Share

บทที่ 1026

Aвтор: จุ้ยหลิงซู
ซือถูไป๋ค่อยๆ กำมือแน่น

เขาเข้าใจเป็นอย่างดี ว่าผู้ชายอย่างอ๋องเจวี้ยน จะมีหญิงสาวเข้ามาลุ่มหลงมากขนาดไหน

กระทั่งว่าไม่จำเป็นต้องเห็นหน้า ก็ยังต้องชายตามองเขา เขาคิดอยากจะลูบใบหน้าขาวสะอาดของตนเอง อยากจะรู้ว่าใบหน้านี้ของตน จะสู้อ๋องเจวี้ยนได้หรือไม่

ชายหนุ่มสองคนมองหน้ากันห่างๆ

และที่ชั้นล่างของเซียวหลันยวน เสิ่นเสวียนตอนนี้กำลังนั่งอยู่กับฟู่จาวหนิงในห้องชั้นสูง

"เดิมทีหออันดับหนึ่งบอกว่าจะเหลือห้องหรูที่มองเห็นถนนไว้ให้ แต่ตอนนี้พวกเราไม่ไปหออันดับหนึ่งแล้ว ที่นี่ก็ไม่ได้แย่กว่าหออันดับหนึ่งสักเท่าไร"

หลิวหั่วเองก็อธิบายกับฟู่จาวหนิงว่า "เถ้าแก่ของที่นี่มีความสัมพันธ์กับนายท่านอยู่ การจะเหลือห้องไว้สักห้องไม่ใช่ปัญหาเลย"

"ท่านลุงสองวันนี้คงไม่ใช่เอาแต่หาคนเพื่อจองที่หรอกใช่ไหม?" ฟู่จาวหนิงปลดผ้าคลุมหมวกออก ผ่อนลมหายใจ

เมื่อครู่พวกเขาเดินเบียดกันอยู่บนถนนอยู่นานกว่าจะเข้ามาถึง

วันนี้บนถนนไม่มีรถม้าเลย ทั้งหมดเบียดแน่นจนไม่มีช่องว่าง กว่าจะเบียดเสียดเข้ามาถึงนี่ไม่ง่ายเลย

"จะคอยเอาแต่มาจองที่อยู่ได้อย่างไรกัน?" เสิ่นเสวียนอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ "มีเรื่องต้องไปจัดการน่ะ เรื่อง
Заблокированная глава
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1027

    ฟู่จาวหนิงตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนอยู่ข้างบนนี้พอดีเพราะด้านนอกเอะอะกันมาก เซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้ยินเสียงที่ชั้นล่างซือถูไป๋อันที่จริงก็มีความคิดเดียวกับเซียวหลันยวน รู้สึกว่าเสิ่นเสวียนจะต้องหาที่ดีดีได้เช่นกัน ดังนั้นจึงคอยส่ายตามองไปรอบๆ ดูว่าจะหาตัวฟู่จาวหนิงพบไหมเพียงแต่พวกเขาพอเห็นอีกฝ่ายเข้าเมื่อครู่ ความสนใจจึงตกไปอยู่บนตัวฝั่งตรงข้ามแล้ว ไม่ได้มองลงมาข้างล่าง จึงพลาดร่องรอยตอนที่พวกฟู่จาวหนิงเบียดเสียดกลุ่มคนเข้าไปในร้านนี้นั่นเองหลิวหั่วพักไปครู่หนึ่ง ก็เดินไปที่ระเบียงทางนั้นด้วยเช่นกัน "ข้าลองดูหน่อยว่ามองลงไปจากชั้นสองนี่จะมีความรู้สึกอย่างไร"เขาตอนนี้เพิ่งออกไป ก็มองเห็นซือถูไป๋ที่อยู่ข้างหน้าต่างชั้นสองฝั่งตรงข้ามทันทีหลิวหั่วร้องประหลาดใจ ถอยกลับมาในห้องทันที"มีอะไรหรือ?" ฟู่จาวหนิงถามหลิวหั่วชี้ไปฝั่งตรงข้าม "พวกท่านว่าบังเอิญไปไหม? ซือถูไป๋อยู่ฝั่งตรงข้าม!""บังเอิญขนาดนี้เชียว" ฟู่จาวหนิงเองก็รู้สึกเกินคาดนี่มีวาสนากับซือถูไป๋ขนาดนั้นเลยหรือ? ถึงได้บังเอิญเจอเขาตลอดแบบนี้!เสี่ยวชิ่นเองก็มองออกไปบ้าง นางเมื่อครู่ยังไม่เห็นเลยนะ ตอนนี้พอเห็น

