"ข้าช่วยอะไรท่านได้หรือ?""แม่ของเจ้าโปรดปรานตัวท่านมาก ให้ความสำคัญกับท่าน ในใจนางนอกจากท่านคนอื่นคือขยะ นางอยากจะด่าก็ด่าอยากจะฆ่าก็ฆ่า แต่ว่าข้าเองก็ขี้ขลาด ถ้านางยังร้องจะทำร้ายจะสังหารข้าอีกข้าจะตกใจมาก ดังนั้นท่านต้องช่วยข้าเตือนนาง แล้วเคารพต่อตัวหมออย่างข้าด้วย ไม่ใช่แค่ท่านต้องให้ความร่วมมือ แต่คนในบ้านก็ต้องให้ความร่วมมือด้วย""ข้าจัดการนางเอง!" เหอเซี่ยนอันโพล่งออกมาฟู่จาวหนิงพยักหน้า "เช่นนั้นก็ต้องพึ่งพาท่านแล้ว ท่านคือเขาที่พึ่งลูกใหญ่ของจวนผิงเหอกงแล้วนะ มา ท่านภูเขาที่พึ่ง มารู้จักกันหน่อย ข้าชื่อฟู่จาวหนิง มาจากเมืองหลวงแคว้นเจา ผู้อาวุโสจี้แห่งพันธมิตรโอสถใต้หล้าคืออาจารย์ของข้า ข้าเชี่ยวชาญวิชาแพทย์ ถนัดเรื่องทฤษฏียา จรรยาบรรณแพทย์ก็ไม่เลว ถัดจากนี้จะเป็นหมอรักษาหลักให้ท่านโดยต้องเข้าออกจวนผิงเหอกง"นางยื่นมือไปทางเหอเซี่ยนอันเหอเซี่ยนอันมองมือนาง ไม่เข้าใจ ฟู่จาวหนิงจึงจับมือของเขาเขย่าๆ "นี่คือมารยาทการจับมือ ใช่ตอนทักทายแบบพบหน้ากันครั้งแรก หรือการหารือข้อตกลง""ข้า ข้าชื่อเหอเซี่ยนอัน ตอนปีใหม่จะอายุสิบสองแล้ว" เหอเซี่ยนอันแนะนำตัวอย่างตะกุกตะกัก "แต่ก่อน
"ขอข้าดูขาของเจ้าหน่อยสิ ไม่ดูแล้วจะรักษาอย่างไร?"ฟู่จาวหนิงตีมือเขาคุณหนูรองเหอตกตะลึงไป นี่กล้าตีมือเขาออกด้วยหรือ?แต่น้องชายที่ทำตัวเหมือนจอมมารอาละวาดในอดีตมาตลอด ตอนนี้กลับถูกตีจนไม่พูดอะไร แต่กลับร้องขึ้นมาอย่างตื่นเต้นว่า "ขาของข้ามันพิการไปแล้วยังจะดูอะไรอีก!""เมื่อครู่บอกไว้ว่าอะไรนะ? จะให้ความร่วมมือกับข้าใช่ไหม แล้วตอนนี้จะไม่ให้ความร่วมมือเสียแล้วหรือ? จะว่าไป ขาพิการหรือไม่พิการ นั่นไม่ใช่สิ่งที่หมออย่างข้าต้องดูหรือไรกัน? เจ้าเองก็ไม่ใช่หมอเสียหน่อย เจ้ารู้อะไรบ้าง?"ฟู่จาวหนิงพูดพลางเงยหน้ามองไปทางคุณหนูรองเหอ "ท่านจับมือเขาไว้ อย่าให้เขาขยับตัวส่งเดช""อ๋า? ข้าจับหรือ?""หรือจะให้ข้าเรียกองครักษ์ข้าเข้ามาล่ะ""ข้าจับเอง ข้าจับเอง" คุณหนูรองเหอรีบจับแขนของเหอเซี่ยนอันไว้"เจ้ากล้าหรือ...""ชู่ว" ฟู่จาวหนิงตัดบทเหอเซี่ยนอันนางเลิกขากางเกงของเหอเซี่ยนอันขึ้นไป จนเผยให้เห็นน่องและหัวเขาของเขานางเปิดกล่องยา หยิบค้อนไม้อันเล็กด้ามหนึ่งออกมา เคาะลงไปบนน่องกับหัวเข่าของเหอเซี่ยนอัน"ท่านกำลังทำอะไรน่ะ!""อย่างนี้เจ็บไหม?" ฟู่จาวหนิงถาม"ไม่ ไม่เจ็บ...อ๊า! ต
