Share

องศาร้อน(อ้อน)รัก เมียเด็ก
องศาร้อน(อ้อน)รัก เมียเด็ก
Author: Summer_M

ตอนที่ 1 ความใหญ่โต

บ้านพราวฟ้า 21.50 น.

 “ยัยพราว”

“ว่าไงคะ”

“ขึ้นไปตามไอ้องศาที่ห้องพี่ให้ทีดิ๊…..มันตายอยู่ข้างบนแล้วมั้งนั่น”

ฉันที่กำลังนั่งดูรายการวาไรตี้โชว์อยู่ที่ตรงโซฟากลางห้องโถงบ้าน ถึงกับทำหน้ามุ่ย เมื่อถูกคนเป็นพี่ชายเรียกให้ไปตามเพื่อนสนิทของเขาที่หายขึ้นไปบนชั้นสามของบ้าน

ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าหายไปนานเท่าไหร่ แต่ก็คงจะนานพอที่ทำให้พี่เพทายถึงกับต้องใช้ฉันขึ้นไปตาม

“ทำไมพี่เพทายไม่ขึ้นไปตามเองหละคะ พราวกำลังดูวาไรตี้โชว์อยู่” นี่ฉันก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมพี่ชายฉันถึงไม่ขึ้นไปตามเอง

“ขี้เกียจเดิน มันเหนื่อยแล้วก็เมาด้วย” อ่าว แล้วไม่คิดว่าฉันจะเหนื่อยบ้างหรือไง ห้องพี่เพทายอยู่ชั้นสามของบ้านเลยนะ บันไดแต่ละชั้นก็มีเกือบยี่สิบขั้นเข้าให้ ไม่รู้ว่าใครมันเป็นคนออกแบบบ้าน 

แล้วใครใช้ให้ดื่มเยอะแยะขนาดนั้นกัน นั่งดื่มกันตั้งแต่ห้าโมงเย็น จนตอนนี้จะสี่ทุ่มอยู่แล้ว ก็ยังไม่เลิกสักที

ถึงจะบ่นพี่ชายตัวเองแบบนั้น แต่ตอนนี้เท้าทั้งสองข้างของฉันก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องพี่เพทายแล้วเรียบร้อย

ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!

“พี่องศาคะ พี่เพทายให้มาตาม” ฉันเคาะบานประตูห้องนอนขนาดใหญ่ไปอยู่สองสามที แต่ก็เงียบ ไม่มีใครออกมาเปิด

แล้วพอฉันลองหมุนลูกบิดดูก็พบว่าประตูห้องไม่ได้ล็อก

“พี่องศาคะ อยู่ในนี้รึเปล่า” ทำไมถึงไม่มีใครอยู่ในห้องเลยนะ ไฟก็เปิดนี่นา หรือว่าจะอยู่ในห้องน้ำ

“พี่องศาคะ…..” และในขณะที่ฉันกำลังจะเคาะประตูห้องน้ำที่ปิดสนิท จู่ๆคนด้านในก็เปิดประตูออกมาทันที 

O.O

แต่ที่ทำให้ฉันตกใจตอนนี้คือ ทั้งตัวของพี่องศามีผ้าขนหนูแค่ผืนเดียวที่พันอยู่รอบเอวของเขา  

และที่สำคัญคือสายตาของฉันดันมองลงต่ำทำให้ไปปะทะเข้ากับความใหญ่โตที่มันนูนขึ้นเป็นลำอยู่หลังผ้าขนหนูผืนบางนั่น

เฮือก เลือดกำเดาแทบพุ่ง 

“จ้องขนาดนี้…..คิดมิดีมิร้ายกับพี่อยู่เหรอ”

“ปะ เปล่านะคะ พราวแค่ตกใจที่พี่องศาจู่ๆก็เปิดประตูออกมา พอดีพี่เพทายให้ขึ้นมาตามค่ะ” ฉันรีบกลับหลังหันทันที ก่อนจะพูดประโยคเมื่อกี้ออกไป บ้าจริง แล้วทำไมฉันต้องมาเห็นอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย

“หึ” เสียงพี่องศาหัวเราะในลำคอดังออกมา ก่อนที่เขาจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของพี่ชายฉัน 

“ออกไปสิ หรืออยากมองพี่แก้ผ้า” สิ้นเสียงพี่องศา ฉันรีบวิ่งออกมาจากห้องทันทีเลยจ้า ใครจะอยากดูเขาแก้ผ้ากัน บ้าหรือเปล่า

ตึกตึกตึก!!

