"แกว่ายังไงนะแบม พี่บาสจะย้ายกลับมาอยู่ไทยแล้วอย่างงั้นหรอ"
"ใช่ เพราะว่าปีนี้คุณพ่อจะเกษียณแล้ว พี่บาสเลยต้องเข้ามาดูแลแทน และที่สำคัญแกต้องย้ายจากการเป็นพยาบาลผู้ช่วยฉันไปเป็นผู้ช่วยพี่บาสแทน"
เพียงแค่ประโยคๆเดียวทำเอาคริมาถึงกับตัวชาทำอะไรไม่ถูก กี่ปีมาแล้วนะที่เธอไม่ได้เจอเขา จากที่คิดว่าจะลืมเลือนกันไป ความทรงจำในตอนนั้นกลับผุดขึ้นมาฉายชัดอีกครั้ง นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้นก็ทำเอาเธอถึงกับเข่าอ่อน ไม่รู้ว่าอะไรดลใจทำให้เธอใจกล้าทำเรื่องบ้าๆแบบนั้นไป
"พี่บาสคะ คือว่า... เค้กชอบพี่บาสค่ะ"
"แต่พี่ว่าเค้กยังเด็กอยู่นะ เอาเวลาไปตั้งใจเรียนให้รีบจบก่อนดีกว่า"
หลังจากที่สารภาพความรู้สึกกับเขาไปในวันนั้น เธอก็ไม่เคยได้เจอเขาอีกเลย เพราะว่าเขาต้องเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ถึงแม้ว่าวันนั้นเขาเองไม่ได้มีทีท่าอะไรที่จะทำให้เธอรู้สึกแย่ แถมยังเอามือมาลูบหัวแลัวยังส่งยิ้มหวานมาให้เธอราวกับว่าเอ็นดูอีกต่างหากแต่นั่นก็ทำให้เธอรู้สึกแย่อยู่ดี
นี่มันก็เป็นเวลามากกว่าหกปีแล้ว แต่ความรู้สึกตอนที่เธอวิ่งไปบอกชอบเขาตอนนั้นเหมือนราวกับว่ามันพึ่งผ่านพ้นมาเพียงไม่กี่วัน เขาจะยังคงจำเหตุการณ์นั้นได้หรือไม่ ถ้าเขายังจำได้เธอจะทำอย่างไรดี และที่สำคัญตอนนี้เธอก็กำลังทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลของครอบครัวเขา และถ้าเขากำลังจะกลับมานั่นหมายความว่าเธอกับเขาจะต้องได้เจอหน้ากันอีกอย่างแน่นอน เพราะบุรินทร์เองก็เป็นสูตินรีแพทย์ เท่ากับว่าแบบนี้เธอกับเขาก็จะต้องเจอหน้ากันทุกวัน
จากเด็กมัธยมปลายที่คอยแอบรักพี่ชายเพื่อนสนิท จนล่วงเลยผ่านมา เวลานี้เธอกลายร่างเป็นสาวสวยสมวัย เธอกับบุรารีเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันมาตั้งแต่มัธยมต้นจนถึงมหาวิทยาลัย จนกระทั่งตอนนี้ได้มาทำงานเป็นพยาบาลผู้ช่วยของบุรารีเพื่อนสนิทตัวเองมาได้สักพักหนึ่งแล้ว ตัวบุรารีนั้นต่อตรงไปทางด้านแพทย์ ด้วยว่าเป็นความต้องการของครอบครัว ส่วนตัวเธอเองจบมาทางด้านพยาบาล แล้วบุรารีก็เสนอว่าให้เธอมาทำงานเป็นผู้ช่วยแพทย์ที่โรงพยาบาลของครอบครัวเธอ
ใจดวงน้อยได้แต่ครุ่นคิดหาทางออกให้กับตัวเอง เธอชอบงานที่นี่ เธอและบุรารีเริ่มทำงานมาที่นี่มาด้วยกันจนเกือบจะครบปีแล้วและทุกอย่างก็ดูว่าน่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี ทุกคนที่นี่ใจดีและพากันช่วยสอนงานและให้คำแนะนำทั้งเธอและบุรารีอย่างเต็มที่ ผิดก็ว่ากันไปตามผิด ไม่มีการประคบประหงมหรือมานั่งอวย บางคนก็บอกว่าเห็นบุรารีมาตั้งแต่ยังตัวเล็กๆ เพราะว่าก็ทำงานที่นี่มานานแล้วเช่นกัน พรุ่งนี้แล้วสินะที่เขากำลังจะกลับมา
'จะทำอย่างไรดี'
เช้านี้คริมาตื่นมาด้วยอาการสลึมสลือ เนื่องจากว่าเมื่อคืนกว่าจะได้หลับก็ปาเข้าไปตีสามเพราะมัวแต่กระวนกระวายใจเรื่องของบุรินทร์ เมื่อเจอหน้าเขา คำแรกที่ต้องควรพูดคืออะไร
'สบายดีนะคะพี่บาส,จำเค้กได้หรือเปล่า'
ศรีษะงามสะบัดไปมาไล่ความคิดจนผมกระจาย
"เค้ก แกโอเคหรือเปล่า หน้าตาดูไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่เลยนะวันนี้" บุรารีทักขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทเดินเข้าอาคารมาด้วยอาการซึ่งดูแล้วไม่ค่อยจะปกติเท่าไหร่
"เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับน่ะ กว่าจะข่มตาให้หลับได้ก็เกือบสว่าง สภาพฉันก็เลยเป็นอย่างที่แกเห็น"
"หืมว่าแต่ ทำไมแกถึงนอนไม่หลับน้าาา อย่าบอกนะว่าตื่นเต้นที่จะได้เจอพี่ชายฉันอ่ะ อิอิ" บุรารีแกล้งแซว
