ฟู่จาวหนิงยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกลายมือนี้คุ้นเคยมากพอคิดๆ ในสมองนางก็แล่นวาบขึ้นมา ตกตะลึงไปนี่คล้ายกับอักษรของฟู่จิ้นเชินเลย!เพียงแต่ อักษรตอนนี้ดูจะคมกว่าฟู่จิ้นเชินหน่อยๆ แต่ว่าเส้นโค้งเส้นขีดตรงขอพู่กัน แบบเดียวกับฟู่จิ้นเชินไม่ผิดเพี้ยน!นางใจเต้นผาง มองไปที่ใบหน้าชายหนุ่มถ้าหากเขาโกนหนวดโกนเครา...แล้วหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ นั่น จะใช่ฟู่หลินซื่อไหม?นางสวมผ้าแพรปิดหน้า ดังนั้นฟู่จาวหนิงจึงเห็นหน้านางไม่ชัด แต่สำหรับดวงตา ยิ่งมองก็ยิ่งมีร่องรอยนั่นคล้ายกับเสิ่นเสวียนใจฟู่จาวหนิงเต้นเร็วขึ้น เต้นตึกตัก จะอย่างไรก็สะกดไม่อยู่นางคงไม่ได้มาเจอพ่อกับแม่ที่นี่หรอกกระมัง?"ท่านลุง ท่านทำไมจึงเอาแต่มองพวกเราล่ะ" หญิงสาวคนนั้นเอ่ยขึ้น น้ำเสียงอ่อนโยนน่าฟังแค่ได้ยินเสียงก็รู้สึกแล้วว่าจะต้องเป็นสาวงามคนหนึ่งฟู่จาวหนิงสะดุ้งโหยง ได้สติกลับมา"ข้าเห็นหมอท่านนี้เขียนหนังสือได้ดีมาก จึงอดมองจนเคลิ้มไปไม่ได้" นางกดเสียงต่ำตอบมาหญิงสาวขมวดคิ้ว น้ำเสียงกลับดูมีความไร้เดียงสาอยู่ "แต่ท่านมองข้าอยู่ตลอดเลยนะ ไม่ได้มองตัวหนังสือของสามีข้าเลย"เรื่องนี้...ทำไมฟังแล้วจึงดูประหลาดห
ฟู่จาวหนิงในใจยังสงสัยอยู่ แต่ก็มองอะไรไม่ออก"หมอใหญ่เจี่ยเป็นคนต้าชื่อหรือ?""คนจากเมืองเล็กๆ ชายขอบน่ะ พาภรรยามาร่วมเทศกาลอวยพรสารทฤดู" หมอใหญ่เจี่ยตอบกลับมาเขาพอถามก็ตอบ มองจุดน่าสงสัยไม่ออกเลยฟู่จาวหนิงยังคิดจะถามต่อ จู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีสายตาหนึ่งจับจ้องเข้ามา สัมผัสได้อย่างแรงกล้านางหันหน้ามองไป ก็สบเข้ากับสายตาเซียวหลันยวนพอดีนางชะงัก ไม่ได้ถอยหนีทันที แต่พยักหน้าให้เล็กน้อย จึงเบนสายตาออกอย่างเป็นธรรมชาติเซียวหลันยวนเอาแต่จับจ้องนางทางนี้ทำไมกัน?ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ในสมองก็เหมือนถูกฟ้าผ่าลงมา นางตบหน้าผากอย่างพ่ายแพ้!นางโง่หรือเปล่า นางตอนนั้นก็ใช้ตัวตนฐานะผู้อาวุโสหนิงไปที่จวนอ๋องเจวี้ยน เคยพบกับเซียวหลันยวนแล้ว นี่คิดว่าเขาจะมองไม่ออกหรือ?พอคิดถึงจุดนี้ นางก็รู้สึกพ่ายแพ้ กระทั่งไหล่ยังลู่ลงมาในดวงตาเซียวหลันยวนมีรอยยิ้มก่อนหน้านี้ที่เห็นนางคิดว่าไม่มีใครจำตัวเองได้ เขาก็อยากจะหัวเราะแล้ว นางเป็นคนฉลาดแบบนี้ กลับลืมเรื่องก่อนหน้านี้ไปได้แต่ว่า ก่อนหน้านี้เขาก็ยังไม่เห็นฟู่จาวหนิงคนที่เขาจับตามองคือสามีภรรยากลางคนคู่นั้น ตอนที่ฟู่จาวหนิงมาพูดกับพวกเขาจึงได้พ
