หลังจากเข้ามาพวกของฟู่จาวหนิงจึงพบว่า ในห้องนี้เย็นเอามากๆ และไม่มีเตาเสียด้วย เตียงก็แข็ง ผ้าห่มก็บาง ตอนกลางคืนคงไม่อบอุ่นแน่นอนในห้องไม่มีของอะไรเลย เครื่องเรื่อนไม่กี่ชิ้นก็เก่าเสียเหลือเกินได้ยินว่าที่นี่นั้นเช่ามา น่าจะเป็นสิ่งของของเจ้าห้องทั้งหมด ของส่วนตัวของพวกเขาเองนั้นแทบไม่มีเลยหมอเจี่ยนอนอยู่บนเตียง ทั้งตัวแข็งทื่อ สลบไสลไม่ได้สติ"คุณ คุณ!"ฮูหยินเจี่ยอยู่ข้างเตียง สีหน้าลาลานพรั่นพรึง"ข้าขอจับชีพจรให้เขาหน่อย เขาก่อนหน้ามีโรคอะไรหรือไม่?" ฟู่จาวหนิงถามและตอนที่นิ้วของเขาทาบลงไปบนจุดชีพจรหมอเจี่ย ฮูหยินเจี่ยจูๆ ก็ลืมตาโพลง จากนั้นก็ลุกพรวดขึ้นมาการเคลื่อนไหวกะทันหันนี้ของนางทำเอาฟู่จาวหนิงงงงัน เงยหน้ามองไปทางนางสายตาของฮูหยินเจี่ยเปลี่ยนแปลงขึ้นมาในตอนนี้ เมื่อครู่สายตานางเต็มไปด้วยความร้อนรน ตอนนี้สายตากลับดูทื่อลงมา หมุนตัวเดินออกไป"เฟยเอ๋อร์ ข้าจะไปหาเฟยเอ๋อร์!""ขวางนางไว้!"ฟู่จาวหนิงสัมผัสได้ว่าไม่ปกติ สั่งพวกหลิวหั่วทันทีเสิ่นเสวียนไวกว่าพวกเขาก้าวหนึ่ง ยื่นมือไปขวางฮูหยินเจี่ยไว้แล้วเขามองฮูหยินเจี่ย จู่ๆ ก้ยื่นมือไปทางหน้าของนาง"อ๊า! อ
เขาตกตะลึงจนพูดไม่ออกเสิ่นเสวียนกับฟู่จาวหนิงก็มองไปยังอีกฝ่ายพร้อมกัน ล้วนเห็นความรู้สึกซับซ้อนหน่อยๆ ออกมาจากตาของอีกฝ่าย"เสิ่นเชี่ยว เป็นนางนั่นล่ะ"ฟู่จาวหนิงถอนใจเอบาพูดชื่อนางออกมานางกับเสิ่นเสวียนยืนยันได้นี่คือเสิ่นเชี่ยวพวกเขาคิดไม่ถึงเลย ว่าเสิ่นเชี่ยวจะปรากฏตัวอยู่ข้างกายพวกเขาเช่นนี้"แล้วเขาล่ะ?" เสิ่นเสวียนมองไปทางหมอเจี่ยบนเตียงฟู่จาวหนิงเม้มริมฝีปาก "ข้าจะไปดูว่าเขาใส่หน้ากากไหม"สายตาของนางยังไม่เฉียบคมเท่าเสิ่นเสวียน เสิ่วเสวียนเมื่อครู่พอเหลือบมองก็มองออกทันทีว่นางสวมหน้ากากหนังมนุษย์ นางยังมองไม่ออกเลยนางรีบเดินมาอยู่ข้างกายหมอเจี่ย กมหน้าลงตรวจสอบใบหน้าเขา สดท้ายจึงปลดหนังหน้านั้นลงมารูปร่างหน้าตาเขาไม่เปลี่ยนไปมากนัก ยิ่งดูประณีตขึ้นสามส่วน และเพราะสามส่วนนี้ ทำให้เขากับนางดูคล้ายกันไปอีฟู่จาวหนิงม งใบผน้านี้ในใจนางมีความ่รู้สึกที่อธิบายออกมาไม่ได้กระจายออกมาราวกับว่าคนตรงหน้านี้คือพ่อแม่ของนางอย่างไรอย่านั้น ทั้งที่ตนเองก็ไม่ได้มีความทรงจำอะไรกับพ่อแม่เลย แต่ตอนนี้พอเห็นเขา อารมณ์ของนางก็ถูกเกี่ยสะกิดเข้าแล้วฟู่จาวหนิงนึกถึงคำพูดที่เคยพ