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1028

    นายท่าน คำพูดที่คิดจะแยกอ๋องเจวี้ยนกับคุณหนูออกจากกันนี่มันอะไรกัน?ถ้าเผื่อคำพูดเขาเมื่อครู่ ทำให้เสิ่นเสวียนเกิดความคิดที่จะแยกอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาออกมาจริงๆ เช่นนั้นเขาก็ทำผิดมหันต์ไปเสียแล้ว"ไม่ใช่เช่นนั้นขอรับ น่าจะเพราะเฮยอวิ๋นขี้ขลาดไปหน่อย" หลิวหั่วรีบเอ่ยขึ้นเสิ่นเสวียนเหล่มองเขาอีกไม่พูดจาหลิวหั่วไม่กล้าพูดอะไรเรื่อยเปื่อยอีกแล้วเซียวหลันยวนเจอแต่ซือถูไป๋ แต่หาฟู่จาวหนิงไม่เจอ กลิ่นอายทั้งตัวจึงเย็นเยียบ กลับมานั่งลงในห้องชิ่งอวิ๋นเซียวมองเขาสองวันนี้เขารู้สึกเหมือนกับเฮยอวิ๋น อ๋องเจวี้ยนกลิ่นอายเย็นเยียบไปหมด เหมือนจะหักคอคนทิ้งได้ตลอดเวลาเลยเขาไม่กล้าอยู่ใกล้เซียวหลันยวนนัก"ท่านอ๋อง ส่งคนออกไปหาพระชายาแล้ว วันนี้คึกคักขนาดนี้ ท่านเสิ่นจะต้องพานางออกมาชมแน่"หาเจอแล้วจะทำอย่างไรต่อล่ะ?เซียวหลันยวนคิดในใจ รู้สึกหมดเรี่ยวแรงกับงุนงงขึ้นมาทันทีเขาเองก็ไม่รู้ว่าหาฟู่จาวหนิงพบแล้วจะทำอย่างไรต่อ เขาจะไปมัดนางมาอยู่ข้างกาย หรือก็คือ เขาสามารถปลดหน้ากากลงมาเผชิญหน้ากับนางดีดีได้ไหม?จะอธิบายกับนางได้ไหมว่าตอนนี้เขามีความคิดอย่างไร?"ช่างเถอะ ไม่ต้องหาแล้ว" เ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1029

    ในวังจักรพรรดิ องค์จักรพรรดิต้าชื่ออยู่ในชุดมังกรเหลืองสว่าง กำลังรอให้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้าวัง"ถึงไหนแล้ว?""ใต้ฝ่าพระบาท เพิ่งจะเข้ามายังถนนหลวง ประชาชนกำลังล้อมออแน่นขนัด ขบวนพิธีขององค์หญิงใหญ่น่าจะเคลื่อนตัวได้ช้าสักหน่อย" คนในวังรายงาน"อืม ก็เป็นเรื่องปกติ ให้เหล่าประชาชนได้อธิษฐานความสุขเสียบ้าง พวกเขาล้วนเป็นประชาชนของข้า ถ้าพวกเขาดี ข้าก็ดีด้วย" องค์จักรพรรดิแสดงว่าความใจกว้างของตนเองออกมา และยังดูอ่อนโยนมีเมตตาธรรมด้วย"ฝ่าบาท" ฮองเฮาที่อยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้นอย่างอบอุ่น "องค์หญิงใหญ่กลับมาครั้งนี้ ดูฝ่าบาทกระปรี้กระเปร่าเป็นพิเศษเลยนะ""แล้วไม่ใช่หรือไรกัน?" องค์จักรพรรดิหัวเราะร่าขึ้นมา "ฝูอวิ้นนางเป็นโชควาสนาของข้ามาตลอดเลย"พูดขึ้นมาก็น่าประหลาด องค์จักรพรรดิเมื่อเดือนก่อนรู้สึกว่าร่างกายเชื่องช้าไปหน่อย กินก็ไม่ดีนอนก็ไม่ค่อยจะหลับ หัวเองก็ปวดๆ มึนๆ เป็นระยะ หมอหลวงก็มาตรวจไปไม่รู้กี่ครั้ง กลับยังตรวจไม่เจอว่าเขาป่วยเป็นอะไรเหมือนว่าจะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่องค์จักรพรรดิเองก็รู้สึกว่าไม่สบาย ไม่ผ่อนคลาย ใจก็กระสับกระส่าย กลัวมากว่าจะป่วยเป็นโรคแฝงอะไร แล้วหมอหลวงตรวจ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1030

