Share

บทที่7 เรื่องราวที่ถูกซ่อน

last update Last Updated: 2024-12-08 10:44:24

วิญญาณสาวกรีดร้อง ขูดกรงเล็บยาวกว่าครึ่งเมตร พร้อมกับไล่มองตั้งแต่หย่งฟาง ไปยังพ่อบ้านหลินและฉู่หมิงถิง ก่อนจะหัวเราะอย่างเย็นชา "ที่นี่ใครแซ่ฉู่! สมควรตาย!!"

เคร้ง!

เสียงดาบที่ทำจากเหรียญจักรพรรดิทั้งห้า กั้นกรงเล็บคมของวิญญาณอาฆาตได้อย่างแม่นยำ เมื่อเล็บยาวแหลมสัมผัสกับดาบนั้นก็เกิดประกายไฟ พร้อมกับเสียงซู่ซ่าของควันสีดำ และกลิ่นไหม้ที่เหม็นคลุ้งไปทั่ว ผีสาวหันกลับมามองหย่งฟางด้วยความโกรธ ผมยาวของหล่อนสยายชี้ขึ้นไปในอากาศ กรงเล็บพุ่งเข้ามาและฉีกเสื้อคลุมเจ้าสาวที่บริเวณไหล่

หย่งฟางถอยหลังหลบอย่างรวดเร็ว เสื้อคลุมของเธอถูกฉีกขาด แต่ร่างกายไม่เป็นอะไร หญิงสาวควักยันต์หลายแผ่นจากแขนเสื้อออกมาและโยกไปเบื้องหน้า แผ่นยันต์ที่ควรจะตกกระจัดกระจาย ตอนนี้กลับลอยอยู่กลางอากาศอย่างมั่นคง

"พยัคฆ์ทองสยบภูตผีวิญญาณนับพันไม่อาจหลบหลีกได้ ไป!" 

หย่งฟางเปลี่ยนท่ามือและสุดท้ายชี้ไปข้างหน้า ทันใดนั้นเสือทองคำในตำนานก็ปรากฏขึ้น เสียงคำรามของมันดังสนั่นหวั่นไหว พุ่งตรงไปหาวิญญาณอาฆาต ถูกกดดันจนกระเด็นไปไกลหลายเมตร เมื่อเสือทองคำหายไปถูกแทนที่ด้วยยันต์หกแผ่นที่เปล่งแสงสีทอง ล้อมรอบวิญญาณเอาไว้คล้ายเชือกพันธนาการแน่นหนา

ผีอาฆาตตนนั้นลุกขึ้นยืน แต่ยันต์ยังคงหมุนรอบหล่อนเหมือนเป็นศูนย์กลาง ทำให้ไม่สามารถจัดการอะไรได้อีกต่อไป จึงพยายามปลุกพลังวิญญาณในตัว

หย่งฟางเตือนอย่างใจเย็น "พลังของเธอจะถูกทำลายไปหมดสิ้น ถ้าไม่ได้ฆ่าคนในร้อยปีที่ผ่านมา ฉันเชื่อว่าเธอไม่ต้องการที่จะถูกทำลายแบบนี้หรอกใช่ไหม"

แสงสีเขียวบ่งบอกถึงระดับของภูตผี จนกว่าจะมีคราบเลือดของผู้ที่ถูกฆ่าติดมือ แสงนั้นจึงจะเปลี่ยนเป็นสีแดง กลายเป็นภูตผีที่แท้จริง

วิญญาณสาวจ้องมองหย่งฟางอย่างเกรี้ยวกราด "ทำไมเธอถึงต้องช่วยพวกเขาด้วย? เธอก็เป็นคนตระกูลฉู่เหมือนกันหรือ?!"

หย่งฟางไม่ได้ตอบ

นายท่านฉู่พูดอย่างหนักแน่น ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจ "คุณหย่ง ผีตนนี้ต้องการทำร้ายคนในตระกูลฉู่ กำจัดหล่อนซะ ราคาคุณจะตั้งเท่าไหร่ก็แล้วแต่เลย"

หย่งฟางพูดเบา ๆ "ทำไมหล่อนถึงต้องการทำร้ายคนในตระกูลฉู่? ฉันก็อยากรู้เหมือนกันนะ" เธอหยิบเอากลิ่นควันดำที่ลอยอยู่ในอากาศขึ้นมาวิเคราะห์ "คำสาปที่มีอายุกว่าร้อยปี ครอบครัวของคุณถูกสาปมานานขนาดนั้นเลยเหรอ"

“นี่เป็นเรื่องภายในของตระกูลฉู่ เราไม่สามารถเปิดเผยได้ หากคุณหย่งไม่ต้องการช่วยจัดการกับปัญหานี้ ฉันจะติดต่ออาจารย์ท่านอื่นแทน”

จากที่เธอเพิ่งลงมือไป ฉู่หมิงถิงรู้แล้วว่าไม่ธรรมดา แต่ถ้าเธอไม่ต้องการทำงานให้เขาก็ไม่เป็นไร อย่างไรเสียวิญญาณตนนี้ก็ถูกล่อออกมาแล้ว เมืองถานจิงนั้นเต็มไปด้วยอาจารย์ที่มีชื่อเสียง และเขาก็รู้จักอยู่หลายคน จึงไม่กังวลที่จะหาใครสักคนมาจัดการกับปัญหานี้แทน

“ก็ได้ งั้นฉันจะถอดยันต์ออก” หย่งฟางพูดอย่างไม่แยแส

ดวงตาของฉู่หมิงถิงขยายออกเล็กน้อย ลมหายใจของเขาหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง พยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ภรรยาของฉู่ก็พูดขึ้นมาก่อน

"อย่า! อย่า คุณแค่ทำตามที่เราสั่งก็พอ จะอยากรู้เรื่องราวไปทำไมกัน"

หย่งฟางพูดตรง ๆ เช่นกันว่า "นี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิธีที่ฉันจะจัดการกับวิญญาณตนนี้"

คุณนายฉู่สูดหายใจลึกๆ "ฉู่หมิงถิง เรื่องนี้เป็นเรื่องในครอบครัวของคุณ คุณพูดออกมาเถอะ"

ฉู่หมิงถิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง น้ำที่ไกลย่อมไม่สามารถดับไฟที่อยู่ใกล้ได้ ถ้าหย่งฟางถอดยันต์ออกจากวิญญาณ...สุดท้ายเขาก็ต้องพูดออกมา

เมื่อร้อยปีก่อน ปู่ของตระกูลฉู่ถูกบังคับให้แต่งงานกับหญิงสาวคนหนึ่งเป็นภรรยาน้อยคนที่เก้า ในคืนแต่งงาน หญิงสาวต่อต้านตลอดเวลา ทำให้ปู่ของตระกูลฉู่บังเอิญทำให้เธอเสียชีวิต

หย่งฟางทวนคำพูด "บังเอิญทำให้เธอเสียชีวิต? ต่อต้านตลอดเวลา? เล่นกันถึงตายเลย?”