"นายท่าน ฮูหยินคนนั้น คือคุณหนูเสิ่นเชี่ยวที่หายสาบสูญไปเมื่อตอนเด็กจริงหรือ?""คิดแล้วน่าจะใช่" เสิ่นเสวียนถอนหายใจ"เช่นนั้น เขาจะลืมท่านไปแล้วหรือเปล่า?""รอนางตื่นถึงจะรู้"ดูสภาพพวกเขาตอนนี้ ทั้งสองคนล้วนดูผิดปกติกันหมด นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่พวกเขาหายตัวไปตลอดหลายปี ไม่ได้กลับไปแคว้นเจาเพื่อดูผู้เฒ่าฟู่กับจาวหนิงมาโดยตลอดก็ได้บางที สาเหตุนี้ อาจจะทำให้พวกเขาจำกันไม่ได้ไปชั่วขณะแต่คนก็หาเจอแล้ว เรื่องหลังจากนี้ค่อยๆ ไปกันทีละก้าวก็ได้ เสิ่นเสวียนตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองมีความรู้สึกเหมือนเรื่องราวกำลังสิ้นสุดลงแล้ว"เช่นนั้นหลังจากนี้พวกเราต้องเรียกนางว่าอะไร คุณหนูจาวหนิงกับคุณหนูเสิ่นเชี่ยว พวกเราคงไม่เรียกอยู่ในรุ่นเดียวกันหรอกกระมัง?"เสิ่นเสวียนเหลือบมองหลิวหั่วผาดหนึ่งตอนนี้ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้ไหม?คนยังไม่ตื่นเลย เขาก็คิดไปถึงเรื่องชื่อเรียกแล้วหลิวหั่วถอยออกไปก้าวหนึ่ง "ข้าจะดูแลเอง จะดูแลแล้ว ไม่รบกวนท่านแล้ว"มองออกว่า อารมณ์ของนายท่านตอนนี้เหมือนจะซับซ้อนมาก หาตัวคุณหนูเสิ่นเชี่ยวพบแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้นยินดีหรือไรกัน?เป็นเพราะเห็นความผิดปกติทางร่า
เสิ่นเสวียนไม่เคยเห็นอาการตกตะลึงของนางมาก่อน จึงยืนนิ่งหันกลับทันที "มีอะไรหรือ?""ท่านลุง!"ฟู่จาวหนิงชูวัตถุดิบยาในมือ "เจ้านี่!""มันคืออะไร?""เอ็นมังกรหยก!"ฟู่จาวหนิงตื่นเต้นจนหน้าแดง ดวงตาเปล่งประกาย"เอาไว้ใช้ทำอะไร?""วัตถุดิบยาชนิดสุดท้ายที่เซียวหลันยวนต้องการ หายากมากๆ!" ฟู่จาวหนิงดีใจจนเสียงสั่นพร่า "ถ้าแค่มีเจ้านี้ พิษของเขาก็สามารถขจัดได้อย่างหมดจด! ยิ่งไปกว่นั้นแผลเป็นบนหน้าเขาก็จะดีขึ้นอีกด้วย!""ในมือฟู่จิ้นเชินมีสิ่งนี้อยู่ด้วยหรือ?" เสิ่นเสวียนเองก็ตกตะลึงนี่มันวาสนาอะไรกัน?บังเอิญขนาดนี้เชียว?"ข้าเองก็ไม่อยากเชื่อเลย"ฟู่จาวหนิงหม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ในความไม่น่าเชื่อนี้ ก็มอบโอกาสให้พวกเขาได้ชดใช้กับเซียวหลันยวนขึ้นมาอย่างนั้นหรือ?ถ้ามีเอ็นมังกรหยกนี้ เรื่องนี้ก็เหมือนไม่ใช่จะไม่มีโอกาสได้คลี่คลายลงเสียแล้วฟู่จาวหนิงห่อมันอย่างดีทันที กอดไว้แนบอกนี่เป็นวัตถุดิบยาที่ล้ำค่ามาก ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นสิ่งของที่สำคัญมากในครั้งนี้!เสิ่นเสวียนเองก็เข้าใจแล้ว อดส่ายหัวขำขึ้นเบาๆ ไม่ได้"จาวหนิง อันที่จริงเจ้ามีโชคยิ่งกว่าเสียอีก เจ้าดูสิ เดิมทีน่าจะเป
รอจนยาชาหมดฤทธิ์ เซียวหลันยวนเริ่มรู้สึกว่าหน้าขอบตนเองเจ็บขึ้นมาเล็กๆแต่ว่าฟู่จาวหนิงก็พันแผลให้เขาไว้ดีแล้ว นี่คือห้ามไปแตะต้องแน่นอน เขาทำได้แค่ทนไว้รออยู่ครู่หนึ่งผู้อาวุโสจี้ก็มาหาเขาพอเจอหน้า เห็นเขาพันผ้าไว้บนหน้า ผู้อาวุโสจี้ก็พุ่งเข้ามา แล้วยังรู้สึกอยากรู้อยากเห็นอีกด้วย"อ๋องเจวี้ยน ศิษย์ข้าเริ่มรักษาให้เจ้าแล้วหรือ? หรือก็คือ วัตถุดิบยาเหล่านั้นมันได้ใช้งานจริงๆ แล้วสินะ?""