บ้านพราวฟ้า 21.50 น.
“ยัยพราว”
“ว่าไงคะ”
“ขึ้นไปตามไอ้องศาที่ห้องพี่ให้ทีดิ๊…..มันตายอยู่ข้างบนแล้วมั้งนั่น”
ฉันที่กำลังนั่งดูรายการวาไรตี้โชว์อยู่ที่ตรงโซฟากลางห้องโถงบ้าน ถึงกับทำหน้ามุ่ย เมื่อถูกคนเป็นพี่ชายเรียกให้ไปตามเพื่อนสนิทของเขาที่หายขึ้นไปบนชั้นสามของบ้าน
ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าหายไปนานเท่าไหร่ แต่ก็คงจะนานพอที่ทำให้พี่เพทายถึงกับต้องใช้ฉันขึ้นไปตาม
“ทำไมพี่เพทายไม่ขึ้นไปตามเองหละคะ พราวกำลังดูวาไรตี้โชว์อยู่” นี่ฉันก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมพี่ชายฉันถึงไม่ขึ้นไปตามเอง
“ขี้เกียจเดิน มันเหนื่อยแล้วก็เมาด้วย” อ่าว แล้วไม่คิดว่าฉันจะเหนื่อยบ้างหรือไง ห้องพี่เพทายอยู่ชั้นสามของบ้านเลยนะ บันไดแต่ละชั้นก็มีเกือบยี่สิบขั้นเข้าให้ ไม่รู้ว่าใครมันเป็นคนออกแบบบ้าน
แล้วใครใช้ให้ดื่มเยอะแยะขนาดนั้นกัน นั่งดื่มกันตั้งแต่ห้าโมงเย็น จนตอนนี้จะสี่ทุ่มอยู่แล้ว ก็ยังไม่เลิกสักที
ถึงจะบ่นพี่ชายตัวเองแบบนั้น แต่ตอนนี้เท้าทั้งสองข้างของฉันก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องพี่เพทายแล้วเรียบร้อย
ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!
“พี่องศาคะ พี่เพทายให้มาตาม” ฉันเคาะบานประตูห้องนอนขนาดใหญ่ไปอยู่สองสามที แต่ก็เงียบ ไม่มีใครออกมาเปิด
แล้วพอฉันลองหมุนลูกบิดดูก็พบว่าประตูห้องไม่ได้ล็อก
“พี่องศาคะ อยู่ในนี้รึเปล่า” ทำไมถึงไม่มีใครอยู่ในห้องเลยนะ ไฟก็เปิดนี่นา หรือว่าจะอยู่ในห้องน้ำ
“พี่องศาคะ…..” และในขณะที่ฉันกำลังจะเคาะประตูห้องน้ำที่ปิดสนิท จู่ๆคนด้านในก็เปิดประตูออกมาทันที
O.O
แต่ที่ทำให้ฉันตกใจตอนนี้คือ ทั้งตัวของพี่องศามีผ้าขนหนูแค่ผืนเดียวที่พันอยู่รอบเอวของเขา
และที่สำคัญคือสายตาของฉันดันมองลงต่ำทำให้ไปปะทะเข้ากับความใหญ่โตที่มันนูนขึ้นเป็นลำอยู่หลังผ้าขนหนูผืนบางนั่น
เฮือก เลือดกำเดาแทบพุ่ง
“จ้องขนาดนี้…..คิดมิดีมิร้ายกับพี่อยู่เหรอ”
“ปะ เปล่านะคะ พราวแค่ตกใจที่พี่องศาจู่ๆก็เปิดประตูออกมา พอดีพี่เพทายให้ขึ้นมาตามค่ะ” ฉันรีบกลับหลังหันทันที ก่อนจะพูดประโยคเมื่อกี้ออกไป บ้าจริง แล้วทำไมฉันต้องมาเห็นอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย
“หึ” เสียงพี่องศาหัวเราะในลำคอดังออกมา ก่อนที่เขาจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของพี่ชายฉัน
“ออกไปสิ หรืออยากมองพี่แก้ผ้า” สิ้นเสียงพี่องศา ฉันรีบวิ่งออกมาจากห้องทันทีเลยจ้า ใครจะอยากดูเขาแก้ผ้ากัน บ้าหรือเปล่า
ตึกตึกตึก!!
