แชร์

บทที่13 การดูควันธูป

ผู้เขียน: เฉินม่านอิ๋ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-12 11:01:33

หลังจากที่ดูควันธูปให้คุณนายสี่คนติดต่อกัน หย่งฟางที่เพิ่งตื่นจากการนอนก็รู้สึกง่วงอีกครั้ง ตั้งแต่จำความได้เมื่อสิบปีก่อนก็มีคนมาน้อยมาก หลังจากนั้นก็ไม่มีอีกเลย ปกติเธอกับลุงก็มักจะจุดธูปเองและตีความควันกันเอง ไม่เคยลองดูให้คนเยอะขนาดนี้มาก่อน เลยเพิ่งรู้ว่าคำพูดของอาจารย์ใหญ่เป็นสูตรตายตัว

ใช่แล้ว ที่ว่า “คุณเป็นแขกคนที่…ในรอบสิบปี เทพเจ้าจำคุณได้ จะคอยปกป้องคุ้มครองคุณ” นั้นเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่แต่งเรื่องเพื่อให้คนรู้สึกสบายใจ หย่งฟางรู้สึกคล้ายกับว่าตัวเองเป็นฝ่ายบริการลูกค้าของเว็บขายของออนไลน์ เน้นพูดตามแพทเทิร์นก็ซื้อใจลูกค้าได้!

การพูดแบบนี้น่าจะดึงดูดใจลูกค้าได้มั้ง? หย่งฟางยังคงสงสัย เห็นได้ชัดว่าเธอยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก และไม่รู้ว่าในอนาคตจะทำให้เธอมีชื่อเสียงจากการทำนายจนคาดไม่ถึง

สุดท้ายคุณนายคนที่ห้าก็เข้ามาในห้อง

หย่งฟางพิจารณาควันธูป และพบว่ามีสองก้านที่ขาดจากกัน จึงกวาดตาไปที่ควันธูปของคุณนายสี่คนก่อนหน้านี้ และถามด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดี “คุณซ่งเสี่ยวฮุ่ย คุณขอพรอะไรไว้?”

คุณนายซ่งที่มักไปไหว้พระที่วัดชื่อดังหลายแห่ง ก็พอจะเข้าใจเรื่องนี้บ้าง รู้ว่าควันธูปขาดหมายถึงเรื่องไม่ดี ใบหน้าเริ่มซีดเผือด “ฉันขอให้ลูกชายของฉันปลอดภัย…”

หย่งฟางมองควันธูปที่ขาดและดับลง แล้วถามต่อ “ช่วงนี้ลูกชายคุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นหรือเปล่า”

“มี!” ซ่งเสี่ยวฮุ่ยตอบอย่างตื่นเต้น “แฟนของเขาเพิ่งเสียไปเมื่อเดือนที่แล้ว…”

“เสียชีวิต?”

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยพยักหน้า “หมอชันสูตรบอกว่าเธอกินเหล้าก่อนกินยาเซฟาโลสปอริน เลยทำให้เสียชีวิต” เมื่อเห็นหย่งฟาง นั่งเงียบไม่พูดอะไร คุณนายซ่งก็อดไม่ได้ที่จะพูดต่อ “ตั้งแต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ลูกชายของฉันกลับมาบ้านหลังจากเลิกงานเสมอ เขากลับมาดื่มที่บ้านทุกวัน ไม่พูดไม่จา สองทุ่มในทุกวันก็ขังตัวเองอยู่ในห้องนอน ฉันคิดว่าเขาคงเศร้ามาก มันน่าแปลกจริงๆ”

หย่งฟางถามสิ่งที่สงสัย “ทำไมถึงคิดว่าเขาแปลก? การที่มีคนรอบตัว…โดยเฉพาะแฟนเกิดเหตุแบบนี้ การที่เขาเศร้าในช่วงเวลาหนึ่ง มันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ”

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยหน้าเสียอ้อมแอ้มก่อนตอบ “เขามีแฟนมาแล้วแปดคน…” แม้ว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นัก ในการเปิดเผยเรื่องคนในครอบครัว แต่ก็เป็นความจริง…ไม่เคยเห็นลูกชายตัวเองเสียใจกับการเลิกราครั้งไหนทั้งสิ้น แม้ว่าครั้งนี้แฟนสาวจะเสียชีวิตแต่ก็ไม่คิดว่าลูกชายจะเปลี่ยนไปขนาดนี้

หย่งฟางถึงกับพูดไม่ออก “...”

เธอหยิบถังเซี่ยมซีออกมาและยื่นให้ “คิดถึงเรื่องลูกชายของคุณ แล้วเขย่าถังเซี่ยมซีจนกว่าไม้จะหล่นออกมา”

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยทำตาม หลังจากครึ่งนาทีไม้เซี่ยมซีหล่นลงมา ไม้ที่เจ็ดสิบสาม นับว่าเป็นไม้ที่ต่ำที่สุด ซึ่งคุณนายซ่งเข้าใจได้ทันที ทำให้ใบหน้าของเธอซีดเผือด 

หย่งฟางหลับตาและท่องคำทำนายในใจ ตัวอักษรแนวตั้งสี่บรรทัดที่มีสีดำลอยขึ้นมาในหัว

“หวนรำลึกถึงเมื่อก่อนเคยมีความสุข แต่บัดนี้กลับได้ยินข่าวร้าย หญิงที่มีใจมั่นคงเจอชายใจร้าย ในที่สุดคนก็รู้ว่าเรื่องนั้นไม่สมหวัง”

หญิงที่มีใจรักมั่นคง เจอชายใจร้าย…

หย่งฟางหยิบยันต์ป้องกันตัวออกมาจากใต้กระถางธูป คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหยิบยันต์ป้องกันภัยอีกแผ่น พับเป็นสามเหลี่ยมแล้วยื่นให้คุณนายซ่ง