    พวกถุงหอม ผ้าเช็ดมือ แถบผ้าแดง พู่ห้อยอะไรพวกนั้น ก็ทยอยกันถูกขว้างไปยังรถลากด้านหน้าและหลังขององค์หญิงใหญ่ราวกับเป็น "สายฝน" พร่างฟ้าอย่างไรอย่างนั้น ดูแล้วละลานตาไปหมดเสาทั้งสี่ของรถลากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมีผ้าแพรติดอยู่ ผ้าแพรบางมาก มองเห็นคนที่นั่งอยู่ด้านใน แต่มองไม่เห็นใบหน้าจริงคนที่นั่งด้านในอยู่ในชุดหรูหรา ปิ่นไข่มุกพู่ระย้าโยกไหวเบาๆ ยืดตัวไหล่ตรง นั่งอย่างสวยงามเพียบพร้อมแค่เห็นโครงร่าง ก็รู้สึกว่าต้องสง่างามไร้เทียมทานแน่ๆทุกคนในที่สุดก็ได้เห็นองค์หญิงใหญ่แล้ว จึงยิ่งฮือฮาขึ้นไปอีกประชาชนที่โยนของชิ้นเล็กอธิษฐานเรียบร้อยก็คุกเข่าลงกันพรึบพรับ"ขอองค์หญิงใหญ่โปรดประทานโชค!"ขบวนพิธีเคลื่อนที่ไป สองข้างทางก็โยนของเข้ามาพลางกราบกราน ราวกับกระแสน้ำขึ้นอย่างไรอย่างนั้นฟู่จาวหนิงยืนอยู่ชั้นสองมองฉากนี้แล้วรู้สึกเปิดโลกทัศน์พลังนี้ขององค์หญิงใหญ่ช่างน่าซาบซึ้งจริงๆองค์หญิงใหญ่แค่นั่งอยู่บนรถลากพยักหน้าเป็นบางจังหวะ ยกมือส่งสัญญาณ เสียงโห่ร้องของประชาชนก็ยิ่งดังมากขึ้นตอนนี้เป็นช่วงแสงแดดแรงกล้านะ แต่ไม่รู้เพราะอะไร จู่ๆ ท้องฟ้าก็ย้อมไปแสงส่องทอเมฆ สายฝนยามแดดอ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1031

    ในกลีบดอกไม้แดงพร่างฟ้า คุณชายสะโอดสะองข่าวผ่องคนหนึ่งราวกับเป็นจันทร์กระจ่างแขวนอยู่บนฟ้าสูงซือถูไป๋ก้มหน้าลง เขาเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นแล้วเครื่องประดับหน้าผากราวกับเมฆดำครอบอยู่บนหน้าผากขาวสว่าง ใบหน้าสวยพราวสง่างาม ดวงตาใส่กระจ่างราวสายน้ำ สีหน้าอ่อนโยนประดุจเมฆปุยฝ้ายสายตาทั้งสองประสานกัน คั่นไว้ด้วยกลีบดอกไม้สีแดงปลิวไสวอาเพียนที่ยืนโปรยกลีบดอกไม้บนหลังคาพอเห็นฉากนี้ ก็ดีอกดีใจจนเกือบจะลื่นตกลงมาด้านล่างหลายวันนี้คุณชายไม่พาเขาไปไหนเลย แต่เขาเดิมทีก็ได้รับการกำชับจากนายท่านมา ว่าถึงอย่างไรก็ต้องให้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นคุชาย ตอนนี้ภารกิจของเขาถือว่าสำเร็จแล้วกระมัง?ด้วยการแต่งกายที่เหนือคนทั่วไปและใบหน้าที่หล่อเหลาเช่นนี้ ขอแค่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองเห็น จะต้องจดจำเขาไว้ในใจแน่นอนตอนที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นซือถูไป๋ ซือถูไป๋ก็ได้สติกลับมา จู่ๆ ก็มองไปฝั่งตรงข้าม ประสานมือคารวะองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นงงงัน เอียงหน้ามองตามสายตาของเขาไปโดยสัญชาตญาณผลคือพอมองไป ก็เห็นเข้ากับชายหนุ่มในชุดสีดำทั้งตัวคนหนึ่งยืนนิ่งอยู่ริมระเบียงในมาดเคร่งขรึม หน้ากากชิ้นหนึ่งบดบังความเป็นไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1032

    ผู้คนที่ยืนอยู่ชั้นบนพอเห็นฉากนี้ก็ล้วนถลึงตาอ้าปากค้างชิ่งอวิ๋นเซียวกว่าพักหนึ่งจึงได้สติกลับมา มองไปทางเซียวหลันยวนอย่างไม่อยากเชื่อ"ไม่ใช่สิ ท่าน ท่านอ๋อง ท่านคิดว่ายอดเยี่ยมเช่นนั้นเลยหรือ?"ขาที่เดิมทีปวดมากจนนอนไม่หลับเมื่อคืนนี้ วันนี้พอมาเห็นองค์หญิงใหญ่แค่ครู่เดียว ก็หายปวดเป็นปลิดทิ้งหรือ?เซียวหลันยวนมองซือถูไป๋ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "ข้าไม่ได้รู้สึกอะไร"เขาเดินออกมาจากริมระเบียง กลับไปนั่งในห้องชิงอีรีบรินน้ำชาให้เขาถ้วยหนึ่งเซียวหลันยวนเลิกหน้ากากขึ้นจิบไปทีหนึ่ง ตอนที่ชิ่งอวิ๋นเซียวเข้ามาก็ดึงหน้ากากกลับลงมาแล้ว"ท่านอ๋อง ที่นี่เองก็ไม่มีใครอื่น ท่านเอาแต่สวมหน้ากากแบบนี้ไม่รู้สึกอึดอัดบ้างหรือ?"ชิ่งอวิ๋นเซียวรู้สึกว่าแปลกประหลาดหน่อยๆ นี่ขนาดจะดื่มน้ำก็ยังไม่ปลดหน้ากากลงมา ต่อให้บนหน้าจะมีแผลเป็นนิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่น่าจะเป็นอะไรนี่นา ที่นี่ก็เป็นคนกันเองทั้หงมด เขาเองก็ไม่ใช่ว่าจะกลัวกับแผลเป็นแผลหนึ่งหรอกนะ มีอะไรน่ากังวลกัน?เซียวหลันยวนเหลือบมองเขา "ไม่ใช่จะไปให้องค์หญิงใหญ่ชิมสุราของพวกเจ้าหรอกหรือ? ยังไม่ไปอีก?"เรื่องนี้มันต้องไปคอยจ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1033

