Home / แฟนตาซี / ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ / บทที่14 คำทำนายเป็นจริง ลูกชายได้เจอรักแท้แล้ว

Share

บทที่14 คำทำนายเป็นจริง ลูกชายได้เจอรักแท้แล้ว

last update Last Updated: 2024-12-12 11:06:43

นี่มัน...อาจารย์มีตาทิพย์จริงๆ

ทางด้านหลิวซานซานหลังจากหย่งฟางทำนายว่าลูกชายของเธอได้พบกับรักแท้แล้ว ก็รู้สึกตื่นเต้นจึงไปซื้อวัตถุดิบเพื่อเตรียมทำอาหารไปให้ลูกชายที่คอนโดหรู เพราะต้องการสอบถามว่าเรื่องที่อาจารย์หย่งบอกเป็นความจริงหรือไม่

หลิวซานซานถือถุงผักสด เนื้อสัตว์ และของสดใหม่สามสี่ถุงเข้าไปในคอนโด เมื่อใส่รหัสผ่านประตูแล้วเปิดเข้าไป เธอก็เห็นชายสองคนที่ไม่มีเสื้อผ้านั่งอยู่บนโซฟา

“…”

สุดท้ายชายคนหนึ่งก็พูดขึ้น “แม่ ถ้าผมบอกว่าเรากำลังออกกำลังกาย แม่จะเชื่อไหม?”

หลิวซานซานขว้างไข่ไก่สดจำนวนหนึ่งไปที่ลูกชาย “เธอคิดว่าแม่จะเชื่อรึเปล่าล่ะ?!”

ไข่กระจัดกระจาย ลูกชายร้องไห้ขอความเมตตา หลิวซานซานฟังลูกชายร้องไห้ระบายความอึดอัดใจ เรื่องการค้นพบตัวเองว่าเป็นเกย์ในช่วงวัยรุ่น และเล่าถึงความรักที่ทั้งคู่มีต่อกัน เธอค่อยๆ สงบลง ช่างเถอะ! เป็นแม่คนแล้วต้องเปิดใจกว้าง ยุคสมัยของราชวงศ์ชิงมันจบไปแล้ว ยุคใหม่ก็คือยุคที่ต้องยอมรับ และโอบกอดความแตกต่างของทุกคน

ลูกชายแค่ชอบผู้ชาย ไม่ได้ทำเรื่องผิดอะไร ขอแค่เขามีความสุขก็พอ และถ้าเธอได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับแฟนของลูก เธอก็จะมีลูกชายเพิ่มอีกคน ไม่มีอะไรที่ไม่ดีเลย

ดีแล้ว ดีมาก!

อาจารย์หย่งบอกแล้วว่าลูกชายของเธอจะมีความรักที่สมบูรณ์แบบ ถ้าทั้งสองคนใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข มันก็ดีที่สุดแล้ว

หลิวซานซานพูดโน้มน้าวใจตัวเอง และเพื่อที่จะเข้าใจลูกชายมากขึ้น เธอจึงถามต่อ “ลูกเป็นฝ่ายรุกใช่ไหม?”

“…”

หลิวซานซานเข้าใจแล้ว จึงสูดหายใจลึกๆ สองวินาทีต่อมา เธอลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ และใช้หมอนอิงตีลูกชายเพื่อระบายอารมณ์

“แม่ส่งเธอไปเรียนศิลปะป้องกันตัวที่วัดเส้าหลินตั้งแต่เด็กๆ เพื่อให้เธอเป็นฝ่ายรับเหรอ?!”

ในคืนเดียวกันนั้น เรื่องเล่าของภรรยาในกลุ่มเครือข่ายโซเชี่ยลมีเดียก็แพร่กระจายออกไป ที่เชิงเขาหลงหย่านอกเมืองนั้น มีวัดแห่งหนึ่งชื่อวัดเสวียนเว่ย อาจารย์ที่นั่นขออะไรได้หมด และนักพรตหย่ง สามารถทำนายดวงชะตาได้อย่างแม่นยำ

ทุกคนต่างรอคอยที่จะได้ฟังว่ามันแม่นยำอย่างไร แต่หยูถังยุ่งมาก สวี่อี้ฉินต้องดูแลสามี หลิวซานซานก็ต้องสร้างความสัมพันธ์กับลูกเขย ส่วนซ่งเสี่ยวฮุ่ยก็มีเรื่องกังวลใจ และคุณนายอีกคนกำลังเล่นไพ่นกกระจอกอย่างสนุกสนาน ปากก็พูดได้แต่เรื่องไร้สาระ

ก็มีแค่หนิวลี่เท่านั้นที่มีเวลาว่าง

“หนิวลี่ วัดเสวียนเวยนั้นแม่นจริงๆ เหรอ?”

“จะจริงหรือไม่จริง ลองไปดูเองสิ” หนิวลี่หน้าตาเปล่งปลั่ง ดื่มชาชาเบาๆ “ยังไงก็ตาม ตั้งแต่ที่สามีฉันได้พกยันต์ที่อาจารย์หย่งน้อยให้ไว้…”

หนิวลี่อดไม่ได้ที่จะปิดปากหัวเราะ

หลังจากหัวเราะเสร็จ เธอก็พูดต่อ “น่าเสียดายที่วัดนี้ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ทำให้สิบปีมานี้ไม่มีใครมาขอพรจากอาจารย์เลย ฉันเป็นแขกคนที่สี่ในรอบสิบปีที่มาไหว้เจ้าเทพเจ้า ทำให้ท่านดีใจมากและบอกว่าจะจำฉันได้ และจะอวยพรให้ฉันสมปรารถนา”

เมื่อพูดจบเรื่องนี้ก็กลายเป็นตำนานว่า ‘ได้ยินไหม? วัดเสวียนเว่ยบนเขาหลงหย่า ถ้าเป็นคนในกลุ่ม 99 คนแรกที่ไปไหว้เจ้าเทพเจ้า จะได้รับการปกป้องตลอดชีวิต! และได้ยินว่าที่วัดนี้ สิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดคือยันต์สำหรับผู้ชาย’

มีคนถามขึ้น “ยันต์อะไรเหรอ?”

“อ๋อ ก็ยันต์สำหรับเรื่องนั้นน่ะ...ยันต์เสริมสมรรถภาพชาย!”

