เสี่ยวชิ่นมองแผ่นหลังซือถูไป๋ ถอนใจออกมาเงียบๆ"เจ้าถอนใจอะไรของเจ้าน่ะ?" ฟู่จาวหนิงเองก็ทั้งโมโหทั้งขำ"ไม่ ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ แค่รู้สึกว่าคุณชายซือถูเองก็ดีอยู่นะ หน้าตาเองก็ดีด้วย"เสี่ยวชิ่นรู้สึกจริงๆ ว่าซือถูไป๋หน้าตาดีมาก เห็นหรือเปล่าว่าขนาดป้าที่ขายขนมถั่วมั่วครู่ก็ยังต้องชะเง้อคอมามองเขา? ขนาดว่ามองไม่เห็นตัวคนแล้วก็ยังรู้สึกอาลัยอาวรณ์ขนาดนี้คุณชายซือถูเดินอยู่ในฝูงชนแบบนี้ต้องเจิดจ้าแน่นอนคุณหนูของนางเองก็เหมือนกันนะ ดังนั้นสงอคนนี้ถ้าได้เดินเคียงบ่าเคียงไหล่กัน ไม่รู้ว่าจะเป็นภาพที่งดงามขนาดไหนฟู่จาวหนิงฟังออกถึงอาการใจคอเหี่ยวแห้งกับหดหู่ของนาง จึงอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้"อย่าคิดเพ้อเจ้อน่า พวกเราไปดีกว่า"นางเดินตรงไปยังจุดที่ได้กลิ่นวัตถุดิบยาเมื่อคืนนี้ถ้าหากซือถูไป๋พูดเรื่องจริง เช่นนั้นก็เป็นไปได้ว่าบ้านหลังนั้นที่นางได้กลิ่นวัตถุดิบยา คือพ่อค้าวัตถุดิบยาที่ซือถูไป๋มาหาถ้าหากเขาแลกเปลี่ยนวัตถุดิบยาสำเร็จแล้ว นางเองก็อาจจะเสียเที่ยวก็ได้แต่ว่าฟู่จาวหนิงก็ยังไม่เปลี่ยนความคิด ถ้าหากครั้งหน้าอีกฝ่ายยังมียามาให้ล่ะ?เพียงไม่นานนางก็เห็นด้านนอกของเรือนหลังหนึ่ง
ถ้าหากอีกฝ่ายขายวัตถุดิบยาจริง ขายให้นางรับรองว่าไม่ขาดทุนแต่คนเขาตอนนี้ไม่ยินยอม เช่นนั้นก็ช่างมันแล้วกัน"เจ้ารอก่อน!"หญิงสาวคนนั้นพอเห็นนางหมุนตัวจะไป ก็รีบเรียกนางไว้ฟู่จาวหนิงไม่สนใจ เดินตรงออกไปคนเขาบอกว่านางท่าทางเหมือนขโมยแล้ว ทำไมแค่ถูกเรียกไว้ยังต้องหยุดให้ด้วยล่ะ?"ข้าบอกให้เจ้าหยุดก่อนไม่ได้ยินหรือ!"หญิงสาวพุ่งมาขวางหน้านาง กางมือขวางนางไว้ฟู่จาวหนิงมองนาง "ยังมีธุระหรือ?""บ้านข้ามีวัตถุดิบยาอยู่ชนิดหนึ่ง ล้ำค่าเอามากๆ เจ้าอยากจะเห็นไหม?"เสี่ยวชิ่นพูดขึ้นอย่างทนไม่ไหว "เมื่อครู่เจ้าไม่ใช่บอกไม่ให้พวกเราเข้าไปหรือ ทำไมตอนนี้มาเปลี่ยนใจแล้ว?""ข้าไม่ดูแล้ว" ฟู่จาวหนิงตอบ"แม่นางอย่าเพิ่งโกรธกัน อันที่จริงวัตถุดิบยาบ้านข้าเมื่อวานนี้ก็ขายออกไปหมดแล้ว เมื่อครู่เด็กน้อยเขาพูดจาไม่น่าฟัง แต่ก็เพราะไม่มีวัตถุดิบยาแล้วจริงๆ ดังนั้นเมื่อครู่จึงไม่ยอมให้ท่านเข้าไป" ลุงคนนี้รีบเดินเข้ามาขัดตาทัพ"เมื่อคืนขายออกไปแล้วหรือ?""ใช่ ขายให้กับโรงยาทงฝูไปแล้ว" ลุงตอบมาเสี่ยวชิ่นมองไปทางฟู่จาวหนิง ที่แท้คุณชายซือถูก็ไม่ได้โกหกสินะ? เขาพูดความจริงนี่นา เช่นนั้นวันนี้ตอน
