สิบเจ็ดนาฬิกาตรง ได้เวลาเลิกงานแล้ว หากแต่ว่า. มองจากตรงนี้ออกไปทางด้านนอกท้องฟ้ากลับมืดครึ้มดำสนิทราวกับกำลังจะมีพายุใหญ่ เธอต้องรีบไปแล้ว วันนี้เธอไม่ได้ขับรถมาเนื่องจากว่าต้องเอารถเข้าศูนย์เพื่อไปตรวจสภาพ แถมระยะทางจากที่นี่กว่าจะออกไปถึงปากซอยเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าก็ถือว่าไกลอยู่พอสมควร ถ้าขืนชักช้าแล้วเกิดฝนตกลงมามีหวังได้เปียกหมดแน่ๆ
"กำลังจะกลับแล้วหรอเค้ก"เสียงคนที่อยู่ด้านหลังประตูเปิดออกมาถามในขณะที่เธอกำลังสาละวนอยู่กับการเก็บข้าวของลงกระเป๋า
"ค่ะ พอดีว่าฝนกำลังจะตกหนักแล้ววันนี้เค้กไม่ได้เอารถมา เลยว่าจะรีบออกไปให้ถึงสถานีรถไฟฟ้าให้ทันก่อนที่ฝนจะตก ถ้าเกิดว่าพี่บาสจะอนุญาต เค้กอยากจะขอ..."
"เค้กไม่ต้องรีบออกไปหรอก แบมบอกพี่ไว้ตั้งแต่เมื่อตอนกลางวันแล้วว่าวันนี้เค้กไม่ได้เอารถมา เลยฝากให้พี่ไปส่งเค้กที่คอนโดให้หน่อย ส่วนแบมต้องรีบกลับไปรับคุณแม่น่ะ"
'มันใช่หรอ สิ่งที่บุรินทร์บอก ทำไมจู่ๆบุรารีถึงได้อยากจะฝากฝังพี่ชายตัวเองให้ไปส่งเธอกัน ถ้ามันไม่ใช่แผนการของบุรารีที่อยากให้เธอและพี่ชายของตัวเองได้อยู่ใกล้ชิดกัน'
"คือเค้กว่าขอไม่รบกวนพี่บาสดีกว่าค่ะ เค้กเกรงใจเดี๋ยวเค้กรีบเดินออกไปแค่สิบนาทีก็ถึงรถไฟฟ้าแล้ว"
"งั้นถ้าเป็นอย่างที่เค้กพูดมา ก็ยิ่งไม่ต้องเกรงใจหรอก เพราะว่าพี่เต็มใจ เห็นว่าไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีเผื่อเค้กอยากจะมีอะไรถามไถ่พี่ให้หายคิดถึงบ้าง หรือไม่ก็เว้นเสียแต่ว่าที่ไม่อยากให้พี่ไปส่งเพราะว่าเค้กมีแฟนอยู่แล้ว แล้วกลัวว่าแฟนจะเข้าใจผิด" บุรินทร์ถามออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หากแต่แววตาของเขากลับมีประกายวาววับบางอย่างจนคริมาแอบหวั่นใจไม่ได้
"ไม่นี่คะ เค้กยังไม่มีแฟน"
"รีบตอบขนาดนั้น กลัวพี่เข้าใจผิดหรือไง" บุรินทร์ถามกลับก่อนจะยิ้มออกมาน้อยๆจนคริมาเห็นแล้วรู้สึกใจเต้นไปกับมัน แต่ก็เลือกที่จะทำเป็นเงียบเมื่อเจอคำถามจี้แทงใจไป
"แต่ไม่มีแฟนก็ดีแล้ว ถ้าอย่างงั้นพี่ว่าเรารีบไปกันเถอะเดี๋ยวฝนตกหนักรถจะยิ่งติด"
คริมาสังเกตุเห็นรอยยิ้มน้อยๆนั้นผุดขึ้นมาจากริมฝีปากของเขาอีกครั้ง ยอมรับว่าแม้เวลาจะล่วงเลยผ่านไปแล้วหลายปี แต่บุรินทร์ก็ยังคงเป็นผู้ชายคนที่ทำให้เธอใจเต้นไม่เป็นจังหวะอยู่ดี
สองคนพากันเดินออกมายังอาคารจอดรถซึ่งตั้งอยู่ทางด้านนอกตัวอาคารของโรงพยาบาล จังหวะที่เดินพ้นออกมาจากตึกของตัวอาคาร จู่ๆฝนเม็ดใหญ่ๆก็เทลงมาอย่างหนักหน่วง ทำเอาทั้งคริมาและบุรินทร์ต่างก็เปียกแฉะกันไปทั้งตัวยามเมื่อขึ้นมานั่งอยู่บนรถแล้ว
"อุตส่าห์ว่าวิ่งเร็วแล้วก็ยังเปียกจนได้" บุรินทร์เอื้อมมือไปหยิบกล่องกระดาษทิชชู่ที่วางอยู่ที่เบาะหลังรถมาส่งให้เธอ เวลานี้เนื้อตัวต่างเปียกปอน ชุดสีขาวที่ทั้งเธอและเขาสวมใส่อยู่เปียกแนบเนื้อตัวจนมองเห็นทะลุไปถึงไหนต่อไหน
"ก็พี่บาสมัวแต่รอเอามือมาบังฝนให้เค้กนี่คะ ก็เลยเปียกหมด บอกให้วิ่งไปก่อนก็ไม่ยอม"
"แหมเค้ก พี่เองก็มีความเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งเหมือนกันนะ จะให้พี่วิ่งไปก่อนแล้วทิ้งให้เค้กตัวเปียกคนเดียวได้ยังไง พี่ไม่คิดว่าจะมีผู้ชายที่ไหนเขาทำกัน" ว่าแล้วบุรินทร์ก็หันหลังเอื้อมมือไปหยิบเอาเสื้อยืดสีขาวสะอาดที่แหวนไว้อยู่ที่ด้านหลังของรถมา
