ฟู่จาวหนิงในใจยังสงสัยอยู่ แต่ก็มองอะไรไม่ออก"หมอใหญ่เจี่ยเป็นคนต้าชื่อหรือ?""คนจากเมืองเล็กๆ ชายขอบน่ะ พาภรรยามาร่วมเทศกาลอวยพรสารทฤดู" หมอใหญ่เจี่ยตอบกลับมาเขาพอถามก็ตอบ มองจุดน่าสงสัยไม่ออกเลยฟู่จาวหนิงยังคิดจะถามต่อ จู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีสายตาหนึ่งจับจ้องเข้ามา สัมผัสได้อย่างแรงกล้านางหันหน้ามองไป ก็สบเข้ากับสายตาเซียวหลันยวนพอดีนางชะงัก ไม่ได้ถอยหนีทันที แต่พยักหน้าให้เล็กน้อย จึงเบนสายตาออกอย่างเป็นธรรมชาติเซียวหลันยวนเอาแต่จับจ้องนางทางนี้ทำไมกัน?ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ในสมองก็เหมือนถูกฟ้าผ่าลงมา นางตบหน้าผากอย่างพ่ายแพ้!นางโง่หรือเปล่า นางตอนนั้นก็ใช้ตัวตนฐานะผู้อาวุโสหนิงไปที่จวนอ๋องเจวี้ยน เคยพบกับเซียวหลันยวนแล้ว นี่คิดว่าเขาจะมองไม่ออกหรือ?พอคิดถึงจุดนี้ นางก็รู้สึกพ่ายแพ้ กระทั่งไหล่ยังลู่ลงมาในดวงตาเซียวหลันยวนมีรอยยิ้มก่อนหน้านี้ที่เห็นนางคิดว่าไม่มีใครจำตัวเองได้ เขาก็อยากจะหัวเราะแล้ว นางเป็นคนฉลาดแบบนี้ กลับลืมเรื่องก่อนหน้านี้ไปได้แต่ว่า ก่อนหน้านี้เขาก็ยังไม่เห็นฟู่จาวหนิงคนที่เขาจับตามองคือสามีภรรยากลางคนคู่นั้น ตอนที่ฟู่จาวหนิงมาพูดกับพวกเขาจึงได้พ
ฟู่จาวหนิงย้ายความสนใจออกจากตัวสามีภรรยาคู่นั้นแต่นางก็กำชับกับสืออีสองสามคำ ให้เขาคอยจับตาดูสองคนนี้ไว้ดีดี อีกเดี๋ยวถ้าพวกเขาออกไปแล้ว ก็ให้สืออีติดตามไปสืออีแม้จะไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร แต่กลับฟังการกำชับจากฟู่จาวหนิง พยักหน้าตอบรับฟู่จาวหนิงมองไปทางผู้อาวุโสจี้เขาเขียนวัตถุดิบยาออกมาหลายตัว และในวัตถุดิบยาชนิดสุดท้ายเขาก็หยุดพู่กันลง สีหน้าดูสับสน"องค์หญิงใหญ่ ตอนนั้นข้าบอกกับท่านแล้ว ว่าวัตถุดิบยาชนิดนี้ ข้าไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจน จำได้แค่เหมือนเคยเห็นในคัมภีร์ยาเล่มไหนสักเล่มเท่านั้น แต่คัมภีร์ยานั่นก็ถูกทำลายไปแล้ว ดังนั้นตอนนี้จึงไม่ยืนยันว่ามันใช่ยาชนิดนั้นหรือไม่"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นสีหน้าสุภาพเยือกเย็นอ่อนโยน พอได้ยินก็พยักหน้าเบาๆ"ใช่ ข้าจำได้ ลำบากผู้อาวุโสจี้เสียแล้ว วัตถุดิบยาชนิดสุดท้ายนี้ท่านก็ปล่อยไว้ก่อนเถิด อีกเดี๋ญวค่อยดูว่ามีคนรู้จักไหม ถ้าหากมี วัตถุดิบยาชนิดนี้ก็มอบให้เขาไปเลย"ฟู่จาวหนิงพอได้ยินคำนี้ สายตาก็ตกไปอยู่บนวัตถุดิบยาชนิดนั้นเอ๋?นางสองวันนี้ไม่ใช่เอาแต่ค้นคว้ากับศึกษาเกี่ยวกับการลบรอยแผลเป็นในคลังข้อมูลอยู่หรือ?ในคลังข้อมูลวัตถุดิบย