ไป๋หู่กับสือซานสืออีอยู่ห่างไปไม่ไกลนักอีกเดี๋ยวการจะย้ายวัตถุดิบยาออกไปก็ไม่ใช่เรื่องยาก"คุณหนู คุณชายซือถูเป็นนายน้อยเจ้าของร้านโรงยาทงฝู วัตถุดิบยาที่เขาไม่ซื้อ ยังจะเป็นวัตถุดิบยาได้หรือ?" เสี่ยวชิ่นไม่ค่อยเข้าใจ"ยังไม่เห็น ต้องเห็นก่อนจึงจะรู้""แต่ว่าลุงคนนี้ชื่อว่าหลี่เหล่าสือเลยนะ" เสี่ยวชิ่นระแวงขึ้นมา ไม่รู้ว่าอีกเดี๋ยวจะซื่อสัตย์(เหล่าสือ) จริงๆ ไหมหลี่เหล่าสือแค่ครู่เดียวก็แบกหาบตะกร้าสานใบหนึ่งออกมา พอว่างลงก็พูดว่า "ยังมีอีกกระสอบหนึ่ง ข้าเข้าไปย้ายมาก่อน"ไม่รอให้ฟู่จาวหนิงพูดอะไร เขาก็วิ่งเข้าไปแล้วครู่หนึ่งก็แบกของกระสอบใหญ่ออกมา ดูเหมือนใส่เอาไว้จนแน่นและหนักเอามากๆเสียงตุบดังขึ้น เขาทิ้งกระสอบลงมา หายใจไม่ทั่วท้องเลยทีเดียว"ของพวกเนี้คือสิ่งที่ข้าขุดมาเอง รวมถึงเก็บกลับมาในช่วงสองปีนี้"หลี่เหล่าสืออธิบายกับฟู่จาวหนิง"เพราะข้าขายยาจำนวนมาก รู้จักกับคนในโรงยาทงฝูด้วย ดังนั้นละแวกนี้ก็จะมีคนที่ขุดยาเอาวัตถุดิบยาที่ตนเองขุดส่งมาให้ข้า บ้างอย่างข้าก็ซื้อมาเลย บางอย่างก็ฝากขาย ดังนั้นวัตถุดิบยาที่ข้าเก็บจึงมีมากขึ้นมา"ฟู่จาวหนิงเดินไปที่ของในตะกร้าสาน
ของเหล่านี้ยังส่งกลิ่นเหม็นไหม้อีกด้วย ภรรยาเขาก็ด่าอยู่บ่อยๆ บอกว่าถ่านเน่าๆ ยังไม่ยอมทิ้งไปอีก"อย่างนี้นี่เอง"ฟู่จาวหนิงขานรับคำหนึ่ง และไปดูวัตถุดิบยาในถุงกระสอบ"สิ่งนี้ก็มีพิษเช่นกัน ใช้มือแตะไม่ได้ พอแตะจะคันทันที ข้าเองก็สกัดไม่เป็น ขับพิษออกไปไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเคยลองจนถูกพิษทำให้เป็นลมไปหลายครั้ง ไม่กล้ายุ่งกับมันอีกแล้ว"หลี่เหล่าสือพูดถึงจุดนี้ก็รู้สึกกังวลขึ้นมา "แม่นาง อันตรายทั้งนั้นเลย ท่านจะเอาไปไหม? ไม่อย่างนั้นก็ช่างมันเถิด"หลี่จื่อเอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆ ก็ร้องขึ้นมา "ท่านพ่อ! นางบอกกับข้าไว้แล้ว ข้ายังไม่ได้บอกว่าช่างมันเสียหน่อย ท่านพูดอะไรออกมาน่ะ!""ของพวกนี้ข้าเองก็ทิ้งส่งเดชไม่ได้ กลัวว่าคนอื่นหรือว่าเด็กเก็บไปอย่างไม่ทันระวัง ถ้าติดพิษขึ้นมาจะกลายเป็นบาปของข้าไป"หลี่เหล่าสือส่ายหัว "แต่ในบ้านเองก็วางไว้ตลอดไม่ได้อีก ถ้าท่านนำไปได้ ข้าจะไม่เก็บเลยสักแดงเดียวจริงๆ""เดิมทีก็บอกไว้แล้ว นางต้องตอบคำถามข้าข้อหนึ่งก่อนนะ!" หลี่จื่อเอ๋อร์ร้องขึ้นมาอีกครั้งเสี่ยวชิ่นมองฟู่จาวหนิงตอนนี้ใครก็มองไม่ออกถึงอารมณ์ของฟู่จาวหนิงและไม่รู้ว่านางสนใจวัตถุดิบยาเหล่
เดิมทีหลี่จื่อเอ๋อร์เมื่อคืนนี้แสดงออกถึงความรักต่อซือถูไป๋ไปแล้ว แต่ซือถูไป๋ปฏิเสธนาง แล้วยังบอกว่าตนเองมีแม่นางในใจคนหนึ่งแล้ววันนี้ตอนเช้านางออกไปเห็นซือถูไป๋กับฟู่จาวหนิงอยู่ด้วยกันสายตาของซือถูไป๋ที่มองฟู่จาวหนิงแถมจะหยาดย้อยอยู่แล้วหลี่จื่อเอ๋อร์หึงหวงขึ้นมาทันทีฟู่จาวหนิงถาม "ข้าไปได้หรือยัง?""