"แล้วหลังจากเจ้ากินลูกกลอนแก้พิษนั่นไป ในสองวันนั้ยังกินอะไรที่แตกต่างกันลงไปอีกบ้าง" ฟู่จาวหนิงถามต่อ"ไม่มี" เหอเซี่ยนอันพูดออกมาตะกุกตะกัก "ที่ข้าโมโหที่สุดก็คือ วันนั้นคนที่กลับมาจากล่าสัตว์ทั้งหมดมีแค่ข้าที่ล้มป่วย คนอื่นไม่เป็นอะไรกันเลย"คุณหนูรองเหอเอ่ยขึ้นบ้าง "และเพราะเรื่องนี้แม่ของข้าเลยไปที่บ้านของแต่ละคน ลากพวกเขามาด่าเสียชุดใหญ่ บอกว่าจะต้องมีคนไหนที่ไม่ดูแลเขาดีดีแน่"ต่มา คนเหล่านั้นก็ส่งของขอขมาเข้ามาชุดใหญ่ แต่เพราะขาเหอเซี่ยนอันพิการไปแล้ว องค์หญิงใหญ่จึงสั่งให้คนเอาของพวกนั้นโยนทิ้งออกไปทั้งหมด ตัดความสัมพันธ์กับบ้านเหล่านั้น ตอนเจอกันข้างนอกก็ยังด่าแว้ดๆ เข้าให้อีกตอนนี้คนเหล่านั้นพอเจอองค์หญิงใหญ่ ก็จะเดินอ้อมออกไปกันหมดหาเรื่องไม่ไหวก็หลบเสียเลยสินะ?"หลังจากที่เจ้าล้มป่วยครั้งนั้นนอนไปสามวัน พอผ่านไปสามวันจึงคิดจะลุกขึ้น ก็พบว่าตนเองยืนไม่ได้แล้วใช่ไหม?""ใช่""แล้วสามวันนั้น ขาของเจ้ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?""มี มันเมื่อยอยู่ตลอดเวลา เมื่อยแล้วก็อ่อนแรงด้วย แต่หมอบอกว่าน่าจะเพราะเดินจนเหนื่อยเกินไปบนภูเขา ต่อมาจึงบอกว่าลมเย็นเข้าสู่ร่างกาย ลมเย็นมาส
"ฝูอวิ้นมาแล้ว เช่นนั้นก็ต้องเข้าไปสิ!" องค์หญิงใหญ่แม้ในใจจะเคยไม่ชอบองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่เหมือนถูกโชคชะตาพัดขึ้นฟ้าคนนี้ ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับชื่อเสียงของนางแต่ตอนนี้เรื่องเกี่ยวข้องกับลูกชายสุดที่รักของนาง นางจึงเชื่อมั่นขึ้นมาแล้วผิงเหอกงตอนนี้เองก็ไม่กล้าขวาง องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นได้รับความสำคัญอย่างมากต่อหน้าฝ่าบาท สามีภรรยาอย่างพวกเขาเทียบไม่ได้เลยยิ่งไปกว่นั้น ให้นางนำโชคดีมาให้กับอันเอ๋อร์บ้างก็ถือว่าไม่เลว!ฟู่จาวหนิงกำลังเก็บเข็มที่ควรถามเขาก็ถามแล้ว ที่ควรตรวจสอบก็ตรวจสอบแล้วตอนที่นางกำลังเตรียมเก็บเข็ม องค์หญิงใหญ่ก็เข้ามา พอเห็นว่าขาของเหอเซี่ยนอันถูกแทงด้วยเข็ม ดูแล้วเหมือนแทงเข้าไปถึงกระดูก น่าเวทนาอย่างมาก องค์หญิงใหญ่หน้าก็เปลี่ยนสีไปแล้ว ร้องเสียงแหลมขึ้นมาอย่างสั่นเทา"นี่เจ้ากล้าใช้เข็มแทงอันเอ๋อร์ของข้า!"ฟู่จาวหนิงหยุดมือทันที หันหน้ากลับไปมองตอนนี้นางจึงได้เห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นชุดชาวยังสีชมพูอ่อน คลุมผ้าคลุมสั้นที่ขอบปักด้วยขนจิ้งจอก ขับเด่นใบหน้าของนางออกมาราวกับจานหยก ดูสว่างสดใสอ่อนโยนสายตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็ตกอยู่บนใบหน้าฟู่จาวหนิ
"นี่ก็...""