นายท่าน คำพูดที่คิดจะแยกอ๋องเจวี้ยนกับคุณหนูออกจากกันนี่มันอะไรกัน?ถ้าเผื่อคำพูดเขาเมื่อครู่ ทำให้เสิ่นเสวียนเกิดความคิดที่จะแยกอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาออกมาจริงๆ เช่นนั้นเขาก็ทำผิดมหันต์ไปเสียแล้ว"ไม่ใช่เช่นนั้นขอรับ น่าจะเพราะเฮยอวิ๋นขี้ขลาดไปหน่อย" หลิวหั่วรีบเอ่ยขึ้นเสิ่นเสวียนเหล่มองเขาอีกไม่พูดจาหลิวหั่วไม่กล้าพูดอะไรเรื่อยเปื่อยอีกแล้วเซียวหลันยวนเจอแต่ซือถูไป๋ แต่หาฟู่จาวหนิงไม่เจอ กลิ่นอายทั้งตัวจึงเย็นเยียบ กลับมานั่งลงในห้องชิ่งอวิ๋นเซียวมองเขาสองวันนี้เขารู้สึกเหมือนกับเฮยอวิ๋น อ๋องเจวี้ยนกลิ่นอายเย็นเยียบไปหมด เหมือนจะหักคอคนทิ้งได้ตลอดเวลาเลยเขาไม่กล้าอยู่ใกล้เซียวหลันยวนนัก"ท่านอ๋อง ส่งคนออกไปหาพระชายาแล้ว วันนี้คึกคักขนาดนี้ ท่านเสิ่นจะต้องพานางออกมาชมแน่"หาเจอแล้วจะทำอย่างไรต่อล่ะ?เซียวหลันยวนคิดในใจ รู้สึกหมดเรี่ยวแรงกับงุนงงขึ้นมาทันทีเขาเองก็ไม่รู้ว่าหาฟู่จาวหนิงพบแล้วจะทำอย่างไรต่อ เขาจะไปมัดนางมาอยู่ข้างกาย หรือก็คือ เขาสามารถปลดหน้ากากลงมาเผชิญหน้ากับนางดีดีได้ไหม?จะอธิบายกับนางได้ไหมว่าตอนนี้เขามีความคิดอย่างไร?"ช่างเถอะ ไม่ต้องหาแล้ว" เ
ในวังจักรพรรดิ องค์จักรพรรดิต้าชื่ออยู่ในชุดมังกรเหลืองสว่าง กำลังรอให้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้าวัง"ถึงไหนแล้ว?""ใต้ฝ่าพระบาท เพิ่งจะเข้ามายังถนนหลวง ประชาชนกำลังล้อมออแน่นขนัด ขบวนพิธีขององค์หญิงใหญ่น่าจะเคลื่อนตัวได้ช้าสักหน่อย" คนในวังรายงาน"อืม ก็เป็นเรื่องปกติ ให้เหล่าประชาชนได้อธิษฐานความสุขเสียบ้าง พวกเขาล้วนเป็นประชาชนของข้า ถ้าพวกเขาดี ข้าก็ดีด้วย" องค์จักรพรรดิแสดงว่าความใจกว้างของตนเองออกมา และยังดูอ่อนโยนมีเมตตาธรรมด้วย"ฝ่าบาท" ฮองเฮาที่อยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้นอย่างอบอุ่น "องค์หญิงใหญ่กลับมาครั้งนี้ ดูฝ่าบาทกระปรี้กระเปร่าเป็นพิเศษเลยนะ""แล้วไม่ใช่หรือไรกัน?" องค์จักรพรรดิหัวเราะร่าขึ้นมา "ฝูอวิ้นนางเป็นโชควาสนาของข้ามาตลอดเลย"พูดขึ้นมาก็น่าประหลาด องค์จักรพรรดิเมื่อเดือนก่อนรู้สึกว่าร่างกายเชื่องช้าไปหน่อย กินก็ไม่ดีนอนก็ไม่ค่อยจะหลับ หัวเองก็ปวดๆ มึนๆ เป็นระยะ หมอหลวงก็มาตรวจไปไม่รู้กี่ครั้ง กลับยังตรวจไม่เจอว่าเขาป่วยเป็นอะไรเหมือนว่าจะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่องค์จักรพรรดิเองก็รู้สึกว่าไม่สบาย ไม่ผ่อนคลาย ใจก็กระสับกระส่าย กลัวมากว่าจะป่วยเป็นโรคแฝงอะไร แล้วหมอหลวงตรวจ