“วิ่งทำไม แล้วไอ้องศาหละ” พี่เพทายที่เห็นฉันวิ่งลงบันไดมา เอ่ยถามขึ้น 

“เดี๋ยวตามลงมาค่ะ” กำลังใส่เสื้อผ้าอยู่ ไอ้ประโยคหลังนี่ฉันพูดมันในใจนะ 

“แล้วนั่นทำไมหน้าแดง ไม่สบายเหรอ” 

“สงสัยเหนื่อยค่ะ แล้วก็ร้อนมากด้วย” ที่ร้อนนี่ไม่ใช่เพราะอากาศนะ แต่เป็นเพราะคำพูดของพี่องศาเมื่อกี้นั่นแหละที่ทำฉันร้อนไปหมดทั้งตัวเลย

หลังจากนั้นฉันก็กลับมานั่งที่โซฟาตัวเดิม เพิ่มเติมคือใจที่เต้นระรัวอยู่ตอนนี้ 

อึก!!

ฉันกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่ เมื่อภาพของพี่องศาฉายวับเข้ามาในหัวของฉัน ทำไมมันถึงได้ใหญ่โตอลังการขนาดนั้นกัน 

“ไอ้คุณองศา กูนึกว่ามึงตายห่าอยู่ข้างบนแล้วนะนั่น ขึ้นไปโคตรนาน ทิ้งกูนั่งดื่มอยู่คนเดียว” 

“กูไปอาบน้ำมา นี่เดี๋ยวว่าจะกลับเลย พรุ่งนี้มีประชุมเช้า” 

“ทิ้งกูอีกคนแล้วนะมึง” 

“กูไม่ได้ทิ้ง แต่พรุ่งนี้กูมีประชุมเช้าจริงๆ น้องมึงก็อยู่ ให้พราวมานั่งดื่มเป็นเพื่อนดิ” ฉันที่สติสตังกระเจิดกระเจิงไปก่อนหน้านี้ หันไปมองยังต้นเสียงที่คุยกัน ก่อนที่จะต้องรีบหันหน้ากลับมา เพราะสายตาไปปะทะเข้ากับสายตาพี่องศาที่กำลังมองมาทางฉันพอดี

“พราว พี่จะกลับแล้วนะ ไว้เจอกันที่บริษัทอาทิตย์หน้านะครับ เด็กน้อยนักศึกษาฝึกงาน” พี่องศาตะโกนมาทางฉัน นี่เขาเรียกฉันว่าเด็กน้อยอีกแล้ว คือยี่สิบสองย่างยี่สิบสามแล้วปะ ไม่น้อยแล้วนะ แต่ก็อาจจะเป็นเด็กน้อยในสายตาพี่เขาจริงๆนั่นแหละ เพราะพี่องศาแก่กว่าฉันตั้งแปดปี 

แล้วที่เมื่อกี้ที่เขาพูดว่าเจอกันอาทิตย์หน้า เพราะฉันจะเข้าไปเป็นเด็กฝึกงานในบริษัทพี่เขา ความจริงบริษัทพี่เพทายก็มีนะ แต่อาจารย์ไม่อนุญาติฝึกงานในบริษัทของครอบครัวตัวเอง พี่เพทายเลยฝากฉันให้ไปฝึกงานที่บริษัทของพี่องศาแทน

“ขับรถกลับดีๆนะคะ” ฉันหันไปพูดกับพี่เขาตามมารยาท ก่อนจะรีบหันกลับมา เพราะพี่องศายังจ้องมองฉันอยู่ตรงนั้น 

“หึ งั้นกูกลับก่อนนะ” สิ้นเสียงพี่องศา เขาก็เดินผ่านฉันไปตรงหน้าประตูบานใหญ่ ฉันได้แต่นั่งมองตามแผ่นหลังกว้างนั้นไป แล้วก็นึกไปถึงสภาพพี่เขาก่อนหน้านี้อีกแล้ว