“ให้ลูกชายคุณพกติดตัวไว้ตลอดเวลา ยกเว้นตอนอาบน้ำ แม้กระทั่งตอนนอนก็ต้องพกไว้ ถ้ายันต์เริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำให้ติดต่อฉันทันที”

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยพยักหน้าและรับไว้ด้วยความขอบคุณ

อาหารเช้าจากร้านเซวี่ยถูกส่งมาที่วัด คุณนายทั้งห้าใช้เวลามาพอสมควรแล้วถึงเวลากลับเสียที แต่เมื่อพวกหล่อนเห็นหย่งฟางกำลังกินอาหารเช้า จึงคิดว่าควรอยู่ต่ออีกสักพัก

หย่งฟางกัดคำหนึ่งในกำลังถูกชม “เซียนน้อยของเรากินเก่งจริงๆ ไม่เสียทีที่เคยเป็นดารา!”

“เซียนน้อยหย่งกินข้าวแล้วมีโชคลาภจริงๆ!”

หย่งฟางฉีกซาลาเปาที่มีน้ำมันอยู่ข้างใน แล้วก็ถูกชมอีก “ช่างฉลาดจริงๆ!”

เธอหยุดกินและพูด “ยังมีเรื่องอะไรอีกไหมคะ คุณนายทั้งห้า?”

เหล่าคุณนายยิ้มอย่างมีเลศนัย “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรเลย แค่อยากถามว่าอาจารย์สามารถมีครอบครัวได้ไหม พวกเราน่ะ…”

ทันใดนั้นคุณนายฉู่ก็รีบพากลุ่มสหายออกไปทันที ก่อนจะไปเธอก็พูดกับหย่งฟาง “เซียนน้อยหย่อง วันที่เริ่มซ่อมแซมวัด ฉันจะมาอีกครั้งนะ!”

หย่งฟางพยักหน้าเล็กน้อย

ในระหว่างทางลงจากภูเขา คุณนายทั้งหลายก็พูดด้วยความดีใจ

 “ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมหยูถังถึงมาภูเขาหลงหย่าอยู่บ่อยๆ เป็นฉันก็คงอยากมาบ่อยๆ เหมือนกัน ฉันชอบอาจารย์หย่งน้อยจริงๆ!”

มาแค่ครั้งเดียวก็ทำให้ใจรู้สึกอบอุ่น

“ใช่ ใช่!” คุณนายคนอื่นๆ เห็นด้วย

อาจารย์ก็ช่างใจดีขออะไรก็ให้ได้ และยังปลอบใจพวกหล่อนด้วยคำพูดทำให้เรารู้สึกดีขึ้น เหมือนกับว่าถูกปลอบโยนและเอาอกเอาใจ

“หยูถัง เธอนี่ใช่ไม่ได้เลย น่าจะพาเรามาตั้งนานแล้ว”

คุณนายฉู่ได้ยินดังนั้นก็เลียนแบบน้ำเสียงพวกหล่อน เอาสิ่งที่พวกนั้นเคยพูดมาเปรียบเทียบ “ใครกันที่เคยบอกว่า สถานที่ที่ยังไม่พัฒนาอาจจะอันตราย?”

คุณนายทั้งหลายหัวเราะเสียงดัง เสียงของพวกหล่อนก้องไปทั่ว ทำให้ใบไม้ของต้นไม้ใหญ่ที่เขียวชอุ่มสองข้างทางสั่นไหวไปตามลม

“ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้มาก่อนว่าภูมิทัศน์ของภูเขาหลงหย่าจะสวยงามขนาดนี้ แต่ไม่ช้าก็เร็ว สถานที่นี้จะได้รับการสนับสนุน จะมีคนมาเดินป่ามากขึ้น และอาจารย์หย่งก็จะมีแขกมาหามากมาย!” คุณนายฉู่พูดอย่างภูมิใจ

พวกหล่อนคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่มีเพียงซ่งเสี่ยวฮุ่ยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล

กลุ่มคุณนายทั้งหลายสังเกตเห็นจึงปลอบใจ “ไม่เป็นไรหรอก อาจารย์หย่งน้อยบอกแล้วใช่ไหมว่าพ่อของเธอไม่เป็นไร”

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยพยายามฝืนยิ้ม และยื่นมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อแจ็กเก็ตกีฬา ลูบยันต์สองแผ่นนั้น ตอนนี้เธอกังวลเรื่องอื่นแล้วนั่นก็คือลูกชายของเธอ ไหนๆ พวกเพื่อนๆ ก็พูดแล้วเลยถามด้วยความอยากรู้ “อาจารย์หย่งให้ยันต์พวกเธอบ้างไหม?”

คุณนายลี่ตอบว “ให้ฉันหนึ่งแผ่น ให้สามีฉันพกไว้”

“อ๋อ…”

คำตอบที่ได้รับทำให้รู้ว่าลูกชายของเธอเท่านั้นที่ได้ยันต์สองแผ่น ซ่งเสี่ยวฮุ่ยอดไม่ได้ที่จะกังวลเรื่องความร้ายแรงของสถานการณ์ 

สวี่อี้ฉินกล่าวคำอำลากับกลุ่มเพื่อนคุณนาย แล้วขับรถกลับบ้าน เมื่อมาถึงเธอมองดูบ้านที่ว่างเปล่า รอยยิ้มบนใบหน้าก็ค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยความเหงา เธอนั่งลงบนโซฟาด้วยความรู้สึกชาๆ ลูกสาวของเธอหลังจากสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จ ก็ไปเที่ยวต่างประเทศ ส่วนสามีก็ยังมีข้ออ้างเสมอในการเลี่ยงกลับบ้าน

ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อในตัวหย่งฟางและเทพเจ้า แต่เมื่อมองดูบ้านนี้แล้ว มันก็ทำให้รู้สึกเศร้าและคิดว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้ยังไง ความเหงาเย็นเยือกค่อยๆ แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ สวี่อี้ฉินเช็ดน้ำตาเงียบๆ และไปหยิบไวน์แดงแก้วหนึ่ง

อย่างไรก็ตามไวน์ยังไม่ทันได้ที่จนพร้อมดื่ม ประตูหน้าบ้านก็ถูกเคาะดังสนั่น สวี่อี้ฉินไปเปิดประตูและเห็นว่าสามีของเธอนอนอยู่บนเปลหาม ใบหน้ามีแต่รอยฟกช้ำ ทั้งศีรษะและคางถูกพันด้วยผ้าพันแผลสีขาว แขนถูกใส่เฝือก ขาก็ถูกดามไว้

 “พี่สะใภ้! พี่หยวนถูกผู้หญิงคนนั้นเรียกคนมารุมทำร้าย!”

 “...” คุณนายสวี่ถึงกับพูดไม่ออก

“หมอบอกว่าขาหัก อย่างน้อยสามเดือนจะลงจากเตียงไม่ได้ พี่สะใภ้คงต้องดูแลพี่หยวนไปก่อน พวกเรามีธุระต้องไปทำต่อ” ชายหลายคนพูดจบก็ทิ้งเปลหามแล้วเดินจากไป

ดังนั้นหลังจากที่เธอกลับบ้านมาได้ไม่ถึงสิบนาที สามีของเธอก็ถูกผู้หญิงคนหนึ่งนอกบ้าน เรียกคนมารุมทำร้ายจนขาหัก อย่างน้อยสามเดือนก็จะลงจากเตียงไม่ได้ นั่นหมายความว่า…เขาจะออกจากบ้านไม่ได้

ใครเล่าจะแม่นเท่าแม่หมอหย่ง!! 

แม่นขนาดนี้หากถูกทักเรื่องไม่ดีมีหน้าซีดนะ

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่14 คำทำนายเป็นจริง ลูกชายได้เจอรักแท้แล้ว

    นี่มัน...อาจารย์มีตาทิพย์จริงๆทางด้านหลิวซานซานหลังจากหย่งฟางทำนายว่าลูกชายของเธอได้พบกับรักแท้แล้ว ก็รู้สึกตื่นเต้นจึงไปซื้อวัตถุดิบเพื่อเตรียมทำอาหารไปให้ลูกชายที่คอนโดหรู เพราะต้องการสอบถามว่าเรื่องที่อาจารย์หย่งบอกเป็นความจริงหรือไม่หลิวซานซานถือถุงผักสด เนื้อสัตว์ และของสดใหม่สามสี่ถุงเข้าไปในคอนโด เมื่อใส่รหัสผ่านประตูแล้วเปิดเข้าไป เธอก็เห็นชายสองคนที่ไม่มีเสื้อผ้านั่งอยู่บนโซฟา“…”สุดท้ายชายคนหนึ่งก็พูดขึ้น “แม่ ถ้าผมบอกว่าเรากำลังออกกำลังกาย แม่จะเชื่อไหม?”หลิวซานซานขว้างไข่ไก่สดจำนวนหนึ่งไปที่ลูกชาย “เธอคิดว่าแม่จะเชื่อรึเปล่าล่ะ?!”ไข่กระจัดกระจาย ลูกชายร้องไห้ขอความเมตตา หลิวซานซานฟังลูกชายร้องไห้ระบายความอึดอัดใจ เรื่องการค้นพบตัวเองว่าเป็นเกย์ในช่วงวัยรุ่น และเล่าถึงความรักที่ทั้งคู่มีต่อกัน เธอค่อยๆ สงบลง ช่างเถอะ! เป็นแม่คนแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่15 เตรียมความพร้อมปราบวิญญาณร้าย

    เมื่อหย่งฟางกับหยูถังมาถึงโรงแรม หนิวลี่และซ่งเสี่ยวฮุ่ยก็นั่งอยู่ในบริเวณด้านล่าง หนิวลี่กำลังจับมือของซ่งเสี่ยวฮุ่ยและปลอบโยนให้คลายเศร้าหย่งฟางมองเห็นไอสีดำบนหน้าผากของซ่งเสี่ยวฮุ่ย เธอรีบทัก “ขึ้นไปคุยกันข้างบนดีกว่า”หนิวลี่จึงนำทุกคนขึ้นลิฟต์ ใช้บัตรเพื่อไปยังห้องหนึ่งบนชั้นสูงสุด เมื่อเข้าไปในห้องสิ่งแรกที่หย่งฟางทำคือวางแผ่นป้ายของเทพเจ้าไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และจัดเตรียมเครื่องหอมและเทียนที่นำมาให้เรียบร้อย“คุณเสี่ยวฮุ่ย มานี่สิ” หย่งฟางเอ่ยเรียกซ่งเสี่ยวฮุ่ยเดินเข้ามาใกล้ และหย่งฟางจุดธูปสามดอก แล้วหมุนวนรอบหน้าผากของเธอสามรอบ กลิ่นธูปทำให้หน้าผากคุณนายรู้สึกปวดตึง แต่ในขณะที่ธูปวนรอบที่สอง ความรู้สึกนั้นก็ถูกขจัดออกไปทันที ศีรษะของเธอรู้สึกโปร่งสบายและหน้าผากก็อบอุ่นขึ้นหย่งฟางวนธูปสามรอบแล้วจึงนำธูปออกไป เมื่อเห็นว่ามีไอสีดำบนหน้าผากของซ่งเสี่ยวฮุ่ยถูกขจัดออกไป จึงเสียบธูปกลับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่16 อดีตเจ้านาย

