ไม่ว่าอย่างไร ตัวคนก็ยังต้องไปหาอยู่เสิ่นเสวียนส่งคนส่วนใหญ่ออกไปคนหาร่องรอยสองสามีภรรยาทันทีเพียงไม่นานก็มีคนมารายงาน บอกว่าถามตามโรงหมอร้านยามาหลายที่ ก็ยังไม่ได้ยินเรื่องของหมอเจี่ยคนนี้เลย"เขาบอกว่ามาจากเมืองชายแดนเล็กๆ เช่นนั้นในเมืองจักรพรรดิก็น่าจะไม่มีคนรู้จักจริงๆ""ในเมื่อมาจากที่อื่น ดูสภาพแล้วยังลำบากอยู่หน่อยๆ เช่นนั้นพวกเขาก็ต้องคอยหาสถานที่พักตลอด ไม่เป็นไร ให้คนไปจับตาดูโรงเตี๊ยมทั้งเมืองไว้ ต้องหาพวกเขาให้พบให้ได้""ถ้าโรงเตี๊ยมยังไม่เจอ ก้ไปหาข่าวดูว่ามีบ้านปล่อยให้เช่าไหม อาจจะไม่ใช่บ้านที่สภาพแวดล้อมดีมาก"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่านางไม่ได้มองผิด ชีวิตที่ลำบากของสามีภรรยาคู่นั้นไม่น่าจะแต่งเติมขึ้นมา ดูจากทั้งสองคนแล้วเหมือนอาหารการกินก็ไม่ได้บำรุงดีเท่าไรนัก โดยเฉพาะหมอเจี่ยยิ่งไปวก่นั้นเสื้อผ้าของหมอเจี่ยยังไม่เข้ากับรูปร่างด้วย อธิบายได้ว่าน่าจะหยิบยืมมาชั่วคราวถ้าเป็นเสื้อผ้าของตนเอง เสื้อผ้านั้นก็มีเนื้อผ้าที่ธรรมดามากๆ ดูเหมือนจะผ่านการซักมานานแล้ว ชีวิตของพวกเขาคงไม่ได้สุขสบายนัก"ได้ ไม่ต้องรีบร้อน จะอย่างไรก็ต้องหาพบแน่" เสิ่นเสวียนปลอบนาง"คุณลุง
"ไปหาข่าวมาแล้ว จักรพรรดิอันที่จริงไม่อยากให้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นแต่งออกไป องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นวันนี้อยู่ด้วยกันกับซือถูไป๋ คนในเมืองหลวงกำลังคาดเดาว่านางน่าจะเลือกซือถูไป๋""อยู่ด้วยกันกับซือถูไป๋? แล้วเซียวหลันยวนไปไหนล่ะ?"ฟู่จาวหนิงรู้สึกเกินคาดเขาตอนกลางวันไม่ได้ตามพวกเขาไปที่โรงสุราหรือ?"ไม่รู้สิ ไม่มีคนเห็นเขาเลย"เสิ่นเสวียนถอนหายใจ "จาวหนิง อ๋องเจวี้ยนปกติทำตัวลึกลับอย่างนี้กับเจ้าหรือ?"มาถึงต้าชื่อ แต่ก็ไม่ค่อยจะคุยกับฟู่จาวหนิงเลย นี่มันอะไรกัน?"ข้าเองก็ไม่ค่อยอยากจะรู้ว่าเขากำลังทำอะไร""เช่นนั้นก็ไม่พูดถึงเขาแล้ว แล้วก็ องค์ชายสองก็เอาแต่ส่งคนมาตามหาเจ้า""องค์ชายสอง?""องค์ชายสองในกลุ่มราชวงศ์ต้าชื่อ ถือว่าเป็นคนที่มีสายตาดีอยู่ ทำการทำงานก็หนักแน่น จิตใจก็ไม่ได้โหดเหี้ยม"ฟู่จาวหนิงมองเขา เสิ่นเสวียนพูดแบบนี้มาหมายความว่าอย่างไร?หรือคิดจะยืนอยู่ฝั่งองค์ชายสอง?"ผิวเผินแล้วความสัมพันธ์ของเขากับองค์รัชทายาทดูไม่เลว แต่อันที่จริง องค์ชายสองก็คอยหาโอกาสเพิ่มพลังให้แก่ตนเองอยู่ไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นองค์ชายสองก็เคยแสดงความปรารถนาดีกับพวกเราเหมือนกัน""แล้วองค์