ยัยพราวฟ้า ทำไมแกเป็นคนแบบนี้นะ ฉันได้แต่ก่นด่าตัวเองอยู่ในใจ

เอ๊ะ เหมือนฉันจะลืมอะไรไป ลืมแนะนำตัวกับทุกคนไง ใช่มั้ย เอ่อคือ ฉันชื่อพราวฟ้านะ มีพี่ชายสุดหล่อที่อายุห่างกันถึงแปดปีอยู่หนึ่งคนชื่อพี่เพทาย คนที่ใช้ฉันขึ้นไปตามเพื่อนเขานั่นแหละ 

ตอนนี้ฉันเรียนมหาลัยปีสุดท้ายแล้ว กำลังจะเริ่มฝึกงานอาทิตย์หน้า ส่วนคนที่เพิ่งกลับไปเมื่อกี้ชื่อพี่องศาเป็นเพื่อนสนิทของพี่ชายฉันค่ะ ที่สำคัญหล่อมากถึงแม้อายุจะสามสิบแล้วก็ตาม แต่หน้าเหมือนยังยี่สิบต้นๆอยู่เลย 

อีกอย่างคือฉันชอบเขา ชอบตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็คือชอบไปแล้ว แต่ฉันก็พยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้คิดเกินเลยมากไปกว่านี้ เพราะฉันรู้ดีว่ายังไงพี่องศาก็คงไม่มีทางสนใจผู้หญิงที่อายุห่างกับเขาเกือบสิบปีอย่างฉัน ที่สำคัญฉันเป็นน้องสาวของเพื่อนสนิทเขาด้วยไง เฮ้อ คิดแล้วเศร้าอยากขอเหล้าเข้มๆ

“พี่เพทาย เลิกดื่มแล้วขึ้นไปอาบน้ำนอนเถอะ เมาแล้วนะ” ฉันที่เห็นว่าพี่ชายตัวเองเริ่มจะนั่งเอนตัวไปมา ก็อดไม่ได้ที่จะลุกมาหาเขา

“เมาที่หนายยยยย ยังม่ายมาวววว” เมื่อกี้ยังพูดปกติอยู่เลย ตอนนี้เสียงเริ่มยานคางซะละ แล้วบอกว่ายังไม่เมา ฉันละเพลียกับพี่ชายสายดื่มของฉันจริงๆ เฮ้อ

 

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา…. 08.30 น.

บริษัทฯ (วันแรกของการฝึกงาน) 

“สวัสดีค่ะ หนูเป็นนักศึกษาฝึกงานที่จะเริ่มฝึกงานวันนี้ค่ะ” 

ฉันเอ่ยบอกฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์ด้านหน้าบริษัทของพี่องศาไป ก่อนที่พี่ผู้หญิงตรงหน้าจะตอบฉันกลับมาแล้วต่อสายหาใครสักคน

“เดี๋ยวรอสักครู่นะคะ” ฉันพยักหน้าให้พี่เขาไปแทนคำตอบ และในขณะที่ฉันกำลังยืนรอพี่ผู้หญิงด้านหน้าโทรหาใครอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงนึงดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง

“พราว มาแล้วเหรอ” ฉันรีบหันไปตามเสียงเรียกจากคนด้านหลัง ก่อนจะพบว่าเป็นพี่องศา ที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของฉัน แล้วนี่ทำไมฉันจะต้องมองไปที่รูปร่างได้สัดส่วนในชุดสูทของพี่เขากัน บ้าจริง

“พ พี่องศา สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้พี่เขาทันที หลังจากที่เรียกสติตัวเองกลับมาได้

“เดี๋ยวรอพี่แป๊บนึงนะ”  พอพี่องศาพูดจบ เขาก็เดินไปคุยกับพนักงานที่นั่งตรงเคาน์เตอร์ทันที และ….