"แล้วถ้าฉันบอกแกว่าใช่ล่ะ"
"โอ๊ย แกจะไปตื่นเต้นคิดมากอะไรขนาดนั้น เรื่องมันก็ตั้งหกเจ็ดปีมาแล้ว ตอนนั้นแกเองก็พึ่งจะสิบเจ็ด ป่านนี้พี่ฉันคงลืมไปหมดแล้วมั้ง"
"แกคิดอย่างงั้นจริงๆหรอแบม"แม้ว่าจะพยายามทำใจให้คิดไปตามที่เพื่อนสนิทบอกแต่คริมาเองก็อดที่จะกังวลไม่ได้
"เฮ้อ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เห็นว่าพี่ชายฉันจะพูดอะไรถึงเรื่องนี้เลยนะ ขนาดฉันทำเนียนแอบเล่าเรื่องแกให้พี่ชายฉันฟังอยู่เรื่อยๆแล้ว แต่รายนั้นก็ยังทำเฉย ไม่ถามไม่พูดถึงเลยซักคำ"
"งั้นก็คงแปลว่าพี่ชายแกเขาคงจะไม่ได้สนใจฉันจริงๆ นั่นแหละถึงได้ทำเฉยขนาดนั้น"
"ไม่ต้องทำหน้าเศร้าไปหรอกน่า นี่ไงโอกาสมาถึงแล้วน ฉันขอแนะนำเลยว่าให้แกใช้จังหวะนี้รีบทำคะแนนใส่พี่ชายฉันรัวๆ จะบอกให้นะเค้ก ว่าแกตอนนี้กับแกเมื่อหกเจ็ดปีก่อนมันคนเดียวกันเสียที่ไหน อกตู้มเอวตูดขนาดนี้สเป็คพี่ชายฉันชัดๆ ลองพี่ฉันมาเห็นแกรอบนี้แล้วไม่สนใจ ฉันก็คงคิดว่าพี่ฉันเป็นเกย์แล้วล่ะ" บุรารีบอกพลางเดินเข้าไปตบไหล่เพื่อนเบาๆ
"แล้วนี่แกไม่โกรธฉันหรือไงที่ฉันแอบชอบพี่ชายแกน่ะ ถึงได้ทำเหมือนเชียร์ออกนอกหน้าขนาดนี้ ปกติน้องสาวทั่วไปเขาก็ต้องหวงพี่ชายกันไม่ใช่หรือไง"
"หวงสิ หวงมากด้วย เพราะว่าพี่ฉันหล่อลากดินลากไส้ขนาดนี้ นี่ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นล่ะก็อย่ามาหวัง แต่สำหรับแกแล้วฉันยกเว้นให้แกคนหนึ่งเลยจ๊ะคุณว่าที่พี่สะใภ้"
"แต่ฉันไม่แน่ใจเลยนะว่าฉันจะได้เป็นพี่สะใภ้ของแกน่ะ ดูโน่นสิ" คริมาพยักหน้าให้บุรารีหันไปดูที่ประตูทางเข้า ซึ่งปรากฎร่างชายหนุ่มรูปงามลำตัวสูงใหญ่ค่อยๆเดินอ้อมไปเปิดประตูให้หญิงสาวสาวที่นั่งคู่มาด้วยกันอย่าสุภาพและมีใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
"เฮ้ย ยัยนั่นคือใครทำไมฉันไม่เคยเห็น"
"ก็คงจะเป็นแฟนพี่ชายแกน่ะสิ เขาเดินควงแขนกันมาเสียขนาดนั้น"
"ไม่มีทาง ไม่น่าใช่ ไม่เห็นพี่บาสเคยพูดให้ฟังเลยว่ามีแฟน และฉันก็จะไม่มีทางยอมด้วย แกต้องช่วยฉันนะเค้ก ตำแหน่งพี่สะใภ้บ้านฉันต้องเป็นของแกเท่านั้น เดี๋ยวฉันจะช่วยแกเอง"
"นี่แกจะบ้าหรอแบม เขาควงกันมาขนาดนี้แกจะให้ฉันทำอะไรได้"
"ทำได้สิ นี่แกลืมไปหรือเปล่าว่าถ้าพี่บาสมาทำงานที่นี่ นั่นก็หมายความว่าโอกาสที่แกกับพี่บาสจะได้อยู่ด้วยกันก็คือทั้งวัน ได้เจอหน้ากันทั้งวัน แล้วแกไม่เคยได้ยินหรือไง ว่าต่อให้เป็นรักแท้แค่ไหน ยังไงก็ต้องแพ้ให้ความใกล้ชิด ฉะนั้นถึงเวลาแล้วที่แกต้องใช้สิ่งที่สวรรค์อุตส่าห์มอบให้แกมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ซึ่งนั่นก็คือนมใหญ่ๆกับก้นงอนๆของแก อ่อยเข้าไป ยั่วเข้าไป ทำยังไงก็ได้ให้พี่ชายของฉันอยากงาบแก เข้าใจมั้ย"
"อะไรนะ นี่แกจะให้ฉันไปอ่อยไปยั่วพี่ชายแกเนี่ยนะแกหยุดเถอะ ฉันทำไม่ได้หรอก" คริมาส่ายหน้าดิกเมื่อได้ฟังข้อเสนอเพื่อน
"หรือแกจะยอมปล่อยให้แม่นั่นงาบพี่ฉันไป"
"แต่ฉันว่าถึงยังไงเขาก็คงเคยงาบกันมาก่อนแล้วหรือป่าวล่ะ"
"งาบก่อนแล้วไง ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้งาบตลอดไปนี่ ไปๆเดินมาละ ทำหน้าสวยๆแข่งกับยัยนั่นไว้ ยังไงฉันก็จะเชียร์แก"