สายตาเซียวหลันยวนจับไปบนใบหน้านางลบรอยแผลเป็น?ดังนั้น นี่คือมาหายาเพื่อเขาหรือ?ในใจนาง การช่วยรักษาใบหน้าเขายังคงอยู่ในตำแหน่งสำคัญที่สุดใช่ไหมนะ?วัตถุดิบยาชนิดสุดท้ายนั่น เมื่อครู่นางดูดีอกดีใจ เพราะว่ามันเป็นยาที่ใบหน้าของเขาใช้ได้หรือเปล่า?"จริงหรือ?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นประหลาดใจ "ท่านหมอหนิงมีผู้ป่วยที่บนตัวมีแผลเป็นหรือ?""อืม ใช่แล้ว""เช่นนั้นก็ขออวยพรให้คนป่วยท่านนี้ของท่านหมอหนิงสามารถขจัดได้ด้วยยาแล้วกัน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบาพูดจบ นางก็มองไปทางเซียวหลันยวนด้วยสัญชาตญาณถึงอย่างไรเซียวหลันยวนก็ใส่หน้ากากอยู่ตลอด นางเองก็ไม่รู้ว่าสภาพแท้จริงของเขาตอนนี้เป็นอย่างไรยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ไม่ค่อยจะพูดอะไรกับนางด้วย องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นยังให้ซือถูไป๋มาช่วยจำแนกยา แต่ที่แปลกก็คือนางรู้สึกว่าตนเองไม่ค่อยกล้าให้คุณชายคนนี้ทำอะไรสักเท่าไรทั้งที่ตัวตนของนางเองก็ไม่ธรรมดาแท้ๆ แต่ก็ยังรู้สึกว่าบนตัวเขามีพลังอย่างหนึ่งที่กดหัวของนางไว้นางอยากจะกระชากหน้ากากนั่นของเขาออกมาดูเสียจริงบางที หลังจากเห็นหน้าของเขาแล้วคงจะไม่ทำให้นางรู้สึกอยากรู้อยากเห็นขนาดน
คนไม่น้อยพอเห็นว่าฟู่จาวหนิงเป็นหมอใหญ่ที่มาจากแคว้นเจา แล้วยังดูไม่ค่อยมีชื่อเสียง แต่ได้รับวัตถุดิบยาไปมากขนาดนี้ ในใจก็ไม่สมดุลขึ้นเสียแล้วพวกเขาที่นี่มีไม่น้อยที่ค่อนข้างมีชื่อในเมืองหลวงจักรพรรดิ กระทั่งหมอที่อยู่ในโรงหมอใหญ่ฝูอวิ๋นเองก็ยังได้วัตถุดิบยาไปแค่สองชนิดฟู่จาวหนิงเมื่อครู่เองก็ช้าไปหน่อย หลังจากมาถึงก็ไม่ค่อยได้พูดอะไรกับพวกเขา หลบอยู่แต่ในมุมให้คนมองข้ามตัวตนของนางไปแล้วตอนนี้ถือดีอย่างไรที่จู่ๆ ก็โผล่พรวดพราด แล้วมาเอาวัตถุดิบยาไปตั้งหลายชนิดแบบนี้?โดยเฉพาะชนิดสุดท้ายนั่น ทำไมถึงให้นางไปทั้งหมดล่ะ?ทุกคนเริ่มมีความเห็นกันขึ้นมาทันทีซือถูไป๋กับผู้อาวุโสจี้มองไปทางองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น รอให้นางตัดสินความเป็นธรรมถึงอย่างไรวิธีการแบ่งยา ก็ถูกยอมรับจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไปแล้ว ก่อนหน้าที่พวกเขาจะแบ่งก็ไม่เห็นมีความเห็นอะไรกัน แต่แบ่งเสร็จคือไม่ได้แล้ว?องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมีสีหน้าลำบากใจ มีทั้งความจำใจและมีทั้งความรู้สึกไม่ได้ทำอะไรผิด"แต่นี่ก็แบ่งกันเสร็จไปแล้วนี่นา" นางเอ่ยขึ้นเสียงแผ่ว"องค์หญิงใหญ่ ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่ฟังท่านหรอกนะ หลักๆ คือท่านหมอหนิงคนนี้
