แชร์

บทที่12 เรื่องวุ่นๆ ของเหล่าคุณนาย

ผู้เขียน: เฉินม่านอิ๋ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-11 11:05:56

คุณนายฉู่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวขณะที่ถูกเหวี่ยงลงจากม้าก็ยังไม่รู้สึกกลัวด้วยซ้ำ คล้ายกับว่ามีพลังงานบางอย่างประคองหล่อนเอาไว้ แล้วค่อยๆ วางลงบนสนามหญ้าอย่างนุ่มนวล

แต่หล่อนก็ไม่กล้าบอกใคร

เมื่อไปเยี่ยมเพื่อนๆ ที่นอนใส่เฝือกอยู่ในโรงพยาบาล พวกนั้นต่างพากันสงสัยและส่งสายตาอิจฉาในความโชคดี หยูถังทำได้แค่พูดเลี่ยง 

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น บางทีเทพเจ้าคงคุ้มครอง…”

เทพเจ้า?!

คุณนายฉู่เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้ ซึ่งเมื่อคิดดูแล้วก็มีความเกี่ยวเนื่องกันอยู่ จึงบอกลาพวกพ้องแล้วตรงไปที่อารมบนเขา

หย่งฟางเพิ่งออกมาจากห้องครัว ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยคราบเขม่าดำไปครึ่งซีก เมื่อเห็นคุณนายฉู่มาเยือนก็พูดด้วยเสียงออดอ้อน “หยูถึง…”

คุณนายฉู่รู้ได้ทันทีว่าอาจารย์ตัวน้อยต้องการให้หล่อนทำอาหาร

ระหว่างที่กำลังรับประท่าน หยูถังเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้หย่งฟางฟัง อาจารย์หย่งน้อยวางช้อนส้อมลงแล้วลุกขึ้นเข้าไปในวิหารหลัก เมื่อออกมาอีกครั้งถือหนังสือโบราณเล่มหนึ่งวมาด้วย แล้วยื่นให้หยูถังเปิดดู หล่อนเห็นภาพวาดนายพลในชุดเกราะโบราณที่วาดด้วยหมึก

“ใช่แล้ว! ผู้เฒ่าในชุดเกราะที่ฉันฝันถึงก็คือคนนี้!”

หย่งฟางไขความกระจ่าง “เทพเซียนของเราคือทหารก่อนที่จะเหาะไปสวรรค์ ในคืนนั้นที่คุณฝันเห็นอีกร่างหนึ่งของตัวเอง นั่นอาจเป็นเสี้ยววิญญาณที่หายไปจึงตกใจง่ายขึ้น และมีความเป็นไปได้สูงว่าเทพเจ้าช่วยคุณหาวิญญาณที่นั้นกลับมาสู่คุณ ส่วนเหตุการณ์ผิดปกติสองครั้งนั้น ฉันก็ไม่ได้จะให้เครดิตกับท่านเทพทั้งหมดหรอก คุณคิดว่าใช่ก็ใช่ ถ้าไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร” 

เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?! หยูถังวางตะเกียบแล้วไปล้างมือก่อนจุดธูปอีกครั้ง จากนั้นหล่อนได้ยินเสียงประทัดแตกเปรี้ยงปร้างดังก้องกังวาล

หนึ่งสัปดาห์ต่อมาเหล่าคุณนายที่ได้บาดเจ็บก็หายดี พวกหล่อนจึงมาขอหยูถังด้วยความเคอะเขิน เพราะได้ยินเรื่องที่คุณนายฉู่บูชาเทพเจ้าแล้วโชคดีจึงอยากเดินรอยตาม

 “พวกเราเดินป่าที่เขาหลงหย่าสักสองสามวันดีไหม? ได้ข่าวว่าคุณไปที่นั่นบ่อยๆ ไม่ใช่หรือหยูถัง”

พักหลังมานี้พวกหล่อนสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของหยูถัง เรื่องประหลาดในเหตุการณ์ขี่ม้านั้นพักไว้ก่อน แต่ที่ดึงความสนใจคือความสดใสบนใบหน้า ราวกับว่าหล่อนดูเด็กลงมาก พวกเธอคิดว่าหยูถังทำศัลยกรรมเสริมความงาม  แต่เมื่อถามไปยังสปาที่คุณนายฉู่มักไปประจำ ก็ได้รับคำตอบว่าหล่อนไม่ได้ไปที่นั่นมานานแล้ว แล้วความเปลี่ยนแปลงนั้นมาจากไหน? ที่เดียวที่หล่อนไปคือการขึ้นเขาหลงหย่าเพื่อไปสักการะที่วัด! 

ทางขึ้นเขาที่มุ่งหน้าไปยังวัดเสวียนเว่ยได้รับการซ่อมแซมแล้ว หยูถังพาบรรดาเหล่าคุณนายสหายสนิทขึ้นมาด้วยกัน แต่ไม่เห็นหย่งฟางที่มักจะล้างหน้าอยู่ตรงบ่อน้ำ จึงบอกให้พวกพ้องรอก่อน แล้วเดินเข้าไปที่ห้องนอนของแล้วผลักประตูเบาๆ มันไม่ได้ล็อค

หยูถังคิดในใจว่า เมื่อได้วันมงคลจากหย่งฟางสำหรับการเริ่มซ่อมแซมวิหารหลัก หล่อนจะต้องให้ช่างติดตั้งประตูล็อคด้วยลายนิ้วมือให้กับห้องนอนและห้องข้างเคียง

“อาจารย์เถาน้อย” หยูถังตบเตียงเบาๆ โดยหย่งฟางกำลังนอนคว่ำอยู่ เธอตื่นขึ้นแต่อย่างไม่เต็มตา แล้วพูดอย่างสงบ “หยูถัง คุณมาแล้วเหรอ...”

“…” คุณนายฉู่อายุมากกว่าเด็กสาวไม่รู้เท่าไหร่ แต่รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังมาเยี่ยมญาติผู้สูงอายุ

“อาจารย์เถาน้อย ทางขึ้นเขาซ่อมแซมได้ดีมาก วันนี้ฉันขึ้นมาสบายๆ เลย!”