หลังจากแนะนำตัวและทักทายกันเสร็จแล้วคริมาก็ยังกลับมานั่งใจเต้นยังไม่หาย แม้ว่าบุรินทร์จะหายเข้าไปในห้องทำงานพร้อมกับหญิงสาวที่เขาควงมาด้วยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าตัวแนะนำกับเธอและน้องสาวของเขาให้ได้รู้จักว่าหญิงสาวคนนี้คือเพื่อนสนิทคนหนึ่งสมัยตอนที่เรียนอยู่ที่ต่างประเทศด้วยกัน"ยินดีที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้งนะ ตอนนี้เค้กโตพอแล้ว พี่หวังว่าเราคงจะเข้ากันได้ดี...ในส่วนของการทำงานร่วมกันในครั้งนี้นะครับ"ดวงตาคมปราบที่มองมากับริมฝีปากยกยิ้มน้อยๆนั้นทำไมถึงทำให้เธอใจสั่นได้ถึงขนาดนี้นะ คริมายกมือขึ้นมาทาบอกก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาทางริมฝีปากบาง ห่างกันแค่นี้ เพียงแค่ผนังห้องกั้น บุรินทร์ที่เธอเคยหลงรักและลุ่มหลงมาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน เวลานี้เขากลับมาอยู่ใกล้ๆเธอเพียงแค่นี้เอง เธอควรจะทำอย่างไรดีถ้าหากว่าเธอยังอยากครอบครองทั้งตัวและหัวใจของเขาอยู่ ทำตามคำแนะนำของบุรารีเลยดีมั้ยนะ 'อ่อยๆยั่วๆ' ราวๆเกือบสองชั่วโมงที่สองคนนั้นหายกันเข้าไปในห้อง บุรารีทำเนียนด้วยการยกพวกชากาแฟเข้าไปให้เพื่อสังเกตการณ์ ได้ความมาว่าหญิงสาวคนนั้นต้องการให้พี่ชายของเธอตรวจสุขภาพภายในให้'ชิ อยากอ่อยล่ะสิไม่ว่า' นั
สิบเจ็ดนาฬิกาตรง ได้เวลาเลิกงานแล้ว หากแต่ว่า. มองจากตรงนี้ออกไปทางด้านนอกท้องฟ้ากลับมืดครึ้มดำสนิทราวกับกำลังจะมีพายุใหญ่ เธอต้องรีบไปแล้ว วันนี้เธอไม่ได้ขับรถมาเนื่องจากว่าต้องเอารถเข้าศูนย์เพื่อไปตรวจสภาพ แถมระยะทางจากที่นี่กว่าจะออกไปถึงปากซอยเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าก็ถือว่าไกลอยู่พอสมควร ถ้าขืนชักช้าแล้วเกิดฝนตกลงมามีหวังได้เปียกหมดแน่ๆ"กำลังจะกลับแล้วหรอเค้ก"เสียงคนที่อยู่ด้านหลังประตูเปิดออกมาถามในขณะที่เธอกำลังสาละวนอยู่กับการเก็บข้าวของลงกระเป๋า"ค่ะ พอดีว่าฝนกำลังจะตกหนักแล้ววันนี้เค้กไม่ได้เอารถมา เลยว่าจะรีบออกไปให้ถึงสถานีรถไฟฟ้าให้ทันก่อนที่ฝนจะตก ถ้าเกิดว่าพี่บาสจะอนุญาต เค้กอยากจะขอ..." "เค้กไม่ต้องรีบออกไปหรอก แบมบอกพี่ไว้ตั้งแต่เมื่อตอนกลางวันแล้วว่าวันนี้เค้กไม่ได้เอารถมา เลยฝากให้พี่ไปส่งเค้กที่คอนโดให้หน่อย ส่วนแบมต้องรีบกลับไปรับคุณแม่น่ะ" 'มันใช่หรอ สิ่งที่บุรินทร์บอก ทำไมจู่ๆบุรารีถึงได้อยากจะฝากฝังพี่ชายตัวเองให้ไปส่งเธอกัน ถ้ามันไม่ใช่แผนการของบุรารีที่อยากให้เธอและพี่ชายของตัวเองได้อยู่ใกล้ชิดกัน'"คือเค้กว่าขอไม่รบกวนพี่บาสดีกว่าค่ะ เค้กเกรงใจเดี๋ย
หลังจากแก้ปัญหาเรื่องสายคาดเข็มขัดนิรภัยได้แล้ว บุรินทร์ก็กลับมานั่งประจำตำแหน่งตัวเอง จากนั้นจึงหันไปหยิบเสื้อยืดตัวที่วางพาดไว้กับพวงมาลัยรถเพื่อมาใส่ เห็นดังนั้นคริมาก็ได้แต่มองตามตาละห้อยที่ภาพความสวยงามนั้นได้หายวับไปกับตา"พี่ว่าเค้กเปลี่ยนเสื้อด้วยดีกว่านะ ใส่เสื้อเปียกนานๆเดี๋ยวจะไม่สบายปอดบวมเข้า เผลอๆฝนตกหนักแบบนี้รถคงติดไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมง""ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พอดีว่าเค้กไม่ได้เอาเสื้อมาเปลี่ยนด้วย""เสื้อพี่ไง เหลืออีกตัวหนึ่งถ้าเค้กไม่รังเกียจ"'จะไปรังเกียจได้ยังไงล่ะคะ ในเมื่อเค้กออกจะคลั่งไคล้ในตัวพี่ขนาดนี้'"เสื้อพี่บาสหรอคะ""ใช่ เอาไปใส่สิ"คริมารับเสื้อมาจากบุรินทร์แล้วแต่ก็ยังคงถือไว้อย่างนั้น บุรินทร์ลืมไปหรือเปล่าว่าเธอเป็นผู้หญิง จะให้มาถอดปุ๊บเปลี่ยนปั๊บแบบเขาน่ะเธอทำได้เสียที่ไหน"เปลี่ยนสิเค้กไม่ต้องกลัวว่าใครจะเห็น รถพี่กระจกทึบทั้งคัน ข้างนอกมองเข้ามาไม่เห็นหรอก" พอบุรินทร์บอกแบบนั้นคริมาก็พึ่งจะนึกได้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ซึ่งความจริงเธอลืมไปเสียด้วยซ้ำและกลับไม่ได้กังวลถึงเรื่องนี้เลย แต่มันเป็นเพราะ เขา การต้องถอดเปลี่ยนเสื้อต่อหน้าเขาต่างหากคือสิ่งที่