เจ้าไปเถอะไปเถอะ ไปไกลๆ หน่อยก็ดี" หลี่จื่อเอ๋อร์โบกไม้โบกมือเหมือนไล่แมลงวันอย่างไรอย่างนั้น น้ำเสียงก็ดูหมดความอดทน "แล้วก็ห้ามเจ้ามาเจอคุณชายซือถูอีกล่ะ! ตระกูลพวกเราก็มีคนอยู่ในวังเหมือนกันนะ!"มีคนในวังเสียด้วย?นางกลัวจังเลยฟู่จาวหนิงยิ้มๆ ไม่สนใจนางอีก พาเสี่ยวชิ่นเดินออกไปตอนนี้นางเองก็ไม่อยากจะเดินเที่ยวแล้ว รีบเดินกลับไปเสิ่นเสวียนกลับมาพอดี พอเห็นพวกไป๋หู่ขนของเหล่านี้ก็รู้สึกสนใจขึ้นมา"จาวหนิงออกไปข้างนอกหรือ?""ขอรับ ใกล้ๆ นี้เอง""เดินไปไม่ไกลแล่วทำไมถึงมีของพวกนี้กลับมากัน? วัตถุดิบยาหรือ?"ไป๋หู่เล่าเรื่องออกมาหลิวหั่วที่อยู่ข้างๆ กังวลหน่อยๆ "เช่นนั้นคุณหนูจาวหนิงถึงได้เอาวัตถุดิบยาไม่มีประโยชน์กลับมามากมายขนาดนี้น่ะหรือ? เพราะว่ากลัวตระกูลหลี่นั่น
เสี่ยวชิ่นได้สติกลับมา ตกใจจนทิ้งตัวลงพื้นดังตุบ หน้าขาวซีดนางปากไวไปหน่อย คิดไม่ถึงว่าที่นี่ไม่ได้อยู่ในบ้านตระกูลเสิ่น เป็นแค่ที่พักชั่วคราวเท่านั้น ยากจะป้องกันเรื่องกำแพงมีหูประตูมีช่องสีหน้าเสิ่นเสวียนยังเย็นเยียบอยู่เสี่ยวชิ่นตกใจจนตัวสั่น พวกของไป๋หู่ก็ไม่มีใครขอความเมตตาให้เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กถ้าหากถูกคนลืออกไป คุณหนูได้มีปัญหาใหญ่แน่มีใครยอมให้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นของพวกเขาต้องโดนกดย่ำไว้บ้าง? องค์จักรพรรดิยังไม่ยอมเลย ประชาชนของต้าชื่อก็เกรงว่าจะไม่เห็นด้วย พวกเขาคงได้คิดกันแน่ว่าจะจัดการฟู่จาวหนิงทิ้งอย่างไรเพราะประชาชนของต้าชื่อแทบจะรู้สึกกันไปหมดแล้ว ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นยอดเยี่ยมไร้เทียมทานในด้านโชควาสนา เป็นเหมือนเซียนหญิงในใจพวกเขา คนอื่นจะทำให้แปดเปื้อนไม่ได้"ข้าจำได้ว่าเจ้าก่อนหน้านี้ดูฉลาดดี นี่เพราะอยู่กับอวี๋อวี่เวยนานไปจนเริ่มโง่ขึ้นมาแล้วหรือ?"เสิ่นเสวียนน้ำเสียงเย็ฯชา "ถ้าเจ้าเป็นแบบนี้ ก็ไม่เหมาะจะอยู่ข้างกายจาวหนิงแล้ว"เสี่ยวชิ่นตกตะลึง รีบมองไปทางฟู่จาวหนิง"นายท่าน ข้าน้อยไม่กล้าอีกแล้ว ไม่กล้าอีกแล้วจริงๆ! ให้ข้าน้อยติดตามคุณหนูเถิด
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับเข้าเมืองหลวงในวันนี้ ทั้งเมืองหลวงล้วนคึกคักอย่างมากคนทั้งหมดแทบจะออกมาจากบ้าน คนที่พอเบียดตัวไปบนถนนได้ก็ไปกันหมด ร้านรวงสองฟากถนน ชั้นบนชั้นล่างของสถานที่ที่มีประตูหน้าต่างมองมาทางถนนได้ ล้วนเบียดเสียดแออัดกันหมดกระทั่งมีคนปีนขึ้นต้นไม้ ปีนขึ้นกำแพง ปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านด้วยซ้ำได้ยินว่าองค์จักรพรรดิเลือกทหารเอาไว้สามกอง คอยรับผิดชอบระเบียบความปลอดภัย กระทั่งคนในที่ว่าการก็ยังออกกันมา สองฟากถนนล้วนมีทหารทางการคอยกันประชาชนไว้ประชาชนที่เบียดไปด้านหน้าสุดได้ล้วนถือของไว้ในมือ และยังมีคนหิ้วตะกร้า ส่วนของที่ถือก็มีมากมายหลายแบบ แต่หลักๆ ล้วนเป็นของที่เล็กน้ำหนักเบาทั้งสิ้น"อย่าเบียดกัน!""