เสี่ยวชิ่นมองแผ่นหลังซือถูไป๋ ถอนใจออกมาเงียบๆ"เจ้าถอนใจอะไรของเจ้าน่ะ?" ฟู่จาวหนิงเองก็ทั้งโมโหทั้งขำ"ไม่ ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ แค่รู้สึกว่าคุณชายซือถูเองก็ดีอยู่นะ หน้าตาเองก็ดีด้วย"เสี่ยวชิ่นรู้สึกจริงๆ ว่าซือถูไป๋หน้าตาดีมาก เห็นหรือเปล่าว่าขนาดป้าที่ขายขนมถั่วมั่วครู่ก็ยังต้องชะเง้อคอมามองเขา? ขนาดว่ามองไม่เห็นตัวคนแล้วก็ยังรู้สึกอาลัยอาวรณ์ขนาดนี้คุณชายซือถูเดินอยู่ในฝูงชนแบบนี้ต้องเจิดจ้าแน่นอนคุณหนูของนางเองก็เหมือนกันนะ ดังนั้นสงอคนนี้ถ้าได้เดินเคียงบ่าเคียงไหล่กัน ไม่รู้ว่าจะเป็นภาพที่งดงามขนาดไหนฟู่จาวหนิงฟังออกถึงอาการใจคอเหี่ยวแห้งกับหดหู่ของนาง จึงอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้"อย่าคิดเพ้อเจ้อน่า พวกเราไปดีกว่า"นางเดินตรงไปยังจุดที่ได้กลิ่นวัตถุดิบยาเมื่อคืนนี้ถ้าหากซือถูไป๋พูดเรื่องจริง เช่นนั้นก็เป็นไปได้ว่าบ้านหลังนั้นที่นางได้กลิ่นวัตถุดิบยา คือพ่อค้าวัตถุดิบยาที่ซือถูไป๋มาหาถ้าหากเขาแลกเปลี่ยนวัตถุดิบยาสำเร็จแล้ว นางเองก็อาจจะเสียเที่ยวก็ได้แต่ว่าฟู่จาวหนิงก็ยังไม่เปลี่ยนความคิด ถ้าหากครั้งหน้าอีกฝ่ายยังมียามาให้ล่ะ?เพียงไม่นานนางก็เห็นด้านนอกของเรือนหลังหนึ่ง
ถ้าหากอีกฝ่ายขายวัตถุดิบยาจริง ขายให้นางรับรองว่าไม่ขาดทุนแต่คนเขาตอนนี้ไม่ยินยอม เช่นนั้นก็ช่างมันแล้วกัน"เจ้ารอก่อน!"หญิงสาวคนนั้นพอเห็นนางหมุนตัวจะไป ก็รีบเรียกนางไว้ฟู่จาวหนิงไม่สนใจ เดินตรงออกไปคนเขาบอกว่านางท่าทางเหมือนขโมยแล้ว ทำไมแค่ถูกเรียกไว้ยังต้องหยุดให้ด้วยล่ะ?"ข้าบอกให้เจ้าหยุดก่อนไม่ได้ยินหรือ!"หญิงสาวพุ่งมาขวางหน้านาง กางมือขวางนางไว้ฟู่จาวหนิงมองนาง "ยังมีธุระหรือ?""บ้านข้ามีวัตถุดิบยาอยู่ชนิดหนึ่ง ล้ำค่าเอามากๆ เจ้าอยากจะเห็นไหม?"เสี่ยวชิ่นพูดขึ้นอย่างทนไม่ไหว "เมื่อครู่เจ้าไม่ใช่บอกไม่ให้พวกเราเข้าไปหรือ ทำไมตอนนี้มาเปลี่ยนใจแล้ว?""ข้าไม่ดูแล้ว" ฟู่จาวหนิงตอบ"แม่นางอย่าเพิ่งโกรธกัน อันที่จริงวัตถุดิบยาบ้านข้าเมื่อวานนี้ก็ขายออกไปหมดแล้ว เมื่อครู่เด็กน้อยเขาพูดจาไม่น่าฟัง แต่ก็เพราะไม่มีวัตถุดิบยาแล้วจริงๆ ดังนั้นเมื่อครู่จึงไม่ยอมให้ท่านเข้าไป" ลุงคนนี้รีบเดินเข้ามาขัดตาทัพ"เมื่อคืนขายออกไปแล้วหรือ?""ใช่ ขายให้กับโรงยาทงฝูไปแล้ว" ลุงตอบมาเสี่ยวชิ่นมองไปทางฟู่จาวหนิง ที่แท้คุณชายซือถูก็ไม่ได้โกหกสินะ? เขาพูดความจริงนี่นา เช่นนั้นวันนี้ตอน