"พี่ขอเปลี่ยนเสื้อหน่อยนะ พอดีพี่ไม่ชอบใส่เสื้อเปียกๆน่ะ มันไม่สบายตัว" พอได้ยินสิ่งที่บุรินทร์บอก คริมาก็ค่อยๆกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก บุรินทร์กำลังจะถอดเสื้อ จากตอนแรกที่แค่เห็นเพียงกล้ามมัดแน่นๆของเขาผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาวบางๆที่กำลังเปียกแฉะ ตอนนี้บุรินทร์กำลังบรรจงแกะกระดุมออกทีละเม็ดๆอย่างช้าๆและจงใจ
ไม่ช้าเสื้อเชิ้ตตัวนั้นก็ถูกเขาโยนไปทางเบาะด้านหลังทันที คริมาทำได้แค่เพียงนั่งกระพริบตาปริบๆราวกับแทบไม่ได้หายใจ หัวใจดวงน้อยๆเต้นกระหน่ำแรงจนแทบจะหลุดออกมาเมื่อเผลอไล่กวาดสายตาไปตามแผงอก บุรินทร์สวมเพียงกางเกงสแล็คสีดำ เผยให้เห็นซิกแพ็คที่เรียงกันเป็นลอนดูสวย พอมองนานเข้า จินตนาการด้านมืดในหัวก็หลั่งไหลเข้ามา
'เขาจะร้อนแรงแค่ไหนกันนะ' ริมฝีปากอมชมพูค่อยๆขบเม้มเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าขาวนวลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อจนร้อนวูบวาบ ท้องไส้ภายในปั่นป่วน มือเรียวสวยเริ่มบีบกำเข้าหากันแน่นจนเล็บคมๆจิกเข้าไปในฝ่ามือแต่มันก็ไม่ได้ทำให้คริมารู้สึกเจ็บ
'เขาเซ็กซี่จัง' จินตภาพด้านมืดในจิตใจยังคงหลั่งไหลเข้ามา มือไม้ค่อยๆไล่เช็ดกระดาษทิชชู่ไปตามใบหน้า ลำคอ และหน้าอกอย่างเชื่องช้า ในขณะที่สายตาของเธอยังคงจับจ้องอยู่ที่เรือนร่างสมบูรณ์แบบนั่น
'ถ้าเธอได้ลองสัมผัสลูบไล้เจ้าความแข็งแกร่งพวกนั้น มันคงจะรู้สึกดีไม่น้อย' ยิ่งคิดก็ยิ่งปั่นป่วน บุรินทร์ช่างมีรูปร่างที่งดงามไล้ที่ติสมชายชาตรีอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เขาจะรู้บ้างหรือเปล่าว่าเวลานี้เธอเองคิดไปไกลจนถึงขั้นอยากลองทดสอบความแข็งแกร่งพวกนั้น
"พี่บาสคะ สายเบลท์รถพี่มีปัญหาหรือเปล่า เค้กลองดึงแล้วมันติดไม่ขยับเลยค่ะ"
"จริงหรอ งั้นเค้กนั่งนิ่งๆนะ เดี๋ยวพี่จะขอขยับเข้าไปดูใกล้ๆหน่อย" จากตอนแรกที่คิดว่าอยากทดลองเขา ไปๆมาเธอกลับคิดว่าน่าจะเป็นเธอเองเสียมากกว่าที่กำลังถูกทดสอบ
คริมาแทบหยุดหายใจเมื่อบุรินทร์ขยับโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ จังหวะที่ใบหน้าเขาโน้มใกล้เข้ามา เธอสัมผัสได้ว่าลมหายใจของเขาถูกเป่ารดลงมาที่ระหว่างร่องหน้าอกคู่งามของเธอ ที่เวลานี้มันโผล่โชว์เด่นหราเป็นรูปร่างขึ้นมาจากความเปียกแฉะ และช่วงจังหวะที่มือของเขาเอื้อมผ่านเลยไป คริมายิ่งแทบหยุดหายใจ แรงสัมผัสที่เฉียดผ่านไปโดนเข้าที่หน้าอกของเธอไปแว๊บหนึ่ง
"ติดจริงๆด้วยเค้กเป็นไปได้ยังไงกันนะ งั้นเดี๋ยวเค้กนั่งอยู่เฉยๆก่อนนะ พี่ขอขยับเข้าไปดูใกล้ๆอีกนิด เค้กไม่ว่าใช่มั้ย"
"มะ..ไม่ค่ะ เชิญพี่บาสตามสบาย"
ว่าแล้วบุรินทร์ก็โน้มตัวเข้ามาใกล้อีก จนเรียกว่าแทบจะทาบทับลงมาบนตัวเธอ ใบหน้าและจมูกของเธอแนบชิดจนเกือบจะชนกับหน้าอกเปล่าเปลือยของเขา กลิ่นน้ำหอมและกลิ่นตัวของผู้ชายปลุกเร้าอารมณ์ด้านมืดของเธอขึ้นมาอีกทีละน้อยจนเธอไม่อยากที่จะควบคุมมัน
นาทีนี้คริมาแน่ใจแล้วว่าบุรินทร์ยังคงเป็นผู้ชายที่เธอชอบและอยากที่จะครอบครอง ว่าแต่เมื่อกี้..ทำไมอยู่ๆสายคาดเข็มขัดนิรภัยของรถบุรินทร์จึงเกิดมีปัญหาจริงๆขึ้นมาได้ล่ะ ทั้งๆที่เมื่อสักครู่ เธอเพียงแค่แกล้งพูดปดเพื่ออยากให้เขาเอาตัวขยับเข้ามาใกล้ๆเท่านั้น