อย่าส่งเสียงดังเอะอะ!""อีกด้วยตอนองค์หญิงใหญ่ผ่าน ถ้าใครโยนของต้องห้ามออกมามั่วซั่ว จะถูกจับขังที่คุกใหญ่ทั้งหมด!""ห้ามทำให้องค์หญิงใหญ่ตกใจเด็ดขาด!"พวกชิ่งอวิ๋นเซียวยืนอยู่ข้างระเบียงชั้นสามของโรงสุราแห่งหนึ่ง มองคนแน่นขนัดที่ด้านล่าง ฟังเสียงจอแจต่างๆ ล้วรู้สึกว่าไม่น่าเชื่อเอาจริงๆถ้าหากไม่ได้มาเห็นกับตา ข้าคงคิดไม่ถึงแน่!" ชิงอีจุ๊ปาก"ใช่แล้ว คิดไม่ถึงเลย
ซือถูไป๋ค่อยๆ กำมือแน่นเขาเข้าใจเป็นอย่างดี ว่าผู้ชายอย่างอ๋องเจวี้ยน จะมีหญิงสาวเข้ามาลุ่มหลงมากขนาดไหนกระทั่งว่าไม่จำเป็นต้องเห็นหน้า ก็ยังต้องชายตามองเขา เขาคิดอยากจะลูบใบหน้าขาวสะอาดของตนเอง อยากจะรู้ว่าใบหน้านี้ของตน จะสู้อ๋องเจวี้ยนได้หรือไม่ชายหนุ่มสองคนมองหน้ากันห่างๆและที่ชั้นล่างของเซียวหลันยวน เสิ่นเสวียนตอนนี้กำลังนั่งอยู่กับฟู่จาวหนิงในห้องชั้นสูง"เดิมทีหออันดับหนึ่งบอกว่าจะเหลือห้องหรูที่มองเห็นถนนไว้ให้ แต่ตอนนี้พวกเราไม่ไปหออันดับหนึ่งแล้ว ที่นี่ก็ไม่ได้แย่กว่าหออันดับหนึ่งสักเท่าไร"หลิวหั่วเองก็อธิบายกับฟู่จาวหนิงว่า "เถ้าแก่ของที่นี่มีความสัมพันธ์กับนายท่านอยู่ การจะเหลือห้องไว้สักห้องไม่ใช่ปัญหาเลย""ท่านลุงสองวันนี้คงไม่ใช่เอาแต่หาคนเพื่อจองที่หรอกใช่ไหม?" ฟู่จาวหนิงปลดผ้าคลุมหมวกออก ผ่อนลมหายใจเมื่อครู่พวกเขาเดินเบียดกันอยู่บนถนนอยู่นานกว่าจะเข้ามาถึงวันนี้บนถนนไม่มีรถม้าเลย ทั้งหมดเบียดแน่นจนไม่มีช่องว่าง กว่าจะเบียดเสียดเข้ามาถึงนี่ไม่ง่ายเลย"จะคอยเอาแต่มาจองที่อยู่ได้อย่างไรกัน?" เสิ่นเสวียนอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ "มีเรื่องต้องไปจัดการน่ะ เรื่อง
ฟู่จิ้นเชินอันที่จริงก็เตรียมใจไว้แล้วตอนนั้นพวกเขาออกจากเมืองไปแบบนั้น หลายๆ เรื่องยังคงอยู่ ทั้งที่เกี่ยวกับราชวงศ์ท่านอ๋อง ทั้งที่เกี่ยวข้องกับองค์จักรพรรดิ และไม่มีทางที่จะลืมเลือนจากเวลาที่ไหลผ่านไปกระทั่งองค์จักรพรรดิก็ไม่แน่ว่าจะลืมพวกเขาถ้าหากไม่ใช่เพราะลูสาวของพวกเขาจับพลัดจับผลู พบบุพเพมหัศจรรย์จนไปแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยน ตอนนี้พวกเขายังไม่ทันเข้าเมืองหลวงก็คงถูกคนของอ๋องเจวี้ยนจับไปแล้วสิ่งที่รอพวกเขาก็คือการจำคุกและการไต่สวนหรือบางที คนที่รู้เรื่องเบื้องหลังในตอนนั้น หรือคนที่สงสัยว่าพวกเขาไปรู้ความลับอะไรเข้า ตอนนี้อาจจะเปิดเผยตัวกันออกมาถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่มีทางเป็นแบบตอนนี้ ที่ยังเข้าเมืองมาได้อย่างปลอดภัย กลับมาที่บ้านกระทั่งว่า บ้านตระกูลฟู่เองก็อาจจะไม่อยู่แล้วด้วย บ้านหลังนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะยังอยู่ที่นี่เพื่อรอพวกเขากลับบ้านกลับบ้าน ใช่แล้ว พวกเขาในที่สุดก็กลับมาบ้านแล้วและทั้งหมดนี้ เป็นเพราะจาวหนิงเป็นจาวหนิงที่ให้พวกเขากลับมาบ้านได้ฟู่จิ้นเชินเข้าใจจุดนี้ได้ดียิ่งกว่าใครรอจนอารมณ์ของทุกคนนิ่งลงมาแล้ว เขาจึงถามถึงผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวหนิ
ฟู่จาวหนิง! พระชายาอ๋องเจวี้ยน! พวกเขาล้วนได้ยินเรื่องของนางมาไม่น้อย นั่นไม่ใช่คนที่ไปยั่วยุได้เลยนะ นางกระทั่งองค์จักรพรรดิก็ยังกล้าไปต่อปากต่อคำด้วย พวกเขาในสายตาฟู่จาวหนิงไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น!ถ้าถูกจับจ้องไว้ล่ะก็ พวกเขาหลังจากนี้ได้เดือดร้อนแน่!คนเหล่านี้ล้วนขวัญเสียกันหมดแล้วคนที่ให้พวกเขาเข้ามาเอะอะบอกไว้ว่า ถ้าเอาคนมาเยอะๆ แล้วบวกกับเรื่องเมื่อสิบแปดปีก่อนเข้าไป ฟู่จิ้นเชินจะต้องนึกพวกเจ้าไม่ออก จำพวกเจ้าไม่ได้แน่ขอแค่เอาคนมามากพอ สถานการณ์วุ่นวายพอ แค่พวกเขาสร้างความวุ่นวายแล้วหนีไป ตระกูลฟู่ก็จับมือใครดมไม่ได้หรอกแต่ใครจะคิดว่าฟู่จิ้นเชินจะมาไม้นี้?"ฟู่ สหายฟู่ ไม่ต้องจดหรอก พวกเราก็แค่เจอพวกเจ้าบนถนนเท่านั้น...""ใช่ๆๆ ไม่มีใครมาแจ้งพวกเรา""พวกเรามีที่มาแหล่งข่าวเสียที่ไหน เข้าใจผิดแล้ว..."พวกเขาคิดจะถอย ถ้าหากไปถึงฟู่จาวหนิงคงวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นแน่"ในเมื่อมากันแล้ว เช่นนั้นก็มาคุยเรื่องเก่ากันก่อนเถิด อย่าเพิ่งรีบไปกัน" ฟู่จิ้นเชินเอ่ยขึ้นอย่างสงบ "พวกเจ้าไม่ใช่มาหาสหายเก่าอย่างข้าหรอกหรือ?""เจ้ากับฮูหยินเพิ่งกลับมา น่าจะเหนื่อยกันแล้ว พวกเราเอาไว้ค่อ
พวกของเซี่ยซื่อยังไม่ทันได้พูดเรื่องอ๋องเจวี้ยน ด้านนอกก็มีคนออกแรงตบประตูบ้านตระกูลฟู่ขึ้นเสียงดังเฉินซานออกไปเปิดประตู คนกลุ่มหนึ่งก็ทะลักเข้ามาคนเหล่านี้ เฉินซานคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ ก่อนหน้านี้ตอนที่เขายังเป็นนักเลงหัวไม้อยู่ในเมืองหลวง จริงๆ ก็ให้ความสนใจกับพวกพ่อค้าขุนนางระดับล่างเหล่านี้อยู่คนเหล่านี้ล้วนอายุราวสามสี่สิบปี อายุประมาณฟู่จิ้นเชิน"คุณชายใหญ่ฟู่!""เร็ว ได้ยินว่าอัจฉริยะใหญ่ฟู่กลับมาแล้วหรือ?""คุณชายฟู่กลับมาแล้วจริงหรือ?"คนกลุ่มหนึ่งทะลักเข้ามา ล้วนมองอย่างตื่นเต้นมาที่ฟู่จิ้นเชินขณะที่ยังตกใจกับความหล่อเหลาราววัยหนุ่มของฟู่จิ้นเชิน กับความสวยสะพรั่งของเสิ่นเชี่ยว พวกเขาลืมเป้าหมายที่มายังบ้านตระกูลฟู่นี้แล้วพวกเขาแย่งกันพูดขึ้นมา"สหายฟู่ ให้ตายเถอะ เจ้ายังไม่ตายจริงๆ!""