แม้แต่หย่งฟางยังไม่รู้เลยว่าชื่อ "ยันต์พยุงฟ้า" ที่ตัวเองตั้งไว้อย่างสุภาพนั้น จะมีชื่อเรียกที่ตรงไปตรงมาและไม่ธรรมดาขนาดนี้

ด้วยเหตุนี้วัดเสวียนเว้ยที่เคยเป็นที่พูดถึงในวงการคุณนายไฮโซ ก็เริ่มแพร่กระจายไปในกลุ่มผู้ชาย ยันต์เสริมสมรรถภาพนี่โดนใจพวกเขาเข้าอย่างจัง ทุกคนอยากไปสำรวจดูด้วยตัวเองในวันรุ่งขึ้น แต่ได้รับข่าวว่าวัดเสวียนเว่ยปิดเพื่อปรับปรุงและจะเปิดอีกครั้งในวันขึ้นเดือนหน้า

อะไรนะ? นี่เป็นการเล่นตัวใช่ไหม?

การตลาดแบบหิวโหยเช่นนี้ ดูจะได้ผลดีเป็นพิเศษในหมู่คนมีเงิน วันขึ้นเดือนใหม่ใช่ไหม? เยี่ยม! พวกเขาตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตั้งแต่เที่ยงคืนตี!

เมื่อถึงวันที่หย่งฟางกำหนดให้เป็นวันมงคล สำหรับการเริ่มปรับปรุง ตอนแปดโมงเช้าหยูถังก็ถือหมูเปรี้ยวหวาน ที่ทำจากบ้านมาพร้อมกับทีมงานก่อสร้างขึ้นไปที่วัด

หัวหน้าทีมก่อสร้างถือแบบแปลนมาจำนวนหนึ่ง หย่งฟางมีส่วนร่วมในการออกแบบอารามหลัก ดังนั้นพวกเขาจะทำตามแบบแปลนอย่างเคร่งครัด และแน่นอนว่าไม่กล้าลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ส่วนที่อื่นๆ หยูถังได้บอกความคิดของเธอว่า “อารามรองคือห้องของอาจารย์ ต้องทำให้สะอาดและปลอดสารพิษ วัสดุที่ใช้ต้องแน่ใจได้ว่าไม่มีสารฟอร์มาลดีไฮด์ เข้าใจใช่ไหม?”

หัวหน้าทีมยิ้มแห้งๆ “คุณนายฉู่ เราไม่กล้าหลอกคุณหรอกครับ รับรองว่าเราจะทำงานอย่างดีที่สุด และไม่ข้ามขั้นตอน คุณวางใจได้เลย”

“อืม ให้ติดตั้งประตูหนักๆ ที่ศาลารองด้วย และทำครัวเล็กๆ ติดกระเบื้องผนังให้สวยๆ”

หัวหน้าทีมพยักหน้าหลายครั้ง และสั่งให้คนของเขาเอาผ้าสีแดง คลุมเทวรูปเทพเจ้าสูงสามเมตรเพื่อป้องกันฝุ่น ส่วนงานปิดทองเทวรูปนั้น จะเป็นหน้าที่ของช่างฝีมือ ที่หยูถังจะเชิญมาทำหลังจากงานปรับปรุงเสร็จสิ้น 

หย่งฟางถูกปลุกด้วยเสียงคนทำงาน จึงรู้ว่าคุณนายฉู่ต้องการปรับปรุงห้องของเธอด้วย หญิงสาวกอดหมอนและตุ๊กตาลงมาจากเตียงเพราะเธอถูกไล่แล้ว และไปยืนดูคุณนายฉู่จัดกระเป๋าให้ 

“แล้วฉันจะไปพักที่ไหน?”

“ฉันจองโรงแรมไว้ให้แล้ว เป็นโรงแรมของครอบครัวหนิวลี่ สามีของหล่อนยังระลึกถึงบุญคุณของเธอและเพทเจ้า เลยให้เข้าพักฟรีไม่คิดเงิน แต่ถ้าอยู่ไม่สะดวก ค่อยไปพักที่บ้านหลิวซานซานก็ได้”

เสียงเจาะไม้และเสียงเลื่อยดังก้องไปทั่ว เสียงดังจนทำให้ฝาปิดถังน้ำขนาดใหญ่ในลานกลางแทบจะปิดไม่อยู่ หย่งฟางถอนหายใจ แล้วจะทำยังไงดี? เธอเดินไปเปิดฝาไม้ออก และทันใดนั้นลูกบอลสีเทากลมๆ ก็โดดขึ้นมาบนฝ่ามือของเธอ ก่อนที่จะสงบลงทันที

เมื่อกลับไปที่ห้อง หย่งฟางเตรียมเก็บของพร้อมๆ กับคุณนายฉู่ แต่เมื่อเธอเข้าใกล้ลูกบอลสีเทานั้นก็พ่นน้ำออกมาอย่างแรง จากนั้นเริ่มสบถ 

“พวกตระกูลฉู่ อย่ามากเกินไปนัก! ฉันอุตส่าห์หาที่พักผ่อนสบายๆ ได้ พวกแกยังจะมาทำลายอีก! ฉันจะไม่ให้อภัยพวกก!”

หยูถังที่โดนน้ำกระเด็นใส่ ไม่พูดอะไร แต่หยิบทิชฉู่ขึ้นมาเช็ดหน้าอย่างเยือกเย็น “เธอเกลียดฉันมันเป็นเรื่องปกติ ฉันยอมรับ ไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนเธอ แต่ที่นี่ควรได้รับการปรับปรุง เพื่อให้ท่านอาจารย์หย่งและเทพเจ้าได้อยู่สบายขึ้น” แล้วเธอก็หันไปถามหย่งฟาง “สีของหล่อนดูจางลงแล้ว... ถ้าจางลงจนหมด แปลว่าสามารถปลดปล่อยวิญญาณได้ใช่ไหม?”