ช่างน่าสนใจเรื่องที่ตระกูลของตัวเองทำผิดจนทำให้คนตาย แต่คำพูดที่ส่งต่อมาถึงรุ่นหลัง ฟังดูเหมือนเรื่องเล็กน้อยมาก แม้ว่าภรรยาของฉู่จะไม่ได้พูดอะไร แต่ใบหน้าของเธอก็แสดงออกถึงความอับอาย

ฉู่หมิงถิ ยังรักษาหน้าตาที่ไม่เปลี่ยนแปลงและพูดต่อ "ภายหลังครอบครัวได้เชิญอาจารย์มาทำพิธี อาจารย์บอกว่าความอาฆาตของหญิงสาวนั้นลึกเกินกว่าจะทำพิธีปลดปล่อยได้ แต่สามารถกักขังไว้ที่ทิศตะวันออก สร้างบ่อน้ำขึ้นและเผากระดาษเงินกระดาษทองเป็นประจำทุกปี เพื่อเปลี่ยนความอาฆาตให้กลายเป็นพลังงานบวก..."

หย่งฟางพูดต่อ "เปลี่ยนเป็นพลังงานที่จะเสริมโชคลาภให้ตระกูลฉู่ แต่อาจจะมีผลข้างเคียงเล็กน้อย ตรงที่ผู้ชายในครอบครัวจะมีชีวิตไม่เกินห้าสิบปี"

"... " ฉู่หมิงถิงยืนนิ่งแล้วพยักหน้า

หย่งฟางไม่แน่ใจว่าทำไม แต่เธออดที่จะหัวเราะไม่ได้ "ดีมาก เป็นผลกรรมที่สมเหตุสมผล คุณบังคับให้คนตาย แล้วให้เธอทำหน้าที่เป็นเครื่องมือเสริมโชคลาภหลังจากตายไปแล้ว จากนั้นทุกคนในครอบครัว ผู้ชายจะมีชีวิตไม่เกินห้าสิบปี เป็นการลงโทษที่ยุติธรรมใช่ไหม"

" ?! " หน้าของฉู่หมิงถิงเริ่มเปลี่ยนเป็นสีซีด

หย่งฟางรู้สึกอยากกลับบ้านแล้ว จึงหันไปถามผีสาว “ฉันจะเลิกงานแล้วนะ เธออยากให้ฉันช่วยส่งเธอไปเกิดใหม่ หรือจะเลือกถูกขังไว้ที่ตระกูลฉู่ต่อไป ดูพวกผู้ชายในตระกูลฉู่ตายก่อนอายุห้าสิบปีล่ะ?”

การต่อรองกับวิญญาณ เป็นทักษะที่ต้องมีสำหรับผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ ผีสาวพิจารณาใบหน้าของหย่งฟาง  พบว่าแม้เธอจะยิ้มอยู่แต่ที่จริงแล้วเธอกำลังโกรธ โกรธเหมือนกับหล่อน คำพูดที่หย่งฟางพูดขึ้นมา ทำให้วิญญาณอาฆาตรู้ว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ได้อยู่ข้างตระกูลฉู่

วิญณาณสาวคิดอยู่นานก่อนจะตอบ “ถ้าเป็นพวกผู้เชี่ยวชาญแย่ๆ พวกนั้น ฉันคงเลือกถูกขังไว้ต่อไป แต่เพราะว่าเป็นเธอ ฉันเลือกเชื่อใจเธอดีกว่า”

หย่งฟางโบกมือ ยกเลิกยันต์ที่ใช้ขังวิญญาณ คุณนายฉู่กรีดร้องด้วยความตกใจ ดึงสามีให้ถอยห่างออกไปเรื่อยๆ เธอไม่ได้สนใจเสียงร้องเหล่านั้น และพูดกับผีผู้หญิงต่อ “ไปที่ห้องที่ห้าทางซ้ายมือของชั้นสอง บนโซฟามีกระเป๋าผ้าใบสีเขียว อยู่เข้าไปในนั้นซะ”

ผีผู้หญิงถามอย่างสงสัย “อะไรนะ กระเป๋าผ้าอะไรนะ?”

“โซฟายาว กระเป๋าผ้าสีเขียว”

ผีผู้หญิงตอบอย่างสับสน “ก็ได้!”

แล้วหล่อนก็ลอยผ่านฉู่หมิงถิงไปทางประตู โดยไม่มองเขาแม้แต่น้อย แม้ว่านายนท่านฉู่จะพยายามทำหน้าตาให้ดูเรียบเฉย แต่ร่างกายของเขากลับตึงเครียดไปหมด เมื่อเขาเห็นผีผู้หญิงลอยห่างออกไปไม่กี่เมตรก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมานิดหน่อย แต่แล้วผีผู้หญิงก็กลับมาโจมตีเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว!