หย่งฟางลืมตามองอีกครั้งแล้วหลับตาลง “คุณใช้เวลาเท่าไหร่ในการขึ้นมา?”

คุณนายฉู่มองนาฬิกาข้อมือแล้วพูด “สี่สิบห้านาที”

หย่งฟางพอใจมาก เธอบอกว่าวัดตั้งอยู่บนเขาที่ไม่สูงนัก แต่ก่อนนี้ผู้คนมักบ่นว่าเส้นทางขึ้นเขายากลำบากหรือหาเส้นทางไม่เจอ แต่ตอนนี้ถูกซ่อมแซมอย่างดี สามารถเดินขึ้นไปได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องปีน

คงอีกไม่นานวัดจะเจริญรุ่งเรืองขึ้นแต่เธอก็เหนื่อยมากจริงๆ เมื่อวานนี้ถนนบนเขาเสร็จสมบูรณ์ ตอนจ่ายเงินค่าก่อสร้าง เห็นตัวเลขในบัญชีถูกถอนออกไปยาวเหยียด รู้สึกเหมือนวิญญาณถูกดึงออกไปครึ่งหนึ่ง เหนื่อยจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ รู้สึกเศร้ามากเหลือเกิน

“ฉันพาพวกเพื่อนๆ ของมาจุดธูปไหว้เทพเจ้า ถ้าเธอง่วง ฉันจะพาพวกเขาไปเยี่ยมชมวัดก่อน”

แต่ทันใดนั้นหย่งฟางก็สูดจมูกเหมือนจะร้องไห้ หยูถังคิดในใจว่าต้องมีใครบางคนรังแกอาจารย์เถาน้อยของเธอ แ ละกำลังจะถามว่าเป็นใคร แต่แล้วก็ได้ยินหย่งฟางพูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าหมอง

“คุณหยูถัง ถ้าฉันไม่ได้กินซาลาเปาไส้ไข่ปูของร้านซวี่จีตอนเช้า ฉันจะเสียใจมาก”

“...”

ได้ยินดังนั้นคุณนายฉู่ก็รีบสั่งเดลิเวอรี่ทันที อาหารเช้าของร้านซวี่จีจะถูกส่งขึ้นเขาภายในสองชั่วโมง ระหว่างรอ อาหารหย่งฟางก็ตื่นเต็มตาแล้ว เธอสวมชุดนอนลายหมีออกมาจากห้อง และทำการทำนายดวงชะตาให้กับเหล่าคุณนายทั้งห้าคน

หย่งฟางพูด “ช่วงนี้คุณโชคไม่ดี เดินก็ล้ม ประตูก็หนีบมือ เล่นไพ่นกกระจอกก็แพ้ตลอด เพราะทำต้นหอมหมื่นลี้ที่บ้านตาย”

“!!”

“ลองย้ายไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้แล้วปลูกใหม่ จะช่วยแก้เคล็ดได้” หย่งฟางให้คำแนะนำ จากนั้นเธอมองไปที่คนต่อไป 

“หน้าผากคุณดูหมอง มีคนแก่ในบ้านป่วย”

“!!!!!!”

เหล่าคุณนายไฮโซที่รู้สถานการณ์ของบ้านตัวเองแทบไม่เชื่อหู

 “อาจารย์! พ่อของหล่อนเพิ่งผ่าตัดเมื่อสามวันก่อน! ส่วนหล่อนได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่สนามม้า พอออกจากโรงพยาบาลก็รีบไปดูแลพ่อ ตอนนี้ดูสีหน้าของหล่อนสิ เหนื่อยล้าสุดๆ”

“ไม่ต้องกังวล พ่อของคุณจะฟื้นตัวอย่างปลอดภัยผ่านพ้นเคราะห์นี้ไปได้ และจะมีชีวิตยืนยาวถึงแปดสิบปี” จากนั้นเธอมองไปที่คนต่อไป 

“คุณดูสดใส หน้าตาเปล่งปลั่ง ลูกสาวของคุณเพิ่งผ่านการสอบสำคัญ น่าจะเป็นการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ไม่ต้องห่วง คะแนนสอบจะดีมาก จะสอบติดมหาวิทยาลัยดีๆ แน่นอน”

“!!!!”

หลังจากทำนายดวงชะตาครบทุกคน แก๊งคุณนายเหล่านั้นต่างพากันตกตะลึง พวกหล่อนร้องอุทานด้วยความประหลาดใจ และยืนยันว่าคำทำนายนั้นเป็นความจริง จึงมีความเชื่อมั่นในความสามารถของหย่งฟางอย่างเต็มที่ ดังนั้นเมื่อจุดธูปไหว้เทพเจ้า พวกหล่อนก็ขอพรด้วยความศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยม

ทุกคนขอพรในใจ และหย่งฟางก็ทำนายดวงจากธูปให้เช่นกัน สำหรับคนแรกที่ไม่ต้องการให้ใครได้ยินคำขอพรของตัวเอง หย่งฟางเข้าใจและให้หยูถังพาทั้งสี่คนออกไปข้างนอก ให้แต่ละคนต่อแถวเข้ามาทีละคน

ตอนนี้ที่อยู่ในวิหารคือคุณนายคนที่หนึ่ง ซึ่งรู้สึกอายและหดหู่เล็กน้อย “ฉัน…ฉันหวังว่าสามีจะกลับบ้าน เขาไม่กลับบ้านมาเป็นเดือนแล้ว…”

หย่งฟางมองธูป “คุณอี้ฉิน เทพเจ้าตอบรับคำขอของคุณแล้ว และท่านบอกว่าไม่ใช่ความผิดของคุณ อย่าโทษตัวเอง อย่าเสียใจ ส่วนสามีของคุณ รอข่าวดีที่บ้านได้เลย และคุณจะเป็นผู้แสวงบุญคนที่สองในรอบสิบปีที่ผ่านมา ท่านเทพจำคุณได้แล้ว และจะคุ้มครองคุณ”

คุณนายอี้ฉินออกไปด้วยความยินดี

คุณนายคนที่สองก้าวเข้ามาในห้องด้วยแววตาแห่งความศรัทธา “ขอเทพเจ้าช่วยให้ลูกชายของฉันหาคู่ได้สำเร็จ และพาคู่กลับบ้านเร็วๆ!”