    ซ่งเสี่ยวฮุ่ยเห็นหย่งฟางยืนนิ่งอยู่หน้าประตู เธอจึงเอ่ยขึ้น "นี่คือห้องของลูกชายฉันค่ะ อาจารย์หย่งจะเข้าไปไหม?""เข้า" หย่งฟางพยักหน้าแล้วผลักประตูเข้าไปภายในห้องเป็นห้องของผู้ชายทั่วไป มีเตียงนอน หน้าต่างบานใหญ่ข้างๆ กับโซฟา โต๊ะเล็กๆ พรมปูพื้น ด้านขวามีอุปกรณ์เล่นเกม ส่วนข้างๆ เป็นห้องน้ำและห้องแต่งตัวไม่มีอะไรผิดปกติแม้แต่ในห้องนี้ ไอความอัปมงคลก็ยังลอยละล่องอยู่ ไม่ได้กระจายมาจากจุดใดจุดหนึ่ง ทำให้ไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากสิ่งใด แสดงว่าในบ้านไม่ได้มีสิ่งไม่ดีใดๆ ไอความอัปมงคลเหล่านี้ถู กนำเข้ามาจากภายนอก และยังคงค้างอยู่ในบ้านไม่ได้สลายไปไหนและห้องนี้เป็นห้องที่ไอดำสิงสถิต ดังนั้นมันจึงกระจายออกมาจากที่นี่ ในเมื่อเป็นแบบนี้ หย่งฟางก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องค้นห้อง เธอหันกลับไปและเตรียมจะออกไป แต่แล้วก็เห็นหนิวลี่ชี้ไปที่จุดหนึ่ง และหัวเราะเยาะซ่งเสี่ยวฮุ่ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่17 ภรรยาภาพวาด

    ยูโจวกงจิ่นยกส้นเท้าขึ้นหลบการโจมตีได้อย่างหวุดหวิด ต้วนโจวโกรธจัดถึงกับสบถออกมา พร้อมกับถามหย่งฟางว่าคิดจะทำอะไร หย่งฟางไม่ตอบ แต่ยังคงวิ่งไล่ยูโจวกงจิ่นด้วยดาบไม้ท้อ หวังจะฟันให้กลับคืนสู่ร่างเดิม ยูโจวกงจิ่นทั้งร้องไห้และปล่อยน้ำตารูปดาวการ์ตูนกระจายไปทั่วห้อง ในขณะเดียวกันก็วิ่งหนีไปด้วยห้องถูกปิดผนึกด้วยแผ่นยันต์ จึงหนีออกไปที่อื่นไม่ได้ ทำได้แค่วิ่งวนอยู่ในห้อง หย่งฟางวิ่งไล่ตามพร้อมดาบในมือ ราวกับตัวร้ายจากการ์ตูนที่กำลังรังแกนางเอก ต้วนโจวก็พยายามขัดขวางตลอดเวลา ดาบไม้ท้อฟันแก้วแตกและแทงทะลุหมอนความวุ่นวายทำให้ทุกอย่างพังพินาศเหล่าคุณนายมองน้ำตาของยูโจวกงจิ่น ที่กระจายไปทั่วห้องจนไม่กล้าเพิ่มปัญหาให้อีก ได้แต่นั่งขดตัวอยู่ที่ปลายเตียง มองดูการต่อสู้กับตัวการ์ตูนฉากนี้...เป็นการทลายความเชื่อเก่าๆ อย่างสิ้นเชิง หย่งฟางไล่ฟันไม่ถึงสิบรอบ ในที่สุดก็มีโอกาส เหยียดดาบออกพร้อมจะฟันลงไป“ต้วนโจวช่วยด้วย!!!&

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่18 อดีตแฟนเก่า

    “ฉันกำลังทำความดีลงโทษความชั่วอยู่ไม่ใช่เหรอ? ลูกชายของคุณทำร้ายความรู้สึกคนอื่นมากมายขนาดนี้ ไม่สมควรตายหรือไง?! แล้วไงล่ะ? มีลูกชายที่คบผู้หญิงแปดคนพร้อมกัน ภูมิใจมากใช่ไหม? นี่มันปี2024 แล้วนะ ยังมีแม่ที่คิดว่าลูกชายตัวเองเป็นสมบัติ ใครคบกับเขาก็ถือว่าโชคดี ช่างน่าสงสารจริงๆ ทั้งชีวิตต้องหมุนรอบลูกชายที่ไม่มีดีอะไรเลย เป็นโชคชะตาของคุณแล้วล่ะ"ซ่งเสี่ยวฮุ่ยโกรธจนหูร้อน หัวใจพลุ่งพล่าน รีบตอบโต้ทันที ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังทะเลาะกับผีผู้หญิง ทั้งสองด่ากันไปมา แต่ก็ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ หยูถิงและหนิวลี่ต่างไม่กล้าหายใจแรง ประหลาดใจที่ซ่งเสี่ยวฮุ่ยกล้าทะเลาะกับผีขณะนั้นต้วนโจวยังคงร้องไห้เพื่อภรรยาการ์ตูนของเขา ส่วนหย่งฟางมองไปที่ดาบไม้ที่หักอยู่ในมือ ถอนหายใจเฮือกใหญ่เก็บดาบสองท่อนใส่ถุงผ้า"ไม่เป็นไร ไว้ค่อยหาช่างฝีมือดีๆ มาซ่อมก็ได้" หย่งฟางนั่งลงบนเก้าอี้เกมมิ่งแล้วกล่าวเบาๆ "คุณเสี่ยวฮุ่ย พอเถอะ"หย่งฟางหันไปถามผีสาวที่นั่งกอดเข่าอยู่มุมห้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่19 อยู่สบายเกินไปแล้ว