"ใช่เลยใช่เลย"พวกหมอใหญ่ที่ไม่ได้รับวัตถุดิบยายังรู้สึกไม่ยินยอม ยังทยอยพูดกันขึ้นมาอีก"ถ้าเป็นเช่นนี้ พวกเจ้าที่พูดมาแบบนี้ก็ต้องการแบ่งวัตถุดิบยาไปอย่างนั้นสินะ แล้วจะเขียนอาการคนป่วยเพื่ออะไรกัน? กฏที่องค์หญิงใหญ่กำหนด พวกเจ้าตอนนี้คิดจะปฏิเสธทั้งกระดานแล้วหรือไร? วัตถุดิบยาตั้งมากมายขนาดนี้ พวกเจ้าเองก็ไม่มีทางเฉลี่ยให้เท่ากันทุกคนได้หรอก!"ผู้อาวุโสจี้เดือดขึ้นมาต่อให้เขาจะไม่รู้ว่าเป็นฟู่จาวหนิง แต่เขาก็ทนเจ้าคนพวกนี้ไม่ไหวเหมือนกันกฏที่กำหนดกันดิบดีแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่เห็นมีความเห็นอะไร ตอนหลังก็อย่ามาจุกจิกแบบนี้!"พวกเราไม่ได้ปฏิเสธองค์หญิงใหญ่แน่นอน องค์หญิงใหญ่ถึงอย่างไรก็มีน้ำใจ...""แค่นั้นก็จบแล้วนี่? ก็แค่ให้ท่านหมอหนิงได้วัตถุดิบยาไปก็เอาไปรักษาผู้คนแค่นี้ก็ไม่มีปัญหาแล้ว! จะเขาช่วยหรือพวกเจ้าช่วยมันต่างกันตรงไหน?"ซือถูไป๋ตอนนี้ก็เอ่ยขึ้นบ้าง "ถึงแม้พวกเจ้าหลังจากนี้อาจจะพบกับคนป่วยที่ต้องการวัตถุดิบยาเหล่านี้ แต่ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ยังไม่มี ท่านหมอหนิงในเมื่อพบแล้ว ดังนั้นวัตถุดิบยาเหล่านี้ถ้าต้องรีบนำไปให้กับคนที่ต้องการก็ไม่ผิดอะไร แล้วจะบอกว่าตอนนี้มีคนที่
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นออกไปแล้วก่อนที่ผู้อาวุโสจี้จะออกไปก็ถลึงตามองฟู่จาวหนิงผาดหนึ่ง ทำสัญญาณมือให้สือซานที่อยู่ประตูใหญ่ชั้นล่างพอเห็นอ๋องเจวี้ยนออกไปด้วยกันกับซือถูไป๋และองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ก็งงงันไปแล้วพระชายาไม่ได้ตามลงมา ท่านอ๋องทำไมจึงแยกตัวมากับองค์หญิงใหญ่ล่ะ?ตอนนี้เองเขาถึงขึ้นไปได้ ถึงอย่างไรองค์หญิงใหญ่ก็ออกไปแล้ว สือซานรีบเดินขึ้นไปชั้นบน เห็นไป๋หู่หิ้ววัตถุดิบยากองหนึ่งอยู่ ส่วนฟู่จาวหนิงกลับพูกคนกลุ่มหนึ่งล้อมหน้าล้อมหลัง พวกเขาก็พูดกันขโมงโฉงเฉง พูดกันแต่เรื่องที่ได้ยินแล้วไม่สบอารมณ์"ท่านหมอหนิงเป็นหมอเทวดาเลื่องชื่อของแคว้นเจาหรือ?""จะมีชื่อเสียงในแคว้นเจาได้อย่างไรกัน? ถ้ามีชื่อเสียงขนาดนั้นจริง ต้าชื่อของพวกเราก็ต้องเคยได้ยินบ้างสิ ตอนนี้ไม่เห็นจะเคยได้ยินชื่อท่านหมอหนิงมาก่อนเลย หรือท่านหมอนิ่งจะไม่ทำตัวเด่นกัน?""ถ้าไม่ทำตัวเด่นจริงๆ วันนี้ทำไมถึงมาเชิดหน้าที่นี่กันล่ะ?""ก็นั่นน่ะสิ ขนาดวัตถุดิบยาที่ผู้อาวุโสจี้ยังยืนยันไม่ได้ ท่านหมอหนิงแค่ปราดเดียวก็บอกชื่อวัตถุดิบยาออกมาได้แล้ว เก่งกาจจริงๆ""ท่านหมอหนิงบอกพวกเราหน่อยสิ ว่าผู้ป่วยคนนั้นของท่านเป็น
เขาอยากจะพูดอะไรดีดีแทนท่านอ๋องเสียหน่อย แต่ก็พูดไม่ออก การแสดงออกหลายวันนี้ของท่านอ๋องแย่มากจริงๆ ถ้าเขาเป็นพระชายา เขาคงโกรธไปแล้วฟู่จาวหนิงโบกไม้โบกมือ "ช่างเขาเถอะ"นางตอนนี้สนใจต่อ "หมอเจี่ย" กับฮูหยินของเขามากเหลือเกิน!แม้ในใจจะสงสัยอยู่หน่อยๆ แต่นางก็รู้สึกว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะฟู่จิ้นเชินไม่ใช่หมอ เขาไม่เคยเรียนวิชาแพทย์ด้วยซ้ำ"เอ๋?"