    ตอนที่หลิวหั่วกับไป๋รื่อกระโจนออกไป ขณะเดียวกันชั้นบนกับฝั่งตรงข้ามก็มีเงาหลายร่างบินแฉลบออกไป ไล่ตรงไปยังทิศทางวังจักรพรรดิองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้คงยังไปไม่ถึงวังจักรพรรดิ น่าจะเจอการลอบทำร้ายตรงช่วงระหว่างทางข้างหน้านี้เองฟู่จาวหนิงพุ่งออกไปด้านนอก ยื่นหน้าออกไปมอง เห็นเข้ากับร่างของซือถูไป๋และยังมี...เซียวหลันยวน!นางกตะตลึง แต่ก็ก่อนหน้าที่จะมีปฏิกิริยา ร่างกายของนางก็มีการเคลื่อนไหวนำสมองไปแล้ว ยื่นมือไปกดที่ราว กระโจนตัวปีนราวลงไป"ท่านลุงข้าจะไปดูเสียหน่อย!"ไป๋หู่กับสืออีสือซานตะลึงพรึงเพริด และรีบตามออกไปด้วย"ระวังหน่อยนะ!" เสิ่นเสวียนร้องขึ้นอย่างตกตะลึงเขาคิดไม่ถึงเลยว่าฟู่จาวหนิงเองก็จะตามออกไปด้วย นี่มันชั้นสองนะ นางเป็นคนที่ไม่มีวิชาตัวเบา แล้วทำไมถึงยังกระโดดตามออกไปแบบนี้?"คุณหนู!" เสี่ยวชิ่นตกใจจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น ยื่นหัวออกไป ฟู่จาวหนิงร่อนลงพื้นอย่างมั่นคง จากนั้นก็มุดเข้าไปในกลุ่มคนราวกับปลาหางพริ้วไหว พุ่งออกไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วดูท่าก่อนหน้านี้ตอนที่เบียดตัวเข้ามา คุณหนูจะยังไม่ได้สำแดงพลังที่แท้จริงของนาง"มองเห็นใครกันนะ?" เสิ่นเสวียนขมวด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1034

    "ช่วยด้วย!"มีคนไม่น้อยกรีดร้องขึ้น มีคนล้มลงไปบนพื้นถูกทับถูกเบียด ไม่สามารถปีนตัวลุกขึ้นมาได้ฟู่จาวหนิงพอได้ยินเสียงกรีดร้องเหล่านี้ ใจก็เต้นผาง รู้สึกถึงความไม่ถูกต้องขึ้นทันทีคนที่ตะโกนประโยคเมื่อครู่ นางฟังเสียงไม่ออก แต่น่าจะไม่ใช่เซียวหลันยวนกับซือถูไป๋"ออกไปทางข้างๆ!" นางบอกกับสืออีตอนนี้นางจึงได้ยินเสียงของเซียวหลันยวน ใช้กำลังภายในส่งเข้ามา "ห้ามเบียดผลัก! คนทั้งหมดยืนอยู่กับที่ชั่วคราวก่อน ใครก็ห้ามเบียดทั้งสิ้น!"เซียวหลันยวนนั่นเองซือถูไป๋ตอนนี้จึงไล่ตามมาอยู่ข้างๆ องค์หญิงใหญ่ และซัดอาวุธลับเล่มหนึ่งที่พุ่งตรงมายังองค์หญิงใหญ่ได้พอดีเสียงดังเคร้งมีประกายไฟเล็กๆ แลบออกมาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเลิกม่านออก มองดูเขาตาแดงก่ำ"องค์หญิงใหญ่โปรดระวังด้วย!"ซือถูไป๋โบกกระบี่ แทงไปทางคนชุดดำทีกคนหนึ่งที่กระโจนเข้ามามีคนคิดจะลอบสังหารองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นในสถานที่คึกคักขนาดนี้ด้วยหรือ!"อ๊า!" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพอเห็นอาวุธลับหลายเล่มพุ่งตรงมาทางซือถูไป๋ ก็ร้องตกใจขึ้นมาทันที "ท่านระวังด้วย!"กระบี่ยาวในมือซือถูไป๋แลบประกายกระบี่แทงไปยังอาวุธลับหลายเล่มที่ตรงเข้ามาพ