เธอเคลื่อนตัวมาข้างหน้าเขาทันที เอาใบหน้าที่น่ากลัวเข้ามาใกล้ ดวงตาของเธอกลิ้งออกมาจากเบ้า พร้อมกับหนอนแมลงจำนวนมาก ที่ทะลักออกมาจากตาและพ่นใส่หน้าของฉู่หมิงถิง

หัวหน้าตระกูลฉู่ผู้ยิ่งใหญ่ รู้สึกว่าหัวใจเขาแทบหยุดเต้น จากนั้นเขาก็ล้มลงหมดสติไป

คุณนายฉู่ซึ่งเป็นคนขี้กลัวที่สุด ตกใจกรีดร้องตั้งแต่ผีผู้หญิงออกมาแล้ว และเมื่อเห็นสามีหมดสติ เธอก็ล้มลงไปบนพื้น แต่โชคร้ายที่ไม่หมดสติไปด้วย ยังหวังว่าตัวเองจะหมดสติไปเหมือนกัน

ผีผู้หญิงหัวเราะอย่างสนุกสนาน แล้วลอยทะลุกำแพงออกไป ปล่อยให้ในห้องมีเพียงหย่งฟาง พ่อบ้านหลินและคุณนายฉู่เท่านั้นที่ยังมีสติอยู่

หย่งฟางจึงนั่งลงรอให้คุณนายฉู่ฟื้นจากความตกใจ

คุณนายฉู่ร้องไห้อยู่ไม่กี่นาที ก่อนจะได้ยินเสียงไก่แดงที่เธออุ้มมาร้องอยู่ในอ้อมแขน จึงนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เธอคงเป็นคนเดียวที่สามารถจัดการกับสถานการณ์นี้ได้

"คุณหย่ง" เธอเปลี่ยนสรรพนามเรียก "ฉันขอรบกวนคุณอีกสักอย่างได้ไหมคะ?"

หย่งฟางตัดสินใจก่อนตอบเพราะรู้ว่าคุณนายจะถามอะไร “คืนวิญญาณให้ฉู่เหยียน ฉันต้องการราคานี้” แล้วเธอก็ยกสามนิ้วขึ้น ปัญหาใหญ่ได้แก้ไขแล้ว งานใหญ่กำลังจะจบ เธอจึงคิดว่าคงจะตั้งราคาเพิ่มได้อย่างสนุก

คุณนายฉู่พยักหน้า มือสั่นเทาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา "สามล้าน ฉันจะโอนให้คุณเดี๋ยวนี้เลย"

"..." จริงๆ แล้วเธอหมายถึงสามแสน

แต่สามล้าน...ก็หอมหวานดี

ช่างมันเถอะ เธอสมควรได้รับมันอยู่แล้ว อย่างมากก่อนกลับก็คงต้องแนะนำพวกเขา เรื่องปัญหาครอบครัวอีกนิดหน่อย หย่งฟางท่องหมายเลขบัญชีธนาคารที่เธอจำไว้ขึ้นใจอีกครั้ง เผื่อวันหนึ่งจะมีใครสักคนโอนเงินก้อนโตให้เธอ วันนี้มันเกิดขึ้นจริงแล้ว!

หลังจากรับข้อมูลการโอนเงินจากธนาคารในมือถือ หย่งฟางก็เดินมาข้างเตียง สัมผัสร่างของฉู่เหยียนที่หลับอยู่  จากนั้นเธอก็หยิบเส้นด้ายบางๆ ที่เปล่งแสงสีเขียวขึ้นมา

"หลินเหมียน ตื่นเถอะ" เธอพูดขณะดึงเส้นด้ายออกมา

ไม่นานนักเส้นด้ายสีเขียวก็รวมตัวเป็นลูกบอลแสงเล็กๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเงาเลือนรางของร่างคนหนึ่ง ผู้หญิงผมยาวในชุดสีเขียว ใบหน้าของเธอดูสงบ เพราะไม่สามารถทำหน้าแสดงอารมณ์ได้อีกแล้ว

"เหมียนเหมียน..." พ่อบ้านหลินเรียกด้วยเสียงที่สั่นเครือ

แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรอีก หย่งฟางกล่าวแทรกขึ้น "ไม่ได้ เธอตอนนี้อ่อนแอมาก ต้องรีบส่งเธอไปยังนรกภูมิทันที"

แหมมม อยากให้หย่งฟางของเราปราบผีให้ แต่ก็ยังกั๊กข้อมูลเนอะตาเฒ่า!

Related chapters

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่8 ส่งดวงวิญญาณ

    หลินตงน้ำตาคลอเบ้า มองไปที่หย่งฟางด้วยสายตาเต็มไปด้วยความวิงวอน แต่เขากลับไม่กล้าพูดอะไรออกมา เขาเคยทำสิ่งไม่ดี จึงไม่มีสิทธิ์ขอร้องใคร อีกทั้งเขาก็ไม่มีเงินมากพอที่จะให้หย่งฟางแต่ถึงแม้ว่าจะทำผิดพลาด จนทำให้ไม่สามารถพูดคุยกับลูกสาวเป็นครั้งสุดท้ายได้ เขาก็ยังคงต้องการขอโอกาส ที่จะให้เธอได้เกิดใหม่ในฐานะที่ดีกว่าเดิมในภพหน้า“ฉันไม่ได้ใจแข็งเหมือนคุณ ที่แม้แต่ลูกที่เลี้ยงมาตั้งแต่เล็กก็ยังกล้าทำร้ายได้” หย่งฟางพูดขึ้นเธอทำพิธีส่งดวงวิญญาณ ซึ่งปกติจะเรียกให้ยมทูตมารับไป แต่ครั้งนี้กลัวว่าอาจจะไม่ทันเวลา เธอจึงเปิดประตูนรกขึ้นมาเอง แล้วผลักดันวิญญาณของหลินเหมียนเข้าไปประตูนรกสีฟ้าเข้มหายไปในทันทีหย่งฟางหันไปบอกกับคุณนายฉู่ “ตอนนี้คุณก็คงรู้แล้ว ว่าลูกชายของคุณมีผีสองตนสิงอยู่ แต่เป็นเพราะหลินเหมียนพยายามปกป้องเขาอย่างสุดความสามารถ เขาถึงยังรอดมาได้จนถึงตอนนี้ แต่อีกไม่นาน ถ้าคืนนี้ผ่านไป ฉู่เหยียนก็จะไม่รอดแล้ว” ดังนั้นที่พวกคุณเรียกฉันมาทำพิธีแก้เคล็ดนี้ ไม่ว่าจะได้ผลหรือไม่ ฉู่เหยียนก็ไม่มีทางรอด ทางเลือกของพวกคุณคือ จะให้เขาตายไปพร้อมกับภรรยาที่เป็นผีหรือให้เขาโสดไปชีวิต ฉันพูดอย

