"แล้วหลังจากเจ้ากินลูกกลอนแก้พิษนั่นไป ในสองวันนั้ยังกินอะไรที่แตกต่างกันลงไปอีกบ้าง" ฟู่จาวหนิงถามต่อ"ไม่มี" เหอเซี่ยนอันพูดออกมาตะกุกตะกัก "ที่ข้าโมโหที่สุดก็คือ วันนั้นคนที่กลับมาจากล่าสัตว์ทั้งหมดมีแค่ข้าที่ล้มป่วย คนอื่นไม่เป็นอะไรกันเลย"คุณหนูรองเหอเอ่ยขึ้นบ้าง "และเพราะเรื่องนี้แม่ของข้าเลยไปที่บ้านของแต่ละคน ลากพวกเขามาด่าเสียชุดใหญ่ บอกว่าจะต้องมีคนไหนที่ไม่ดูแลเขาดีดีแน่"ต่มา คนเหล่านั้นก็ส่งของขอขมาเข้ามาชุดใหญ่ แต่เพราะขาเหอเซี่ยนอันพิการไปแล้ว องค์หญิงใหญ่จึงสั่งให้คนเอาของพวกนั้นโยนทิ้งออกไปทั้งหมด ตัดความสัมพันธ์กับบ้านเหล่านั้น ตอนเจอกันข้างนอกก็ยังด่าแว้ดๆ เข้าให้อีกตอนนี้คนเหล่านั้นพอเจอองค์หญิงใหญ่ ก็จะเดินอ้อมออกไปกันหมดหาเรื่องไม่ไหวก็หลบเสียเลยสินะ?"หลังจากที่เจ้าล้มป่วยครั้งนั้นนอนไปสามวัน พอผ่านไปสามวันจึงคิดจะลุกขึ้น ก็พบว่าตนเองยืนไม่ได้แล้วใช่ไหม?""ใช่""แล้วสามวันนั้น ขาของเจ้ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?""มี มันเมื่อยอยู่ตลอดเวลา เมื่อยแล้วก็อ่อนแรงด้วย แต่หมอบอกว่าน่าจะเพราะเดินจนเหนื่อยเกินไปบนภูเขา ต่อมาจึงบอกว่าลมเย็นเข้าสู่ร่างกาย ลมเย็นมาส
"ฝูอวิ้นมาแล้ว เช่นนั้นก็ต้องเข้าไปสิ!" องค์หญิงใหญ่แม้ในใจจะเคยไม่ชอบองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่เหมือนถูกโชคชะตาพัดขึ้นฟ้าคนนี้ ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับชื่อเสียงของนางแต่ตอนนี้เรื่องเกี่ยวข้องกับลูกชายสุดที่รักของนาง นางจึงเชื่อมั่นขึ้นมาแล้วผิงเหอกงตอนนี้เองก็ไม่กล้าขวาง องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นได้รับความสำคัญอย่างมากต่อหน้าฝ่าบาท สามีภรรยาอย่างพวกเขาเทียบไม่ได้เลยยิ่งไปกว่นั้น ให้นางนำโชคดีมาให้กับอันเอ๋อร์บ้างก็ถือว่าไม่เลว!ฟู่จาวหนิงกำลังเก็บเข็มที่ควรถามเขาก็ถามแล้ว ที่ควรตรวจสอบก็ตรวจสอบแล้วตอนที่นางกำลังเตรียมเก็บเข็ม องค์หญิงใหญ่ก็เข้ามา พอเห็นว่าขาของเหอเซี่ยนอันถูกแทงด้วยเข็ม ดูแล้วเหมือนแทงเข้าไปถึงกระดูก น่าเวทนาอย่างมาก องค์หญิงใหญ่หน้าก็เปลี่ยนสีไปแล้ว ร้องเสียงแหลมขึ้นมาอย่างสั่นเทา"นี่เจ้ากล้าใช้เข็มแทงอันเอ๋อร์ของข้า!"ฟู่จาวหนิงหยุดมือทันที หันหน้ากลับไปมองตอนนี้นางจึงได้เห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นชุดชาวยังสีชมพูอ่อน คลุมผ้าคลุมสั้นที่ขอบปักด้วยขนจิ้งจอก ขับเด่นใบหน้าของนางออกมาราวกับจานหยก ดูสว่างสดใสอ่อนโยนสายตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็ตกอยู่บนใบหน้าฟู่จาวหนิ