"คุณหนู ทุกคนก็ชอบท่านกันทั้งนั้น!"เสี่ยวชิ่นเสริมขึ้นมาคำหนึ่งข้างๆคุณหนูสวยขนาดนี้ วิชาแพทย์เองก็ยอดเยี่ยม นิสัยเองก็ดี จะมีคนไม่ชอบได้อย่างไรกัน?ถ้านางเป็นผู้ชาย นางจะต้องชอบคุณหนูแน่นอน! ใครจะเทียบได้"พรวด"ฟู่จาวหนิงอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้โฟโตชอปกันเกินจริงเหลือเกินคนบนโลกมีนับร้อยนับพันแบบ งานอดิเรกและสุทรียความงามของทุกคนก็แตกต่างกัน มีคนที่ชอบนาง แน่นอนว่าต้องมีคนที่รังเกียจนาง เรื่องนี้นางชัดเจนมาโดยตลอด ดังนั้นจึงไม่รู้สึกว่าจะมีใครมาชอบตนเอง"กันไว้ก่อนน่ะ" เสิ่นเสวียนอธิบาย "ยิ่งไปกว่านั้นต้องคอยดูด้วยว่านิสัยขององค์ชายสองเป็นอย่างไร"เขาเองก็คิดจะพิจารณาองค์ชายสองเหมือนกันองค์ชายสองวันนั้นรู้สึกชอบฟู่จาวหนิงอย่างชัดเจน หลายวันนี้ก็คอยหาฟู่จาวหนิงอยู่ตลอด เขาอยากจะดูว่าถ้าพอเจอสาวงามแล้วองค์ชายสองจะดื้อรั้นมีทิฐิไหม จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรต่อพระชายาองค์ชายสองไหมอันที่จริงถ้าหากจะพิจารณากันจริงๆ ให้ฟู่จาวหนิงออกหน้าจะดีที่สุด แต่เขาก็ไม่อยากใช้งานฟู่จาวหนิงสักเท่าไรดังนั้นจึงให้นางเลี่ยงออกหน่อยดีกว่า อย่าไปอยู่ในกระแสการช่วงชิงอำนาจจักรพรรดิเลย"ข้ารู้แ
"ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นอะไร? บางทีอาจจะอยากรับโชคจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็ได้กระมัง?""รับกะผีน่ะสิ"ผู้อาวุโสจี้ทนไม่ไหวระเบิดคำหยาบออกมา"ถ้าจะบอกว่ามีโชค โชคของตัวเจ้าก็น้อยเสียที่ไหน""อาจารย์อย่าพูดเช่นนี้เลย ข้าก็แค่ประชาชนธรรมดา กล้าไปเทียบกับองค์หญิงใหญ่เสียที่ไหน" ฟู่จาวหนิงยื่นชาให้เขา "ดื่มชาให้ใจเย็นเสียก่อน อย่าเพิ่งโกรธสิ ขนาดข้ายังไม่โกรธเลย""เฮอะ เจ้าไม่โกรธ? ไม่โกรธก็แปลกแล้ว!"ผู้อาวุโสจี้รับถ้วยชามาจิบ"เขาสวมหน้ากากอยู่ตลอดไม่ยอมถอดออกมาเลย แล้วจะคู่ควรไปนั่งกินข้าวกับองค์หญิงใหญ่หรือ?""ไม่ได้ไปกินหรือ?""กินเสียที่ไหน? หน้ากากก็ไม่ยอมถอดแล้วเขาจะกินอย่างไร? ดังนั้นข้าถึงได้แปลกใจนี่ไง! คนไม่กินข้าวแล้วจะไปนั่งด้วยทำไม! อ๋องเจวี้ยนไม่ได้เรื่องขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?"ฟู่จาวหนิงอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้"ก็ดูไม่ได้เรื่องจริงๆ นั่นล่ะ""ยิ้มๆๆ เจ้ายังจะมายิ้มอีก!" ผู้อาวุโสจี้เอ่ยอย่าหวังดี "อย่าน้อยเจ้าก็ควรจะทะเลาะกับเขาบ้าง โกรธเขาบ้าง อาละวาดมาบ้าง!""ข้ารู้สึกว่าท่านกับลุงข้านี่เหมือนกันเลย สนับสนุนให้ข้าทะเลาะกับสามีอยู่นั่นล่ะ ทำไมไม่สอนข้าให้
ฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้ตอนอยู่ที่โรงหมอก็คิดจะพูดอยู่แล้ว ตอนที่พูดถึงวัตถุดิบยาเหล่านั้น สีหน้าของท่านอาจารย์ก็เหมือนจะแปลกๆ ไปยิ่งไปกว่านั้น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นบอกขั้นตอนการพบเจอวัตถุดิบยาเหล่านี้ก็ดูแปลกๆ มันมีคนขุดออกมาไว้แน่ๆไม่เช่นนั้นจะมีวัตถุดิบยามากขนาดนี้มากองอยู่ได้อย่างไร?"พวกเราขุดมาเอง ข้ายังมีศิษย์พี่น้งอกับอาจารย์อาอีกหลายคน ลงแรงคนแก่ไปหนักอยู่""แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกัน?"ผู้อาวุโสจี้ถอนหายใจอีกครั้ง "ตอนนั้นพวกเราขนวัตถุดิบยาส่วนหนึ่งออกไป วัตถุดิบยาที่เหล่าเหล่านี้ โดยเฉพาะที่เจ้าเรียกว่าม๋าหลีพวกนั้น วัตถุดิบยาที่ขจัดแผลเป็นได้เหล่านั้น ข้าเลือกออกมา เดิมทีคิดจะส่งให้กับเจ้า ถึงอย่างไรอ๋องเจวี้ยนก็ต้องการมัน"ฟู่จาวหนิงตกตะลึงที่แท้วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็จะมอบให้นางหรือ?"ครั้งหนึ่งนำออกมาไม่ได้มากนัก ดังนั้นวัตถุดิบยาเหล่านี้จึงวางไว้ที่นั่นก่อน คิดว่าไม่น่าจะมีใครมา ไม่น่าเป็นอะไร ตอนนั้นข้าเองก็เห็นลูกแพะป่าตัวหนึ่งกระโดดเหยงๆ เข้ามาในป่าจริงๆ เหมือนว่าขาจะบาดเจ็บด้วย ข้าเลยคิดจะเอายาสมุนไพรไปพันขาให้มันเสียหน่อย"ผู้อาวุโสจี้พูดถึงสถานการณ์ตอนนั้นฟู่จา
ฟู่จาวหนิงรู้สึกน่าขันเหลือเกินยังมีวิธีพูดแบบนี้ด้วยหรือ?"ยิ่งไปปกว่านั้น ยังบอกว่าวัตถุดิบยาพวกนั้น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนางเองก็จะไม่ทำอะไรที่ดูไม่จริงใจด้วย จะส่งมอบทั้งหมดนั้นออกไปเปล่าๆ เช่นนี้ก็เท่ากับช่วยเหลือคนป่วยได้มากมาย ถึงอย่างไรวัตถุดิบยาเหล่านี้พันธมิตรโอสถใต้หล้าสุดท้ายก็ต้องส่งให้กับมือหมอใหญ่ทั้งนั้นอยู่ดี"อย่างนี้ก็ได้?"อิ๋นสั่วคนนั้นยังบอกว่า ถ้าหากข้าจะเอาวัตถุดิบยาคืนเสียให้ได้ องค์หญิงใหญ่จะเสียใจมาก ยิ่งไปกว่านั้นก็จะเป็นการหยุดการสร้างกุศลกรรมของนาง ตอนนั้นข้าก็คิดว่าถ้าข้าเข้าไปต้าชื่อ ถึงอย่างไรนางก็เป็นองค์หญิงใหญ่ที่ได้รับเกียรติและการยอมรับอย่างมาก คงไม่ค่อยดีถ้าจะไปขัดใจนาง จึงทำได้แค่รับปากไป""อาจารย์ก็เลยถูกบีบให้ขายวัตถุดิบยาไปแบบนี้สินะ แล้วอิ๋นสั่วคนนั้นไม่ได้ถามท่านใหม่หรือ ว่าวัตถุดิบยาเหล่านั้นมันมีมูลค่าเท่าใด ต้องเพิ่มเงินให้ไหม?""ไม่มี ถึงอย่างไรเขาก็จะเอาไปสร้างกุศลกรรม ได้มากเท่านี้นั่นล่ะ คำพูดของอิ๋นสั่วก็เอาแต่บอกว่า ที่ข้าสามารถใช้วัตถุดิบยาเหล่านี้ช่วยเหลือองค์หญิงใหญ่ได้ ก็ถือว่าได้รับโชคแล้ว หลังจากนี้ข้าเองก็จะมีโชคลาภ และโ
หลังจากคุยกับผู้อาวุโสจี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกว่าความรู้สึกตนเองหนักอึ้งขึ้นมาพอฝังเข็มให้ผู้อาวุโสจี้และกินข้าวเย็นกับเขาแล้ว ฟู่จาวหนิงก็ไม่ไปค้นคว้าต่อแล้ว เอนตัวลงนอนบนแคร่นิ่มหลับตาทำสมาธิ"พระชายา ท่านอ๋องกลับมาแล้ว"และไม่รู้ว่าตอนไหน ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงสืออีที่ด้านนอกดังลอดเข้ามาจากนั้นก็ได้ยินเซียวหลันยวนตะคอกขึ้นมา"นางหลับไปแล้ว จะปลุกนางทำไมกัน?""