พวกถุงหอม ผ้าเช็ดมือ แถบผ้าแดง พู่ห้อยอะไรพวกนั้น ก็ทยอยกันถูกขว้างไปยังรถลากด้านหน้าและหลังขององค์หญิงใหญ่ราวกับเป็น "สายฝน" พร่างฟ้าอย่างไรอย่างนั้น ดูแล้วละลานตาไปหมดเสาทั้งสี่ของรถลากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมีผ้าแพรติดอยู่ ผ้าแพรบางมาก มองเห็นคนที่นั่งอยู่ด้านใน แต่มองไม่เห็นใบหน้าจริงคนที่นั่งด้านในอยู่ในชุดหรูหรา ปิ่นไข่มุกพู่ระย้าโยกไหวเบาๆ ยืดตัวไหล่ตรง นั่งอย่างสวยงามเพียบพร้อมแค่เห็นโครงร่าง ก็รู้สึกว่าต้องสง่างามไร้เทียมทานแน่ๆทุกคนในที่สุดก็ได้เห็นองค์หญิงใหญ่แล้ว จึงยิ่งฮือฮาขึ้นไปอีกประชาชนที่โยนของชิ้นเล็กอธิษฐานเรียบร้อยก็คุกเข่าลงกันพรึบพรับ"ขอองค์หญิงใหญ่โปรดประทานโชค!"ขบวนพิธีเคลื่อนที่ไป สองข้างทางก็โยนของเข้ามาพลางกราบกราน ราวกับกระแสน้ำขึ้นอย่างไรอย่างนั้นฟู่จาวหนิงยืนอยู่ชั้นสองมองฉากนี้แล้วรู้สึกเปิดโลกทัศน์พลังนี้ขององค์หญิงใหญ่ช่างน่าซาบซึ้งจริงๆองค์หญิงใหญ่แค่นั่งอยู่บนรถลากพยักหน้าเป็นบางจังหวะ ยกมือส่งสัญญาณ เสียงโห่ร้องของประชาชนก็ยิ่งดังมากขึ้นตอนนี้เป็นช่วงแสงแดดแรงกล้านะ แต่ไม่รู้เพราะอะไร จู่ๆ ท้องฟ้าก็ย้อมไปแสงส่องทอเมฆ สายฝนยามแดดอ
ในกลีบดอกไม้แดงพร่างฟ้า คุณชายสะโอดสะองข่าวผ่องคนหนึ่งราวกับเป็นจันทร์กระจ่างแขวนอยู่บนฟ้าสูงซือถูไป๋ก้มหน้าลง เขาเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นแล้วเครื่องประดับหน้าผากราวกับเมฆดำครอบอยู่บนหน้าผากขาวสว่าง ใบหน้าสวยพราวสง่างาม ดวงตาใส่กระจ่างราวสายน้ำ สีหน้าอ่อนโยนประดุจเมฆปุยฝ้ายสายตาทั้งสองประสานกัน คั่นไว้ด้วยกลีบดอกไม้สีแดงปลิวไสวอาเพียนที่ยืนโปรยกลีบดอกไม้บนหลังคาพอเห็นฉากนี้ ก็ดีอกดีใจจนเกือบจะลื่นตกลงมาด้านล่างหลายวันนี้คุณชายไม่พาเขาไปไหนเลย แต่เขาเดิมทีก็ได้รับการกำชับจากนายท่านมา ว่าถึงอย่างไรก็ต้องให้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นคุชาย ตอนนี้ภารกิจของเขาถือว่าสำเร็จแล้วกระมัง?ด้วยการแต่งกายที่เหนือคนทั่วไปและใบหน้าที่หล่อเหลาเช่นนี้ ขอแค่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองเห็น จะต้องจดจำเขาไว้ในใจแน่นอนตอนที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นซือถูไป๋ ซือถูไป๋ก็ได้สติกลับมา จู่ๆ ก็มองไปฝั่งตรงข้าม ประสานมือคารวะองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นงงงัน เอียงหน้ามองตามสายตาของเขาไปโดยสัญชาตญาณผลคือพอมองไป ก็เห็นเข้ากับชายหนุ่มในชุดสีดำทั้งตัวคนหนึ่งยืนนิ่งอยู่ริมระเบียงในมาดเคร่งขรึม หน้ากากชิ้นหนึ่งบดบังความเป็นไ