ฟู่จาวหนิงย้ายความสนใจออกจากตัวสามีภรรยาคู่นั้นแต่นางก็กำชับกับสืออีสองสามคำ ให้เขาคอยจับตาดูสองคนนี้ไว้ดีดี อีกเดี๋ยวถ้าพวกเขาออกไปแล้ว ก็ให้สืออีติดตามไปสืออีแม้จะไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร แต่กลับฟังการกำชับจากฟู่จาวหนิง พยักหน้าตอบรับฟู่จาวหนิงมองไปทางผู้อาวุโสจี้เขาเขียนวัตถุดิบยาออกมาหลายตัว และในวัตถุดิบยาชนิดสุดท้ายเขาก็หยุดพู่กันลง สีหน้าดูสับสน"องค์หญิงใหญ่ ตอนนั้นข้าบอกกับท่านแล้ว ว่าวัตถุดิบยาชนิดนี้ ข้าไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจน จำได้แค่เหมือนเคยเห็นในคัมภีร์ยาเล่มไหนสักเล่มเท่านั้น แต่คัมภีร์ยานั่นก็ถูกทำลายไปแล้ว ดังนั้นตอนนี้จึงไม่ยืนยันว่ามันใช่ยาชนิดนั้นหรือไม่"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นสีหน้าสุภาพเยือกเย็นอ่อนโยน พอได้ยินก็พยักหน้าเบาๆ"ใช่ ข้าจำได้ ลำบากผู้อาวุโสจี้เสียแล้ว วัตถุดิบยาชนิดสุดท้ายนี้ท่านก็ปล่อยไว้ก่อนเถิด อีกเดี๋ญวค่อยดูว่ามีคนรู้จักไหม ถ้าหากมี วัตถุดิบยาชนิดนี้ก็มอบให้เขาไปเลย"ฟู่จาวหนิงพอได้ยินคำนี้ สายตาก็ตกไปอยู่บนวัตถุดิบยาชนิดนั้นเอ๋?นางสองวันนี้ไม่ใช่เอาแต่ค้นคว้ากับศึกษาเกี่ยวกับการลบรอยแผลเป็นในคลังข้อมูลอยู่หรือ?ในคลังข้อมูลวัตถุดิบย
สายตาเซียวหลันยวนจับไปบนใบหน้านางลบรอยแผลเป็น?ดังนั้น นี่คือมาหายาเพื่อเขาหรือ?ในใจนาง การช่วยรักษาใบหน้าเขายังคงอยู่ในตำแหน่งสำคัญที่สุดใช่ไหมนะ?วัตถุดิบยาชนิดสุดท้ายนั่น เมื่อครู่นางดูดีอกดีใจ เพราะว่ามันเป็นยาที่ใบหน้าของเขาใช้ได้หรือเปล่า?"จริงหรือ?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นประหลาดใจ "ท่านหมอหนิงมีผู้ป่วยที่บนตัวมีแผลเป็นหรือ?""อืม ใช่แล้ว""เช่นนั้นก็ขออวยพรให้คนป่วยท่านนี้ของท่านหมอหนิงสามารถขจัดได้ด้วยยาแล้วกัน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบาพูดจบ นางก็มองไปทางเซียวหลันยวนด้วยสัญชาตญาณถึงอย่างไรเซียวหลันยวนก็ใส่หน้ากากอยู่ตลอด นางเองก็ไม่รู้ว่าสภาพแท้จริงของเขาตอนนี้เป็นอย่างไรยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ไม่ค่อยจะพูดอะไรกับนางด้วย องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นยังให้ซือถูไป๋มาช่วยจำแนกยา แต่ที่แปลกก็คือนางรู้สึกว่าตนเองไม่ค่อยกล้าให้คุณชายคนนี้ทำอะไรสักเท่าไรทั้งที่ตัวตนของนางเองก็ไม่ธรรมดาแท้ๆ แต่ก็ยังรู้สึกว่าบนตัวเขามีพลังอย่างหนึ่งที่กดหัวของนางไว้นางอยากจะกระชากหน้ากากนั่นของเขาออกมาดูเสียจริงบางที หลังจากเห็นหน้าของเขาแล้วคงจะไม่ทำให้นางรู้สึกอยากรู้อยากเห็นขนาดน
