"คุณหนู ทุกคนก็ชอบท่านกันทั้งนั้น!"เสี่ยวชิ่นเสริมขึ้นมาคำหนึ่งข้างๆคุณหนูสวยขนาดนี้ วิชาแพทย์เองก็ยอดเยี่ยม นิสัยเองก็ดี จะมีคนไม่ชอบได้อย่างไรกัน?ถ้านางเป็นผู้ชาย นางจะต้องชอบคุณหนูแน่นอน! ใครจะเทียบได้"พรวด"ฟู่จาวหนิงอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้โฟโตชอปกันเกินจริงเหลือเกินคนบนโลกมีนับร้อยนับพันแบบ งานอดิเรกและสุทรียความงามของทุกคนก็แตกต่างกัน มีคนที่ชอบนาง แน่นอนว่าต้องมีคนที่รังเกียจนาง เรื่องนี้นางชัดเจนมาโดยตลอด ดังนั้นจึงไม่รู้สึกว่าจะมีใครมาชอบตนเอง"กันไว้ก่อนน่ะ" เสิ่นเสวียนอธิบาย "ยิ่งไปกว่านั้นต้องคอยดูด้วยว่านิสัยขององค์ชายสองเป็นอย่างไร"เขาเองก็คิดจะพิจารณาองค์ชายสองเหมือนกันองค์ชายสองวันนั้นรู้สึกชอบฟู่จาวหนิงอย่างชัดเจน หลายวันนี้ก็คอยหาฟู่จาวหนิงอยู่ตลอด เขาอยากจะดูว่าถ้าพอเจอสาวงามแล้วองค์ชายสองจะดื้อรั้นมีทิฐิไหม จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรต่อพระชายาองค์ชายสองไหมอันที่จริงถ้าหากจะพิจารณากันจริงๆ ให้ฟู่จาวหนิงออกหน้าจะดีที่สุด แต่เขาก็ไม่อยากใช้งานฟู่จาวหนิงสักเท่าไรดังนั้นจึงให้นางเลี่ยงออกหน่อยดีกว่า อย่าไปอยู่ในกระแสการช่วงชิงอำนาจจักรพรรดิเลย"ข้ารู้แ
"ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นอะไร? บางทีอาจจะอยากรับโชคจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็ได้กระมัง?""รับกะผีน่ะสิ"ผู้อาวุโสจี้ทนไม่ไหวระเบิดคำหยาบออกมา"ถ้าจะบอกว่ามีโชค โชคของตัวเจ้าก็น้อยเสียที่ไหน""อาจารย์อย่าพูดเช่นนี้เลย ข้าก็แค่ประชาชนธรรมดา กล้าไปเทียบกับองค์หญิงใหญ่เสียที่ไหน" ฟู่จาวหนิงยื่นชาให้เขา "ดื่มชาให้ใจเย็นเสียก่อน อย่าเพิ่งโกรธสิ ขนาดข้ายังไม่โกรธเลย""เฮอะ เจ้าไม่โกรธ? ไม่โกรธก็แปลกแล้ว!"ผู้อาวุโสจี้รับถ้วยชามาจิบ"เขาสวมหน้ากากอยู่ตลอดไม่ยอมถอดออกมาเลย แล้วจะคู่ควรไปนั่งกินข้าวกับองค์หญิงใหญ่หรือ?""ไม่ได้ไปกินหรือ?""กินเสียที่ไหน? หน้ากากก็ไม่ยอมถอดแล้วเขาจะกินอย่างไร? ดังนั้นข้าถึงได้แปลกใจนี่ไง! คนไม่กินข้าวแล้วจะไปนั่งด้วยทำไม! อ๋องเจวี้ยนไม่ได้เรื่องขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?"ฟู่จาวหนิงอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้"ก็ดูไม่ได้เรื่องจริงๆ นั่นล่ะ""ยิ้มๆๆ เจ้ายังจะมายิ้มอีก!" ผู้อาวุโสจี้เอ่ยอย่าหวังดี "อย่าน้อยเจ้าก็ควรจะทะเลาะกับเขาบ้าง โกรธเขาบ้าง อาละวาดมาบ้าง!""ข้ารู้สึกว่าท่านกับลุงข้านี่เหมือนกันเลย สนับสนุนให้ข้าทะเลาะกับสามีอยู่นั่นล่ะ ทำไมไม่สอนข้าให้
ฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้ตอนอยู่ที่โรงหมอก็คิดจะพูดอยู่แล้ว ตอนที่พูดถึงวัตถุดิบยาเหล่านั้น สีหน้าของท่านอาจารย์ก็เหมือนจะแปลกๆ ไปยิ่งไปกว่านั้น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นบอกขั้นตอนการพบเจอวัตถุดิบยาเหล่านี้ก็ดูแปลกๆ มันมีคนขุดออกมาไว้แน่ๆไม่เช่นนั้นจะมีวัตถุดิบยามากขนาดนี้มากองอยู่ได้อย่างไร?"พวกเราขุดมาเอง ข้ายังมีศิษย์พี่น้งอกับอาจารย์อาอีกหลายคน ลงแรงคนแก่ไปหนักอยู่""แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกัน?"ผู้อาวุโสจี้ถอนหายใจอีกครั้ง "ตอนนั้นพวกเราขนวัตถุดิบยาส่วนหนึ่งออกไป วัตถุดิบยาที่เหล่าเหล่านี้ โดยเฉพาะที่เจ้าเรียกว่าม๋าหลีพวกนั้น วัตถุดิบยาที่ขจัดแผลเป็นได้เหล่านั้น ข้าเลือกออกมา เดิมทีคิดจะส่งให้กับเจ้า ถึงอย่างไรอ๋องเจวี้ยนก็ต้องการมัน"ฟู่จาวหนิงตกตะลึงที่แท้วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็จะมอบให้นางหรือ?"ครั้งหนึ่งนำออกมาไม่ได้มากนัก ดังนั้นวัตถุดิบยาเหล่านี้จึงวางไว้ที่นั่นก่อน คิดว่าไม่น่าจะมีใครมา ไม่น่าเป็นอะไร ตอนนั้นข้าเองก็เห็นลูกแพะป่าตัวหนึ่งกระโดดเหยงๆ เข้ามาในป่าจริงๆ เหมือนว่าขาจะบาดเจ็บด้วย ข้าเลยคิดจะเอายาสมุนไพรไปพันขาให้มันเสียหน่อย"ผู้อาวุโสจี้พูดถึงสถานการณ์ตอนนั้นฟู่จา
ฟู่จาวหนิงรู้สึกน่าขันเหลือเกินยังมีวิธีพูดแบบนี้ด้วยหรือ?"ยิ่งไปปกว่านั้น ยังบอกว่าวัตถุดิบยาพวกนั้น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนางเองก็จะไม่ทำอะไรที่ดูไม่จริงใจด้วย จะส่งมอบทั้งหมดนั้นออกไปเปล่าๆ เช่นนี้ก็เท่ากับช่วยเหลือคนป่วยได้มากมาย ถึงอย่างไรวัตถุดิบยาเหล่านี้พันธมิตรโอสถใต้หล้าสุดท้ายก็ต้องส่งให้กับมือหมอใหญ่ทั้งนั้นอยู่ดี"อย่างนี้ก็ได้?"อิ๋นสั่วคนนั้นยังบอกว่า ถ้าหากข้าจะเอาวัตถุดิบยาคืนเสียให้ได้ องค์หญิงใหญ่จะเสียใจมาก ยิ่งไปกว่านั้นก็จะเป็นการหยุดการสร้างกุศลกรรมของนาง ตอนนั้นข้าก็คิดว่าถ้าข้าเข้าไปต้าชื่อ ถึงอย่างไรนางก็เป็นองค์หญิงใหญ่ที่ได้รับเกียรติและการยอมรับอย่างมาก คงไม่ค่อยดีถ้าจะไปขัดใจนาง จึงทำได้แค่รับปากไป""อาจารย์ก็เลยถูกบีบให้ขายวัตถุดิบยาไปแบบนี้สินะ แล้วอิ๋นสั่วคนนั้นไม่ได้ถามท่านใหม่หรือ ว่าวัตถุดิบยาเหล่านั้นมันมีมูลค่าเท่าใด ต้องเพิ่มเงินให้ไหม?""ไม่มี ถึงอย่างไรเขาก็จะเอาไปสร้างกุศลกรรม ได้มากเท่านี้นั่นล่ะ คำพูดของอิ๋นสั่วก็เอาแต่บอกว่า ที่ข้าสามารถใช้วัตถุดิบยาเหล่านี้ช่วยเหลือองค์หญิงใหญ่ได้ ก็ถือว่าได้รับโชคแล้ว หลังจากนี้ข้าเองก็จะมีโชคลาภ และโ