ผู้คนที่ยืนอยู่ชั้นบนพอเห็นฉากนี้ก็ล้วนถลึงตาอ้าปากค้างชิ่งอวิ๋นเซียวกว่าพักหนึ่งจึงได้สติกลับมา มองไปทางเซียวหลันยวนอย่างไม่อยากเชื่อ"ไม่ใช่สิ ท่าน ท่านอ๋อง ท่านคิดว่ายอดเยี่ยมเช่นนั้นเลยหรือ?"ขาที่เดิมทีปวดมากจนนอนไม่หลับเมื่อคืนนี้ วันนี้พอมาเห็นองค์หญิงใหญ่แค่ครู่เดียว ก็หายปวดเป็นปลิดทิ้งหรือ?เซียวหลันยวนมองซือถูไป๋ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "ข้าไม่ได้รู้สึกอะไร"เขาเดินออกมาจากริมระเบียง กลับไปนั่งในห้องชิงอีรีบรินน้ำชาให้เขาถ้วยหนึ่งเซียวหลันยวนเลิกหน้ากากขึ้นจิบไปทีหนึ่ง ตอนที่ชิ่งอวิ๋นเซียวเข้ามาก็ดึงหน้ากากกลับลงมาแล้ว"ท่านอ๋อง ที่นี่เองก็ไม่มีใครอื่น ท่านเอาแต่สวมหน้ากากแบบนี้ไม่รู้สึกอึดอัดบ้างหรือ?"ชิ่งอวิ๋นเซียวรู้สึกว่าแปลกประหลาดหน่อยๆ นี่ขนาดจะดื่มน้ำก็ยังไม่ปลดหน้ากากลงมา ต่อให้บนหน้าจะมีแผลเป็นนิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่น่าจะเป็นอะไรนี่นา ที่นี่ก็เป็นคนกันเองทั้หงมด เขาเองก็ไม่ใช่ว่าจะกลัวกับแผลเป็นแผลหนึ่งหรอกนะ มีอะไรน่ากังวลกัน?เซียวหลันยวนเหลือบมองเขา "ไม่ใช่จะไปให้องค์หญิงใหญ่ชิมสุราของพวกเจ้าหรอกหรือ? ยังไม่ไปอีก?"เรื่องนี้มันต้องไปคอยจ
ตอนที่หลิวหั่วกับไป๋รื่อกระโจนออกไป ขณะเดียวกันชั้นบนกับฝั่งตรงข้ามก็มีเงาหลายร่างบินแฉลบออกไป ไล่ตรงไปยังทิศทางวังจักรพรรดิองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้คงยังไปไม่ถึงวังจักรพรรดิ น่าจะเจอการลอบทำร้ายตรงช่วงระหว่างทางข้างหน้านี้เองฟู่จาวหนิงพุ่งออกไปด้านนอก ยื่นหน้าออกไปมอง เห็นเข้ากับร่างของซือถูไป๋และยังมี...เซียวหลันยวน!นางกตะตลึง แต่ก็ก่อนหน้าที่จะมีปฏิกิริยา ร่างกายของนางก็มีการเคลื่อนไหวนำสมองไปแล้ว ยื่นมือไปกดที่ราว กระโจนตัวปีนราวลงไป"ท่านลุงข้าจะไปดูเสียหน่อย!"ไป๋หู่กับสืออีสือซานตะลึงพรึงเพริด และรีบตามออกไปด้วย"ระวังหน่อยนะ!" เสิ่นเสวียนร้องขึ้นอย่างตกตะลึงเขาคิดไม่ถึงเลยว่าฟู่จาวหนิงเองก็จะตามออกไปด้วย นี่มันชั้นสองนะ นางเป็นคนที่ไม่มีวิชาตัวเบา แล้วทำไมถึงยังกระโดดตามออกไปแบบนี้?"คุณหนู!" เสี่ยวชิ่นตกใจจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น ยื่นหัวออกไป ฟู่จาวหนิงร่อนลงพื้นอย่างมั่นคง จากนั้นก็มุดเข้าไปในกลุ่มคนราวกับปลาหางพริ้วไหว พุ่งออกไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วดูท่าก่อนหน้านี้ตอนที่เบียดตัวเข้ามา คุณหนูจะยังไม่ได้สำแดงพลังที่แท้จริงของนาง"มองเห็นใครกันนะ?" เสิ่นเสวียนขมวด
"ช่วยด้วย!"มีคนไม่น้อยกรีดร้องขึ้น มีคนล้มลงไปบนพื้นถูกทับถูกเบียด ไม่สามารถปีนตัวลุกขึ้นมาได้ฟู่จาวหนิงพอได้ยินเสียงกรีดร้องเหล่านี้ ใจก็เต้นผาง รู้สึกถึงความไม่ถูกต้องขึ้นทันทีคนที่ตะโกนประโยคเมื่อครู่ นางฟังเสียงไม่ออก แต่น่าจะไม่ใช่เซียวหลันยวนกับซือถูไป๋"ออกไปทางข้างๆ!" นางบอกกับสืออีตอนนี้นางจึงได้ยินเสียงของเซียวหลันยวน ใช้กำลังภายในส่งเข้ามา "ห้ามเบียดผลัก! คนทั้งหมดยืนอยู่กับที่ชั่วคราวก่อน ใครก็ห้ามเบียดทั้งสิ้น!"