คุณชายฟุ่ ยังจำข้าได้ไหม? ข้าต่งฮั่น ตอนนั้นที่เคยสนุกด้วยกันกับเจ้าที่โรงน้ำชา!""จิ้นเชิน ข้าเหอจาวหลิน พวกเราตอนนั้นเกือบจะได้เป็นศิษย์ของอาจารย์คนเดียวกันแล้ว!""อัจฉริยะใหญ่ฟู่ ตอนนั้นพวกเราเดิมพันงานเขียนกันหลายครั้ง พอเจ้าหายตัวไปสิบแปดปีข้าก็คิดถึงเจ้าตลอดเลย เจ้ากลับมาได
ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายยังดูยังสับสนอยู่ ยังไม่มีใจจะไปคิดเล็กคิดน้อยนัก"นี่คือลูกสาวของข้าอันห่าว นางตอนนี้ใช้สกุลเซี่ยเหมือนข้า" เซี่ยซื่อปาดน้ำตาเอ่ยขึ้นเสิ่นเชี่ยวประคองเซี่ยอันห่าวลุกขึ้นดูแล้วเซี่ยซื่อน่าจะมีเรื่องบางอย่างกับตระกูลหลิน ยิ่งไปกว่านั้นในนี้จะต้องเป็นฝีมือของจาวหนิงแน่"ต้องขอบคุณจาวหนิง นางเก็บแม่ลูกอย่างพวกเรามา ไม่เช่นนั้นพวกเราคงไม่รอดกันแล้ว" เซี่ยซื่อเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตา ได้สติขึ้นอีกครั้ง "รีบเข้าห้องเร็ว หิมะตกแล้ว ด้านนอกหนาวมาก"คนที่เหมือนแมลงกาฝากในตระกูลฟู่พวกนั้นก็ถูกฟู่จาวหนิงกวาดออกไปแล้ว เรื่องนี้สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินรู้แล้วพวกเขาเข้ามาในโถงใหญ่ ลุงจงป้าจงกับหู่จือล้วนได้ยินการเคลื่อนไหว ทั้งหมดจึงวิ่งเข้ามา"คุณชาย คุณชายใหญ่กับฮูหยินน้อยกลับมาแล้วหรือ?""คุณชาย!"ป้าจงกับลุงจงวิ่งเข้ามาก่อน พอเห็นฟู่จิ้นเชินชัดๆ พวกเขาก็น้ำตาไหลอาบทันที ทิ้งตัวลงคุกเข่า"คุณชาย ฮูหยินน้อย พวกท่านกลับมาได้เสียที พวกท่านยังมีชีวิตอยู่ ข้าน้อยรู้อยู่แล้ว ว่าพวกท่านจะต้องมีโชคที่ดีแน่นอน..."พวกเขาล้วนร้องไห้กันออกมาตอนนั้นที่พวกเขาออกไป หู่จือยังเป็นเด็กน้อยอย
แม้จะผ่านไปเกือบสิบแปดปีแล้ว แต่สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวก็ยังเป็นคนที่กาลเวลารักใคร่อยู่พวกเขาแม้จะอายุมากแล้ว หน้าตาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นบ้าง แต่พอเทียบกับสมัยก่อนแล้ว ก็เปลี่ยนแปลงไปไม่เยอะมากมองหลายๆ ครั้งก็มองออกได้คนที่เซียวเหยียนจิ่งเตรียมไว้ยังมองออก ไม่ต้องพูดถึงเซี่ยซื่อเลยเซี่ยซื่อเคยเป็นครอบครัวของพวกเขาด้วยนะหลังจากนางจำได้แล้วยังสงสัยว่าตาตนเองฝาดไปหรือไม่ ยังสงสัยว่าตนเองคงตาลาย ดังนั้นเลยนวดตาทันที จากนั้นจึงมองพวกเขาอย่างละเอียดอีกครั้งไม่เปลี่ยน ยังคงเป็นสองคนนั้นเสิ่นเชี่ยวเองก็จำเซี่ยซื่อได้ แม้ว่านางจะรู้ตัวตนฐานะของตนเองแล้ว แต่ยังคงโพล่งออกมาว่า "พี่สะใภ้รอง!"เซี่ยซื่อคือภรรยาของผู้เฒ่ารองตระกูลหลินและเป็นคนเดียวในตระกูลหลินที่อ่อนโยนเป็นห่วงเสิ่นเชี่ยว ดังนั้นเสิ่นเชี่ยวพอเห็นนาง ดวงตาจึงแดงรื้นขึ้นมาคำว่าพี่สะใภ้รอง ก็ทำเอาเซี่ยซื่อใจสั่นระริกเช่นกันรีบวางตะกร้าที่หิ้วไว้ลงมา เดินตรงไปหานาง"ให้ตายเถอะ อา อาเล็กหรือ?"ไม่ ไม่ใช่อาเล็กชองนางแล้วสิ เซี่ยซื่อยืนอยู่หน้าเสิ่นเชี่ยว ถลึงตาโตอ้าปากค้าง"พี่สะใภ้รอง ข้าข้าเจอครอบครัวของข้าแ