พูดถึงวัตถุดิบยาเหล่านั้น ข้าขอบคุณผู้อาวุโสจี้มาก""รู้แล้วสินะว่าวัตถุดิบยาขององค์หญิงใหญ่ได้มาอย่างไร?" ผู้อาวุโสจี้เหลือบมองเขา "ดังนั้น ท่านก็อย่ามองคุณความดีเป็นขององค์หญิงใหญ่ล่ะ ที่ข้าลงแรงไปหาวัตถุดิบยาเหล่านั้น นั่นก็เพื่อศิษย์รักของข้า เพื่อนางแล้ว ท่านถึงมีโอกาสรักษาใบหน้าท่าน ดังนั้น คุณความดีทั้งหมดเป็นของศิษย์รักข้า อ๋องเจวี้ยนเข้าใจไหม?""ข้าเข้าใจแน่นอน""ท่านเข้าใจก็ดีแล้ว" ผู้อาวุโสจี้ร้องเชอะ เหมือนคิดอะไรออก "ในเมื่อท่านเข้าใจแล้ว ทำไมสองวันนี้ถึงยังไปอยู่ด้วยกันกับองค์หญิงใหญ่อีก? ข้ายังพูดขึ้นมาเลยว่าอ๋องเจวี้ยนเข้าในความคิดหญิงสาวของตนเองหรือเปล่า?""ข้าไม่ได้มีอะไรกับ
"พระชายา ชอบเจ้า?" น้ำเสียงของเขาช้าลง ราวกับมีดทื่อมีดนั้นคิดจะกรีดลงไปบนตัวของผู้นำน้อยตระกูลชิ่ง"ชอบ ไม่ใช่ชอบแบบนั้น" ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งรีบอธิบาย "ข้ารู้สึกว่าข้าสามารถเป็นน้องชายของพระชายาได้นะ ท่านอ๋อง พฤติกรรมของพระชายาครั้งนี้ที่หออันดับหนึ่งของเมืองหลวงจักรพรรดิ แล้วก็การช่วยคนบนถนนใหญ่นั่น ยอดเยี่ยมไปเลยจริงๆ!"เขาวันนี้ได้ยินคนไม่น้อยข้างนอกเอาแต่วิจารณ์ถึงหมอเทวดาคนนั้นฟู่จาวหนิงมาเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อได้แค่ไม่กี่วัน ก็สร้างชื่อเสียงขึ้นมาเสียแล้วถ้าไม่ใช่องค์หญิงใหญ่กลับมาเมืองหลวงจักรพรรดิพอดี จนแบ่งความสนใจส่วนหนึ่งของประชาชนไป ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าประชาชนเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อจะวิจารณ์ฟู่จาวหนิงไปถึงไหนแล้วแต่ต่อให้มีองค์หญิงใหญ่แบ่งการวิจารณ์ไปเท่าไร ฟู่จาวหนิงก็ยังมีชื่อเสียงอยู่ดี โดยเฉพาะวิชามีดที่นางแสดงออกมาเพื่อทำเห็ดเชียนเสวี่ยที่หออันดับหนึ่ง ช่วยชีวิตพ่อครัวใหญ่ แล้ววันนั้นคนที่มากินก็ล้วนเป็นพวกคนที่มีหน้ามีตาทั้งสิ้นพูดได้ว่า นางทั้งสร้างชื่อขึ้นในวงล้อมคนใหญ่โต แล้วตอนที่ช่วยชีวิตประชาชนบนถนนใหญ่ ก็ยังสร้างชื่อในหมู่ประชาชนอีกผู้นำน้อยตร
ขณะที่เซียวหลันยวนยังไม่ทันย่อยเรื่องที่ซือถูไป๋ไปขอพบองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงพวกเขาก็กลับเข้ามาแล้วหลานหรงที่อยู่ด้านนอกได้ข่าวว่าพวกเขากลับมาก่อน จึงรีบเข้ามารายงาน"ศิษย์ข้ากลับมาแล้วหรือ? ไปๆๆ ไปดูว่าวันนี้นางได้อะไรมา" ผู้อาวุโสจี้วิ่งไปหน้าเรือนก่อน"ชิ่งอวิ๋นเซียว เจ้ากลับไปก่อนเถอะ..."เซียวหลันยวนพอคิดคำพูดที่ชิ่งอวิ๋นเซียวบอกว่าฟู่จาวหนิงชอบเขา จึงเอ่ยปากให้เขากลับไปก่อนผลคือชิ่งอวิ๋นเซียวเองก็วิ่งตรงไปที่เรือนหน้าด้วย "ท่านอ๋อง ข้าจะไปฟังว่าพระชายาวันนี้จะทำเรื่องใหญ่อะไรอีก!"