หลังจากแนะนำตัวและทักทายกันเสร็จแล้วคริมาก็ยังกลับมานั่งใจเต้นยังไม่หาย แม้ว่าบุรินทร์จะหายเข้าไปในห้องทำงานพร้อมกับหญิงสาวที่เขาควงมาด้วยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าตัวแนะนำกับเธอและน้องสาวของเขาให้ได้รู้จักว่าหญิงสาวคนนี้คือเพื่อนสนิทคนหนึ่งสมัยตอนที่เรียนอยู่ที่ต่างประเทศด้วยกัน
"ยินดีที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้งนะ ตอนนี้เค้กโตพอแล้ว พี่หวังว่าเราคงจะเข้ากันได้ดี...ในส่วนของการทำงานร่วมกันในครั้งนี้นะครับ"
ดวงตาคมปราบที่มองมากับริมฝีปากยกยิ้มน้อยๆนั้นทำไมถึงทำให้เธอใจสั่นได้ถึงขนาดนี้นะ คริมายกมือขึ้นมาทาบอกก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาทางริมฝีปากบาง ห่างกันแค่นี้ เพียงแค่ผนังห้องกั้น บุรินทร์ที่เธอเคยหลงรักและลุ่มหลงมาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน เวลานี้เขากลับมาอยู่ใกล้ๆเธอเพียงแค่นี้เอง เธอควรจะทำอย่างไรดีถ้าหากว่าเธอยังอยากครอบครองทั้งตัวและหัวใจของเขาอยู่ ทำตามคำแนะนำของบุรารีเลยดีมั้ยนะ 'อ่อยๆยั่วๆ'
ราวๆเกือบสองชั่วโมงที่สองคนนั้นหายกันเข้าไปในห้อง บุรารีทำเนียนด้วยการยกพวกชากาแฟเข้าไปให้เพื่อสังเกตการณ์ ได้ความมาว่าหญิงสาวคนนั้นต้องการให้พี่ชายของเธอตรวจสุขภาพภายในให้
'ชิ อยากอ่อยล่ะสิไม่ว่า' นั่นคือคำพูดทิ้งท้ายของเพื่อนสนิทเธอก่อนที่จะกลับไปที่ห้องตรวจของตนเอง
ตำแหน่งงานของคริมาในตอนนี้ก็คือพยาบาลผู้ช่วยพิเศษของนายแพทย์บุรินทร์ อธิเกียรติการกุล สูตินรีแพทย์ผู้ซึ่งเป็นทั้งผู้อำนวยการและผู้บริหารดูแลโรงพยาบาลแห่งนี้แทนบิดาของเขาที่พึ่งเกษียณอายุงานไป
บุรินทร์เป็นคนหล่อ ร่างกายสูงใหญ่กำยำเหมือนพวกเทรนเนอร์ในฟิตเนตอะไรเทือกนั้น นี่ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าเขาเป็นหมอ จ้างให้ก็คงไม่มีใครเดาถูก
สูดลมหายใจเข้าปอดอยู่หลายทีคริมาก็ยกมือขึ้นเคาะประตูห้องตรวจเพื่อเป็นการขออนุญาตก่อนจะเปิดประตูเข้าไป ด้านในมีเขาและหญิงสาวที่ตามเขามาตั้งแต่แรกนั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะทำงานและเวลาทั้งสองคนนั้นกำลังมองตรงมาที่เธอ
"เดี๋ยวเค้กเข้าไปเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือให้คุณหมอก่อนนะคะ" คริมาเอ่ยบอกเบาๆก่อนจะเดินผ่านทั้งคู่เข้าไปยังห้องตรวจที่อยู่อีกห้องข้างใน
ด้วยความที่ว่าตำแหน่งของบุรินทร์คือผู้บริหาร งานของเขาจึงมีมากมายและหลากหลายหน้าที่ ไม่ใช่แค่เพียงตรวจคนไข้ไปวันๆ ในหนึ่งวันบางครั้งเขาอาจจะต้องประชุมทีละหลายๆชั่วโมงเพื่อพูดคุยหาข้อสรุปเกี่ยวกับการบริหารโรงพยาบาลว่าจะเป็นไปในทิศทางใดอย่างเช่นผู้ที่เป็นบิดาของเขาได้เคยทำไว้ ส่วนผู้ที่ต้องการจะได้รับการตรวจกับเขานั้นต้องเป็นคนไข้ระดับวีวีไอพีขึ้นไป ไม่ใช่ว่าใครอยากจะมาขอตรวจกับเขาก็ได้
พอคริมาแจ้งเขาว่าเธอเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองคนก็เดินตามเธอเข้ามาในห้อง โดยบุรินทร์บอกให้หญิงสาวคนนั้นเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียก่อนส่วนตัวเขาก็เดินมาประจำที่
"เค้กสบายดีหรือเปล่า ไม่เจอกันตั้งหลายปี สวยขึ้นจนพี่จำเกือบไม่ได้" แม้ว่าบุรินทร์จะพูดเสียงเรียบหากแต่ดวงตาคมภายใต้หน้ากากอนามัยที่เขาสวมอยู่นั้นกลับมองจ้องทะลุมา ทำเอาคริมาที่กำลังพยายามใส่ถุงมืออย่างทุลักทุเลอยู่เพราะว่าถูกเขามองยิ่งถึงกับสั่นจนเกือบไปไม่ถูก
"เค้กบายดีค่ะ พี่บาสล่ะคะ"