หลังจากคุยกับผู้อาวุโสจี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกว่าความรู้สึกตนเองหนักอึ้งขึ้นมาพอฝังเข็มให้ผู้อาวุโสจี้และกินข้าวเย็นกับเขาแล้ว ฟู่จาวหนิงก็ไม่ไปค้นคว้าต่อแล้ว เอนตัวลงนอนบนแคร่นิ่มหลับตาทำสมาธิ"พระชายา ท่านอ๋องกลับมาแล้ว"และไม่รู้ว่าตอนไหน ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงสืออีที่ด้านนอกดังลอดเข้ามาจากนั้นก็ได้ยินเซียวหลันยวนตะคอกขึ้นมา"นางหลับไปแล้ว จะปลุกนางทำไมกัน?""พระชายารอท่านอ๋องอยู่ตลอดเลย" สืออีกดเสียงต่ำฟู่จาวหนิงลืมตาลุกขึ้นนั่ง มึนงงหน่อยๆ ด้านนอกเป็นช่วงกลางดึกแล้วพอนางรอบนแคร่นิ่มก็ล่วงไปถึงกลางดึกเลยหรือนี่?ดังนั้นหลายวันนี้ที่ค้นคว้าสกัดวัตุดิบยามานี่ก็คงจะเหนื่อยมากกระมังเซียวหลันยวนตอนนี้เพิ่งจะกลับมาหรือ?"ให้นางพักผ่อนเถอะ"คำพูดเซียวหลันยวนส่งเข้ามาอีก น่าจะเพราะกลางดึกเสงียบสงัด นางถึงได้ยินเสียงของเขา"ท่านอ๋อง ท่านอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าจากข้างนอกมาแล้วหรือ?" สืออีเห็นว่าเสื้อผ้าบนตัวเซียวหลันยวนไม่ใช่ชุดที่สวมออกไปเมื่อตอนเช้าตรู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังดูมีกลิ่นหอมจางๆ ด้วย จึงตกตะลึงขึ้นมา"ถอยไปเถอะ ให้ชิงอีมารับช่วงคุ้มกันต่อ"เซียวหลันยวนไม่ตอบคำ
เซียวหลันยวนชะงักไป"ข้ารู้สึกว่า พวกเราไม่ต้องมาเสียเวลากันอีกแล้ว เซียวหลันยวน ท่านน่าจะรู้จักนิสัยข้า ข้าเองก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล มีเรื่องอะไรก็พูดออกมาตรงๆ ไม่ได้หรือ?""ข้าไม่ได้มีเรื่องอะไร" เซียวหลันยวนถอนหายใจ"เช่นนั้นเป้าหมายที่ท่านมาต้าชื่อนี้คืออะไร"เซียวหลันยวนพอได้ยินนางถามเช่นนี้ก็ชะงักไปเป้าหมายที่มาต้าชื่อของเขาคืออะไร?"มีอะไรที่พูดไม่ได้กัน? มาเพื่อองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นใช่ไหม? สองวันนี้ท่านเอาแต่อยู่ข้างๆ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น""จาวหนิง...""พูดออกมาตรงๆ ก็พอแล้ว" ฟู่จาวหนิงสีหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชาเล็กน้อย มองเขา "ถ้าหากท่านอยากจะอภิเษก อยากจะรับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเป็นภรรยา ก็บอกข้าตรงๆ ก็พอ ข้าก่อนหน้านี้ไม่ใช่พูดไว้แล้วหรือ? จะให้ข้ายกตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยนออกมานั้นง่ายมาก ก็แค่ลงลายมือที่หนังสือหย่าร้างก็พอ""เจ้าอยากจะหย่าร้างขนาดนี้เลยหรือ?"พอได้ยินประโยคนี้ของเซียวหลันยวน ฟู่จาวหนิงก็โมโหขึ้นทันที"มาบอกอะไรว่าข้าอยากจะหย่าร้าง? แต่ใจของท่านมันมีคนอื่นแล้วนี่นา ข้าไม่เคยฝืนบอกว่าต้องการความรักความรู้สึกด้วย ข้าเองก็พูดแล้ว ข้าไม่อยากมีสามีร่วมกับ
ถ้าหากเขาคิดจะคบกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น เช่นนั้นนางจะให้พวกเขาได้สมหวังประโยคนี้พอดังขึ้นข้างหูเซียวหลันยวน ก็ทำให้ใจของเขาบีบขึ้นมาทันที หายใจติดขัด"เจ้าอยากจะละทิ้งตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยนหรือ?" เขาเอ่ยขึ้นเสียงแหบพร่าหน่อยๆเดิมทีก็ไม่รู้ว่าพูดประโยคนี้แล้วจะทำให้เขารู้สึกลำบากขนาดนี้"ใช่"ฟู่จาวหนิงหลังจากพูดออกมาก็รู้สึกว่าผ่อนคลายขึ้นมาก"พอซือถูไป๋ทางนั้นปฏิเสธองค์หญิงใหญ่ เจ้าก็เลยจะมาพูดเรื่องหย่ากับข้าใช่ไหม? พวกเจ้าหารือกันไว้แล้วใช่ไหม?"น้ำเสียงเซียวหลันยวนเย็นลงมาเขารู้สึกว่าพิษเก่าในร่างกายยังไม่ทันหายเขาก็ป่วยอะไรขึ้นมาอีกแล้ว ไม่เช่นนั้นจะรู้สึกแย่ขนาดนี้ได้อย่างไร?ฟู่จาวหนิงถลึงตาโต"ท่านออกไปเลย"นางชี้ไปที่ประตู สูดหายใจลึกถ้าเขาไม่ออกไป นางคงได้ด่ากราดออกไปอย่างทนไม่ไหวแน่ๆ!เซียวหลันยวนเจ้าผู้ชายต่ำช้า นี่คิดจะพูดอะไรกันแน่?!เซียวหลันยวนมองนางลึกๆ ผาดหนึ่ง หมุนตัวเดินออกไปด้านนอก ชิงอีกับสืออีก็ร้อนรนมองเข้ามา ชิงอีแม้จะเข้ามาคุยคุ้มกัน แต่สืออีเมื่อครู่ก็ออกไปอย่างไม่วางใจ จึงรอที่นี่ต่อแล้วก็ตามคาด ทะเลาะกันขึ้นมาแล้วจริงๆไม่ ไม่ถือว่า
สืออีพูดจบก็ปิดประตูให้เดิมทีเขาควรจะคอยเฝ้ายามช่วงกลางคืน แต่สถานการณ์ตอนนี้ ยิ่งเอาตัวเองไปหลับไม่ได้เด็ดขาด จะอย่างไรก็ต้องคอยเฝ้ายามพระชายาที่นี่ฟู่จาวหนิงรู้ว่าจะพูดอีกเขาก็คงไม่ไป จึงทำได้แค่ปล่อยเขานางเดิมทีคิดจะนอนต่อ แต่หลังจากนอนแล้วสมองมันตื่นไปหมด นอนไม่หลับ"เซียวหลันยวนเจ้าผู้ชายสารเลว!"ฟู่จาวหนิงด่าออกมาคำหนึ่งอย่างทนไม่ไหว แล้วยังลุกขึ้นมา เข้าไปในห้องเภสัชนานแล้วที่นางไม่ได้เข้ามาเปิดตู้ขนมขบเคี้ยวของตนเองในนี้ ตอนนี้ทนไม่ไหว หยิบข้าวเกรียบกุ้งถุงใหญ่ออกมา แล้วก็หยิบโคล่ามาอีกขวด นั่งลงบนโซฟาคนขี้เกียจ เปิดหน้าจอโปรเจคเตอร์ จากนั้นก็เปิดบทเรียนวิชาแพทย์ กินดื่มไปด้วยข้าวเกรียบกุ้งกรอบกร้วมๆ ความซาบซ่านของน้ำอัดลมไหลระเบิดที่คอหอย แต่บนหน้าจอกลับฉายแผลเป็นที่น่ากลัวของเคสคนป่วยรายหนึ่งศาสตราจารย์กำลังอธิบายว่าแผลเป็นอย่างนี้ควรจัดการเช่นไร เสียงดังฟังชัด แต่สมองฟู่จาวหนิงก็อดลอยภาพเซียวหลันยวนขึ้นมาไม่ได้เลยแผลเป็นพิษของเขามันเลวร้ายไปถึงระดับไหนแล้วนะ?นางยัดข้าวเกรียบกุ้งเข้าไปในปากอีก เคี้ยวกร้วมๆ อย่างแรง ถือเสียว่าเป็นเซียวหลันยวนพอเสียงดังกร๊อบ
"เช่นนั้นก็ใสหัวไป"เซียวหลันยวนพาคนออกจากคุกใหญ่เหล่าผู้คอมมองพวกเขา "หัวหน้า ตอนนี้ทำอย่างไรดี? นายพันเก๋อบอกไว้แล้ว ถ้าเฮ่อเหลียนเฟยมีความน่าสงสัยที่จะเป็นศัตรู ต้องคุมตัวเขาไว้ก่อนนี่นา"ก่อนหน้านี้ใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าก็ดึงคนไว้แล้ว ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนพาเขาเดินวนในคุกไปรอบหนึ่ง จากนั้นกลับเดินกลับไปอย่างองอาจเสียอย่างนั้นพรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อถามขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?