ร่างเล็กเดินก้าวออกมาจากห้องน้ำอย่างช้าๆ ด้านหน้าที่โซฟาในห้องนั่งเล่นมีบุรินทร์ตัวเป็นๆนั่งเปิดโทรทัศน์รออยู่ด้วยท่าทางเพลิดเพลิน และพอได้ยินเสียงว่าเธอกำลังเดินใกล้เข้ามา ใบหน้าหล่อเหลาที่เธอแสนจะหลงใหลก็หันมองมายังทิศทางที่เธออยู่ทันที"นุ่งผ้าขนหนูมาแบบนี้ กะจะยั่วพี่หรือเปล่าเนี่ยเค้ก"'ยั่วสิคะ แอบยั่วตั้งแต่ในรถแล้วพี่บาสไม่รู้หรอ'"เปล่านี่คะ ใส่แบบนี้เค้กว่ามันสะดวกดี ก็คิดเสียว่ากำลังใส่มาให้พี่บาสตรวจนมให้ก็แล้วกันค่ะ"คริมาแกล้งปดออกไปคำโตเมื่อถูกจับได้ ก็แล้วใครจะไปยอมรับให้เสียหน้ากันล่ะคะพี่บาสขาว่า ใช่ค่ะ ตั้งใจใส่มายั่ว"ถ้างั้นก็มานั่งตรงนี้สิ" มือใหญ่ตบลงที่บนโซฟาตัวเดียวกันกับที่เขานั่ง เอาเข้าจริงเธอเองก็กังวลอยู่เหมือนกันที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าคนที่ตัวเองหลงรัก ขาเรียวงามค่อยๆเดินเข้าไปหาเขาอย่างว่าง่ายแม้ว่าภายในใจนั้นแสนจะอึดอัดจนเกือบจะหายใจไม่ออก "ให้เค้กถอดเลยมั้ยคะ""ครับ"มือเล็กค่อยๆแกะปมผ้าขนหนูที่ผูกเอาไว้ออกทีละน้อย สายตาของเธอจ้องมองสบไปที่เขาอย่างหวั่นๆ แม้ว่าจะทำใจมาแล้ว แต่พอเอาเข้าจริงเจอสายตาคมของเขาที่จับจ้องมองมาแล้วคริมาก็เกิดอาการวูบๆวาบ
ขาเรียวสวยได้หยุดเยื้องย่างลงยามเมื่อพาตัวเองเดินเข้ามาถึงบริเวณตรงปลายของเตียงนอน ใบหน้างดงามแสนหวานนั้นหันกลับมาสบตาคมด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าเขาจะรู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อได้มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกันขนาดนี้เขายืนอยู่ตรงนั้น..ผู้ชายคนที่เธอยังคงใฝ่ฝันหาบุรินทร์เดินตามเข้ามาและหยุดมองเธออย่างไม่ละสายตาเช่นกัน ราวกับมีกระแสไฟวิ่งผ่าน ความร้อนวูบวาบและความเปียกแฉะกลางหว่างขายิ่งไหลออกมาเพิ่มมากขึ้นยามเมื่อได้สบตากับเขา เส้นเลือดที่ปูดโปนตามมือแกร่งและท่อนแขนแข็งแรงนั่น หากว่าเขาใช้มันสัมผัสกับตรงนั้นของเธอ มันจะให้ความรู้สึกที่ดีหรือเปล่านะ คริมาแทบจะทนความรู้สึกที่จะได้ถูกเขาสัมผัสแทบไม่ไหว มือเล็กที่จับปมผ้าขนหนูเอาไว้ค่อยๆปลดคลายมันออกอย่างช้าๆก่อนจะหยุดชะงักเล็กน้อยไว้ตรงบริเวณเอวคอด "เค้กถอดเลยนะคะพี่บาส""ถอดสิ ถอดออกให้หมดเลย" แม้ว่าน้ำเสียงที่บอกจะราบเรียบหากแต่คริมากลับสัมผัสได้ถึงประกายความร้อนแรงที่ถูกสาดมาทางแววตาเธอค่อยๆปล่อยผ้าขนหนูผืนใหญ่ให้มันไหลกองลงไปอยู่ที่พื้น เวลานี้เรือนร่างของเธอเปลือยเปล่าต่อหน้าต่อตาเขาแบบไม่มีอะไรปกปิด สายตาก็คอยสอดส่องแอบสังเกตุอาการว่าบุร
คริมายังคงครวญครางออกมาด้วยความเสียวซ่านไม่หยุด ทุกๆสัมผัสที่บุรินทร์เขี่ยคลึงลงมามันทั้งร้อนและเสียวจนเธอแทบจะเสร็จและหลอมละลาย นิ้วร้ายกาจของเขาที่กำลังใช้รังแกเธออยู่ยิ่งเขี่ยขยี้เร็วขึ้น บุรินทร์ใช้มันอย่างชำนาญการจนกระทั่งเรือนร่างอวบอัดนั้นแอ่นเกร็งกระตุกขึ้น"พี่ว่าเค้กน่าจะแฉะพอแล้วนะ ดูสิเปียกเยิ้มเต็มมือพี่เลย" บุรินทร์แกล้งแซวยิ้มๆในขณะที่คริมาเองก็สังเกตุเห็นอาการหายใจเร็วขึ้นของเขา จะว่าไปถ้าจะลองแอบมองเลยไปจนถึงส่วนนั้นเขาจะรู้มั้ยนะ"ขะ..ขอโทษค่ะ พอดีว่ามันเสียวมากจริงๆ ต้องขอบคุณพี่บาสที่พยายามช่วยให้เค้กแฉะได้ขนาดนี้ ไม่งั้นขืนพี่แหย่นิ้วเข้าไปตรวจเลยเค้กคงเจ็บมากแน่ๆ""ไม่เป็นไรหรอก พี่เป็นหมออยู่แล้ว หน้าที่รักษาคนไข้พี่ต้องทำมันอย่างเต็มที่""ขอบคุณค่ะพี่บาส" คริมาตอบออกมาเสียงสั่น ไม่ใช่แค่เสียง ทั้งเนื้อทั้งตัวแข้งขาเธอเองก็สั่นไปหมดกับสิ่งที่เขาทำให้เธอไปเมื่อครู่ เธอเสร็จ..ใช่ เสร็จด้วยนิ้วเรียวๆของเขาที่เพียงแค่สัมผัสเธอจากแค่ทางด้านนอกเท่านั้น ไม่อยากจินตนาการต่อเลยว่าถ้าได้เสร็จด้วยอย่างอื่นจริงๆมันจะให้ความรู้สึกที่ดีมากกว่าแค่ไหน"งั้นพี่จะเริ่มแหย่นิ้วเข