“มันไม่เกี่ยวกับแก! ฮึ่ม! พวกคนตระกูลฉู่พยายามจะกำจัดฉันอยู่แล้ว ไม่มีเจตนาดีหรอก! ฉันไม่อยากจากไป!” ลูกบอลเล็กๆ เด้งดึ๋งๆ อยู่บนฝ่ามือของหย่งฟาง ด้วยความโกรธ

หย่งฟางและหยูถังไม่สนใจคำพูดของเธอ

“ใช่ แต่มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง การปลดปล่อยวิญญาณต้องรู้ชื่อ เธอบอกว่าเธอจำไม่ได้แล้ว จำได้แค่ว่าโดนคนของตระกูลฉู่ฆ่าและเธอต้องการแก้แค้น ถ้าสะดวก ช่วยหาข้อมูลจากตระกูลฉู่เกี่ยวกับเธอด้วย ถ้าไม่มีข้อมูล ก็หวังว่าพลังคำสาปและความอาฆาตในตัวเธอจะหายไปและเธอจะจำได้เอง” หย่งฟางบอกในสิ่งที่รู้มา

“ได้” หยูถังพยักหน้า

เมื่อหย่งฟา เก็บลูกบอลสีเทาใส่กระเป๋าผ้า ลูกบอลก็เริ่มกระโดดขึ้นลง “เธอ นี่มันไม่ใช่เครื่องมือจับผีใช่ไหม?!”

หย่งฟางไม่ตอบและใส่มันลงไปในกระเป๋าทันที หลังจากเก็บห้องเสร็จ เธอก็เข้าไปในอารามหลักและห่อป้ายชื่อด้วยผ้าสีแดง ก่อนจะหยิบธูป เทียน และตะเกียงน้ำมันไป แล้วจึงตามหยูถังลงจากภูเขาไป 

บนรถหย่งฟาง รับประทานข้าวร้อนๆ กับหมูเปรี้ยวหวานจากกล่องอาหาร มันทั้งเปรี้ยวและหวาน ช่วยให้เจริญอาหารได้ดี

หยูถังตื่นเต้นจนต้องโทรหาฉู่เหยียน “เซียนน้อยหย่งและเทพเจ้าลงเขามากับแม่แล้ว...พักที่ไหนเหรอ พักที่โรงแรมของป้าหนิวลี่...อืม จะดูแลพวกเขาอย่างดี...เดี๋ยวก่อน มีสายซ้อนเข้ามา แม่ขอคุยกับอีกสายหนึ่งก่อนนะ”

หยูถังมองเบอร์โทรเข้ามาแล้วรับสาย “เสี่ยวฮุ่ยเหรอ? อย่าเพิ่งร้องไห้ อาจารย์หย่งอยู่กับฉัน...ทางโทรศัพท์พูดไม่สะดวก ฉันกำลังจะไปที่โรงแรมบ้านหนิวลี่ เธอก็มาด้วยกันนะ”

หลังจากวางสาย หยูถังหันไปบอกหย่งฟาง “ที่บ้านของเสี่ยวฮุ่ยเกิดเรื่องแล้ว”

มีเรื่องมาไม่ได้ขาดดด ยิ่งดีกับลูกชายคุณซานซานด้วยนะครับ

ในที่สุดก็ได้เจอรักแท้แล้ววววววววววว

Related chapters

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่15 เตรียมความพร้อมปราบวิญญาณร้าย

    เมื่อหย่งฟางกับหยูถังมาถึงโรงแรม หนิวลี่และซ่งเสี่ยวฮุ่ยก็นั่งอยู่ในบริเวณด้านล่าง หนิวลี่กำลังจับมือของซ่งเสี่ยวฮุ่ยและปลอบโยนให้คลายเศร้าหย่งฟางมองเห็นไอสีดำบนหน้าผากของซ่งเสี่ยวฮุ่ย เธอรีบทัก “ขึ้นไปคุยกันข้างบนดีกว่า”หนิวลี่จึงนำทุกคนขึ้นลิฟต์ ใช้บัตรเพื่อไปยังห้องหนึ่งบนชั้นสูงสุด เมื่อเข้าไปในห้องสิ่งแรกที่หย่งฟางทำคือวางแผ่นป้ายของเทพเจ้าไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และจัดเตรียมเครื่องหอมและเทียนที่นำมาให้เรียบร้อย“คุณเสี่ยวฮุ่ย มานี่สิ” หย่งฟางเอ่ยเรียกซ่งเสี่ยวฮุ่ยเดินเข้ามาใกล้ และหย่งฟางจุดธูปสามดอก แล้วหมุนวนรอบหน้าผากของเธอสามรอบ กลิ่นธูปทำให้หน้าผากคุณนายรู้สึกปวดตึง แต่ในขณะที่ธูปวนรอบที่สอง ความรู้สึกนั้นก็ถูกขจัดออกไปทันที ศีรษะของเธอรู้สึกโปร่งสบายและหน้าผากก็อบอุ่นขึ้นหย่งฟางวนธูปสามรอบแล้วจึงนำธูปออกไป เมื่อเห็นว่ามีไอสีดำบนหน้าผากของซ่งเสี่ยวฮุ่ยถูกขจัดออกไป จึงเสียบธูปกลับ

    Last Updated : 2024-12-13
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่16 อดีตเจ้านาย

    ซ่งเสี่ยวฮุ่ยเห็นหย่งฟางยืนนิ่งอยู่หน้าประตู เธอจึงเอ่ยขึ้น "นี่คือห้องของลูกชายฉันค่ะ อาจารย์หย่งจะเข้าไปไหม?""เข้า" หย่งฟางพยักหน้าแล้วผลักประตูเข้าไปภายในห้องเป็นห้องของผู้ชายทั่วไป มีเตียงนอน หน้าต่างบานใหญ่ข้างๆ กับโซฟา โต๊ะเล็กๆ พรมปูพื้น ด้านขวามีอุปกรณ์เล่นเกม ส่วนข้างๆ เป็นห้องน้ำและห้องแต่งตัวไม่มีอะไรผิดปกติแม้แต่ในห้องนี้ ไอความอัปมงคลก็ยังลอยละล่องอยู่ ไม่ได้กระจายมาจากจุดใดจุดหนึ่ง ทำให้ไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากสิ่งใด แสดงว่าในบ้านไม่ได้มีสิ่งไม่ดีใดๆ ไอความอัปมงคลเหล่านี้ถู กนำเข้ามาจากภายนอก และยังคงค้างอยู่ในบ้านไม่ได้สลายไปไหนและห้องนี้เป็นห้องที่ไอดำสิงสถิต ดังนั้นมันจึงกระจายออกมาจากที่นี่ ในเมื่อเป็นแบบนี้ หย่งฟางก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องค้นห้อง เธอหันกลับไปและเตรียมจะออกไป แต่แล้วก็เห็นหนิวลี่ชี้ไปที่จุดหนึ่ง และหัวเราะเยาะซ่งเสี่ยวฮุ่ย