เรื่องนี้ จะต้องนำไปให้ฝ่าบาททรงทราบแน่ องค์จักรพรรดิถ้าหากถามหาความรับผิดชอบขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?แต่หัวหน้าคุกก็ไม่กล้าทำอะไรนี่นา"ช่างมัน ผลักไปบนหัวอ๋องเจวี้ยนให้หมดแล้วกัน พรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อซักไซ้ขึ้นมา พวกเราก็บอกไปว่าพวกเราขวางอ๋องเจวี้ยนไม่อยู่"นี่โทษพวกเขาได้ที่ไหน?ฟู่จาวหนิงพอเห็นพวกเขาออกมาแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ"เสี่ยวเฟยไม่ต้องอยู่หรือ?" นางถามเซียวหลันยวน"ไม่ต้องให้อยู่แล้ว ให้พวกเขาไปที่จวนอ๋องเองแล้วกัน" เซียวหลันยวนตอบฟู่จิ้นเชินมองเขา "ขอบคุณมาก"นี่คือความหมายที่จะปกป้องพวกเขาแล้วถ้าหากพวกเขาไม่อยู่ในจวนอ๋อง พรุ่งนี้นายพันเก๋อพาคนไปที่บ้านตระกูลฟู่ พวกเขาคงไม่มีทางต่
โป๋จีเอาเรื่องที่เผ่าเฮ่อเหลียนยึดครองเมืองพูดจนกลายเป็นตัวเลือกที่จำใจของพวกเขาเสียอย่างนั้นฟู่จาวเฟยถามยังถามสถานการณ์ในเมืองตอนนี้อีกหน่อย แล้วยังถามเขาว่าทำไมถึงถูกเก๋อมู่กวงจัง รอจนเขา...ตอบมาทีละข้อ ถามขึ้นมาทันที "แล้วจดหมายที่นำมาให้ข้าล่ะ? ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ส่งจดหมายให้กับข้าหรือ?"โป๋จีมองไปทางเซียวหลันยวน"นี่คืออ๋องเจวี้ยนสินะ? พวกข้าได้ยินว่า อ๋องเจวี้ยนตอนนี้เป็นพี่เขยของเจ้า""ใช่แล้ว แต่เขากับองค์จักรพรรดิมีความสัมพันธ์ไม่ค่อยดี"สายตาโป๋จีหม่นลงเล็กน้อย พวกเขารู้เรื่องนี้"แล้วพ่อแท้ๆ ของเจ้าล่ะ?""เขาฟังพี่สาวข้า""หมอเทวดาฟู่ใช่ไหม?""ใช่ ชื่อเสียงของพี่สาวข้ามากขนาดนี้เลยหรือ? ลือกันไปถึงทางเผ่าแล้วหรือ?" ฟู่จาวเฟยถาม"แน่นอน นางเป็นถึงหมอที่อายุน้อยสุดในสมาคมหมอใหญ่เลยนะ" แล้วยังเป็นหมอหญิงอีก"แล้วจดหมายอยู่ที่ไหนล่ะ?""จะส่งให้เจ้าเลยก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้หรอก แต่ว่าเจ้าต้องทำเรื่องหนึ่งก่อน จดหมายสำหรับพวกเราแล้วสำคัญมาก ไม่ใช่เรื่องที่จะทำร้ายหรอก""เขียนอะไรไว้หรือ?""เจ้าอ่านจดหมายก็จะเข้าใจเอง""ท่านจะให้ข้าช่วยทำอะไรหรือ?" ฟู่จาวเฟยเริ่มจะเกิด
ขอแค่พวกเขาสงสัยในตัวฟู่จาวเฟยก็พอแล้วหัวหน้าคุกกับมือปราบเจียงพวกเขาก็เริ่มสงสัยเช่นนี้แล้วพวกเขามองฟู่จาวเฟย และมองไปยังโป๋จี สีหน้าเองก็กังวลขึ้นมา"คุณชายฟู่ นี่มัน..." มือปราบเจียงเข้าประชิดฟู่จิ้นเชิน กดเสียงต่ำคิดจะเตือนเขาคุณชายฟู่จะฟังไม่ออกได้อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าอยู่ต่อหน้านายพันเก๋อ แล้วเห็นว่าโป๋จีกับคุณชายน้อยฟู่มีความสัมพันธ์อันดีกันล่ะก็ คุณชายน้อยฟู่ก็จะยิ่งน่าสงสัยมากขึ้นไปอีกนายพันเก๋อคงไม่มีทางเชื่อคุณชายน้อยฟู่แน่นอนแล้วถ้าคุณชายน้อยฟู่ถูกกำหนดให้เป็นพวกของราชาเฮ่อเหลียน เช่นนั้นก็ถือว่ามีโทษกบฏ อาจจะลากตระกูลฟู่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยได้กระทั่งว่า อ๋องเจวี้ยนเองก็จะโดนหางเลขไปด้วยแต่ว่า องค์จักรพรรดิก็คิดจะรับมืออ๋องเจวี้ยนชัดเจนขนาดนี้ เช่นนั้นถ้ามีโอกาสจับกุมขึ้นมาจะปล่อยไปได้อย่างไรกัน?