พระชายารอท่านอ๋องอยู่ตลอดเลย" สืออีกดเสียงต่ำฟู่จาวหนิงลืมตาลุกขึ้นนั่ง มึนงงหน่อยๆ ด้านนอกเป็นช่วงกลางดึกแล้วพอนางรอบนแคร่นิ่มก็ล่วงไปถึงกลางดึกเลยหรือนี่?ดังนั้นหลายวันนี้ที่ค้นคว้าสกัดวัตุดิบยามานี่ก็คงจะเหนื่อยมากกระมังเซียวหลันยวนตอนนี้เพิ่งจะกลับมาหรือ?"ให้นางพักผ่อนเถอะ"คำพูดเซียวหลันยวนส่งเข้ามาอีก น่าจะเพราะกลางดึกเสงียบสงัด นางถึงได้ยินเสียงของเขา"ท่านอ๋อง ท่านอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าจากข้างนอกมาแล้วหรือ?" สืออีเห็นว่าเสื้อผ้าบนตัวเซียวหลันยวนไม่ใช่ชุดที่สวมออกไปเมื่อตอนเช้าตรู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังดูมีกลิ่นหอมจางๆ ด้วย จึงตกตะลึงขึ้นมา"ถอยไปเถอะ ให้ชิงอีมารับช่วงคุ้มกันต่อ"เซียวหลันยวนไม่ตอบคำ
เซียวหลันยวนชะงักไป"ข้ารู้สึกว่า พวกเราไม่ต้องมาเสียเวลากันอีกแล้ว เซียวหลันยวน ท่านน่าจะรู้จักนิสัยข้า ข้าเองก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล มีเรื่องอะไรก็พูดออกมาตรงๆ ไม่ได้หรือ?""ข้าไม่ได้มีเรื่องอะไร" เซียวหลันยวนถอนหายใจ"เช่นนั้นเป้าหมายที่ท่านมาต้าชื่อนี้คืออะไร"เซียวหลันยวนพอได้ยินนางถามเช่นนี้ก็ชะงักไปเป้าหมายที่มาต้าชื่อของเขาคืออะไร?"มีอะไรที่พูดไม่ได้กัน? มาเพื่อองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นใช่ไหม? สองวันนี้ท่านเอาแต่อยู่ข้างๆ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น""จาวหนิง...""พูดออกมาตรงๆ ก็พอแล้ว" ฟู่จาวหนิงสีหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชาเล็กน้อย มองเขา "ถ้าหากท่านอยากจะอภิเษก อยากจะรับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเป็นภรรยา ก็บอกข้าตรงๆ ก็พอ ข้าก่อนหน้านี้ไม่ใช่พูดไว้แล้วหรือ? จะให้ข้ายกตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยนออกมานั้นง่ายมาก ก็แค่ลงลายมือที่หนังสือหย่าร้างก็พอ""เจ้าอยากจะหย่าร้างขนาดนี้เลยหรือ?"พอได้ยินประโยคนี้ของเซียวหลันยวน ฟู่จาวหนิงก็โมโหขึ้นทันที"มาบอกอะไรว่าข้าอยากจะหย่าร้าง? แต่ใจของท่านมันมีคนอื่นแล้วนี่นา ข้าไม่เคยฝืนบอกว่าต้องการความรักความรู้สึกด้วย ข้าเองก็พูดแล้ว ข้าไม่อยากมีสามีร่วมกับ
ฟู่จิ้นเชินอันที่จริงก็เตรียมใจไว้แล้วตอนนั้นพวกเขาออกจากเมืองไปแบบนั้น หลายๆ เรื่องยังคงอยู่ ทั้งที่เกี่ยวกับราชวงศ์ท่านอ๋อง ทั้งที่เกี่ยวข้องกับองค์จักรพรรดิ และไม่มีทางที่จะลืมเลือนจากเวลาที่ไหลผ่านไปกระทั่งองค์จักรพรรดิก็ไม่แน่ว่าจะลืมพวกเขาถ้าหากไม่ใช่เพราะลูสาวของพวกเขาจับพลัดจับผลู พบบุพเพมหัศจรรย์จนไปแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยน ตอนนี้พวกเขายังไม่ทันเข้าเมืองหลวงก็คงถูกคนของอ๋องเจวี้ยนจับไปแล้วสิ่งที่รอพวกเขาก็คือการจำคุกและการไต่สวนหรือบางที คนที่รู้เรื่องเบื้องหลังในตอนนั้น หรือคนที่สงสัยว่าพวกเขาไปรู้ความลับอะไรเข้า ตอนนี้อาจจะเปิดเผยตัวกันออกมาถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่มีทางเป็นแบบตอนนี้ ที่ยังเข้าเมืองมาได้อย่างปลอดภัย กลับมาที่บ้านกระทั่งว่า บ้านตระกูลฟู่เองก็อาจจะไม่อยู่แล้วด้วย บ้านหลังนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะยังอยู่ที่นี่เพื่อรอพวกเขากลับบ้านกลับบ้าน ใช่แล้ว พวกเขาในที่สุดก็กลับมาบ้านแล้วและทั้งหมดนี้ เป็นเพราะจาวหนิงเป็นจาวหนิงที่ให้พวกเขากลับมาบ้านได้ฟู่จิ้นเชินเข้าใจจุดนี้ได้ดียิ่งกว่าใครรอจนอารมณ์ของทุกคนนิ่งลงมาแล้ว เขาจึงถามถึงผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวหนิ
ฟู่จาวหนิง! พระชายาอ๋องเจวี้ยน! พวกเขาล้วนได้ยินเรื่องของนางมาไม่น้อย นั่นไม่ใช่คนที่ไปยั่วยุได้เลยนะ นางกระทั่งองค์จักรพรรดิก็ยังกล้าไปต่อปากต่อคำด้วย พวกเขาในสายตาฟู่จาวหนิงไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น!ถ้าถูกจับจ้องไว้ล่ะก็ พวกเขาหลังจากนี้ได้เดือดร้อนแน่!คนเหล่านี้ล้วนขวัญเสียกันหมดแล้วคนที่ให้พวกเขาเข้ามาเอะอะบอกไว้ว่า ถ้าเอาคนมาเยอะๆ แล้วบวกกับเรื่องเมื่อสิบแปดปีก่อนเข้าไป ฟู่จิ้นเชินจะต้องนึกพวกเจ้าไม่ออก จำพวกเจ้าไม่ได้แน่ขอแค่เอาคนมามากพอ สถานการณ์วุ่นวายพอ แค่พวกเขาสร้างความวุ่นวายแล้วหนีไป ตระกูลฟู่ก็จับมือใครดมไม่ได้หรอกแต่ใครจะคิดว่าฟู่จิ้นเชินจะมาไม้นี้?"ฟู่ สหายฟู่ ไม่ต้องจดหรอก พวกเราก็แค่เจอพวกเจ้าบนถนนเท่านั้น...""ใช่ๆๆ ไม่มีใครมาแจ้งพวกเรา""พวกเรามีที่มาแหล่งข่าวเสียที่ไหน เข้าใจผิดแล้ว..."พวกเขาคิดจะถอย ถ้าหากไปถึงฟู่จาวหนิงคงวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นแน่"ในเมื่อมากันแล้ว เช่นนั้นก็มาคุยเรื่องเก่ากันก่อนเถิด อย่าเพิ่งรีบไปกัน" ฟู่จิ้นเชินเอ่ยขึ้นอย่างสงบ "พวกเจ้าไม่ใช่มาหาสหายเก่าอย่างข้าหรอกหรือ?""เจ้ากับฮูหยินเพิ่งกลับมา น่าจะเหนื่อยกันแล้ว พวกเราเอาไว้ค่อ
พวกของเซี่ยซื่อยังไม่ทันได้พูดเรื่องอ๋องเจวี้ยน ด้านนอกก็มีคนออกแรงตบประตูบ้านตระกูลฟู่ขึ้นเสียงดังเฉินซานออกไปเปิดประตู คนกลุ่มหนึ่งก็ทะลักเข้ามาคนเหล่านี้ เฉินซานคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ ก่อนหน้านี้ตอนที่เขายังเป็นนักเลงหัวไม้อยู่ในเมืองหลวง จริงๆ ก็ให้ความสนใจกับพวกพ่อค้าขุนนางระดับล่างเหล่านี้อยู่คนเหล่านี้ล้วนอายุราวสามสี่สิบปี อายุประมาณฟู่จิ้นเชิน"คุณชายใหญ่ฟู่!""เร็ว ได้ยินว่าอัจฉริยะใหญ่ฟู่กลับมาแล้วหรือ?""