    Last Updated : 2024-12-14
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่17 ภรรยาภาพวาด

    ยูโจวกงจิ่นยกส้นเท้าขึ้นหลบการโจมตีได้อย่างหวุดหวิด ต้วนโจวโกรธจัดถึงกับสบถออกมา พร้อมกับถามหย่งฟางว่าคิดจะทำอะไร หย่งฟางไม่ตอบ แต่ยังคงวิ่งไล่ยูโจวกงจิ่นด้วยดาบไม้ท้อ หวังจะฟันให้กลับคืนสู่ร่างเดิม ยูโจวกงจิ่นทั้งร้องไห้และปล่อยน้ำตารูปดาวการ์ตูนกระจายไปทั่วห้อง ในขณะเดียวกันก็วิ่งหนีไปด้วยห้องถูกปิดผนึกด้วยแผ่นยันต์ จึงหนีออกไปที่อื่นไม่ได้ ทำได้แค่วิ่งวนอยู่ในห้อง หย่งฟางวิ่งไล่ตามพร้อมดาบในมือ ราวกับตัวร้ายจากการ์ตูนที่กำลังรังแกนางเอก ต้วนโจวก็พยายามขัดขวางตลอดเวลา ดาบไม้ท้อฟันแก้วแตกและแทงทะลุหมอนความวุ่นวายทำให้ทุกอย่างพังพินาศเหล่าคุณนายมองน้ำตาของยูโจวกงจิ่น ที่กระจายไปทั่วห้องจนไม่กล้าเพิ่มปัญหาให้อีก ได้แต่นั่งขดตัวอยู่ที่ปลายเตียง มองดูการต่อสู้กับตัวการ์ตูนฉากนี้...เป็นการทลายความเชื่อเก่าๆ อย่างสิ้นเชิง หย่งฟางไล่ฟันไม่ถึงสิบรอบ ในที่สุดก็มีโอกาส เหยียดดาบออกพร้อมจะฟันลงไป“ต้วนโจวช่วยด้วย!!!&

    Last Updated : 2024-12-15
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่18 อดีตแฟนเก่า

    “ฉันกำลังทำความดีลงโทษความชั่วอยู่ไม่ใช่เหรอ? ลูกชายของคุณทำร้ายความรู้สึกคนอื่นมากมายขนาดนี้ ไม่สมควรตายหรือไง?! แล้วไงล่ะ? มีลูกชายที่คบผู้หญิงแปดคนพร้อมกัน ภูมิใจมากใช่ไหม? นี่มันปี2024 แล้วนะ ยังมีแม่ที่คิดว่าลูกชายตัวเองเป็นสมบัติ ใครคบกับเขาก็ถือว่าโชคดี ช่างน่าสงสารจริงๆ ทั้งชีวิตต้องหมุนรอบลูกชายที่ไม่มีดีอะไรเลย เป็นโชคชะตาของคุณแล้วล่ะ"ซ่งเสี่ยวฮุ่ยโกรธจนหูร้อน หัวใจพลุ่งพล่าน รีบตอบโต้ทันที ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังทะเลาะกับผีผู้หญิง ทั้งสองด่ากันไปมา แต่ก็ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ หยูถิงและหนิวลี่ต่างไม่กล้าหายใจแรง ประหลาดใจที่ซ่งเสี่ยวฮุ่ยกล้าทะเลาะกับผีขณะนั้นต้วนโจวยังคงร้องไห้เพื่อภรรยาการ์ตูนของเขา ส่วนหย่งฟางมองไปที่ดาบไม้ที่หักอยู่ในมือ ถอนหายใจเฮือกใหญ่เก็บดาบสองท่อนใส่ถุงผ้า"ไม่เป็นไร ไว้ค่อยหาช่างฝีมือดีๆ มาซ่อมก็ได้" หย่งฟางนั่งลงบนเก้าอี้เกมมิ่งแล้วกล่าวเบาๆ "คุณเสี่ยวฮุ่ย พอเถอะ"หย่งฟางหันไปถามผีสาวที่นั่งกอดเข่าอยู่มุมห้

    Last Updated : 2024-12-16
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่19 อยู่สบายเกินไปแล้ว

    ซ่งเสี่ยวฮุ่ยรีบพยุงลูกชายขึ้นไปนอนบนเตียง ทันใดนั้น วิญญาณผีชุดดำและวิญญาณชุดขาวลอยผ่านหน้าต่างเข้ามา สามคุณนายสะดุ้งตกใจ แต่ผีทั้งสองไม่ได้สนใจพวกหล่อน พวกเขามองไปที่กองน้ำสีดำและหนอนสกปรกบนพื้น ก่อนจะชี้ไปที่เฉิงเสี่ยวอวี่และถามหย่งฟางว่า“หนอนสกปรกพวกนี้เกิดจากหล่อนหรือเปล่า?”“ไม่ใช่ค่ะ คนคนนี้แค่โชคร้าย ไม่รู้ไปโดนสิ่งสกปรกจากไหนมา ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องเลย” หย่งฟางตอบพร้อมรอยยิ้มจางๆ เธอตอบคำถามอย่างฉับไวโดยไม่ต้องคิดมากคุณนายทั้งสามได้แต่นิ่งเงียบ ซ่งเสี่ยวฮุ่ยก็ไม่กล้าพูดอะไร ท่านอาจารย์หย่งฟางบอกว่าไม่ใช่ ก็ต้องไม่ใช่แน่ๆ ลูกชายของเธอรอดกลับมาได้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว เธอยังต้องขอบคุณหย่งฟางอีกมากผีชุดดำและผีชุดขาวไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะพวกเขารู้จักหย่งฟางตั้งแต่เธออายุแปดขวบ ตอนที่เริ่มเรียนรู้วิชาอัญเชิญวิญญาณ แม้ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา พวกเขาจะเจอเธอเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ดูเหมือนว่า

    Last Updated : 2024-12-17
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่20 ออกเร่ดูดวง