ฝูอวิ้น เขาเป็นหลานชายของเจ้านะ เจ้าก็สงสารเขาหน่อยเถอะ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพยักหน้าอย่างจำใจ "อันนี้จริงข้าก็เป็นแค่คนธรรมดานะ แต่ถ้าทำให้อารมณ์ของอันเอ๋อร์สงบลงได้ ข้าที่เป็นน้าของเขาก็จะไม่บ่ายเบี่ยง"นางเดินตรงไปข้างเตียงฟู่จาวหนิงตอนนี้เก็บเข็มมาหมดแล้ว อิ๋นสั่วกับเฉินเซียงก็ตามองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้ามา ทั้งสองคนสบตากัน และชนตัวฟุ่จาวหนิงเบียดนางออกไป"คุณชายน้อย องค์หญิงใหญ่จะดูขาให้กับท่าน"ฟู่จาวหนิงถอยออกมาสองสามก้าว ยืนนิ่งขึ้นมานางเหลือบมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเหมือนจะไม่เห็นพฤติกรรมสาวใช้วังของนางเมื่อครู่ กำลังก้มตัวเข้าใกล้เหอเซี่ยนอันด้วยความอ่อนโยน น้ำเสียงนุ่มราวปุยฝ้ายดังลอดออกมา"อันเอ๋อร์ ไม่ต้องกลัวนะ มันจะดีขึ้น"นางยืนมือไปสัมผัสเบาๆ ที่ขาของเหอเซี่ยนอันเหอเซี่ยนอันเองก็ไม่รู้ว่าทำไม ปัดมือของนางออกไป "อย่ามาจับข้า!"เขาร้องขึ้นมาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอุทานขึ้นมาเสียงหนึ่ง ร่างกายล้มเบี่ยงออกไปข้างๆ"องค์หญิงใหญ่!"สาวใช้ทั้งสองคนรีบเข้าไปประคองนาง"เหอเซี่ยนอัน" คุณหนูรองเหอตวาดขึ้นมาคำหนึ่ง นี่กล้าตีองค์หญิงใหญ่ฝูอว
เหอเซี่ยนอันรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมา"นางเป็นคนที่องค์จักรพรรดิทั้งรักทั้งปกป้อง คงไม่เคยถูกใครตบตีมาก่อนเป็นแน่! ที่นางจะรับไม่ได้มันก็เรื่องปกติไหม?"คุณหนูรองเหอใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าผากเขา "ยังดีที่นางมีจิตใจเมตตาอ่อนโยน ไม่มีทางคิดเล็กคิดน้อยกับเจ้าแน่ ไม่เช่นนั้นถ้าองค์จักรพรรดิรู้เข้า เจ้าก็ต้องรับกรรมเองแล้วนะ""นางยอดเยี่ยมที่สุดว่าอย่างนั้นเถอะ?" เหอเซี่ยนอันตะคอกอย่างโกรธเคืองขึ้นมาคำหนึ่ง "ข้าแค่ตบมือนาง แล้วต้องให้นางมาตัดมือข้าเลยไหม?""พูดอะไรไร้สาระ นางจิตใจดีเสียขนาดนั้นไม่มีทางทำหรอก! แต่ว่า นางเป็นคนมีโชคที่เทพเจ้าคุ้มครองเลยนะ ทำไมเจ้าไม่ให้นางลูบขาเจ้าเสียหน่อยกัน?""เมื่อครู่สายตาตอนที่นางยื่นมือเข้ามามันประหลาดน่ะสิ!" เหอเซี่ยนอันร้องขึ้นมาอย่างเคืองๆ "อย่างกับมองข้าเป็นคนขาเป๋พิกลพิการ! นางกำลังหัวเราะเยาะข้าเวทนาข้าอยู่!""เหอเซี่ยนอัน! ถ้าเจ้ายังพูดเรื่อยเปื่อยอีก ข้าจะไม่สนใจเจ้าแล้วนะ! คำพูดนี้ถ้าท่านพ่อท่านแม่ได้ยิน พวกเขาได้ด่าเจ้าเปิงแน่!"คุณหนูรองเหอทำท่าไม่อยากเชื่อเหอเซี่ยนอันสายตาเป็นอะไรไป? องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นจะใช้สายตาแบบนั้นมองเขาได้อย
เหอเซี่ยนอันร้องไห้ขึ้นมา"เจ้าร้องไห้ทำไมกัน?""แม่นางฟู่ หมอเทวดาฟู่ ท่านพูดจริงใช่ไหม? ท่านทำไม ท่านทำไมจึงไม่พูดเหมือนหมอคนอื่น ที่พูดออกมาอย่างยากเย็นว่าหาสาเหตุอะไรไม่พบ?"คุณหนูรองเหอก็ตกตะลึงขึ้นมาแล้ว"หมอคนอื่นพูดกันแบบนี้หรือ?""ใช่สิ มีหลายคนบอกว่ามีลมเย็นเข้าสู่ร่างกาย ต้องลองดูว่าจะไล่ลมออกไปได้ไหม แต่พวกนั้นก็ล้วนเป็นวิธีการขับลมหนาวออกจากร่างกาย ข้าฟังแล้วมันพึ่งพาไม่ได้ ตอนนี้เสี่ยวอันไม่ได้เป็นไข้หนาวสั่นเสียหน่อย ป่วยมาตั้งปีครึ่งแล้ว มาใช้แต่วิธีไล่ลมหนาวมันจะได้เรื่องได้อย่างไร?""