เซียวหลันยวนนั่นเองซือถูไป๋ตอนนี้จึงไล่ตามมาอยู่ข้างๆ องค์หญิงใหญ่ และซัดอาวุธลับเล่มหนึ่งที่พุ่งตรงมายังองค์หญิงใหญ่ได้พอดีเสียงดังเคร้งมีประกายไฟเล็กๆ แลบออกมาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเลิกม่านออก มองดูเขาตาแดงก่ำ"องค์หญิงใหญ่โปรดระวังด้วย!"ซือถูไป๋โบกกระบี่ แทงไปทางคนชุดดำทีกคนหนึ่งที่กระโจนเข้ามามีคนคิดจะลอบสังหารองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นในสถานที่คึกคักขนาดนี้ด้วยหรือ!"อ๊า!" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพอเห็นอาวุธลับหลายเล่มพุ่งตรงมาทางซือถูไป๋ ก็ร้องตกใจขึ้นมาทันที "ท่านระวังด้วย!"กระบี่ยาวในมือซือถูไป๋แลบประกายกระบี่แทงไปยังอาวุธลับหลายเล่มที่ตรงเข้ามาพ
นักฆ่ามีทั้งที่ถูกสังหาร มีทั้งที่หนีไป และยังมีอีกหลายคนที่ถูกจับไว้แล้วฟู่จาวหนิงมุดตัวมาถึงจุดเกิดเหตุเหยียบกัน ได้ยินเสียงร้องระงมเสียงร้องไห้ของคนมากมาย จึงรีบพาคนเข้าช่วยเหลือเซียวหลันยวนตอนนี้ถึงได้เห็นนางยังไม่เห็นหน้าของนาง แค่เห็นนางวิ่งออกไป นั่งยองลงมาสำรวจประชาชนที่ล้มลงกับพื้น เขาก็มองออกทันทีว่าเป็นนางเขารีบกระโจนตัวลงมา วิ่งไปอยู่ข้างกายนาง"กระดูกซี่โครงเขาหักแล้ว กระจายคนรอบๆ ออกไปก่อนอย่าเพิ่งขยับตัวเขา""เด็กคนนี้ขาถูกเหยียบจนบาดเจ็บ อุ้มเขาขึ้นไปยังที่ที่ปลอดภัยก่อน ลองหาพ่อแม่ของเขาดู""เดี๋ยวก่อนคุณชาย ท่านป้าคนนั้นอย่าเพิ่งไปแตะต้อง! ขอข้าดูก่อน!" ฟู่จาวหนิงเข้าไปช่วยคนโดยไม่เงยหน้าขึ้น "อวัยวะภายในฉีกขาดเสียแล้ว..."ข้างกายนาง ไม่รู้ว่ามีกลุ่มคนมารวมกันตั้งแต่เมื่อไร ล้วนฟังคำพูดนางที่กำลังช่วยชีวิตคนคนเหล่านั้นเสื้อผ้าไม่ค่อยเหมือนกัน น่าจะต่างฝ่ายต่างเข้ามา"แม่นางรีบมาเร็ว ลุงคนนี้ไม่หายใจแล้ว!""แม่นาง ทางนี้!"เซียวหลันยวนยังไม่ทันมีโอกาสเข้าไปพูดกับฟู่จาวหนิง ข้างหูก็ได้ยินเสียงคนเหล่านั้นร้องเรียกฟู่จาวหนิงเขายืนอยู่ที่นั่น มองฟู่จาวหน
"เช่นนั้นก็ใสหัวไป"เซียวหลันยวนพาคนออกจากคุกใหญ่เหล่าผู้คอมมองพวกเขา "หัวหน้า ตอนนี้ทำอย่างไรดี? นายพันเก๋อบอกไว้แล้ว ถ้าเฮ่อเหลียนเฟยมีความน่าสงสัยที่จะเป็นศัตรู ต้องคุมตัวเขาไว้ก่อนนี่นา"ก่อนหน้านี้ใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าก็ดึงคนไว้แล้ว ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนพาเขาเดินวนในคุกไปรอบหนึ่ง จากนั้นกลับเดินกลับไปอย่างองอาจเสียอย่างนั้นพรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อถามขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?เรื่องนี้ จะต้องนำไปให้ฝ่าบาททรงทราบแน่ องค์จักรพรรดิถ้าหากถามหาความรับผิดชอบขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?