    ซ่งเสี่ยวฮุ่ยรีบพยุงลูกชายขึ้นไปนอนบนเตียง ทันใดนั้น วิญญาณผีชุดดำและวิญญาณชุดขาวลอยผ่านหน้าต่างเข้ามา สามคุณนายสะดุ้งตกใจ แต่ผีทั้งสองไม่ได้สนใจพวกหล่อน พวกเขามองไปที่กองน้ำสีดำและหนอนสกปรกบนพื้น ก่อนจะชี้ไปที่เฉิงเสี่ยวอวี่และถามหย่งฟางว่า“หนอนสกปรกพวกนี้เกิดจากหล่อนหรือเปล่า?”“ไม่ใช่ค่ะ คนคนนี้แค่โชคร้าย ไม่รู้ไปโดนสิ่งสกปรกจากไหนมา ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องเลย” หย่งฟางตอบพร้อมรอยยิ้มจางๆ เธอตอบคำถามอย่างฉับไวโดยไม่ต้องคิดมากคุณนายทั้งสามได้แต่นิ่งเงียบ ซ่งเสี่ยวฮุ่ยก็ไม่กล้าพูดอะไร ท่านอาจารย์หย่งฟางบอกว่าไม่ใช่ ก็ต้องไม่ใช่แน่ๆ ลูกชายของเธอรอดกลับมาได้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว เธอยังต้องขอบคุณหย่งฟางอีกมากผีชุดดำและผีชุดขาวไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะพวกเขารู้จักหย่งฟางตั้งแต่เธออายุแปดขวบ ตอนที่เริ่มเรียนรู้วิชาอัญเชิญวิญญาณ แม้ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา พวกเขาจะเจอเธอเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ดูเหมือนว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่20 ออกเร่ดูดวง

    หย่งฟางรู้สึกตกใจอยู่บ้าง "แค่ล้มเล็กน้อย คิดว่าจะทำให้กลัวได้หรือไง!"หญิงสาวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วเดินเข้าห้องน้ำ คราวนี้เธอระมัดระวังตัวมาก เดินช้าๆ เพื่อไม่ให้ล้มหรือลื่นกระทันหัน บีบยาสีฟันก็ทำอย่างรอบคอบ ทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างพิถีพิถัน จนกระทั่งเช็ดหน้าเสร็จเรียบร้อย หย่งฟางจึงยิ้มอย่างมั่นใจเมื่อเห็นภาพตัวเองในกระจก‘บรรพบุรุษเก่งกาจอะไรกัน ก็แค่นั้นแหละ’ทันใดนั้นกริ่งที่ประตูก็ดังขึ้น หย่งฟางเดาว่าอาหารเช้าที่สั่งไว้คงมาถึงแล้ว จึงรีบไปเปิดประตู พนักงานบริการห้องพักยกถาดอาหารเข้ามาอย่างเรียบร้อย เมื่อเปิดฝาครอบ เห็นขนมไส้หมูที่ชอบจึงหยิบขึ้นมากัดทันที แต่แล้วก็รู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมภายในขนม เธอขมวดคิ้ว พนักงานรีบส่งกระดาษทิชชูให้ หย่งฟางคายสิ่งที่อยู่ในปากออกมาดู พบว่ามีเศษหินเล็กๆ ปนอยู่ในขนมพนักงานตกใจมาก “ขอโทษค่ะคุณหย่ง เราจะนำจานนี้ออกไป ดิฉันจะรายงานให้ผู้จัดการและทางครัวทราบทันที คุณลองทานอย่างอื่นก่อนนะคะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่ 21 เงินเดิมพันห้าพันหยวน

    แต่สิ่งที่ไม่เคยรู้คือ ทุกครั้งที่เพื่อนของเธอพาสุนัขไปเดินเล่น ไม่เคยเก็บอุจจาระของมันเลย หล่อนรำคาญขนสุนัขที่ร่วงเต็มบ้าน จนต้องคอยทำความสะอาดอยู่เสมอ และยังเกลียดเสียงเห่าของมันอีกด้วย โอ้ และครั้งหนึ่งเคยหัวเราะเยาะสุนัขต่อหน้าเพื่อน บอกว่ามันก็แค่สุนัขพันธุ์ทาง นอกจากนี้ สุนัขยังทำลายชุดเครื่องสำอางจนเสียหาย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่หล่อนตัดสินใจขายมันทิ้ง แต่กลับโกหกว่าสุนัขวิ่งหนีไปเองหญิงสาวฟังแล้วนิ่งอึ้ง เพราะทุกอย่างที่ได้ยินเป็นความจริง เพื่อนของเธอทำงานด้านสื่อออนไลน์ มักจะอยู่บ้านในช่วงกลางวัน และเป็นคนทำความสะอาดบ้านเอง ตอนที่รับเสวี่ยเหมยเนียงมาเลี้ยงใหม่ๆ หล่อนเคยหัวเราะเยาะมันว่าเป็นแค่หมาพันธุ์ธรรมดาเช่นกัน แต่เมื่อได้ยินหย่งฟางพูดถึงเรื่องเครื่องสำอาง หญิงสาวถึงกับตกตะลึง "คุณรู้ได้ยังไง..."ตอนที่หล่อนเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง คุยกันผ่านวีแชท ในตอนนั้นเพื่อนของเธอกำลังทำงานอยู่ แม้เธอจะรีบขอโทษ แต่เพื่อนก็ไม่ได้แสดงอาการโกรธ พูดแค่เพียง "ไม่เป็นไรๆ" สุดท้ายเธอก็ชดเชยค่าเครื่องสำอางให้และพาไปเลี้ยง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19