คริมานอนเกร็งจนตัวแข็งราวกับแทบหยุดหายใจยามเมื่อปลายลิ้นร้อนของบุรินทร์ค่อยๆจ่อเลียลงมา ความอุ่นร้อนของมันยามเมื่อเเตะลงมาให้ความรู้สึกที่โคตรจะแปลกใหม่จนหัวใจดวงน้อยๆนั้นแทบหยุดเต้น ลิ้นร้อนของเขาค่อยๆขยับเลียทีละน้อยจากร่องรูฉ่ำแฉะจนขึ้นมาสุดที่ปุ่มกระสัน มิหนำซ้ำยังขยี้มันเบาๆวนเล่นอยู่อย่างนั้นจน ทำเอาความเสียวนั้นวิ่งปราดขึ้นมาจนคริมาต้องหลุดคราง"อ๊ะๆ พี่บาสขา เสียวค่ะ อ๊าๆ""ชู่ว นิ่งไว้เค้ก นิ่งไว้ พี่กำลังต้องการสมาธิ""ขอ..ขอโทษค่ะ เค้กเสียวมากเกินไปหน่อย""ดี ถ้าเสียวมากๆก็เด้งกระแทกใส่ลิ้นพี่ได้เลย เค้กจะได้ไม่ทรมานมาก""ค่ะพี่บาส มันทรมานมากก็จริง แต่ว่าเค้กก็อยากให้พี่เลียเค้กอีกค่ะ เลียต่อนะคะ"คริมากำลังสติหลุดด้วยความทรมานที่แทบจะอดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ สะโพกงอนงามพยายามแอ่นกระดกขึ้น เด้งรับทุกๆจังหวะที่บุรินทร์ละเลงขยี้ปลายลิ้นลงมา ร่องรูของเธอแม้ว่าภายในจะตอดรัดแน่นด้วยความเสียวซ่าน แต่ปากทางเข้าของมันก็บานฟูออกราวกับว่ารอคอยต้อนรับเขาอยู่มือเล็กจากที่ตอนแรกจิกลงไปบนผ้าปูที่นอน เวลานี้วกกลับขึ้นไปบีบขย้ำเต้านมตัวเองแทน โหนกนูนของเธอเด้งขึ้นเด้งลงตามจังหวะลิ้นร้ายของเข
เช้านี้คริมามาทำงานด้วยความรู้สึกที่แทบจะเรียกได้ว่า ทรมานและใจจดใจจ่อที่สุด เย็นนี้เธอมีนัดตรวจแบบจัดเต็ม หลังตอนเลิกงานบุรินทร์บอกว่าจะตรวจให้แบบละเอียด อยากจะรู้จังว่าเธอจะโดนเขาตรวจแบบไหนแล้วโดนใช้อะไรตรวจบ้าง แค่คิดใจกลางความสาวก็เริ่มอุ่นร้อนชุดพยาบาลปกติที่เคยใส่ก็ถือว่าพอดีตัว ไม่ใช่รัดจนแน่นและหลวมจนโหลงเหลง แต่วันนี้เธอตั้งใจใส่มันให้ทั้งรัดและสั้นเป็นพิเศษ ห้องทำงานของบุรินทร์นั้นอยู่ด้านบนของตึก ถ้าไม่ได้มีนัดก็จะทั้งเงียบและไม่มีใครเดินมายุ่มย่ามแถวนี้เลย ตอนเช้าพอจอดรถเสร็จแล้วคริมาก็เลือกที่จะเดินเข้าจากทางด้านหลัง เพราะว่าจะได้ไม่ต้องเจอคนมากนัก ไม่อยากให้ใครเห็นเข้าว่าเธอใส่ชุดที่รัดเสียขนาดนี้พอเดินขึ้นมาจนถึงห้องที่เป็นที่ทำงานของบุรินทร์เรียบร้อยแล้ว คริมาก็เห็นว่าไฟในห้องทำงานของเขานั้นเปิดอยู่ แสดงว่าเขาคงมาถึงก่อนเธอแล้ว ดังนั้นหน้าที่ของเธอก็ควรชงกาแฟเข้าไปให้เขาเสียหน่อยดีกว่า ว่าแต่เขาดื่มกาแฟเเบบไหนกันนะ เข้าไปถามดูหน่อยดีกว่าแล้วกันก๊อกๆ คริมาลองเค่ะประตูสองที พอได้ยินเสียงอนุญาต เธอจึงได้ผลักประตูเข้าไป ดวงหน้าของเธอเริ่มเห่อร้อนยามเมื่อสบสายตาคมคู่นั้น
เช้านี้คริมามาทำงานด้วยความรู้สึกที่แทบจะเรียกได้ว่า ทรมานและใจจดใจจ่อที่สุด เย็นนี้เธอมีนัดตรวจแบบจัดเต็ม หลังตอนเลิกงานบุรินทร์บอกว่าจะตรวจให้แบบละเอียด อยากจะรู้จังว่าเธอจะโดนเขาตรวจแบบไหนแล้วโดนใช้อะไรตรวจบ้าง แค่คิดใจกลางความสาวก็เริ่มอุ่นร้อนชุดพยาบาลปกติที่เคยใส่ก็ถือว่าพอดีตัว ไม่ใช่รัดจนแน่นและหลวมจนโหลงเหลง แต่วันนี้เธอตั้งใจใส่มันให้ทั้งรัดและสั้นเป็นพิเศษ ห้องทำงานของบุรินทร์นั้นอยู่ด้านบนของตึก ถ้าไม่ได้มีนัดก็จะทั้งเงียบและไม่มีใครเดินมายุ่มย่ามแถวนี้เลย ตอนเช้าพอจอดรถเสร็จแล้วคริมาก็เลือกที่จะเดินเข้าจากทางด้านหลัง เพราะว่าจะได้ไม่ต้องเจอคนมากนัก ไม่อยากให้ใครเห็นเข้าว่าเธอใส่ชุดที่รัดเสียขนาดนี้พอเดินขึ้นมาจนถึงห้องที่เป็นที่ทำงานของบุรินทร์เรียบร้อยแล้ว คริมาก็เห็นว่าไฟในห้องทำงานของเขานั้นเปิดอยู่ แสดงว่าเขาคงมาถึงก่อนเธอแล้ว ดังนั้นหน้าที่ของเธอก็ควรชงกาแฟเข้าไปให้เขาเสียหน่อยดีกว่า ว่าแต่เขาดื่มกาแฟเเบบไหนกันนะ เข้าไปถามดูหน่อยดีกว่าแล้วกันก๊อกๆ คริมาลองเค่ะประตูสองที พอได้ยินเสียงอนุญาต เธอจึงได้ผลักประตูเข้าไป ดวงหน้าของเธอเริ่มเห่อร้อนยามเมื่อสบสายตาคมคู่นั้น
