หลายวันต่อมา…..ห้างสรรพสินค้า “อิ่มแล้วเหรอพราว?” ผมเอ่ยถามร่างบางที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผม หลังจากที่เธอวางช้อนในมือลง แล้วหันไปหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม นี่เธอพึ่งกินไปได้สามสี่คำเอง“ค่ะ ช่วงนี้พราวน้ำหนักขึ้น เริ่มจะอ้วนแล้ว” เธอยู่จมูกกับปากไปพร้อมๆกัน ราวกับเด็กน้อย ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้นะ“ไม่เห็นเป็นไร ขึ้นอีกสักสิบโลยี่สิบโลพี่ก็รับได้” “รับได้จริงเหรอคะ ถ้าพราวอ้วนตุ๊ต๊ะ พี่องศาจะไม่ทิ้งพราวเหรอ?” “ทิ้งเหรอ พี่ว่าคำนี้ไม่เคยอยู่ในหัวพี่เลยนะ พราวมากกว่าที่จะทิ้งพี่” อันนี้ผมพูดจริงนะ เพราะต่อให้พราวฟ้าเธอจะเป็นยังไง จะอ้วนจะผอมขนาดไหน แต่ผมก็ไม่มีวันทิ้งเธอแน่นอน“พราวไม่ทิ้งพี่องศาหรอกค่ะ ถ้าพี่ไม่นอกใจและนอกกายพราว” คนตรงหน้าพูดขึ้นพร้อมกับระบายรอยยิ้มกว้างออกมา“ไม่มีวันนั้นแน่นอนครับ เพราะตัวของพี่หัวใจของพี่เป็นของพราวฟ้าคนนี้คนเดียว” ผมมั่นใจมากนะ เพราะตลอดเวลาที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับพราวฟ้า ผมมีความสุขมาก แทบไม่อยากห่างจากเธอแม้แต่วินาทีเดียวก่อนหน้านี้ผมว่าผมอาจจะชอบเธอโดยที่ผมไม่รู้ตัว พอได้อยู่ใกล้ก็อยากแกล้งตลอดเวลา ยิ่งคืนนั้นที่เราสองคนได้นั่งดื่มนั่งคุยกัน มั
คอนโด 07.40 น.“พราวครับ พราว” ทันทีที่ผมเปิดประตูห้องนอนเข้ามา ก็เห็นพราวฟ้านั่งฟุ่บหน้าหลับอยู่ที่เตียง“อื้อ กลับมาแล้วเหรอคะ?”“ครับ แล้วก็นี่ที่พราวให้พี่ไปซื้อ” ผมยื่นถุงพลาสติกที่มีห่อผ้าอนามัยอยู่ด้านใน ไปตรงหน้าพราวฟ้า เธอรีบยื่นมือมารับไปอย่างไวเลย“ขอบคุณมากๆเลยนะคะ พี่องศาน่ารักที่สุดเลย” ว่าจบเธอก็ยื่นปากมาจุ๊บแก้มผมไปทีนึง ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ว่าแต่….นี่ผมต้องงดกิจกรรมบนเตียงกับเธอไปกี่วันกันนะ เฮ้อ……..ออดดดดดในขณะที่ผมกำลังทำอาหารเช้าต่อจากเมื่อกี้อยู่นั้น จู่ๆเสียงออดหน้าห้องผมก็ดังขึ้นมา ปกติไม่เคยมีใครมาหาผมที่ห้องนี้นะ แล้วนี่ใครมาเวลานี้กันแกร๊ก!!แอดดดด!!“มาทำไม?” ทันทีที่ผมเปิดประตูออกไป หัวคิ้วทั้งสองข้างของผมต้องขมวดเข้าหากัน เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมตอนนี้คือคนเดียวกับที่ผมพึ่งเจอที่ร้านสะดวกซื้อข้างๆคอนโดเมื่อกี้“อยากมาเห็นหน้าพี่สะใภ้อะครับ” ไอ้ฟ่าตอบผมกลับมา ก่อนจะใช้สายตาสอดส่องเข้ามาภายในห้องส่วนตัวของผม“อยากเห็นมากเหรอ?” ผมแกล้งถามมันไป ซึ่งไอ้ฟ่าก็รีบพยักหน้าตอบผมกลับมาทันที“ไว้วันอื่น ที่ไม่ใช่วันนี้” พูดจบผมก็รีบปิดประตูใส