“วิ่งทำไม แล้วไอ้องศาหละ” พี่เพทายที่เห็นฉันวิ่งลงบันไดมา เอ่ยถามขึ้น
“เดี๋ยวตามลงมาค่ะ” กำลังใส่เสื้อผ้าอยู่ ไอ้ประโยคหลังนี่ฉันพูดมันในใจนะ
“แล้วนั่นทำไมหน้าแดง ไม่สบายเหรอ”
“สงสัยเหนื่อยค่ะ แล้วก็ร้อนมากด้วย” ที่ร้อนนี่ไม่ใช่เพราะอากาศนะ แต่เป็นเพราะคำพูดของพี่องศาเมื่อกี้นั่นแหละที่ทำฉันร้อนไปหมดทั้งตัวเลย
หลังจากนั้นฉันก็กลับมานั่งที่โซฟาตัวเดิม เพิ่มเติมคือใจที่เต้นระรัวอยู่ตอนนี้
อึก!!
ฉันกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่ เมื่อภาพของพี่องศาฉายวับเข้ามาในหัวของฉัน ทำไมมันถึงได้ใหญ่โตอลังการขนาดนั้นกัน
“ไอ้คุณองศา กูนึกว่ามึงตายห่าอยู่ข้างบนแล้วนะนั่น ขึ้นไปโคตรนาน ทิ้งกูนั่งดื่มอยู่คนเดียว”
“กูไปอาบน้ำมา นี่เดี๋ยวว่าจะกลับเลย พรุ่งนี้มีประชุมเช้า”
“ทิ้งกูอีกคนแล้วนะมึง”
“กูไม่ได้ทิ้ง แต่พรุ่งนี้กูมีประชุมเช้าจริงๆ น้องมึงก็อยู่ ให้พราวมานั่งดื่มเป็นเพื่อนดิ” ฉันที่สติสตังกระเจิดกระเจิงไปก่อนหน้านี้ หันไปมองยังต้นเสียงที่คุยกัน ก่อนที่จะต้องรีบหันหน้ากลับมา เพราะสายตาไปปะทะเข้ากับสายตาพี่องศาที่กำลังมองมาทางฉันพอดี
“พราว พี่จะกลับแล้วนะ ไว้เจอกันที่บริษัทอาทิตย์หน้านะครับ เด็กน้อยนักศึกษาฝึกงาน” พี่องศาตะโกนมาทางฉัน นี่เขาเรียกฉันว่าเด็กน้อยอีกแล้ว คือยี่สิบสองย่างยี่สิบสามแล้วปะ ไม่น้อยแล้วนะ แต่ก็อาจจะเป็นเด็กน้อยในสายตาพี่เขาจริงๆนั่นแหละ เพราะพี่องศาแก่กว่าฉันตั้งแปดปี
แล้วที่เมื่อกี้ที่เขาพูดว่าเจอกันอาทิตย์หน้า เพราะฉันจะเข้าไปเป็นเด็กฝึกงานในบริษัทพี่เขา ความจริงบริษัทพี่เพทายก็มีนะ แต่อาจารย์ไม่อนุญาติฝึกงานในบริษัทของครอบครัวตัวเอง พี่เพทายเลยฝากฉันให้ไปฝึกงานที่บริษัทของพี่องศาแทน
“ขับรถกลับดีๆนะคะ” ฉันหันไปพูดกับพี่เขาตามมารยาท ก่อนจะรีบหันกลับมา เพราะพี่องศายังจ้องมองฉันอยู่ตรงนั้น
“หึ งั้นกูกลับก่อนนะ” สิ้นเสียงพี่องศา เขาก็เดินผ่านฉันไปตรงหน้าประตูบานใหญ่ ฉันได้แต่นั่งมองตามแผ่นหลังกว้างนั้นไป แล้วก็นึกไปถึงสภาพพี่เขาก่อนหน้านี้อีกแล้ว
ยัยพราวฟ้า ทำไมแกเป็นคนแบบนี้นะ ฉันได้แต่ก่นด่าตัวเองอยู่ในใจ
เอ๊ะ เหมือนฉันจะลืมอะไรไป ลืมแนะนำตัวกับทุกคนไง ใช่มั้ย เอ่อคือ ฉันชื่อพราวฟ้านะ มีพี่ชายสุดหล่อที่อายุห่างกันถึงแปดปีอยู่หนึ่งคนชื่อพี่เพทาย คนที่ใช้ฉันขึ้นไปตามเพื่อนเขานั่นแหละ