มือปราบเจียงรู้ว่าลูกสาวตนเองชอบพระชายาอ๋องเจวี้ยนมาก ดังนั้นเขาจึงกังวลแทนพระชายาอ๋องเจวี้ยนขึ้นมา"่ท่านลุงโป๋จี ท่านกำลังพูดอะไรน่ะ? ท่านพ่อกับท่านแม่ข้าตอนนั้นไม่ได้จงใจทิ้งข้า แล้วก็..."ฟู่จาวเฟยชะงักไป เปลี่ยนคำใหม่ "ราชาเฮ่อเหลียนยังสังหารแม่เลี้ยงข
"ท่านลุงโป๋จี ได้ยินว่าท่านมาส่งจดหมายให้ข้าหรือ?"ฟู่จาวเฟยถามออกมาทันทีโป๋จีก่อนหน้านี้ก็ดีกับเขาพอควร แต่ตอนนี้พอมาคิด ก็น่าจะแค่คิดว่าเขาเป็นลูกชายของราชาเฮ่อเหลียน เมื่อครู่ตอนที่เขาเห็นสายตาของตนเอง ก็แตกต่างกับแต่ก่อนไปแล้วฟู่จาวเฟยตอนนี้ยังพิจารณาออกได้ว่า เมื่อครู่ตอนที่โป๋จีมองเห็นสายตาของเขา นั่นเป็นความตื่นเต้นดีใจที่ได้เห็นเป้าหมายยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ที่เขาถามออกมาโป๋จีก็ยังพิจารณามองเขาอยู่"ใช่แล้ว องค์ชาย" โป๋จีใช้ภาษาเมืองหลวงที่ฟังแล้วแปลกๆ เรียกเขาว่าองค์ชาย จากนั้นก็มองไปทางอ๋องเจวี้ยนด้วยสัญชาตญาณ เปลี่ยนเป็นภาษาเฮ่อเหลียนว่า "ราชาได้รับจดหมายของเจ้า บอกว่าเจ้าหาพ่อแม่ที่แท้จริงพบแล้ว มีตัวตนฐานะใหม่ ดูพึงพอใจมาก"โป๋จีไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนฟังภาษาเฮ่อเหลียนออกฟู่จิ้นเชินอันที่จริงก็ไม่รู้พอเขาฟังประโยคนี้ออกจึงมองไปทางเซียวหลันยวน ตอนนี้จะแปลให้เขาคงไม่สะดวกนัก ถ้าเขาพูดออกมาตอนนี้ เกรงว่าโป๋จีคงไม่พูดความจริงแล้วรอให้เขาพูดสิ่งที่ควรพูดให้จบก่อนแล้วกันคำนี้ของโป๋จี น่าจะพูดให้เขาฟังความหมายของคำพูดนี้ แสดงออกว่าราชาเฮ่อเหลียนรู้แล้วว่าฟู่จาวเฟยเ
ถ้าประตูวังปิดแล้ว คืนนี้น่าจะยังไม่ได้พบองค์จักรพรรดิเช่นนั้นพรุ่งนี้ช่วงประชุมเช้าก็น่าจะได้พบ ห่างจากตอนนี้ไม่ถึงสามชั่วยามเซียวหลันยวนไม่พูดอะไรอีกหลังจากเขาได้ข่าวไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องส่งคนไปคุ้มครองนอกวังแน่ เก๋อมู่กวงคืนนี้เข้าวังไม่ได้ ไม่ได้พบองค์จักรพรรดิ ดังนั้นจะต้องรอจนถึงประชุมเช้าแน่นอนช่วงหลายชั่วยามนี้เพียงพอแล้วพวกเขาได้ยินเสียงของฟู่จิ้นเชินแล้วฟู่จิ้นเชินกำลังพูดภาษาเฮ่อเหลียนอยู่"พี่เขย ท่านพ่อกำลังพูดว่า..." ฟู่จาวเฟยคิดจะแปลให้เซียวหลันยวนก่อนอย่างฉลาดเฉลียวรู้ความ แต่คิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจะโบกไม้โบกมือ"ข้าฟังออกน่ะ""อ๋า?"ฟู่จาวเฟยตกตะลึง"ลืมบอกไป ว่าข้าเป็นภาษาเฮ่อเหลียน" เซียวหลันยวนน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กจ้อยที่ธรรมดามากๆ เรื่องหนึ่งหัวหน้าคุกเองก็เหลือบมองเขาอย่างตกตะลึง"ถ้าข้าน้อยจำไม่ผิดล่ะก็ ท่านอ๋องยังพูดภาษาหนานฉือได้ด้วย?""ใช่"หัวหน้าคุกกับฟู่จาวเฟยสบตากันผาดหนึ่ง ทั้งสองคนล้วนเห็นความตกตลึงในดวงตาของอีกฝ่ายอ๋องเจวี้ยนทำไมถึงพูดได้หลายภาษานัก?เขาไม่ใช่ว่าพักฟื้นอยู่ในยอดเขาโยวชิงตลอดหรือไรกัน? คนทั้ง