    หย่งฟางรู้สึกตกใจอยู่บ้าง "แค่ล้มเล็กน้อย คิดว่าจะทำให้กลัวได้หรือไง!"หญิงสาวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วเดินเข้าห้องน้ำ คราวนี้เธอระมัดระวังตัวมาก เดินช้าๆ เพื่อไม่ให้ล้มหรือลื่นกระทันหัน บีบยาสีฟันก็ทำอย่างรอบคอบ ทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างพิถีพิถัน จนกระทั่งเช็ดหน้าเสร็จเรียบร้อย หย่งฟางจึงยิ้มอย่างมั่นใจเมื่อเห็นภาพตัวเองในกระจก‘บรรพบุรุษเก่งกาจอะไรกัน ก็แค่นั้นแหละ’ทันใดนั้นกริ่งที่ประตูก็ดังขึ้น หย่งฟางเดาว่าอาหารเช้าที่สั่งไว้คงมาถึงแล้ว จึงรีบไปเปิดประตู พนักงานบริการห้องพักยกถาดอาหารเข้ามาอย่างเรียบร้อย เมื่อเปิดฝาครอบ เห็นขนมไส้หมูที่ชอบจึงหยิบขึ้นมากัดทันที แต่แล้วก็รู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมภายในขนม เธอขมวดคิ้ว พนักงานรีบส่งกระดาษทิชชูให้ หย่งฟางคายสิ่งที่อยู่ในปากออกมาดู พบว่ามีเศษหินเล็กๆ ปนอยู่ในขนมพนักงานตกใจมาก “ขอโทษค่ะคุณหย่ง เราจะนำจานนี้ออกไป ดิฉันจะรายงานให้ผู้จัดการและทางครัวทราบทันที คุณลองทานอย่างอื่นก่อนนะคะ

    Last Updated : 2024-12-18
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่ 21 เงินเดิมพันห้าพันหยวน

    แต่สิ่งที่ไม่เคยรู้คือ ทุกครั้งที่เพื่อนของเธอพาสุนัขไปเดินเล่น ไม่เคยเก็บอุจจาระของมันเลย หล่อนรำคาญขนสุนัขที่ร่วงเต็มบ้าน จนต้องคอยทำความสะอาดอยู่เสมอ และยังเกลียดเสียงเห่าของมันอีกด้วย โอ้ และครั้งหนึ่งเคยหัวเราะเยาะสุนัขต่อหน้าเพื่อน บอกว่ามันก็แค่สุนัขพันธุ์ทาง นอกจากนี้ สุนัขยังทำลายชุดเครื่องสำอางจนเสียหาย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่หล่อนตัดสินใจขายมันทิ้ง แต่กลับโกหกว่าสุนัขวิ่งหนีไปเองหญิงสาวฟังแล้วนิ่งอึ้ง เพราะทุกอย่างที่ได้ยินเป็นความจริง เพื่อนของเธอทำงานด้านสื่อออนไลน์ มักจะอยู่บ้านในช่วงกลางวัน และเป็นคนทำความสะอาดบ้านเอง ตอนที่รับเสวี่ยเหมยเนียงมาเลี้ยงใหม่ๆ หล่อนเคยหัวเราะเยาะมันว่าเป็นแค่หมาพันธุ์ธรรมดาเช่นกัน แต่เมื่อได้ยินหย่งฟางพูดถึงเรื่องเครื่องสำอาง หญิงสาวถึงกับตกตะลึง "คุณรู้ได้ยังไง..."ตอนที่หล่อนเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง คุยกันผ่านวีแชท ในตอนนั้นเพื่อนของเธอกำลังทำงานอยู่ แม้เธอจะรีบขอโทษ แต่เพื่อนก็ไม่ได้แสดงอาการโกรธ พูดแค่เพียง "ไม่เป็นไรๆ" สุดท้ายเธอก็ชดเชยค่าเครื่องสำอางให้และพาไปเลี้ยง

    Last Updated : 2024-12-19
  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที่22 คำทำนายที่หลอกลวง

    "ทำไมคนสวยอย่างเธอถึงอยากทำอาชีพนี้ล่ะ? ฉันบอกเลยว่า พวกเราหากินกันไม่ง่ายนะ ถ้าเธอคิดได้ก็เปลี่ยนอาชีพเถอะ" หมอเฒ่าพูดด้วยความจริงใจ เพราะหย่งฟางไม่ได้เป็นคู่แข่งแย่งลูกค้าของพวกเขาเลย เพราะเธอไม่มีลูกค้าแม้แต่คนเดียวหย่งฟางตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ "เกรงว่าคงเปลี่ยนไม่ได้แล้วค่ะ อาจารย์ของฉันบอกว่า ฉันเกิดมาเพื่อทำอาชีพนี้"เสียงหัวเราะของเหล่าหมอดูดังขึ้นรอบตัว "ฮ่าๆ"วันถัดมาเมืองถานจิงเจอพายุฝนแรกของฤดูร้อน ตกหนักตลอดทั้งวันจนท้องฟ้าดูมืดครึ้มราวกับเป็นเวลาพลบค่ำ หย่งฟางขอยืมร่มจากพนักงานต้อนรับ เดินฝ่าฝนไปประมาณสามสิบนาที จนถึงใต้สะพานลอยที่เธอมักมานั่งประจำ แต่เมื่อมาถึงก็พบว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่นเลย พื้นใต้สะพานยังคงแห้งสนิท เธอจึงเก็บร่มแล้วหาที่สะอาดๆ นั่งขัดสมาธิลงกับพื้นนั่งอยู่นานไม่รู้เวลาผ่านไปเท่าไหร่จนกระทั่งเสียงเรียกทำให้เธอได้สติกลับมา มองออกไปข้างนอกท้องฟ

    Last Updated : 2024-12-20

Latest chapter

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่85 ใครเคาะประตู (จบเล่ม2)