"พี่ก็สบายดี ว่าแต่เค้กมือสั่นขนาดนี้ แน่ใจนะว่าจะทำงานกับพี่ได้"พอก้มลงมองที่มือตัวเองก็ปรากฎว่าเป็นดังที่เขาว่าจริงๆ มือเธอกำลังสั่น ใจเธอกำลังเต้น เพราะ 'เขา'คนตรงหน้า คนที่ทำให้ตัวเธอร้อนรนกระวนกระวาย
"สูดหายใจเข้าลึกๆ ทำใจให้สบายๆและก็ท่องเข้าไว้ว่านี่คืองาน ถ้าเค้กทำมันได้ไม่ดีพอ พี่คงต้องขอพิจารณาว่าจะจ้างเค้กต่อไปดีหรือไม่" พอได้ยินประโยคถัดมาที่เขาบอก อาการประหม่าต่างๆก็พลันหายไป นี่เขากำลังขู่เธอใช่หรือเปล่า แล้วเขาไม่คิดจะเห็นใจเธอบ้างหรือไงว่าไอ้พวกอาการเหล่านี้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมา มันก็เป็นสาเหตุมาจากเขาทั้งนั้น
"เดี๋ยวแอนนี่ขึ้นไปนอนบนเตียงได้เลยนะครับ ขาทั้งสองข้างยกพาดขึ้นไว้บนขาหยั่งแล้วเขยิบก้นหันหน้ามาหาผม"
"แหมบาสคะ นี่แอนนี่พึ่งเคยตรวจครั้งแรกเลยนะคะเนี่ย เขินจังเลยค่ะ ยิ่งมีคุณพยาบาลอยู่ด้วยแบบนี้ยิ่งอายไปใหญ่ จริงๆแล้วบาสตรวจให้แอนนี่แค่คนเดียวไม่ได้หรอคะ" หญิงสาวคนดังกล่าวแสดงสีหน้าออกมาอย่างชัดเจนว่าไม่ได้อยากให้เธอยืนอยู่ตรนั้นด้วย
"ไม่ต้องเขินหรอกครับแอนนี่ อะไรที่แอนนี่มี เค้กเขาก็คงจะมีเหมือนแอนนี่นั่นแหละ ผู้หญิงเหมือนกัน ไม่เห็นมีอะไรจะต้องอายเลย ใช่มั้ยครับเค้ก" บุรินทร์พูดกับหญิงคนไข้หากแต่สายตากลับมองมาที่เธอ
"ก็..ประมาณนั้นค่ะคุณแอนนี่ อะไรที่คุณมี เค้กเองก็มีเหมือนคุณนั่นแหละค่ะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลนะคะ ยังไงก็ผู้หญิงเหมือนกัน ทำตัวสบายๆแป๊บเดียวก็เสร็จค่ะ" คริมากลั้นหายใจตอบตามที่เธอคิดว่าบุรินทร์น่าจะอยากให้เธอตอบออกไปแบบนี้
"ทีนี้ก็อ้าขาออกกว้างๆเลยครับ"
คริมาจ้องมองการกระทำของเขาอย่างไม่วางตา บุรินทร์สวมถุงมือแพทย์แล้วจึงรับเอาเครื่องมือที่เธอคอยส่งให้ทีละชิ้น สอดเข้าไปตรวจอย่างคล่องแคล่ว ใช้เวลาเพียงไม่ถึงห้านาทีเท่านั้นทุกอย่างก็จบลง
"ทุกอย่างดูโอเคปกติดีนะครับแอนนี่ ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล อาการปวดท้องที่คุณมีคงเป็นแค่อาการบีบตัวของมดลูกก่อนช่วงมีประจำเดือนธรรมดาเท่านั้นครับ"
"อย่างงั้นเองหรอกหรอคะ บาสพูดแบบนี้แอนนี่ก็ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย ถ้าอย่างงั้นครั้งหน้าแอนนี่จะขอมาให้บาสตรวจบ่อยๆจะได้หรือเปล่าคะ ตรวจกับบาสแล้วแอนนี่อุ่นใจจนไม่กล้าไปตรวจที่อื่นเลยค่ะ"
"ได้สิครับ เดี๋ยวแอนนี่ทำตารางนัดกับเค้กที่ด้านหน้าได้เลย เอาสักหกเดือนหรือทุกๆหนึ่งปีก็ได้แล้วแต่คุณสะดวก"
"หกเดือน! ทำไมนานจังเลยล่ะคะ นี่แอนนี่กะว่าจะมาให้บาสตรวจทุกๆอาทิตย์เลยด้วยซ้ำ เผื่อว่ามีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นจะได้รักษาทัน"
เสียงเเจ้วๆยังคงดังอยู่ เมื่อจบขั้นตอนของการตรวจ คริมาก็ขอตัวมาจัดการกับเอกสารเพื่อหาข้ออ้างเดินออกจากห้องมา เพราะจากที่สังเกตุแววตาของคนไข้กิติมศักดิ์ที่มองมา เธอดูก็รู้ว่าหล่อนต้องการอยากให้นายแพทย์หนุ่มทำการตรวจรักษาเพิ่ม
"แล้วนี่บาสดูสิคะ แอนนี่แวกซ์ขนออกหมดเลยแบบนี้บาสว่าดีหรือเปล่า บาสชอบมั้ยคะเกลี้ยงเกลาแบบนี้" และก่อนที่จะได้พ้นประตูไป จังหวะที่คริมาจะหันหลังเดินออกจากห้องตรวจเพื่อเอาอุปกรณ์ไปเก็บทำความสะอาด ประโยคที่ว่า...ก็ดันลอยมาเข้าหู ตอนนี้เธอคิดว่าเธอน่าจะรู้แล้วว่า 'เพื่อน'คนนี้ที่บุรินทร์บอก คงไม่น่าจะใช่เพื่อนแบบทั่วไปธรรมดา