ตอนนี้ฉันเรียนมหาลัยปีสุดท้ายแล้ว กำลังจะเริ่มฝึกงานอาทิตย์หน้า ส่วนคนที่เพิ่งกลับไปเมื่อกี้ชื่อพี่องศาเป็นเพื่อนสนิทของพี่ชายฉันค่ะ ที่สำคัญหล่อมากถึงแม้อายุจะสามสิบแล้วก็ตาม แต่หน้าเหมือนยังยี่สิบต้นๆอยู่เลย
อีกอย่างคือฉันชอบเขา ชอบตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็คือชอบไปแล้ว แต่ฉันก็พยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้คิดเกินเลยมากไปกว่านี้ เพราะฉันรู้ดีว่ายังไงพี่องศาก็คงไม่มีทางสนใจผู้หญิงที่อายุห่างกับเขาเกือบสิบปีอย่างฉัน ที่สำคัญฉันเป็นน้องสาวของเพื่อนสนิทเขาด้วยไง เฮ้อ คิดแล้วเศร้าอยากขอเหล้าเข้มๆ
“พี่เพทาย เลิกดื่มแล้วขึ้นไปอาบน้ำนอนเถอะ เมาแล้วนะ” ฉันที่เห็นว่าพี่ชายตัวเองเริ่มจะนั่งเอนตัวไปมา ก็อดไม่ได้ที่จะลุกมาหาเขา
“เมาที่หนายยยยย ยังม่ายมาวววว” เมื่อกี้ยังพูดปกติอยู่เลย ตอนนี้เสียงเริ่มยานคางซะละ แล้วบอกว่ายังไม่เมา ฉันละเพลียกับพี่ชายสายดื่มของฉันจริงๆ เฮ้อ
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา…. 08.30 น.
บริษัทฯ (วันแรกของการฝึกงาน)
“สวัสดีค่ะ หนูเป็นนักศึกษาฝึกงานที่จะเริ่มฝึกงานวันนี้ค่ะ”
ฉันเอ่ยบอกฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์ด้านหน้าบริษัทของพี่องศาไป ก่อนที่พี่ผู้หญิงตรงหน้าจะตอบฉันกลับมาแล้วต่อสายหาใครสักคน
“เดี๋ยวรอสักครู่นะคะ” ฉันพยักหน้าให้พี่เขาไปแทนคำตอบ และในขณะที่ฉันกำลังยืนรอพี่ผู้หญิงด้านหน้าโทรหาใครอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงนึงดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
“พราว มาแล้วเหรอ” ฉันรีบหันไปตามเสียงเรียกจากคนด้านหลัง ก่อนจะพบว่าเป็นพี่องศา ที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของฉัน แล้วนี่ทำไมฉันจะต้องมองไปที่รูปร่างได้สัดส่วนในชุดสูทของพี่เขากัน บ้าจริง
“พ พี่องศา สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้พี่เขาทันที หลังจากที่เรียกสติตัวเองกลับมาได้
“เดี๋ยวรอพี่แป๊บนึงนะ” พอพี่องศาพูดจบ เขาก็เดินไปคุยกับพนักงานที่นั่งตรงเคาน์เตอร์ทันที และ….