บทล่าสุด

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่ 37 ชวนทำงาน

    ในตอนนี้แฮชแท็ก#หย่งฟางศาสตร์ลี้ลับ แฟนคลับและแอนตี้ต่างพากันเข้ามาแบ่งปันประสบการณ์ เกี่ยวกับศาสตร์ลี้ลับของหย่งฟางกันอย่างคึกคัก[หย่งฟางดูดีจริงๆ เสียดายจังที่เธอออกจากวงการไปแล้ว][หย่งฟางทำนายดวงได้แม่นมาก บอกสถานการณ์ตอนนี้ของฉันได้ตรงเป๊ะ คำแนะนำที่ให้มาก็ชัดเจนและมีเหตุผล][ไปวัดมาครึ่งวัน พอกลับถึงบ้านก็รู้สึกว่าวัดนี้ก็เหมือนวัดทั่วไปนะ ไม่ได้ลี้ลับเท่าไหร่ แต่ขอพรและรับยันต์มาแล้ว ลองรอดูผลก่อน แล้วจะมาเล่าให้ฟัง][กรี๊ดดด ดีใจมากที่ได้เจอหย่งฟาง][คนที่ไปช่วงบ่ายบอกว่า 55555 อดเจอหย่งฟางเพราะเธอมีธุระออกไป น่าอิจฉาคนที่ไปเช้าจริงๆ]@ยูซึฟองสบู่รีโพสต์:[ฉันก็ไปช่วงบ่ายเหมือนกันนะ แต่เจอหย่งฟางพอดี เธอกลับมาราวห้าโมง พวกเรารออยู่สิบกว่าคนก็ถือว่าคุ้มค่าเลย เธอน่ารักใจดีมาก แจกยันต์ให้ฟรี และยังบอกให

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่ 36 ทดลองงาน

    หลังจากทุกคนออกจากบ้านตระกูลลี้ ท้องฟ้ายามบ่ายสี่โมงยังคงร้อนอบอ้าวตามบรรยากาศฤดูร้อน หย่งฟางวางแผนจะนั่งรถเมล์กลับไปแถวภูเขาหลงหย่า แล้วค่อยเดินขึ้นเขาเองเพื่อไม่เป็นการรบกวนคุณนายฉู่ระหว่างที่เธอกำลังจะพูดออกมา เพื่อนในกลุ่มที่สวมแว่นกันแดดทรงกลมก็ถามขึ้น “อาจารย์หย่ง คุณจะกลับไปที่วัดใช่ไหม?”หย่งฟางพยักหน้าเล็กน้อย มองเขาอย่างสงสัย เพื่อนที่ใส่แว่นกันแดดยิ้มอย่างเข้าใจ ก่อนจะกางพัดในมือออก “ฉันแซ่ห่าว ชื่อห่าวจาวไฉ”จากนั้นคนอื่นๆ ก็แนะนำตัวตามมาชายในชุดคลุมสีเทาที่หลวมเล็กน้อยเหมือนจี้กง กำลังจัดเข็มขัดทองที่สีเริ่มหลุด “ฉันแซ่หว่าน ชื่อหว่านเจี้ยนเฉวียน ทุกคนเรียกว่าจินเหยาไต้ที่แปลว่าเข็มขัดทอง”ชายรูปร่างกลมเหมือนแพนด้า แม้แต่รอยคล้ำใต้ตาก็ดูกลมเช่นกัน “ไฉหยวนกุ่นกุ่น เรียกผมว่ากุ่นกุ่นก็พอ”อีกสองคน หย่งฟางก็พอจำชื่อเล่นได้ คนหนึ่ง

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่ 35 เงินปลอมทำให้ผีเป็นทุกข์!

    เฒ่ากัวมองเพื่อนในกลุ่มที่ได้รับข้อความในแชทกลุ่ม แล้วทำสัญญาณให้รอจนกว่าหย่งฟางจะมาถึง เพื่อนในกลุ่มพยักหน้าเข้าใจ และเริ่มสนทนาเกี่ยวกับการจัดวางฮวงจุ้ยของบ้านเพื่อฆ่าเวลาไปก่อน เฒ่ากัวขับรถมินิคูเปอร์คันโปรดออกไป เร่งเครื่องมุ่งหน้าไปยังเขาหลงหย่าเมื่อถึงจุดหมายเขาเบรกกระทันหัน ปิดเครื่องยนต์แล้วดึงกุญแจรถออก ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นเขาไป แม้รูปร่างของเขาจะดูอ้วน แต่ก็สามารถปีนขึ้นเขาได้อย่างรวดเร็ว และคล่องตัวราวกับนก เมื่อถึงหน้าประตูวัดเสวียนเว่ย เฒ่ากัวหยุดหายใจ สบตากับป้ายแล้วเดินเข้าไป ทันทีที่หยู่ถังเห็นชายผู้มีลักษณะคล้ายนักบวชเดินเข้ามาเธอแทบตกใจ"หย่งฟาง ฉันต้องทำอย่างไรบ้าง?" เฒ่ากัวถามด้วยความรีบร้อนหย่งฟางหยิบหนังสือที่มีคำอธิบายการทำนายขึ้นมา "คุณรู้จักการทำนายไหม?"เฒ่ากัวพยักหน้า "ถ้ามีหนังสือก็ไม่มีปัญหา""ก็แค่ให้ผู้ที่มาไหว้เทียนจุดธูป และให้คำทำนายไปตามความต้องการ แต่ไม่ต้องให้พวกเขาทำนายกันเอง" หย่งฟางพูดอย