อันที่จริงมันไม่ใช่อาการหนาวสั่น" ฟู่จาวหนิงบอก"ฮือๆๆ โฮ!" เหอเซี่ยนอันร้องไห้ขึ้นมาอีก ร้องจนน่าเวทนา"บอกกับเจ้าแล้วว่ามันรักษาได้ แล้วเจ้าจะร้องทำไมกันเนี่ย?" ฟู่จาวหนิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก"มีแต่ท่านที่บอกว่าไม่ใช่ไข้หนาวสั่น!" เหอเซี่ยนอันร้องจนน้ำมูกไหลย้อย "ข้าเองก็รู้ว่าพวกเขาทำไมถึงบอกว่ามีลมเย็นเข้าสู่ร่างกาย เพราะตอนแรกสุดข้าก็โดนไข้หนาวสั่นเข้าจริงๆ แล้วยังหนักหนาเอาการด้วย ป่วยไปกว่าครึ่งเดือน ต่อมาพวกเขาตรวจไม่พบว่าขาของข้าเป็นอะไร จึงผลักภาระไปทางไข้หนาวสั่นในครั้
"วันนี้ข้าถูกพวกเจ้าพาตัวมากะทันหันนะ"ฟู่จาวหนิงหน้าเย็นชาลง"จวนผิงเหอกงของพวกเจ้าทำการกำเริบเสิบสานจนเคยตัว พาคนมาแบบนี้ แล้วยังจะรั้งให้คนอยู่ด้วยอีก ถ้าหากรักษาไม่หายก็ยังสังหารทิ้งอีกด้วย""พวกเราคิดจะสังหารท่านเสียที่ไหน?"คุณหนูรองเหอกับเหอเซี่ยนอันร้องขึ้นมาพร้อมกัน"ตอนนี้ยังไม่สังหารข้า ก่อนหน้านี้ก็สังหารหมอไปตั้งหลายคนนี่? ทุกคนต่อให้จะเป็นหมอเถื่อน รักษาขาของเจ้าไม่ได้ก็ไม่ได้ผิดถึงกับต้องตาย ดังนั้น ข้าตอนนี้แม้จะรักษาขาของเจ้าได้ แต่เรือนผิงเหอกงของพวกเจ้า ข้าก็ไม่อยากจะอยู่พักหรอก""พวกเราไม่ได้จะสังหารท่านเสียหน่อย แล้วยังจะให้ท่านได้อยู่ดีกินดีด้วย ท่านอยากได้อะไร เสื้อผ้าเครื่องประดับ? ข้าให้ท่านแม่มอบให้ท่านก็ได้"ฟู่จาวหนิงมองเหอเซี่ยนอันที่ร้องลั่นออกมา แล้วก็อดขำขึ้นมาไม่ได้"เจ้าคิดว่าข้าขาดแคลนของเหล่านี้หรือ? ข้าแค่ไม่อยากจะพักอยู่ในจวนผิงเหอกงนี้เท่านั้น ข้าอยากกลับไป แล้วพรุ่งนี้ข้าจะมาใหม่ พูดคำไหนคำนั้น แต่ถ้าพวกเจ้ายังคิดจะบีบบังคับข้า เช่นนั้นข้าก็จะไม่รักษาให้เจ้าแล้ว"คุณหนูรองเหอกับเหอเซี่ยนอันถลึงตาโตอ้าปากค้างมองนางทำไมนางถึงได้แกร่งเสีย
เขาอยากไปด้วยกันกับลูกสาว เช่นนี้จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน และยังได้มองอยู่ข้างๆ ถึงสภาพการทำงานของนางด้วย อยู่กับคนเป็นอย่างไร จะได้เข้าใจนางมากขึ้น รู้จักนางมากขึ้นเขาพลาดที่จะมองดูลูกสาวเติบโตไปหลายปี ตอนนี้อยากจะคว้าโอกาสนี้ไว้บางที ความสัมพันธ์หลังจากนี้อาจจะดีขึ้นมาอีกก็ได้นิสัยของฟู่จิ้นเชินคือมุ่งมั่นไปที่เป้าหมาย ไม่รีบไม่ร้อน แต่จะไม่ยอมแพ้ และจะคอยคว้าโอกาสทั้งหมดไว้ ก้าวไปยังจุดหมายทีละก้าวๆเหมือนกับตอนที่เขาพาภรรยา รู้ว่าห้ามตายเด็ดขาด จะถูกจับกลับไปไม่ได้ บนพื้นฐษนนี้ ใช้เวลาไปหลายปี แต่เขาก็ไม่ได้ล้มเลิกการตามหาความจริงเรื่องการวางยาในอดีตถ้าหากไม่ใช่มาเจอกับฟู่จาวหนิง