“ปะ ขึ้นไปข้างบนกัน เดี๋ยวพี่พาเราไป” พี่องศาเดินนำหน้าฉันไปหลังจากที่พูดจบ ซึ่งฉันก็เดินตามพี่เขาไปทันที
“กระโปรงจะสั้นไปไหน” ประโยคแรกที่เขาพูดกับฉันหลังจากที่เราสองคนเข้ามาอยู่ในลิฟต์ที่กำลังขึ้นไปยังชั้นยี่สิบที่เป็นชั้นบนสุด
“สั้นตรงไหนคะ นี่ไม่สั้นแล้วนะ คนอื่นใส่สั้นกว่าพราวอีก” คือวันนี้ฉันใส่กระโปรงทรงเอยาวเหนือเข่าขึ้นมาไม่กี่คืบเอง แค่นี้ไม่สั้นเลยนะ นี่พูดจริง
“เป็นเด็กเป็นเล็กกล้าเถียงผู้ใหญ่”
“พราวไม่เล็กแล้วนะ นี่โตแล้ว” ทำไมเขาชอบพูดเหมือนฉันเป็นเด็กอยู่ได้
“อืม ไม่เล็กแล้วจริงๆ” เขาพูดแค่นั้นก่อนจะรีบหันหน้าไปทางอื่น แต่เมื่อกี้ฉันเห็นนะว่าเขาแอบมองหน้าอกฉันอะ ไอ้ที่ว่าไม่เล็กของเขานี่คือยังไง
“แล้วนี่เรากำลังจะไปไหนคะ” ฉันเอ่ยถามคนที่ยืนอยู่ข้างๆ หลังจากที่พี่เขาเงียบอยู่นาน
“ไปห้องทำงานพี่” ไปห้องทำงานเขางั้นเหรอ ไปทำไมกัน และก่อนที่ฉันจะได้เอ่ยถามคำถามที่ตัวเองสงสัยเมื้อกี้ ประตูลิฟต์ก็เปิดออกทันที นี่ถึงแล้วสินะ
“คุณองศา สวัสดีค่ะ” เมื่อเดินไปถึงโต๊ะทำงานที่อยู่ห่างออกมาจากประตูบานใหญ่ประมาณห้าสิบเมตรเห็นจะได้ ก็มีพี่ผู้หญิงคนนึงรีบลุกจากเก้าอี้แล้วยกมือไหว้พี่องศาทันที
“สวัสดีครับคุณสุนีย์ เรื่องที่ผมให้จัดการเสร็จแล้วใช่มั้ย”
“เสร็จแล้วค่ะ”
“ขอบคุณครับ” แล้วพอพี่องศาพูดจบ เขาก็เดินตรงไปห้องทำงานของเขาทันที และ…..
“ยืนทำหน้างงทำไม ตามมาสิ” เขาหันมาพูดกับฉันก่อนจะผลักบานประตูเข้าไป พอเห็นแบบนั้นฉันก็เดินตามพี่องศาไปติดๆ
“โต๊ะทำงานของพราว” พี่องศาพยักพเยิดหน้าไปตรงโต๊ะทำงานขนาดกลางที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ ซึ่งฉันคิดว่าเป็นโต๊ะทำงานของพี่เขานั่นแหละ
“พี่จะให้พราวนั่งทำงานในนี้เหรอคะ?” ฉันถามคนตรงหน้าอย่างสงสัย
“ใช่ พี่จะให้พราวนั่งทำงานในห้องนี้กับพี่”
“แล้วใครจะสอนงานพราวละคะ พี่เหรอ?” อันนี้ฉันก็สงสัยอีกเหมือนกัน
“ก็ประมาณนั้น” ว่าไงนะ ระดับประธานบริษัทต้องลงมาสอนงานเด็กฝึกงานอย่างฉันเลยเหรอ บ้าไปแล้ว
“ก็พี่ชายพราวเล่นกำชับพี่ว่าต้องดูแลให้ดีๆ ริ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอมเลยงี้ พี่ก็ต้องดูแลเด็กน้อยอย่างเราเป็นพิเศษหน่อยสิ” เอาอีกละ ว่าฉันเป็นเด็กน้อยอีกละ
“อ่อ ลืมไปว่าไม่น้อยแล้ว ใหญ่พอตัวเหมือนกัน” ก่อนที่ฉันจะได้อ้าปากเถียงพี่องศาไป พี่เขาก็ชิงพูดออกมาซะก่อน แล้วอะไรคือใหญ่พอตัวกันเล่า บ้าจริง