คริมานอนเกร็งจนตัวแข็งราวกับแทบหยุดหายใจยามเมื่อปลายลิ้นร้อนของบุรินทร์ค่อยๆจ่อเลียลงมา ความอุ่นร้อนของมันยามเมื่อเเตะลงมาให้ความรู้สึกที่โคตรจะแปลกใหม่จนหัวใจดวงน้อยๆนั้นแทบหยุดเต้น ลิ้นร้อนของเขาค่อยๆขยับเลียทีละน้อยจากร่องรูฉ่ำแฉะจนขึ้นมาสุดที่ปุ่มกระสัน มิหนำซ้ำยังขยี้มันเบาๆวนเล่นอยู่อย่างนั้นจน ทำเอาความเสียวนั้นวิ่งปราดขึ้นมาจนคริมาต้องหลุดคราง"อ๊ะๆ พี่บาสขา เสียวค่ะ อ๊าๆ""ชู่ว นิ่งไว้เค้ก นิ่งไว้ พี่กำลังต้องการสมาธิ""ขอ..ขอโทษค่ะ เค้กเสียวมากเกินไปหน่อย""ดี ถ้าเสียวมากๆก็เด้งกระแทกใส่ลิ้นพี่ได้เลย เค้กจะได้ไม่ทรมานมาก""ค่ะพี่บาส มันทรมานมากก็จริง แต่ว่าเค้กก็อยากให้พี่เลียเค้กอีกค่ะ เลียต่อนะคะ"คริมากำลังสติหลุดด้วยความทรมานที่แทบจะอดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ สะโพกงอนงามพยายามแอ่นกระดกขึ้น เด้งรับทุกๆจังหวะที่บุรินทร์ละเลงขยี้ปลายลิ้นลงมา ร่องรูของเธอแม้ว่าภายในจะตอดรัดแน่นด้วยความเสียวซ่าน แต่ปากทางเข้าของมันก็บานฟูออกราวกับว่ารอคอยต้อนรับเขาอยู่มือเล็กจากที่ตอนแรกจิกลงไปบนผ้าปูที่นอน เวลานี้วกกลับขึ้นไปบีบขย้ำเต้านมตัวเองแทน โหนกนูนของเธอเด้งขึ้นเด้งลงตามจังหวะลิ้นร้ายของเข
คริมายังคงครวญครางออกมาด้วยความเสียวซ่านไม่หยุด ทุกๆสัมผัสที่บุรินทร์เขี่ยคลึงลงมามันทั้งร้อนและเสียวจนเธอแทบจะเสร็จและหลอมละลาย นิ้วร้ายกาจของเขาที่กำลังใช้รังแกเธออยู่ยิ่งเขี่ยขยี้เร็วขึ้น บุรินทร์ใช้มันอย่างชำนาญการจนกระทั่งเรือนร่างอวบอัดนั้นแอ่นเกร็งกระตุกขึ้น"พี่ว่าเค้กน่าจะแฉะพอแล้วนะ ดูสิเปียกเยิ้มเต็มมือพี่เลย" บุรินทร์แกล้งแซวยิ้มๆในขณะที่คริมาเองก็สังเกตุเห็นอาการหายใจเร็วขึ้นของเขา จะว่าไปถ้าจะลองแอบมองเลยไปจนถึงส่วนนั้นเขาจะรู้มั้ยนะ"ขะ..ขอโทษค่ะ พอดีว่ามันเสียวมากจริงๆ ต้องขอบคุณพี่บาสที่พยายามช่วยให้เค้กแฉะได้ขนาดนี้ ไม่งั้นขืนพี่แหย่นิ้วเข้าไปตรวจเลยเค้กคงเจ็บมากแน่ๆ""ไม่เป็นไรหรอก พี่เป็นหมออยู่แล้ว หน้าที่รักษาคนไข้พี่ต้องทำมันอย่างเต็มที่""ขอบคุณค่ะพี่บาส" คริมาตอบออกมาเสียงสั่น ไม่ใช่แค่เสียง ทั้งเนื้อทั้งตัวแข้งขาเธอเองก็สั่นไปหมดกับสิ่งที่เขาทำให้เธอไปเมื่อครู่ เธอเสร็จ..ใช่ เสร็จด้วยนิ้วเรียวๆของเขาที่เพียงแค่สัมผัสเธอจากแค่ทางด้านนอกเท่านั้น ไม่อยากจินตนาการต่อเลยว่าถ้าได้เสร็จด้วยอย่างอื่นจริงๆมันจะให้ความรู้สึกที่ดีมากกว่าแค่ไหน"งั้นพี่จะเริ่มแหย่นิ้วเข
ขาเรียวสวยได้หยุดเยื้องย่างลงยามเมื่อพาตัวเองเดินเข้ามาถึงบริเวณตรงปลายของเตียงนอน ใบหน้างดงามแสนหวานนั้นหันกลับมาสบตาคมด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าเขาจะรู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อได้มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกันขนาดนี้เขายืนอยู่ตรงนั้น..