หลังจากแก้ปัญหาเรื่องสายคาดเข็มขัดนิรภัยได้แล้ว บุรินทร์ก็กลับมานั่งประจำตำแหน่งตัวเอง จากนั้นจึงหันไปหยิบเสื้อยืดตัวที่วางพาดไว้กับพวงมาลัยรถเพื่อมาใส่ เห็นดังนั้นคริมาก็ได้แต่มองตามตาละห้อยที่ภาพความสวยงามนั้นได้หายวับไปกับตา"พี่ว่าเค้กเปลี่ยนเสื้อด้วยดีกว่านะ ใส่เสื้อเปียกนานๆเดี๋ยวจะไม่สบายปอดบวมเข้า เผลอๆฝนตกหนักแบบนี้รถคงติดไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมง""ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พอดีว่าเค้กไม่ได้เอาเสื้อมาเปลี่ยนด้วย""เสื้อพี่ไง เหลืออีกตัวหนึ่งถ้าเค้กไม่รังเกียจ"'จะไปรังเกียจได้ยังไงล่ะคะ ในเมื่อเค้กออกจะคลั่งไคล้ในตัวพี่ขนาดนี้'"เสื้อพี่บาสหรอคะ""ใช่ เอาไปใส่สิ"คริมารับเสื้อมาจากบุรินทร์แล้วแต่ก็ยังคงถือไว้อย่างนั้น บุรินทร์ลืมไปหรือเปล่าว่าเธอเป็นผู้หญิง จะให้มาถอดปุ๊บเปลี่ยนปั๊บแบบเขาน่ะเธอทำได้เสียที่ไหน"เปลี่ยนสิเค้กไม่ต้องกลัวว่าใครจะเห็น รถพี่กระจกทึบทั้งคัน ข้างนอกมองเข้ามาไม่เห็นหรอก" พอบุรินทร์บอกแบบนั้นคริมาก็พึ่งจะนึกได้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ซึ่งความจริงเธอลืมไปเสียด้วยซ้ำและกลับไม่ได้กังวลถึงเรื่องนี้เลย แต่มันเป็นเพราะ เขา การต้องถอดเปลี่ยนเสื้อต่อหน้าเขาต่างหากคือสิ่งที่
ร่างเล็กเดินก้าวออกมาจากห้องน้ำอย่างช้าๆ ด้านหน้าที่โซฟาในห้องนั่งเล่นมีบุรินทร์ตัวเป็นๆนั่งเปิดโทรทัศน์รออยู่ด้วยท่าทางเพลิดเพลิน และพอได้ยินเสียงว่าเธอกำลังเดินใกล้เข้ามา ใบหน้าหล่อเหลาที่เธอแสนจะหลงใหลก็หันมองมายังทิศทางที่เธออยู่ทันที"นุ่งผ้าขนหนูมาแบบนี้ กะจะยั่วพี่หรือเปล่าเนี่ยเค้ก"'ยั่วสิคะ แอบยั่วตั้งแต่ในรถแล้วพี่บาสไม่รู้หรอ'"เปล่านี่คะ ใส่แบบนี้เค้กว่ามันสะดวกดี ก็คิดเสียว่ากำลังใส่มาให้พี่บาสตรวจนมให้ก็แล้วกันค่ะ"คริมาแกล้งปดออกไปคำโตเมื่อถูกจับได้ ก็แล้วใครจะไปยอมรับให้เสียหน้ากันล่ะคะพี่บาสขาว่า ใช่ค่ะ ตั้งใจใส่มายั่ว"ถ้างั้นก็มานั่งตรงนี้สิ" มือใหญ่ตบลงที่บนโซฟาตัวเดียวกันกับที่เขานั่ง เอาเข้าจริงเธอเองก็กังวลอยู่เหมือนกันที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าคนที่ตัวเองหลงรัก ขาเรียวงามค่อยๆเดินเข้าไปหาเขาอย่างว่าง่ายแม้ว่าภายในใจนั้นแสนจะอึดอัดจนเกือบจะหายใจไม่ออก "ให้เค้กถอดเลยมั้ยคะ""ครับ"มือเล็กค่อยๆแกะปมผ้าขนหนูที่ผูกเอาไว้ออกทีละน้อย สายตาของเธอจ้องมองสบไปที่เขาอย่างหวั่นๆ แม้ว่าจะทำใจมาแล้ว แต่พอเอาเข้าจริงเจอสายตาคมของเขาที่จับจ้องมองมาแล้วคริมาก็เกิดอาการวูบๆวาบ
ขาเรียวสวยได้หยุดเยื้องย่างลงยามเมื่อพาตัวเองเดินเข้ามาถึงบริเวณตรงปลายของเตียงนอน ใบหน้างดงามแสนหวานนั้นหันกลับมาสบตาคมด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าเขาจะรู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อได้มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกันขนาดนี้เขายืนอยู่ตรงนั้น..ผู้ชายคนที่เธอยังคงใฝ่ฝันหาบุรินทร์เดินตามเข้ามาและหยุดมองเธออย่างไม่ละสายตาเช่นกัน ราวกับมีกระแสไฟวิ่งผ่าน ความร้อนวูบวาบและความเปียกแฉะกลางหว่างขายิ่งไหลออกมาเพิ่มมากขึ้นยามเมื่อได้สบตากับเขา เส้นเลือดที่ปูดโปนตามมือแกร่งและท่อนแขนแข็งแรงนั่น หากว่าเขาใช้มันสัมผัสกับตรงนั้นของเธอ มันจะให้ความรู้สึกที่ดีหรือเปล่านะ คริมาแทบจะทนความรู้สึกที่จะได้ถูกเขาสัมผัสแทบไม่ไหว มือเล็กที่จับปมผ้าขนหนูเอาไว้ค่อยๆปลดคลายมันออกอย่างช้าๆก่อนจะหยุดชะงักเล็กน้อยไว้ตรงบริเวณเอวคอด "เค้กถอดเลยนะคะพี่บาส""ถอดสิ ถอดออกให้หมดเลย" แม้ว่าน้ำเสียงที่บอกจะราบเรียบหากแต่คริมากลับสัมผัสได้ถึงประกายความร้อนแรงที่ถูกสาดมาทางแววตาเธอค่อยๆปล่อยผ้าขนหนูผืนใหญ่ให้มันไหลกองลงไปอยู่ที่พื้น เวลานี้เรือนร่างของเธอเปลือยเปล่าต่อหน้าต่อตาเขาแบบไม่มีอะไรปกปิด สายตาก็คอยสอดส่องแอบสังเกตุอาการว่าบุร