หลายชั่วโมงต่อมา 12.30 น. “พราว เที่ยงครึ่งแล้วไปกินข้าวกัน” ฉันที่กำลังนั่งศึกษาเอกสารต่างๆ บนโต๊ะอย่างตั้งอกตั้งใจ ถึงกับต้องรีบเงยหน้าขึ้นไปตามเสียงเรียกของพี่องศาทันที “ได้เวลากินข้าวแล้วเหรอคะ?” “ครับ พราวอยากกินอะไรมั้ย เดี๋ยวพี่พาไป” อยากกินอะไรงั้นเหรอ แถวนี้มีอะไรให้กินบ้างนะ “พี่องศาเลี้ยงพราวเหรอคะ” ฉันแกล้งถามคนตรงหน้าออกไป แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้ใจของฉันสั่นระรัว “ให้เลี้ยงไปทั้งชีวิตเลยมั้ย ได้นะพี่ชอบเลี้ยงเด็ก” เลี้ยงเด็กบ้าอะไรของเขา พูดออกมาซะจนฉันคิดไปไกลแล้วเนี่ย “พราวไม่ใช่เด็กแล้วค่ะ พี่องศานี่ยิ่งแก่ยิ่งความจำเลอะเลือน” ฉันบ่นอุบอิบให้คนตรงหน้า “เดี๋ยวพี่จะบอกไอ้เพทาย ว่าพราวด่ามันแก่” “พี่องศา” “ว่าไงครับ เด็กน้อย” พอ ฉันจะเลิกพูดกับพี่เขาแล้วจริงๆหลายวันต่อมา…KM PUB 22.45 น. “น้องกูฝึกงานเป็นไงบ้าง ทำมึงปวดหัวมั้ย?” ไอ้เพทายที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ข้างๆผมตอนนี้ เอ่ยถามขึ้น “หัวไวดี สอนอะไรจำได้หมด” ผมตอบมันไปตามความจริง คือพราวฟ้าเธอเป็นคนหัวไวมาก พูดไม่กี่คำเธอก็เข้าใจหมดเลย แต่ติดอยู่อย่างเดียวเลยคือ เถียงเก่ง “ฉลาดเหมือนกูไง เลี้ยงเองมากับม
หนึ่งชั่วโมงต่อมาก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!ผมเดินไปเคาะบานประตูห้องนอนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องผม ที่มีร่างบางของพราวฟ้าวิ่งเข้าไปก่อนหน้านี้เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา คือตอนนี้ผมพาเธอมาอยู่ที่คอนโดของผมแล้วนะ “มีอะไรคะ?” เธอถามผมทันทีที่เปิดประตูออกมา“พาเราไปซื้อเสื้อผ้าไง แล้วก็ไปหาอะไรกิน พี่เริ่มหิวแล้ว” ที่บอกว่าพาไปซื้อเสื้อผ้า นั่นก็เพราะเธอไม่มีเสื้อผ้าใส่เลยสักชุด เห็นไอ้เพทายบอกว่าจะเอามาให้พรุ่งนี้“งั้นเดี๋ยวพราวไปหยิบกระเป๋าแป๊บนึงนะคะ” เธอบอกผม ก่อนจะหมุนตัวเข้าไปในห้องนอนตามเดิน ไม่ถึงนาทีเธอก็เดินออกมา“ไปค่ะ พราวพร้อมแล้ว” ยี่สิบนาทีต่อมา…..@ห้างสรรพสินค้า 18.20 น.“เราไปกินข้าวกันก่อนดีมั้ยคะ แล้วค่อยไปเดินซื้อของ เป็นการย่อยอาหารไปในตัว” เป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน เพราะตอนนี้ผมก็หิวจนแสบท้องไปหมดแล้ว“พราวอยากกินอะไร?” ผมหันไปถามเธอ คือผมกินอะไรก็ได้นะ แต่อยากให้พราวฟ้าเป็นคนเลือกร้านที่ตัวเองอยากกินมากกว่า“พี่องศาเลือกเลยค่ะ พราวกินได้หมดเลย” แล้วผมจะเสียเวลาถามเธอทำไมวะ ถ้าน้องมันจะตอบผมกลับมาแบบนี้“งั้นไปกินร้านนั้นกัน” ผมชี้ไปยังร้านชาบูชื่อดังที่อยู่บนห้าง ก่อ
