Share

ตอนที่ 5 เปลี่ยนบรรยากาศ

วันต่อมา 11.50 น.

“พราว ตื่น” ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ หลังจากที่ได้ยินเสียงพี่องศาเอ่ยเรียกข้างๆกกหู

“อื้ออ กี่โมงแล้วคะ” 

“จะเที่ยงแล้วครับ ตื่นมากินข้าวก่อน” นี่ฉันหลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอ แต่ก็ไม่แปลกใจเพราะเมื่อคืนฉันเสียพลังงานมากเกินไปจริงๆ

“อ๊ะ” เมื่อฉันขยับตัวลุก ถึงกับต้องอุทานออกมาเมื่อรู้สึกเจ็บแสบไปตรงกลางหว่างขาของตัวเอง ก็จะไม่ให้เจ็บได้ไง ของพี่องศาเล็กซะที่ไหนกัน

“เจ็บเหรอ เมื่อคืนพี่นึกว่าพราวเริ่มชินแล้วซะอีก เห็นขย่มพี่เอา ขย่มพี่เอา” นี่พี่เขาไม่คิดว่าฉันจะอายบ้างรึไง ทำไมถึงได้ชอบพูดจาแบบนี้ตลอดเลย

“ก็พี่องศาบอกให้พราวทำ” ทั้งๆที่มันเป็นครั้งแรกของฉัน แต่ฉันก็ยังยอมทำตามคำขอของเขา

“หึ ว่านอนสอนง่ายดี” คนตรงหน้าพูดแล้วระบายรอยยิ้มออกมา ทำไมเขาถึงได้ดูดีขนาดนี้นะ 

“จ้องขนาดนี้ พราวอยากกินพี่หรืออยากให้พี่กินพราว” จะมากินพี่กินพราวอะไรของเขา บ้าจริง

“พราวจะกินข้าวค่ะ หิวข้าว” ฉันยู่ปากใส่คนตรงหน้า ก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ นี่ฉันพลาดท่าให้คนร้ายกาจแบบเขาได้ยังไงกัน เฮ้อ…..

หนึ่งชั่วโมงต่อมา….

“จะให้พี่บอกไอ้เพทายเรื่องของเราเลยไหม” จู่ๆพี่องศาที่นั่งเงียบอยู่นานก็พูดขึ้นมา เรื่องของเราที่ว่าก็คือเรื่องที่เราสองคนตกลงคบกันแล้วค่ะ ตั้งแต่เมื่อคืน

“พี่องศาไม่กลัวถูกพี่เพทายต่อยหน้าเหรอคะ” ฉันหันไปถามเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง คือพี่ชายฉันอะค่อนข้างที่จะหวงฉันมากนะ หวงชนิดที่ว่าผู้ชายคนไหนไม่กล้าเข้ามาจีบเลย 

“ก็แค่นอนหยอดน้ำข้าวต้มเอง อีกอย่างพี่ก็มีพราวดูแลอยู่ข้างๆ ไม่เห็นต้องกลัว” 

“พราวยังไม่ได้บอกเลยนะ ว่าพราวจะดูแลพี่” นี่เขาคิดเองเออเองเก่งขนาดนี้ได้ยังไงกัน

“งั้นพี่ก็จะบอกความจริงไอ้เพทาย ว่าพราวนั่นแหละที่ข่มขืนพี่” โอ้ย อยากจะบ้าจริงๆ เดี๋ยวก็ปู้ยี่ปู้ยำ เดี๋ยวก็ข่มขืน นี่เขาพูดเหมือนตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว ทั้งๆที่เขานั่นแหละปู้ยี่ปู้ยำฉันเมื่อคืน 

“พี่องศาเป็นคนร้ายกาจแบบนี้เองเหรอคะ” ปกติพี่เขาเป็นคนอ่อนโยนมากนะ ไม่คิดว่าตัวตนของเขาอีกด้านจะแฝงความร้ายกาจอยู่

“พี่ร้ายกาจยังไง หืม” ยังมีหน้ามาถามว่าร้ายกาจยังไง ก็เขาชอบทำให้ฉันเขินแบบนี้ไง 

แล้วพอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนตอนที่เขาถามฉันว่าจะรับผิดชอบเขายังไง จู่ๆหน้าฉันก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีเลยให้ตาย งื้อ….