    หอพักหญิง อาคาร 3A หน้าห้อง 702หลังจากหญิงสาวในห้อง 701 บอกว่า “ห้อง 702 ไม่มีคนอยู่” คำพูดนั้นทำเอาสาวๆ จากห้อง 602 กรีดร้องด้วยความตกใจสุดขีด ถ้าห้อง 702 ไม่มีใครอยู่ แล้วเสียงฝีเท้าเหล่านั้นมาจากไหน?เสียงกรีดร้องทำลายความเงียบของค่ำคืน ไฟทางเดินที่ควบคุมด้วยเซ็นเซอร์เสียงสว่างวาบขึ้นทีละชั้น เสียงโลหะขูดพื้นดังมาจากชั้นล่าง คุณป้าผู้ดูแลหอพักเปิดประตูห้องพัก รีบมองจอมอนิเตอร์กล้องวงจรปิด แล้วกดลิฟต์ขึ้นมายังชั้น 7“เอะอะอะไรกัน! เสียงดังจนคนทั้งตึกได้ยิน!” เมื่อมาถึง คุณป้าผู้ดูแลตำหนิ ก่อนหันไปมองเด็กๆ “พวกเธอห้อง 602 ใช่ไหม? มาเดินเพ่นพ่านอะไรตอนนี้? ไม่รู้เหรอว่าห้ามออกจากห้องหลังไฟดับ?”หญิงสาวจากห้อง 701 รีบช่วยอธิบาย “พวกเธอบอกว่าได้ยินเสียงคนเดินในห้อง 702 เลยขึ้นมาดู...คุณป้า ห้อง 702 มีใครอยู่หรือเปล่าคะ?”คุณป้ามองพวกเธอด้วยสายตานิ่งเรียบ “ห้อง 702 ไม่มีคนอยู่มานานแล้ว”คำตอบนั้นทำให้สาวๆ จากห้อง 602 ใจหายวาบ หญิงสาวจากห้อง 701 เริ่มลังเลก่อนถามด้วยเสียงสั่น “ป้า... รุ่นพี่บอกว่าหอพักหญิงที่นี่มีผี เรื่องนั้นจริงหรือเปล่าคะ?”“พวกเธออย่าไปเชื่อเรื่องไร้สาระแบบนั้น” คุณป้

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่84 หอพักหญิง

    "รับคำทำนายก่อนเถอะ แล้วค่อยคุยกัน" หย่งฟางเอ่ยขึ้นพลางมองแถวคนที่ยืนรออยู่ด้านหลังมีผู้หญิงสี่คนเข้ามาถามคำทำนายทีละคน สองคนถามเรื่องการเรียน อีกสองคนถามเรื่องความรัก กุ่นกุ่นช่วยตอบคำทำนาย หย่งฟางไม่ได้พูดเสริมอะไร มีเพียงกระซิบเบาๆ "ทำนายได้ดีมาก จากนี้ลูกค้าอื่นๆ ให้คุณดูแลคนเดียวเลย ทำให้มั่นใจหน่อย อย่าพูดติดขัด ถ้าคิดว่าจะติดก็พูดคำสำคัญสั้นๆ ก็พอ"กุ่นกุ่นพยักหน้า เรื่องนี้เฒ่ากัวเคยสอนเขามาก่อนแล้ว แนะนำให้พูดแบบเว้นจังหวะบ้างเพื่อให้ดูเป็นปริศนาและน่าเกรงขาม จากนั้นหย่งฟางพาผู้หญิงสี่คนไปยังห้องน้ำชา ขอให้พวกเธอดื่มชากันคนละแก้ว"ฉันก็ไม่คิดว่าเราจะได้เป็นเพื่อนร่วมสถาบันกัน ฉันเพิ่งรู้ว่าพี่เรียนที่วิทยาลัยศิลปะถานจิง ตอนฉันเห็นภาพวาดกับชื่อพี่ในห้องแสดงผลงาน" ฉู่เสี่ยวเฉียวพูดขึ้นรูมเมตของเธอพยักหน้า "ใช่เลย หย่ง...อาจารย์" ผู้หญิงคนนั้นลังเลเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะเรียกหย่งฟางว่าอะไรดี"ทำไมเธอถึงไม่มีรูปอยู่ในชั้นวางศิษย์เก่าที่โดดเด่นล่ะ?"หย่งฟางยิ้มก่อนตอบ "เคยเห็นใครทำงานด้านศาสตร์ลึกลับ แล้วไปเป็นศิษย์เก่าที่โดดเด่นบ้างไหม?"คำพูดนั้นทำให้ผู้หญิงทั้งหมดหัวเราะออกมา ข

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่83 ไม่รู้หนังสืออีกคน!

    [สุดยอดไปเลย หย่งฟางไปหาลูกศิษย์มาจากที่ไหนนะ ทั้งหนิงหมี่และหลงหยวนหยวนเ หมาะจะไปเป็นไอดอลทั้งกลุ่มหญิงและชายได้เลย][หย่งฟางเปิดบริษัทจัดการบันเทิงไปเลยเถอะ]ในที่สุด #เสวียนเว่ยเอ็นเตอร์เทนเมนท์ (#บริษัทบันเทิงเสวียนเว่ย) ก็กลายเป็นคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับ #วัดเสวียนเว่ย (#ศาสตร์ลึกลับของหย่งฟาง)เหล่าชาวเน็ตช่วยกันแบ่งตำแหน่งให้เสร็จสรรพแล้ว[#บริษัทบันเทิงเสวียนเว่ยCEO: หย่งฟาง อันดับหนึ่งฝ่ายหญิง: หนิงหมี่ อันดับหนึ่งฝ่ายชาย: หลงหยวนหยวน][ส่วนอาจารย์อ้วน กับอีกสามคนก็เป็นผู้จัดการไปละกัน]เหล่าลูกศิษย์มนุษย์ที่คอยติดตามข่าวในโซเชียลเกี่ยวกับวัด: หือ?หยิบโทรศัพท์เก็บกลับไป มองดู ‘อันดับหนึ่งฝ่ายชาย’ และ ‘อันดับหนึ่งฝ่ายหญิง’ตอนนี้เป็นช่วงหกโมงเย็น หลังจากทานอาหารเสร็จ สองคนนี้ก็สู้กันตั้งแต่ฝั่งตะวันออกไปจนถึงฝั่งตะวันตก เพื่อแย่งควันธูปกัน นี่กลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ของอันดับหนึ่งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายที่ต้องทำทุกวันไปแล้วเพราะหย่งฟางแจกควันธูปอย่างเท่าเทียม ตอนแรกให้ทั้งคู่คนละสองแท่ง แต่หนิงหมี่ไม่พอใจ “ข้าทำงานตั้งขนาดนี้ ส่วนเขาไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมถึงได้เท่ากับข้า! ข้าไม่สน จ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่82 ได้ศิษย์เพิ่ม