อันที่จริงเขาก็ยังทนต่อไปได้ บางทีอาจจะถึงวันที่เขาพบกับความจริงวันนั้นฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวนสำหรับตอนนี้ที่นางหันมามองตนเอง ต้องการความเห็นจากเขา ในใจเซียวหลันยวนจึงพอใจมากขึ้นมาเขากุมมือนางไว้ บอกกับนางว่า "ให้เขาไปด้วยก็ดี"เขามองออกแล้ว ฟู่จิ้นเชินนี้ไม่ธรรมดาเลย ฉลาดและตื่นตัว ใจเย็นเฉียบแหลมมีฟู่จิ้นเชินตามไปด้วย ในใจเซียวหลันยวนก็ค่อนข้างจะวางใจถ้าหากไม่ใช่ว่าตัวตนฐานะเขาไปไหนมา
"สถานที่อย่างเมืองเจ้อค่อนข้างจะพิเศษ พื้นที่ใหญ่โต ประชาชนน้อย และการเดินทางก็สะดวกสบาย" ฟู่จิ้นเชินตอบ "ถ้าหากจะยัดผู้ประสบภัยเข้าไป อันที่จริงก็สามารถทำได้อยู่ ข้าเคยไปเมืองเจ้อในเมืองมีพื้นที่ว่างค่อนข้างกว้างขวางอยู่หลายแห่ง บางครั้งยังมีพวกพ่อค้าพเนจรจากที่ต่างๆ ไปทำตลาดนัดกันที่นั่นด้วย"ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนมองเขาอย่างเกินคาด"เมืองเจ้อท่านก็เคยไปมาหรือ?"ฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวสบตากัน สองสามีภรรยายิ้มอย่างจำใจ"ถ้าจะให้พูด พวกเราไปมาหลายสถานที่เลย"ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนเองก็เข้าใจขึ้นมา สิบกว่าปีนี้พวกเขาล้วนต้องคอยหลบการไล่ล่าสังหารอยู่ภายนอก แล้วยังมีการไล่จับของจวนทางการอีก แต่ละสถานที่จึงไม่สามารถอยู่ได้นานนัก ดังนั้นพวกเขาจึงหนีไปแทบจะทุกที่"แต่ว่าทางนั้นนาจะขาดแคลนเรื่องวัตถุ ถึงอย่างไรต่อให้มีที่ว่างที่จะจัดวางผู้ประสบภัยเข้าไป นั่นก็ต้องสร้างกระโจมจัดแจงที่พัก ไม่เช่นนั้นวันที่อากาศหนาวเช่นนี้ ก็ไม่สามารถปล่อยให้ผู้ประสบภัยต้องนอนด้านนอกทนหนาวทนหิวได้"ฟู่จิ้นเชินบอกกับฟู่จาวหนิงว่า "พรุ่งนี้ข้าจะไปกับเจ้าด้วย"นี่เป็นสิ่งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเอ่ยถึงม
ดังนั้น จาวหนิงจะต้องไม่ยอมถูกชายหนุ่มคนอื่นดึงดูดแน่ เพราะไม่มีใครเทียบกับเขาได้แล้วระหว่างทาง อ๋องเจวี้ยนอารมณ์ดีมาก กระทั่งยังสามารถคุยกับฟู่จิ้นเชินเรื่องโป๋จีอย่างทัดเทียมกันด้วยรอจนมาถึงจวนอ๋อง พวกเขาก็หารือตัดสินใจออกมาได้แล้ว พรุ่งนี้จะส่งโป๋จียัดเข้าไปในขบวนของอันเหนียน พาเขาออกจากเมืองก่อน หลอกเขา ให้เขาคิดว่ารับปากว่าจะช่วยเขาออกไป รอให้ได้จดหมาย คนของเซียวหลันยวนก็จะคุมตัวเขากลับเมืองหลวง"พรุ่งนี้ข้าจะไปค้นตัวเขาเอง" เซียวหลันยวนบอกกับฟู่จาวหนิงคนอื่นล้วนค้นไม่เจอ เขาไม่เชื่อว่าตนเองจะหาไม่พบ"แล้วนายพันเก๋อล่ะ?""ให้เขาเข้าวังไม่ได้พบกับจักรพรรดิไม่ได้ชั่วคราวก็พอแล้ว" ฟู่จิ้นเชินมีแผนการ"ท่านคิดจะทำอะไรหรือ?" ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว เก๋อมู่กวงมีวรยุทธ์ ฟู่จิ้นเชินยังขังเขาไว้ในวังได้หรือ?"ข้ารู้ว่ามีคนหนึ่งที่พัวพันกับเก๋อมู่กวงอยู่ อ๋องเจวี้ยนส่งคนนั้นไปที่ห้องของเก๋อมู่กวงก็พอแล้ว" ฟู่จิ้นเชินมองไปทางเซียวหลันยวน"เส้นสายของท่านนี่ทั้งเยอะทั้งซับซ้อนจริงๆ""ถึงอย่างไรข้าก็เป็นแค่ประชาชนธรรมดา มีเส้นสายแค่นี้ไม่คู่ควรให้เอ่ยถึงหรอก""ประชาชนธรรมดาไม่มีทางพาคน