พอเห็นว่าพวกเขาวิ่งออกไปกันจนหมด เซียวหลันยวนก็เกือบตั้งตัวกลับมาไม่ทันฟู่จาวหนิงเป็นพระชายาของเขา นางกลับมาแล้ว คนที่ต้องรีบไปพบนางไม่ใช่เขาหรอกหรือ? นี่กลายเป็นว่าคนอื่นวิ่งเร็วกว่าเขาเสียอีก!"ท่านอ๋อง พระชายาเดิมทีจะให้ท่านพักผ่อนก่อน ท่านรอที่นี่เถอะ พระชายาเดี๋ยวก็ต้องกลับมาที่เรือน..."ชิงอียังไม่ทันพูดจบ ตรงหน้าก็ไม่เห็นเงาเซียวหลันยวนแล้วและผู้อาวุโสจี้กับชิ่งอวิ๋นเซียวที่กำลังวิ่ง ข้างกายจู่ๆ ก็มีสายลมกวาดผ่าน เหมือนมีอะไรบางอย่างแฉลบออกไป"ผู้อาวุโสจี้ เมื่อครู่มันอะไรกั
ฟู่จาวหนิงมองๆ เสิ่นเสวียน "ท่านลุง ข้าจะเข้าไปดูพวกเขาก่อน จะอย่างไรต้องทำให้คนฟื้นขึ้นมาก่อน""เจ้าไปเถอะ ข้าจะคุยกับอ๋องเจวี้ยนเสียหน่อย" เสิ่นเสวียนขวางเซียวหลันยวนไว้ผู้อาวุโสจี้กับชิ่งอวิ๋นเซียวตอนนี้เพิ่งจะตามขึ้นมาทัน ยังไม่ทันได้เห็นฟู่จาวหนิง นางก็เข้าห้องไปแล้ว"ผู้อาวุโสจี้กับผู้นำน้อยตระกูลชิ่งก็อยู่ด้วยหรือ? เช่นนั้นมาดื่มชากันก่อนเถิด"เสิ่นเสวียนพาพวกเขามายังศาลาด้านนอก เสี่ยวชิ่นยกน้ำชาเข้ามา แต่ยังไม่กล้ามองเซียวหลันยวนแต่ตอนนี้นางเองก็นิ่งขึ้นมากแล้ว เพราะพอไม่เห็นเขาสวมหน้ากาก พันผ้าเอาไว้ นั่นคือคุณหนูจาวหนิงสามารถรักษาเขาได้แน่นอนนางเมื่อครู่ตอนที่นำชาเข้าไปส่ง สืออียังบอกกับนางคำหนึ่ง ให้เหลือบมองอ๋องเจวี้ยนเสียหน่อยเสี่ยวชิ่นเห็นใบหน้าด้านนั้นที่อ๋องเจวี้ยนพันผ้าเอาไว้ ตอนนี้หันไปส่งชาให้เสิ่นเสวียนก็ใจเต้นตึกตักเงยหน้าขึ้นเหลือบมองอีกผาดหนึ่งตอนนี้นางจึงได้เห็นใบหน้าอ๋องเจวี้ยนดียังดีอยู่อีกฝั่ง ตกตะลึงไปแล้วนี่คืออ๋องเจวี้ยนหรือ?นี่คืออ๋องเจวี้ยนที่ทำเอานางตกใสจนร้องไห้ในครั้งที่แล้ว กระทั่งว่ายังเอาไปฝันร้ายอีกหลายคืนคนนั้นหรือ?เขาเดิมทีหน้
"เช่นนั้นก็ใสหัวไป"เซียวหลันยวนพาคนออกจากคุกใหญ่เหล่าผู้คอมมองพวกเขา "หัวหน้า ตอนนี้ทำอย่างไรดี? นายพันเก๋อบอกไว้แล้ว ถ้าเฮ่อเหลียนเฟยมีความน่าสงสัยที่จะเป็นศัตรู ต้องคุมตัวเขาไว้ก่อนนี่นา"ก่อนหน้านี้ใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าก็ดึงคนไว้แล้ว ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนพาเขาเดินวนในคุกไปรอบหนึ่ง จากนั้นกลับเดินกลับไปอย่างองอาจเสียอย่างนั้นพรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อถามขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?เรื่องนี้ จะต้องนำไปให้ฝ่าบาททรงทราบแน่ องค์จักรพรรดิถ้าหากถามหาความรับผิดชอบขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?