สิบเจ็ดนาฬิกาตรง ได้เวลาเลิกงานแล้ว หากแต่ว่า. มองจากตรงนี้ออกไปทางด้านนอกท้องฟ้ากลับมืดครึ้มดำสนิทราวกับกำลังจะมีพายุใหญ่ เธอต้องรีบไปแล้ว วันนี้เธอไม่ได้ขับรถมาเนื่องจากว่าต้องเอารถเข้าศูนย์เพื่อไปตรวจสภาพ แถมระยะทางจากที่นี่กว่าจะออกไปถึงปากซอยเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าก็ถือว่าไกลอยู่พอสมควร ถ้าขืนชักช้าแล้วเกิดฝนตกลงมามีหวังได้เปียกหมดแน่ๆ"กำลังจะกลับแล้วหรอเค้ก"เสียงคนที่อยู่ด้านหลังประตูเปิดออกมาถามในขณะที่เธอกำลังสาละวนอยู่กับการเก็บข้าวของลงกระเป๋า"ค่ะ พอดีว่าฝนกำลังจะตกหนักแล้ววันนี้เค้กไม่ได้เอารถมา เลยว่าจะรีบออกไปให้ถึงสถานีรถไฟฟ้าให้ทันก่อนที่ฝนจะตก ถ้าเกิดว่าพี่บาสจะอนุญาต เค้กอยากจะขอ..." "เค้กไม่ต้องรีบออกไปหรอก แบมบอกพี่ไว้ตั้งแต่เมื่อตอนกลางวันแล้วว่าวันนี้เค้กไม่ได้เอารถมา เลยฝากให้พี่ไปส่งเค้กที่คอนโดให้หน่อย ส่วนแบมต้องรีบกลับไปรับคุณแม่น่ะ" 'มันใช่หรอ สิ่งที่บุรินทร์บอก ทำไมจู่ๆบุรารีถึงได้อยากจะฝากฝังพี่ชายตัวเองให้ไปส่งเธอกัน ถ้ามันไม่ใช่แผนการของบุรารีที่อยากให้เธอและพี่ชายของตัวเองได้อยู่ใกล้ชิดกัน'"คือเค้กว่าขอไม่รบกวนพี่บาสดีกว่าค่ะ เค้กเกรงใจเดี๋ย
หลังจากแก้ปัญหาเรื่องสายคาดเข็มขัดนิรภัยได้แล้ว บุรินทร์ก็กลับมานั่งประจำตำแหน่งตัวเอง จากนั้นจึงหันไปหยิบเสื้อยืดตัวที่วางพาดไว้กับพวงมาลัยรถเพื่อมาใส่ เห็นดังนั้นคริมาก็ได้แต่มองตามตาละห้อยที่ภาพความสวยงามนั้นได้หายวับไปกับตา"พี่ว่าเค้กเปลี่ยนเสื้อด้วยดีกว่านะ ใส่เสื้อเปียกนานๆเดี๋ยวจะไม่สบายปอดบวมเข้า เผลอๆฝนตกหนักแบบนี้รถคงติดไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมง""ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พอดีว่าเค้กไม่ได้เอาเสื้อมาเปลี่ยนด้วย""เสื้อพี่ไง เหลืออีกตัวหนึ่งถ้าเค้กไม่รังเกียจ"'จะไปรังเกียจได้ยังไงล่ะคะ ในเมื่อเค้กออกจะคลั่งไคล้ในตัวพี่ขนาดนี้'"เสื้อพี่บาสหรอคะ""ใช่ เอาไปใส่สิ"คริมารับเสื้อมาจากบุรินทร์แล้วแต่ก็ยังคงถือไว้อย่างนั้น บุรินทร์ลืมไปหรือเปล่าว่าเธอเป็นผู้หญิง จะให้มาถอดปุ๊บเปลี่ยนปั๊บแบบเขาน่ะเธอทำได้เสียที่ไหน"เปลี่ยนสิเค้กไม่ต้องกลัวว่าใครจะเห็น รถพี่กระจกทึบทั้งคัน ข้างนอกมองเข้ามาไม่เห็นหรอก" พอบุรินทร์บอกแบบนั้นคริมาก็พึ่งจะนึกได้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ซึ่งความจริงเธอลืมไปเสียด้วยซ้ำและกลับไม่ได้กังวลถึงเรื่องนี้เลย แต่มันเป็นเพราะ เขา การต้องถอดเปลี่ยนเสื้อต่อหน้าเขาต่างหากคือสิ่งที่
ร่างเล็กเดินก้าวออกมาจากห้องน้ำอย่างช้าๆ ด้านหน้าที่โซฟาในห้องนั่งเล่นมีบุรินทร์ตัวเป็นๆนั่งเปิดโทรทัศน์รออยู่ด้วยท่าทางเพลิดเพลิน และพอได้ยินเสียงว่าเธอกำลังเดินใกล้เข้ามา ใบหน้าหล่อเหลาที่เธอแสนจะหลงใหลก็หันมองมายังทิศทางที่เธออยู่ทันที"นุ่งผ้าขนหนูมาแบบนี้ กะจะยั่วพี่หรือเปล่าเนี่ยเค้ก"'ยั่วสิคะ แอบยั่วตั้งแต่ในรถแล้วพี่บาสไม่รู้หรอ'"เปล่านี่คะ ใส่แบบนี้เค้กว่ามันสะดวกดี ก็คิดเสียว่ากำลังใส่มาให้พี่บาสตรวจนมให้ก็แล้วกันค่ะ"คริมาแกล้งปดออกไปคำโตเมื่อถูกจับได้ ก็แล้วใครจะไปยอมรับให้เสียหน้ากันล่ะคะพี่บาสขาว่า ใช่ค่ะ ตั้งใจใส่มายั่ว"ถ้างั้นก็มานั่งตรงนี้สิ" มือใหญ่ตบลงที่บนโซฟาตัวเดียวกันกับที่เขานั่ง เอาเข้าจริงเธอเองก็กังวลอยู่เหมือนกันที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าคนที่ตัวเองหลงรัก ขาเรียวงามค่อยๆเดินเข้าไปหาเขาอย่างว่าง่ายแม้ว่าภายในใจนั้นแสนจะอึดอัดจนเกือบจะหายใจไม่ออก "ให้เค้กถอดเลยมั้ยคะ""ครับ"มือเล็กค่อยๆแกะปมผ้าขนหนูที่ผูกเอาไว้ออกทีละน้อย สายตาของเธอจ้องมองสบไปที่เขาอย่างหวั่นๆ แม้ว่าจะทำใจมาแล้ว แต่พอเอาเข้าจริงเจอสายตาคมของเขาที่จับจ้องมองมาแล้วคริมาก็เกิดอาการวูบๆวาบ