เซียวหลันยวนรู้สึกนับถือฟู่จิ้นเชินจริงๆเขาเองก็ไม่ได้มีตัวตนฐานะพิเศษอะไร แต่กลับใช้ความสามารถตนเองเข้าไปในคุกใหญ่ได้ เข้าคุกใหญ่ไปยังพอทำเนา แต่นี่ยังได้พบกับโป๋จีด้วยนี่ร้ายกาจมากจริงๆ"พวกเจ้าให้เขาเข้าไปแบบนี้เลยหรือ?" เซียวหลันยวนรู้สึกแปลกใจจริงๆ"เรื่องนี้ เพราะโป๋จีพูดภาษาเราได้แค่นิดหน่อย คุณชายฟู่เขาพูดภาษาเฮ่อเหลียนได้"หัวหน้าคุกกังวลนิดหน่อย เขาเองก็ไม่รู้ว่าอ๋องเจวี้ยนยกโทษให้กับสามีภรรยาตระกูลฟู่แล้วหรือยังคนไม่น้อยในเมืองหลวงก็ยังมองความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาไม่ออกถ้าหากอ๋องเจวี้ยนโกรธ แล้วหันมาระบายบนตัวเขาจะทำอย่างไรกัน"ท่านอ๋อง ท่านเองก็จะเข้าไปพบโป๋จีคนนั้นหรือ?" เขาถามขึ้นอย่างระมัดระวังอ๋องเจวี้ยนออกมาได้อีกครั้ง แสดงว่าไม่ได้ติดโรคระบาดนั้นมาพวกผู้คุมในคุกใหญ่หลายวันนี้ยังไม่ได้ดื่มยาน้ำของพระชายาอ๋องเจวี้ยน ทุกคนกินอาหารกันวันละสามมื้อ แต่ก็ยังไม่มีใครติดโรคชนิดนั้นเลยดังนั้นพวกเขาเชื่อมั่นในยาขอพระชายาอ๋องเจวี้ยน แน่นอนว่าเชื่อมั่นว่าอ๋องเจวี้ยนไม่ได้เป็นโรคระบาดด้วย"ข้าเข้าไปไม่ได้หรือ?""ไม่ใช่เช่นนั้น ไม่ใช่แน่นอน ท่านอ๋องเข้าไปได้" หัว
เซียวหลันยวนมองเสิ่นเชี่ยวผาดหนึ่ง"ก็แค่ไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมาเท่านั้น"มีแผนอะไรเสียที่ไหน?เรื่องเช่นนี้ ต่อให้พวกเขาลงมือตรวจสอบชัดเจน ก็ไม่ใช่อะไรที่จำทำเสร็จในชั่วครู่องค์จักรพรรดิจะต้องหยิบยืมเรื่องนี้แน่นอนใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าทางนี้คงทานได้อีกไม่นานแล้ว อีกเดี๋ยวก็จะมีคนมาพาฟู่จาวเฟยไปคุกใหญ่ฟู่จาวหนิงกลับเข้าใจความหมายของเซียวหลันยวนขึ้นมา"พวกเราตอนนี้ส่งไปเอง ยังพอจะเลือกห้องขังได้อยู่""ข้าฟังพวกเจ้านั่นล่ะ" เสิ่นเชี่ยวเอ่ยขึ้นทันทีนางต้องเรียนรู้ที่จะเชื่อลูกสาว ไม่ต้องถามให้ชัดเจนนัก ลูกสาวจะต้องไม่ทำร้ายน้องชายแน่ๆ แค่ฟังนางไว้ก็พอเรื่องในเมืองหลวง พวกเขาจะต้องเข้าใจชัดเจนกว่านางแน่นอน"เรื่องนั้นไม่ควรชักช้าไปกันตอนนี้เลย" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นหมุนตัวออกไปก่อนฟู่จาวหนิงกวักมือให้เสี่ยวเฟย "ไปกัน"ฟู่จาวเฟยเองก็เดิมตามนางไปอย่างเชื่อมั่นทันทีเสิ่นเชี่ยวเดินมาถึงด้านหลัง คารวะให้กับใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้า "ขอบคุณใต้เท้าที่ดูแล""เกรงใจเกินไปแล้ว..."ใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าตอบกลับด้วยสัญชาตญาณ จากนั้นก็รู้สึกว่าตนเองในตอนนี้ก็เหมือนจะเกรงใจมากเกินไปเขายังกลายเป