แต่หัวหน้าคุกก็ไม่กล้าทำอะไรนี่นา"ช่างมัน ผลักไปบนหัวอ๋องเจวี้ยนให้หมดแล้วกัน พรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อซักไซ้ขึ้นมา พวกเราก็บอกไปว่าพวกเราขวางอ๋องเจวี้ยนไม่อยู่"นี่โทษพวกเขาได้ที่ไหน?ฟู่จาวหนิงพอเห็นพวกเขาออกมาแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ"เสี่ยวเฟยไม่ต้องอยู่หรือ?" นางถามเซียวหลันยวน"ไม่ต้องให้อยู่แล้ว ให้พวกเขาไปที่จวนอ๋องเองแล้วกัน" เซียวหลันยวนตอบฟู่จิ้นเชินมองเขา "ขอบคุณมาก"นี่คือความหมายที่จะปกป้องพวกเขาแล้วถ้าหากพวกเขาไม่อยู่ในจวนอ๋อง พรุ่งนี้นายพันเก๋อพาคนไปที่บ้านตระกูลฟู่ พวกเขาคงไม่มีทางต่
โป๋จีเอาเรื่องที่เผ่าเฮ่อเหลียนยึดครองเมืองพูดจนกลายเป็นตัวเลือกที่จำใจของพวกเขาเสียอย่างนั้นฟู่จาวเฟยถามยังถามสถานการณ์ในเมืองตอนนี้อีกหน่อย แล้วยังถามเขาว่าทำไมถึงถูกเก๋อมู่กวงจัง รอจนเขา...ตอบมาทีละข้อ ถามขึ้นมาทันที "แล้วจดหมายที่นำมาให้ข้าล่ะ? ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ส่งจดหมายให้กับข้าหรือ?"โป๋จีมองไปทางเซียวหลันยวน"นี่คืออ๋องเจวี้ยนสินะ? พวกข้าได้ยินว่า อ๋องเจวี้ยนตอนนี้เป็นพี่เขยของเจ้า""ใช่แล้ว แต่เขากับองค์จักรพรรดิมีความสัมพันธ์ไม่ค่อยดี"สายตาโป๋จีหม่นลงเล็กน้อย พวกเขารู้เรื่องนี้"แล้วพ่อแท้ๆ ของเจ้าล่ะ?""เขาฟังพี่สาวข้า""หมอเทวดาฟู่ใช่ไหม?""ใช่ ชื่อเสียงของพี่สาวข้ามากขนาดนี้เลยหรือ? ลือกันไปถึงทางเผ่าแล้วหรือ?" ฟู่จาวเฟยถาม"แน่นอน นางเป็นถึงหมอที่อายุน้อยสุดในสมาคมหมอใหญ่เลยนะ" แล้วยังเป็นหมอหญิงอีก"แล้วจดหมายอยู่ที่ไหนล่ะ?""จะส่งให้เจ้าเลยก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้หรอก แต่ว่าเจ้าต้องทำเรื่องหนึ่งก่อน จดหมายสำหรับพวกเราแล้วสำคัญมาก ไม่ใช่เรื่องที่จะทำร้ายหรอก""เขียนอะไรไว้หรือ?""เจ้าอ่านจดหมายก็จะเข้าใจเอง""ท่านจะให้ข้าช่วยทำอะไรหรือ?" ฟู่จาวเฟยเริ่มจะเกิด
ขอแค่พวกเขาสงสัยในตัวฟู่จาวเฟยก็พอแล้วหัวหน้าคุกกับมือปราบเจียงพวกเขาก็เริ่มสงสัยเช่นนี้แล้วพวกเขามองฟู่จาวเฟย และมองไปยังโป๋จี สีหน้าเองก็กังวลขึ้นมา"คุณชายฟู่ นี่มัน..." มือปราบเจียงเข้าประชิดฟู่จิ้นเชิน กดเสียงต่ำคิดจะเตือนเขาคุณชายฟู่จะฟังไม่ออกได้อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าอยู่ต่อหน้านายพันเก๋อ แล้วเห็นว่าโป๋จีกับคุณชายน้อยฟู่มีความสัมพันธ์อันดีกันล่ะก็ คุณชายน้อยฟู่ก็จะยิ่งน่าสงสัยมากขึ้นไปอีกนายพันเก๋อคงไม่มีทางเชื่อคุณชายน้อยฟู่แน่นอนแล้วถ้าคุณชายน้อยฟู่ถูกกำหนดให้เป็นพวกของราชาเฮ่อเหลียน เช่นนั้นก็ถือว่ามีโทษกบฏ อาจจะลากตระกูลฟู่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยได้กระทั่งว่า อ๋องเจวี้ยนเองก็จะโดนหางเลขไปด้วยแต่ว่า องค์จักรพรรดิก็คิดจะรับมืออ๋องเจวี้ยนชัดเจนขนาดนี้ เช่นนั้นถ้ามีโอกาสจับกุมขึ้นมาจะปล่อยไปได้อย่างไรกัน?