‘อย่าเพิ่งนอนสิ ยังไม่ได้ตอบพี่เลยนะว่าจะรับผิดชอบพี่ยังไง’

‘พราวไม่รู้’

‘แต่พี่รู้’ 

‘รู้ว่าไงคะ’

‘รู้ว่าตอนนี้พี่เป็นของพราว แล้วพราวก็เป็นของพี่’

‘แล้วยังไงต่อคะ’

‘มาคบกับพี่ แล้วพี่จะยอมให้พราวปู้ยี่ปู้ยำเหมือนเมื่อกี้ ไปตลอดชีวิต’

หนึ่งเดือนต่อมา…..

@บริษัท 19.00 น.

“พราวครับ มาหาพี่หน่อย” ฉันหันไปตามเสียงเรียกของพี่องศา ที่กำลังนั่งมองมาทางฉันอยู่

“ว่าไงคะ มีอะไรเหรอ?”

“มานั่งตรงนี้สิ” พี่องศาว่าพลางส่งสายตาเป็นเชิงบอกว่าให้ฉันไปนั่งบนตักของเขา อะไรอีกละเนี่ย 

แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยอมเดินไปหาเขาก่อนจะหย่อนสะโพกลงไปบนหน้าตักแกร่ง

“เราลองเปลี่ยนบรรยากาศดูไหม” ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร

“ทำไมคะ พี่อยากเอาพราวตรงนี้เหรอ” ตรงนี้ที่ว่าก็คือในห้องทำงานของเขานี่แหละ 

“แล้วได้ไหม หืม” พี่องศาพูดขึ้นก่อนจะซุกไซ้จมูกลงมาบนซอกคอขาวเนียนของฉัน

“อื้อ เดี๋ยวก่อนสิคะ พราวยังไม่ได้ตกลงเลยนะ” แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ นอกจากพี่องศาจะไม่ฟังแล้ว เขายังจับขาเรียวสวยของฉันให้แยกออกจากกัน ก่อนที่เขาจะใช้มือหนาล้วงเข้ามาในกระโปรงนักศึกษาของฉันแล้วก็…..

“อื้ออ พ พี่องศา หยุดก่อนค่ะ เดี๋ยวใครผ่านมาได้ยิน” 

“เวลานี้เหลือแต่ยามที่เฝ้าหน้าออฟฟิตนั่นแหละ ทุกคนกลับบ้านกันหมดแล้วพราว” ปากว่าแต่นิ้วเขานี่บดขยี้ติ่งเสียวของฉันอยู่ตลอดเวลา

“อ๊ะ อื้อ ย อย่ากดสิคะ พราวเสียว” และในขณะที่ฉันกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสที่พี่องศามอบให้นั้น จู่ๆก็มีเสียงคนคุยกันดังมาจากด้านหน้าประตู

ฉันรีบเด้งตัวลุกออกจากตักพี่องศาทันที ก่อนจะรีบเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง 

O.O

“ทำไมทำหน้าตาแบบนั้นหะ ยัยพราว นี่พี่ชายสุดที่รักของแกนะ ไม่ใช่ผีนะเว้ย” พี่เพทายพูดขึ้น หลังจากที่ผลักประตูเข้ามา ก่อนจะเดินมาทิ้งตัวลงบนโซฟากลางห้องทำงาน

“ไอ้เหี้ย ให้กูหิ้วอยู่คนเดียว มึงนี่เดินตัวปลิวขึ้นมาเลยนะ สัส” ก่อนที่จะมีอีกเสียงนึงดังขึ้นมา แล้วนั่นพี่คามินถืออะไรมาเยอะแยะขนาดนั้น

“พวกมึงมาทำเหี้ยไรกัน” คนที่โดนขัดจังหวะเมื่อกี้ พูดขึ้นเสียงดุ ก่อนจะขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้กับโต๊ะทำงานของตัวเอง