"นี่ก็...""ฝูอวิ้น เขาเป็นหลานชายของเจ้านะ เจ้าก็สงสารเขาหน่อยเถอะ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพยักหน้าอย่างจำใจ "อันนี้จริงข้าก็เป็นแค่คนธรรมดานะ แต่ถ้าทำให้อารมณ์ของอันเอ๋อร์สงบลงได้ ข้าที่เป็นน้าของเขาก็จะไม่บ่ายเบี่ยง"นางเดินตรงไปข้างเตียงฟู่จาวหนิงตอนนี้เก็บเข็มมาหมดแล้ว อิ๋นสั่วกับเฉินเซียงก็ตามองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้ามา ทั้งสองคนสบตากัน และชนตัวฟุ่จาวหนิงเบียดนางออกไป"คุณชายน้อย องค์หญิงใหญ่จะดูขาให้กับท่าน"ฟู่จาวหนิงถอยออกมาสองสามก้าว ยืนนิ่งขึ้นมานางเหลือบมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเหมือนจะไม่เห็นพฤติกรรมสาวใช้วังของนางเมื่อครู่ กำลังก้มตัวเข้าใกล้เหอเซี่ยนอันด้วยความอ่อนโยน น้ำเสียงนุ่มราวปุยฝ้ายดังลอดออกมา"อันเอ๋อร์ ไม่ต้องกลัวนะ มันจะดีขึ้น"นางยืนมือไปสัมผัสเบาๆ ที่ขาของเหอเซี่ยนอันเหอเซี่ยนอันเองก็ไม่รู้ว่าทำไม ปัดมือของนางออกไป "อย่ามาจับข้า!"เขาร้องขึ้นมาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอุทานขึ้นมาเสียงหนึ่ง ร่างกายล้มเบี่ยงออกไปข้างๆ"องค์หญิงใหญ่!"สาวใช้ทั้งสองคนรีบเข้าไปประคองนาง"เหอเซี่ยนอัน" คุณหนูรองเหอตวาดขึ้นมาคำหนึ่ง นี่กล้าตีองค์หญิงใหญ่ฝูอว
เหอเซี่ยนอันรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมา"นางเป็นคนที่องค์จักรพรรดิทั้งรักทั้งปกป้อง คงไม่เคยถูกใครตบตีมาก่อนเป็นแน่! ที่นางจะรับไม่ได้มันก็เรื่องปกติไหม?"คุณหนูรองเหอใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าผากเขา "ยังดีที่นางมีจิตใจเมตตาอ่อนโยน ไม่มีทางคิดเล็กคิดน้อยกับเจ้าแน่ ไม่เช่นนั้นถ้าองค์จักรพรรดิรู้เข้า เจ้าก็ต้องรับกรรมเองแล้วนะ""นางยอดเยี่ยมที่สุดว่าอย่างนั้นเถอะ?" เหอเซี่ยนอันตะคอกอย่างโกรธเคืองขึ้นมาคำหนึ่ง "ข้าแค่ตบมือนาง แล้วต้องให้นางมาตัดมือข้าเลยไหม?""พูดอะไรไร้สาระ นางจิตใจดีเสียขนาดนั้นไม่มีทางทำหรอก! แต่ว่า นางเป็นคนมีโชคที่เทพเจ้าคุ้มครองเลยนะ ทำไมเจ้าไม่ให้นางลูบขาเจ้าเสียหน่อยกัน?""เมื่อครู่สายตาตอนที่นางยื่นมือเข้ามามันประหลาดน่ะสิ!" เหอเซี่ยนอันร้องขึ้นมาอย่างเคืองๆ "อย่างกับมองข้าเป็นคนขาเป๋พิกลพิการ! นางกำลังหัวเราะเยาะข้าเวทนาข้าอยู่!""เหอเซี่ยนอัน! ถ้าเจ้ายังพูดเรื่อยเปื่อยอีก ข้าจะไม่สนใจเจ้าแล้วนะ! คำพูดนี้ถ้าท่านพ่อท่านแม่ได้ยิน พวกเขาได้ด่าเจ้าเปิงแน่!"คุณหนูรองเหอทำท่าไม่อยากเชื่อเหอเซี่ยนอันสายตาเป็นอะไรไป? องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นจะใช้สายตาแบบนั้นมองเขาได้อย