มือปราบเจียงรู้ว่าลูกสาวตนเองชอบพระชายาอ๋องเจวี้ยนมาก ดังนั้นเขาจึงกังวลแทนพระชายาอ๋องเจวี้ยนขึ้นมา"่ท่านลุงโป๋จี ท่านกำลังพูดอะไรน่ะ? ท่านพ่อกับท่านแม่ข้าตอนนั้นไม่ได้จงใจทิ้งข้า แล้วก็..."ฟู่จาวเฟยชะงักไป เปลี่ยนคำใหม่ "ราชาเฮ่อเหลียนยังสังหารแม่เลี้ยงข
"ท่านลุงโป๋จี ได้ยินว่าท่านมาส่งจดหมายให้ข้าหรือ?"ฟู่จาวเฟยถามออกมาทันทีโป๋จีก่อนหน้านี้ก็ดีกับเขาพอควร แต่ตอนนี้พอมาคิด ก็น่าจะแค่คิดว่าเขาเป็นลูกชายของราชาเฮ่อเหลียน เมื่อครู่ตอนที่เขาเห็นสายตาของตนเอง ก็แตกต่างกับแต่ก่อนไปแล้วฟู่จาวเฟยตอนนี้ยังพิจารณาออกได้ว่า เมื่อครู่ตอนที่โป๋จีมองเห็นสายตาของเขา นั่นเป็นความตื่นเต้นดีใจที่ได้เห็นเป้าหมายยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ที่เขาถามออกมาโป๋จีก็ยังพิจารณามองเขาอยู่"ใช่แล้ว องค์ชาย" โป๋จีใช้ภาษาเมืองหลวงที่ฟังแล้วแปลกๆ เรียกเขาว่าองค์ชาย จากนั้นก็มองไปทางอ๋องเจวี้ยนด้วยสัญชาตญาณ เปลี่ยนเป็นภาษาเฮ่อเหลียนว่า "ราชาได้รับจดหมายของเจ้า บอกว่าเจ้าหาพ่อแม่ที่แท้จริงพบแล้ว มีตัวตนฐานะใหม่ ดูพึงพอใจมาก"โป๋จีไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนฟังภาษาเฮ่อเหลียนออกฟู่จิ้นเชินอันที่จริงก็ไม่รู้พอเขาฟังประโยคนี้ออกจึงมองไปทางเซียวหลันยวน ตอนนี้จะแปลให้เขาคงไม่สะดวกนัก ถ้าเขาพูดออกมาตอนนี้ เกรงว่าโป๋จีคงไม่พูดความจริงแล้วรอให้เขาพูดสิ่งที่ควรพูดให้จบก่อนแล้วกันคำนี้ของโป๋จี น่าจะพูดให้เขาฟังความหมายของคำพูดนี้ แสดงออกว่าราชาเฮ่อเหลียนรู้แล้วว่าฟู่จาวเฟยเ
ถ้าประตูวังปิดแล้ว คืนนี้น่าจะยังไม่ได้พบองค์จักรพรรดิเช่นนั้นพรุ่งนี้ช่วงประชุมเช้าก็น่าจะได้พบ ห่างจากตอนนี้ไม่ถึงสามชั่วยามเซียวหลันยวนไม่พูดอะไรอีกหลังจากเขาได้ข่าวไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องส่งคนไปคุ้มครองนอกวังแน่ เก๋อมู่กวงคืนนี้เข้าวังไม่ได้ ไม่ได้พบองค์จักรพรรดิ ดังนั้นจะต้องรอจนถึงประชุมเช้าแน่นอนช่วงหลายชั่วยามนี้เพียงพอแล้วพวกเขาได้ยินเสียงของฟู่จิ้นเชินแล้วฟู่จิ้นเชินกำลังพูดภาษาเฮ่อเหลียนอยู่"พี่เขย ท่านพ่อกำลังพูดว่า..." ฟู่จาวเฟยคิดจะแปลให้เซียวหลันยวนก่อนอย่างฉลาดเฉลียวรู้ความ แต่คิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจะโบกไม้โบกมือ"ข้าฟังออกน่ะ""อ๋า?"ฟู่จาวเฟยตกตะลึง"ลืมบอกไป ว่าข้าเป็นภาษาเฮ่อเหลียน" เซียวหลันยวนน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กจ้อยที่ธรรมดามากๆ เรื่องหนึ่งหัวหน้าคุกเองก็เหลือบมองเขาอย่างตกตะลึง"ถ้าข้าน้อยจำไม่ผิดล่ะก็ ท่านอ๋องยังพูดภาษาหนานฉือได้ด้วย?""ใช่"หัวหน้าคุกกับฟู่จาวเฟยสบตากันผาดหนึ่ง ทั้งสองคนล้วนเห็นความตกตลึงในดวงตาของอีกฝ่ายอ๋องเจวี้ยนทำไมถึงพูดได้หลายภาษานัก?เขาไม่ใช่ว่าพักฟื้นอยู่ในยอดเขาโยวชิงตลอดหรือไรกัน? คนทั้ง