หย่งฟางมองธูป มีประกายไฟระยิบระยับ “คุณซาน เทพเจ้าบอกว่าลูกชายของคุณมีคู่แล้ว ความปรารถนาของคุณจะสำเร็จแน่นอน แค่รอข่าวดีที่บ้านก็พอ และคุณเป็นผู้แสวงบุญคนที่สามในรอบสิบปีที่ผ่านมา เทพเจ้าบอกว่าจะคุ้มครองความรักของลูกชายของคุณให้สมหวัง”

คุณนายซานซานยิ้มหน้าบานออกไป

คุณนายคนที่สามเข้ามาในห้องด้วยความเขินอาย “ฉันอยากมีลูกคนที่สอง แต่สามีไม่ค่อยไหว…”

หย่งฟางมองธูปแล้วตอบว่า “คุณลี่ สองวันหลังจากนี้คือวันขึ้น 5 ค่ำ ให้ลองกับสามีคุณในวันนั้น เทพเจ้าบอกว่าคุณเป็นผู้แสวงบุญคนที่สี่ในรอบสิบปี ท่านจะคุ้มครองคุณ โอ้ เทพเจ้ายังให้ฉันส่งมอบยันต์นี้ให้ด้วย ให้สามีคุณพกติดตัวไว้” หย่งฟางหยิบยันต์จากใต้ฐานที่บูชาธูป พับเป็นสามเหลี่ยมและยื่นให้หล่อน

คุณนายลี่ออกไปด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

และจากนั้นคุณนายคนที่สี่ก็เดินเข้ามา “ขอเทพเจ้าคุ้มครองให้ฉันชนะไพ่นกกระจอกทุกตา”

คุณนายฉู่พาเดอะแก๊งมาดูดวง ดูท่าแต่ละคนคงติดใจเสียแล้ววว

คุณนายคนสุดท้ายนี่หายใจเข้าหายใจออกเป็นการพนันเลยนะ 55555

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่13 การดูควันธูป

    หลังจากที่ดูควันธูปให้คุณนายสี่คนติดต่อกัน หย่งฟางที่เพิ่งตื่นจากการนอนก็รู้สึกง่วงอีกครั้ง ตั้งแต่จำความได้เมื่อสิบปีก่อนก็มีคนมาน้อยมาก หลังจากนั้นก็ไม่มีอีกเลย ปกติเธอกับลุงก็มักจะจุดธูปเองและตีความควันกันเอง ไม่เคยลองดูให้คนเยอะขนาดนี้มาก่อน เลยเพิ่งรู้ว่าคำพูดของอาจารย์ใหญ่เป็นสูตรตายตัวใช่แล้ว ที่ว่า “คุณเป็นแขกคนที่…ในรอบสิบปี เทพเจ้าจำคุณได้ จะคอยปกป้องคุ้มครองคุณ” นั้นเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่แต่งเรื่องเพื่อให้คนรู้สึกสบายใจ หย่งฟางรู้สึกคล้ายกับว่าตัวเองเป็นฝ่ายบริการลูกค้าของเว็บขายของออนไลน์ เน้นพูดตามแพทเทิร์นก็ซื้อใจลูกค้าได้!การพูดแบบนี้น่าจะดึงดูดใจลูกค้าได้มั้ง? หย่งฟางยังคงสงสัย เห็นได้ชัดว่าเธอยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก และไม่รู้ว่าในอนาคตจะทำให้เธอมีชื่อเสียงจากการทำนายจนคาดไม่ถึงสุดท้ายคุณนายคนที่ห้าก็เข้ามาในห้องหย่งฟางพิจารณาควันธูป และพบว่ามีสองก้านที่ขาดจากกัน จึงกวาดตาไปที่ควันธูปของคุณนายสี่คนก่อนห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่14 คำทำนายเป็นจริง ลูกชายได้เจอรักแท้แล้ว

    นี่มัน...อาจารย์มีตาทิพย์จริงๆทางด้านหลิวซานซานหลังจากหย่งฟางทำนายว่าลูกชายของเธอได้พบกับรักแท้แล้ว ก็รู้สึกตื่นเต้นจึงไปซื้อวัตถุดิบเพื่อเตรียมทำอาหารไปให้ลูกชายที่คอนโดหรู เพราะต้องการสอบถามว่าเรื่องที่อาจารย์หย่งบอกเป็นความจริงหรือไม่หลิวซานซานถือถุงผักสด เนื้อสัตว์ และของสดใหม่สามสี่ถุงเข้าไปในคอนโด เมื่อใส่รหัสผ่านประตูแล้วเปิดเข้าไป เธอก็เห็นชายสองคนที่ไม่มีเสื้อผ้านั่งอยู่บนโซฟา“…”สุดท้ายชายคนหนึ่งก็พูดขึ้น “แม่ ถ้าผมบอกว่าเรากำลังออกกำลังกาย แม่จะเชื่อไหม?”หลิวซานซานขว้างไข่ไก่สดจำนวนหนึ่งไปที่ลูกชาย “เธอคิดว่าแม่จะเชื่อรึเปล่าล่ะ?!”ไข่กระจัดกระจาย ลูกชายร้องไห้ขอความเมตตา หลิวซานซานฟังลูกชายร้องไห้ระบายความอึดอัดใจ เรื่องการค้นพบตัวเองว่าเป็นเกย์ในช่วงวัยรุ่น และเล่าถึงความรักที่ทั้งคู่มีต่อกัน เธอค่อยๆ สงบลง ช่างเถอะ! เป็นแม่คนแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่15 เตรียมความพร้อมปราบวิญญาณร้าย