เหอเซี่ยนอันร้องไห้ขึ้นมา"เจ้าร้องไห้ทำไมกัน?""แม่นางฟู่ หมอเทวดาฟู่ ท่านพูดจริงใช่ไหม? ท่านทำไม ท่านทำไมจึงไม่พูดเหมือนหมอคนอื่น ที่พูดออกมาอย่างยากเย็นว่าหาสาเหตุอะไรไม่พบ?"คุณหนูรองเหอก็ตกตะลึงขึ้นมาแล้ว"หมอคนอื่นพูดกันแบบนี้หรือ?""ใช่สิ มีหลายคนบอกว่ามีลมเย็นเข้าสู่ร่างกาย ต้องลองดูว่าจะไล่ลมออกไปได้ไหม แต่พวกนั้นก็ล้วนเป็นวิธีการขับลมหนาวออกจากร่างกาย ข้าฟังแล้วมันพึ่งพาไม่ได้ ตอนนี้เสี่ยวอันไม่ได้เป็นไข้หนาวสั่นเสียหน่อย ป่วยมาตั้งปีครึ่งแล้ว มาใช้แต่วิธีไล่ลมหนาวมันจะได้เรื่องได้อย่างไร?""อันที่จริงมันไม่ใช่อาการหนาวสั่น" ฟู่จาวหนิงบอก"ฮือๆๆ โฮ!" เหอเซี่ยนอันร้องไห้ขึ้นมาอีก ร้องจนน่าเวทนา"บอกกับเจ้าแล้วว่ามันรักษาได้ แล้วเจ้าจะร้องทำไมกันเนี่ย?" ฟู่จาวหนิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก"มีแต่ท่านที่บอกว่าไม่ใช่ไข้หนาวสั่น!" เหอเซี่ยนอันร้องจนน้ำมูกไหลย้อย "ข้าเองก็รู้ว่าพวกเขาทำไมถึงบอกว่ามีลมเย็นเข้าสู่ร่างกาย เพราะตอนแรกสุดข้าก็โดนไข้หนาวสั่นเข้าจริงๆ แล้วยังหนักหนาเอาการด้วย ป่วยไปกว่าครึ่งเดือน ต่อมาพวกเขาตรวจไม่พบว่าขาของข้าเป็นอะไร จึงผลักภาระไปทางไข้หนาวสั่นในครั้
"วันนี้ข้าถูกพวกเจ้าพาตัวมากะทันหันนะ"ฟู่จาวหนิงหน้าเย็นชาลง"จวนผิงเหอกงของพวกเจ้าทำการกำเริบเสิบสานจนเคยตัว พาคนมาแบบนี้ แล้วยังจะรั้งให้คนอยู่ด้วยอีก ถ้าหากรักษาไม่หายก็ยังสังหารทิ้งอีกด้วย""พวกเราคิดจะสังหารท่านเสียที่ไหน?"คุณหนูรองเหอกับเหอเซี่ยนอันร้องขึ้นมาพร้อมกัน"ตอนนี้ยังไม่สังหารข้า ก่อนหน้านี้ก็สังหารหมอไปตั้งหลายคนนี่? ทุกคนต่อให้จะเป็นหมอเถื่อน รักษาขาของเจ้าไม่ได้ก็ไม่ได้ผิดถึงกับต้องตาย ดังนั้น ข้าตอนนี้แม้จะรักษาขาของเจ้าได้ แต่เรือนผิงเหอกงของพวกเจ้า ข้าก็ไม่อยากจะอยู่พักหรอก""พวกเราไม่ได้จะสังหารท่านเสียหน่อย แล้วยังจะให้ท่านได้อยู่ดีกินดีด้วย ท่านอยากได้อะไร เสื้อผ้าเครื่องประดับ? ข้าให้ท่านแม่มอบให้ท่านก็ได้"ฟู่จาวหนิงมองเหอเซี่ยนอันที่ร้องลั่นออกมา แล้วก็อดขำขึ้นมาไม่ได้"เจ้าคิดว่าข้าขาดแคลนของเหล่านี้หรือ? ข้าแค่ไม่อยากจะพักอยู่ในจวนผิงเหอกงนี้เท่านั้น ข้าอยากกลับไป แล้วพรุ่งนี้ข้าจะมาใหม่ พูดคำไหนคำนั้น แต่ถ้าพวกเจ้ายังคิดจะบีบบังคับข้า เช่นนั้นข้าก็จะไม่รักษาให้เจ้าแล้ว"คุณหนูรองเหอกับเหอเซี่ยนอันถลึงตาโตอ้าปากค้างมองนางทำไมนางถึงได้แกร่งเสีย