ยี่สิบนาทีต่อมา….“อ๊า….พ พี่องศาคะ พ พราวเสียว” ร่างบางที่นอนเปลือยกายเปล่าอยู่ตรงหน้าผมถึงกับร้องครางออกมา เมื่อถูกผมระรัวปลายลิ้นร้อนใส่กลีบกุหลาบงามสีสดของเธอ ผมใช้ริมฝีปากหนาของตัวเองดูดกินน้ำหวานที่ไหลเยิ้มออกมาอย่างหื่นกระหาย ทำไมถึงหวานขนาดนี้วะ หวานจนอยากจะกลืนกินไปทั้งตัว“อื้อออ พ พราวจะ ม ไม่ไหว”“อยากเสียวกว่านี้ไหม หืม” ผมสอดแทรกนิ้วมือเข้าไปในตัวของเธอ ที่เมื่อได้สัมผัสก็รับรู้ได้เลยว่ามันไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน นี่แค่นิ้วเดียวยังแน่นซะขนาดนี้ แล้วลูกชายของผมมันจะเข้าไปยังไง“อ๊ะ อื้ออ อ๊ะ พ พี่องศา ย อย่าแกล้งค่ะ พราวใจจะขาด” อย่าว่าแต่เธอใจจะขาดเลย ตอนนี้ผมก็รู้สึกว่าตัวเองใจจะขาดเหมือนกัน ผมใช้สายตามองสำรวจไปทั่วร่างกายขาวเนียนไร้ที่ติของเธอ โดยเฉพาะหน้าอกที่มีขนาดใหญ่เกินตัวที่ผมเดาไว้ก่อนหน้านี้ว่าต้องคัพดีแน่ๆ และมันก็ใช่ ตัวก็แค่นี้นมจะใหญ่ไปไหนวะ“อ๊ะ อ๊ะ พ พราวเสียวค่ะ อ๊า….” พราวฟ้าร้องครางออกมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อผมเร่งจังหวะในการขยับนิ้วเข้าออกภายในตัวของเธอ จนในที่สุดเธอก็ปลดปล่อยน้ำสีใสให้ไหลทะลักออกมาจนล้นมือของผม“นิ้วของพี่ ลิ้นของพี่โดนน้องเปิดซิงแล้
วันต่อมา 11.50 น.“พราว ตื่น” ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ หลังจากที่ได้ยินเสียงพี่องศาเอ่ยเรียกข้างๆกกหู“อื้ออ กี่โมงแล้วคะ” “จะเที่ยงแล้วครับ ตื่นมากินข้าวก่อน” นี่ฉันหลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอ แต่ก็ไม่แปลกใจเพราะเมื่อคืนฉันเสียพลังงานมากเกินไปจริงๆ“อ๊ะ” เมื่อฉันขยับตัวลุก ถึงกับต้องอุทานออกมาเมื่อรู้สึกเจ็บแสบไปตรงกลางหว่างขาของตัวเอง ก็จะไม่ให้เจ็บได้ไง ของพี่องศาเล็กซะที่ไหนกัน“เจ็บเหรอ เมื่อคืนพี่นึกว่าพราวเริ่มชินแล้วซะอีก เห็นขย่มพี่เอา ขย่มพี่เอา” นี่พี่เขาไม่คิดว่าฉันจะอายบ้างรึไง ทำไมถึงได้ชอบพูดจาแบบนี้ตลอดเลย“ก็พี่องศาบอกให้พราวทำ” ทั้งๆที่มันเป็นครั้งแรกของฉัน แต่ฉันก็ยังยอมทำตามคำขอของเขา“หึ ว่านอนสอนง่ายดี” คนตรงหน้าพูดแล้วระบายรอยยิ้มออกมา ทำไมเขาถึงได้ดูดีขนาดนี้นะ “จ้องขนาดนี้ พราวอยากกินพี่หรืออยากให้พี่กินพราว” จะมากินพี่กินพราวอะไรของเขา บ้าจริง“พราวจะกินข้าวค่ะ หิวข้าว” ฉันยู่ปากใส่คนตรงหน้า ก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ นี่ฉันพลาดท่าให้คนร้ายกาจแบบเขาได้ยังไงกัน เฮ้อ…..หนึ่งชั่วโมงต่อมา….“จะให้พี่บอกไอ้เพทายเรื่องของเราเลยไหม” จู่ๆพี่องศาที่นั่งเงียบอยู่นา