    ณ จุดนี้ในวัดเสวียนเว่ยมีสมาชิกทั้งหมดแปดคนเจ้าของอาราม: หย่งฟางศิษย์: หนิงหมี่, เฒ่ากัว, ห่าวจาวไฉ, จินเหยาไต้ ,ไฉหยวนกุ่นกุ่นผู้พักชั่วคราว: วิญญาณลูกกลมสีเทาผู้ไม่ได้รับเชิญ: หลงหยวนหยวนทั้งแปดคนนี้ประกอบไปด้วยสิ่งมีชีวิตจากสี่ประเภท ได้แก่ คน เทพ วิญญาณ และปีศาจ"อาจารย์หย่ง คุณคิดจะเก็บสิ่งมีชีวิตทั้งหกไว้ที่นี่หรือ?" ห่าวจาวไฉโบกพัดกระดาษพร้อมถามหย่งฟางเผยยิ้มขมเล็กน้อย จะพูดอย่างไรดี? ตัวตนของหนิงหมี่กับหลงหยวนหยวนนั้น ไม่ใช่ว่าเธอเต็มใจรับเข้ามา คืนนี้พระจันทร์สีเงินส่องสว่างกลางท้องฟ้า หลังจากที่หย่งฟางไหว้เทพเจ้าวัดเสร็จ เธอก็เดินออกจากวิหารหลัก หนิงหมี่กับวิญญาณลูกบอลกลมสีเทา ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะเรียนในลาน กำลังตั้งใจเรียนวิชาภาษาชั้นประถมปีที่ 1 ที่ถ่ายทอดสด คราวนี้หย่งฟางเรียนรู้แล้ว เธอจึงหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าที่ตั้งค่าใหม่ให้พวกเขาใช้ขณะเดียวกัน หลงหยวนหยวนที่โดนสองสาวรังเกียจ นั่งอยู่ที่เก้าอี้ในสวนอีกฝั่ง เจ้าหนุ่มชุดดำไม่สนใจเลยที่ตนเองไม่ได้รับความชื่นชอบจากใคร แค่เอนตัวรับลมเย็นอย่างสบายใจ ด้านเฒ่ากัวกับคนอื่นๆ เตรียมไฟฉายและพร้อมจะลงจากภูเขากลับบ้าน"เดี

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่81 เสี่ยวหลงหวังจอมเจ้าเล่ห์

    "อย่างพี่สาวเหอ ฉันรู้สึกว่าเธอเป็นคนดีมากๆ ไม่เคยทำเรื่องไม่ดีเลย แถมครอบครัวก็ใจดี แม้ว่าเราจะพูดกันไม่นาน แต่ก็เริ่มรู้สึกอึดอัดอยู่เหมือนกัน แต่อย่างที่บอก พราะเธอเป็นคนดี ฉันก็ไม่แน่ใจว่าควรจะรู้สึกอึดอัดหรือไม่""ส่วนเรื่องจางยู่เฟ่ย ตั้งแต่ฉันมาที่โลกมนุษย์ ฉันก็เริ่มรู้แล้วว่ามีคนที่ไม่อยากทำอะไรด้วยตัวเอง หลายคนชอบหาทางลัด ถ้ามันเป็นทางที่ถูกต้องก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ค่อยเจอคนที่พยายามหาทางพึ่งพาคนอื่นแบบเธอ ทั้งที่เธอก็มีแขนขาครบ มีโอกาสมากมาย แต่กลับเหมือนมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง คิดแค่ว่าจะฝากชีวิตไว้กับผู้ชาย" หนิงหมี่พูดไปพร้อมกับทำท่าห่อไหล่เหมือนแมวน้อยที่กำลังครุ่นคิด"แต่พอคิดถึงเป่าฟู่กุ้ยและภรรยาของเขา ฉันก็รู้สึกว่าในโลกมนุษย์ก็ยังมีสิ่งดีๆ บ้างเหมือนกัน" หนิงหมี่พูดสรุปว่า "มนุษย์นี่ซับซ้อนจริงๆ ฉันไม่เข้าใจเลย"หลังจากที่ออกไปทำงานนอกสถานที่มาแค่สองวัน เทพธิดาน้อยก็ได้สัมผัสกับความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ พนักงานบนเครื่องบินเชิญพวกเธอไปยังห้องอาหาร หลังจากทานอาหารจนอิ่มหนำแล้ว หนิงหมี่ก็รู้สึกดีขึ้น"เป่าฟู่กุ้ยสุดยอดจริงๆ!" หนิงหมี่คิด "อย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องนอนขดตัวอ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่80 ใครรวยกว่ากัน

    ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจอนักพรตสาวตัวน้อย กลุ่มเฮ่ยไป่อู่ฉางก็รีบตื่นเต้นและวิ่งเข้าหาเธอ “หย่งน้อย เธอดูอ้วนขึ้นนะ!”“จะทักทายกันแบบสุภาพกว่านี้ไม่ได้หรือไงคะ?” หย่งฟางพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แสดงอารมณ์ยมทูตขาวผู้เป็นพี่สาว ยื่นมือไปหยิกแก้มเธอทันที “ฉันหมายถึงหน้าเธอดูมีเนื้อขึ้นนะ! เมื่อก่อนเธอผอมกว่านี้”หย่งฟางสะบัดมือของเธอออกเหมือนปัดแมลงวันยมทูตดำก็ทักขึ้นบ้าง “ถ้าจะให้สุภาพ ฉันก็ทำได้” จากนั้นเขาก็พูดต่อ “หย่งน้อย เราเสมือนญาติผู้ใหญ่เห็นเธอเติบโตมาตลอด เธอก็ไม่ได้มาเยี่ยมเราเลย เราคิดถึงเธอ…”ยมทูตขาวพูดเสริมทันที “…พวกเราอยากได้ธูปหอมบ้างน่ะ”นี่แหละคือวิธีทักทายของพวกเขา หย่งฟางไม่ได้พูดอะไร เธอแค่ย่อตัวลงเปิดกระเป๋าเดินทาง แล้วหยิบธูปสองดอกออกมาหนิงหมี่เบิกตากว้าง “นั่นมันของฉันนะ!!” พูดจบก็พยายามจะแย่ง แต่หย่งฟางก็หลบมือไปจุดไฟ แล้วส่งให้ยมทูตขาวดำทันที“แค่นิดเดียว อย่าไปหวงนักเลย เด็กเล็กก็แบบนี้แหละ ชอบหวงของ”ยมทูตขาวดำกินควันธูปอย่างพอใจจนตาหรี่ลงเป่าฟู่กุ้ยมองยมทูตทั้งสองที่กำลังเคลิบเคลิ้ม…พวกเขาไม่ได้มารับเมียเขาไปโลกหลังความตายเหรอ? แล้วทำไมมานั่งกินของฝากที่บ้า