ผู้ชายคนที่เธอยังคงใฝ่ฝันหาบุรินทร์เดินตามเข้ามาและหยุดมองเธออย่างไม่ละสายตาเช่นกัน ราวกับมีกระแสไฟวิ่งผ่าน ความร้อนวูบวาบและความเปียกแฉะกลางหว่างขายิ่งไหลออกมาเพิ่มมากขึ้นยามเมื่อได้สบตากับเขา เส้นเลือดที่ปูดโปนตามมือแกร่งและท่อนแขนแข็งแรงนั่น หากว่าเขาใช้มันสัมผัสกับตรงนั้นของเธอ มันจะให้ความรู้สึกที่ดีหรือเปล่านะ คริมาแทบจะทนความรู้สึกที่จะได้ถูกเขาสัมผัสแทบไม่ไหว มือเล็กที่จับปมผ้าขนหนูเอาไว้ค่อยๆปลดคลายมันออกอย่างช้าๆก่อนจะหยุดชะงักเล็กน้อยไว้ตรงบริเวณเอวคอด "เค้กถอดเลยนะคะพี่บาส""ถอดสิ ถอดออกให้หมดเลย" แม้ว่าน้ำเสียงที่บอกจะราบเรียบหากแต่คริมากลับสัมผัสได้ถึงประกายความร้อนแรงที่ถูกสาดมาทางแววตาเธอค่อยๆปล่อยผ้าขนหนูผืนใหญ่ให้มันไหลกองลงไปอยู่ที่พื้น เวลานี้เรือนร่างของเธอเปลือยเปล่าต่อหน้าต่อตาเขาแบบไม่มีอะไรปกปิด สายตาก็คอยสอดส่องแอบสังเกตุอาการว่าบุร
ร่างเล็กเดินก้าวออกมาจากห้องน้ำอย่างช้าๆ ด้านหน้าที่โซฟาในห้องนั่งเล่นมีบุรินทร์ตัวเป็นๆนั่งเปิดโทรทัศน์รออยู่ด้วยท่าทางเพลิดเพลิน และพอได้ยินเสียงว่าเธอกำลังเดินใกล้เข้ามา ใบหน้าหล่อเหลาที่เธอแสนจะหลงใหลก็หันมองมายังทิศทางที่เธออยู่ทันที"นุ่งผ้าขนหนูมาแบบนี้ กะจะยั่วพี่หรือเปล่าเนี่ยเค้ก"'ยั่วสิคะ แอบยั่วตั้งแต่ในรถแล้วพี่บาสไม่รู้หรอ'"เปล่านี่คะ ใส่แบบนี้เค้กว่ามันสะดวกดี ก็คิดเสียว่ากำลังใส่มาให้พี่บาสตรวจนมให้ก็แล้วกันค่ะ"คริมาแกล้งปดออกไปคำโตเมื่อถูกจับได้ ก็แล้วใครจะไปยอมรับให้เสียหน้ากันล่ะคะพี่บาสขาว่า ใช่ค่ะ ตั้งใจใส่มายั่ว"ถ้างั้นก็มานั่งตรงนี้สิ" มือใหญ่ตบลงที่บนโซฟาตัวเดียวกันกับที่เขานั่ง เอาเข้าจริงเธอเองก็กังวลอยู่เหมือนกันที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าคนที่ตัวเองหลงรัก ขาเรียวงามค่อยๆเดินเข้าไปหาเขาอย่างว่าง่ายแม้ว่าภายในใจนั้นแสนจะอึดอัดจนเกือบจะหายใจไม่ออก "ให้เค้กถอดเลยมั้ยคะ""ครับ"มือเล็กค่อยๆแกะปมผ้าขนหนูที่ผูกเอาไว้ออกทีละน้อย สายตาของเธอจ้องมองสบไปที่เขาอย่างหวั่นๆ แม้ว่าจะทำใจมาแล้ว แต่พอเอาเข้าจริงเจอสายตาคมของเขาที่จับจ้องมองมาแล้วคริมาก็เกิดอาการวูบๆวาบ
หลังจากแก้ปัญหาเรื่องสายคาดเข็มขัดนิรภัยได้แล้ว บุรินทร์ก็กลับมานั่งประจำตำแหน่งตัวเอง จากนั้นจึงหันไปหยิบเสื้อยืดตัวที่วางพาดไว้กับพวงมาลัยรถเพื่อมาใส่ เห็นดังนั้นคริมาก็ได้แต่มองตามตาละห้อยที่ภาพความสวยงามนั้นได้หายวับไปกับตา"พี่ว่าเค้กเปลี่ยนเสื้อด้วยดีกว่านะ ใส่เสื้อเปียกนานๆเดี๋ยวจะไม่สบายปอดบวมเข้า เผลอๆฝนตกหนักแบบนี้รถคงติดไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมง""ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พอดีว่าเค้กไม่ได้เอาเสื้อมาเปลี่ยนด้วย""เสื้อพี่ไง เหลืออีกตัวหนึ่งถ้าเค้กไม่รังเกียจ"'จะไปรังเกียจได้ยังไงล่ะคะ ในเมื่อเค้กออกจะคลั่งไคล้ในตัวพี่ขนาดนี้'"เสื้อพี่บาสหรอคะ""ใช่ เอาไปใส่สิ"คริมารับเสื้อมาจากบุรินทร์แล้วแต่ก็ยังคงถือไว้อย่างนั้น บุรินทร์ลืมไปหรือเปล่าว่าเธอเป็นผู้หญิง จะให้มาถอดปุ๊บเปลี่ยนปั๊บแบบเขาน่ะเธอทำได้เสียที่ไหน"เปลี่ยนสิเค้กไม่ต้องกลัวว่าใครจะเห็น รถพี่กระจกทึบทั้งคัน ข้างนอกมองเข้ามาไม่เห็นหรอก" พอบุรินทร์บอกแบบนั้นคริมาก็พึ่งจะนึกได้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ซึ่งความจริงเธอลืมไปเสียด้วยซ้ำและกลับไม่ได้กังวลถึงเรื่องนี้เลย แต่มันเป็นเพราะ เขา การต้องถอดเปลี่ยนเสื้อต่อหน้าเขาต่างหากคือสิ่งที่