สือซานจู่ๆ ก็ชะงัก เพราะเขาเาห็นสืออีเดินเข้ามาจากด้านหน้า"มีอะไรหรือ?""สืออีกลับมาแล้ว" สือซานโบกมือไปทางสืออีสืออีวิ่งมาอย่างรวดเร็ว"พวกเขาหายไปแล้ว" เขาก้มหน้าลง ตอนที่พูดประโยคนี้ใบหน้าก็ร้อนผ่าว ละอายใจเพราะหมอเจี่ยกับภรรยาทั้งสองคนที่ดูแล้วผอมแห้งแรงน้อย ไม่มีพลังยุทธ์อะไรเลย แต่กลับสลัดเขาหลุดมาได้!พูดออกไปคงได้ทำลายบารมีของจวนอ๋องเจวี้ยนป่นปี้พี่ใหญ่จงเจี้ยนถ้ารู้เข้าก็ไม่รู้ว่าจะเดือดดาลแค่ไหนก่อนหน้านี้ติดตามพระชายาไม่ทันก็เรื่องหนึ่งแล้ว ตอนนี้แค่คู่สามีภรรยากลางคนที่ผอมแห้งแรงน้อยก็ยังตามไม่ทัน"ตามไม่ทันหรือ?" ฟู่จาวหนิงเองก็ประหลาดใจ "พวกเขาพบตัวเจ้าหรือไรกัน?""ข้า ข้ากระทั่งไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าพวกเขาพบตัวข้
ไม่ว่าอย่างไร ตัวคนก็ยังต้องไปหาอยู่เสิ่นเสวียนส่งคนส่วนใหญ่ออกไปคนหาร่องรอยสองสามีภรรยาทันทีเพียงไม่นานก็มีคนมารายงาน บอกว่าถามตามโรงหมอร้านยามาหลายที่ ก็ยังไม่ได้ยินเรื่องของหมอเจี่ยคนนี้เลย"เขาบอกว่ามาจากเมืองชายแดนเล็กๆ เช่นนั้นในเมืองจักรพรรดิก็น่าจะไม่มีคนรู้จักจริงๆ""ในเมื่อมาจากที่อื่น ดูสภาพแล้วยังลำบากอยู่หน่อยๆ เช่นนั้นพวกเขาก็ต้องคอยหาสถานที่พักตลอด ไม่เป็นไร ให้คนไปจับตาดูโรงเตี๊ยมทั้งเมืองไว้ ต้องหาพวกเขาให้พบให้ได้""ถ้าโรงเตี๊ยมยังไม่เจอ ก้ไปหาข่าวดูว่ามีบ้านปล่อยให้เช่าไหม อาจจะไม่ใช่บ้านที่สภาพแวดล้อมดีมาก"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่านางไม่ได้มองผิด ชีวิตที่ลำบากของสามีภรรยาคู่นั้นไม่น่าจะแต่งเติมขึ้นมา ดูจากทั้งสองคนแล้วเหมือนอาหารการกินก็ไม่ได้บำรุงดีเท่าไรนัก โดยเฉพาะหมอเจี่ยยิ่งไปวก่นั้นเสื้อผ้าของหมอเจี่ยยังไม่เข้ากับรูปร่างด้วย อธิบายได้ว่าน่าจะหยิบยืมมาชั่วคราวถ้าเป็นเสื้อผ้าของตนเอง เสื้อผ้านั้นก็มีเนื้อผ้าที่ธรรมดามากๆ ดูเหมือนจะผ่านการซักมานานแล้ว ชีวิตของพวกเขาคงไม่ได้สุขสบายนัก"ได้ ไม่ต้องรีบร้อน จะอย่างไรก็ต้องหาพบแน่" เสิ่นเสวียนปลอบนาง"คุณลุง
"เช่นนั้นก็ใสหัวไป"เซียวหลันยวนพาคนออกจากคุกใหญ่เหล่าผู้คอมมองพวกเขา "หัวหน้า ตอนนี้ทำอย่างไรดี? นายพันเก๋อบอกไว้แล้ว ถ้าเฮ่อเหลียนเฟยมีความน่าสงสัยที่จะเป็นศัตรู ต้องคุมตัวเขาไว้ก่อนนี่นา"ก่อนหน้านี้ใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าก็ดึงคนไว้แล้ว ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนพาเขาเดินวนในคุกไปรอบหนึ่ง จากนั้นกลับเดินกลับไปอย่างองอาจเสียอย่างนั้นพรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อถามขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?