ขาเรียวสวยได้หยุดเยื้องย่างลงยามเมื่อพาตัวเองเดินเข้ามาถึงบริเวณตรงปลายของเตียงนอน ใบหน้างดงามแสนหวานนั้นหันกลับมาสบตาคมด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าเขาจะรู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อได้มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกันขนาดนี้เขายืนอยู่ตรงนั้น..ผู้ชายคนที่เธอยังคงใฝ่ฝันหาบุรินทร์เดินตามเข้ามาและหยุดมองเธออย่างไม่ละสายตาเช่นกัน ราวกับมีกระแสไฟวิ่งผ่าน ความร้อนวูบวาบและความเปียกแฉะกลางหว่างขายิ่งไหลออกมาเพิ่มมากขึ้นยามเมื่อได้สบตากับเขา เส้นเลือดที่ปูดโปนตามมือแกร่งและท่อนแขนแข็งแรงนั่น หากว่าเขาใช้มันสัมผัสกับตรงนั้นของเธอ มันจะให้ความรู้สึกที่ดีหรือเปล่านะ คริมาแทบจะทนความรู้สึกที่จะได้ถูกเขาสัมผัสแทบไม่ไหว มือเล็กที่จับปมผ้าขนหนูเอาไว้ค่อยๆปลดคลายมันออกอย่างช้าๆก่อนจะหยุดชะงักเล็กน้อยไว้ตรงบริเวณเอวคอด "เค้กถอดเลยนะคะพี่บาส""ถอดสิ ถอดออกให้หมดเลย" แม้ว่าน้ำเสียงที่บอกจะราบเรียบหากแต่คริมากลับสัมผัสได้ถึงประกายความร้อนแรงที่ถูกสาดมาทางแววตาเธอค่อยๆปล่อยผ้าขนหนูผืนใหญ่ให้มันไหลกองลงไปอยู่ที่พื้น เวลานี้เรือนร่างของเธอเปลือยเปล่าต่อหน้าต่อตาเขาแบบไม่มีอะไรปกปิด สายตาก็คอยสอดส่องแอบสังเกตุอาการว่าบุร
คริมายังคงครวญครางออกมาด้วยความเสียวซ่านไม่หยุด ทุกๆสัมผัสที่บุรินทร์เขี่ยคลึงลงมามันทั้งร้อนและเสียวจนเธอแทบจะเสร็จและหลอมละลาย นิ้วร้ายกาจของเขาที่กำลังใช้รังแกเธออยู่ยิ่งเขี่ยขยี้เร็วขึ้น บุรินทร์ใช้มันอย่างชำนาญการจนกระทั่งเรือนร่างอวบอัดนั้นแอ่นเกร็งกระตุกขึ้น"พี่ว่าเค้กน่าจะแฉะพอแล้วนะ ดูสิเปียกเยิ้มเต็มมือพี่เลย" บุรินทร์แกล้งแซวยิ้มๆในขณะที่คริมาเองก็สังเกตุเห็นอาการหายใจเร็วขึ้นของเขา จะว่าไปถ้าจะลองแอบมองเลยไปจนถึงส่วนนั้นเขาจะรู้มั้ยนะ"ขะ..ขอโทษค่ะ พอดีว่ามันเสียวมากจริงๆ ต้องขอบคุณพี่บาสที่พยายามช่วยให้เค้กแฉะได้ขนาดนี้ ไม่งั้นขืนพี่แหย่นิ้วเข้าไปตรวจเลยเค้กคงเจ็บมากแน่ๆ""ไม่เป็นไรหรอก พี่เป็นหมออยู่แล้ว หน้าที่รักษาคนไข้พี่ต้องทำมันอย่างเต็มที่""ขอบคุณค่ะพี่บาส" คริมาตอบออกมาเสียงสั่น ไม่ใช่แค่เสียง ทั้งเนื้อทั้งตัวแข้งขาเธอเองก็สั่นไปหมดกับสิ่งที่เขาทำให้เธอไปเมื่อครู่ เธอเสร็จ..ใช่ เสร็จด้วยนิ้วเรียวๆของเขาที่เพียงแค่สัมผัสเธอจากแค่ทางด้านนอกเท่านั้น ไม่อยากจินตนาการต่อเลยว่าถ้าได้เสร็จด้วยอย่างอื่นจริงๆมันจะให้ความรู้สึกที่ดีมากกว่าแค่ไหน"งั้นพี่จะเริ่มแหย่นิ้วเข
คริมานอนเกร็งจนตัวแข็งราวกับแทบหยุดหายใจยามเมื่อปลายลิ้นร้อนของบุรินทร์ค่อยๆจ่อเลียลงมา ความอุ่นร้อนของมันยามเมื่อเเตะลงมาให้ความรู้สึกที่โคตรจะแปลกใหม่จนหัวใจดวงน้อยๆนั้นแทบหยุดเต้น ลิ้นร้อนของเขาค่อยๆขยับเลียทีละน้อยจากร่องรูฉ่ำแฉะจนขึ้นมาสุดที่ปุ่มกระสัน มิหนำซ้ำยังขยี้มันเบาๆวนเล่นอยู่อย่างนั้นจน ทำเอาความเสียวนั้นวิ่งปราดขึ้นมาจนคริมาต้องหลุดคราง"อ๊ะๆ พี่บาสขา เสียวค่ะ อ๊าๆ""ชู่ว นิ่งไว้เค้ก นิ่งไว้ พี่กำลังต้องการสมาธิ""ขอ..ขอโทษค่ะ เค้กเสียวมากเกินไปหน่อย""ดี ถ้าเสียวมากๆก็เด้งกระแทกใส่ลิ้นพี่ได้เลย เค้กจะได้ไม่ทรมานมาก""ค่ะพี่บาส มันทรมานมากก็จริง แต่ว่าเค้กก็อยากให้พี่เลียเค้กอีกค่ะ เลียต่อนะคะ"คริมากำลังสติหลุดด้วยความทรมานที่แทบจะอดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ สะโพกงอนงามพยายามแอ่นกระดกขึ้น เด้งรับทุกๆจังหวะที่บุรินทร์ละเลงขยี้ปลายลิ้นลงมา ร่องรูของเธอแม้ว่าภายในจะตอดรัดแน่นด้วยความเสียวซ่าน แต่ปากทางเข้าของมันก็บานฟูออกราวกับว่ารอคอยต้อนรับเขาอยู่มือเล็กจากที่ตอนแรกจิกลงไปบนผ้าปูที่นอน เวลานี้วกกลับขึ้นไปบีบขย้ำเต้านมตัวเองแทน โหนกนูนของเธอเด้งขึ้นเด้งลงตามจังหวะลิ้นร้ายของเข