เซียวหลันยวนรู้สึกนับถือฟู่จิ้นเชินจริงๆเขาเองก็ไม่ได้มีตัวตนฐานะพิเศษอะไร แต่กลับใช้ความสามารถตนเองเข้าไปในคุกใหญ่ได้ เข้าคุกใหญ่ไปยังพอทำเนา แต่นี่ยังได้พบกับโป๋จีด้วยนี่ร้ายกาจมากจริงๆ"พวกเจ้าให้เขาเข้าไปแบบนี้เลยหรือ?" เซียวหลันยวนรู้สึกแปลกใจจริงๆ"เรื่องนี้ เพราะโป๋จีพูดภาษาเราได้แค่นิดหน่อย คุณชายฟู่เขาพูดภาษาเฮ่อเหลียนได้"หัวหน้าคุกกังวลนิดหน่อย เขาเองก็ไม่รู้ว่าอ๋องเจวี้ยนยกโทษให้กับสามีภรรยาตระกูลฟู่แล้วหรือยังคนไม่น้อยในเมืองหลวงก็ยังมองความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาไม่ออกถ้าหากอ๋องเจวี้ยนโกรธ แล้วหันมาระบายบนตัวเขาจะทำอย่างไรกัน"ท่านอ๋อง ท่านเองก็จะเข้าไปพบโป๋จีคนนั้นหรือ?" เขาถามขึ้นอย่างระมัดระวังอ๋องเจวี้ยนออกมาได้อีกครั้ง แสดงว่าไม่ได้ติดโรคระบาดนั้นมาพวกผู้คุมในคุกใหญ่หลายวันนี้ยังไม่ได้ดื่มยาน้ำของพระชายาอ๋องเจวี้ยน ทุกคนกินอาหารกันวันละสามมื้อ แต่ก็ยังไม่มีใครติดโรคชนิดนั้นเลยดังนั้นพวกเขาเชื่อมั่นในยาขอพระชายาอ๋องเจวี้ยน แน่นอนว่าเชื่อมั่นว่าอ๋องเจวี้ยนไม่ได้เป็นโรคระบาดด้วย"ข้าเข้าไปไม่ได้หรือ?""ไม่ใช่เช่นนั้น ไม่ใช่แน่นอน ท่านอ๋องเข้าไปได้" หัว
เซียวหลันยวนมองเสิ่นเชี่ยวผาดหนึ่ง"ก็แค่ไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมาเท่านั้น"มีแผนอะไรเสียที่ไหน?เรื่องเช่นนี้ ต่อให้พวกเขาลงมือตรวจสอบชัดเจน ก็ไม่ใช่อะไรที่จำทำเสร็จในชั่วครู่องค์จักรพรรดิจะต้องหยิบยืมเรื่องนี้แน่นอนใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าทางนี้คงทานได้อีกไม่นานแล้ว อีกเดี๋ยวก็จะมีคนมาพาฟู่จาวเฟยไปคุกใหญ่ฟู่จาวหนิงกลับเข้าใจความหมายของเซียวหลันยวนขึ้นมา"พวกเราตอนนี้ส่งไปเอง ยังพอจะเลือกห้องขังได้อยู่""ข้าฟังพวกเจ้านั่นล่ะ" เสิ่นเชี่ยวเอ่ยขึ้นทันทีนางต้องเรียนรู้ที่จะเชื่อลูกสาว ไม่ต้องถามให้ชัดเจนนัก ลูกสาวจะต้องไม่ทำร้ายน้องชายแน่ๆ แค่ฟังนางไว้ก็พอเรื่องในเมืองหลวง พวกเขาจะต้องเข้าใจชัดเจนกว่านางแน่นอน"เรื่องนั้นไม่ควรชักช้าไปกันตอนนี้เลย" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นหมุนตัวออกไปก่อนฟู่จาวหนิงกวักมือให้เสี่ยวเฟย "ไปกัน"ฟู่จาวเฟยเองก็เดิมตามนางไปอย่างเชื่อมั่นทันทีเสิ่นเชี่ยวเดินมาถึงด้านหลัง คารวะให้กับใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้า "ขอบคุณใต้เท้าที่ดูแล""เกรงใจเกินไปแล้ว..."ใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าตอบกลับด้วยสัญชาตญาณ จากนั้นก็รู้สึกว่าตนเองในตอนนี้ก็เหมือนจะเกรงใจมากเกินไปเขายังกลายเป