เรื่องนี้ จะต้องนำไปให้ฝ่าบาททรงทราบแน่ องค์จักรพรรดิถ้าหากถามหาความรับผิดชอบขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?แต่หัวหน้าคุกก็ไม่กล้าทำอะไรนี่นา"ช่างมัน ผลักไปบนหัวอ๋องเจวี้ยนให้หมดแล้วกัน พรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อซักไซ้ขึ้นมา พวกเราก็บอกไปว่าพวกเราขวางอ๋องเจวี้ยนไม่อยู่"นี่โทษพวกเขาได้ที่ไหน?ฟู่จาวหนิงพอเห็นพวกเขาออกมาแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ"เสี่ยวเฟยไม่ต้องอยู่หรือ?" นางถามเซียวหลันยวน"ไม่ต้องให้อยู่แล้ว ให้พวกเขาไปที่จวนอ๋องเองแล้วกัน" เซียวหลันยวนตอบฟู่จิ้นเชินมองเขา "ขอบคุณมาก"นี่คือความหมายที่จะปกป้องพวกเขาแล้วถ้าหากพวกเขาไม่อยู่ในจวนอ๋อง พรุ่งนี้นายพันเก๋อพาคนไปที่บ้านตระกูลฟู่ พวกเขาคงไม่มีทางต่
โป๋จีเอาเรื่องที่เผ่าเฮ่อเหลียนยึดครองเมืองพูดจนกลายเป็นตัวเลือกที่จำใจของพวกเขาเสียอย่างนั้นฟู่จาวเฟยถามยังถามสถานการณ์ในเมืองตอนนี้อีกหน่อย แล้วยังถามเขาว่าทำไมถึงถูกเก๋อมู่กวงจัง รอจนเขา...ตอบมาทีละข้อ ถามขึ้นมาทันที "แล้วจดหมายที่นำมาให้ข้าล่ะ? ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ส่งจดหมายให้กับข้าหรือ?"โป๋จีมองไปทางเซียวหลันยวน"นี่คืออ๋องเจวี้ยนสินะ? พวกข้าได้ยินว่า อ๋องเจวี้ยนตอนนี้เป็นพี่เขยของเจ้า""ใช่แล้ว แต่เขากับองค์จักรพรรดิมีความสัมพันธ์ไม่ค่อยดี"สายตาโป๋จีหม่นลงเล็กน้อย พวกเขารู้เรื่องนี้"แล้วพ่อแท้ๆ ของเจ้าล่ะ?""เขาฟังพี่สาวข้า""หมอเทวดาฟู่ใช่ไหม?""ใช่ ชื่อเสียงของพี่สาวข้ามากขนาดนี้เลยหรือ? ลือกันไปถึงทางเผ่าแล้วหรือ?" ฟู่จาวเฟยถาม"แน่นอน นางเป็นถึงหมอที่อายุน้อยสุดในสมาคมหมอใหญ่เลยนะ" แล้วยังเป็นหมอหญิงอีก"แล้วจดหมายอยู่ที่ไหนล่ะ?""จะส่งให้เจ้าเลยก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้หรอก แต่ว่าเจ้าต้องทำเรื่องหนึ่งก่อน จดหมายสำหรับพวกเราแล้วสำคัญมาก ไม่ใช่เรื่องที่จะทำร้ายหรอก""เขียนอะไรไว้หรือ?""เจ้าอ่านจดหมายก็จะเข้าใจเอง""ท่านจะให้ข้าช่วยทำอะไรหรือ?" ฟู่จาวเฟยเริ่มจะเกิด
ขอแค่พวกเขาสงสัยในตัวฟู่จาวเฟยก็พอแล้วหัวหน้าคุกกับมือปราบเจียงพวกเขาก็เริ่มสงสัยเช่นนี้แล้วพวกเขามองฟู่จาวเฟย และมองไปยังโป๋จี สีหน้าเองก็กังวลขึ้นมา"คุณชายฟู่ นี่มัน..." มือปราบเจียงเข้าประชิดฟู่จิ้นเชิน กดเสียงต่ำคิดจะเตือนเขาคุณชายฟู่จะฟังไม่ออกได้อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าอยู่ต่อหน้านายพันเก๋อ แล้วเห็นว่าโป๋จีกับคุณชายน้อยฟู่มีความสัมพันธ์อันดีกันล่ะก็ คุณชายน้อยฟู่ก็จะยิ่งน่าสงสัยมากขึ้นไปอีกนายพันเก๋อคงไม่มีทางเชื่อคุณชายน้อยฟู่แน่นอนแล้วถ้าคุณชายน้อยฟู่ถูกกำหนดให้เป็นพวกของราชาเฮ่อเหลียน เช่นนั้นก็ถือว่ามีโทษกบฏ อาจจะลากตระกูลฟู่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยได้กระทั่งว่า อ๋องเจวี้ยนเองก็จะโดนหางเลขไปด้วยแต่ว่า องค์จักรพรรดิก็คิดจะรับมืออ๋องเจวี้ยนชัดเจนขนาดนี้ เช่นนั้นถ้ามีโอกาสจับกุมขึ้นมาจะปล่อยไปได้อย่างไรกัน?