ฟู่จิ้นเชินเองก็นับถือเซียวหลันยวน"คิดไม่ถึงเลยว่าอ๋องเจวี้ยนจะรู้มากขนาดนี้"ฟู่จาวหนิงก็ตกใจ "ท่านพูดภาษาเฮ่อเหลียนได้หรือ?"สำหรับความนับถือของฟู่จิ้นเชิน เซียวหลันยวนไม่สนใจ แต่น้ำเสียงตกใจของฟู่จาวหนิง ทำให้เขารู้สึกภูมิใจขึ้นมาหน่อยๆนางนั่งตัวตรงขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณ ใช้น้ำเสียงที่ราบเรียบพูดว่า "อืม ก็ไม่ได้ยากอะไรนี่"พรวดฟู่จาวเฟยอยากจะขำขึ้นมาทำไมคำพูดพี่เขยถึงดูแปลกๆ?ตอนอยู่ว่างๆ ในบ้านกับท่านปู่กับน้าเซี่ยอันห่าวพกวเขาก็เคยพูดภาษาเฮ่อเหลียนออกมา เพราะพวกเขาอยากรู้อยากเห็นหน่อยๆแต่หลังจากที่ได้ยินเขาพูดไปไม่กี่คำก็ยังบอกว่าเรียนยาก สักคำเดียวก็เรียนกันออกมาไม่ได้ความสามารถการเรียนรู้ของพ่อเขาดีมาก แต่ก็ยอมรับว่านี่เรียนยากจริงๆพี่เขยกลับบอกว่าไม่ยาก แต่ว่า ที่โป๋จีพูดรวดเดียวอย่างรวดเร็วขนาดนั้น แล้วพี่เขยยังฟังออกได้ ก็อธิบายได้ว่าเขาเป็นมันทุกอย่างจริงๆ"เรียนมาตอนอยู่ที่ยอดเขาโยวชิงหรือ?" ฟู่จาวหนิงใช้สายตานับถือมองเขา กระพริบตาปริบๆอ๋องเจวี้ยนพอใจขึ้นมาทันที แล้วยังรู้สึกจิตใจหวานชื่นด้วย"ใช่แล้ว""เจ้าอารามสอนมาหรือ?" ฟู่จาวหนิงประหลาดใจ "หรือว่าเ
"เช่นนั้นก็ใสหัวไป"เซียวหลันยวนพาคนออกจากคุกใหญ่เหล่าผู้คอมมองพวกเขา "หัวหน้า ตอนนี้ทำอย่างไรดี? นายพันเก๋อบอกไว้แล้ว ถ้าเฮ่อเหลียนเฟยมีความน่าสงสัยที่จะเป็นศัตรู ต้องคุมตัวเขาไว้ก่อนนี่นา"ก่อนหน้านี้ใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าก็ดึงคนไว้แล้ว ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนพาเขาเดินวนในคุกไปรอบหนึ่ง จากนั้นกลับเดินกลับไปอย่างองอาจเสียอย่างนั้นพรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อถามขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?เรื่องนี้ จะต้องนำไปให้ฝ่าบาททรงทราบแน่ องค์จักรพรรดิถ้าหากถามหาความรับผิดชอบขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?แต่หัวหน้าคุกก็ไม่กล้าทำอะไรนี่นา"ช่างมัน ผลักไปบนหัวอ๋องเจวี้ยนให้หมดแล้วกัน พรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อซักไซ้ขึ้นมา พวกเราก็บอกไปว่าพวกเราขวางอ๋องเจวี้ยนไม่อยู่"นี่โทษพวกเขาได้ที่ไหน?ฟู่จาวหนิงพอเห็นพวกเขาออกมาแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ"เสี่ยวเฟยไม่ต้องอยู่หรือ?" นางถามเซียวหลันยวน"ไม่ต้องให้อยู่แล้ว ให้พวกเขาไปที่จวนอ๋องเองแล้วกัน" เซียวหลันยวนตอบฟู่จิ้นเชินมองเขา "ขอบคุณมาก"นี่คือความหมายที่จะปกป้องพวกเขาแล้วถ้าหากพวกเขาไม่อยู่ในจวนอ๋อง พรุ่งนี้นายพันเก๋อพาคนไปที่บ้านตระกูลฟู่ พวกเขาคงไม่มีทางต่