ท่านพี่ในที่สุดก็กลับมาแล้ว ใจของเขาสงบลงมาได้ไม่น้อยเลย"จาวหนิง นี่มาจากในภูเขาหรือ? เหนื่อยแย่เลยสิ?" เสิ่นเชี่ยวยกถ้วยชาบนโต๊ะขึ้นทันที "เจ้าดื่มชาร้อนนี่ก่อนเถอะ เพิ่งต้มใหม่เลย ยังไม่ได้ดื่ม"นางเห็นฟู่จาวหนิงมีรอยคล้ำใต้ตาจางๆ ในภูเขาคงต้องเหนื่อยมากแน่ๆ และคงไม่ได้พักผ่อนดีนักแต่พอยกถ้วยชาขึ้นมา เสิ่นเชี่ยวก็ยังรู้สึกกระวนกระวายอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงจะรับน้ำใจของนางไหมฟู่จาวหนิงรับมา ดื่มไปอึกหนึ่ง ผ่อนคลายลงมาได้"เรื่องจดหมายนี่อย่างไรกัน? ก่อนหน้านี้มีอะไรผิดปกติบ้างไหม หรือมีคนมาหาเจ้าบ้างหรือเปล่า?"เสิ่นเชี่ยวถอนใจโล่ง ในใจก็ลิงโลดขึ้นมาแม้ว่าฟู่จาวหนิงตอนนี้อยู่กับพวกเขาจะไม่ค่อยคล้ายกับพ่อแม่ลูกเท่าไรนัก แต่นางเชื่อว่าในด้านความรู้สึกก็ยังพอเห็นได้บ้าง เดิมทีก็ยังมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกันอยู่ฟู่จาวเฟยส่ายหัว รีบร้อนรับประกันอย่างขันแข็งขึ้นมา "ท่านพี่ ไม่มีอะไรผิดปกติเลย ไม่มีคนมาหาข้าด้วย แล้วก็ไม่ได้รับจดหมายอะไรอีก ข้าเองก็ไม่ได้เขียนจดหมายไปด้านนอก""ช่วยนี้มีใครมาที่บ้านไหม?""ไม่มี มีแต่ท่านพ่อที่ออกไปบ่อยๆ ข้าอยู่ในแต่บ้านฝึกยุทธ์" ฟู่จาวเฟ
"อ๋องเจวี้ยนมาถึงแล้ว"ข้าราชการชั้นผู้น้อยคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามา รู้ว่าใต้เท้าร้อนรนมาก จึงรีบ เข้ามารายงาน"เร็ว"เขาทางนี้แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว คุกใหญ่ทางนั้นถ้าถามออกมาได้ว่าจดหมายอยู่ที่ไหน ก็คงจะให้เขาเอาฟู่จาวเฟยส่งเข้าคุกใหญ่แน่แต่อ๋องเจวี้ยนก่อนหน้านี้กำชับว่า ก่อนหน้าที่เขาจะกลับมา ฟู่จาวเฟยต้องอยู่ที่นี่ก่อน ห้ามส่งไปคุกใหญ่เขาเองก็ทานไม่ไหวแล้ว เดิมทีฟู่จาวเฟยไม่ได้จะส่งมาที่เขาทางนี้ แต่เป็นจดหมายด่วนของอ๋องเจวี้ยนที่ให้เข้าเข้ามารับช่วงไว้ก่อนแต่เขาเองก็ร้อนรนด้วย เขาเองก็กลัวนี่ ถึงตอนนั้นถ้าค้นเจอจดหมายอะไรเข้า แล้วเกี่ยวข้องกับฟู่จาวเฟยจริง เขาก็จัดการลำบากแล้วถึงอย่างไรฟู่จาวเฟยก็อยู่กับเขาทางนี้ ไม่ได้ลงตรวน ไม่ได้ตี ไม่ได้ขังอีกต่างหาก ยังคงนั่งรออยู่ที่โถงข้างๆแล้วยังมีฮูหยินฟู่ด้วย นั่งอยู่กับลูกชายด้วยกันเขาทำเช่นนี้ ถ้าหากถูกองค์จักรพรรดิรู้เข้า องค์จักรพรรดิคงไม่ละเว้นเขาแน่พอเขาออกไป เสิ่นเชี่ยวกับฟู่จาวเฟยก็ลุกขึ้นยืนทันที ขณะเดียวกันก็มองมาทางเขา"ใต้เท้า?""คุณชายฟู่ไปที่ไหนแล้วกันแน่?"ใต้เท้าหยินจิงเจ้ามองพวกเขา และคิดถึงเรื่องที่เมื่อคร