คริมายังคงครวญครางออกมาด้วยความเสียวซ่านไม่หยุด ทุกๆสัมผัสที่บุรินทร์เขี่ยคลึงลงมามันทั้งร้อนและเสียวจนเธอแทบจะเสร็จและหลอมละลาย นิ้วร้ายกาจของเขาที่กำลังใช้รังแกเธออยู่ยิ่งเขี่ยขยี้เร็วขึ้น บุรินทร์ใช้มันอย่างชำนาญการจนกระทั่งเรือนร่างอวบอัดนั้นแอ่นเกร็งกระตุกขึ้น"พี่ว่าเค้กน่าจะแฉะพอแล้วนะ ดูสิเปียกเยิ้มเต็มมือพี่เลย" บุรินทร์แกล้งแซวยิ้มๆในขณะที่คริมาเองก็สังเกตุเห็นอาการหายใจเร็วขึ้นของเขา จะว่าไปถ้าจะลองแอบมองเลยไปจนถึงส่วนนั้นเขาจะรู้มั้ยนะ"ขะ..ขอโทษค่ะ พอดีว่ามันเสียวมากจริงๆ ต้องขอบคุณพี่บาสที่พยายามช่วยให้เค้กแฉะได้ขนาดนี้ ไม่งั้นขืนพี่แหย่นิ้วเข้าไปตรวจเลยเค้กคงเจ็บมากแน่ๆ""ไม่เป็นไรหรอก พี่เป็นหมออยู่แล้ว หน้าที่รักษาคนไข้พี่ต้องทำมันอย่างเต็มที่""ขอบคุณค่ะพี่บาส" คริมาตอบออกมาเสียงสั่น ไม่ใช่แค่เสียง ทั้งเนื้อทั้งตัวแข้งขาเธอเองก็สั่นไปหมดกับสิ่งที่เขาทำให้เธอไปเมื่อครู่ เธอเสร็จ..ใช่ เสร็จด้วยนิ้วเรียวๆของเขาที่เพียงแค่สัมผัสเธอจากแค่ทางด้านนอกเท่านั้น ไม่อยากจินตนาการต่อเลยว่าถ้าได้เสร็จด้วยอย่างอื่นจริงๆมันจะให้ความรู้สึกที่ดีมากกว่าแค่ไหน"งั้นพี่จะเริ่มแหย่นิ้วเข
คริมานอนเกร็งจนตัวแข็งราวกับแทบหยุดหายใจยามเมื่อปลายลิ้นร้อนของบุรินทร์ค่อยๆจ่อเลียลงมา ความอุ่นร้อนของมันยามเมื่อเเตะลงมาให้ความรู้สึกที่โคตรจะแปลกใหม่จนหัวใจดวงน้อยๆนั้นแทบหยุดเต้น ลิ้นร้อนของเขาค่อยๆขยับเลียทีละน้อยจากร่องรูฉ่ำแฉะจนขึ้นมาสุดที่ปุ่มกระสัน มิหนำซ้ำยังขยี้มันเบาๆวนเล่นอยู่อย่างนั้นจน ทำเอาความเสียวนั้นวิ่งปราดขึ้นมาจนคริมาต้องหลุดคราง"อ๊ะๆ พี่บาสขา เสียวค่ะ อ๊าๆ""ชู่ว นิ่งไว้เค้ก นิ่งไว้ พี่กำลังต้องการสมาธิ""ขอ..ขอโทษค่ะ เค้กเสียวมากเกินไปหน่อย""ดี ถ้าเสียวมากๆก็เด้งกระแทกใส่ลิ้นพี่ได้เลย เค้กจะได้ไม่ทรมานมาก""ค่ะพี่บาส มันทรมานมากก็จริง แต่ว่าเค้กก็อยากให้พี่เลียเค้กอีกค่ะ เลียต่อนะคะ"คริมากำลังสติหลุดด้วยความทรมานที่แทบจะอดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ สะโพกงอนงามพยายามแอ่นกระดกขึ้น เด้งรับทุกๆจังหวะที่บุรินทร์ละเลงขยี้ปลายลิ้นลงมา ร่องรูของเธอแม้ว่าภายในจะตอดรัดแน่นด้วยความเสียวซ่าน แต่ปากทางเข้าของมันก็บานฟูออกราวกับว่ารอคอยต้อนรับเขาอยู่มือเล็กจากที่ตอนแรกจิกลงไปบนผ้าปูที่นอน เวลานี้วกกลับขึ้นไปบีบขย้ำเต้านมตัวเองแทน โหนกนูนของเธอเด้งขึ้นเด้งลงตามจังหวะลิ้นร้ายของเข
เช้านี้คริมามาทำงานด้วยความรู้สึกที่แทบจะเรียกได้ว่า ทรมานและใจจดใจจ่อที่สุด เย็นนี้เธอมีนัดตรวจแบบจัดเต็ม หลังตอนเลิกงานบุรินทร์บอกว่าจะตรวจให้แบบละเอียด อยากจะรู้จังว่าเธอจะโดนเขาตรวจแบบไหนแล้วโดนใช้อะไรตรวจบ้าง แค่คิดใจกลางความสาวก็เริ่มอุ่นร้อนชุดพยาบาลปกติที่เคยใส่ก็ถือว่าพอดีตัว ไม่ใช่รัดจนแน่นและหลวมจนโหลงเหลง แต่วันนี้เธอตั้งใจใส่มันให้ทั้งรัดและสั้นเป็นพิเศษ ห้องทำงานของบุรินทร์นั้นอยู่ด้านบนของตึก ถ้าไม่ได้มีนัดก็จะทั้งเงียบและไม่มีใครเดินมายุ่มย่ามแถวนี้เลย ตอนเช้าพอจอดรถเสร็จแล้วคริมาก็เลือกที่จะเดินเข้าจากทางด้านหลัง เพราะว่าจะได้ไม่ต้องเจอคนมากนัก ไม่อยากให้ใครเห็นเข้าว่าเธอใส่ชุดที่รัดเสียขนาดนี้พอเดินขึ้นมาจนถึงห้องที่เป็นที่ทำงานของบุรินทร์เรียบร้อยแล้ว คริมาก็เห็นว่าไฟในห้องทำงานของเขานั้นเปิดอยู่ แสดงว่าเขาคงมาถึงก่อนเธอแล้ว ดังนั้นหน้าที่ของเธอก็ควรชงกาแฟเข้าไปให้เขาเสียหน่อยดีกว่า ว่าแต่เขาดื่มกาแฟเเบบไหนกันนะ เข้าไปถามดูหน่อยดีกว่าแล้วกันก๊อกๆ คริมาลองเค่ะประตูสองที พอได้ยินเสียงอนุญาต เธอจึงได้ผลักประตูเข้าไป ดวงหน้าของเธอเริ่มเห่อร้อนยามเมื่อสบสายตาคมคู่นั้น