“ปะ ขึ้นไปข้างบนกัน เดี๋ยวพี่พาเราไป” พี่องศาเดินนำหน้าฉันไปหลังจากที่พูดจบ ซึ่งฉันก็เดินตามพี่เขาไปทันที

“กระโปรงจะสั้นไปไหน” ประโยคแรกที่เขาพูดกับฉันหลังจากที่เราสองคนเข้ามาอยู่ในลิฟต์ที่กำลังขึ้นไปยังชั้นยี่สิบที่เป็นชั้นบนสุด

“สั้นตรงไหนคะ นี่ไม่สั้นแล้วนะ คนอื่นใส่สั้นกว่าพราวอีก” คือวันนี้ฉันใส่กระโปรงทรงเอยาวเหนือเข่าขึ้นมาไม่กี่คืบเอง แค่นี้ไม่สั้นเลยนะ นี่พูดจริง

“เป็นเด็กเป็นเล็กกล้าเถียงผู้ใหญ่” 

“พราวไม่เล็กแล้วนะ นี่โตแล้ว” ทำไมเขาชอบพูดเหมือนฉันเป็นเด็กอยู่ได้

“อืม ไม่เล็กแล้วจริงๆ” เขาพูดแค่นั้นก่อนจะรีบหันหน้าไปทางอื่น แต่เมื่อกี้ฉันเห็นนะว่าเขาแอบมองหน้าอกฉันอะ ไอ้ที่ว่าไม่เล็กของเขานี่คือยังไง 

“แล้วนี่เรากำลังจะไปไหนคะ” ฉันเอ่ยถามคนที่ยืนอยู่ข้างๆ หลังจากที่พี่เขาเงียบอยู่นาน 

“ไปห้องทำงานพี่” ไปห้องทำงานเขางั้นเหรอ ไปทำไมกัน และก่อนที่ฉันจะได้เอ่ยถามคำถามที่ตัวเองสงสัยเมื้อกี้ ประตูลิฟต์ก็เปิดออกทันที นี่ถึงแล้วสินะ

“คุณองศา สวัสดีค่ะ” เมื่อเดินไปถึงโต๊ะทำงานที่อยู่ห่างออกมาจากประตูบานใหญ่ประมาณห้าสิบเมตรเห็นจะได้ ก็มีพี่ผู้หญิงคนนึงรีบลุกจากเก้าอี้แล้วยกมือไหว้พี่องศาทันที

“สวัสดีครับคุณสุนีย์ เรื่องที่ผมให้จัดการเสร็จแล้วใช่มั้ย” 

“เสร็จแล้วค่ะ” 

“ขอบคุณครับ” แล้วพอพี่องศาพูดจบ เขาก็เดินตรงไปห้องทำงานของเขาทันที และ…..

“ยืนทำหน้างงทำไม ตามมาสิ” เขาหันมาพูดกับฉันก่อนจะผลักบานประตูเข้าไป พอเห็นแบบนั้นฉันก็เดินตามพี่องศาไปติดๆ

“โต๊ะทำงานของพราว” พี่องศาพยักพเยิดหน้าไปตรงโต๊ะทำงานขนาดกลางที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ ซึ่งฉันคิดว่าเป็นโต๊ะทำงานของพี่เขานั่นแหละ

“พี่จะให้พราวนั่งทำงานในนี้เหรอคะ?” ฉันถามคนตรงหน้าอย่างสงสัย 

“ใช่ พี่จะให้พราวนั่งทำงานในห้องนี้กับพี่” 

“แล้วใครจะสอนงานพราวละคะ พี่เหรอ?” อันนี้ฉันก็สงสัยอีกเหมือนกัน 

“ก็ประมาณนั้น” ว่าไงนะ ระดับประธานบริษัทต้องลงมาสอนงานเด็กฝึกงานอย่างฉันเลยเหรอ บ้าไปแล้ว

“ก็พี่ชายพราวเล่นกำชับพี่ว่าต้องดูแลให้ดีๆ ริ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอมเลยงี้ พี่ก็ต้องดูแลเด็กน้อยอย่างเราเป็นพิเศษหน่อยสิ” เอาอีกละ ว่าฉันเป็นเด็กน้อยอีกละ

“อ่อ ลืมไปว่าไม่น้อยแล้ว ใหญ่พอตัวเหมือนกัน” ก่อนที่ฉันจะได้อ้าปากเถียงพี่องศาไป พี่เขาก็ชิงพูดออกมาซะก่อน แล้วอะไรคือใหญ่พอตัวกันเล่า บ้าจริง

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status