้ว แต่ยังทิ้งลูกหลานไว้ ก็คือฝ่าพระบาทนั่นเอง ข้าระลึกเสมอว่าต้องนำสิ่งของส่งให้ถึงมือท่าน"แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือไม่ เขาได้รับสิ่งของที่จักรพรรดินีทิ้งไว้แล้วหรือยัง เขาส่งเครื่องพยากรณ์ออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้"เจ้าหมายถึงเครื่องพยากรณ์หรือเปล่า?""ใต้ฝ่าพระบาทรู้จริงๆ ด้วย ใช่แล้ว ของสิ่งนี้อยู่ในมือข้ามาหลายปีแล้ว ข้าปกป้องเอาไว้ไม่ค่อยปล่อยไปไหน ตอนนี้ก็ส่งให้กับมือใต้ฝ่าพระบาทได้เสียที ในที่สุดข้าก็ได้พักผ่อนเสียที..."ลุงหวังบอกถึงตำแหน่งที่ซ่อนเครื่องพยากรณ์เซียวหลันยวนฟังเ
ฟู่จาวหนิงเก็บเครื่องพยากรณ์กลับเข้าไปในมิติ แล้วก็ถูกเซียวหลันยวนกอดเข้าไปในผ้าห่มเขาคลุมผ้าห่มนางให้ดี จูบไปที่ปากนางเบาๆ เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า "เจ้าก็นอนให้สบาย ข้าจะทำการอย่างระวัง""ได้"เซียวหลันยวนเป่าเปลวเทียน ออกประตูไปอย่างแผ่วเบา"ท่านอ๋อง?" ชิงอีออกมาจากมุมมืดรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ ที่ท่านอ๋องจะออกไปตอนดึกขนาดนี้ คืนนี้ไม่ใช่ควรอยู่กับพระชายาหรอกหรือ?"ไป" เซียวหลันยวนกลับไม่อธิบายอะไรมากตอนมาถึงทางตาเฒ่าอู๋ ในคืนเงียบสงัดเช่นนี้ กลับได้ยินเสียงไอค่อกแค่กอยู่แค่กๆๆๆมีทั้งที่ดังขึ้นครั้งสองครั้ง และมีที่ดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดมีทั้งที่ดังจนปอดแทบฉีก ทำเอาคนที่ไม่ไอฟังแล้วรู้สึกคันขึ้นมาที่คอเลย แทบจะไอตามไปด้วย"ท่านอ๋อง คนเหล่านี้ป่วยหนักมาก" ชิงอีเอ่ยขึ้นเสียงต่ำเขาเห็นว่าท่านอ๋องยังมาที่ตาเฒ่าอู๋ทางนี้ จึงรู้สึกกังวลขึ้นหน่อยๆ"อืม ดังนั้นหวังว่าจาวหนิงจะค้นคว้ายาที่สามารถสะกดอาการป่วยนี้ออกมาได้ ไม่ให้มันระบาดต่อไปอีก ไม่เช่นนั้นก็ไม่อยากจะคิด"เซียวหลันยวนถึงแม้จะปวดในที่ฟู่จาวหนิงอยู่ที่นี่ แต่เขาก็เข้าใจดี ตอนนี้เมืองเจ้อต้องการนางจริงๆไม่ใช่แค่เมืองเ
"ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่
"กล่องใบนี้ เป็นงานฝีมือของตระกูลปัน"แตกต่างกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ได้กล่องมาแล้วศึกษาอยู่นานแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เซียวหลันยวนหมุนๆ ดูก็สรุปออกมา"ตระกูลปัน?""อืม" เซียวหลันยวนพูดไปด้วย มือเองก็คลำๆ ไปด้วย "หลานหรงไม่ใช่ว่าค้นข้อมูลเกี่ยวกับตงฉิงมาหรือ? ตอนนั้นลุงเสิ่นเองก็มอบหนังสือมาให้ ด้านบนมีการแนะนำตระกูลบางส่วนของตงฉิงไว้ ตระกูลปันก็อยู่ในนั้นด้วย""พูดเช่นนี้ ตระกูลปันก็เป็นช่างอย่างนั้นหรือ?"ฟู่จาวหนิงอดคิดถึงหลู่ปัน(นักประดิษฐ์เลื่องชื่อในประวัติศาสตร์จีน)ขึ้นมาไม่ได้ที่นี่ก็มีตระกูลปันด้วย ดูแล้วก็ลึกลับเอาการ"อืม เข้าใจแบบนี้ได้"เซียวหลันยวนตอนเพิ่งเริ่มยังดูช้าๆ อยู่ ลูบๆ คลำๆ แต่ไม่นานนักก็ดูรวดเร็วขึ้นมา กล่องไม้ที่ดูสมบูรณ์แบบนั่นไม่รู้เขาทำอีท่าไหน ตรงนี้กลับดึงได้ตรงนั้นกลับกดได้ขึ้นมาฟู่จาวหนิงมองเขาเล่นอยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่ได้ถามอะไร นั่งมองเขาเปิดกล่องใบนั้นอยู่ข้างๆนิ้วของเขามีข้อต่อชัดเจน เรียวสวย เล็บสะอาดเรียบร้อยราวกับเป็นงานศิลปะสองมือนี้ ไม่เอาไปเล่นเปียโนคือน่าเสียดายมากตอนที่ความคิดฟู่จาวหนิงเริ่มเตลิด ก็ได้ยินเสียงดังแกร๊ก กล่องเปิดออกแ