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่34 แก้ไขไม่ได้

    จนมาถึงวันเกิดของคนที่เกิดในเดือนธันวาคม ก็ผ่านช่วงเช้าไปหลายชั่วโมงแล้ว หย่งฟางสูดหายใจลึก พยายามอดทนต่อไปล่วงเลยมาถึงบ่ายโมง ผู้คนค่อยๆ หายไป เทุกคนเริ่มหิวโซและลงไปกินข้าวกันหมด ร้านอาหารรอบๆ ภูเขาหลงหย่าก็มีรายได้พุ่งสูงขึ้นตามไปด้วยผลกระทบจากการเป็นอดีตดารามันไม่ใช่เรื่องเล็ก หย่งฟางรู้ดีว่ามันไม่ใช่เพราะเธอดังขนาดนั้น จนแม้จะออกจากวงการแล้วก็ยังมีคนจำได้ ในช่วงที่ยังอยู่ในวงการ ก็ไม่เคยมีใครมารุมกันที่สนามบินขนาดนี้เลย ตอนที่เปิดประตูในตอนเช้ามีคนมารอเป็นร้อย แต่หลังจากนั้นก็ยังมีคนทยอยมาทีละคน ความสนใจในอาชีพใหม่ของหย่งฟางมันมากเหลือเกิน ยิ่งวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วยผู้คนแห่กันมาจนแน่นขนัด หย่งฟางนอนแผ่อยู่บนเก้าอี้แขนขาเริ่มหย่อนลงข้างตัว เธอหิวเหมือนกันแต่ไม่เหลือแรงแล้ว แม้แต่จะเปิดอินเทอร์เน็ตไปดูว่า ทำไมถึงมีคนรู้จักที่ตั้งของวัดเสวียนเว่ยของเธอมากขนาดนี้ ก็ยังหมดแรงจะหยิบมือถือขึ้นมาดูช่างมันเถอะ! เธอไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย แล้วจะต้องกลัวอะไรล่ะ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่ 33 จุดธูปยังต้องจำกัดจำนวน

    เมื่อกระแสแฮชแท็กในโซเชียลทำให้วัดเสวียนเว่ยในเมืองถานจิงเริ่มบูม คนส่วนใหญ่เริ่มแห่กันไปค้นหาข้อมูลในแผนที่และออนไลน์ แต่ยังคงไม่มีข้อมูลมากนัก ทำให้มีการคาดเดาต่างๆ นานา แล้วทันใดนั้น ก็มีคนหนึ่งคิดออกว่า การค้นหาข้อมูลของหย่งฟางผ่านเว็บไซต์สมาคมเทียนซืออาจจะเป็นคำตอบที่ใช่! เมื่อค้นหาไปก็พบข้อมูลของหย่งฟางจริงๆ พร้อมภาพถ่ายติดบัตร ที่ทำให้หลายคนตื่นเต้นและประหลาดใจภาพหน้าบัตรของหย่งฟางที่อายุประมาณ 18-19 ปี แสดงให้เห็นใบหน้าอ่อนเยาว์ของเธอ และข้อมูลในเว็บไซต์ระบุว่าวัดที่เธอประจำอยู่คือ "วัดเสวียนเว่ย" บนภูเขาหลงหย่า เนื่องจากแทบไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับวัดนี้บนโลกออนไลน์ ดังนั้นจึงมีความลึกลับยิ่งทำให้ผู้คนต่างอยากรู้อยากเห็นมากกว่าเดิมข่าวลือเรื่องการกลับมาของหย่งฟาง ในฐานะนักพรตหญิงแพร่สะพัดอย่างรวดเร็ว มีทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อ หลายคนพากันตั้งข้อสงสัย ผู้คนจึงอยากค้นหาและพิสูจน์ด้วยตัวเอง ว่าศาสตร์ลึกลับของหย่งฟางนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่จนกระทั่งกระแสนี้เริ่มไ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่ 32 ทำพิธีให้คุณรวยทันใจ (เล่ม2)

    หย่งฟางผลักประตูเข้าไป ก่อนจะก้มลงยกกล่องวางไว้ข้างใน “ไม่มีเวลา ถ้าคุณย่าของคุณจะมาจุดธูป แก้บน ดูดวง ก็เชิญมาเองได้เลย วัดเปิดเจ็ดโมงเช้าของทุกวัน”เธออดนึกไม่ถึงว่าต้องลำบากเพราะเขา จ่ายเงินซื้อธูปไปสิบดอกก็แล้ว ยังต้องยกของเข้ามาเองอีก ชายคนนั้นยิ้มแหยๆ เดินตามเข้ามาในศาลา“คุณย่าผมอยากมาไหว้ที่วัดด้วยตัวเอง ครอบครัวเลยอยากจัดงานเลี้ยงพบปะกัน และถือโอกาสมาคุยกับคุณเรื่องนี้ด้วย อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันขึ้น 15 ค่ำ อยากถามว่าคุณพอจะปิดวัด ไม่รับคนอื่นในวันนั้นได้ไหม?”หย่งฟางที่กำลังจะเดินกลับไปยกของรอบที่ห้าชะงักไป แล้วหันมามอง “คุณหมายความว่า ย่าของคุณจะเหมาวัดเหรอ?”“ถ้าคิดแบบนั้นก็ได้” ชายหนุ่มตอบ “แค่วันขึ้น 15 ค่ำวันเดียว แต่เดือนหน้าอาจจะต้องขอปิดอีก ในวันขึ้น 1 ค่ำและ 15 ค่ำ ให้รับแค่คุณย่าผมเท่านั้น”หยู่ถังกับหนิวลี่สบตากันเงียบ ๆ วันขึ้น 1 ค่ำและ 15