แต่หัวหน้าคุกก็ไม่กล้าทำอะไรนี่นา"ช่างมัน ผลักไปบนหัวอ๋องเจวี้ยนให้หมดแล้วกัน พรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อซักไซ้ขึ้นมา พวกเราก็บอกไปว่าพวกเราขวางอ๋องเจวี้ยนไม่อยู่"นี่โทษพวกเขาได้ที่ไหน?ฟู่จาวหนิงพอเห็นพวกเขาออกมาแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ"เสี่ยวเฟยไม่ต้องอยู่หรือ?" นางถามเซียวหลันยวน"ไม่ต้องให้อยู่แล้ว ให้พวกเขาไปที่จวนอ๋องเองแล้วกัน" เซียวหลันยวนตอบฟู่จิ้นเชินมองเขา "ขอบคุณมาก"นี่คือความหมายที่จะปกป้องพวกเขาแล้วถ้าหากพวกเขาไม่อยู่ในจวนอ๋อง พรุ่งนี้นายพันเก๋อพาคนไปที่บ้านตระกูลฟู่ พวกเขาคงไม่มีทางต่
โป๋จีเอาเรื่องที่เผ่าเฮ่อเหลียนยึดครองเมืองพูดจนกลายเป็นตัวเลือกที่จำใจของพวกเขาเสียอย่างนั้นฟู่จาวเฟยถามยังถามสถานการณ์ในเมืองตอนนี้อีกหน่อย แล้วยังถามเขาว่าทำไมถึงถูกเก๋อมู่กวงจัง รอจนเขา...ตอบมาทีละข้อ ถามขึ้นมาทันที "แล้วจดหมายที่นำมาให้ข้าล่ะ? ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ส่งจดหมายให้กับข้าหรือ?"โป๋จีมองไปทางเซียวหลันยวน"นี่คืออ๋องเจวี้ยนสินะ? พวกข้าได้ยินว่า อ๋องเจวี้ยนตอนนี้เป็นพี่เขยของเจ้า""ใช่แล้ว แต่เขากับองค์จักรพรรดิมีความสัมพันธ์ไม่ค่อยดี"สายตาโป๋จีหม่นลงเล็กน้อย พวกเขารู้เรื่องนี้"แล้วพ่อแท้ๆ ของเจ้าล่ะ?""เขาฟังพี่สาวข้า""หมอเทวดาฟู่ใช่ไหม?""ใช่ ชื่อเสียงของพี่สาวข้ามากขนาดนี้เลยหรือ? ลือกันไปถึงทางเผ่าแล้วหรือ?" ฟู่จาวเฟยถาม"แน่นอน นางเป็นถึงหมอที่อายุน้อยสุดในสมาคมหมอใหญ่เลยนะ" แล้วยังเป็นหมอหญิงอีก"แล้วจดหมายอยู่ที่ไหนล่ะ?""จะส่งให้เจ้าเลยก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้หรอก แต่ว่าเจ้าต้องทำเรื่องหนึ่งก่อน จดหมายสำหรับพวกเราแล้วสำคัญมาก ไม่ใช่เรื่องที่จะทำร้ายหรอก""เขียนอะไรไว้หรือ?""เจ้าอ่านจดหมายก็จะเข้าใจเอง""ท่านจะให้ข้าช่วยทำอะไรหรือ?" ฟู่จาวเฟยเริ่มจะเกิด
ขอแค่พวกเขาสงสัยในตัวฟู่จาวเฟยก็พอแล้วหัวหน้าคุกกับมือปราบเจียงพวกเขาก็เริ่มสงสัยเช่นนี้แล้วพวกเขามองฟู่จาวเฟย และมองไปยังโป๋จี สีหน้าเองก็กังวลขึ้นมา"คุณชายฟู่ นี่มัน..." มือปราบเจียงเข้าประชิดฟู่จิ้นเชิน กดเสียงต่ำคิดจะเตือนเขาคุณชายฟู่จะฟังไม่ออกได้อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าอยู่ต่อหน้านายพันเก๋อ แล้วเห็นว่าโป๋จีกับคุณชายน้อยฟู่มีความสัมพันธ์อันดีกันล่ะก็ คุณชายน้อยฟู่ก็จะยิ่งน่าสงสัยมากขึ้นไปอีกนายพันเก๋อคงไม่มีทางเชื่อคุณชายน้อยฟู่แน่นอนแล้วถ้าคุณชายน้อยฟู่ถูกกำหนดให้เป็นพวกของราชาเฮ่อเหลียน เช่นนั้นก็ถือว่ามีโทษกบฏ อาจจะลากตระกูลฟู่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยได้กระทั่งว่า อ๋องเจวี้ยนเองก็จะโดนหางเลขไปด้วยแต่ว่า องค์จักรพรรดิก็คิดจะรับมืออ๋องเจวี้ยนชัดเจนขนาดนี้ เช่นนั้นถ้ามีโอกาสจับกุมขึ้นมาจะปล่อยไปได้อย่างไรกัน?