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1680

    เพราะเมื่อคืนนี้ฝนตกทั้งคืน ตอนเช้าในช่วงเส้นทางนี้ ความเร็วขบวนรถจึงเน้นไปที่ความเสถียรเป็นหลักฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดว่าจากเมืองหลวงไปเมืองเจ้อน่าจะสามสี่วันก็ไปถึง แต่ต่อมาพอถามฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน จึงรู้ว่าที่เซียวหลันยวนบอกว่าสามสี่วันไปถึง นั่นคือความเร็วของการขี่ม้าคนเดียวแต่แบบพวกเขาที่ขนสัมภาระมากมายเช่นนี้ กลางคืนยังต้องเข้าพัก หยุดพักเพื่อกินข้าวสามมือ ก็ต้องใช้เวลาประมาณหกวัน บวกกับเรื่องฝนหรืออย่างอื่น ความเร็วก็จะยิ่งช้าลง อาจจะไปถึงเจ็ดแปดวันดังนั้นนางจึงส่งองครักษ์สองคนขี่ม้านำไปสำรวจทางข้างหน้าก่อนแล้ว ถึงแม้จะไม่ถึงในสามสี่วัน แต่ก็หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกและเพราะไปได้ช้า จึงถูกคนอื่นตามขึ้นมาแล้วรถม้าของอันเหนียนอยู่หน้าขบวน ฟู่จาวหนิงนั่งอยู่รถม้าคันกลาง เดิมทียังมีรถม้าของฟู่จิ้นเชินตามอยู่ด้านหลังอีก แต่เพราะระหว่างทางพวกเขาต้องรีบเรียนรู้ ดังนั้นฟู่จิ้นเชินจึงอยู่บนรถม้าฟู่จาวหนิงเป็นส่วนใหญ่ด้านหลังมีรถสัมภาระอีกหลายคัน ด้านหลังก็เป็นองครักษ์จวนอ๋องคุมท้ายเพราะล้วนเป็นคนที่ฝึกยุทธ์มา พวกเขาอยู่ท้ายขบวนจึงได้ยินการเคลื่อนไหวด้านหลัง ว่ามีคนไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1679

    ไฉ่เอ๋อร์ร้อนใจขึ้นมานี่เหมือนแม่นางจะเอาจริงหรือ?"ต่อให้อายุสามสิบ อายุนี้ก็คงจะมีภรรยาอยู่แล้ว จะต้องมีลูกแล้วแน่นอน"หรือว่าแม่นางคิดจะไปเป็นอนุ?"เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้าแบกรับชื่อเสียงแบบไหนอยู่?" จูเฉียนเฉี่ยนหัวเราะขืนๆ ขึ้นมา "ข้าเป็นพวกดวงกินผัวนะ คนแรกที่ตายไปก็คู่หมั้นตอนเด็ก คนที่สองคู่หมั้นที่เพิ่งจับเทียบวันเดือนปีเกิดก็ตายอีก คนที่สาม ข้าขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแล้วแท้ๆ เขาดันตาอย่างกะทันหันในบ้านอีก"ได้ยินนางพูดเช่นนี้ ไฉ่เอ๋อร์ปากก็อ้าพะงาบ ขั่วขณะหนึ่งไม่รู้จะพูดอะไรดีเลย"ก็แค่เพราะชื่อเสียงนี้ของข้า พ่อแม่ข้าถึงได้ให้ข้าอย่าอยู่ในบ้าน ไปเมื่อเจ้อแล้วพึ่งพาป้าหรอกหรือ?"จูเฉียนเฉี่ยนใช้ตะเกียบแทงข้าวสวย ถอนหายใจ "ไปเมืองเจ้อแม้จะไม่มีคนรู้อดีตที่น่ากลัวของข้า แต่ถ้าหากยังมาคุยเรื่องแต่งงานอีก แล้วดวงกินผัวข้าเล่นอีกฝ่ายจนตายจะทำอย่างไร?""นั่น..." ไฉ่เอ๋อร์เอ่ยขึ้นแผ่วเบา "แล้วแม่นางตามผู้มีพระคุณคนนี้ ไม่กล้วว่าเขาก็จะ..." โดนดวงกินผัวเล่นจนตายหรือ?"นั่นจะไม่กลายเป็นตอบแทนคุณด้วยการทำร้ายหรือ?" จู่เฉียนเฉี่ยนส่ายหัว "ข้าไม่มีทางเป็นคนไร้คุณธรรมแบบนี้ ดังนั้น ข้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1678

    ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่พวกเขาเข้ามา แม่นางคนนี้ก็ลุกขึ้นพวกอันเหนียนนั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง คนมากมายนั่งกันอยู่หลายโต๊ะ กับข้าวเองก็ทยอยกันขึ้นมาแล้ว พอเห็นพวกเขาเข้ามา เสี่ยวเยว่ก็ลุกขึ้นทันที "คุณหนู ทางนี้"ฟู่จาวหนิงพยักหน้า พวกเขาจะเดินไปทางนั้นต้องผ่านโต๊ะหลายตัวตอนที่พวกเขาเดินไป แม่นางคนนั้นก็เดินสุะดุดมาขวางหน้าฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหยุดลง สบสายตากับนาง เลิกคิ้วงามเล็กน้อย"เอ่อ น้องสาว ข้าสกุลจู ชื่อว่าจูเฉียนเฉี่ยน ข้าเลี้ยงเจ้าดีไหม? ในเมื่อมีวาสนามมาเจอกันที่จุดพักม้าแล้ว คุยกันหน่อยเป็นไร?""ไม่ต้องล่ะ พวกเราเองก็เตรียมจะกินพอดี เห็นไหม?" ฟู่จาวหนิงชี้ไปทางอันเหนียน"คุณชายคนนี้เป็นสามีเจ้าหรือ? พวกเจ้าเหมาะสมกันดีจริง" จูเฉียนเฉี่ยนมองไปทางอันเหนียนคำพูดของนางเองก็ไม่ได้มีเจตนาอะไร พอนางเห็นว่าอันเหนียนกับฟู่จาวหนิงอายุใกล้เคียงกัน ยิ่งไปกว่านั้นรูปลักษณ์ภายนอกก็ยังเข้ากันด้วย"ไม่ใช่" ฟู่จาวหนิงตอบ"หา? เช่นนั้นก็ขอโทษด้วย ข้าบุ่มบ่ามไปเสียแล้ว...""แม่นางก็ดูจะบุ่มบ่ามจริงนั่นล่ะ" ฟู่จาวหนิงตัดบทนาง ยื่นมือออกมาผลักเธอไปข้างๆ เบาๆ "ยิ่งไปกว่านั้นเจ้ายังรบกวนเวลา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1677

    ฟู่จิ้นเชินกำลังจะหมุนตัวออกไป"ช้าก่อน!"แมนางคนนั้นร้องเรียกขเา "ทำไมท่านเห็นข้าแล้วก็จะหนีล่ะ?"ฟู่จิ้นหยุดยืน สงสัยหน่อยๆพูดแบบนี้ ราวกับพวกเขารู้จักกันอย่างนั้นเขาเห็นนางแล้วจะเดินออกไปเสียที่ไหน? ก็แค่เพราะจะไปจ้องแม่นางแปลกหน้าไว้ก็คงไม่ดีนัก มันผิดหรือไรกัน?"แม่นาง ข้าไม่ใช่คนของที่พักม้า" เขาอธิบายขึ้นมาเสียงอบอุ่นดังนั้นถ้ามีเรื่องอะไร ก็ไปหาคนของจุดพักม้านู่น ไม่ใช่มาหาเขา ทุกคนก็เป็นแขกที่มาพักที่นี่กันทั้งนั้น"ข้าก็มองออกอยู่ ในที่พักม้ามีแต่คนหยาบกร้าน ท่านไม่เหมือนกับพวกเขาเลย"ฟู่จิ้นเชินถอยออกมาหลายก้าว "เช่นนั้นแม่นางมีเรื่องอะไรหรือ?""ก็ไม่มีอะไร แค่มาพักในที่พักม้าเท่านั้น พอเห็นว่าที่นี่มีคน ก็เลยอยากรู้ว่าเป็นใคร เช่นนี้ถึงจะได้วางใจหน่อย ดังนั้น ขอถามชื่อท่านหน่อยได้หรือ?"สาวใช้มองแม่นางของตนเอง คิดจะพูดอะไรแต่ก็หยุดไว้นี่มันใช้เรื่องที่หญิงสาวควรทำไหม? แต่นางเองก็เป็นแค่สาวใช้ จะไปเจ้ากี้เจ้าการอะไรแม่นางได้"ข้าน้อยสกุลฟู่ ไม่ใช่คนไม่ดีอะไร แม่นางตามสะดวกเถิด" ฟู่จิ้นเชินพูดจบก็หมุนตัวรีบเดินไปทางนั้น อันเหนียนยืนอยู่หลังเสา พอเขาเข้าไป ก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1676

    เศรษฐีฟางดีใจมาก ฟู่จิ้นเชินชมลูกสาวตนเองเช่นนี้ เขาเองก็รู้สึกว่าเขาก็เป็นคนดี "คุณชายฟู่ พระชายาอ๋องเจวี้ยนเองก็เป็นคนดีมาก ท่านกับฮูหยินฟู่หลังจากนี้ก็ดีกับนางหน่อยล่ะ เด็กคนนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ""แน่นอน"ยังดีที่ฝนไม่ได้ตกนานมาก พวกเขาคุยกันครู่หนึ่ง ฝนก็หยุดแล้วพวกเขาจึงรีบเดินทางต่อหลังจากนั้นสองชั่วยาม ตอนที่ราตรีเข้ามาก็มาถึงจุดพักม้าแห่งหนึ่ง ใช้ค้างแรมได้"ก่อนหน้านี้ส่งคนเข้ามาแจ้งช่วงเวลาที่น่าจะมาถึง พวกเขาก็น่าจะเตรียมข้าวปลาอาหารไว้แล้ว คุณชายฟู่ พระชายา พวกท่านไปล้างหน้าล้างตากันก่อน อีกเดี๋ยวค่อยลงมาท่านข้าวเถอะ" อันเหนียนเอ่ยขึ้น"ได้" ฟู่จาวหนิงรับขึ้นมาเสียงหนึ่ง"คุณหนู" เสี่ยวเยว่ที่แต่งเป็นเชายเดินเข้ามา "ข้าไปเตรียมน้ำให้ท่านนะ""เสี่ยวเยว่?"ฟู่จาวหนิงมองฟู่จิ้นเชิน เสี่ยวเยว่เดิมทีอยู่ที่บ้านตระกูลฟู่ นางเองก็ไม่ได้เอาสาวใช้มาที่เมืองเจ้อด้วย คิดไม่ถึงว่านางจะตามมาแล้ว"ให้นางติดตามไปเถิด ข้างกายเจ้ามีสาวใช้อยู่บ้างก็ดูสะดวกดี" ฟู่จิ้นเชินทักมาคนก็ตามมาแล้วด้วย จะทำอย่างไรได้อีกกัน?ฟู่จิ้นเชินเสริมขึ้นมาอีกคำหนึ่ง "นี่เป็นความต้องการของอ๋องเจวี้ย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1675