ท่านพี่ในที่สุดก็กลับมาแล้ว ใจของเขาสงบลงมาได้ไม่น้อยเลย"จาวหนิง นี่มาจากในภูเขาหรือ? เหนื่อยแย่เลยสิ?" เสิ่นเชี่ยวยกถ้วยชาบนโต๊ะขึ้นทันที "เจ้าดื่มชาร้อนนี่ก่อนเถอะ เพิ่งต้มใหม่เลย ยังไม่ได้ดื่ม"นางเห็นฟู่จาวหนิงมีรอยคล้ำใต้ตาจางๆ ในภูเขาคงต้องเหนื่อยมากแน่ๆ และคงไม่ได้พักผ่อนดีนักแต่พอยกถ้วยชาขึ้นมา เสิ่นเชี่ยวก็ยังรู้สึกกระวนกระวายอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงจะรับน้ำใจของนางไหมฟู่จาวหนิงรับมา ดื่มไปอึกหนึ่ง ผ่อนคลายลงมาได้"เรื่องจดหมายนี่อย่างไรกัน? ก่อนหน้านี้มีอะไรผิดปกติบ้างไหม หรือมีคนมาหาเจ้าบ้างหรือเปล่า?"เสิ่นเชี่ยวถอนใจโล่ง ในใจก็ลิงโลดขึ้นมาแม้ว่าฟู่จาวหนิงตอนนี้อยู่กับพวกเขาจะไม่ค่อยคล้ายกับพ่อแม่ลูกเท่าไรนัก แต่นางเชื่อว่าในด้านความรู้สึกก็ยังพอเห็นได้บ้าง เดิมทีก็ยังมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกันอยู่ฟู่จาวเฟยส่ายหัว รีบร้อนรับประกันอย่างขันแข็งขึ้นมา "ท่านพี่ ไม่มีอะไรผิดปกติเลย ไม่มีคนมาหาข้าด้วย แล้วก็ไม่ได้รับจดหมายอะไรอีก ข้าเองก็ไม่ได้เขียนจดหมายไปด้านนอก""ช่วยนี้มีใครมาที่บ้านไหม?""ไม่มี มีแต่ท่านพ่อที่ออกไปบ่อยๆ ข้าอยู่ในแต่บ้านฝึกยุทธ์" ฟู่จาวเฟ
"อ๋องเจวี้ยนมาถึงแล้ว"ข้าราชการชั้นผู้น้อยคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามา รู้ว่าใต้เท้าร้อนรนมาก จึงรีบ เข้ามารายงาน"เร็ว"เขาทางนี้แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว คุกใหญ่ทางนั้นถ้าถามออกมาได้ว่าจดหมายอยู่ที่ไหน ก็คงจะให้เขาเอาฟู่จาวเฟยส่งเข้าคุกใหญ่แน่แต่อ๋องเจวี้ยนก่อนหน้านี้กำชับว่า ก่อนหน้าที่เขาจะกลับมา ฟู่จาวเฟยต้องอยู่ที่นี่ก่อน ห้ามส่งไปคุกใหญ่เขาเองก็ทานไม่ไหวแล้ว เดิมทีฟู่จาวเฟยไม่ได้จะส่งมาที่เขาทางนี้ แต่เป็นจดหมายด่วนของอ๋องเจวี้ยนที่ให้เข้าเข้ามารับช่วงไว้ก่อนแต่เขาเองก็ร้อนรนด้วย เขาเองก็กลัวนี่ ถึงตอนนั้นถ้าค้นเจอจดหมายอะไรเข้า แล้วเกี่ยวข้องกับฟู่จาวเฟยจริง เขาก็จัดการลำบากแล้วถึงอย่างไรฟู่จาวเฟยก็อยู่กับเขาทางนี้ ไม่ได้ลงตรวน ไม่ได้ตี ไม่ได้ขังอีกต่างหาก ยังคงนั่งรออยู่ที่โถงข้างๆแล้วยังมีฮูหยินฟู่ด้วย นั่งอยู่กับลูกชายด้วยกันเขาทำเช่นนี้ ถ้าหากถูกองค์จักรพรรดิรู้เข้า องค์จักรพรรดิคงไม่ละเว้นเขาแน่พอเขาออกไป เสิ่นเชี่ยวกับฟู่จาวเฟยก็ลุกขึ้นยืนทันที ขณะเดียวกันก็มองมาทางเขา"ใต้เท้า?""คุณชายฟู่ไปที่ไหนแล้วกันแน่?"ใต้เท้าหยินจิงเจ้ามองพวกเขา และคิดถึงเรื่องที่เมื่อคร