    เมื่อหย่งฟางกับหยูถังมาถึงโรงแรม หนิวลี่และซ่งเสี่ยวฮุ่ยก็นั่งอยู่ในบริเวณด้านล่าง หนิวลี่กำลังจับมือของซ่งเสี่ยวฮุ่ยและปลอบโยนให้คลายเศร้าหย่งฟางมองเห็นไอสีดำบนหน้าผากของซ่งเสี่ยวฮุ่ย เธอรีบทัก “ขึ้นไปคุยกันข้างบนดีกว่า”หนิวลี่จึงนำทุกคนขึ้นลิฟต์ ใช้บัตรเพื่อไปยังห้องหนึ่งบนชั้นสูงสุด เมื่อเข้าไปในห้องสิ่งแรกที่หย่งฟางทำคือวางแผ่นป้ายของเทพเจ้าไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และจัดเตรียมเครื่องหอมและเทียนที่นำมาให้เรียบร้อย“คุณเสี่ยวฮุ่ย มานี่สิ” หย่งฟางเอ่ยเรียกซ่งเสี่ยวฮุ่ยเดินเข้ามาใกล้ และหย่งฟางจุดธูปสามดอก แล้วหมุนวนรอบหน้าผากของเธอสามรอบ กลิ่นธูปทำให้หน้าผากคุณนายรู้สึกปวดตึง แต่ในขณะที่ธูปวนรอบที่สอง ความรู้สึกนั้นก็ถูกขจัดออกไปทันที ศีรษะของเธอรู้สึกโปร่งสบายและหน้าผากก็อบอุ่นขึ้นหย่งฟางวนธูปสามรอบแล้วจึงนำธูปออกไป เมื่อเห็นว่ามีไอสีดำบนหน้าผากของซ่งเสี่ยวฮุ่ยถูกขจัดออกไป จึงเสียบธูปกลับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่16 อดีตเจ้านาย

    ซ่งเสี่ยวฮุ่ยเห็นหย่งฟางยืนนิ่งอยู่หน้าประตู เธอจึงเอ่ยขึ้น "นี่คือห้องของลูกชายฉันค่ะ อาจารย์หย่งจะเข้าไปไหม?""เข้า" หย่งฟางพยักหน้าแล้วผลักประตูเข้าไปภายในห้องเป็นห้องของผู้ชายทั่วไป มีเตียงนอน หน้าต่างบานใหญ่ข้างๆ กับโซฟา โต๊ะเล็กๆ พรมปูพื้น ด้านขวามีอุปกรณ์เล่นเกม ส่วนข้างๆ เป็นห้องน้ำและห้องแต่งตัวไม่มีอะไรผิดปกติแม้แต่ในห้องนี้ ไอความอัปมงคลก็ยังลอยละล่องอยู่ ไม่ได้กระจายมาจากจุดใดจุดหนึ่ง ทำให้ไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากสิ่งใด แสดงว่าในบ้านไม่ได้มีสิ่งไม่ดีใดๆ ไอความอัปมงคลเหล่านี้ถู กนำเข้ามาจากภายนอก และยังคงค้างอยู่ในบ้านไม่ได้สลายไปไหนและห้องนี้เป็นห้องที่ไอดำสิงสถิต ดังนั้นมันจึงกระจายออกมาจากที่นี่ ในเมื่อเป็นแบบนี้ หย่งฟางก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องค้นห้อง เธอหันกลับไปและเตรียมจะออกไป แต่แล้วก็เห็นหนิวลี่ชี้ไปที่จุดหนึ่ง และหัวเราะเยาะซ่งเสี่ยวฮุ่ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่17 ภรรยาภาพวาด

    ยูโจวกงจิ่นยกส้นเท้าขึ้นหลบการโจมตีได้อย่างหวุดหวิด ต้วนโจวโกรธจัดถึงกับสบถออกมา พร้อมกับถามหย่งฟางว่าคิดจะทำอะไร หย่งฟางไม่ตอบ แต่ยังคงวิ่งไล่ยูโจวกงจิ่นด้วยดาบไม้ท้อ หวังจะฟันให้กลับคืนสู่ร่างเดิม ยูโจวกงจิ่นทั้งร้องไห้และปล่อยน้ำตารูปดาวการ์ตูนกระจายไปทั่วห้อง ในขณะเดียวกันก็วิ่งหนีไปด้วยห้องถูกปิดผนึกด้วยแผ่นยันต์ จึงหนีออกไปที่อื่นไม่ได้ ทำได้แค่วิ่งวนอยู่ในห้อง หย่งฟางวิ่งไล่ตามพร้อมดาบในมือ ราวกับตัวร้ายจากการ์ตูนที่กำลังรังแกนางเอก ต้วนโจวก็พยายามขัดขวางตลอดเวลา ดาบไม้ท้อฟันแก้วแตกและแทงทะลุหมอนความวุ่นวายทำให้ทุกอย่างพังพินาศเหล่าคุณนายมองน้ำตาของยูโจวกงจิ่น ที่กระจายไปทั่วห้องจนไม่กล้าเพิ่มปัญหาให้อีก ได้แต่นั่งขดตัวอยู่ที่ปลายเตียง มองดูการต่อสู้กับตัวการ์ตูนฉากนี้...เป็นการทลายความเชื่อเก่าๆ อย่างสิ้นเชิง หย่งฟางไล่ฟันไม่ถึงสิบรอบ ในที่สุดก็มีโอกาส เหยียดดาบออกพร้อมจะฟันลงไป“ต้วนโจวช่วยด้วย!!!&

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่18 อดีตแฟนเก่า

    “ฉันกำลังทำความดีลงโทษความชั่วอยู่ไม่ใช่เหรอ? ลูกชายของคุณทำร้ายความรู้สึกคนอื่นมากมายขนาดนี้ ไม่สมควรตายหรือไง?! แล้วไงล่ะ? มีลูกชายที่คบผู้หญิงแปดคนพร้อมกัน ภูมิใจมากใช่ไหม? นี่มันปี2024 แล้วนะ ยังมีแม่ที่คิดว่าลูกชายตัวเองเป็นสมบัติ ใครคบกับเขาก็ถือว่าโชคดี ช่างน่าสงสารจริงๆ ทั้งชีวิตต้องหมุนรอบลูกชายที่ไม่มีดีอะไรเลย เป็นโชคชะตาของคุณแล้วล่ะ"ซ่งเสี่ยวฮุ่ยโกรธจนหูร้อน หัวใจพลุ่งพล่าน รีบตอบโต้ทันที ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังทะเลาะกับผีผู้หญิง ทั้งสองด่ากันไปมา แต่ก็ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ หยูถิงและหนิวลี่ต่างไม่กล้าหายใจแรง ประหลาดใจที่ซ่งเสี่ยวฮุ่ยกล้าทะเลาะกับผีขณะนั้นต้วนโจวยังคงร้องไห้เพื่อภรรยาการ์ตูนของเขา ส่วนหย่งฟางมองไปที่ดาบไม้ที่หักอยู่ในมือ ถอนหายใจเฮือกใหญ่เก็บดาบสองท่อนใส่ถุงผ้า"ไม่เป็นไร ไว้ค่อยหาช่างฝีมือดีๆ มาซ่อมก็ได้" หย่งฟางนั่งลงบนเก้าอี้เกมมิ่งแล้วกล่าวเบาๆ "คุณเสี่ยวฮุ่ย พอเถอะ"หย่งฟางหันไปถามผีสาวที่นั่งกอดเข่าอยู่มุมห้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่19 อยู่สบายเกินไปแล้ว