ไป๋หู่กับสือซานสืออีอยู่ห่างไปไม่ไกลนักอีกเดี๋ยวการจะย้ายวัตถุดิบยาออกไปก็ไม่ใช่เรื่องยาก"คุณหนู คุณชายซือถูเป็นนายน้อยเจ้าของร้านโรงยาทงฝู วัตถุดิบยาที่เขาไม่ซื้อ ยังจะเป็นวัตถุดิบยาได้หรือ?" เสี่ยวชิ่นไม่ค่อยเข้าใจ"ยังไม่เห็น ต้องเห็นก่อนจึงจะรู้""แต่ว่าลุงคนนี้ชื่อว่าหลี่เหล่าสือเลยนะ" เสี่ยวชิ่นระแวงขึ้นมา ไม่รู้ว่าอีกเดี๋ยวจะซื่อสัตย์(เหล่าสือ) จริงๆ ไหมหลี่เหล่าสือแค่ครู่เดียวก็แบกหาบตะกร้าสานใบหนึ่งออกมา พอว่างลงก็พูดว่า "ยังมีอีกกระสอบหนึ่ง ข้าเข้าไปย้ายมาก่อน"ไม่รอให้ฟู่จาวหนิงพูดอะไร เขาก็วิ่งเข้าไปแล้วครู่หนึ่งก็แบกของกระสอบใหญ่ออกมา ดูเหมือนใส่เอาไว้จนแน่นและหนักเอามากๆเสียงตุบดังขึ้น เขาทิ้งกระสอบลงมา หายใจไม่ทั่วท้องเลยทีเดียว"ของพวกเนี้คือสิ่งที่ข้าขุดมาเอง รวมถึงเก็บกลับมาในช่วงสองปีนี้"หลี่เหล่าสืออธิบายกับฟู่จาวหนิง"เพราะข้าขายยาจำนวนมาก รู้จักกับคนในโรงยาทงฝูด้วย ดังนั้นละแวกนี้ก็จะมีคนที่ขุดยาเอาวัตถุดิบยาที่ตนเองขุดส่งมาให้ข้า บ้างอย่างข้าก็ซื้อมาเลย บางอย่างก็ฝากขาย ดังนั้นวัตถุดิบยาที่ข้าเก็บจึงมีมากขึ้นมา"ฟู่จาวหนิงเดินไปที่ของในตะกร้าสาน
ของเหล่านี้ยังส่งกลิ่นเหม็นไหม้อีกด้วย ภรรยาเขาก็ด่าอยู่บ่อยๆ บอกว่าถ่านเน่าๆ ยังไม่ยอมทิ้งไปอีก"อย่างนี้นี่เอง"ฟู่จาวหนิงขานรับคำหนึ่ง และไปดูวัตถุดิบยาในถุงกระสอบ"สิ่งนี้ก็มีพิษเช่นกัน ใช้มือแตะไม่ได้ พอแตะจะคันทันที ข้าเองก็สกัดไม่เป็น ขับพิษออกไปไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเคยลองจนถูกพิษทำให้เป็นลมไปหลายครั้ง ไม่กล้ายุ่งกับมันอีกแล้ว"หลี่เหล่าสือพูดถึงจุดนี้ก็รู้สึกกังวลขึ้นมา "แม่นาง อันตรายทั้งนั้นเลย ท่านจะเอาไปไหม? ไม่อย่างนั้นก็ช่างมันเถิด"หลี่จื่อเอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆ ก็ร้องขึ้นมา "ท่านพ่อ! นางบอกกับข้าไว้แล้ว ข้ายังไม่ได้บอกว่าช่างมันเสียหน่อย ท่านพูดอะไรออกมาน่ะ!""ของพวกนี้ข้าเองก็ทิ้งส่งเดชไม่ได้ กลัวว่าคนอื่นหรือว่าเด็กเก็บไปอย่างไม่ทันระวัง ถ้าติดพิษขึ้นมาจะกลายเป็นบาปของข้าไป"หลี่เหล่าสือส่ายหัว "แต่ในบ้านเองก็วางไว้ตลอดไม่ได้อีก ถ้าท่านนำไปได้ ข้าจะไม่เก็บเลยสักแดงเดียวจริงๆ""เดิมทีก็บอกไว้แล้ว นางต้องตอบคำถามข้าข้อหนึ่งก่อนนะ!" หลี่จื่อเอ๋อร์ร้องขึ้นมาอีกครั้งเสี่ยวชิ่นมองฟู่จาวหนิงตอนนี้ใครก็มองไม่ออกถึงอารมณ์ของฟู่จาวหนิงและไม่รู้ว่านางสนใจวัตถุดิบยาเหล่