หลายชั่วโมงต่อมา 00.50 น.“อยากกลับหรือยังครับ หืม” ผมหันไปถามร่างบางที่นั่งดื่มอยู่ข้างๆผมตอนนี้หลังจากที่ดูเวลาเมื่อกี้พบว่าใกล้จะตีหนึ่งแล้ว“พี่องศาอยากกลับแล้วเหรอคะ?” พราวฟ้าเองก็ถามผมกลับมาเช่นกัน“ครับ พี่อยากกลับไปให้พยาบาลรักษาแผลพี่ที่ห้องไวๆ” เพราะก่อนหน้านี้พราวฟ้าเป็นคนพูดเองไงว่าคืนนี้จะรับบทเป็นพยาบาลรักษาแผลที่เกิดจากหมัดของไอ้เพทายให้กับผม“งั้นเดี๋ยวพราวบอกพี่เพทายก่อนนะคะ” ว่าจบพราวฟ้าก็หันไปพูดกับไอ้เพทายที่ย้ายตัวมานั่งข้างพวกผมสองคนเมื่อหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้“จะรีบกลับไปนอนกอดกันเหรอ?” ไอ้เพทายที่นั่งอยู่ข้างพราวฟ้าชะโงกหน้ามาถามผมอย่างกวนตีน“ไม่ให้กอดเมีย แล้วจะให้กอดมึงแทนเหรอ?” ผมก็ตอบมันไปแบบกวนตีนเช่นกัน“ไอ้สัส ขนกูลุกหมดแล้ว จะกลับก็รีบกลับไปเลยไป ยัยพราวรีบเอาผัวแกไปเดี๋ยวนี้” สิ้นเสียงไอ้เพทายผมกับพราวฟ้าก็รีบลุกจากโซฟาทันที โดยที่ไม่ลืมหันไปบอกไอ้คามินว่าขอตัวกลับก่อน ————————“ได้ไอ้องศาเป็นน้องเขย รู้สึกยังไง?” คามินที่นั่งดื่มอยู่เอ่ยถามเพื่อนรักอย่างเพทายหลังจากที่องศากับพราวฟ้าขอตัวกลับไปเมื่อกี้“ตอนแรกกูก็ช็อกนะ แต่ตอนนี้กูรู้สึกดีใจอย่างบอก
วันต่อมา 12.20 น.“พราวครับ วันนี้ตอนเย็นพี่มีนัดคุยธุระกับลูกค้า พราวไม่ต้องรอกินข้าวเย็นกับพี่นะ” พี่องศาที่แต่งตัวเสร็จ เดินมาหาฉันที่นั่งเอาหลังพิงหัวเตียงอยู่ก่อนจะเอ่ยขึ้น“กลับดึกเหรอคะ?” “ไม่แน่ใจเหมือนกัน ไว้เดี๋ยวพี่โทรบอกพราวอีกที” ฉันพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้กลับไป ก่อนที่พี่องศาจะโน้มตัวลงมาจุ๊บที่หน้าผากฉันอย่างอ่อนโยน“ไปทำงานได้แล้วค่ะ เดี๋ยวคุณสุนีย์โทรตามอีก” ความจริงวันนี้พี่องศาต้องไปทำงานตั้งแต่ตอนเช้าแล้วนะ แต่กว่าเราสองคนจะได้นอนก็เกือบจะหกโมงเช้าอยู่แล้วคงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกเราทำอะไรกัน อีกอย่างเมื่อช่วงสิบโมงกว่าๆ คุณสนีย์ที่เป็นเลขาพี่องศาก็โทรมาตาม บอกว่ามีเอกสารด่วนจะให้เซ็น“งั้นพี่ไปแล้วนะ ถ้าเหงาก็ชวนเพื่อนไปช้อปปิ้งนะครับ บัตรที่พี่ให้พราวใช้ได้ตามสบายเลยนะ” คนตรงหน้าเอ่ยบอกฉันพร้อมกับระบายรอยยิ้มอย่างอ่อนโยนมาให้ แล้วก็บัตรที่ว่าคือบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินที่พี่องศาให้ฉันเมื่อเดือนก่อนนั่นแหละ ตั้งแต่ที่ไปรูดนาฬิกาให้พี่เพทาย ฉันก็ไม่ได้ใช้อีกเลยคือไม่รู้จะใช้อะไร อีกอย่างพ่อกับแม่ก็ให้เงินฉันไว้ใช้ทุกเดือนอยู่แล้ว ซึ่งมันก็พอสำหรับฉันนะ แต่ถ้าไม่พอก
“พราว” คนตรงหน้าเอ่ยเรียกชื่อฉันทันทีที่หันมาด้วยความตกใจ ส่วนผู้หญิงข้างๆเขาก็ปลายตามามองฉันอย่างไม่สะทกสะท้านใดๆ “ที่บอกว่าลูกค้านี่คือพี่โกหกพราวเหรอ?” ฉันถามคนตรงหน้าออกไปเสียงนิ่ง เพราะสิ่งที่ฉันเห็นตั้งแต่ที่ร้านอาหาร ไปจนถึงซื้อของที่ห้าง ฉันก็ว่าไม่น่าจะใช่ลูกค้าอย่างที่พี่องศาบอก เลยตัดสินใจตามมาจนถึงที่นี่ ก่อนจะเห็นว่าสองคนนี้ยืนจูบกัน“เดี๋ยวพราว