คนไม่น้อยพอเห็นว่าฟู่จาวหนิงเป็นหมอใหญ่ที่มาจากแคว้นเจา แล้วยังดูไม่ค่อยมีชื่อเสียง แต่ได้รับวัตถุดิบยาไปมากขนาดนี้ ในใจก็ไม่สมดุลขึ้นเสียแล้วพวกเขาที่นี่มีไม่น้อยที่ค่อนข้างมีชื่อในเมืองหลวงจักรพรรดิ กระทั่งหมอที่อยู่ในโรงหมอใหญ่ฝูอวิ๋นเองก็ยังได้วัตถุดิบยาไปแค่สองชนิดฟู่จาวหนิงเมื่อครู่เองก็ช้าไปหน่อย หลังจากมาถึงก็ไม่ค่อยได้พูดอะไรกับพวกเขา หลบอยู่แต่ในมุมให้คนมองข้ามตัวตนของนางไปแล้วตอนนี้ถือดีอย่างไรที่จู่ๆ ก็โผล่พรวดพราด แล้วมาเอาวัตถุดิบยาไปตั้งหลายชนิดแบบนี้?โดยเฉพาะชนิดสุดท้ายนั่น ทำไมถึงให้นางไปทั้งหมดล่ะ?ทุกคนเริ่มมีความเห็นกันขึ้นมาทันทีซือถูไป๋กับผู้อาวุโสจี้มองไปทางองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น รอให้นางตัดสินความเป็นธรรมถึงอย่างไรวิธีการแบ่งยา ก็ถูกยอมรับจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไปแล้ว ก่อนหน้าที่พวกเขาจะแบ่งก็ไม่เห็นมีความเห็นอะไรกัน แต่แบ่งเสร็จคือไม่ได้แล้ว?องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมีสีหน้าลำบากใจ มีทั้งความจำใจและมีทั้งความรู้สึกไม่ได้ทำอะไรผิด"แต่นี่ก็แบ่งกันเสร็จไปแล้วนี่นา" นางเอ่ยขึ้นเสียงแผ่ว"องค์หญิงใหญ่ ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่ฟังท่านหรอกนะ หลักๆ คือท่านหมอหนิงคนนี้
"ใช่เลยใช่เลย"พวกหมอใหญ่ที่ไม่ได้รับวัตถุดิบยายังรู้สึกไม่ยินยอม ยังทยอยพูดกันขึ้นมาอีก"ถ้าเป็นเช่นนี้ พวกเจ้าที่พูดมาแบบนี้ก็ต้องการแบ่งวัตถุดิบยาไปอย่างนั้นสินะ แล้วจะเขียนอาการคนป่วยเพื่ออะไรกัน? กฏที่องค์หญิงใหญ่กำหนด พวกเจ้าตอนนี้คิดจะปฏิเสธทั้งกระดานแล้วหรือไร? วัตถุดิบยาตั้งมากมายขนาดนี้ พวกเจ้าเองก็ไม่มีทางเฉลี่ยให้เท่ากันทุกคนได้หรอก!"ผู้อาวุโสจี้เดือดขึ้นมาต่อให้เขาจะไม่รู้ว่าเป็นฟู่จาวหนิง แต่เขาก็ทนเจ้าคนพวกนี้ไม่ไหวเหมือนกันกฏที่กำหนดกันดิบดีแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่เห็นมีความเห็นอะไร ตอนหลังก็อย่ามาจุกจิกแบบนี้!"พวกเราไม่ได้ปฏิเสธองค์หญิงใหญ่แน่นอน องค์หญิงใหญ่ถึงอย่างไรก็มีน้ำใจ...""แค่นั้นก็จบแล้วนี่? ก็แค่ให้ท่านหมอหนิงได้วัตถุดิบยาไปก็เอาไปรักษาผู้คนแค่นี้ก็ไม่มีปัญหาแล้ว! จะเขาช่วยหรือพวกเจ้าช่วยมันต่างกันตรงไหน?"ซือถูไป๋ตอนนี้ก็เอ่ยขึ้นบ้าง "ถึงแม้พวกเจ้าหลังจากนี้อาจจะพบกับคนป่วยที่ต้องการวัตถุดิบยาเหล่านี้ แต่ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ยังไม่มี ท่านหมอหนิงในเมื่อพบแล้ว ดังนั้นวัตถุดิบยาเหล่านี้ถ้าต้องรีบนำไปให้กับคนที่ต้องการก็ไม่ผิดอะไร แล้วจะบอกว่าตอนนี้มีคนที่