    Last Updated : 2024-12-08
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่10 การขอบคุณของคุณชายฉู่

    เรื่องราวของตระกูลซ่งกระฉ่อนไปทั่วเมือง และหย่งฟางได้รับการยืนยันจากเทพแห่งห้องสุขาแล้ว การแก้แค้นในครั้งนี้นับว่าไม่เลวเลย หย่งฟางเป็นคนที่แค้นนี้ต้องชำระ และเธอไม่มีความรู้สึกผิดใดๆ ต่อเรื่องนี้ นี่คือราคาที่ต้องจ่ายสำหรับการขายเธอไปในราคาสองร้อยล้านหยวน การเสียเงินถือเป็นเรื่องรอง แต่หลักๆ แล้วคือการทำให้พวกเขาได้สัมผัสกับความอับอายของการถูกสิ่งสกปรกถาโถมใส่หลังจากเผาเครื่องเงินกระดาษสิบถุง เพื่อเป็นการขอบคุณเทพแห่งห้องสุขา และเห็นเทพเจ้าจากไปอย่างมีความสุข หย่งฟางก็เริ่มหันมาสนใจเรื่องการซ่อมแซมทางเดินบนภูเขา การออกแบบบันไดแต่ละขั้นมีความสำคัญมาก หากสูงเกินไปจะทำให้เหนื่อยล้า และหากเตี้ยเกินไปจะทำให้เดินลำบากหย่งฟางได้ปรึกษากับทีมก่อสร้าง เพื่อวัดความสูงที่เหมาะสม สำหรับการเดินขึ้นลงที่ไม่ทำร้ายเข่า นอกจากนี้ยังได้เลือกวัสดุที่จะใช้ทำขั้นบันได และต่อรองราคาจนได้ข้อสรุป จากนั้นก็เริ่มลงมือก่อสร้างในเช้าวันนั้นทีมก่อสร้างเริ่มงานตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า ทำให้หย่งฟางตื่นขึ้นเพ

    Last Updated : 2024-12-08
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่9 เทพแห่งห้องสุขา

    รถของตระกูลฉู่จอดอยู่ไม่ไกลจากบ้านของตระกูลซ่ง หย่งฟางลงจากรถแล้วเดินไปเก็บกิ่งไม้แห้งจากข้างทาง ก่อนจะเดินมาที่หน้าประตูบ้าน เธอท่องคาถาอย่างรวดเร็ว“ขออัญเชิญท่านเทพแห่งห้องสุขา ผู้ที่เชื่อมต่อสวรรค์และโลก สามารถผ่านเข้าออกในโลกมนุษย์และโลกแห่งความตายได้”เมื่อเธอทิ่มกิ่งไม้ลงกับพื้นเมื่อท่องคาถาเสร็จ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สดใสและชัดเจน “ขออัญเชิญ!” ทันใดนั้นใบไม้และฝุ่นบนพื้นถูกลมหมุนพัดขึ้นมาสิบวินาทีต่อมาลมสงบลง และหมอกก็เริ่มก่อตัวขึ้น มีเงาร่างเล็กๆ ที่โค้งงอหลังของมันออกมาจากหมอกสีขาว พร้อมกับไม้เท้าในมือ ปรากฏร่างพร้อมรอยยิ้มเป็นเทพเทพแห่งห้องสุขาที่สวมเสื้อผ้าขาดวิ่น ท่านมองหย่งฟางด้วยดวงตาที่เป็นมิตร “เจ้าหย่งฟางน้อย”“ขอคารวะท่านเทพ” หย่งฟางก้มโค้งคำนับอย่างเคารพ“ไม่ต้องพิธีรีตองนัก ข้าเป็นแค่เทพเล็กๆ ได้รับธูปและกระดาษเงินกระดาษทองจ

    Last Updated : 2024-12-09
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่11 เทพเจ้าคุ้มครอง

    เรื่องนี้... หย่งฟางไม่แน่ใจว่าบรรพบุรุษของเธอจะคิดอย่างไรกั การทำเทวรูปทองคำเป็นสิ่งที่ล่อลวงใจไม่น้อย“ตามฉันมา คุณถามเอาเองแล้วกัน”หย่งฟางพูดพร้อมกับกินแพนเค้กชิ้นสุดท้าย แล้วลุกขึ้นจากโต๊ะไม้เล็กๆ พาพวกเขาเข้าไปในวิหาร และบอกให้นำของบูชาไปวางบนโต๊ะบูชา เธอหยิบธูปขึ้นมา3 ดอก ยื่นให้คุณนายฉู่ พร้อมกับส่งไฟแช็กจุดให้ด้วยความชำนาญ จากนั้นปักธูปลงในกระถางธูป ขณะที่ถามคำถามในใจควันธูปลุกลามขึ้นพร้อมกับเสียงเปรี้ยงปร้างเพียงไม่กี่วินาที ก่อนจะอ่อนลงในอีกสามวินาทีต่อมา แต่ก็ยังมีประกายไฟพุ่งออกมาอยู่บ้าง หย่งฟางจ้องมองธูปอย่างตั้งใจคุณนายฉู่ถามด้วยความคาดหวัง “เทพเจ้ายินยอมหรือไม่?”หย่งฟางแปลความหมาย “เทพเจ้ายินดีในเจตนาของคุณ แต่การทำเทวรูปทองคำมันฟุ่มเฟือยเกินไป แล้วเสี่ยงต่อการถูกขโมย ฉะนัน้ทำเป็นทองเคลือบ18K ก็พอแล้ว”“เจาะจงขนาดนั้นเลยเหรอ?