“มากินเหล้ากับมึงไง เห็นช่วงนี้มึงไม่ค่อยว่างที่จะออกไปดื่มกับพวกกู” พี่คามินว่าก่อนจะวางของที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะกระจก

“แล้วนี่เพื่อนมาหา มึงไม่คิดจะลุกมานั่งกับพวกกูเลยรึไง”

“กูขอเคลียร์งานให้เสร็จก่อน เดี๋ยวไป” งานที่ว่านี่คงจะเป็นไอ้นั่นของเขานั่นแหละ ก็เมื่อกี้ก่อนจะเด้งลุกจากตักเขา ฉันรับรู้ได้ถึงความแข็งขันที่มันกำลังชูชันขึ้นมาทิ่มสะโพกมนของฉันไง

แล้วตอนนี้ฉันก็เห็นว่าพี่องศาทำหน้าตาเหยเก สงสัยคงจะทรมานมากแน่ๆ ขนาดฉันยังขมิบร่องตัวเองถี่ยิบเลยตอนนี้

“ยัยพราว นั่งกัดปากทำไมวะ” หะ นี่ฉันทำอะไรนะ  ฉันหันไปมองหน้าพี่เพทายทันทีหลังจากที่เขาพูดประโยคเมื่อกี้จบ

“อ เอ่อ พอดีเมื่อกี้พราวโดนมดกัดปากค่ะ ตอนนี้เลยคันๆ” พี่องศาหันมามองหน้าฉัน ก่อนจะลอบยิ้มออกมา ยังจะยิ้มอีกคนบ้า นี่ถ้าพี่เพทายเปิดมาเจอภาพเมื่อกี้นี้นะ ความแตกแน่

สองชั่วโมงต่อมา 

“ยัยพราว แล้วนี่ไม่คิดจะกลับไปอยู่บ้านแล้วเหรอ?” เสียงไอ้เพทายเอ่ยถามพราวฟ้า ที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ด้านข้างมัน 

ที่มันถามแบบนั้นเพราะตอนนี้พราวฟ้าย้ายออกมาอยู่คอนโดเดียวกับผมแล้วครับ แต่คนละห้องนะ ห้องเธออยู่ชั้นยี่สิบห้า ส่วนห้องผมอยู่ชั้นสามสิบซึ่งเป็นชั้นบนสุดของตึก แต่ตอนกลางคืนเราสองคนก็นอนกอดกันทุกคืน ถ้าผมไม่ลงไปนอนกับเธอ เธอก็ขึ้นมานอนกับผมแต่ส่วนมากพราวฟ้าจะขึ้นมานอนห้องผมมากกว่า

“รอฝึกงานเสร็จค่ะ อีกอย่างคอนโดที่อยู่ตอนนี้ก็อยู่ใกล้กับบริษัทด้วย แถมยังไปกลับฟรีทุกวัน ไม่ต้องเสียตังเติมน้ำมันรถสักบาท ใช่มั้ยคะ พี่องศา” ร่างบางที่นั่งยิ้มหน้าระรื่นอยู่ตอนนี้หันหน้ามาพูดกับผม ที่เธอพูดแบบนั้นก็เพราะทุกวันนี้เราสองคนไปกลับบริษัทด้วยกันไงครับ

“เหอะ เดี๋ยวนี้ไอ้องศากลายเป็นพี่ชายคนโปรดแทนพี่แล้วสิ”

“จะน้อยใจทำไมคะ พราวก็รักพี่เพทายเหมือนเดิมทุกวัน” ว่าจบเธอก็พิงหัวไปกับไหล่กว้างของไอ้เพทายทันที ทำไมเธออ้อนเก่งขนาดนี้นะ ตอนอยู่กับผมไม่เห็นอ้อนแบบนี้บ้างเลยวะ

“พวกมึง เดี๋ยวกูไปก่อนนะ พอดีเด็กที่ร้านไลน์มาตาม เหมือนจะเกิดเรื่อง” ไอ้คามินที่นั่งดื่มอยู่ข้างๆผมพูดขึ้น

“อ่าวเห้ย งั้นเดี๋ยวกูไปด้วย กูจะไปดื่มต่อที่ร้านมึง” แล้วไอ้เพทายก็พูดขึ้นมาอีกคน หลังจากนั้นพวกมันสองคนก็พากันกลับไป  

แกร๊ก!