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นออกไปแล้วก่อนที่ผู้อาวุโสจี้จะออกไปก็ถลึงตามองฟู่จาวหนิงผาดหนึ่ง ทำสัญญาณมือให้สือซานที่อยู่ประตูใหญ่ชั้นล่างพอเห็นอ๋องเจวี้ยนออกไปด้วยกันกับซือถูไป๋และองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ก็งงงันไปแล้วพระชายาไม่ได้ตามลงมา ท่านอ๋องทำไมจึงแยกตัวมากับองค์หญิงใหญ่ล่ะ?ตอนนี้เองเขาถึงขึ้นไปได้ ถึงอย่างไรองค์หญิงใหญ่ก็ออกไปแล้ว สือซานรีบเดินขึ้นไปชั้นบน เห็นไป๋หู่หิ้ววัตถุดิบยากองหนึ่งอยู่ ส่วนฟู่จาวหนิงกลับพูกคนกลุ่มหนึ่งล้อมหน้าล้อมหลัง พวกเขาก็พูดกันขโมงโฉงเฉง พูดกันแต่เรื่องที่ได้ยินแล้วไม่สบอารมณ์"ท่านหมอหนิงเป็นหมอเทวดาเลื่องชื่อของแคว้นเจาหรือ?""จะมีชื่อเสียงในแคว้นเจาได้อย่างไรกัน? ถ้ามีชื่อเสียงขนาดนั้นจริง ต้าชื่อของพวกเราก็ต้องเคยได้ยินบ้างสิ ตอนนี้ไม่เห็นจะเคยได้ยินชื่อท่านหมอหนิงมาก่อนเลย หรือท่านหมอนิ่งจะไม่ทำตัวเด่นกัน?""ถ้าไม่ทำตัวเด่นจริงๆ วันนี้ทำไมถึงมาเชิดหน้าที่นี่กันล่ะ?""ก็นั่นน่ะสิ ขนาดวัตถุดิบยาที่ผู้อาวุโสจี้ยังยืนยันไม่ได้ ท่านหมอหนิงแค่ปราดเดียวก็บอกชื่อวัตถุดิบยาออกมาได้แล้ว เก่งกาจจริงๆ""ท่านหมอหนิงบอกพวกเราหน่อยสิ ว่าผู้ป่วยคนนั้นของท่านเป็น
เขาอยากจะพูดอะไรดีดีแทนท่านอ๋องเสียหน่อย แต่ก็พูดไม่ออก การแสดงออกหลายวันนี้ของท่านอ๋องแย่มากจริงๆ ถ้าเขาเป็นพระชายา เขาคงโกรธไปแล้วฟู่จาวหนิงโบกไม้โบกมือ "ช่างเขาเถอะ"นางตอนนี้สนใจต่อ "หมอเจี่ย" กับฮูหยินของเขามากเหลือเกิน!แม้ในใจจะสงสัยอยู่หน่อยๆ แต่นางก็รู้สึกว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะฟู่จิ้นเชินไม่ใช่หมอ เขาไม่เคยเรียนวิชาแพทย์ด้วยซ้ำ"เอ๋?"สือซานจู่ๆ ก็ชะงัก เพราะเขาเาห็นสืออีเดินเข้ามาจากด้านหน้า"มีอะไรหรือ?""สืออีกลับมาแล้ว" สือซานโบกมือไปทางสืออีสืออีวิ่งมาอย่างรวดเร็ว"พวกเขาหายไปแล้ว" เขาก้มหน้าลง ตอนที่พูดประโยคนี้ใบหน้าก็ร้อนผ่าว ละอายใจเพราะหมอเจี่ยกับภรรยาทั้งสองคนที่ดูแล้วผอมแห้งแรงน้อย ไม่มีพลังยุทธ์อะไรเลย แต่กลับสลัดเขาหลุดมาได้!พูดออกไปคงได้ทำลายบารมีของจวนอ๋องเจวี้ยนป่นปี้พี่ใหญ่จงเจี้ยนถ้ารู้เข้าก็ไม่รู้ว่าจะเดือดดาลแค่ไหนก่อนหน้านี้ติดตามพระชายาไม่ทันก็เรื่องหนึ่งแล้ว ตอนนี้แค่คู่สามีภรรยากลางคนที่ผอมแห้งแรงน้อยก็ยังตามไม่ทัน"ตามไม่ทันหรือ?" ฟู่จาวหนิงเองก็ประหลาดใจ "พวกเขาพบตัวเจ้าหรือไรกัน?""ข้า ข้ากระทั่งไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าพวกเขาพบตัวข้