สองชั่วโมงต่อมา….“อื้ออ อ๊ะ อ๊ะ พ พี่องศา พ พราวเสียว” ฉันที่นั่งขย่มอยู่บนเจ้ามังกรยักษ์ที่มีขนาดลำตัวมหึมาของพี่องศา ร้องครางจนเสียงแหบแห้งอย่างไม่เป็นภาษา“อา….พ พราว พี่จะแตกอีกแล้วครับ” พี่องศาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานก็ร้องครางเสียงกระเส่าไม่ต่างจากฉัน ปั้กปั้กปั้ก!!ฉันยังคงนั่งหันหลังขย่มพี่เขาอยู่แบบนั้น ซึ่งพี่องศาเองก็สวนสะโพกขึ้นมากระแทกฉันไม่ยอมแพ้เช่นกัน จนกระทั่ง…“อ๊า…./อา…..” เราสองคนหลุดเสียงครางออกมาพร้อมกัน ก่อนที่พี่องศาจะปล่อยให้น้ำอุ่นๆของเขาให้พุ่งเข้ามาในตัวของฉันอีกครั้ง(มีรูปภาพประกอบใครที่ซื้ออีบุ๊กแล้วสามารถทักเข้ามาขอคิวอาร์โค้ดที่ซัมทาง FB: Summer Summer นะคะ) “ต่ออีกไหม?” เขากระซิบมาที่ข้างกกหูของฉันเสียงแผ่ว“พี่องศาไหวเหรอคะ อายุเยอะแล้วนะ พราวกลัวพี่หัวใจวาย” ฉันแกล้งพูดออกไป คือสามสิบนี่ฉันว่ายังไม่แก่นะ วัยกำลังดีมากเลยแหละ “แก่ๆอย่างพี่นี่แรงดีนะ ไม่งั้นพราวคงไม่ร้องดังไปสามบ้านแปดบ้านหรอก” อันนี้ไม่เถียงค่ะ เพราะว่าฉันร้องครางเสียงดังมาก มากซะจนกลัวว่าข้างห้องจะได้ยิน หลังๆมาฉันเลยขึ้นไปนอนห้องเขามากกว่า เพราะห้องพี่องศาต่อให้ครางดังแค่ไหน
XZ PUB 01.20 น.“ยัยพราว แกไม่ให้พวกฉันยื่นรอเป็นเพื่อนแน่นะ” ยัยแตงกวาเอ่ยถามฉันหลังจากที่เราสามคนเดินออกมานอกผับ“ไม่เป็นไรจริงๆ นี่เดี๋ยวพี่องศาใกล้จะถึงแล้ว อีกอย่างพวกแกกว่าจะกลับถึงคอนโดอีก” คือคอนโดพวกมันอยู่ไกลจากที่นี่มากค่ะ ขับรถเกือบชั่วโมงเลยนะ อีกอย่างก่อนหน้านี้ฉันก็โทรไปบอกพี่องศาแล้ว เขาก็ออกมาแล้วด้วย อีกเดี๋ยวน่าจะถึงแหละ“งั้นพวกฉันไปก่อนนะเว้ย ดูแลตัวเองด้วยนะเจอกันที่มหาลัยวันจันทร์”“โอเค บ๊ายบาย” หลังจากที่ฉันโบกมือลากับยัยสองคนนั้นไม่ถึงห้านาที จู่ๆก็มีคนเดินมายืนข้างๆ และเมื่อฉันหันไปมองก็พบว่าเป็นผู้ชายหน้าตาดีที่นั่งมองฉันในผับก่อนหน้านี้“จะกลับแล้วเหรอครับ” “ค่ะ” ฉันตอบเขาไปตามมารยาท “ขอเบอร์ได้ไหมครับ”“1669” เห้ย อันนี้ฉันไม่ได้ตอบนะ แต่ฉันจำได้ว่าเป็นเสียงของใคร ยังไม่ทันได้หันไปมองตัวของฉันก็ถูกฝ่ามือหนาของใครบางคนโอบไว้พร้อมกับดึงเข้าไปชิดกับแผงอกของเขา กลิ่นน้ำหอมนี้ชัดเลย“พี่องศา มาแล้วเหรอคะ” ฉันฉีกยิ้มกว้างให้กับคนตัวสูงที่ยืนทำหน้าโหดอยู่ข้างๆ โดยที่สายตาเขาจ้องมองไปยังผู้ชายที่ยืนข้างๆฉันอีกคน จนคนที่ถูกมองรีบขอโทษขอโพยแล้วเดินกลับเข้าไปด้านใ