ผมเดินไปล็อกประตูห้องทำงาน ก่อนจะเดินกลับมาหาคนที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์อยู่บนโซฟา

“อื้อ พ พี่องศา” พราวฟ้าเอ่ยเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า หลังจากที่ผมซุกไซ้จมูกลงไปบนซอกคอขาวเนียนของเธอ

“เรามาต่อจากก่อนหน้านี้ดีมั้ย” ไม่พูดเปล่า แต่ผมใช้สองมือของผมช้อนตัวของพราวฟ้าขึ้นมาในท่าเจ้าหญิง ก่อนจะพาเธอเดินตรงไปที่โต๊ะทำงานขนาดใหญ่ของผม 

“จะเอาบนนี้เหรอคะ” ร่างบางที่นั่งอยู่บนโต๊ะทำงานผมถามขึ้น

“ก็เปลี่ยนบรรยากาศไง ได้ไหม หืม” ได้ไม่ได้ไม่รู้ แต่ตอนนี้ผมลงมานั่งคุกเข่าอยู่กลางหว่างขาของเธอแล้ว 

“อื้อ พ พี่องศา” เสียงพราวฟ้าร้องครางออกมาหลังจากที่ผมแตะลิ้นร้อนลงไปบนกลีบกุหลาบงามของเธอ ไม่ต้องถามหาเสื้อผ้า เพราะผมจัดการถอดมันออกไปเมื่อกี้แล้ว

“เสียวแค่ไหน หืม” ผมใช้ริมฝีปากดูดดึงตรงติ่งเสียวของเธออย่างมูมมาม จนเธอแทบจะร้องขอชีวิต

“อื้อ พ พราวเสียวค่ะ ย หยุดก่อน” ยิ่งได้ยินเสียงร้องของเธอ ผมก็ยิ่งดูดมันหนักขึ้นไปอีก จนในที่สุด…..

“พ พี่องศา อ๊า….” พราวฟ้าปลดปล่อยน้ำสีใสจำนวนมากให้ไหลออกมาจนเกือบจะล้นปากของผม ผมกลืนน้ำของเธอลงลำคอไปอย่างไม่คิดรังเกียจแม้แต่น้อย

“ถึงตาพี่บ้างนะ” ไม่รอช้าผมรีบหยัดกายเต็มความสูงของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะขอให้เธอใช้ปากปรนเปรอลูกชายของผม

“อื้มม แบบนั้นแหละพราว เร็วกว่านี้อีก ซี๊ด”

“อื้อ” พราวฟ้าเร่งจังหวะในการใช้ปากของเธอกับลูกชายผม จนกระทั่ง…

“อา…..”

อึก!!

“ทำไมน้ำถึงเยอะขนาดนี้คะ เมื่อคืนก็เพิ่งปล่อยไป” เธอพูดขึ้น ก่อนจะใช้ลิ้นเลียริมฝีปากของตัวเองหลังจากที่เธอกลืนน้ำอุ่นๆของผมลงคอไป

“พี่ปล่อยได้เยอะกว่านี้อีกนะเผื่อพราวจะยังไม่รู้” ผมตอบคนที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นตอนนี้

“งั้นก็ทำให้พราวรู้สิคะ ว่าพี่องศาจะปล่อยได้เยอะแค่ไหน” ตอนได้กันใหม่ๆนี่เธอขี้อายมากนะ ไม่เหมือนกับตอนนี้เลย

“แล้วอย่ามาร้องขอชีวิตทีหลังก็แล้วกันนะครับ” พูดจบผมก็จับพราวฟ้าเล่นบทรักไปทั่วทุกมุมห้องทำงาน เดี๋ยวคืนนี้จะทำให้ร้องครางจนเสียงแหบเสียงหายไปเลย

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status