"แกว่ายังไงนะแบม พี่บาสจะย้ายกลับมาอยู่ไทยแล้วอย่างงั้นหรอ""ใช่ เพราะว่าปีนี้คุณพ่อจะเกษียณแล้ว พี่บาสเลยต้องเข้ามาดูแลแทน และที่สำคัญแกต้องย้ายจากการเป็นพยาบาลผู้ช่วยฉันไปเป็นผู้ช่วยพี่บาสแทน"เพียงแค่ประโยคๆเดียวทำเอาคริมาถึงกับตัวชาทำอะไรไม่ถูก กี่ปีมาแล้วนะที่เธอไม่ได้เจอเขา จากที่คิดว่าจะลืมเลือนกันไป ความทรงจำในตอนนั้นกลับผุดขึ้นมาฉายชัดอีกครั้ง นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้นก็ทำเอาเธอถึงกับเข่าอ่อน ไม่รู้ว่าอะไรดลใจทำให้เธอใจกล้าทำเรื่องบ้าๆแบบนั้นไป "พี่บาสคะ คือว่า... เค้กชอบพี่บาสค่ะ" "แต่พี่ว่าเค้กยังเด็กอยู่นะ เอาเวลาไปตั้งใจเรียนให้รีบจบก่อนดีกว่า"หลังจากที่สารภาพความรู้สึกกับเขาไปในวันนั้น เธอก็ไม่เคยได้เจอเขาอีกเลย เพราะว่าเขาต้องเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ถึงแม้ว่าวันนั้นเขาเองไม่ได้มีทีท่าอะไรที่จะทำให้เธอรู้สึกแย่ แถมยังเอามือมาลูบหัวแลัวยังส่งยิ้มหวานมาให้เธอราวกับว่าเอ็นดูอีกต่างหากแต่นั่นก็ทำให้เธอรู้สึกแย่อยู่ดีนี่มันก็เป็นเวลามากกว่าหกปีแล้ว แต่ความรู้สึกตอนที่เธอวิ่งไปบอกชอบเขาตอนนั้นเหมือนราวกับว่ามันพึ่งผ่านพ้นมาเพียงไม่กี่วัน เขาจะยังคงจำเหตุการณ์นั
หลังจากแนะนำตัวและทักทายกันเสร็จแล้วคริมาก็ยังกลับมานั่งใจเต้นยังไม่หาย แม้ว่าบุรินทร์จะหายเข้าไปในห้องทำงานพร้อมกับหญิงสาวที่เขาควงมาด้วยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าตัวแนะนำกับเธอและน้องสาวของเขาให้ได้รู้จักว่าหญิงสาวคนนี้คือเพื่อนสนิทคนหนึ่งสมัยตอนที่เรียนอยู่ที่ต่างประเทศด้วยกัน"ยินดีที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้งนะ ตอนนี้เค้กโตพอแล้ว พี่หวังว่าเราคงจะเข้ากันได้ดี...ในส่วนของการทำงานร่วมกันในครั้งนี้นะครับ"ดวงตาคมปราบที่มองมากับริมฝีปากยกยิ้มน้อยๆนั้นทำไมถึงทำให้เธอใจสั่นได้ถึงขนาดนี้นะ คริมายกมือขึ้นมาทาบอกก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาทางริมฝีปากบาง ห่างกันแค่นี้ เพียงแค่ผนังห้องกั้น บุรินทร์ที่เธอเคยหลงรักและลุ่มหลงมาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน เวลานี้เขากลับมาอยู่ใกล้ๆเธอเพียงแค่นี้เอง เธอควรจะทำอย่างไรดีถ้าหากว่าเธอยังอยากครอบครองทั้งตัวและหัวใจของเขาอยู่ ทำตามคำแนะนำของบุรารีเลยดีมั้ยนะ 'อ่อยๆยั่วๆ' ราวๆเกือบสองชั่วโมงที่สองคนนั้นหายกันเข้าไปในห้อง บุรารีทำเนียนด้วยการยกพวกชากาแฟเข้าไปให้เพื่อสังเกตการณ์ ได้ความมาว่าหญิงสาวคนนั้นต้องการให้พี่ชายของเธอตรวจสุขภาพภายในให้'ชิ อยากอ่อยล่ะสิไม่ว่า' นั
เช้านี้คริมามาทำงานด้วยความรู้สึกที่แทบจะเรียกได้ว่า ทรมานและใจจดใจจ่อที่สุด เย็นนี้เธอมีนัดตรวจแบบจัดเต็ม หลังตอนเลิกงานบุรินทร์บอกว่าจะตรวจให้แบบละเอียด อยากจะรู้จังว่าเธอจะโดนเขาตรวจแบบไหนแล้วโดนใช้อะไรตรวจบ้าง แค่คิดใจกลางความสาวก็เริ่มอุ่นร้อนชุดพยาบาลปกติที่เคยใส่ก็ถือว่าพอดีตัว ไม่ใช่รัดจนแน่นและหลวมจนโหลงเหลง แต่วันนี้เธอตั้งใจใส่มันให้ทั้งรัดและสั้นเป็นพิเศษ ห้องทำงานของบุรินทร์นั้นอยู่ด้านบนของตึก ถ้าไม่ได้มีนัดก็จะทั้งเงียบและไม่มีใครเดินมายุ่มย่ามแถวนี้เลย ตอนเช้าพอจอดรถเสร็จแล้วคริมาก็เลือกที่จะเดินเข้าจากทางด้านหลัง เพราะว่าจะได้ไม่ต้องเจอคนมากนัก ไม่อยากให้ใครเห็นเข้าว่าเธอใส่ชุดที่รัดเสียขนาดนี้พอเดินขึ้นมาจนถึงห้องที่เป็นที่ทำงานของบุรินทร์เรียบร้อยแล้ว คริมาก็เห็นว่าไฟในห้องทำงานของเขานั้นเปิดอยู่ แสดงว่าเขาคงมาถึงก่อนเธอแล้ว ดังนั้นหน้าที่ของเธอก็ควรชงกาแฟเข้าไปให้เขาเสียหน่อยดีกว่า ว่าแต่เขาดื่มกาแฟเเบบไหนกันนะ เข้าไปถามดูหน่อยดีกว่าแล้วกันก๊อกๆ คริมาลองเค่ะประตูสองที พอได้ยินเสียงอนุญาต เธอจึงได้ผลักประตูเข้าไป ดวงหน้าของเธอเริ่มเห่อร้อนยามเมื่อสบสายตาคมคู่นั้น