โป๋จีเอาเรื่องที่เผ่าเฮ่อเหลียนยึดครองเมืองพูดจนกลายเป็นตัวเลือกที่จำใจของพวกเขาเสียอย่างนั้นฟู่จาวเฟยถามยังถามสถานการณ์ในเมืองตอนนี้อีกหน่อย แล้วยังถามเขาว่าทำไมถึงถูกเก๋อมู่กวงจัง รอจนเขา...ตอบมาทีละข้อ ถามขึ้นมาทันที "แล้วจดหมายที่นำมาให้ข้าล่ะ? ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ส่งจดหมายให้กับข้าหรือ?"โป๋จีมองไปทางเซียวหลันยวน"นี่คืออ๋องเจวี้ยนสินะ? พวกข้าได้ยินว่า อ๋องเจวี้ยนตอนนี้เป็นพี่เขยของเจ้า""ใช่แล้ว แต่เขากับองค์จักรพรรดิมีความสัมพันธ์ไม่ค่อยดี"สายตาโป๋จีหม่นลงเล็กน้อย พวกเขารู้เรื่องนี้"แล้วพ่อแท้ๆ ของเจ้าล่ะ?""เขาฟังพี่สาวข้า""หมอเทวดาฟู่ใช่ไหม?""ใช่ ชื่อเสียงของพี่สาวข้ามากขนาดนี้เลยหรือ? ลือกันไปถึงทางเผ่าแล้วหรือ?" ฟู่จาวเฟยถาม"แน่นอน นางเป็นถึงหมอที่อายุน้อยสุดในสมาคมหมอใหญ่เลยนะ" แล้วยังเป็นหมอหญิงอีก"แล้วจดหมายอยู่ที่ไหนล่ะ?""จะส่งให้เจ้าเลยก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้หรอก แต่ว่าเจ้าต้องทำเรื่องหนึ่งก่อน จดหมายสำหรับพวกเราแล้วสำคัญมาก ไม่ใช่เรื่องที่จะทำร้ายหรอก""เขียนอะไรไว้หรือ?""เจ้าอ่านจดหมายก็จะเข้าใจเอง""ท่านจะให้ข้าช่วยทำอะไรหรือ?" ฟู่จาวเฟยเริ่มจะเกิด
ขอแค่พวกเขาสงสัยในตัวฟู่จาวเฟยก็พอแล้วหัวหน้าคุกกับมือปราบเจียงพวกเขาก็เริ่มสงสัยเช่นนี้แล้วพวกเขามองฟู่จาวเฟย และมองไปยังโป๋จี สีหน้าเองก็กังวลขึ้นมา"คุณชายฟู่ นี่มัน..." มือปราบเจียงเข้าประชิดฟู่จิ้นเชิน กดเสียงต่ำคิดจะเตือนเขาคุณชายฟู่จะฟังไม่ออกได้อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าอยู่ต่อหน้านายพันเก๋อ แล้วเห็นว่าโป๋จีกับคุณชายน้อยฟู่มีความสัมพันธ์อันดีกันล่ะก็ คุณชายน้อยฟู่ก็จะยิ่งน่าสงสัยมากขึ้นไปอีกนายพันเก๋อคงไม่มีทางเชื่อคุณชายน้อยฟู่แน่นอนแล้วถ้าคุณชายน้อยฟู่ถูกกำหนดให้เป็นพวกของราชาเฮ่อเหลียน เช่นนั้นก็ถือว่ามีโทษกบฏ อาจจะลากตระกูลฟู่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยได้กระทั่งว่า อ๋องเจวี้ยนเองก็จะโดนหางเลขไปด้วยแต่ว่า องค์จักรพรรดิก็คิดจะรับมืออ๋องเจวี้ยนชัดเจนขนาดนี้ เช่นนั้นถ้ามีโอกาสจับกุมขึ้นมาจะปล่อยไปได้อย่างไรกัน?มือปราบเจียงรู้ว่าลูกสาวตนเองชอบพระชายาอ๋องเจวี้ยนมาก ดังนั้นเขาจึงกังวลแทนพระชายาอ๋องเจวี้ยนขึ้นมา"่ท่านลุงโป๋จี ท่านกำลังพูดอะไรน่ะ? ท่านพ่อกับท่านแม่ข้าตอนนั้นไม่ได้จงใจทิ้งข้า แล้วก็..."ฟู่จาวเฟยชะงักไป เปลี่ยนคำใหม่ "ราชาเฮ่อเหลียนยังสังหารแม่เลี้ยงข