มือปราบเจียงรู้ว่าลูกสาวตนเองชอบพระชายาอ๋องเจวี้ยนมาก ดังนั้นเขาจึงกังวลแทนพระชายาอ๋องเจวี้ยนขึ้นมา"่ท่านลุงโป๋จี ท่านกำลังพูดอะไรน่ะ? ท่านพ่อกับท่านแม่ข้าตอนนั้นไม่ได้จงใจทิ้งข้า แล้วก็..."ฟู่จาวเฟยชะงักไป เปลี่ยนคำใหม่ "ราชาเฮ่อเหลียนยังสังหารแม่เลี้ยงข
"ท่านลุงโป๋จี ได้ยินว่าท่านมาส่งจดหมายให้ข้าหรือ?"ฟู่จาวเฟยถามออกมาทันทีโป๋จีก่อนหน้านี้ก็ดีกับเขาพอควร แต่ตอนนี้พอมาคิด ก็น่าจะแค่คิดว่าเขาเป็นลูกชายของราชาเฮ่อเหลียน เมื่อครู่ตอนที่เขาเห็นสายตาของตนเอง ก็แตกต่างกับแต่ก่อนไปแล้วฟู่จาวเฟยตอนนี้ยังพิจารณาออกได้ว่า เมื่อครู่ตอนที่โป๋จีมองเห็นสายตาของเขา นั่นเป็นความตื่นเต้นดีใจที่ได้เห็นเป้าหมายยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ที่เขาถามออกมาโป๋จีก็ยังพิจารณามองเขาอยู่"ใช่แล้ว องค์ชาย" โป๋จีใช้ภาษาเมืองหลวงที่ฟังแล้วแปลกๆ เรียกเขาว่าองค์ชาย จากนั้นก็มองไปทางอ๋องเจวี้ยนด้วยสัญชาตญาณ เปลี่ยนเป็นภาษาเฮ่อเหลียนว่า "ราชาได้รับจดหมายของเจ้า บอกว่าเจ้าหาพ่อแม่ที่แท้จริงพบแล้ว มีตัวตนฐานะใหม่ ดูพึงพอใจมาก"โป๋จีไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนฟังภาษาเฮ่อเหลียนออกฟู่จิ้นเชินอันที่จริงก็ไม่รู้พอเขาฟังประโยคนี้ออกจึงมองไปทางเซียวหลันยวน ตอนนี้จะแปลให้เขาคงไม่สะดวกนัก ถ้าเขาพูดออกมาตอนนี้ เกรงว่าโป๋จีคงไม่พูดความจริงแล้วรอให้เขาพูดสิ่งที่ควรพูดให้จบก่อนแล้วกันคำนี้ของโป๋จี น่าจะพูดให้เขาฟังความหมายของคำพูดนี้ แสดงออกว่าราชาเฮ่อเหลียนรู้แล้วว่าฟู่จาวเฟยเ
ถ้าประตูวังปิดแล้ว คืนนี้น่าจะยังไม่ได้พบองค์จักรพรรดิเช่นนั้นพรุ่งนี้ช่วงประชุมเช้าก็น่าจะได้พบ ห่างจากตอนนี้ไม่ถึงสามชั่วยามเซียวหลันยวนไม่พูดอะไรอีกหลังจากเขาได้ข่าวไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องส่งคนไปคุ้มครองนอกวังแน่ เก๋อมู่กวงคืนนี้เข้าวังไม่ได้ ไม่ได้พบองค์จักรพรรดิ ดังนั้นจะต้องรอจนถึงประชุมเช้าแน่นอนช่วงหลายชั่วยามนี้เพียงพอแล้วพวกเขาได้ยินเสียงของฟู่จิ้นเชินแล้วฟู่จิ้นเชินกำลังพูดภาษาเฮ่อเหลียนอยู่"พี่เขย ท่านพ่อกำลังพูดว่า..." ฟู่จาวเฟยคิดจะแปลให้เซียวหลันยวนก่อนอย่างฉลาดเฉลียวรู้ความ แต่คิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจะโบกไม้โบกมือ"ข้าฟังออกน่ะ""อ๋า?"ฟู่จาวเฟยตกตะลึง"ลืมบอกไป ว่าข้าเป็นภาษาเฮ่อเหลียน" เซียวหลันยวนน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กจ้อยที่ธรรมดามากๆ เรื่องหนึ่งหัวหน้าคุกเองก็เหลือบมองเขาอย่างตกตะลึง"ถ้าข้าน้อยจำไม่ผิดล่ะก็ ท่านอ๋องยังพูดภาษาหนานฉือได้ด้วย?""ใช่"หัวหน้าคุกกับฟู่จาวเฟยสบตากันผาดหนึ่ง ทั้งสองคนล้วนเห็นความตกตลึงในดวงตาของอีกฝ่ายอ๋องเจวี้ยนทำไมถึงพูดได้หลายภาษานัก?เขาไม่ใช่ว่าพักฟื้นอยู่ในยอดเขาโยวชิงตลอดหรือไรกัน? คนทั้ง