เช้านี้คริมามาทำงานด้วยความรู้สึกที่แทบจะเรียกได้ว่า ทรมานและใจจดใจจ่อที่สุด เย็นนี้เธอมีนัดตรวจแบบจัดเต็ม หลังตอนเลิกงานบุรินทร์บอกว่าจะตรวจให้แบบละเอียด อยากจะรู้จังว่าเธอจะโดนเขาตรวจแบบไหนแล้วโดนใช้อะไรตรวจบ้าง แค่คิดใจกลางความสาวก็เริ่มอุ่นร้อนชุดพยาบาลปกติที่เคยใส่ก็ถือว่าพอดีตัว ไม่ใช่รัดจนแน่นและหลวมจนโหลงเหลง แต่วันนี้เธอตั้งใจใส่มันให้ทั้งรัดและสั้นเป็นพิเศษ ห้องทำงานของบุรินทร์นั้นอยู่ด้านบนของตึก ถ้าไม่ได้มีนัดก็จะทั้งเงียบและไม่มีใครเดินมายุ่มย่ามแถวนี้เลย ตอนเช้าพอจอดรถเสร็จแล้วคริมาก็เลือกที่จะเดินเข้าจากทางด้านหลัง เพราะว่าจะได้ไม่ต้องเจอคนมากนัก ไม่อยากให้ใครเห็นเข้าว่าเธอใส่ชุดที่รัดเสียขนาดนี้พอเดินขึ้นมาจนถึงห้องที่เป็นที่ทำงานของบุรินทร์เรียบร้อยแล้ว คริมาก็เห็นว่าไฟในห้องทำงานของเขานั้นเปิดอยู่ แสดงว่าเขาคงมาถึงก่อนเธอแล้ว ดังนั้นหน้าที่ของเธอก็ควรชงกาแฟเข้าไปให้เขาเสียหน่อยดีกว่า ว่าแต่เขาดื่มกาแฟเเบบไหนกันนะ เข้าไปถามดูหน่อยดีกว่าแล้วกันก๊อกๆ คริมาลองเค่ะประตูสองที พอได้ยินเสียงอนุญาต เธอจึงได้ผลักประตูเข้าไป ดวงหน้าของเธอเริ่มเห่อร้อนยามเมื่อสบสายตาคมคู่นั้น
"แกว่ายังไงนะแบม พี่บาสจะย้ายกลับมาอยู่ไทยแล้วอย่างงั้นหรอ""ใช่ เพราะว่าปีนี้คุณพ่อจะเกษียณแล้ว พี่บาสเลยต้องเข้ามาดูแลแทน และที่สำคัญแกต้องย้ายจากการเป็นพยาบาลผู้ช่วยฉันไปเป็นผู้ช่วยพี่บาสแทน"เพียงแค่ประโยคๆเดียวทำเอาคริมาถึงกับตัวชาทำอะไรไม่ถูก กี่ปีมาแล้วนะที่เธอไม่ได้เจอเขา จากที่คิดว่าจะลืมเลือนกันไป ความทรงจำในตอนนั้นกลับผุดขึ้นมาฉายชัดอีกครั้ง นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้นก็ทำเอาเธอถึงกับเข่าอ่อน ไม่รู้ว่าอะไรดลใจทำให้เธอใจกล้าทำเรื่องบ้าๆแบบนั้นไป "พี่บาสคะ คือว่า... เค้กชอบพี่บาสค่ะ" "แต่พี่ว่าเค้กยังเด็กอยู่นะ เอาเวลาไปตั้งใจเรียนให้รีบจบก่อนดีกว่า"หลังจากที่สารภาพความรู้สึกกับเขาไปในวันนั้น เธอก็ไม่เคยได้เจอเขาอีกเลย เพราะว่าเขาต้องเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ถึงแม้ว่าวันนั้นเขาเองไม่ได้มีทีท่าอะไรที่จะทำให้เธอรู้สึกแย่ แถมยังเอามือมาลูบหัวแลัวยังส่งยิ้มหวานมาให้เธอราวกับว่าเอ็นดูอีกต่างหากแต่นั่นก็ทำให้เธอรู้สึกแย่อยู่ดีนี่มันก็เป็นเวลามากกว่าหกปีแล้ว แต่ความรู้สึกตอนที่เธอวิ่งไปบอกชอบเขาตอนนั้นเหมือนราวกับว่ามันพึ่งผ่านพ้นมาเพียงไม่กี่วัน เขาจะยังคงจำเหตุการณ์นั
เช้านี้คริมามาทำงานด้วยความรู้สึกที่แทบจะเรียกได้ว่า ทรมานและใจจดใจจ่อที่สุด เย็นนี้เธอมีนัดตรวจแบบจัดเต็ม หลังตอนเลิกงานบุรินทร์บอกว่าจะตรวจให้แบบละเอียด อยากจะรู้จังว่าเธอจะโดนเขาตรวจแบบไหนแล้วโดนใช้อะไรตรวจบ้าง แค่คิดใจกลางความสาวก็เริ่มอุ่นร้อนชุดพยาบาลปกติที่เคยใส่ก็ถือว่าพอดีตัว ไม่ใช่รัดจนแน่นและหลวมจนโหลงเหลง แต่วันนี้เธอตั้งใจใส่มันให้ทั้งรัดและสั้นเป็นพิเศษ ห้องทำงานของบุรินทร์นั้นอยู่ด้านบนของตึก ถ้าไม่ได้มีนัดก็จะทั้งเงียบและไม่มีใครเดินมายุ่มย่ามแถวนี้เลย ตอนเช้าพอจอดรถเสร็จแล้วคริมาก็เลือกที่จะเดินเข้าจากทางด้านหลัง เพราะว่าจะได้ไม่ต้องเจอคนมากนัก ไม่อยากให้ใครเห็นเข้าว่าเธอใส่ชุดที่รัดเสียขนาดนี้พอเดินขึ้นมาจนถึงห้องที่เป็นที่ทำงานของบุรินทร์เรียบร้อยแล้ว คริมาก็เห็นว่าไฟในห้องทำงานของเขานั้นเปิดอยู่ แสดงว่าเขาคงมาถึงก่อนเธอแล้ว ดังนั้นหน้าที่ของเธอก็ควรชงกาแฟเข้าไปให้เขาเสียหน่อยดีกว่า ว่าแต่เขาดื่มกาแฟเเบบไหนกันนะ เข้าไปถามดูหน่อยดีกว่าแล้วกันก๊อกๆ คริมาลองเค่ะประตูสองที พอได้ยินเสียงอนุญาต เธอจึงได้ผลักประตูเข้าไป ดวงหน้าของเธอเริ่มเห่อร้อนยามเมื่อสบสายตาคมคู่นั้น