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่31 คนตระกูลสือ

    ไม่นานมานี้ในเมืองถานจิงเกิดเรื่องแปลกขึ้น ร้านค้าแบรนด์หรูกลับเงียบเหงา ร้านสปาก็ไม่มีคนเข้า ส่วนร้านกาแฟเล็กๆ ก็ขายไม่ดีนัก ตรงข้ามกับบริเวณเชิงเขาหลงหย่า ที่ผู้คนหลั่งไหลเข้าไปอย่างคึกคัก รถหรูเรียงรายจนล้นถนน คุณนายร่ำรวยต่างมาทำบุญกันเป็นกลุ่มต่อเนื่องถึงเจ็ดวัน ส่งผลให้วัดเสวียนเว่ยคึกคักไปด้วยทั้งเจ้าของร้านและลูกค้าใหม่ๆถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สดใส หย่งฟางและท่านอาจารย์ไม่ได้โลภมาก ลูกค้าที่มาทำบุญต่างแวะเวียนกันมาอย่างต่อเนื่อง บ้างก็ขอพร บ้างก็มาขอให้ความฝันเป็นจริง และคุณนายที่มากันเป็นกลุ่มใหญ่ จะปักหลักอยู่ในวัดตลอดทั้งวัน หากใครอยากให้หย่งฟางดูดวงเธอก็ยินดี แต่ถ้าใครไม่ต้องการ เธอก็จะนั่งพูดคุยกับเทพเจ้าแทน หรือระบายความในใจไปเรื่อยๆท่านอาจารย์ในฝันสั่งให้หย่งฟางซื้อเก้าอี้เพิ่มอีกสิบกว่าตัว เพื่อให้เหล่าคุณนายได้นั่งพักผ่อน พร้อมทั้งจัดโต๊ะชาและนำของที่ถวายแล้วมาให้พวกเธอได้กินเล่นขณะพูดคุยกัน ในตอนแรกเหล่าคุณนายลังเล “นี่...กินของถวายมันจะไม่ดีหรือ?”

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่30 อนาคตเจ้าของวัดที่ร่ำรวย

    หย่งฟางใช้เวลาทั้งวันทำนายดวงและดูแลแขกที่เข้ามาในวัดเสวียนเว่ยอย่างไม่หยุดพัก ขนาดน้ำสักหยดยังไม่ได้ดื่ม เครื่องหอมและเทียนที่เตรียมไว้เริ่มร่อยหรอจนเหลือเพียงหนึ่งในสาม ท่ามกลางความคึกคักนี้ เทพเจ้าประจำอารามดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ทำนายว่าทุกคนจะได้รับพร ยกเว้นเพียงบางคน รวมถึงคุณนายฉู่ ธูปของพวกเขาถูกทำนายอย่างเย็นชาา "ทำความดีเยอะ ๆ หน่อย"ไม่มีคำอวยพรหรือความสมหวังเหมือนคนอื่น ๆตลอดทั้งวันหย่งฟางแจกยันต์ตามความเหมาะสมกับแขกผู้มาเยือน เมื่อปิดประตูวัดตอนเย็น กลิ่นธูปยังอบอวลไปทั่วโบสถ์ หากท่านอาจารย์ยังอยู่ คงจะยิ้มไม่หุบที่เห็นบรรยากาศเช่นนี้ แต่แม้จะไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร หย่งฟางเริ่มรู้สึกว่างานในวันนี้มีอย่างบางผิดพลาด...ขณะมองไปรอบ ๆ วิหาร สายตาของหย่งฟางหยุดที่กล่องบริจาคเล็กๆ ที่มุมหนึ่ง คำสบถแทบจะหลุดออกมา! เธอลืมเก็บค่าดูดวง ค่าธูป และค่าทำนาย!"…" หย่งฟางแทบกระอักเลือดด้วยความเสียใจ แต่ก็ยังต้องไปเตรียมอาหารแม้วันนี้จะไม่ได้รับค่าบริการ ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่รับแขกเยอะขนาดนี้ คราวหน้าต้องไม่พลาดอีก เธอจัดเสิร์ฟอาหาร และเม

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่29 คาดหวังคำทำนายจากธูป

    "คุณนายสวี่ คุณมาขอพรอะไรเหรอคะ?"คุณนายสวี่ยิ้มเล็กน้อย "ก็ขอให้ครอบครัวอยู่กันอย่างสงบสุขค่ะ แล้วคุณนายหยวนล่ะ?" จริงๆ แล้วในใจเธอก็หวังให้ปัญหาระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้หมดไปด้วยคุณนายหยวนแอบกลอกตานิดๆ แต่ตอบยิ้มๆ "เหมือนกันเลยค่ะ" ที่จริงเธอขอให้ลูกชายหายป่วยไวๆพวกผู้ชายไม่ค่อยพูดเรื่องพวกนี้นัก เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่สะเทือนใจ ทุกคนต่างรู้กันดีและเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ แม้กระนั้นก็ยังเห็นได้ว่าพวกเขาสามัคคีกันในจุดนี้มากกว่าผู้หญิงเสียอีก แต่ก็แฝงไปด้วยอารมณ์ขันแบบเสียดสีเมื่อเกือบหกโมงเช้า แสงอาทิตย์สีทองสาดแสงลอดผ่านเมฆลงมาอย่างรวดเร็ว ความอบอุ่นนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกสดชื่นขึ้น พวกเขาเงยหน้ามองพระอาทิตย์ขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ราวกับลืมไปว่าความงามของช่วงเวลาธรรมดาๆ นี้เคยผ่านตาไปนานแล้วในขณะนั้น ทุกคนรู้สึกถึงความสงบสุขชั่วครู่ แต่แล้ว... กึก! เสียงประตูของวัดเปิดออกหย่งฟางที่กำลังขยี้ตาเด

DMCA.com Protection Status