องครักษ์สามคนนี้พอเห็นว่ากำลังภายในลึกล้ำสูงส่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังกล้าจะลงมือกับพวกเขาจริงๆ แตกต่างกับคนอื่นๆ ที่รู้ว่าที่นี่คือจวนผิงเหอกงจะไม่กล้าลงมือพวกเขาล้วนถอยออกไปก้าวหนึ่งผิงเหอกงสังเหตเห็นรายละเอียดเหล่าคนคุ้มครองเรือนของตนเอง ใจก็เต้นขึ้นมา ดึงตัวภรรยาไว้"เอาล่ะเอาล่ะ นางไม่ใช่บอกแล้วหรือว่าพรุ่งนี้จะมาใหม่? ไม่ต้องขวางแล้ว""ท่านเห็นว่าอีกฝ่ายเขาหน้าตาดีเหมือนนังปีศาจจนถูกลวงวิญญาณไปแล้วหรือ?" องค์หญิงใหญ่สะบัดตัวคุณหนูรองออก ถลึงตาโตใส่ผิงเหอกงผิงเหอกงสีหน้าถมึงทึงขึ้นมา"เจ้ากำลังพูดอะไร!""พูดอะไรในใจท่านรู้ดีอยู่แล้ว ขาของอันเอ๋อร์ท่านไม่สนใจแล้วหรือ? บ้านของพวกเราคิดจะให้ใครเข้ามาก็มาใครจะไปก็ไปได้อย่างนั้นหรือ? วิชาแพทย์ของนางลือกันว่ายอดเยี่ยมเสียขนาดนั้น ตอนนี้ยังไม่รีบรักษาให้อันเอ๋อร์ แล้วนางจะไปไหนกัน?"คุณหนูรองเหอรู้สึกว่าแม่ของตนเองเป็นเช่นนี้ทำให้คนรับไม่ไหวจริงๆ"ท่านแม่ เสี่ยวอันเป็นคนบอกว่าห้ามรั้งนางไว้เอง พวกท่านรีบไปดูเสี่ยวอันเถอะ"ให้น้องชายบอกกับพวกเขาก็แล้วกัน ถึงอย่างไรน้องชายก็เป็นแก้วตาดวงใจพวกเขาอยู่แล้ว ต้องให้เขาพูดแม่ถึงจะฟัง"อ
เสิ่นเสวียนกับผู้อาวุโสจี้สบตากัน หัวเราะขึ้นมาชิ่งอวิ๋นเซียวก็อยู่พวกเขาล้วนกำลังมองเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงที่จูงมือเบียดไหล่กันเดินเข้ามา"ดูท่า อ๋องเจวี้ยนจะพูดถูกเสียแล้ว จาวหนิงกลับมาจริงๆ ด้วย" ผู้อาวุโสจี้เอ่ยขึ้น"ท่านเสิ่น ผู้อาวุโสจี้ พวกเท่านรู้สึกไหมว่าระหว่างอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาเหมือนมีอะไรเพิ่มเข้ามา?" ชิ่งอวิ๋นเซียวถาม"มันคืออะไร?""ก็ของที่ทำให้คนเข็ดฟันน่ะสิ" ชิ่งอวิ๋นเซียวเอาลิ้นดุนแก้ม ถอนหายใจออกมา "ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนดูเป็นมิตรกว่าก่อนหน้าขึ้นเยอะแล้ว วันนี้ยังยอมให้ข้ามากินข้าวด้วยกันอีก ถ้าเป็นก่อนหน้านี้นะ เขาคงจะพูดประมาณว่าเจ้ากลับไปเถอะ ข้าไม่เหลือข้าวไว้ให้ ขับไล่ไสส่งข้า"เสิ่นเสวียนยิ้มๆผู้อาวุโสจี้เอ่ยขึ้นบ้าง "นี่ก็ต้องยกยอดคุณความดีให้ศิษย์รักข้า เป็นเพราะจาวหนิงนั้นแสนดี จนทำให้อ๋องเจวี้ยนเปลี่ยนไปน่ะสิ"ฟู่จาวหนิงเดินเข้ามา พอเห็นอาหารเต็มโต๊ะ ก็ทิ้งเซียวหลันยวนทันที ร้องขึ้นมาว่า "หอมจังเลย กับข้าวเยอะขนาดนี้! ข้าหิวจะตายอยู่แล้ว รีบกินกันเถอะ"เสิ่นเสวียนเรียกให้สาวใช้ยกน้ำอุ่มกับผ้าแห้งมา "ล้างมือก่อน""ล้างแน่นอน"ฟู่จาวหนิงไม่ลืม