คริมานอนเกร็งจนตัวแข็งราวกับแทบหยุดหายใจยามเมื่อปลายลิ้นร้อนของบุรินทร์ค่อยๆจ่อเลียลงมา ความอุ่นร้อนของมันยามเมื่อเเตะลงมาให้ความรู้สึกที่โคตรจะแปลกใหม่จนหัวใจดวงน้อยๆนั้นแทบหยุดเต้น ลิ้นร้อนของเขาค่อยๆขยับเลียทีละน้อยจากร่องรูฉ่ำแฉะจนขึ้นมาสุดที่ปุ่มกระสัน มิหนำซ้ำยังขยี้มันเบาๆวนเล่นอยู่อย่างนั้นจน ทำเอาความเสียวนั้นวิ่งปราดขึ้นมาจนคริมาต้องหลุดคราง"อ๊ะๆ พี่บาสขา เสียวค่ะ อ๊าๆ""ชู่ว นิ่งไว้เค้ก นิ่งไว้ พี่กำลังต้องการสมาธิ""ขอ..ขอโทษค่ะ เค้กเสียวมากเกินไปหน่อย""ดี ถ้าเสียวมากๆก็เด้งกระแทกใส่ลิ้นพี่ได้เลย เค้กจะได้ไม่ทรมานมาก""ค่ะพี่บาส มันทรมานมากก็จริง แต่ว่าเค้กก็อยากให้พี่เลียเค้กอีกค่ะ เลียต่อนะคะ"คริมากำลังสติหลุดด้วยความทรมานที่แทบจะอดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ สะโพกงอนงามพยายามแอ่นกระดกขึ้น เด้งรับทุกๆจังหวะที่บุรินทร์ละเลงขยี้ปลายลิ้นลงมา ร่องรูของเธอแม้ว่าภายในจะตอดรัดแน่นด้วยความเสียวซ่าน แต่ปากทางเข้าของมันก็บานฟูออกราวกับว่ารอคอยต้อนรับเขาอยู่มือเล็กจากที่ตอนแรกจิกลงไปบนผ้าปูที่นอน เวลานี้วกกลับขึ้นไปบีบขย้ำเต้านมตัวเองแทน โหนกนูนของเธอเด้งขึ้นเด้งลงตามจังหวะลิ้นร้ายของเข
คริมายังคงครวญครางออกมาด้วยความเสียวซ่านไม่หยุด ทุกๆสัมผัสที่บุรินทร์เขี่ยคลึงลงมามันทั้งร้อนและเสียวจนเธอแทบจะเสร็จและหลอมละลาย นิ้วร้ายกาจของเขาที่กำลังใช้รังแกเธออยู่ยิ่งเขี่ยขยี้เร็วขึ้น บุรินทร์ใช้มันอย่างชำนาญการจนกระทั่งเรือนร่างอวบอัดนั้นแอ่นเกร็งกระตุกขึ้น"พี่ว่าเค้กน่าจะแฉะพอแล้วนะ ดูสิเปียกเยิ้มเต็มมือพี่เลย" บุรินทร์แกล้งแซวยิ้มๆในขณะที่คริมาเองก็สังเกตุเห็นอาการหายใจเร็วขึ้นของเขา จะว่าไปถ้าจะลองแอบมองเลยไปจนถึงส่วนนั้นเขาจะรู้มั้ยนะ"ขะ..ขอโทษค่ะ พอดีว่ามันเสียวมากจริงๆ ต้องขอบคุณพี่บาสที่พยายามช่วยให้เค้กแฉะได้ขนาดนี้ ไม่งั้นขืนพี่แหย่นิ้วเข้าไปตรวจเลยเค้กคงเจ็บมากแน่ๆ""ไม่เป็นไรหรอก พี่เป็นหมออยู่แล้ว หน้าที่รักษาคนไข้พี่ต้องทำมันอย่างเต็มที่""ขอบคุณค่ะพี่บาส" คริมาตอบออกมาเสียงสั่น ไม่ใช่แค่เสียง ทั้งเนื้อทั้งตัวแข้งขาเธอเองก็สั่นไปหมดกับสิ่งที่เขาทำให้เธอไปเมื่อครู่ เธอเสร็จ..ใช่ เสร็จด้วยนิ้วเรียวๆของเขาที่เพียงแค่สัมผัสเธอจากแค่ทางด้านนอกเท่านั้น ไม่อยากจินตนาการต่อเลยว่าถ้าได้เสร็จด้วยอย่างอื่นจริงๆมันจะให้ความรู้สึกที่ดีมากกว่าแค่ไหน"งั้นพี่จะเริ่มแหย่นิ้วเข
ขาเรียวสวยได้หยุดเยื้องย่างลงยามเมื่อพาตัวเองเดินเข้ามาถึงบริเวณตรงปลายของเตียงนอน ใบหน้างดงามแสนหวานนั้นหันกลับมาสบตาคมด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าเขาจะรู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อได้มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกันขนาดนี้เขายืนอยู่ตรงนั้น..