คุณชายฟู่กลับมาแล้วจริงหรือ?"คนกลุ่มหนึ่งทะลักเข้ามา ล้วนมองอย่างตื่นเต้นมาที่ฟู่จิ้นเชินขณะที่ยังตกใจกับความหล่อเหลาราววัยหนุ่มของฟู่จิ้นเชิน กับความสวยสะพรั่งของเสิ่นเชี่ยว พวกเขาลืมเป้าหมายที่มายังบ้านตระกูลฟู่นี้แล้วพวกเขาแย่งกันพูดขึ้นมา"สหายฟู่ ให้ตายเถอะ เจ้ายังไม่ตายจริงๆ!""คุณชายฟุ่ ยังจำข้าได้ไหม? ข้าต่งฮั่น ตอนนั้นที่เคยสนุกด้วยกันกับเจ้าที่โรงน้ำชา!""จิ้นเชิน ข้าเหอจาวหลิน พวกเราตอนนั้นเกือบจะได้เป็นศิษย์ของอาจารย์คนเดียวกันแล้ว!""อัจฉริยะใหญ่ฟู่ ตอนนั้นพวกเราเดิมพันงานเขียนกันหลายครั้ง พอเจ้าหายตัวไปสิบแปดปีข้าก็คิดถึงเจ้าตลอดเลย เจ้ากลับมาได
ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายยังดูยังสับสนอยู่ ยังไม่มีใจจะไปคิดเล็กคิดน้อยนัก"นี่คือลูกสาวของข้าอันห่าว นางตอนนี้ใช้สกุลเซี่ยเหมือนข้า" เซี่ยซื่อปาดน้ำตาเอ่ยขึ้นเสิ่นเชี่ยวประคองเซี่ยอันห่าวลุกขึ้นดูแล้วเซี่ยซื่อน่าจะมีเรื่องบางอย่างกับตระกูลหลิน ยิ่งไปกว่านั้นในนี้จะต้องเป็นฝีมือของจาวหนิงแน่"ต้องขอบคุณจาวหนิง นางเก็บแม่ลูกอย่างพวกเรามา ไม่เช่นนั้นพวกเราคงไม่รอดกันแล้ว" เซี่ยซื่อเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตา ได้สติขึ้นอีกครั้ง "รีบเข้าห้องเร็ว หิมะตกแล้ว ด้านนอกหนาวมาก"คนที่เหมือนแมลงกาฝากในตระกูลฟู่พวกนั้นก็ถูกฟู่จาวหนิงกวาดออกไปแล้ว เรื่องนี้สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินรู้แล้วพวกเขาเข้ามาในโถงใหญ่ ลุงจงป้าจงกับหู่จือล้วนได้ยินการเคลื่อนไหว ทั้งหมดจึงวิ่งเข้ามา"คุณชาย คุณชายใหญ่กับฮูหยินน้อยกลับมาแล้วหรือ?""คุณชาย!"ป้าจงกับลุงจงวิ่งเข้ามาก่อน พอเห็นฟู่จิ้นเชินชัดๆ พวกเขาก็น้ำตาไหลอาบทันที ทิ้งตัวลงคุกเข่า"คุณชาย ฮูหยินน้อย พวกท่านกลับมาได้เสียที พวกท่านยังมีชีวิตอยู่ ข้าน้อยรู้อยู่แล้ว ว่าพวกท่านจะต้องมีโชคที่ดีแน่นอน..."พวกเขาล้วนร้องไห้กันออกมาตอนนั้นที่พวกเขาออกไป หู่จือยังเป็นเด็กน้อยอย
แม้จะผ่านไปเกือบสิบแปดปีแล้ว แต่สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวก็ยังเป็นคนที่กาลเวลารักใคร่อยู่พวกเขาแม้จะอายุมากแล้ว หน้าตาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นบ้าง แต่พอเทียบกับสมัยก่อนแล้ว ก็เปลี่ยนแปลงไปไม่เยอะมากมองหลายๆ ครั้งก็มองออกได้คนที่เซียวเหยียนจิ่งเตรียมไว้ยังมองออก ไม่ต้องพูดถึงเซี่ยซื่อเลยเซี่ยซื่อเคยเป็นครอบครัวของพวกเขาด้วยนะหลังจากนางจำได้แล้วยังสงสัยว่าตาตนเองฝาดไปหรือไม่ ยังสงสัยว่าตนเองคงตาลาย ดังนั้นเลยนวดตาทันที จากนั้นจึงมองพวกเขาอย่างละเอียดอีกครั้งไม่เปลี่ยน ยังคงเป็นสองคนนั้นเสิ่นเชี่ยวเองก็จำเซี่ยซื่อได้ แม้ว่านางจะรู้ตัวตนฐานะของตนเองแล้ว แต่ยังคงโพล่งออกมาว่า "พี่สะใภ้รอง!"