    ซ่งเสี่ยวฮุ่ยรีบพยุงลูกชายขึ้นไปนอนบนเตียง ทันใดนั้น วิญญาณผีชุดดำและวิญญาณชุดขาวลอยผ่านหน้าต่างเข้ามา สามคุณนายสะดุ้งตกใจ แต่ผีทั้งสองไม่ได้สนใจพวกหล่อน พวกเขามองไปที่กองน้ำสีดำและหนอนสกปรกบนพื้น ก่อนจะชี้ไปที่เฉิงเสี่ยวอวี่และถามหย่งฟางว่า“หนอนสกปรกพวกนี้เกิดจากหล่อนหรือเปล่า?”“ไม่ใช่ค่ะ คนคนนี้แค่โชคร้าย ไม่รู้ไปโดนสิ่งสกปรกจากไหนมา ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องเลย” หย่งฟางตอบพร้อมรอยยิ้มจางๆ เธอตอบคำถามอย่างฉับไวโดยไม่ต้องคิดมากคุณนายทั้งสามได้แต่นิ่งเงียบ ซ่งเสี่ยวฮุ่ยก็ไม่กล้าพูดอะไร ท่านอาจารย์หย่งฟางบอกว่าไม่ใช่ ก็ต้องไม่ใช่แน่ๆ ลูกชายของเธอรอดกลับมาได้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว เธอยังต้องขอบคุณหย่งฟางอีกมากผีชุดดำและผีชุดขาวไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะพวกเขารู้จักหย่งฟางตั้งแต่เธออายุแปดขวบ ตอนที่เริ่มเรียนรู้วิชาอัญเชิญวิญญาณ แม้ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา พวกเขาจะเจอเธอเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ดูเหมือนว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่20 ออกเร่ดูดวง

    หย่งฟางรู้สึกตกใจอยู่บ้าง "แค่ล้มเล็กน้อย คิดว่าจะทำให้กลัวได้หรือไง!"หญิงสาวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วเดินเข้าห้องน้ำ คราวนี้เธอระมัดระวังตัวมาก เดินช้าๆ เพื่อไม่ให้ล้มหรือลื่นกระทันหัน บีบยาสีฟันก็ทำอย่างรอบคอบ ทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างพิถีพิถัน จนกระทั่งเช็ดหน้าเสร็จเรียบร้อย หย่งฟางจึงยิ้มอย่างมั่นใจเมื่อเห็นภาพตัวเองในกระจก‘บรรพบุรุษเก่งกาจอะไรกัน ก็แค่นั้นแหละ’ทันใดนั้นกริ่งที่ประตูก็ดังขึ้น หย่งฟางเดาว่าอาหารเช้าที่สั่งไว้คงมาถึงแล้ว จึงรีบไปเปิดประตู พนักงานบริการห้องพักยกถาดอาหารเข้ามาอย่างเรียบร้อย เมื่อเปิดฝาครอบ เห็นขนมไส้หมูที่ชอบจึงหยิบขึ้นมากัดทันที แต่แล้วก็รู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมภายในขนม เธอขมวดคิ้ว พนักงานรีบส่งกระดาษทิชชูให้ หย่งฟางคายสิ่งที่อยู่ในปากออกมาดู พบว่ามีเศษหินเล็กๆ ปนอยู่ในขนมพนักงานตกใจมาก “ขอโทษค่ะคุณหย่ง เราจะนำจานนี้ออกไป ดิฉันจะรายงานให้ผู้จัดการและทางครัวทราบทันที คุณลองทานอย่างอื่นก่อนนะคะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18

บทล่าสุด

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่85 ใครเคาะประตู (จบเล่ม2)

    หอพักหญิง อาคาร 3A หน้าห้อง 702หลังจากหญิงสาวในห้อง 701 บอกว่า “ห้อง 702 ไม่มีคนอยู่” คำพูดนั้นทำเอาสาวๆ จากห้อง 602 กรีดร้องด้วยความตกใจสุดขีด ถ้าห้อง 702 ไม่มีใครอยู่ แล้วเสียงฝีเท้าเหล่านั้นมาจากไหน?เสียงกรีดร้องทำลายความเงียบของค่ำคืน ไฟทางเดินที่ควบคุมด้วยเซ็นเซอร์เสียงสว่างวาบขึ้นทีละชั้น เสียงโลหะขูดพื้นดังมาจากชั้นล่าง คุณป้าผู้ดูแลหอพักเปิดประตูห้องพัก รีบมองจอมอนิเตอร์กล้องวงจรปิด แล้วกดลิฟต์ขึ้นมายังชั้น 7“เอะอะอะไรกัน! เสียงดังจนคนทั้งตึกได้ยิน!” เมื่อมาถึง คุณป้าผู้ดูแลตำหนิ ก่อนหันไปมองเด็กๆ “พวกเธอห้อง 602 ใช่ไหม? มาเดินเพ่นพ่านอะไรตอนนี้? ไม่รู้เหรอว่าห้ามออกจากห้องหลังไฟดับ?”หญิงสาวจากห้อง 701 รีบช่วยอธิบาย “พวกเธอบอกว่าได้ยินเสียงคนเดินในห้อง 702 เลยขึ้นมาดู...คุณป้า ห้อง 702 มีใครอยู่หรือเปล่าคะ?”คุณป้ามองพวกเธอด้วยสายตานิ่งเรียบ “ห้อง 702 ไม่มีคนอยู่มานานแล้ว”คำตอบนั้นทำให้สาวๆ จากห้อง 602 ใจหายวาบ หญิงสาวจากห้อง 701 เริ่มลังเลก่อนถามด้วยเสียงสั่น “ป้า... รุ่นพี่บอกว่าหอพักหญิงที่นี่มีผี เรื่องนั้นจริงหรือเปล่าคะ?”“พวกเธออย่าไปเชื่อเรื่องไร้สาระแบบนั้น” คุณป้