ผู้ชายคนที่เธอยังคงใฝ่ฝันหาบุรินทร์เดินตามเข้ามาและหยุดมองเธออย่างไม่ละสายตาเช่นกัน ราวกับมีกระแสไฟวิ่งผ่าน ความร้อนวูบวาบและความเปียกแฉะกลางหว่างขายิ่งไหลออกมาเพิ่มมากขึ้นยามเมื่อได้สบตากับเขา เส้นเลือดที่ปูดโปนตามมือแกร่งและท่อนแขนแข็งแรงนั่น หากว่าเขาใช้มันสัมผัสกับตรงนั้นของเธอ มันจะให้ความรู้สึกที่ดีหรือเปล่านะ คริมาแทบจะทนความรู้สึกที่จะได้ถูกเขาสัมผัสแทบไม่ไหว มือเล็กที่จับปมผ้าขนหนูเอาไว้ค่อยๆปลดคลายมันออกอย่างช้าๆก่อนจะหยุดชะงักเล็กน้อยไว้ตรงบริเวณเอวคอด "เค้กถอดเลยนะคะพี่บาส""ถอดสิ ถอดออกให้หมดเลย" แม้ว่าน้ำเสียงที่บอกจะราบเรียบหากแต่คริมากลับสัมผัสได้ถึงประกายความร้อนแรงที่ถูกสาดมาทางแววตาเธอค่อยๆปล่อยผ้าขนหนูผืนใหญ่ให้มันไหลกองลงไปอยู่ที่พื้น เวลานี้เรือนร่างของเธอเปลือยเปล่าต่อหน้าต่อตาเขาแบบไม่มีอะไรปกปิด สายตาก็คอยสอดส่องแอบสังเกตุอาการว่าบุร
ร่างเล็กเดินก้าวออกมาจากห้องน้ำอย่างช้าๆ ด้านหน้าที่โซฟาในห้องนั่งเล่นมีบุรินทร์ตัวเป็นๆนั่งเปิดโทรทัศน์รออยู่ด้วยท่าทางเพลิดเพลิน และพอได้ยินเสียงว่าเธอกำลังเดินใกล้เข้ามา ใบหน้าหล่อเหลาที่เธอแสนจะหลงใหลก็หันมองมายังทิศทางที่เธออยู่ทันที"นุ่งผ้าขนหนูมาแบบนี้ กะจะยั่วพี่หรือเปล่าเนี่ยเค้ก"'ยั่วสิคะ แอบยั่วตั้งแต่ในรถแล้วพี่บาสไม่รู้หรอ'"เปล่านี่คะ ใส่แบบนี้เค้กว่ามันสะดวกดี ก็คิดเสียว่ากำลังใส่มาให้พี่บาสตรวจนมให้ก็แล้วกันค่ะ"คริมาแกล้งปดออกไปคำโตเมื่อถูกจับได้ ก็แล้วใครจะไปยอมรับให้เสียหน้ากันล่ะคะพี่บาสขาว่า ใช่ค่ะ ตั้งใจใส่มายั่ว"ถ้างั้นก็มานั่งตรงนี้สิ" มือใหญ่ตบลงที่บนโซฟาตัวเดียวกันกับที่เขานั่ง เอาเข้าจริงเธอเองก็กังวลอยู่เหมือนกันที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าคนที่ตัวเองหลงรัก ขาเรียวงามค่อยๆเดินเข้าไปหาเขาอย่างว่าง่ายแม้ว่าภายในใจนั้นแสนจะอึดอัดจนเกือบจะหายใจไม่ออก "ให้เค้กถอดเลยมั้ยคะ""ครับ"มือเล็กค่อยๆแกะปมผ้าขนหนูที่ผูกเอาไว้ออกทีละน้อย สายตาของเธอจ้องมองสบไปที่เขาอย่างหวั่นๆ แม้ว่าจะทำใจมาแล้ว แต่พอเอาเข้าจริงเจอสายตาคมของเขาที่จับจ้องมองมาแล้วคริมาก็เกิดอาการวูบๆวาบ
หลังจากแก้ปัญหาเรื่องสายคาดเข็มขัดนิรภัยได้แล้ว บุรินทร์ก็กลับมานั่งประจำตำแหน่งตัวเอง จากนั้นจึงหันไปหยิบเสื้อยืดตัวที่วางพาดไว้กับพวงมาลัยรถเพื่อมาใส่ เห็นดังนั้นคริมาก็ได้แต่มองตามตาละห้อยที่ภาพความสวยงามนั้นได้หายวับไปกับตา"พี่ว่าเค้กเปลี่ยนเสื้อด้วยดีกว่านะ ใส่เสื้อเปียกนานๆเดี๋ยวจะไม่สบายปอดบวมเข้า เผลอๆฝนตกหนักแบบนี้รถคงติดไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมง""ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พอดีว่าเค้กไม่ได้เอาเสื้อมาเปลี่ยนด้วย""เสื้อพี่ไง เหลืออีกตัวหนึ่งถ้าเค้กไม่รังเกียจ"'จะไปรังเกียจได้ยังไงล่ะคะ ในเมื่อเค้กออกจะคลั่งไคล้ในตัวพี่ขนาดนี้'"เสื้อพี่บาสหรอคะ""ใช่ เอาไปใส่สิ"คริมารับเสื้อมาจากบุรินทร์แล้วแต่ก็ยังคงถือไว้อย่างนั้น บุรินทร์ลืมไปหรือเปล่าว่าเธอเป็นผู้หญิง จะให้มาถอดปุ๊บเปลี่ยนปั๊บแบบเขาน่ะเธอทำได้เสียที่ไหน"เปลี่ยนสิเค้กไม่ต้องกลัวว่าใครจะเห็น รถพี่กระจกทึบทั้งคัน ข้างนอกมองเข้ามาไม่เห็นหรอก" พอบุรินทร์บอกแบบนั้นคริมาก็พึ่งจะนึกได้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ซึ่งความจริงเธอลืมไปเสียด้วยซ้ำและกลับไม่ได้กังวลถึงเรื่องนี้เลย แต่มันเป็นเพราะ เขา การต้องถอดเปลี่ยนเสื้อต่อหน้าเขาต่างหากคือสิ่งที่