เดิมทีหลี่จื่อเอ๋อร์เมื่อคืนนี้แสดงออกถึงความรักต่อซือถูไป๋ไปแล้ว แต่ซือถูไป๋ปฏิเสธนาง แล้วยังบอกว่าตนเองมีแม่นางในใจคนหนึ่งแล้ววันนี้ตอนเช้านางออกไปเห็นซือถูไป๋กับฟู่จาวหนิงอยู่ด้วยกันสายตาของซือถูไป๋ที่มองฟู่จาวหนิงแถมจะหยาดย้อยอยู่แล้วหลี่จื่อเอ๋อร์หึงหวงขึ้นมาทันทีฟู่จาวหนิงถาม "ข้าไปได้หรือยัง?""เจ้าไปเถอะไปเถอะ ไปไกลๆ หน่อยก็ดี" หลี่จื่อเอ๋อร์โบกไม้โบกมือเหมือนไล่แมลงวันอย่างไรอย่างนั้น น้ำเสียงก็ดูหมดความอดทน "แล้วก็ห้ามเจ้ามาเจอคุณชายซือถูอีกล่ะ! ตระกูลพวกเราก็มีคนอยู่ในวังเหมือนกันนะ!"มีคนในวังเสียด้วย?นางกลัวจังเลยฟู่จาวหนิงยิ้มๆ ไม่สนใจนางอีก พาเสี่ยวชิ่นเดินออกไปตอนนี้นางเองก็ไม่อยากจะเดินเที่ยวแล้ว รีบเดินกลับไปเสิ่นเสวียนกลับมาพอดี พอเห็นพวกไป๋หู่ขนของเหล่านี้ก็รู้สึกสนใจขึ้นมา"จาวหนิงออกไปข้างนอกหรือ?""ขอรับ ใกล้ๆ นี้เอง""เดินไปไม่ไกลแล่วทำไมถึงมีของพวกนี้กลับมากัน? วัตถุดิบยาหรือ?"ไป๋หู่เล่าเรื่องออกมาหลิวหั่วที่อยู่ข้างๆ กังวลหน่อยๆ "เช่นนั้นคุณหนูจาวหนิงถึงได้เอาวัตถุดิบยาไม่มีประโยชน์กลับมามากมายขนาดนี้น่ะหรือ? เพราะว่ากลัวตระกูลหลี่นั่น
เสี่ยวชิ่นได้สติกลับมา ตกใจจนทิ้งตัวลงพื้นดังตุบ หน้าขาวซีดนางปากไวไปหน่อย คิดไม่ถึงว่าที่นี่ไม่ได้อยู่ในบ้านตระกูลเสิ่น เป็นแค่ที่พักชั่วคราวเท่านั้น ยากจะป้องกันเรื่องกำแพงมีหูประตูมีช่องสีหน้าเสิ่นเสวียนยังเย็นเยียบอยู่เสี่ยวชิ่นตกใจจนตัวสั่น พวกของไป๋หู่ก็ไม่มีใครขอความเมตตาให้เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กถ้าหากถูกคนลืออกไป คุณหนูได้มีปัญหาใหญ่แน่มีใครยอมให้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นของพวกเขาต้องโดนกดย่ำไว้บ้าง? องค์จักรพรรดิยังไม่ยอมเลย ประชาชนของต้าชื่อก็เกรงว่าจะไม่เห็นด้วย พวกเขาคงได้คิดกันแน่ว่าจะจัดการฟู่จาวหนิงทิ้งอย่างไรเพราะประชาชนของต้าชื่อแทบจะรู้สึกกันไปหมดแล้ว ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นยอดเยี่ยมไร้เทียมทานในด้านโชควาสนา เป็นเหมือนเซียนหญิงในใจพวกเขา คนอื่นจะทำให้แปดเปื้อนไม่ได้"ข้าจำได้ว่าเจ้าก่อนหน้านี้ดูฉลาดดี นี่เพราะอยู่กับอวี๋อวี่เวยนานไปจนเริ่มโง่ขึ้นมาแล้วหรือ?"เสิ่นเสวียนน้ำเสียงเย็ฯชา "ถ้าเจ้าเป็นแบบนี้ ก็ไม่เหมาะจะอยู่ข้างกายจาวหนิงแล้ว"เสี่ยวชิ่นตกตะลึง รีบมองไปทางฟู่จาวหนิง"นายท่าน ข้าน้อยไม่กล้าอีกแล้ว ไม่กล้าอีกแล้วจริงๆ! ให้ข้าน้อยติดตามคุณหนูเถิด