คริมานอนเกร็งจนตัวแข็งราวกับแทบหยุดหายใจยามเมื่อปลายลิ้นร้อนของบุรินทร์ค่อยๆจ่อเลียลงมา ความอุ่นร้อนของมันยามเมื่อเเตะลงมาให้ความรู้สึกที่โคตรจะแปลกใหม่จนหัวใจดวงน้อยๆนั้นแทบหยุดเต้น ลิ้นร้อนของเขาค่อยๆขยับเลียทีละน้อยจากร่องรูฉ่ำแฉะจนขึ้นมาสุดที่ปุ่มกระสัน มิหนำซ้ำยังขยี้มันเบาๆวนเล่นอยู่อย่างนั้นจน ทำเอาความเสียวนั้นวิ่งปราดขึ้นมาจนคริมาต้องหลุดคราง"อ๊ะๆ พี่บาสขา เสียวค่ะ อ๊าๆ""ชู่ว นิ่งไว้เค้ก นิ่งไว้ พี่กำลังต้องการสมาธิ""ขอ..ขอโทษค่ะ เค้กเสียวมากเกินไปหน่อย""ดี ถ้าเสียวมากๆก็เด้งกระแทกใส่ลิ้นพี่ได้เลย เค้กจะได้ไม่ทรมานมาก""ค่ะพี่บาส มันทรมานมากก็จริง แต่ว่าเค้กก็อยากให้พี่เลียเค้กอีกค่ะ เลียต่อนะคะ"คริมากำลังสติหลุดด้วยความทรมานที่แทบจะอดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ สะโพกงอนงามพยายามแอ่นกระดกขึ้น เด้งรับทุกๆจังหวะที่บุรินทร์ละเลงขยี้ปลายลิ้นลงมา ร่องรูของเธอแม้ว่าภายในจะตอดรัดแน่นด้วยความเสียวซ่าน แต่ปากทางเข้าของมันก็บานฟูออกราวกับว่ารอคอยต้อนรับเขาอยู่มือเล็กจากที่ตอนแรกจิกลงไปบนผ้าปูที่นอน เวลานี้วกกลับขึ้นไปบีบขย้ำเต้านมตัวเองแทน โหนกนูนของเธอเด้งขึ้นเด้งลงตามจังหวะลิ้นร้ายของเข
คริมายังคงครวญครางออกมาด้วยความเสียวซ่านไม่หยุด ทุกๆสัมผัสที่บุรินทร์เขี่ยคลึงลงมามันทั้งร้อนและเสียวจนเธอแทบจะเสร็จและหลอมละลาย นิ้วร้ายกาจของเขาที่กำลังใช้รังแกเธออยู่ยิ่งเขี่ยขยี้เร็วขึ้น บุรินทร์ใช้มันอย่างชำนาญการจนกระทั่งเรือนร่างอวบอัดนั้นแอ่นเกร็งกระตุกขึ้น"พี่ว่าเค้กน่าจะแฉะพอแล้วนะ ดูสิเปียกเยิ้มเต็มมือพี่เลย" บุรินทร์แกล้งแซวยิ้มๆในขณะที่คริมาเองก็สังเกตุเห็นอาการหายใจเร็วขึ้นของเขา จะว่าไปถ้าจะลองแอบมองเลยไปจนถึงส่วนนั้นเขาจะรู้มั้ยนะ"ขะ..ขอโทษค่ะ พอดีว่ามันเสียวมากจริงๆ ต้องขอบคุณพี่บาสที่พยายามช่วยให้เค้กแฉะได้ขนาดนี้ ไม่งั้นขืนพี่แหย่นิ้วเข้าไปตรวจเลยเค้กคงเจ็บมากแน่ๆ""ไม่เป็นไรหรอก พี่เป็นหมออยู่แล้ว หน้าที่รักษาคนไข้พี่ต้องทำมันอย่างเต็มที่""ขอบคุณค่ะพี่บาส" คริมาตอบออกมาเสียงสั่น ไม่ใช่แค่เสียง ทั้งเนื้อทั้งตัวแข้งขาเธอเองก็สั่นไปหมดกับสิ่งที่เขาทำให้เธอไปเมื่อครู่ เธอเสร็จ..ใช่ เสร็จด้วยนิ้วเรียวๆของเขาที่เพียงแค่สัมผัสเธอจากแค่ทางด้านนอกเท่านั้น ไม่อยากจินตนาการต่อเลยว่าถ้าได้เสร็จด้วยอย่างอื่นจริงๆมันจะให้ความรู้สึกที่ดีมากกว่าแค่ไหน"งั้นพี่จะเริ่มแหย่นิ้วเข
ขาเรียวสวยได้หยุดเยื้องย่างลงยามเมื่อพาตัวเองเดินเข้ามาถึงบริเวณตรงปลายของเตียงนอน ใบหน้างดงามแสนหวานนั้นหันกลับมาสบตาคมด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าเขาจะรู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อได้มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกันขนาดนี้เขายืนอยู่ตรงนั้น..