เซียวหลันยวนรู้สึกนับถือฟู่จิ้นเชินจริงๆเขาเองก็ไม่ได้มีตัวตนฐานะพิเศษอะไร แต่กลับใช้ความสามารถตนเองเข้าไปในคุกใหญ่ได้ เข้าคุกใหญ่ไปยังพอทำเนา แต่นี่ยังได้พบกับโป๋จีด้วยนี่ร้ายกาจมากจริงๆ"พวกเจ้าให้เขาเข้าไปแบบนี้เลยหรือ?" เซียวหลันยวนรู้สึกแปลกใจจริงๆ"เรื่องนี้ เพราะโป๋จีพูดภาษาเราได้แค่นิดหน่อย คุณชายฟู่เขาพูดภาษาเฮ่อเหลียนได้"หัวหน้าคุกกังวลนิดหน่อย เขาเองก็ไม่รู้ว่าอ๋องเจวี้ยนยกโทษให้กับสามีภรรยาตระกูลฟู่แล้วหรือยังคนไม่น้อยในเมืองหลวงก็ยังมองความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาไม่ออกถ้าหากอ๋องเจวี้ยนโกรธ แล้วหันมาระบายบนตัวเขาจะทำอย่างไรกัน"ท่านอ๋อง ท่านเองก็จะเข้าไปพบโป๋จีคนนั้นหรือ?" เขาถามขึ้นอย่างระมัดระวังอ๋องเจวี้ยนออกมาได้อีกครั้ง แสดงว่าไม่ได้ติดโรคระบาดนั้นมาพวกผู้คุมในคุกใหญ่หลายวันนี้ยังไม่ได้ดื่มยาน้ำของพระชายาอ๋องเจวี้ยน ทุกคนกินอาหารกันวันละสามมื้อ แต่ก็ยังไม่มีใครติดโรคชนิดนั้นเลยดังนั้นพวกเขาเชื่อมั่นในยาขอพระชายาอ๋องเจวี้ยน แน่นอนว่าเชื่อมั่นว่าอ๋องเจวี้ยนไม่ได้เป็นโรคระบาดด้วย"ข้าเข้าไปไม่ได้หรือ?""ไม่ใช่เช่นนั้น ไม่ใช่แน่นอน ท่านอ๋องเข้าไปได้" หัว
เซียวหลันยวนมองเสิ่นเชี่ยวผาดหนึ่ง"ก็แค่ไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมาเท่านั้น"มีแผนอะไรเสียที่ไหน?เรื่องเช่นนี้ ต่อให้พวกเขาลงมือตรวจสอบชัดเจน ก็ไม่ใช่อะไรที่จำทำเสร็จในชั่วครู่องค์จักรพรรดิจะต้องหยิบยืมเรื่องนี้แน่นอนใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าทางนี้คงทานได้อีกไม่นานแล้ว อีกเดี๋ยวก็จะมีคนมาพาฟู่จาวเฟยไปคุกใหญ่ฟู่จาวหนิงกลับเข้าใจความหมายของเซียวหลันยวนขึ้นมา"พวกเราตอนนี้ส่งไปเอง ยังพอจะเลือกห้องขังได้อยู่""ข้าฟังพวกเจ้านั่นล่ะ" เสิ่นเชี่ยวเอ่ยขึ้นทันทีนางต้องเรียนรู้ที่จะเชื่อลูกสาว ไม่ต้องถามให้ชัดเจนนัก ลูกสาวจะต้องไม่ทำร้ายน้องชายแน่ๆ แค่ฟังนางไว้ก็พอเรื่องในเมืองหลวง พวกเขาจะต้องเข้าใจชัดเจนกว่านางแน่นอน"เรื่องนั้นไม่ควรชักช้าไปกันตอนนี้เลย" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นหมุนตัวออกไปก่อนฟู่จาวหนิงกวักมือให้เสี่ยวเฟย "ไปกัน"ฟู่จาวเฟยเองก็เดิมตามนางไปอย่างเชื่อมั่นทันทีเสิ่นเชี่ยวเดินมาถึงด้านหลัง คารวะให้กับใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้า "ขอบคุณใต้เท้าที่ดูแล""เกรงใจเกินไปแล้ว..."ใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าตอบกลับด้วยสัญชาตญาณ จากนั้นก็รู้สึกว่าตนเองในตอนนี้ก็เหมือนจะเกรงใจมากเกินไปเขายังกลายเป