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับเข้าเมืองหลวงในวันนี้ ทั้งเมืองหลวงล้วนคึกคักอย่างมากคนทั้งหมดแทบจะออกมาจากบ้าน คนที่พอเบียดตัวไปบนถนนได้ก็ไปกันหมด ร้านรวงสองฟากถนน ชั้นบนชั้นล่างของสถานที่ที่มีประตูหน้าต่างมองมาทางถนนได้ ล้วนเบียดเสียดแออัดกันหมดกระทั่งมีคนปีนขึ้นต้นไม้ ปีนขึ้นกำแพง ปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านด้วยซ้ำได้ยินว่าองค์จักรพรรดิเลือกทหารเอาไว้สามกอง คอยรับผิดชอบระเบียบความปลอดภัย กระทั่งคนในที่ว่าการก็ยังออกกันมา สองฟากถนนล้วนมีทหารทางการคอยกันประชาชนไว้ประชาชนที่เบียดไปด้านหน้าสุดได้ล้วนถือของไว้ในมือ และยังมีคนหิ้วตะกร้า ส่วนของที่ถือก็มีมากมายหลายแบบ แต่หลักๆ ล้วนเป็นของที่เล็กน้ำหนักเบาทั้งสิ้น"อย่าเบียดกัน!""อย่าส่งเสียงดังเอะอะ!""อีกด้วยตอนองค์หญิงใหญ่ผ่าน ถ้าใครโยนของต้องห้ามออกมามั่วซั่ว จะถูกจับขังที่คุกใหญ่ทั้งหมด!""ห้ามทำให้องค์หญิงใหญ่ตกใจเด็ดขาด!"พวกชิ่งอวิ๋นเซียวยืนอยู่ข้างระเบียงชั้นสามของโรงสุราแห่งหนึ่ง มองคนแน่นขนัดที่ด้านล่าง ฟังเสียงจอแจต่างๆ ล้วรู้สึกว่าไม่น่าเชื่อเอาจริงๆถ้าหากไม่ได้มาเห็นกับตา ข้าคงคิดไม่ถึงแน่!" ชิงอีจุ๊ปาก"ใช่แล้ว คิดไม่ถึงเลย
ซือถูไป๋ค่อยๆ กำมือแน่นเขาเข้าใจเป็นอย่างดี ว่าผู้ชายอย่างอ๋องเจวี้ยน จะมีหญิงสาวเข้ามาลุ่มหลงมากขนาดไหนกระทั่งว่าไม่จำเป็นต้องเห็นหน้า ก็ยังต้องชายตามองเขา เขาคิดอยากจะลูบใบหน้าขาวสะอาดของตนเอง อยากจะรู้ว่าใบหน้านี้ของตน จะสู้อ๋องเจวี้ยนได้หรือไม่ชายหนุ่มสองคนมองหน้ากันห่างๆและที่ชั้นล่างของเซียวหลันยวน เสิ่นเสวียนตอนนี้กำลังนั่งอยู่กับฟู่จาวหนิงในห้องชั้นสูง"เดิมทีหออันดับหนึ่งบอกว่าจะเหลือห้องหรูที่มองเห็นถนนไว้ให้ แต่ตอนนี้พวกเราไม่ไปหออันดับหนึ่งแล้ว ที่นี่ก็ไม่ได้แย่กว่าหออันดับหนึ่งสักเท่าไร"หลิวหั่วเองก็อธิบายกับฟู่จาวหนิงว่า "เถ้าแก่ของที่นี่มีความสัมพันธ์กับนายท่านอยู่ การจะเหลือห้องไว้สักห้องไม่ใช่ปัญหาเลย""ท่านลุงสองวันนี้คงไม่ใช่เอาแต่หาคนเพื่อจองที่หรอกใช่ไหม?" ฟู่จาวหนิงปลดผ้าคลุมหมวกออก ผ่อนลมหายใจเมื่อครู่พวกเขาเดินเบียดกันอยู่บนถนนอยู่นานกว่าจะเข้ามาถึงวันนี้บนถนนไม่มีรถม้าเลย ทั้งหมดเบียดแน่นจนไม่มีช่องว่าง กว่าจะเบียดเสียดเข้ามาถึงนี่ไม่ง่ายเลย"จะคอยเอาแต่มาจองที่อยู่ได้อย่างไรกัน?" เสิ่นเสวียนอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ "มีเรื่องต้องไปจัดการน่ะ เรื่อง