ฟู่จาวหนิงสีหน้าขรึมลงเล็กน้อย "ดูท่า น่าจะมีคนไม่น้อยที่ยังไม่ลืมพวกเขา คอยจับตาดูจนถึงทุกวันนี้""ข้าเตรียมการเสร็จแล้ว รอบบ้านตระกูลฟู่วางองครักษ์ลับเอาไว้แล้ว วางใจเถอะ" เซียวหลันยวนพานางเข้ามา สองมือโอบข้างเอวนาง จ้องมองนาง "องค์จักรพรรดิน่าจะลงมือกับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นพ่อลูกชินอ๋องเซียวยังคอยจับตาดูพวกเขาขนาดนี้ มันดูแปลกไปหน่อย""ตรวจสอบดูก็รู้ พวกเขาถ้าหากมีความคิดอะไร มีแผนอะไร มีเป้าหมายอะไร เดี๋ยวก็ได้รู้เอง"ฟู่จาวหนิงไม่ได้ใส่ใจนักเซียวหลันยวนพยักหน้าสายตาเขามองออกไปไกลๆ ถัดจากนี้ต้องดูว่าสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินจะรับมืออย่างไร เมืองหลวงยังมีคนที่มีเป้าหมายต่างๆ อยู่ และยังมีขั้วอำนาจที่ใช้วิธีการต่างๆ อยู่อีกด้วยเขาถึงแม้จะเชื่อว่าครั้งนั้นไม่ใช่เสิ่นเชี่ยวที่วางยาพิษ แต่ว่าพวกเขาตอนนั้นถูกใครบางคนหรือเรื่องบางอย่างหนีบเอาไว้ตรงกลาง ไม่มีทางดึงตัวออกมาอย่างหมดจดได้ พวกเขาเองก็เป็นคนในเหตุการณ์ตอนนี้พอมีความสัมพันธ์เช่นนี้กับเขา เซียวหลันยวนก็ยังพิจารณานาว่าพวกเขาจะแบกรับไหวไหม หลังจากนี้จะไม่ถ่วงแข้งขาฟู่จาวหนิงได้จริงไหม จะไม่ทำร้ายนางจริงไหมเซียวหลันยวนไม่ได้
"หนิงหนิง มีเรื่องอะไรถึงคุยกันนานสองนาน?"ในห้องขังมีเสียงเซียวหลันยวนดังออกมา"มาแล้ว"ฟู่จาวหนิงขานรับคำหนึ่ง เตรียมจะกลับห้องขังเซียวเหยียนจิ่งไม่อยากเชื่อ "เจ้าไม่ไปกับข้าจริงหรือ? เจ้าไม่สนใจพ่อแม่เจ้าหรือไรกัน?"ปฏิกิริยาของฟู่จาวหนิงเกินจากที่เขาคาดไว้เขาเดิมทีคิดว่าพอได้ยินว่าพ่อแม่ไม่เป็นไร แล้วยังกลับมาแล้ว ฟู่จาวหนิงอย่างน้อยต้องตาแดงรื้นบ้าง ไม่ก็ร้องไห้ออกมา รีบร้อนตามเขาออกไปอย่างตื่นเต้น เพื่อรีบไปพบพ่อแม่ของนาง"อ๋องเจวี้ยนถึงอย่างไรก็ยังต้องอยู่ในห้องขัง ไม่มีอะไรหรอก เจ้าจัดที่นี่จนดูอยู่สบายไปแล้ว แล้วเขาทำไมยังต้องให้เจ้ามาอยู่ด้วยกันอีก?""ข้ามาอยู่เอง เขาเป็นสามีข้า ข้าไม่อยู่กับเขาแล้วใครจะอยู่กัน?"ฟู่จาวหนิงหลังจากที่รู้เจตนาการมาของเขาก็ขี้เกียจจะคุยกับเขาแล้ว ผลักเขาออก แล้วเดินไปทางห้องขังเซียวเหยียนจิ่งนี่ก็จุ้นจ้านเสียจริง"เจ้าทำไมถึงต้องทำร้ายตัวเองแบบนี้" เซียวเหยียนจิ่งตะโกนใส่หลังนาง "เจ้าเข้าร่วมกับสมาคมหมอใหญ่แล้ว ถ้าเจ้ายินยอม มีคนตั้งมากมายที่ยินดีจะรักและเอ็นดูเจ้า ทำไมต้องมาอยู่ในคุกกับเขาแบบนี้ด้วย"เดิมทีหญิงสาวคนนี้ควรจะควรจะม