ผู้ชายคนที่เธอยังคงใฝ่ฝันหาบุรินทร์เดินตามเข้ามาและหยุดมองเธออย่างไม่ละสายตาเช่นกัน ราวกับมีกระแสไฟวิ่งผ่าน ความร้อนวูบวาบและความเปียกแฉะกลางหว่างขายิ่งไหลออกมาเพิ่มมากขึ้นยามเมื่อได้สบตากับเขา เส้นเลือดที่ปูดโปนตามมือแกร่งและท่อนแขนแข็งแรงนั่น หากว่าเขาใช้มันสัมผัสกับตรงนั้นของเธอ มันจะให้ความรู้สึกที่ดีหรือเปล่านะ คริมาแทบจะทนความรู้สึกที่จะได้ถูกเขาสัมผัสแทบไม่ไหว มือเล็กที่จับปมผ้าขนหนูเอาไว้ค่อยๆปลดคลายมันออกอย่างช้าๆก่อนจะหยุดชะงักเล็กน้อยไว้ตรงบริเวณเอวคอด "เค้กถอดเลยนะคะพี่บาส""ถอดสิ ถอดออกให้หมดเลย" แม้ว่าน้ำเสียงที่บอกจะราบเรียบหากแต่คริมากลับสัมผัสได้ถึงประกายความร้อนแรงที่ถูกสาดมาทางแววตาเธอค่อยๆปล่อยผ้าขนหนูผืนใหญ่ให้มันไหลกองลงไปอยู่ที่พื้น เวลานี้เรือนร่างของเธอเปลือยเปล่าต่อหน้าต่อตาเขาแบบไม่มีอะไรปกปิด สายตาก็คอยสอดส่องแอบสังเกตุอาการว่าบุร
ร่างเล็กเดินก้าวออกมาจากห้องน้ำอย่างช้าๆ ด้านหน้าที่โซฟาในห้องนั่งเล่นมีบุรินทร์ตัวเป็นๆนั่งเปิดโทรทัศน์รออยู่ด้วยท่าทางเพลิดเพลิน และพอได้ยินเสียงว่าเธอกำลังเดินใกล้เข้ามา ใบหน้าหล่อเหลาที่เธอแสนจะหลงใหลก็หันมองมายังทิศทางที่เธออยู่ทันที"นุ่งผ้าขนหนูมาแบบนี้ กะจะยั่วพี่หรือเปล่าเนี่ยเค้ก"'ยั่วสิคะ แอบยั่วตั้งแต่ในรถแล้วพี่บาสไม่รู้หรอ'"เปล่านี่คะ ใส่แบบนี้เค้กว่ามันสะดวกดี ก็คิดเสียว่ากำลังใส่มาให้พี่บาสตรวจนมให้ก็แล้วกันค่ะ"คริมาแกล้งปดออกไปคำโตเมื่อถูกจับได้ ก็แล้วใครจะไปยอมรับให้เสียหน้ากันล่ะคะพี่บาสขาว่า ใช่ค่ะ ตั้งใจใส่มายั่ว"ถ้างั้นก็มานั่งตรงนี้สิ" มือใหญ่ตบลงที่บนโซฟาตัวเดียวกันกับที่เขานั่ง เอาเข้าจริงเธอเองก็กังวลอยู่เหมือนกันที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าคนที่ตัวเองหลงรัก ขาเรียวงามค่อยๆเดินเข้าไปหาเขาอย่างว่าง่ายแม้ว่าภายในใจนั้นแสนจะอึดอัดจนเกือบจะหายใจไม่ออก "ให้เค้กถอดเลยมั้ยคะ""ครับ"มือเล็กค่อยๆแกะปมผ้าขนหนูที่ผูกเอาไว้ออกทีละน้อย สายตาของเธอจ้องมองสบไปที่เขาอย่างหวั่นๆ แม้ว่าจะทำใจมาแล้ว แต่พอเอาเข้าจริงเจอสายตาคมของเขาที่จับจ้องมองมาแล้วคริมาก็เกิดอาการวูบๆวาบ
หลังจากแก้ปัญหาเรื่องสายคาดเข็มขัดนิรภัยได้แล้ว บุรินทร์ก็กลับมานั่งประจำตำแหน่งตัวเอง จากนั้นจึงหันไปหยิบเสื้อยืดตัวที่วางพาดไว้กับพวงมาลัยรถเพื่อมาใส่ เห็นดังนั้นคริมาก็ได้แต่มองตามตาละห้อยที่ภาพความสวยงามนั้นได้หายวับไปกับตา"พี่ว่าเค้กเปลี่ยนเสื้อด้วยดีกว่านะ ใส่เสื้อเปียกนานๆเดี๋ยวจะไม่สบายปอดบวมเข้า เผลอๆฝนตกหนักแบบนี้รถคงติดไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมง""ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พอดีว่าเค้กไม่ได้เอาเสื้อมาเปลี่ยนด้วย""เสื้อพี่ไง เหลืออีกตัวหนึ่งถ้าเค้กไม่รังเกียจ"'จะไปรังเกียจได้ยังไงล่ะคะ ในเมื่อเค้กออกจะคลั่งไคล้ในตัวพี่ขนาดนี้'"เสื้อพี่บาสหรอคะ""ใช่ เอาไปใส่สิ"คริมารับเสื้อมาจากบุรินทร์แล้วแต่ก็ยังคงถือไว้อย่างนั้น บุรินทร์ลืมไปหรือเปล่าว่าเธอเป็นผู้หญิง จะให้มาถอดปุ๊บเปลี่ยนปั๊บแบบเขาน่ะเธอทำได้เสียที่ไหน"เปลี่ยนสิเค้กไม่ต้องกลัวว่าใครจะเห็น รถพี่กระจกทึบทั้งคัน ข้างนอกมองเข้ามาไม่เห็นหรอก" พอบุรินทร์บอกแบบนั้นคริมาก็พึ่งจะนึกได้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ซึ่งความจริงเธอลืมไปเสียด้วยซ้ำและกลับไม่ได้กังวลถึงเรื่องนี้เลย แต่มันเป็นเพราะ เขา การต้องถอดเปลี่ยนเสื้อต่อหน้าเขาต่างหากคือสิ่งที่