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่79 ได้เวลาต้องไป

    เปาฟู่กุ้ยมองนักพรตสาวด้วยความงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามออกมาด้วยน้ำเสียงลังเล "ผม...ผมจะได้เจอเธอจริงๆ เหรอ? ภรรยาของผมไม่ได้...ไปอยู่ที่ยมโลกแล้วหรอกเหรอ?""ภรรยาของคุณน่าจะอยู่ข้างคุณตลอดเวลา เพียงแต่ช่วงนี้เธอคอยเฝ้าดูจางยู่เฟ่ยอยู่ เพราะสงสัยว่าคนคนนั้นจะทำอะไรแปลกๆ เราเลยไม่เห็นวิญญาณเธออยู่ในบ้านคุณตั้งแต่แรก" หนิงหมี่อธิบาย"ผม...ผมอยากเจอเธอ!" เปาฟู่กุ้ยพูดด้วยความรู้สึกสดใสขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับได้รับพลังชีวิต ใบหน้าของเขาดูเปล่งปลั่งทันที ทันใดนั้นก็นึกถึงสภาพตัวเอง จึงรีบลูบหนวดเคราที่เพิ่งงอกยาวและกล่าวออกไป "เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวผมต้องจัดการตัวเองก่อน ภรรยาผมไม่ชอบที่ผมดูสกปรกแบบนี้"หลังจากพูดจบ เปาฟู่กุ้ยลากตัวที่ดูอ้วนกลมขึ้นไปชั้นบน เพราะอาการบวมจากยาต้านซึมเศร้า เมื่อเขากลับลงมาอีกครั้ง หย่งฟางและหนิงหมี่ ก็ได้เห็นเปาฟู่กุ้ยในลุคใหม่ที่สะอาดสะอ้าน เขาโกนหนวดโกนเคราจนเกลี้ยงเกลา สระผมจนหอมสะอาด ใบหน้ากลมอวบอิ่มดูสดใสขึ้นทันที เขาใส่สูทสากลและเนคไทเรียบร้อย สวมรองเท้าหนังแม้หน้าตาของเขาจะไม่หล่อเหลามากนัก โดยเฉพาะส่วนแก้มที่อ้วนดูเหมือนผู้ชายธรรมดา แต่ในลุคนี้เขากลับดูอ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่78 คาถาสะท้อนกลับ

    หลังจากที่จางยู่เฟ่ยพ่นเลือดออกมา หมอกสีเทาที่วนเวียนอยู่ระหว่างคิ้วของเปาฟู่กุ้ย ก็พลันสลายหายไปทันที แม้ว่าจางยู่เฟ่ยจะมองไม่เห็นพลังงานลี้ลับเหล่านี้ แต่เธอกลับรู้สึกถึงบางสิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อท่านประธานทำตามคำแนะนำของสาวน้อยข้างกายเถ้าแก่เปาเปิดตาขึ้น ยกมือออกหู และมองเลขาอีกครั้งด้วยสายตาที่กลับมาสดใส ปราศจากอาการลุ่มหลงผิดปกติใดๆ จางยู่เฟ่ยตกใจ รีบควานหาบางสิ่งในกระเป๋าของตัวเอง แต่กลับพบว่ามันหายไป“หาอันนี้อยู่หรือเปล่า?” น้ำเสียงเย็นชาแฝงความเหนือชั้นดังมาจากหย่งฟางเมื่อจางยู่เฟ่ยหันไปมอง ก็พบว่ากระดาษยันต์สามเหลี่ยมในมือของหย่งฟาง ถูกฉีกเป็นสองส่วนอย่างเรียบร้อยหนิงมี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ยิ้มขำ ส่วนหญิงสาวในชุดขาวร่างโปร่งแสงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กับจางยู่เฟ่ย เธอยกนิ้วโป้งให้หนิงมี่ด้วยความชื่นชมใบหน้าของวิญญาณสาวผู้นี้ คือใบหน้าเดียวกันกับหญิงสาว ในภาพถ่ายที่พบในห้องใต้หลังคา ใช่แล้ว... ภรรยาของเปาฟู่กุ้ยยังไม่ได้ไปสู่สุคติ ช่วงนี้เธอสังเกตเห็นความผิดปกติของสามี และหลังจากจับตามองเลขาส่วนตัว ก็พบว่าคู่กรณีใช้คาถามาควบคุมใจสามีของเธอเธอก็พบว่านักพรตสาวจากสำนั

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่ 77 คาถาชิงรัก

    เมื่อวางสายไปใบหน้าของเถ้าแก่เปาแสดงอาการหลงใหล ราวกับถูกบางสิ่งควบคุม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและความคิดถึงอย่างท่วมท้น หย่งฟางรีบสวดคาถาเคลียร์จิตใจ ก่อนจะใช้นิ้วแตะเบาๆ ที่หน้าผากของเขา ความอ่อนโยนที่เคยแสดงบนใบหน้าของเปาฟู่กุ้ย หยุดชะงักราวกับถูกหยุดเวลา หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กลับมาเป็นปกติ แต่ยังคงมีท่าทางงุนงงหย่งฟางเปิดปากถาม "คนที่โทรหาคุณเมื่อกี้คือใคร?""คะ...คือ...เลขาของผม จางยู่เฟ่ย..." เปาฟู่กุ้ยมองหน้าหย่งฟางและหนิงหมี่ด้วยความสงสัย "มีอะไรเหรอครับ?" ดูเหมือนเขาจะไม่สามารถจำความรู้สึกอ่อนโยน และความรักใคร่ที่เคยมีเมื่อครู่ได้เลยหนิงหมี่หันไปมองอาจารย์และกระซิบเบาๆ "คาถาชิงรัก"หย่งฟางพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองเปาฟู่กุ้ย "ตอนที่คุณโชคร้ายก่อนหน้านี้ มักจะเกิดขึ้นหลังจากที่คุณคุยกับเลขาของคุณเสร็จใช่ไหม?"เปาฟู่กุ้ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มจำได้ "เหมือนจะใช่ แต่ว่าช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยเจอโชคร้ายแล้วนะ"หย่งฟางอธิบายด้วยน้ำเสียงเรียบ "เพราะช่วงนี้คุณไม่ได้ปฏิเสธคำขอของเธอเลย คาถาชิงรักคือการที่คุณถูกทำให้ตกหลุมรักคนที่ร่ายคาถานี้ ในตอนแรกคุณยังมีสติ คุณสาม

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status