มือปราบเจียงรู้ว่าลูกสาวตนเองชอบพระชายาอ๋องเจวี้ยนมาก ดังนั้นเขาจึงกังวลแทนพระชายาอ๋องเจวี้ยนขึ้นมา"่ท่านลุงโป๋จี ท่านกำลังพูดอะไรน่ะ? ท่านพ่อกับท่านแม่ข้าตอนนั้นไม่ได้จงใจทิ้งข้า แล้วก็..."ฟู่จาวเฟยชะงักไป เปลี่ยนคำใหม่ "ราชาเฮ่อเหลียนยังสังหารแม่เลี้ยงข
"ท่านลุงโป๋จี ได้ยินว่าท่านมาส่งจดหมายให้ข้าหรือ?"ฟู่จาวเฟยถามออกมาทันทีโป๋จีก่อนหน้านี้ก็ดีกับเขาพอควร แต่ตอนนี้พอมาคิด ก็น่าจะแค่คิดว่าเขาเป็นลูกชายของราชาเฮ่อเหลียน เมื่อครู่ตอนที่เขาเห็นสายตาของตนเอง ก็แตกต่างกับแต่ก่อนไปแล้วฟู่จาวเฟยตอนนี้ยังพิจารณาออกได้ว่า เมื่อครู่ตอนที่โป๋จีมองเห็นสายตาของเขา นั่นเป็นความตื่นเต้นดีใจที่ได้เห็นเป้าหมายยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ที่เขาถามออกมาโป๋จีก็ยังพิจารณามองเขาอยู่"ใช่แล้ว องค์ชาย" โป๋จีใช้ภาษาเมืองหลวงที่ฟังแล้วแปลกๆ เรียกเขาว่าองค์ชาย จากนั้นก็มองไปทางอ๋องเจวี้ยนด้วยสัญชาตญาณ เปลี่ยนเป็นภาษาเฮ่อเหลียนว่า "ราชาได้รับจดหมายของเจ้า บอกว่าเจ้าหาพ่อแม่ที่แท้จริงพบแล้ว มีตัวตนฐานะใหม่ ดูพึงพอใจมาก"โป๋จีไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนฟังภาษาเฮ่อเหลียนออกฟู่จิ้นเชินอันที่จริงก็ไม่รู้พอเขาฟังประโยคนี้ออกจึงมองไปทางเซียวหลันยวน ตอนนี้จะแปลให้เขาคงไม่สะดวกนัก ถ้าเขาพูดออกมาตอนนี้ เกรงว่าโป๋จีคงไม่พูดความจริงแล้วรอให้เขาพูดสิ่งที่ควรพูดให้จบก่อนแล้วกันคำนี้ของโป๋จี น่าจะพูดให้เขาฟังความหมายของคำพูดนี้ แสดงออกว่าราชาเฮ่อเหลียนรู้แล้วว่าฟู่จาวเฟยเ
ถ้าประตูวังปิดแล้ว คืนนี้น่าจะยังไม่ได้พบองค์จักรพรรดิเช่นนั้นพรุ่งนี้ช่วงประชุมเช้าก็น่าจะได้พบ ห่างจากตอนนี้ไม่ถึงสามชั่วยามเซียวหลันยวนไม่พูดอะไรอีกหลังจากเขาได้ข่าวไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องส่งคนไปคุ้มครองนอกวังแน่ เก๋อมู่กวงคืนนี้เข้าวังไม่ได้ ไม่ได้พบองค์จักรพรรดิ ดังนั้นจะต้องรอจนถึงประชุมเช้าแน่นอนช่วงหลายชั่วยามนี้เพียงพอแล้วพวกเขาได้ยินเสียงของฟู่จิ้นเชินแล้วฟู่จิ้นเชินกำลังพูดภาษาเฮ่อเหลียนอยู่"พี่เขย ท่านพ่อกำลังพูดว่า..." ฟู่จาวเฟยคิดจะแปลให้เซียวหลันยวนก่อนอย่างฉลาดเฉลียวรู้ความ แต่คิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจะโบกไม้โบกมือ"ข้าฟังออกน่ะ""อ๋า?"ฟู่จาวเฟยตกตะลึง"ลืมบอกไป ว่าข้าเป็นภาษาเฮ่อเหลียน" เซียวหลันยวนน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กจ้อยที่ธรรมดามากๆ เรื่องหนึ่งหัวหน้าคุกเองก็เหลือบมองเขาอย่างตกตะลึง"ถ้าข้าน้อยจำไม่ผิดล่ะก็ ท่านอ๋องยังพูดภาษาหนานฉือได้ด้วย?""ใช่"หัวหน้าคุกกับฟู่จาวเฟยสบตากันผาดหนึ่ง ทั้งสองคนล้วนเห็นความตกตลึงในดวงตาของอีกฝ่ายอ๋องเจวี้ยนทำไมถึงพูดได้หลายภาษานัก?เขาไม่ใช่ว่าพักฟื้นอยู่ในยอดเขาโยวชิงตลอดหรือไรกัน? คนทั้ง