สิบเจ็ดนาฬิกาตรง ได้เวลาเลิกงานแล้ว หากแต่ว่า. มองจากตรงนี้ออกไปทางด้านนอกท้องฟ้ากลับมืดครึ้มดำสนิทราวกับกำลังจะมีพายุใหญ่ เธอต้องรีบไปแล้ว วันนี้เธอไม่ได้ขับรถมาเนื่องจากว่าต้องเอารถเข้าศูนย์เพื่อไปตรวจสภาพ แถมระยะทางจากที่นี่กว่าจะออกไปถึงปากซอยเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าก็ถือว่าไกลอยู่พอสมควร ถ้าขืนชักช้าแล้วเกิดฝนตกลงมามีหวังได้เปียกหมดแน่ๆ"กำลังจะกลับแล้วหรอเค้ก"เสียงคนที่อยู่ด้านหลังประตูเปิดออกมาถามในขณะที่เธอกำลังสาละวนอยู่กับการเก็บข้าวของลงกระเป๋า"ค่ะ พอดีว่าฝนกำลังจะตกหนักแล้ววันนี้เค้กไม่ได้เอารถมา เลยว่าจะรีบออกไปให้ถึงสถานีรถไฟฟ้าให้ทันก่อนที่ฝนจะตก ถ้าเกิดว่าพี่บาสจะอนุญาต เค้กอยากจะขอ..." "เค้กไม่ต้องรีบออกไปหรอก แบมบอกพี่ไว้ตั้งแต่เมื่อตอนกลางวันแล้วว่าวันนี้เค้กไม่ได้เอารถมา เลยฝากให้พี่ไปส่งเค้กที่คอนโดให้หน่อย ส่วนแบมต้องรีบกลับไปรับคุณแม่น่ะ" 'มันใช่หรอ สิ่งที่บุรินทร์บอก ทำไมจู่ๆบุรารีถึงได้อยากจะฝากฝังพี่ชายตัวเองให้ไปส่งเธอกัน ถ้ามันไม่ใช่แผนการของบุรารีที่อยากให้เธอและพี่ชายของตัวเองได้อยู่ใกล้ชิดกัน'"คือเค้กว่าขอไม่รบกวนพี่บาสดีกว่าค่ะ เค้กเกรงใจเดี๋ย
หลังจากแนะนำตัวและทักทายกันเสร็จแล้วคริมาก็ยังกลับมานั่งใจเต้นยังไม่หาย แม้ว่าบุรินทร์จะหายเข้าไปในห้องทำงานพร้อมกับหญิงสาวที่เขาควงมาด้วยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าตัวแนะนำกับเธอและน้องสาวของเขาให้ได้รู้จักว่าหญิงสาวคนนี้คือเพื่อนสนิทคนหนึ่งสมัยตอนที่เรียนอยู่ที่ต่างประเทศด้วยกัน"ยินดีที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้งนะ ตอนนี้เค้กโตพอแล้ว พี่หวังว่าเราคงจะเข้ากันได้ดี...ในส่วนของการทำงานร่วมกันในครั้งนี้นะครับ"ดวงตาคมปราบที่มองมากับริมฝีปากยกยิ้มน้อยๆนั้นทำไมถึงทำให้เธอใจสั่นได้ถึงขนาดนี้นะ คริมายกมือขึ้นมาทาบอกก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาทางริมฝีปากบาง ห่างกันแค่นี้ เพียงแค่ผนังห้องกั้น บุรินทร์ที่เธอเคยหลงรักและลุ่มหลงมาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน เวลานี้เขากลับมาอยู่ใกล้ๆเธอเพียงแค่นี้เอง เธอควรจะทำอย่างไรดีถ้าหากว่าเธอยังอยากครอบครองทั้งตัวและหัวใจของเขาอยู่ ทำตามคำแนะนำของบุรารีเลยดีมั้ยนะ 'อ่อยๆยั่วๆ' ราวๆเกือบสองชั่วโมงที่สองคนนั้นหายกันเข้าไปในห้อง บุรารีทำเนียนด้วยการยกพวกชากาแฟเข้าไปให้เพื่อสังเกตการณ์ ได้ความมาว่าหญิงสาวคนนั้นต้องการให้พี่ชายของเธอตรวจสุขภาพภายในให้'ชิ อยากอ่อยล่ะสิไม่ว่า' นั
"แกว่ายังไงนะแบม พี่บาสจะย้ายกลับมาอยู่ไทยแล้วอย่างงั้นหรอ""ใช่ เพราะว่าปีนี้คุณพ่อจะเกษียณแล้ว พี่บาสเลยต้องเข้ามาดูแลแทน และที่สำคัญแกต้องย้ายจากการเป็นพยาบาลผู้ช่วยฉันไปเป็นผู้ช่วยพี่บาสแทน"เพียงแค่ประโยคๆเดียวทำเอาคริมาถึงกับตัวชาทำอะไรไม่ถูก กี่ปีมาแล้วนะที่เธอไม่ได้เจอเขา จากที่คิดว่าจะลืมเลือนกันไป ความทรงจำในตอนนั้นกลับผุดขึ้นมาฉายชัดอีกครั้ง นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้นก็ทำเอาเธอถึงกับเข่าอ่อน ไม่รู้ว่าอะไรดลใจทำให้เธอใจกล้าทำเรื่องบ้าๆแบบนั้นไป "พี่บาสคะ คือว่า... เค้กชอบพี่บาสค่ะ" "แต่พี่ว่าเค้กยังเด็กอยู่นะ เอาเวลาไปตั้งใจเรียนให้รีบจบก่อนดีกว่า"หลังจากที่สารภาพความรู้สึกกับเขาไปในวันนั้น เธอก็ไม่เคยได้เจอเขาอีกเลย เพราะว่าเขาต้องเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ถึงแม้ว่าวันนั้นเขาเองไม่ได้มีทีท่าอะไรที่จะทำให้เธอรู้สึกแย่ แถมยังเอามือมาลูบหัวแลัวยังส่งยิ้มหวานมาให้เธอราวกับว่าเอ็นดูอีกต่างหากแต่นั่นก็ทำให้เธอรู้สึกแย่อยู่ดีนี่มันก็เป็นเวลามากกว่าหกปีแล้ว แต่ความรู้สึกตอนที่เธอวิ่งไปบอกชอบเขาตอนนั้นเหมือนราวกับว่ามันพึ่งผ่านพ้นมาเพียงไม่กี่วัน เขาจะยังคงจำเหตุการณ์นั