    Last Updated : 2024-12-10
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่12 เรื่องวุ่นๆ ของเหล่าคุณนาย

    คุณนายฉู่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวขณะที่ถูกเหวี่ยงลงจากม้าก็ยังไม่รู้สึกกลัวด้วยซ้ำ คล้ายกับว่ามีพลังงานบางอย่างประคองหล่อนเอาไว้ แล้วค่อยๆ วางลงบนสนามหญ้าอย่างนุ่มนวลแต่หล่อนก็ไม่กล้าบอกใครเมื่อไปเยี่ยมเพื่อนๆ ที่นอนใส่เฝือกอยู่ในโรงพยาบาล พวกนั้นต่างพากันสงสัยและส่งสายตาอิจฉาในความโชคดี หยูถังทำได้แค่พูดเลี่ยง“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น บางทีเทพเจ้าคงคุ้มครอง…”เทพเจ้า?!คุณนายฉู่เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้ ซึ่งเมื่อคิดดูแล้วก็มีความเกี่ยวเนื่องกันอยู่ จึงบอกลาพวกพ้องแล้วตรงไปที่อารมบนเขาหย่งฟางเพิ่งออกมาจากห้องครัว ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยคราบเขม่าดำไปครึ่งซีก เมื่อเห็นคุณนายฉู่มาเยือนก็พูดด้วยเสียงออดอ้อน “หยูถึง…”คุณนายฉู่รู้ได้ทันทีว่าอาจารย์ตัวน้อยต้องการให้หล่อนทำอาหาร

    Last Updated : 2024-12-11
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่13 การดูควันธูป

    หลังจากที่ดูควันธูปให้คุณนายสี่คนติดต่อกัน หย่งฟางที่เพิ่งตื่นจากการนอนก็รู้สึกง่วงอีกครั้ง ตั้งแต่จำความได้เมื่อสิบปีก่อนก็มีคนมาน้อยมาก หลังจากนั้นก็ไม่มีอีกเลย ปกติเธอกับลุงก็มักจะจุดธูปเองและตีความควันกันเอง ไม่เคยลองดูให้คนเยอะขนาดนี้มาก่อน เลยเพิ่งรู้ว่าคำพูดของอาจารย์ใหญ่เป็นสูตรตายตัวใช่แล้ว ที่ว่า “คุณเป็นแขกคนที่…ในรอบสิบปี เทพเจ้าจำคุณได้ จะคอยปกป้องคุ้มครองคุณ” นั้นเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่แต่งเรื่องเพื่อให้คนรู้สึกสบายใจ หย่งฟางรู้สึกคล้ายกับว่าตัวเองเป็นฝ่ายบริการลูกค้าของเว็บขายของออนไลน์ เน้นพูดตามแพทเทิร์นก็ซื้อใจลูกค้าได้!การพูดแบบนี้น่าจะดึงดูดใจลูกค้าได้มั้ง? หย่งฟางยังคงสงสัย เห็นได้ชัดว่าเธอยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก และไม่รู้ว่าในอนาคตจะทำให้เธอมีชื่อเสียงจากการทำนายจนคาดไม่ถึงสุดท้ายคุณนายคนที่ห้าก็เข้ามาในห้องหย่งฟางพิจารณาควันธูป และพบว่ามีสองก้านที่ขาดจากกัน จึงกวาดตาไปที่ควันธูปของคุณนายสี่คนก่อนห

    Last Updated : 2024-12-12
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่14 คำทำนายเป็นจริง ลูกชายได้เจอรักแท้แล้ว

    นี่มัน...อาจารย์มีตาทิพย์จริงๆทางด้านหลิวซานซานหลังจากหย่งฟางทำนายว่าลูกชายของเธอได้พบกับรักแท้แล้ว ก็รู้สึกตื่นเต้นจึงไปซื้อวัตถุดิบเพื่อเตรียมทำอาหารไปให้ลูกชายที่คอนโดหรู เพราะต้องการสอบถามว่าเรื่องที่อาจารย์หย่งบอกเป็นความจริงหรือไม่หลิวซานซานถือถุงผักสด เนื้อสัตว์ และของสดใหม่สามสี่ถุงเข้าไปในคอนโด เมื่อใส่รหัสผ่านประตูแล้วเปิดเข้าไป เธอก็เห็นชายสองคนที่ไม่มีเสื้อผ้านั่งอยู่บนโซฟา“…”สุดท้ายชายคนหนึ่งก็พูดขึ้น “แม่ ถ้าผมบอกว่าเรากำลังออกกำลังกาย แม่จะเชื่อไหม?”หลิวซานซานขว้างไข่ไก่สดจำนวนหนึ่งไปที่ลูกชาย “เธอคิดว่าแม่จะเชื่อรึเปล่าล่ะ?!”ไข่กระจัดกระจาย ลูกชายร้องไห้ขอความเมตตา หลิวซานซานฟังลูกชายร้องไห้ระบายความอึดอัดใจ เรื่องการค้นพบตัวเองว่าเป็นเกย์ในช่วงวัยรุ่น และเล่าถึงความรักที่ทั้งคู่มีต่อกัน เธอค่อยๆ สงบลง ช่างเถอะ! เป็นแม่คนแล้ว

    Last Updated : 2024-12-12
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่ 1 ออกจากวงการบันเทิง

    [วันที่ 19 มิถุนายน ปี 20XX, เป็นวันที่ 53 ที่หย่งฟางลาออกจากวงการ, อากาศแจ่มใส, วงการบันเทิงเงียบสงบ][หรือฉันคิดไปเอง? หลังจากหย่งฟางจากไป วงการบันเทิงไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นอีกเลย][มั่นใจได้เลยว่า ไม่ได้คิดไปเองแน่]กิตติศัพท์เมื่อตอนที่หย่งฟางยังอยู่ในวงการ เธอเสมือนระเบิดปรมณูไปที่ไหนวาดวอดที่นั่น การประกวดเลือกตัวนักแสดง ก็ไปเรื่องกับแฟนคลับจนบ้านแตก ไปที่กองถ่ายพระเอกมีปัญหาเสพสารเสพติดจนโดนจับ ไปเข้ารายการวาไรตี้ แขกรับเชิญประจำก็จะโดนข้อหาหลบเลี่ยงภาษีจนโดนแบน แม้ว่าจะไม่ชอบหย่งฟางแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอได้สร้างผลงานที่โดดเด่นในการปั่นป่วนความสงบในวงการบันเทิงเธอเปรียบเสมือนระเบิด ไปที่ไหนก็เกิดเรื่องที่นั่น! แฟนคลับบางคนเรียกเธอว่า “ยมทูตประจำวงการบันเทิง” และแฟนๆ บางส่วนถึงกับคร่ำครวญขออย่าให้เธอมาเฉียดบ้านหรือเข้าใกล้ครอบครัว เพราะกลัวจะถูกความโชคร้ายของหย่งฟางติดตัวแต่ในตอนนี้ทุกคนรู้สึกเหงาหงอยนิดหน่อย เพราะแม้แต่คำว่า “ตัวระเบิดของวงการ” ในเว่ยป๋อก็ไม่ปรากฏขึ้นมานานแล้ว ตั้งแต่หย่งฟางออกจากวงการบันเทิง[ขาดหย่งฟางไป ความสนุกก็หายไปด้วย][ฉันเริ่มคิดถึงเธอแล้ว]