เซียวหลันยวนรู้สึกนับถือฟู่จิ้นเชินจริงๆเขาเองก็ไม่ได้มีตัวตนฐานะพิเศษอะไร แต่กลับใช้ความสามารถตนเองเข้าไปในคุกใหญ่ได้ เข้าคุกใหญ่ไปยังพอทำเนา แต่นี่ยังได้พบกับโป๋จีด้วยนี่ร้ายกาจมากจริงๆ"พวกเจ้าให้เขาเข้าไปแบบนี้เลยหรือ?" เซียวหลันยวนรู้สึกแปลกใจจริงๆ"เรื่องนี้ เพราะโป๋จีพูดภาษาเราได้แค่นิดหน่อย คุณชายฟู่เขาพูดภาษาเฮ่อเหลียนได้"หัวหน้าคุกกังวลนิดหน่อย เขาเองก็ไม่รู้ว่าอ๋องเจวี้ยนยกโทษให้กับสามีภรรยาตระกูลฟู่แล้วหรือยังคนไม่น้อยในเมืองหลวงก็ยังมองความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาไม่ออกถ้าหากอ๋องเจวี้ยนโกรธ แล้วหันมาระบายบนตัวเขาจะทำอย่างไรกัน"ท่านอ๋อง ท่านเองก็จะเข้าไปพบโป๋จีคนนั้นหรือ?" เขาถามขึ้นอย่างระมัดระวังอ๋องเจวี้ยนออกมาได้อีกครั้ง แสดงว่าไม่ได้ติดโรคระบาดนั้นมาพวกผู้คุมในคุกใหญ่หลายวันนี้ยังไม่ได้ดื่มยาน้ำของพระชายาอ๋องเจวี้ยน ทุกคนกินอาหารกันวันละสามมื้อ แต่ก็ยังไม่มีใครติดโรคชนิดนั้นเลยดังนั้นพวกเขาเชื่อมั่นในยาขอพระชายาอ๋องเจวี้ยน แน่นอนว่าเชื่อมั่นว่าอ๋องเจวี้ยนไม่ได้เป็นโรคระบาดด้วย"ข้าเข้าไปไม่ได้หรือ?""ไม่ใช่เช่นนั้น ไม่ใช่แน่นอน ท่านอ๋องเข้าไปได้" หัว
เซียวหลันยวนมองเสิ่นเชี่ยวผาดหนึ่ง"ก็แค่ไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมาเท่านั้น"มีแผนอะไรเสียที่ไหน?เรื่องเช่นนี้ ต่อให้พวกเขาลงมือตรวจสอบชัดเจน ก็ไม่ใช่อะไรที่จำทำเสร็จในชั่วครู่องค์จักรพรรดิจะต้องหยิบยืมเรื่องนี้แน่นอนใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าทางนี้คงทานได้อีกไม่นานแล้ว อีกเดี๋ยวก็จะมีคนมาพาฟู่จาวเฟยไปคุกใหญ่ฟู่จาวหนิงกลับเข้าใจความหมายของเซียวหลันยวนขึ้นมา"พวกเราตอนนี้ส่งไปเอง ยังพอจะเลือกห้องขังได้อยู่""ข้าฟังพวกเจ้านั่นล่ะ" เสิ่นเชี่ยวเอ่ยขึ้นทันทีนางต้องเรียนรู้ที่จะเชื่อลูกสาว ไม่ต้องถามให้ชัดเจนนัก ลูกสาวจะต้องไม่ทำร้ายน้องชายแน่ๆ แค่ฟังนางไว้ก็พอเรื่องในเมืองหลวง พวกเขาจะต้องเข้าใจชัดเจนกว่านางแน่นอน"เรื่องนั้นไม่ควรชักช้าไปกันตอนนี้เลย" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นหมุนตัวออกไปก่อนฟู่จาวหนิงกวักมือให้เสี่ยวเฟย "ไปกัน"ฟู่จาวเฟยเองก็เดิมตามนางไปอย่างเชื่อมั่นทันทีเสิ่นเชี่ยวเดินมาถึงด้านหลัง คารวะให้กับใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้า "ขอบคุณใต้เท้าที่ดูแล""เกรงใจเกินไปแล้ว..."ใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าตอบกลับด้วยสัญชาตญาณ จากนั้นก็รู้สึกว่าตนเองในตอนนี้ก็เหมือนจะเกรงใจมากเกินไปเขายังกลายเป