“หายไปไหนของเขานะ โทรหาก็ไม่รับ” ฉันบ่นพึมพำออกมาในขณะที่ก้าวขาขึ้นบันไดเพื่อจะขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องของตัวเอง คือก่อนหน้านี้ฉันกับพี่องศาขับรถตามกันมาค่ะ ทีแรกพี่องศาก็จะให้ฉันมาพร้อมเขา แต่ฉันบอกว่าอยากขับรถมาเอง พี่องศาเลยขับตามหลังฉันมา แต่ว่าเมื่อกี้เราสองคนเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกันนะ ก่อนที่ฉันจะแยกออกไปหาพี่เพทายที่สระว่ายน้ำด้านหลังของบ้าน แล้วตอนนี้เขาหายไปไหนแกร๊ก!!แอด!!พรึ่บ!!“อ๊ะ” ฉันร้องเสียงหลงออกมาทันทีหลังจากที่เปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง แต่จู่ๆก็ถูกฝ่ามือหนาของใครบางคนดึงตัวฉันจนเซเข้าไปกระแทกกับแผงอกแกร่งของเขา ก่อนที่เขาจะใช้สองแขนโอบรัดรอบเอวคอดของฉันจากทางด้านหลัง“พี่ขึ้นมารอพราวตั้งนาน ทำไมมาช้าจัง หืม” เสียงอันคุ้นเคยดังอยู่ข้างกกหูของฉัน คือไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาเป็นใคร“พี่องศา ปล่อยพราวเดี๋ยวนี้เลยนะ แล้วนี่ขึ้นมาห้องพราวได้ไง ไม่เห็นบอกก่อนเลย” “พี่ก็บอกพราวแล้วไง ว่าคืนนี้พี่จะนอนกับพราวที่นี่” “อื้ออ ปล่อยก่อนสิคะ พราวจั๊กจี้นะ” พี่องศากดสันจมูกโด่งๆของเขาลงมาบนซอกคอขาวเนียนของฉัน ทำให้ตอนนี้ร่างกายของฉันขนลุกซู่ไปทั้งตัวเลย“อยากปล่อยใ
หนึ่งชั่วโมงต่อมา…..ปึกปึกปึก!!“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ พ พี่ องศา อื้อ พ พราว จุก ค่ะ” ฉันที่นอนตัวสั่นไปตามแรงกระแทกอยู่ใต้ร่างหนาถึงกับร้องครางออกมา เมื่อถูกคนตรงหน้าอัดกระแทกเจ้ามังกรยักษ์ของเขาเข้าออกอยู่แบบนั้น “จุกหรือเสียวครับ หืม” เมื่อกี้จุก แต่ว่าตอนนี้เริ่มเสียวแล้วนะ ก็จะไม่ให้เสียวได้ไงหละ ในเมื่อพี่องศาเล่นใช้หัวแม่มือมาบดขยี้ตรงจุดเสียวซ่านของฉัน“อื้ออ อ๊ะ อ๊ะ ย อย่า กดตรงนั้นค่ะ อ๊า” แต่ว่ายิ่งห้ามพี่องศาก็ยิ่งทำ เหมือนเขากำลังแกล้งทรมานฉันยังไงยังงั้นเลย ปึกปึกปึก!!“ซี๊ดดด พราว โคตรแน่นเลย พี่จะแตกอีกแล้วนะ” พี่องศายังคงขยับสะโพกเข้าออกตามจังหวะความต้องการของตัวเอง ส่วนมือก็ยังคงหยอกล้อกับติ่งเสียวของฉันไม่ยอมปล่อย จนฉันเองก็เริ่มจะไม่ไหวแล้วเหมือนกันคือก่อนหน้านี้เราสองคนเอากันในห้องน้ำมาสามรอบแล้วนะ แต่ว่าพี่องศายังไม่ยอมหยุด“อื้ออ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ พ พี่องศา คะ พ พราว….” เสียงฉันขาดหายไปทันที หลังจากที่รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยอยู่กลางอากาศ “อื้มมม พราว อีกนิดเดียวครับ อีกนิด….” “อ๊า…/ ซี๊ดดด” เราสองคนเปล่งเสียงครางออกมาพร้อมกัน ก่อนที่ฉันจะใช้เล็บจิกไปที่แขนทั้งสองข