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่84 หอพักหญิง

    "รับคำทำนายก่อนเถอะ แล้วค่อยคุยกัน" หย่งฟางเอ่ยขึ้นพลางมองแถวคนที่ยืนรออยู่ด้านหลังมีผู้หญิงสี่คนเข้ามาถามคำทำนายทีละคน สองคนถามเรื่องการเรียน อีกสองคนถามเรื่องความรัก กุ่นกุ่นช่วยตอบคำทำนาย หย่งฟางไม่ได้พูดเสริมอะไร มีเพียงกระซิบเบาๆ "ทำนายได้ดีมาก จากนี้ลูกค้าอื่นๆ ให้คุณดูแลคนเดียวเลย ทำให้มั่นใจหน่อย อย่าพูดติดขัด ถ้าคิดว่าจะติดก็พูดคำสำคัญสั้นๆ ก็พอ"กุ่นกุ่นพยักหน้า เรื่องนี้เฒ่ากัวเคยสอนเขามาก่อนแล้ว แนะนำให้พูดแบบเว้นจังหวะบ้างเพื่อให้ดูเป็นปริศนาและน่าเกรงขาม จากนั้นหย่งฟางพาผู้หญิงสี่คนไปยังห้องน้ำชา ขอให้พวกเธอดื่มชากันคนละแก้ว"ฉันก็ไม่คิดว่าเราจะได้เป็นเพื่อนร่วมสถาบันกัน ฉันเพิ่งรู้ว่าพี่เรียนที่วิทยาลัยศิลปะถานจิง ตอนฉันเห็นภาพวาดกับชื่อพี่ในห้องแสดงผลงาน" ฉู่เสี่ยวเฉียวพูดขึ้นรูมเมตของเธอพยักหน้า "ใช่เลย หย่ง...อาจารย์" ผู้หญิงคนนั้นลังเลเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะเรียกหย่งฟางว่าอะไรดี"ทำไมเธอถึงไม่มีรูปอยู่ในชั้นวางศิษย์เก่าที่โดดเด่นล่ะ?"หย่งฟางยิ้มก่อนตอบ "เคยเห็นใครทำงานด้านศาสตร์ลึกลับ แล้วไปเป็นศิษย์เก่าที่โดดเด่นบ้างไหม?"คำพูดนั้นทำให้ผู้หญิงทั้งหมดหัวเราะออกมา ข

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่83 ไม่รู้หนังสืออีกคน!

    [สุดยอดไปเลย หย่งฟางไปหาลูกศิษย์มาจากที่ไหนนะ ทั้งหนิงหมี่และหลงหยวนหยวนเ หมาะจะไปเป็นไอดอลทั้งกลุ่มหญิงและชายได้เลย][หย่งฟางเปิดบริษัทจัดการบันเทิงไปเลยเถอะ]ในที่สุด #เสวียนเว่ยเอ็นเตอร์เทนเมนท์ (#บริษัทบันเทิงเสวียนเว่ย) ก็กลายเป็นคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับ #วัดเสวียนเว่ย (#ศาสตร์ลึกลับของหย่งฟาง)เหล่าชาวเน็ตช่วยกันแบ่งตำแหน่งให้เสร็จสรรพแล้ว[#บริษัทบันเทิงเสวียนเว่ยCEO: หย่งฟาง อันดับหนึ่งฝ่ายหญิง: หนิงหมี่ อันดับหนึ่งฝ่ายชาย: หลงหยวนหยวน][ส่วนอาจารย์อ้วน กับอีกสามคนก็เป็นผู้จัดการไปละกัน]เหล่าลูกศิษย์มนุษย์ที่คอยติดตามข่าวในโซเชียลเกี่ยวกับวัด: หือ?หยิบโทรศัพท์เก็บกลับไป มองดู ‘อันดับหนึ่งฝ่ายชาย’ และ ‘อันดับหนึ่งฝ่ายหญิง’ตอนนี้เป็นช่วงหกโมงเย็น หลังจากทานอาหารเสร็จ สองคนนี้ก็สู้กันตั้งแต่ฝั่งตะวันออกไปจนถึงฝั่งตะวันตก เพื่อแย่งควันธูปกัน นี่กลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ของอันดับหนึ่งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายที่ต้องทำทุกวันไปแล้วเพราะหย่งฟางแจกควันธูปอย่างเท่าเทียม ตอนแรกให้ทั้งคู่คนละสองแท่ง แต่หนิงหมี่ไม่พอใจ “ข้าทำงานตั้งขนาดนี้ ส่วนเขาไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมถึงได้เท่ากับข้า! ข้าไม่สน จ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่82 ได้ศิษย์เพิ่ม