    อันเหนียนยื่นมือไปประคองฟู่จาวหนิง แต่เขาเพิ่งยื่นมือออกไป ตอนที่ได้ยินเสียงฝีเท้ากับเสียงฟางซือฉิงด้านหลัง สีหน้าก็จริงจังขึ้นมา หดมือกลับไปเขาเอียงตัว ให้ฟางซือฉิงผ่านเข้าไปจากนั้นก็ส่งสายตากับฟู่จิ้นเชิน"คุณชายฟู่ เข้าไปในวัดหลบฝนก่อนเถิด" อันเหนียนเอ่ยขึ้นเสียงอ่อนโยน"เชิญท่านผู้ตรวจการอัน"ฟู่จิ้นเชินส่งร่มให้ฟู่จาวหนิง ส่วนตนเองก็เข้าไปในร่มของอันเหนียนฟู่จาวหนิงกางร่ม กระโดดลงมาจากรถม้า ยื่นร่มไปกางบนหัวฟางซือฉิง "ทำไมถึงวิ่งมาที่นี่ล่ะ? ระวังเปียก""จาวหนิง" ฟางซือฉิงใช้ศอกสะกิดนาง จากนั้นมองไปทางอันเหนียน ประชิดตัวนางเอ่ยขึ้นเบาๆ "ผู้ตรวจการชิงนี่อ่อนโยนดีจัง"ภาพที่อันเหนียนกางร่ม แล้วยื่นมือไปหาฟู่จาวหนิงนั่น น่าดูจริงๆแต่นางก็กล้าคิดแค่ในใจ ไม่กล้าพูดออกมาแค่คิดเช่นนั้นก็รู้สึกผิดต่ออ๋องเจวี้ยนแล้วฟู่จาวหนิงตีนาง "ผู้ตรวจการอันโอ่นโยนกับองค์หญิงหนานฉือมากกว่าอีก""อืมอืม"ฟางซือฉินเองก็ไม่กล้าพูดมากกว่านี้"พระชายา รีบเดินเร็ว" ฮูหยินฟางกวักมือหาพวกนาง "ซือฉิงเด็กคนนี้นี่ อายุตั้งเท่าไรแล้ว ยังจะกระโดดโลดเต้นแบบนี้อีก"ยืนรออยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว จะวิ่งแจ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1674

    ด้านนอกรถม้าจู่ๆ มีเสียงเคาะเปาะแปะ และถี่มากฝนตกแล้วเม็ดฝนค่อนข้างใหญ่ แรงที่กระทบตัวรถม้าไม่เบาเลยเสียงพูดคุยด้านนอกก็ดังเพิ่มขึ้นมา พวกเขาล้วนตะโกนให้เร่งความเร็ว วิ่งตรงไปอีกหน่อย ลองดูว่าข้างหน้ามีจุดให้หลบฝนบ้างไหมสองฟากฝั่งถนนทางการก็โล่งโจ้ง ไม่มีต้นไม้ไม่มีเพิ่งน้ำชา ชั่วขณะหนึ่งยังหาที่หลบฝนไม่ได้หิมะแม้จะละลายไปมากแล้ว แต่ตอนนี้พอฝนตกถนนก็เป็นดินโคลนและยังเปียกลื่นด้วยพวกเขานำของมาไม่น้อย หากพลิกคว่ำไปจะสกปรกเอา"ตอนนี้ทำไมมีฝนตกได้เนี่ย?"สืออีที่ขี่ม้าอยู่ด้านนอกก็พูดกับสือซานขึ้นมา"อากาศช่วงครึ่งปีนี้เดิมทีก็ประหลาดอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะมีผู้ประสบภัยตั้งมากมายได้อย่างไร" สือซานถอนใจ "ไม่เช่นนั้นผู้คนจะพูดหรือว่าดวงชะตาของแคว้นเจาเดินมาถึงปลายทางแล้ว?"ดวงชะตาเดินถึงปลายทางแล้ว เช่นนั้นก็อาจจะเกิดภัยธรรมชาติหรือหายนะจากมนุษย์ได้สินะ?ถึงอย่างไรสถานที่ต่างๆ ก็ล้วนประสับภัยกัน พวกเขาทางนี้จู่ๆ ฝนตกหนักก็เหมือนจะไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไร"อย่าพูดจาไร้สาระ รีบเร่งเดินทางเถอะ เพิ่มความระมัดระวังด้วย" สืออีตะคอกขึ้นมาคนตระกูลฟางที่รออยู่ในวัดภูเขาแห่งหนึ่งด้าน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1673