สิบเจ็ดนาฬิกาตรง ได้เวลาเลิกงานแล้ว หากแต่ว่า. มองจากตรงนี้ออกไปทางด้านนอกท้องฟ้ากลับมืดครึ้มดำสนิทราวกับกำลังจะมีพายุใหญ่ เธอต้องรีบไปแล้ว วันนี้เธอไม่ได้ขับรถมาเนื่องจากว่าต้องเอารถเข้าศูนย์เพื่อไปตรวจสภาพ แถมระยะทางจากที่นี่กว่าจะออกไปถึงปากซอยเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าก็ถือว่าไกลอยู่พอสมควร ถ้าขืนชักช้าแล้วเกิดฝนตกลงมามีหวังได้เปียกหมดแน่ๆ"กำลังจะกลับแล้วหรอเค้ก"เสียงคนที่อยู่ด้านหลังประตูเปิดออกมาถามในขณะที่เธอกำลังสาละวนอยู่กับการเก็บข้าวของลงกระเป๋า"ค่ะ พอดีว่าฝนกำลังจะตกหนักแล้ววันนี้เค้กไม่ได้เอารถมา เลยว่าจะรีบออกไปให้ถึงสถานีรถไฟฟ้าให้ทันก่อนที่ฝนจะตก ถ้าเกิดว่าพี่บาสจะอนุญาต เค้กอยากจะขอ..." "เค้กไม่ต้องรีบออกไปหรอก แบมบอกพี่ไว้ตั้งแต่เมื่อตอนกลางวันแล้วว่าวันนี้เค้กไม่ได้เอารถมา เลยฝากให้พี่ไปส่งเค้กที่คอนโดให้หน่อย ส่วนแบมต้องรีบกลับไปรับคุณแม่น่ะ" 'มันใช่หรอ สิ่งที่บุรินทร์บอก ทำไมจู่ๆบุรารีถึงได้อยากจะฝากฝังพี่ชายตัวเองให้ไปส่งเธอกัน ถ้ามันไม่ใช่แผนการของบุรารีที่อยากให้เธอและพี่ชายของตัวเองได้อยู่ใกล้ชิดกัน'"คือเค้กว่าขอไม่รบกวนพี่บาสดีกว่าค่ะ เค้กเกรงใจเดี๋ย
หลังจากแนะนำตัวและทักทายกันเสร็จแล้วคริมาก็ยังกลับมานั่งใจเต้นยังไม่หาย แม้ว่าบุรินทร์จะหายเข้าไปในห้องทำงานพร้อมกับหญิงสาวที่เขาควงมาด้วยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าตัวแนะนำกับเธอและน้องสาวของเขาให้ได้รู้จักว่าหญิงสาวคนนี้คือเพื่อนสนิทคนหนึ่งสมัยตอนที่เรียนอยู่ที่ต่างประเทศด้วยกัน"ยินดีที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้งนะ ตอนนี้เค้กโตพอแล้ว พี่หวังว่าเราคงจะเข้ากันได้ดี...ในส่วนของการทำงานร่วมกันในครั้งนี้นะครับ"ดวงตาคมปราบที่มองมากับริมฝีปากยกยิ้มน้อยๆนั้นทำไมถึงทำให้เธอใจสั่นได้ถึงขนาดนี้นะ คริมายกมือขึ้นมาทาบอกก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาทางริมฝีปากบาง ห่างกันแค่นี้ เพียงแค่ผนังห้องกั้น บุรินทร์ที่เธอเคยหลงรักและลุ่มหลงมาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน เวลานี้เขากลับมาอยู่ใกล้ๆเธอเพียงแค่นี้เอง เธอควรจะทำอย่างไรดีถ้าหากว่าเธอยังอยากครอบครองทั้งตัวและหัวใจของเขาอยู่ ทำตามคำแนะนำของบุรารีเลยดีมั้ยนะ 'อ่อยๆยั่วๆ' ราวๆเกือบสองชั่วโมงที่สองคนนั้นหายกันเข้าไปในห้อง บุรารีทำเนียนด้วยการยกพวกชากาแฟเข้าไปให้เพื่อสังเกตการณ์ ได้ความมาว่าหญิงสาวคนนั้นต้องการให้พี่ชายของเธอตรวจสุขภาพภายในให้'ชิ อยากอ่อยล่ะสิไม่ว่า' นั
"แกว่ายังไงนะแบม พี่บาสจะย้ายกลับมาอยู่ไทยแล้วอย่างงั้นหรอ""ใช่ เพราะว่าปีนี้คุณพ่อจะเกษียณแล้ว พี่บาสเลยต้องเข้ามาดูแลแทน และที่สำคัญแกต้องย้ายจากการเป็นพยาบาลผู้ช่วยฉันไปเป็นผู้ช่วยพี่บาสแทน"เพียงแค่ประโยคๆเดียวทำเอาคริมาถึงกับตัวชาทำอะไรไม่ถูก กี่ปีมาแล้วนะที่เธอไม่ได้เจอเขา จากที่คิดว่าจะลืมเลือนกันไป ความทรงจำในตอนนั้นกลับผุดขึ้นมาฉายชัดอีกครั้ง นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้นก็ทำเอาเธอถึงกับเข่าอ่อน ไม่รู้ว่าอะไรดลใจทำให้เธอใจกล้าทำเรื่องบ้าๆแบบนั้นไป "พี่บาสคะ คือว่า... เค้กชอบพี่บาสค่ะ" "แต่พี่ว่าเค้กยังเด็กอยู่นะ เอาเวลาไปตั้งใจเรียนให้รีบจบก่อนดีกว่า"หลังจากที่สารภาพความรู้สึกกับเขาไปในวันนั้น เธอก็ไม่เคยได้เจอเขาอีกเลย เพราะว่าเขาต้องเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ถึงแม้ว่าวันนั้นเขาเองไม่ได้มีทีท่าอะไรที่จะทำให้เธอรู้สึกแย่ แถมยังเอามือมาลูบหัวแลัวยังส่งยิ้มหวานมาให้เธอราวกับว่าเอ็นดูอีกต่างหากแต่นั่นก็ทำให้เธอรู้สึกแย่อยู่ดีนี่มันก็เป็นเวลามากกว่าหกปีแล้ว แต่ความรู้สึกตอนที่เธอวิ่งไปบอกชอบเขาตอนนั้นเหมือนราวกับว่ามันพึ่งผ่านพ้นมาเพียงไม่กี่วัน เขาจะยังคงจำเหตุการณ์นั