    ณ จุดนี้ในวัดเสวียนเว่ยมีสมาชิกทั้งหมดแปดคนเจ้าของอาราม: หย่งฟางศิษย์: หนิงหมี่, เฒ่ากัว, ห่าวจาวไฉ, จินเหยาไต้ ,ไฉหยวนกุ่นกุ่นผู้พักชั่วคราว: วิญญาณลูกกลมสีเทาผู้ไม่ได้รับเชิญ: หลงหยวนหยวนทั้งแปดคนนี้ประกอบไปด้วยสิ่งมีชีวิตจากสี่ประเภท ได้แก่ คน เทพ วิญญาณ และปีศาจ"อาจารย์หย่ง คุณคิดจะเก็บสิ่งมีชีวิตทั้งหกไว้ที่นี่หรือ?" ห่าวจาวไฉโบกพัดกระดาษพร้อมถามหย่งฟางเผยยิ้มขมเล็กน้อย จะพูดอย่างไรดี? ตัวตนของหนิงหมี่กับหลงหยวนหยวนนั้น ไม่ใช่ว่าเธอเต็มใจรับเข้ามา คืนนี้พระจันทร์สีเงินส่องสว่างกลางท้องฟ้า หลังจากที่หย่งฟางไหว้เทพเจ้าวัดเสร็จ เธอก็เดินออกจากวิหารหลัก หนิงหมี่กับวิญญาณลูกบอลกลมสีเทา ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะเรียนในลาน กำลังตั้งใจเรียนวิชาภาษาชั้นประถมปีที่ 1 ที่ถ่ายทอดสด คราวนี้หย่งฟางเรียนรู้แล้ว เธอจึงหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าที่ตั้งค่าใหม่ให้พวกเขาใช้ขณะเดียวกัน หลงหยวนหยวนที่โดนสองสาวรังเกียจ นั่งอยู่ที่เก้าอี้ในสวนอีกฝั่ง เจ้าหนุ่มชุดดำไม่สนใจเลยที่ตนเองไม่ได้รับความชื่นชอบจากใคร แค่เอนตัวรับลมเย็นอย่างสบายใจ ด้านเฒ่ากัวกับคนอื่นๆ เตรียมไฟฉายและพร้อมจะลงจากภูเขากลับบ้าน"เดี

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่81 เสี่ยวหลงหวังจอมเจ้าเล่ห์

    "อย่างพี่สาวเหอ ฉันรู้สึกว่าเธอเป็นคนดีมากๆ ไม่เคยทำเรื่องไม่ดีเลย แถมครอบครัวก็ใจดี แม้ว่าเราจะพูดกันไม่นาน แต่ก็เริ่มรู้สึกอึดอัดอยู่เหมือนกัน แต่อย่างที่บอก พราะเธอเป็นคนดี ฉันก็ไม่แน่ใจว่าควรจะรู้สึกอึดอัดหรือไม่""ส่วนเรื่องจางยู่เฟ่ย ตั้งแต่ฉันมาที่โลกมนุษย์ ฉันก็เริ่มรู้แล้วว่ามีคนที่ไม่อยากทำอะไรด้วยตัวเอง หลายคนชอบหาทางลัด ถ้ามันเป็นทางที่ถูกต้องก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ค่อยเจอคนที่พยายามหาทางพึ่งพาคนอื่นแบบเธอ ทั้งที่เธอก็มีแขนขาครบ มีโอกาสมากมาย แต่กลับเหมือนมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง คิดแค่ว่าจะฝากชีวิตไว้กับผู้ชาย" หนิงหมี่พูดไปพร้อมกับทำท่าห่อไหล่เหมือนแมวน้อยที่กำลังครุ่นคิด"แต่พอคิดถึงเป่าฟู่กุ้ยและภรรยาของเขา ฉันก็รู้สึกว่าในโลกมนุษย์ก็ยังมีสิ่งดีๆ บ้างเหมือนกัน" หนิงหมี่พูดสรุปว่า "มนุษย์นี่ซับซ้อนจริงๆ ฉันไม่เข้าใจเลย"หลังจากที่ออกไปทำงานนอกสถานที่มาแค่สองวัน เทพธิดาน้อยก็ได้สัมผัสกับความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ พนักงานบนเครื่องบินเชิญพวกเธอไปยังห้องอาหาร หลังจากทานอาหารจนอิ่มหนำแล้ว หนิงหมี่ก็รู้สึกดีขึ้น"เป่าฟู่กุ้ยสุดยอดจริงๆ!" หนิงหมี่คิด "อย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องนอนขดตัวอ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่80 ใครรวยกว่ากัน

    ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจอนักพรตสาวตัวน้อย กลุ่มเฮ่ยไป่อู่ฉางก็รีบตื่นเต้นและวิ่งเข้าหาเธอ “หย่งน้อย เธอดูอ้วนขึ้นนะ!”“จะทักทายกันแบบสุภาพกว่านี้ไม่ได้หรือไงคะ?” หย่งฟางพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แสดงอารมณ์ยมทูตขาวผู้เป็นพี่สาว ยื่นมือไปหยิกแก้มเธอทันที “ฉันหมายถึงหน้าเธอดูมีเนื้อขึ้นนะ! เมื่อก่อนเธอผอมกว่านี้”หย่งฟางสะบัดมือของเธอออกเหมือนปัดแมลงวันยมทูตดำก็ทักขึ้นบ้าง “ถ้าจะให้สุภาพ ฉันก็ทำได้” จากนั้นเขาก็พูดต่อ “หย่งน้อย เราเสมือนญาติผู้ใหญ่เห็นเธอเติบโตมาตลอด เธอก็ไม่ได้มาเยี่ยมเราเลย เราคิดถึงเธอ…”ยมทูตขาวพูดเสริมทันที “…พวกเราอยากได้ธูปหอมบ้างน่ะ”นี่แหละคือวิธีทักทายของพวกเขา หย่งฟางไม่ได้พูดอะไร เธอแค่ย่อตัวลงเปิดกระเป๋าเดินทาง แล้วหยิบธูปสองดอกออกมาหนิงหมี่เบิกตากว้าง “นั่นมันของฉันนะ!!” พูดจบก็พยายามจะแย่ง แต่หย่งฟางก็หลบมือไปจุดไฟ แล้วส่งให้ยมทูตขาวดำทันที“แค่นิดเดียว อย่าไปหวงนักเลย เด็กเล็กก็แบบนี้แหละ ชอบหวงของ”ยมทูตขาวดำกินควันธูปอย่างพอใจจนตาหรี่ลงเป่าฟู่กุ้ยมองยมทูตทั้งสองที่กำลังเคลิบเคลิ้ม…พวกเขาไม่ได้มารับเมียเขาไปโลกหลังความตายเหรอ? แล้วทำไมมานั่งกินของฝากที่บ้า