    Last Updated : 2024-12-04

Latest chapter

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่14 คำทำนายเป็นจริง ลูกชายได้เจอรักแท้แล้ว

    นี่มัน...อาจารย์มีตาทิพย์จริงๆทางด้านหลิวซานซานหลังจากหย่งฟางทำนายว่าลูกชายของเธอได้พบกับรักแท้แล้ว ก็รู้สึกตื่นเต้นจึงไปซื้อวัตถุดิบเพื่อเตรียมทำอาหารไปให้ลูกชายที่คอนโดหรู เพราะต้องการสอบถามว่าเรื่องที่อาจารย์หย่งบอกเป็นความจริงหรือไม่หลิวซานซานถือถุงผักสด เนื้อสัตว์ และของสดใหม่สามสี่ถุงเข้าไปในคอนโด เมื่อใส่รหัสผ่านประตูแล้วเปิดเข้าไป เธอก็เห็นชายสองคนที่ไม่มีเสื้อผ้านั่งอยู่บนโซฟา“…”สุดท้ายชายคนหนึ่งก็พูดขึ้น “แม่ ถ้าผมบอกว่าเรากำลังออกกำลังกาย แม่จะเชื่อไหม?”หลิวซานซานขว้างไข่ไก่สดจำนวนหนึ่งไปที่ลูกชาย “เธอคิดว่าแม่จะเชื่อรึเปล่าล่ะ?!”ไข่กระจัดกระจาย ลูกชายร้องไห้ขอความเมตตา หลิวซานซานฟังลูกชายร้องไห้ระบายความอึดอัดใจ เรื่องการค้นพบตัวเองว่าเป็นเกย์ในช่วงวัยรุ่น และเล่าถึงความรักที่ทั้งคู่มีต่อกัน เธอค่อยๆ สงบลง ช่างเถอะ! เป็นแม่คนแล้ว

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่13 การดูควันธูป

    หลังจากที่ดูควันธูปให้คุณนายสี่คนติดต่อกัน หย่งฟางที่เพิ่งตื่นจากการนอนก็รู้สึกง่วงอีกครั้ง ตั้งแต่จำความได้เมื่อสิบปีก่อนก็มีคนมาน้อยมาก หลังจากนั้นก็ไม่มีอีกเลย ปกติเธอกับลุงก็มักจะจุดธูปเองและตีความควันกันเอง ไม่เคยลองดูให้คนเยอะขนาดนี้มาก่อน เลยเพิ่งรู้ว่าคำพูดของอาจารย์ใหญ่เป็นสูตรตายตัวใช่แล้ว ที่ว่า “คุณเป็นแขกคนที่…ในรอบสิบปี เทพเจ้าจำคุณได้ จะคอยปกป้องคุ้มครองคุณ” นั้นเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่แต่งเรื่องเพื่อให้คนรู้สึกสบายใจ หย่งฟางรู้สึกคล้ายกับว่าตัวเองเป็นฝ่ายบริการลูกค้าของเว็บขายของออนไลน์ เน้นพูดตามแพทเทิร์นก็ซื้อใจลูกค้าได้!การพูดแบบนี้น่าจะดึงดูดใจลูกค้าได้มั้ง? หย่งฟางยังคงสงสัย เห็นได้ชัดว่าเธอยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก และไม่รู้ว่าในอนาคตจะทำให้เธอมีชื่อเสียงจากการทำนายจนคาดไม่ถึงสุดท้ายคุณนายคนที่ห้าก็เข้ามาในห้องหย่งฟางพิจารณาควันธูป และพบว่ามีสองก้านที่ขาดจากกัน จึงกวาดตาไปที่ควันธูปของคุณนายสี่คนก่อนห

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่12 เรื่องวุ่นๆ ของเหล่าคุณนาย

    คุณนายฉู่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวขณะที่ถูกเหวี่ยงลงจากม้าก็ยังไม่รู้สึกกลัวด้วยซ้ำ คล้ายกับว่ามีพลังงานบางอย่างประคองหล่อนเอาไว้ แล้วค่อยๆ วางลงบนสนามหญ้าอย่างนุ่มนวลแต่หล่อนก็ไม่กล้าบอกใครเมื่อไปเยี่ยมเพื่อนๆ ที่นอนใส่เฝือกอยู่ในโรงพยาบาล พวกนั้นต่างพากันสงสัยและส่งสายตาอิจฉาในความโชคดี หยูถังทำได้แค่พูดเลี่ยง“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น บางทีเทพเจ้าคงคุ้มครอง…”เทพเจ้า?!คุณนายฉู่เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้ ซึ่งเมื่อคิดดูแล้วก็มีความเกี่ยวเนื่องกันอยู่ จึงบอกลาพวกพ้องแล้วตรงไปที่อารมบนเขาหย่งฟางเพิ่งออกมาจากห้องครัว ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยคราบเขม่าดำไปครึ่งซีก เมื่อเห็นคุณนายฉู่มาเยือนก็พูดด้วยเสียงออดอ้อน “หยูถึง…”คุณนายฉู่รู้ได้ทันทีว่าอาจารย์ตัวน้อยต้องการให้หล่อนทำอาหาร