เซี่ยซื่อคือภรรยาของผู้เฒ่ารองตระกูลหลินและเป็นคนเดียวในตระกูลหลินที่อ่อนโยนเป็นห่วงเสิ่นเชี่ยว ดังนั้นเสิ่นเชี่ยวพอเห็นนาง ดวงตาจึงแดงรื้นขึ้นมาคำว่าพี่สะใภ้รอง ก็ทำเอาเซี่ยซื่อใจสั่นระริกเช่นกันรีบวางตะกร้าที่หิ้วไว้ลงมา เดินตรงไปหานาง"ให้ตายเถอะ อา อาเล็กหรือ?"ไม่ ไม่ใช่อาเล็กชองนางแล้วสิ เซี่ยซื่อยืนอยู่หน้าเสิ่นเชี่ยว ถลึงตาโตอ้าปากค้าง"พี่สะใภ้รอง ข้าข้าเจอครอบครัวของข้าแ
ฟู่จาวหนิงสีหน้าขรึมลงเล็กน้อย "ดูท่า น่าจะมีคนไม่น้อยที่ยังไม่ลืมพวกเขา คอยจับตาดูจนถึงทุกวันนี้""ข้าเตรียมการเสร็จแล้ว รอบบ้านตระกูลฟู่วางองครักษ์ลับเอาไว้แล้ว วางใจเถอะ" เซียวหลันยวนพานางเข้ามา สองมือโอบข้างเอวนาง จ้องมองนาง "องค์จักรพรรดิน่าจะลงมือกับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นพ่อลูกชินอ๋องเซียวยังคอยจับตาดูพวกเขาขนาดนี้ มันดูแปลกไปหน่อย""ตรวจสอบดูก็รู้ พวกเขาถ้าหากมีความคิดอะไร มีแผนอะไร มีเป้าหมายอะไร เดี๋ยวก็ได้รู้เอง"ฟู่จาวหนิงไม่ได้ใส่ใจนักเซียวหลันยวนพยักหน้าสายตาเขามองออกไปไกลๆ ถัดจากนี้ต้องดูว่าสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินจะรับมืออย่างไร เมืองหลวงยังมีคนที่มีเป้าหมายต่างๆ อยู่ และยังมีขั้วอำนาจที่ใช้วิธีการต่างๆ อยู่อีกด้วยเขาถึงแม้จะเชื่อว่าครั้งนั้นไม่ใช่เสิ่นเชี่ยวที่วางยาพิษ แต่ว่าพวกเขาตอนนั้นถูกใครบางคนหรือเรื่องบางอย่างหนีบเอาไว้ตรงกลาง ไม่มีทางดึงตัวออกมาอย่างหมดจดได้ พวกเขาเองก็เป็นคนในเหตุการณ์ตอนนี้พอมีความสัมพันธ์เช่นนี้กับเขา เซียวหลันยวนก็ยังพิจารณานาว่าพวกเขาจะแบกรับไหวไหม หลังจากนี้จะไม่ถ่วงแข้งขาฟู่จาวหนิงได้จริงไหม จะไม่ทำร้ายนางจริงไหมเซียวหลันยวนไม่ได้
"หนิงหนิง มีเรื่องอะไรถึงคุยกันนานสองนาน?"ในห้องขังมีเสียงเซียวหลันยวนดังออกมา"มาแล้ว"ฟู่จาวหนิงขานรับคำหนึ่ง เตรียมจะกลับห้องขังเซียวเหยียนจิ่งไม่อยากเชื่อ "เจ้าไม่ไปกับข้าจริงหรือ? เจ้าไม่สนใจพ่อแม่เจ้าหรือไรกัน?"ปฏิกิริยาของฟู่จาวหนิงเกินจากที่เขาคาดไว้เขาเดิมทีคิดว่าพอได้ยินว่าพ่อแม่ไม่เป็นไร แล้วยังกลับมาแล้ว ฟู่จาวหนิงอย่างน้อยต้องตาแดงรื้นบ้าง ไม่ก็ร้องไห้ออกมา รีบร้อนตามเขาออกไปอย่างตื่นเต้น เพื่อรีบไปพบพ่อแม่ของนาง"อ๋องเจวี้ยนถึงอย่างไรก็ยังต้องอยู่ในห้องขัง ไม่มีอะไรหรอก เจ้าจัดที่นี่จนดูอยู่สบายไปแล้ว แล้วเขาทำไมยังต้องให้เจ้ามาอยู่ด้วยกันอีก?""ข้ามาอยู่เอง เขาเป็นสามีข้า ข้าไม่อยู่กับเขาแล้วใครจะอยู่กัน?"ฟู่จาวหนิงหลังจากที่รู้เจตนาการมาของเขาก็ขี้เกียจจะคุยกับเขาแล้ว ผลักเขาออก แล้วเดินไปทางห้องขังเซียวเหยียนจิ่งนี่ก็จุ้นจ้านเสียจริง"เจ้าทำไมถึงต้องทำร้ายตัวเองแบบนี้" เซียวเหยียนจิ่งตะโกนใส่หลังนาง "เจ้าเข้าร่วมกับสมาคมหมอใหญ่แล้ว ถ้าเจ้ายินยอม มีคนตั้งมากมายที่ยินดีจะรักและเอ็นดูเจ้า ทำไมต้องมาอยู่ในคุกกับเขาแบบนี้ด้วย"เดิมทีหญิงสาวคนนี้ควรจะควรจะม