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่79 ได้เวลาต้องไป

    เปาฟู่กุ้ยมองนักพรตสาวด้วยความงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามออกมาด้วยน้ำเสียงลังเล "ผม...ผมจะได้เจอเธอจริงๆ เหรอ? ภรรยาของผมไม่ได้...ไปอยู่ที่ยมโลกแล้วหรอกเหรอ?""ภรรยาของคุณน่าจะอยู่ข้างคุณตลอดเวลา เพียงแต่ช่วงนี้เธอคอยเฝ้าดูจางยู่เฟ่ยอยู่ เพราะสงสัยว่าคนคนนั้นจะทำอะไรแปลกๆ เราเลยไม่เห็นวิญญาณเธออยู่ในบ้านคุณตั้งแต่แรก" หนิงหมี่อธิบาย"ผม...ผมอยากเจอเธอ!" เปาฟู่กุ้ยพูดด้วยความรู้สึกสดใสขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับได้รับพลังชีวิต ใบหน้าของเขาดูเปล่งปลั่งทันที ทันใดนั้นก็นึกถึงสภาพตัวเอง จึงรีบลูบหนวดเคราที่เพิ่งงอกยาวและกล่าวออกไป "เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวผมต้องจัดการตัวเองก่อน ภรรยาผมไม่ชอบที่ผมดูสกปรกแบบนี้"หลังจากพูดจบ เปาฟู่กุ้ยลากตัวที่ดูอ้วนกลมขึ้นไปชั้นบน เพราะอาการบวมจากยาต้านซึมเศร้า เมื่อเขากลับลงมาอีกครั้ง หย่งฟางและหนิงหมี่ ก็ได้เห็นเปาฟู่กุ้ยในลุคใหม่ที่สะอาดสะอ้าน เขาโกนหนวดโกนเคราจนเกลี้ยงเกลา สระผมจนหอมสะอาด ใบหน้ากลมอวบอิ่มดูสดใสขึ้นทันที เขาใส่สูทสากลและเนคไทเรียบร้อย สวมรองเท้าหนังแม้หน้าตาของเขาจะไม่หล่อเหลามากนัก โดยเฉพาะส่วนแก้มที่อ้วนดูเหมือนผู้ชายธรรมดา แต่ในลุคนี้เขากลับดูอ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่78 คาถาสะท้อนกลับ

    หลังจากที่จางยู่เฟ่ยพ่นเลือดออกมา หมอกสีเทาที่วนเวียนอยู่ระหว่างคิ้วของเปาฟู่กุ้ย ก็พลันสลายหายไปทันที แม้ว่าจางยู่เฟ่ยจะมองไม่เห็นพลังงานลี้ลับเหล่านี้ แต่เธอกลับรู้สึกถึงบางสิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อท่านประธานทำตามคำแนะนำของสาวน้อยข้างกายเถ้าแก่เปาเปิดตาขึ้น ยกมือออกหู และมองเลขาอีกครั้งด้วยสายตาที่กลับมาสดใส ปราศจากอาการลุ่มหลงผิดปกติใดๆ จางยู่เฟ่ยตกใจ รีบควานหาบางสิ่งในกระเป๋าของตัวเอง แต่กลับพบว่ามันหายไป“หาอันนี้อยู่หรือเปล่า?” น้ำเสียงเย็นชาแฝงความเหนือชั้นดังมาจากหย่งฟางเมื่อจางยู่เฟ่ยหันไปมอง ก็พบว่ากระดาษยันต์สามเหลี่ยมในมือของหย่งฟาง ถูกฉีกเป็นสองส่วนอย่างเรียบร้อยหนิงมี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ยิ้มขำ ส่วนหญิงสาวในชุดขาวร่างโปร่งแสงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กับจางยู่เฟ่ย เธอยกนิ้วโป้งให้หนิงมี่ด้วยความชื่นชมใบหน้าของวิญญาณสาวผู้นี้ คือใบหน้าเดียวกันกับหญิงสาว ในภาพถ่ายที่พบในห้องใต้หลังคา ใช่แล้ว... ภรรยาของเปาฟู่กุ้ยยังไม่ได้ไปสู่สุคติ ช่วงนี้เธอสังเกตเห็นความผิดปกติของสามี และหลังจากจับตามองเลขาส่วนตัว ก็พบว่าคู่กรณีใช้คาถามาควบคุมใจสามีของเธอเธอก็พบว่านักพรตสาวจากสำนั

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่ 77 คาถาชิงรัก

    เมื่อวางสายไปใบหน้าของเถ้าแก่เปาแสดงอาการหลงใหล ราวกับถูกบางสิ่งควบคุม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและความคิดถึงอย่างท่วมท้น หย่งฟางรีบสวดคาถาเคลียร์จิตใจ ก่อนจะใช้นิ้วแตะเบาๆ ที่หน้าผากของเขา ความอ่อนโยนที่เคยแสดงบนใบหน้าของเปาฟู่กุ้ย หยุดชะงักราวกับถูกหยุดเวลา หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กลับมาเป็นปกติ แต่ยังคงมีท่าทางงุนงงหย่งฟางเปิดปากถาม "คนที่โทรหาคุณเมื่อกี้คือใคร?""คะ...คือ...เลขาของผม จางยู่เฟ่ย..." เปาฟู่กุ้ยมองหน้าหย่งฟางและหนิงหมี่ด้วยความสงสัย "มีอะไรเหรอครับ?" ดูเหมือนเขาจะไม่สามารถจำความรู้สึกอ่อนโยน และความรักใคร่ที่เคยมีเมื่อครู่ได้เลยหนิงหมี่หันไปมองอาจารย์และกระซิบเบาๆ "คาถาชิงรัก"หย่งฟางพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองเปาฟู่กุ้ย "ตอนที่คุณโชคร้ายก่อนหน้านี้ มักจะเกิดขึ้นหลังจากที่คุณคุยกับเลขาของคุณเสร็จใช่ไหม?"เปาฟู่กุ้ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มจำได้ "เหมือนจะใช่ แต่ว่าช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยเจอโชคร้ายแล้วนะ"หย่งฟางอธิบายด้วยน้ำเสียงเรียบ "เพราะช่วงนี้คุณไม่ได้ปฏิเสธคำขอของเธอเลย คาถาชิงรักคือการที่คุณถูกทำให้ตกหลุมรักคนที่ร่ายคาถานี้ ในตอนแรกคุณยังมีสติ คุณสาม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status