ท่านพี่ในที่สุดก็กลับมาแล้ว ใจของเขาสงบลงมาได้ไม่น้อยเลย"จาวหนิง นี่มาจากในภูเขาหรือ? เหนื่อยแย่เลยสิ?" เสิ่นเชี่ยวยกถ้วยชาบนโต๊ะขึ้นทันที "เจ้าดื่มชาร้อนนี่ก่อนเถอะ เพิ่งต้มใหม่เลย ยังไม่ได้ดื่ม"นางเห็นฟู่จาวหนิงมีรอยคล้ำใต้ตาจางๆ ในภูเขาคงต้องเหนื่อยมากแน่ๆ และคงไม่ได้พักผ่อนดีนักแต่พอยกถ้วยชาขึ้นมา เสิ่นเชี่ยวก็ยังรู้สึกกระวนกระวายอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงจะรับน้ำใจของนางไหมฟู่จาวหนิงรับมา ดื่มไปอึกหนึ่ง ผ่อนคลายลงมาได้"เรื่องจดหมายนี่อย่างไรกัน? ก่อนหน้านี้มีอะไรผิดปกติบ้างไหม หรือมีคนมาหาเจ้าบ้างหรือเปล่า?"เสิ่นเชี่ยวถอนใจโล่ง ในใจก็ลิงโลดขึ้นมาแม้ว่าฟู่จาวหนิงตอนนี้อยู่กับพวกเขาจะไม่ค่อยคล้ายกับพ่อแม่ลูกเท่าไรนัก แต่นางเชื่อว่าในด้านความรู้สึกก็ยังพอเห็นได้บ้าง เดิมทีก็ยังมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกันอยู่ฟู่จาวเฟยส่ายหัว รีบร้อนรับประกันอย่างขันแข็งขึ้นมา "ท่านพี่ ไม่มีอะไรผิดปกติเลย ไม่มีคนมาหาข้าด้วย แล้วก็ไม่ได้รับจดหมายอะไรอีก ข้าเองก็ไม่ได้เขียนจดหมายไปด้านนอก""ช่วยนี้มีใครมาที่บ้านไหม?""ไม่มี มีแต่ท่านพ่อที่ออกไปบ่อยๆ ข้าอยู่ในแต่บ้านฝึกยุทธ์" ฟู่จาวเฟ
"อ๋องเจวี้ยนมาถึงแล้ว"ข้าราชการชั้นผู้น้อยคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามา รู้ว่าใต้เท้าร้อนรนมาก จึงรีบ เข้ามารายงาน"เร็ว"เขาทางนี้แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว คุกใหญ่ทางนั้นถ้าถามออกมาได้ว่าจดหมายอยู่ที่ไหน ก็คงจะให้เขาเอาฟู่จาวเฟยส่งเข้าคุกใหญ่แน่แต่อ๋องเจวี้ยนก่อนหน้านี้กำชับว่า ก่อนหน้าที่เขาจะกลับมา ฟู่จาวเฟยต้องอยู่ที่นี่ก่อน ห้ามส่งไปคุกใหญ่เขาเองก็ทานไม่ไหวแล้ว เดิมทีฟู่จาวเฟยไม่ได้จะส่งมาที่เขาทางนี้ แต่เป็นจดหมายด่วนของอ๋องเจวี้ยนที่ให้เข้าเข้ามารับช่วงไว้ก่อนแต่เขาเองก็ร้อนรนด้วย เขาเองก็กลัวนี่ ถึงตอนนั้นถ้าค้นเจอจดหมายอะไรเข้า แล้วเกี่ยวข้องกับฟู่จาวเฟยจริง เขาก็จัดการลำบากแล้วถึงอย่างไรฟู่จาวเฟยก็อยู่กับเขาทางนี้ ไม่ได้ลงตรวน ไม่ได้ตี ไม่ได้ขังอีกต่างหาก ยังคงนั่งรออยู่ที่โถงข้างๆแล้วยังมีฮูหยินฟู่ด้วย นั่งอยู่กับลูกชายด้วยกันเขาทำเช่นนี้ ถ้าหากถูกองค์จักรพรรดิรู้เข้า องค์จักรพรรดิคงไม่ละเว้นเขาแน่พอเขาออกไป เสิ่นเชี่ยวกับฟู่จาวเฟยก็ลุกขึ้นยืนทันที ขณะเดียวกันก็มองมาทางเขา"ใต้เท้า?""คุณชายฟู่ไปที่ไหนแล้วกันแน่?"ใต้เท้าหยินจิงเจ้ามองพวกเขา และคิดถึงเรื่องที่เมื่อคร