ท่านพี่ในที่สุดก็กลับมาแล้ว ใจของเขาสงบลงมาได้ไม่น้อยเลย"จาวหนิง นี่มาจากในภูเขาหรือ? เหนื่อยแย่เลยสิ?" เสิ่นเชี่ยวยกถ้วยชาบนโต๊ะขึ้นทันที "เจ้าดื่มชาร้อนนี่ก่อนเถอะ เพิ่งต้มใหม่เลย ยังไม่ได้ดื่ม"นางเห็นฟู่จาวหนิงมีรอยคล้ำใต้ตาจางๆ ในภูเขาคงต้องเหนื่อยมากแน่ๆ และคงไม่ได้พักผ่อนดีนักแต่พอยกถ้วยชาขึ้นมา เสิ่นเชี่ยวก็ยังรู้สึกกระวนกระวายอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงจะรับน้ำใจของนางไหมฟู่จาวหนิงรับมา ดื่มไปอึกหนึ่ง ผ่อนคลายลงมาได้"เรื่องจดหมายนี่อย่างไรกัน? ก่อนหน้านี้มีอะไรผิดปกติบ้างไหม หรือมีคนมาหาเจ้าบ้างหรือเปล่า?"เสิ่นเชี่ยวถอนใจโล่ง ในใจก็ลิงโลดขึ้นมาแม้ว่าฟู่จาวหนิงตอนนี้อยู่กับพวกเขาจะไม่ค่อยคล้ายกับพ่อแม่ลูกเท่าไรนัก แต่นางเชื่อว่าในด้านความรู้สึกก็ยังพอเห็นได้บ้าง เดิมทีก็ยังมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกันอยู่ฟู่จาวเฟยส่ายหัว รีบร้อนรับประกันอย่างขันแข็งขึ้นมา "ท่านพี่ ไม่มีอะไรผิดปกติเลย ไม่มีคนมาหาข้าด้วย แล้วก็ไม่ได้รับจดหมายอะไรอีก ข้าเองก็ไม่ได้เขียนจดหมายไปด้านนอก""ช่วยนี้มีใครมาที่บ้านไหม?""ไม่มี มีแต่ท่านพ่อที่ออกไปบ่อยๆ ข้าอยู่ในแต่บ้านฝึกยุทธ์" ฟู่จาวเฟ
"อ๋องเจวี้ยนมาถึงแล้ว"ข้าราชการชั้นผู้น้อยคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามา รู้ว่าใต้เท้าร้อนรนมาก จึงรีบ เข้ามารายงาน"เร็ว"เขาทางนี้แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว คุกใหญ่ทางนั้นถ้าถามออกมาได้ว่าจดหมายอยู่ที่ไหน ก็คงจะให้เขาเอาฟู่จาวเฟยส่งเข้าคุกใหญ่แน่แต่อ๋องเจวี้ยนก่อนหน้านี้กำชับว่า ก่อนหน้าที่เขาจะกลับมา ฟู่จาวเฟยต้องอยู่ที่นี่ก่อน ห้ามส่งไปคุกใหญ่เขาเองก็ทานไม่ไหวแล้ว เดิมทีฟู่จาวเฟยไม่ได้จะส่งมาที่เขาทางนี้ แต่เป็นจดหมายด่วนของอ๋องเจวี้ยนที่ให้เข้าเข้ามารับช่วงไว้ก่อนแต่เขาเองก็ร้อนรนด้วย เขาเองก็กลัวนี่ ถึงตอนนั้นถ้าค้นเจอจดหมายอะไรเข้า แล้วเกี่ยวข้องกับฟู่จาวเฟยจริง เขาก็จัดการลำบากแล้วถึงอย่างไรฟู่จาวเฟยก็อยู่กับเขาทางนี้ ไม่ได้ลงตรวน ไม่ได้ตี ไม่ได้ขังอีกต่างหาก ยังคงนั่งรออยู่ที่โถงข้างๆแล้วยังมีฮูหยินฟู่ด้วย นั่งอยู่กับลูกชายด้วยกันเขาทำเช่นนี้ ถ้าหากถูกองค์จักรพรรดิรู้เข้า องค์จักรพรรดิคงไม่ละเว้นเขาแน่พอเขาออกไป เสิ่นเชี่ยวกับฟู่จาวเฟยก็ลุกขึ้นยืนทันที ขณะเดียวกันก็มองมาทางเขา"ใต้เท้า?""คุณชายฟู่ไปที่ไหนแล้วกันแน่?"ใต้เท้าหยินจิงเจ้ามองพวกเขา และคิดถึงเรื่องที่เมื่อคร