"ขโมยมาจากไหนกัน?" ฟู่จาวหนิงมองเขา"ห้องข้างฝั่งตะวันตก"พอเขาพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าใจขึ้นมาทันที สมองนางร้อยเรียงเรื่องราวออกมาอย่างรวดเร็วนางถามขึ้นอย่างตกตะลึง "องค์หญิงใหญ่ออกไปข้างนอกมาหรือ? ่นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้วหรือ?"เซียวหลันยวนนับถือสมองของนางจริงๆ ที่คิดได้เร็วขนาดนี้"ใช่แล้ว เจ้าพูดถูกต้อง ข้าประเมินนางต่ำไป คิดไม่ถึงว่านางจะฝันเรื่องแบบนี้ได้จริงๆ"เซียวหลันยวนเองก็รู้สึกเกินคาดถึงแม้เขาจะให้คนจับตาดูองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้ แต่ก็เป็นแค่ความเคยชินที่ชอบให้เรื่องอยู่ในการควบคุมเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นฝันของนางเป็นจริงนางมีความสามารถเช่นนี้ ไม่แปลกที่หลายปีมานี้ก็ยังรักษาชื่อเสียงในเรื่องโชคไว้ได้ แล้วยังทำให้ฝ่าบาทต้าชื่อดึงนางไว้แน่นโดยไม่ยอมปล่อยมืออีกแล้วก็ไม่รู้ว่าจะฝันเห็นถึงอะไรบ้างด้วย"ท่านหมายความว่า นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้ว?"ฟู่จาวหนิงพอคิดๆ ก็รู้สึกไม่ถูก "แล้วนางไปกล่อมชายชราให้ส่งของให้นางไม่ได้ ก็เลยเลือกขโมยมาอย่างนั้นหรือ?!"ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ความทรงจำเกี่ยวกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นของนางก็คงต้องล้างใหม่เสียแล้วเรื่องแบบนี้ก็
คืนนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน่าจะเพราะออกไปด้านนอกตากลมหนาวมา กลางดึกจึงจับไข้จนมึนงง แล้วก็ไอจนนอนไม่ได้แต่นางไม่รู้ ว่าตอนที่นางไอจนสลึมสลือ มีเงาดำร่างหนึ่งเข้ามาในห้องนางอย่างไร้ซุ่มเสียงเฉินเซียงที่นอนอยู่บนแคร่นิ่มข้างๆ พลิกตัวมา ในปากพึมพำอะไรคำสองคำ จากนั้นก็หลับไปอีกเงาดำชะงักไป รื้อค้นในห้องขึ้นมาน่าจะเพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีชั้นเก็บของอะไรไว้ซ่อนของได้มาก เพียงไม่นาน เขาก็หาของเจอวางอยู่ในลังที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนำมาด้วยถึงแม้ลังจะใส่กลอนไว้ แต่พอเห็นกลอนนั่น เงาดำก็รู้ว่ากุญแจอยู่ที่ไหน จึงเด็ดปิ่นปักผมเล่มหนึ่งออกมาจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น พอบิดออกก็กลายเป็นกุญแจจริงๆคนในวังส่วนมากล้วนใช้วิธีการนี้กลอนถูกปลดออกทันที พอได้ของที่ห่อผ้าไว้ เงาดำก็จัดการลงกลอนลังอีกครั้ง นำปิ่นปักผมคืนกลับไป จากนั้นก็ออกประตูมาอย่างไร้ซุ่มเสียงเพียงไม่นาน ของชิ้นนี้ก็มาอยู่ตรงหน้าเซียวหลันยวน"ท่านอ๋อง อีกเดี๋ยวให้พระชายาดูดีไหม ของนี่อยู่ในมือลุงหวังคนนั้นแล้วยังย้ายไปอยู่ในมือองค์หญิงใหญ่อีก พวกเขาติดโรคมากันหมดแล้ว ทางที่ดีท่านอย่า
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าตอนนี้ต่อให้จะรับประกันดีแค่ไหน เซียวหลันยวนก็ยังกังวลตนเองอยู่ดีก็เหมือนกับที่เขาไม่ยอมกลับเมืองหลวง นางก็รู้สึกกังวลว่าเขาจะติดโรคระบาดที่นี่"พรุ่งนี้ท่านกลับเมืองหลวงเถอะ เอาจริงๆ ท่านอยู่ที่นี่ข้าก็เป็นห่วงอยู่ตลอด แล้วท่านก็ตามข้ามาแบบนี้อีก""พรุ่งนี้จะดูสถานการณ์ ข้ารับปากเจ้า จะไม่คอยตามเจ้าแล้ว""ไม่ตามแล้วหรือ?""ใช่ แค่รู้ว่าทุกวันเจ้าผ่านไปอย่างไร ทำอะไรบ้าง ในใจข้าก็พอเข้าใจแล้ว จะไม่ตามอีก"แม้จะเป็นห่วง แต่ตอนนี้พอได้ติดตามมาวันหนึ่ง ได้รู้ว่านางใช้ชีวิตผ่านไปอย่างไร ก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้อะไรเลย ทำได้แค่คอยจินตนาการผ่านถ้อยคำบนจดหมายเขาจะมาถ่วงแข้งขานางไม่ได้ เพราะแม้แต่เขาก็รู้ ว่าเมืองเจ้อตอนนี้ขาดฟู่จาวหนิงไม่ได้"ถ้าอย่างนั้นท่านไปพักกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเถอะ ทางนั้นอย่างน้อยก็ไม่มีคนป่วย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าในโรงหมอก็ยังมีความเสี่ยงสูง"พรุ่งนี้ข้าไม่อยู่ที่โรงหมอ ข้าจะไปที่อื่นหน่อย"ฟู่จาวหนิงเห็นว่าเซียวหลันยวนมีแผนการของตนเองอยู่ จึงไม่ได้ถามอะไรเขามากขึ้น ถึงอย่างไรเขาปล่อยนางให้อยู่ที่นี่รักษาคนป่วยได้ ไม่ได้ดึงดันจะพ