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่11 เทพเจ้าคุ้มครอง

    เรื่องนี้... หย่งฟางไม่แน่ใจว่าบรรพบุรุษของเธอจะคิดอย่างไรกั การทำเทวรูปทองคำเป็นสิ่งที่ล่อลวงใจไม่น้อย“ตามฉันมา คุณถามเอาเองแล้วกัน”หย่งฟางพูดพร้อมกับกินแพนเค้กชิ้นสุดท้าย แล้วลุกขึ้นจากโต๊ะไม้เล็กๆ พาพวกเขาเข้าไปในวิหาร และบอกให้นำของบูชาไปวางบนโต๊ะบูชา เธอหยิบธูปขึ้นมา3 ดอก ยื่นให้คุณนายฉู่ พร้อมกับส่งไฟแช็กจุดให้ด้วยความชำนาญ จากนั้นปักธูปลงในกระถางธูป ขณะที่ถามคำถามในใจควันธูปลุกลามขึ้นพร้อมกับเสียงเปรี้ยงปร้างเพียงไม่กี่วินาที ก่อนจะอ่อนลงในอีกสามวินาทีต่อมา แต่ก็ยังมีประกายไฟพุ่งออกมาอยู่บ้าง หย่งฟางจ้องมองธูปอย่างตั้งใจคุณนายฉู่ถามด้วยความคาดหวัง “เทพเจ้ายินยอมหรือไม่?”หย่งฟางแปลความหมาย “เทพเจ้ายินดีในเจตนาของคุณ แต่การทำเทวรูปทองคำมันฟุ่มเฟือยเกินไป แล้วเสี่ยงต่อการถูกขโมย ฉะนัน้ทำเป็นทองเคลือบ18K ก็พอแล้ว”“เจาะจงขนาดนั้นเลยเหรอ?

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่9 เทพแห่งห้องสุขา

    รถของตระกูลฉู่จอดอยู่ไม่ไกลจากบ้านของตระกูลซ่ง หย่งฟางลงจากรถแล้วเดินไปเก็บกิ่งไม้แห้งจากข้างทาง ก่อนจะเดินมาที่หน้าประตูบ้าน เธอท่องคาถาอย่างรวดเร็ว“ขออัญเชิญท่านเทพแห่งห้องสุขา ผู้ที่เชื่อมต่อสวรรค์และโลก สามารถผ่านเข้าออกในโลกมนุษย์และโลกแห่งความตายได้”เมื่อเธอทิ่มกิ่งไม้ลงกับพื้นเมื่อท่องคาถาเสร็จ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สดใสและชัดเจน “ขออัญเชิญ!” ทันใดนั้นใบไม้และฝุ่นบนพื้นถูกลมหมุนพัดขึ้นมาสิบวินาทีต่อมาลมสงบลง และหมอกก็เริ่มก่อตัวขึ้น มีเงาร่างเล็กๆ ที่โค้งงอหลังของมันออกมาจากหมอกสีขาว พร้อมกับไม้เท้าในมือ ปรากฏร่างพร้อมรอยยิ้มเป็นเทพเทพแห่งห้องสุขาที่สวมเสื้อผ้าขาดวิ่น ท่านมองหย่งฟางด้วยดวงตาที่เป็นมิตร “เจ้าหย่งฟางน้อย”“ขอคารวะท่านเทพ” หย่งฟางก้มโค้งคำนับอย่างเคารพ“ไม่ต้องพิธีรีตองนัก ข้าเป็นแค่เทพเล็กๆ ได้รับธูปและกระดาษเงินกระดาษทองจ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่10 การขอบคุณของคุณชายฉู่

    เรื่องราวของตระกูลซ่งกระฉ่อนไปทั่วเมือง และหย่งฟางได้รับการยืนยันจากเทพแห่งห้องสุขาแล้ว การแก้แค้นในครั้งนี้นับว่าไม่เลวเลย หย่งฟางเป็นคนที่แค้นนี้ต้องชำระ และเธอไม่มีความรู้สึกผิดใดๆ ต่อเรื่องนี้ นี่คือราคาที่ต้องจ่ายสำหรับการขายเธอไปในราคาสองร้อยล้านหยวน การเสียเงินถือเป็นเรื่องรอง แต่หลักๆ แล้วคือการทำให้พวกเขาได้สัมผัสกับความอับอายของการถูกสิ่งสกปรกถาโถมใส่หลังจากเผาเครื่องเงินกระดาษสิบถุง เพื่อเป็นการขอบคุณเทพแห่งห้องสุขา และเห็นเทพเจ้าจากไปอย่างมีความสุข หย่งฟางก็เริ่มหันมาสนใจเรื่องการซ่อมแซมทางเดินบนภูเขา การออกแบบบันไดแต่ละขั้นมีความสำคัญมาก หากสูงเกินไปจะทำให้เหนื่อยล้า และหากเตี้ยเกินไปจะทำให้เดินลำบากหย่งฟางได้ปรึกษากับทีมก่อสร้าง เพื่อวัดความสูงที่เหมาะสม สำหรับการเดินขึ้นลงที่ไม่ทำร้ายเข่า นอกจากนี้ยังได้เลือกวัสดุที่จะใช้ทำขั้นบันได และต่อรองราคาจนได้ข้อสรุป จากนั้นก็เริ่มลงมือก่อสร้างในเช้าวันนั้นทีมก่อสร้างเริ่มงานตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า ทำให้หย่งฟางตื่นขึ้นเพ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่8 ส่งดวงวิญญาณ