สิบเจ็ดนาฬิกาตรง ได้เวลาเลิกงานแล้ว หากแต่ว่า. มองจากตรงนี้ออกไปทางด้านนอกท้องฟ้ากลับมืดครึ้มดำสนิทราวกับกำลังจะมีพายุใหญ่ เธอต้องรีบไปแล้ว วันนี้เธอไม่ได้ขับรถมาเนื่องจากว่าต้องเอารถเข้าศูนย์เพื่อไปตรวจสภาพ แถมระยะทางจากที่นี่กว่าจะออกไปถึงปากซอยเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าก็ถือว่าไกลอยู่พอสมควร ถ้าขืนชักช้าแล้วเกิดฝนตกลงมามีหวังได้เปียกหมดแน่ๆ"กำลังจะกลับแล้วหรอเค้ก"เสียงคนที่อยู่ด้านหลังประตูเปิดออกมาถามในขณะที่เธอกำลังสาละวนอยู่กับการเก็บข้าวของลงกระเป๋า"ค่ะ พอดีว่าฝนกำลังจะตกหนักแล้ววันนี้เค้กไม่ได้เอารถมา เลยว่าจะรีบออกไปให้ถึงสถานีรถไฟฟ้าให้ทันก่อนที่ฝนจะตก ถ้าเกิดว่าพี่บาสจะอนุญาต เค้กอยากจะขอ..." "เค้กไม่ต้องรีบออกไปหรอก แบมบอกพี่ไว้ตั้งแต่เมื่อตอนกลางวันแล้วว่าวันนี้เค้กไม่ได้เอารถมา เลยฝากให้พี่ไปส่งเค้กที่คอนโดให้หน่อย ส่วนแบมต้องรีบกลับไปรับคุณแม่น่ะ" 'มันใช่หรอ สิ่งที่บุรินทร์บอก ทำไมจู่ๆบุรารีถึงได้อยากจะฝากฝังพี่ชายตัวเองให้ไปส่งเธอกัน ถ้ามันไม่ใช่แผนการของบุรารีที่อยากให้เธอและพี่ชายของตัวเองได้อยู่ใกล้ชิดกัน'"คือเค้กว่าขอไม่รบกวนพี่บาสดีกว่าค่ะ เค้กเกรงใจเดี๋ย
หลังจากแนะนำตัวและทักทายกันเสร็จแล้วคริมาก็ยังกลับมานั่งใจเต้นยังไม่หาย แม้ว่าบุรินทร์จะหายเข้าไปในห้องทำงานพร้อมกับหญิงสาวที่เขาควงมาด้วยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าตัวแนะนำกับเธอและน้องสาวของเขาให้ได้รู้จักว่าหญิงสาวคนนี้คือเพื่อนสนิทคนหนึ่งสมัยตอนที่เรียนอยู่ที่ต่างประเทศด้วยกัน"ยินดีที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้งนะ ตอนนี้เค้กโตพอแล้ว พี่หวังว่าเราคงจะเข้ากันได้ดี...ในส่วนของการทำงานร่วมกันในครั้งนี้นะครับ"ดวงตาคมปราบที่มองมากับริมฝีปากยกยิ้มน้อยๆนั้นทำไมถึงทำให้เธอใจสั่นได้ถึงขนาดนี้นะ คริมายกมือขึ้นมาทาบอกก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาทางริมฝีปากบาง ห่างกันแค่นี้ เพียงแค่ผนังห้องกั้น บุรินทร์ที่เธอเคยหลงรักและลุ่มหลงมาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน เวลานี้เขากลับมาอยู่ใกล้ๆเธอเพียงแค่นี้เอง เธอควรจะทำอย่างไรดีถ้าหากว่าเธอยังอยากครอบครองทั้งตัวและหัวใจของเขาอยู่ ทำตามคำแนะนำของบุรารีเลยดีมั้ยนะ 'อ่อยๆยั่วๆ' ราวๆเกือบสองชั่วโมงที่สองคนนั้นหายกันเข้าไปในห้อง บุรารีทำเนียนด้วยการยกพวกชากาแฟเข้าไปให้เพื่อสังเกตการณ์ ได้ความมาว่าหญิงสาวคนนั้นต้องการให้พี่ชายของเธอตรวจสุขภาพภายในให้'ชิ อยากอ่อยล่ะสิไม่ว่า' นั
"แกว่ายังไงนะแบม พี่บาสจะย้ายกลับมาอยู่ไทยแล้วอย่างงั้นหรอ""ใช่ เพราะว่าปีนี้คุณพ่อจะเกษียณแล้ว พี่บาสเลยต้องเข้ามาดูแลแทน และที่สำคัญแกต้องย้ายจากการเป็นพยาบาลผู้ช่วยฉันไปเป็นผู้ช่วยพี่บาสแทน"เพียงแค่ประโยคๆเดียวทำเอาคริมาถึงกับตัวชาทำอะไรไม่ถูก กี่ปีมาแล้วนะที่เธอไม่ได้เจอเขา จากที่คิดว่าจะลืมเลือนกันไป ความทรงจำในตอนนั้นกลับผุดขึ้นมาฉายชัดอีกครั้ง นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้นก็ทำเอาเธอถึงกับเข่าอ่อน ไม่รู้ว่าอะไรดลใจทำให้เธอใจกล้าทำเรื่องบ้าๆแบบนั้นไป "พี่บาสคะ คือว่า... เค้กชอบพี่บาสค่ะ" "แต่พี่ว่าเค้กยังเด็กอยู่นะ เอาเวลาไปตั้งใจเรียนให้รีบจบก่อนดีกว่า"หลังจากที่สารภาพความรู้สึกกับเขาไปในวันนั้น เธอก็ไม่เคยได้เจอเขาอีกเลย เพราะว่าเขาต้องเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ถึงแม้ว่าวันนั้นเขาเองไม่ได้มีทีท่าอะไรที่จะทำให้เธอรู้สึกแย่ แถมยังเอามือมาลูบหัวแลัวยังส่งยิ้มหวานมาให้เธอราวกับว่าเอ็นดูอีกต่างหากแต่นั่นก็ทำให้เธอรู้สึกแย่อยู่ดีนี่มันก็เป็นเวลามากกว่าหกปีแล้ว แต่ความรู้สึกตอนที่เธอวิ่งไปบอกชอบเขาตอนนั้นเหมือนราวกับว่ามันพึ่งผ่านพ้นมาเพียงไม่กี่วัน เขาจะยังคงจำเหตุการณ์นั