"ใช่ พ่อแม่ของเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังกลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว" เซียวเหยียนจิ่งจ้องมองฟู่จาวหนิง "เป็นอย่างไร เจ้าอยากรีบกลับบ้านไหม? ได้ยินว่าปู่ของเจ้ากับเด็กที่ชื่อเสี่ยวเฟยก็อยู่กันที่จวนอ๋องเจวี้ยนนี่? ถ้าเจ้าไม่กลับไป พ่อแม่ของเจ้าคงจะหาคนไม่เจอแน่"ฟู่จาวหนิงทำท่าทางตกตะลึงอย่างมาก"เจ้าไม่ได้โกหกข้าใช่ไหม? พวกเขากลับมาแล้วจริงหรือ?""ข้าจะโกหกเจ้าทำไมกัน? ไม่เชื่อข้าตอนนี้เจ้าก็ไปกับข้าสิ ข้าจะพาเจ้าไปหาพวกเขา"เซียวเหยียนจิ่งพูด มือเองก็คันยุบยิบ เขาอยากจะยื่นมือไปจูงนางเหลือเกิน จูงนางออกจากคุกใหญ่ถ้าเขาสามารถจูงมือนางออกไปได้ เซียวหลันยวนคงได้กระอักเลือดตายกระมัง?แต่เขาเพิ่งจะขยับ ฟู่จาวหนิงก็ถอยออกไปแล้วสองก้าว"พวกเขาถ้ากลับมาแล้วจริง เช่นนั้นก็ต้องกลับไปที่บ้านตระกูลฟู่ ที่บ้านตระกูลฟู่มีคนอยู่ พวกเขาจะหาคนไม่เจอได้อย่างไรกัน?""เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ?""เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าวิ่งแจ้นเข้ามาบอกข้าหรอกกระมัง? พวกเขาถ้ากลับมาแล้วจริง คนใช้บ้านตระกูลฟู่อีกเดี๋ยวก็คงเข้ามาบอกข้าเอง""เจ้าลืมอ๋องเจวี้ยนไปแล้วหรือ?""เขาก็อยู่ที่นี่ ลืมอะไรกัน?""ความ
ฟู่จาวหนิงอยู่ในคุกเองก็เบื่อหน่อยๆ แล้วนางเหลือบมองเซียวเหยียนจิ่งผาดหนึ่ง จากนั้นจึงตรงไปด้าหน้าเซียวหลันยวน "ข้าออกไปฟังหน่อยได้ไหม?""ไปเถอะ" เซียวหลันยวนพยักหน้า"เอ๋ ไม่หึงแล้วหรือ?" ฟู่จาวหนิงร้องชิชะเซียวหลันยวนหัวเราะเสียงทุ้ม "อย่าไปไกลนักล่ะ ข้าได้ยินอยู่"ถึงอย่างไรนางก็เบื่อๆ ถ้าเซียวเหยียนจิ่งพูดเรื่องอะไรที่ทำให้นางฆ่าเวลาได้ เช่นนั้นเขาก็ควรจะใจกว้างหน่อยแต่ว่า พวกเขาเดินไปไกลมากไม่ได้ ต้องอยู่ในระยะที่เขาสามารถได้ยิน"รู้อยู่แล้วว่าท่านจะใจกว้างหลอกๆ"ฟู่จาวหนิงวางพู่กัน ปรบๆ มือ จากนั้นจึงเดินออกจากห้องขัง"คิดจะพูดอะไร?"เซียวเหยียนจิ่งเดิมทีคิดจะให้เซียวหลันยวนหึงหวง ดังนั้นจึงไม่คิดจะเดินไปไกลนัก"มานี่หน่อย" เซียวเหยียนจิ่งเดินออกมาข้างๆ ไม่กี่ก้าว รู้สึกว่าระยะนี้เซียวหลันยวนน่าจะได้ยินเหมือนคนคุยกันแต่ไม่ได้ยินเนื้อหาด้านในเช่นนี้ก็พอดีฟู่จาวหนิงร้องเชอะในใจ น่าจะเข้าใจความคิดของเขาเพียงแต่เซียวเหยียนจิ่งก็ยังโง่อยู่ เขาคิดว่าระยะนี้เซียวหลันยวนไม่ได้ยินหรือไรกัน?นางเดินออกไปเซียวเหยียนจิ่งบอกกับผู้คุมข้างๆ คำหนึ่ง ให้เขาออกไปก่อนผู้คุม