"ท่านลุงโป๋จี ได้ยินว่าท่านมาส่งจดหมายให้ข้าหรือ?"ฟู่จาวเฟยถามออกมาทันทีโป๋จีก่อนหน้านี้ก็ดีกับเขาพอควร แต่ตอนนี้พอมาคิด ก็น่าจะแค่คิดว่าเขาเป็นลูกชายของราชาเฮ่อเหลียน เมื่อครู่ตอนที่เขาเห็นสายตาของตนเอง ก็แตกต่างกับแต่ก่อนไปแล้วฟู่จาวเฟยตอนนี้ยังพิจารณาออกได้ว่า เมื่อครู่ตอนที่โป๋จีมองเห็นสายตาของเขา นั่นเป็นความตื่นเต้นดีใจที่ได้เห็นเป้าหมายยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ที่เขาถามออกมาโป๋จีก็ยังพิจารณามองเขาอยู่"ใช่แล้ว องค์ชาย" โป๋จีใช้ภาษาเมืองหลวงที่ฟังแล้วแปลกๆ เรียกเขาว่าองค์ชาย จากนั้นก็มองไปทางอ๋องเจวี้ยนด้วยสัญชาตญาณ เปลี่ยนเป็นภาษาเฮ่อเหลียนว่า "ราชาได้รับจดหมายของเจ้า บอกว่าเจ้าหาพ่อแม่ที่แท้จริงพบแล้ว มีตัวตนฐานะใหม่ ดูพึงพอใจมาก"โป๋จีไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนฟังภาษาเฮ่อเหลียนออกฟู่จิ้นเชินอันที่จริงก็ไม่รู้พอเขาฟังประโยคนี้ออกจึงมองไปทางเซียวหลันยวน ตอนนี้จะแปลให้เขาคงไม่สะดวกนัก ถ้าเขาพูดออกมาตอนนี้ เกรงว่าโป๋จีคงไม่พูดความจริงแล้วรอให้เขาพูดสิ่งที่ควรพูดให้จบก่อนแล้วกันคำนี้ของโป๋จี น่าจะพูดให้เขาฟังความหมายของคำพูดนี้ แสดงออกว่าราชาเฮ่อเหลียนรู้แล้วว่าฟู่จาวเฟยเ
ถ้าประตูวังปิดแล้ว คืนนี้น่าจะยังไม่ได้พบองค์จักรพรรดิเช่นนั้นพรุ่งนี้ช่วงประชุมเช้าก็น่าจะได้พบ ห่างจากตอนนี้ไม่ถึงสามชั่วยามเซียวหลันยวนไม่พูดอะไรอีกหลังจากเขาได้ข่าวไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องส่งคนไปคุ้มครองนอกวังแน่ เก๋อมู่กวงคืนนี้เข้าวังไม่ได้ ไม่ได้พบองค์จักรพรรดิ ดังนั้นจะต้องรอจนถึงประชุมเช้าแน่นอนช่วงหลายชั่วยามนี้เพียงพอแล้วพวกเขาได้ยินเสียงของฟู่จิ้นเชินแล้วฟู่จิ้นเชินกำลังพูดภาษาเฮ่อเหลียนอยู่"พี่เขย ท่านพ่อกำลังพูดว่า..." ฟู่จาวเฟยคิดจะแปลให้เซียวหลันยวนก่อนอย่างฉลาดเฉลียวรู้ความ แต่คิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจะโบกไม้โบกมือ"ข้าฟังออกน่ะ""อ๋า?"ฟู่จาวเฟยตกตะลึง"ลืมบอกไป ว่าข้าเป็นภาษาเฮ่อเหลียน" เซียวหลันยวนน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กจ้อยที่ธรรมดามากๆ เรื่องหนึ่งหัวหน้าคุกเองก็เหลือบมองเขาอย่างตกตะลึง"ถ้าข้าน้อยจำไม่ผิดล่ะก็ ท่านอ๋องยังพูดภาษาหนานฉือได้ด้วย?""ใช่"หัวหน้าคุกกับฟู่จาวเฟยสบตากันผาดหนึ่ง ทั้งสองคนล้วนเห็นความตกตลึงในดวงตาของอีกฝ่ายอ๋องเจวี้ยนทำไมถึงพูดได้หลายภาษานัก?เขาไม่ใช่ว่าพักฟื้นอยู่ในยอดเขาโยวชิงตลอดหรือไรกัน? คนทั้ง