"ใช่ พ่อแม่ของเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังกลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว" เซียวเหยียนจิ่งจ้องมองฟู่จาวหนิง "เป็นอย่างไร เจ้าอยากรีบกลับบ้านไหม? ได้ยินว่าปู่ของเจ้ากับเด็กที่ชื่อเสี่ยวเฟยก็อยู่กันที่จวนอ๋องเจวี้ยนนี่? ถ้าเจ้าไม่กลับไป พ่อแม่ของเจ้าคงจะหาคนไม่เจอแน่"ฟู่จาวหนิงทำท่าทางตกตะลึงอย่างมาก"เจ้าไม่ได้โกหกข้าใช่ไหม? พวกเขากลับมาแล้วจริงหรือ?""ข้าจะโกหกเจ้าทำไมกัน? ไม่เชื่อข้าตอนนี้เจ้าก็ไปกับข้าสิ ข้าจะพาเจ้าไปหาพวกเขา"เซียวเหยียนจิ่งพูด มือเองก็คันยุบยิบ เขาอยากจะยื่นมือไปจูงนางเหลือเกิน จูงนางออกจากคุกใหญ่ถ้าเขาสามารถจูงมือนางออกไปได้ เซียวหลันยวนคงได้กระอักเลือดตายกระมัง?แต่เขาเพิ่งจะขยับ ฟู่จาวหนิงก็ถอยออกไปแล้วสองก้าว"พวกเขาถ้ากลับมาแล้วจริง เช่นนั้นก็ต้องกลับไปที่บ้านตระกูลฟู่ ที่บ้านตระกูลฟู่มีคนอยู่ พวกเขาจะหาคนไม่เจอได้อย่างไรกัน?""เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ?""เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าวิ่งแจ้นเข้ามาบอกข้าหรอกกระมัง? พวกเขาถ้ากลับมาแล้วจริง คนใช้บ้านตระกูลฟู่อีกเดี๋ยวก็คงเข้ามาบอกข้าเอง""เจ้าลืมอ๋องเจวี้ยนไปแล้วหรือ?""เขาก็อยู่ที่นี่ ลืมอะไรกัน?""ความ
ฟู่จาวหนิงอยู่ในคุกเองก็เบื่อหน่อยๆ แล้วนางเหลือบมองเซียวเหยียนจิ่งผาดหนึ่ง จากนั้นจึงตรงไปด้าหน้าเซียวหลันยวน "ข้าออกไปฟังหน่อยได้ไหม?""ไปเถอะ" เซียวหลันยวนพยักหน้า"เอ๋ ไม่หึงแล้วหรือ?" ฟู่จาวหนิงร้องชิชะเซียวหลันยวนหัวเราะเสียงทุ้ม "อย่าไปไกลนักล่ะ ข้าได้ยินอยู่"ถึงอย่างไรนางก็เบื่อๆ ถ้าเซียวเหยียนจิ่งพูดเรื่องอะไรที่ทำให้นางฆ่าเวลาได้ เช่นนั้นเขาก็ควรจะใจกว้างหน่อยแต่ว่า พวกเขาเดินไปไกลมากไม่ได้ ต้องอยู่ในระยะที่เขาสามารถได้ยิน"รู้อยู่แล้วว่าท่านจะใจกว้างหลอกๆ"ฟู่จาวหนิงวางพู่กัน ปรบๆ มือ จากนั้นจึงเดินออกจากห้องขัง"คิดจะพูดอะไร?"เซียวเหยียนจิ่งเดิมทีคิดจะให้เซียวหลันยวนหึงหวง ดังนั้นจึงไม่คิดจะเดินไปไกลนัก"มานี่หน่อย" เซียวเหยียนจิ่งเดินออกมาข้างๆ ไม่กี่ก้าว รู้สึกว่าระยะนี้เซียวหลันยวนน่าจะได้ยินเหมือนคนคุยกันแต่ไม่ได้ยินเนื้อหาด้านในเช่นนี้ก็พอดีฟู่จาวหนิงร้องเชอะในใจ น่าจะเข้าใจความคิดของเขาเพียงแต่เซียวเหยียนจิ่งก็ยังโง่อยู่ เขาคิดว่าระยะนี้เซียวหลันยวนไม่ได้ยินหรือไรกัน?นางเดินออกไปเซียวเหยียนจิ่งบอกกับผู้คุมข้างๆ คำหนึ่ง ให้เขาออกไปก่อนผู้คุม