    ฟู่จาวหนิงในเมื่อถามขึ้นมาแล้ว เขาจึงบอกกับนางอย่างตั้งใจ"ยังมีอีกเรื่อง ข้าอยากจะเปิดโรงศึกษา ไปเป็นอาจารย์"ฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึงว่าเขาอยากเป็นอาจารย์สอนหนังสือด้วย"อันที่จริงตอนนั้นถ้าหากข้าไม่ได้ออกไป ข้าก็เกือบได้เดินในสองเส้นทางนี้แล้ว ถ้าหากสอบติดขั้นสูง ก็เข้าวังเป็นข้าราชการ ถ้าหากสอบไม่ผ่าน ก็จะทำโรงศึกษาเพื่อสอนผู้คน"ฟู่จิ้นเชินยิ้มๆ นั่งลงให้สบายอีกหน่อยท่าทางของเขาดูมีรสนิยมอย่างเป็นธรรมชาติ แม้จะเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่ก็ยังดูดีมีเสน่ห์กว่าคนหนุ่มสาวเสียอีก"แต่ว่า เรื่องเหล่านี้มันก็เป็นแค่ความฝัน"คำพูดฟู่จิ้นเชินหักเปลี่ยน มองฟู่จาวหนิง "ข้าไม่รีบร้อนตั้งเป้าหมายอะไรให้ตนเอง เพราะข้ายังรู้สึกได้รางๆ ว่าช่วงสองปีนี้สำหรับแคว้นเจาของพวกเราแล้ว อยู่ในจุดเปลี่ยนที่ยากจะคาดเดา""หมายความว่าอย่างไรหรือ?"ฟู่จาวหนิงนั่งตัวตรง"องค์จักรพรรดิไม่ยอมรับอ๋องเจวี้ยน"นี่คือความจริง แต่ที่ทำให้ฟู่จิ้นเชินพูดออกมาตรงๆ ฟู่จาวหนิงเองก็ยังรู้สึกหดหู่ขึ้นมาบ้าง"ใช่ไหมล่ะ? ท่านว่าทำไมองค์จักรพรรดิถึงได้ใจแคบนักนะ? อันที่จริงเซียวหลันยวนไม่ได้คิดจะนั่งตำแหน่งนั้นด้วยซ้ำ แต่องค์

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1672

    ในเดือนหนึ่ง แถบเมืองหลวงมีฝนตกน้อยมาก น่าจะต้องรอจนถึงเดือนสองแต่ว่าตอนนี้ฟ้าจู่ๆ ก็มืดลง หม่นๆ มืดครึ้ม เหมือนฝนจะตกกลุ่มนี้ของพวกขเายังไม่มีไปรวมกับขบวนพ่อค้าของตระกูลฟาง ยังต้องเดินอีกระยะหนึ่ง ขบวนพ่อค้าตระกูลฟางรอพวกเขาอยู่ที่ริมทางด้านหน้าหลังจากรวมกันต้องเร่งระยะทางอีกครึ่งวันจึงจะไปถึงสถานที่ที่เหมาะจะพักแรม แต่ถ้าถูกฝนนี้ทำให้ล่าช้า พวกเขาคืนนี้คงจะไปกันไม่ถึง แล้วต้องเดินทางกันตลอดทั้งคืน"ไปบอกพระชายาหน่อย พวกเราต้องเพิ่มความเร็ว"อันเหนียนกลัวว่าจู่ๆ ถ้าเพิ่มความเร็วขึ้น ฟู่จาวหนิงจะสงสัย ดังนั้นจึงต้องให้คนไปแจ้งนางหน่อย"่ขอรับ"อันเหนียนครั้งนี้พาผู้ติดตามมาสองคน คนหนึ่งชื่อเสี่ยวเจียง อีกคนหนึ่งชื่อเสี่ยวเจิ้งทั้งสองคนดูแล้วฉลาดเฉลียวคล่องแคล่ว เสียวเจียงพอได้ยินคำพูดของอันเนหียน ก็รีบวิ่งไปทางรถม้าของฟู่จาวหนิง เคาะๆ กำแพงรถม้าเสียก่อน"พระชายา ท้องฟ้าดูไม่ดีเลย เหมือนฝนกำลังจะตก ใต้เท้าของข้าบอกว่าต้องเร่งความเร็วเดินทาง รถม้าอาจจะเขย่าหน่อย พระชายาโปรดให้อภัยด้วย"ฟู่จาวหนิงเลิกม่านออก พอเห็นเสี่ยวเจียง ก็มองไปยังท้องฟ้า พยักหน้าให้"เข้าใจแล้ว"เสี่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status