    หลินตงน้ำตาคลอเบ้า มองไปที่หย่งฟางด้วยสายตาเต็มไปด้วยความวิงวอน แต่เขากลับไม่กล้าพูดอะไรออกมา เขาเคยทำสิ่งไม่ดี จึงไม่มีสิทธิ์ขอร้องใคร อีกทั้งเขาก็ไม่มีเงินมากพอที่จะให้หย่งฟางแต่ถึงแม้ว่าจะทำผิดพลาด จนทำให้ไม่สามารถพูดคุยกับลูกสาวเป็นครั้งสุดท้ายได้ เขาก็ยังคงต้องการขอโอกาส ที่จะให้เธอได้เกิดใหม่ในฐานะที่ดีกว่าเดิมในภพหน้า“ฉันไม่ได้ใจแข็งเหมือนคุณ ที่แม้แต่ลูกที่เลี้ยงมาตั้งแต่เล็กก็ยังกล้าทำร้ายได้” หย่งฟางพูดขึ้นเธอทำพิธีส่งดวงวิญญาณ ซึ่งปกติจะเรียกให้ยมทูตมารับไป แต่ครั้งนี้กลัวว่าอาจจะไม่ทันเวลา เธอจึงเปิดประตูนรกขึ้นมาเอง แล้วผลักดันวิญญาณของหลินเหมียนเข้าไปประตูนรกสีฟ้าเข้มหายไปในทันทีหย่งฟางหันไปบอกกับคุณนายฉู่ “ตอนนี้คุณก็คงรู้แล้ว ว่าลูกชายของคุณมีผีสองตนสิงอยู่ แต่เป็นเพราะหลินเหมียนพยายามปกป้องเขาอย่างสุดความสามารถ เขาถึงยังรอดมาได้จนถึงตอนนี้ แต่อีกไม่นาน ถ้าคืนนี้ผ่านไป ฉู่เหยียนก็จะไม่รอดแล้ว” ดังนั้นที่พวกคุณเรียกฉันมาทำพิธีแก้เคล็ดนี้ ไม่ว่าจะได้ผลหรือไม่ ฉู่เหยียนก็ไม่มีทางรอด ทางเลือกของพวกคุณคือ จะให้เขาตายไปพร้อมกับภรรยาที่เป็นผีหรือให้เขาโสดไปชีวิต ฉันพูดอย

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่7 เรื่องราวที่ถูกซ่อน

    วิญญาณสาวกรีดร้อง ขูดกรงเล็บยาวกว่าครึ่งเมตร พร้อมกับไล่มองตั้งแต่หย่งฟาง ไปยังพ่อบ้านหลินและฉู่หมิงถิง ก่อนจะหัวเราะอย่างเย็นชา "ที่นี่ใครแซ่ฉู่! สมควรตาย!!"เคร้ง!เสียงดาบที่ทำจากเหรียญจักรพรรดิทั้งห้า กั้นกรงเล็บคมของวิญญาณอาฆาตได้อย่างแม่นยำ เมื่อเล็บยาวแหลมสัมผัสกับดาบนั้นก็เกิดประกายไฟ พร้อมกับเสียงซู่ซ่าของควันสีดำ และกลิ่นไหม้ที่เหม็นคลุ้งไปทั่ว ผีสาวหันกลับมามองหย่งฟางด้วยความโกรธ ผมยาวของหล่อนสยายชี้ขึ้นไปในอากาศ กรงเล็บพุ่งเข้ามาและฉีกเสื้อคลุมเจ้าสาวที่บริเวณไหล่หย่งฟางถอยหลังหลบอย่างรวดเร็ว เสื้อคลุมของเธอถูกฉีกขาด แต่ร่างกายไม่เป็นอะไร หญิงสาวควักยันต์หลายแผ่นจากแขนเสื้อออกมาและโยกไปเบื้องหน้า แผ่นยันต์ที่ควรจะตกกระจัดกระจาย ตอนนี้กลับลอยอยู่กลางอากาศอย่างมั่นคง"พยัคฆ์ทองสยบภูตผีวิญญาณนับพันไม่อาจหลบหลีกได้ ไป!" หย่งฟางเปลี่ยนท่ามือและสุดท้ายชี้ไปข้างหน้า ทันใดนั้นเสือทองคำในตำนานก็ปรากฏขึ้น เสียงคำรามของมันดังสนั่นหวั่นไหว พุ่งตรงไปหาวิญญาณอาฆาต ถูกกดดันจนกระเด็นไปไกลหลายเมตร เมื่อเสือทองคำหายไปถูกแทนที่ด้วยยันต์หกแผ่นที่เปล่งแสงสีทอง ล้อมรอบวิญญาณเอาไว้คล้ายเชือกพั

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่6 ปราบวิญญาณ

    “พูดจาบ้าบออะไร! แกเป็นใครถึงมีสิทธิ์พูดแบบนั้น?!” แม่บ้านเจินโกรธจนแทบจะระเบิดออกมาหย่งฟางไม่ตอบโต้ เพราะเมื่อข้อมูลดวงชะตาของหลินเหมียนปรากฏบนโต๊ะพิธี คนที่พอมีสมองก็จะเข้าใจได้ทันทีว่าอะไรเป็นอะไรนายท่านฉู่ถามอย่างเคร่งเครียด “หลินตง หลินเหมียนเสียชีวิตเมื่อครึ่งปีก่อน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตอนเดินทางไปพบลูกค้า แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเสี่ยวเหยียน?” “เสี่ยวเหยียนกับหลินเหมียนเป็นแฟนกันหรือเปล่า? ถ้าพวกคุณไม่รู้เรื่องนี้ นั่นแสดงว่าพวกเขาคงแอบคบกันลับๆ” หย่งฟางบอกการคาดเดาของตัวเองทันใดนั้นเองเสียงไก่ตัวผู้ในอ้อมแขนของคุณนายฉู่ร้องออกมาสองครั้ง หย่งฟางมองไปที่ไก่และสังเกตว่ามันมีสีหน้าที่ดูเหมือนหมดหวัง เธอเข้าใจแล้ว ไก่ปฏิเสธถ้าเป็นเช่นนั้น “ลูกสาวของคุณชอบเสี่ยวเหยียน คุณเลยอยากให้เขาแต่งงานกับเธอในฐานะผี” หย่งฟางหันไปมองพ่อบ้านหลิน “ตอนนี้ฉันพูดถูกทั้งหมดแล้วใช่ไหม”ใช่ ถูกทั้งหมด! หลินตงยังสวมชุดทำงานที่เรียบร้อยของหัวหน้าพ่อบ้านอยู่ แต่ตอนนี้เขาหมดคำพูดในการโต้แย้งอีกต่อไป ราวกับว่าถูกดึงพลังชีวิตออกไปหมดสิ้น แม้แต่กระดูกก็เหมือนจะไม่แข็งแรงอีกแล้ว เขาดูแก่ลงหลายปี ท่าทางหมดแ

DMCA.com Protection Status