ฟังพี่อธิบายก่อน”“พราวไม่อยากฟัง” พูดจบฉันก็วิ่งออกมาจากตรงนั้นอย่างไว โดยที่ไม่สนใจเสียงร้องตะโกนของพี่องศาเลย ถ้าจะถามว่าเสียใจไหมก็เสียใจนะ แต่จะให้ฉันมาร้องห่มร้องไห้เหมือนนางเอกในละครหละก็บอกเลยไม่มีทาง “เป็นไงบ้างมึง เจอพี่องศาไหม?” “ออกรถก่อนเดี๋ยวค่อยเล่า” ทันทีที่ฉันวิ่งมาถึงรถของยัยแตงกวาที่จอดรออยู่ด้านหน้าคอนโดแห่งนี้ ฉันก็รีบขึ้นรถมันทันทีก่อนที่จะบอกให้มันรีบออกรถเนื่องจากว่าพี่องศากำลังวิ่งตามมา “จะเล่าได้ยัง” ยัยนัทตี้ชะโงกหน้ามาถามฉันที่นั่งตรงเบาะหน้าข้างคนขับ“กูเห็นพี่องศากับผู้หญิงคนนั้นยืนจูบกันในห้อง” “กูว่าแล้วเห็นไหม ลูกค้าเหี้ยไรนั่งใกล้จนแทบจะสิงกันอยู่แล้ว ไม่พอยังพากันไปเดินซื้อของบนห้างอีก พี่อ
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด!!(ว่าไงยัยตัวดี โทรหาพี่ได้แล้วเหรอ?) ทันทีที่พี่เพทายรับสาย เขาก็พูดจากระแนะกระแหนฉันทันทีเลย“พราวมีเรื่องจะถามค่ะ”(เรื่องไอ้องศากับควีน?)“พี่รู้จักผู้หญิงคนนั้นเหรอ?”(อืม ยัยนั่นมันชอบไอ้องศา แต่ว่าผัวแกมันไม่เล่นด้วย ถ้ามันคิดจะเอายัยควีนจริงๆมันเอาไปนานแล้ว ไม่รอมาจนถึงป่านนี้หรอก แล้วเรื่องที่แกเห็นเมื่อคืน ไอ้องศาบอกว่ายัยนั่นเป็นคนดึงมันเข้าไปจูบเอง ซึ่งพี่ก็เชื่อมันนะ เพราะเท่าที่พี่รู้จักมันมา มันไม่เคยมีประวัติเรื่องผู้หญิงมาก่อนเลย เอาหัวพี่ชายคนนี้เป็นประกัน) แล้วหลังจากนั้นพี่เพทายก็เริ่มเล่าเรื่องของพี่องศากับยัยพี่ควีนอะไรนั่นให้ฉันฟัง ซึ่งฉันก็ตั้งใจเป็นผู้ฟังที่ดีนะ“พี่องศาเขาบอกเลิกพราว” (หืม ใช่เหรอพราว พี่ว่าไม่น่าจะใช่นะ) “เขาส่งข้อความมาบอกว่าถ้าพราวอยากเลิกกับเขา เขาก็จะเลิกให้ คือพราวยังไม่ได้พูดสักคำเลยนะ ว่าจะเลิกกับเขา” (แล้วพราวตอบมันไปยัง?)“ตอบแล้วค่ะ”(ตอบมันไปว่าไง?) พี่เพทายเอ่ยถามอย่างสงสัย“ตอบไปว่า เลิกก็เลิก” ไม่รู้ว่าเมื่อกี้เกิดผีบ้าอะไรขึ้นมา พอเห็นข้อความนั้นของพี่องศา ฉันก็พิมพ์ตอบเขาไป ซึ่งพอเขาอ่าน เขาก็ไม่ได้ตอบฉันกล
ครืด ครืด ครืด!!ในขณะที่ผมกำลังจะอ้าปากพูดบางประโยคออกไป จู่ๆโทรศัพท์ที่อยู่ในกางเกงก็สั่นขึ้นขัดจังหวะซะก่อน แล้วพอหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นควีนที่โทรเข้ามา“ทำไมไม่รับสายหละคะ” พราวฟ้ากอดอกมองหน้าผมอย่างไม่ยอมละสายตาไปไหน“ควีนโทรมา” ผมชูโทรศัพท์ไปให้คนตรงหน้าดูด้วยความบริสุทธิ์ใจ“รับสายสิคะ พราวอยากรู้เหมือนกันว่าโทรมาทำไม” สิ้นเสียงพราวฟ้าผมก็รับสายควีนทันที ก่อนจะกดเปิดลำโพงให้คนที่นั่งอยู่ด้านข้างฟังด้วย(องศา อยู่ไหนคะ ควีนไลน์ไปไม่อ่านเลย)“ผมอยู่ต่างจังหวัด ควีนมีอะไร?” (ควีนอยากจะขอโทษเรื่องเมื่อคืนก่อน) เรื่องเมื่อคืนก่อนก็คือเรื่องที่เธอดึงผมไปจูบนั่นแหละ หลังจากคืนนั้นผมก็ไม่ได้คุยกับควีนอีกเลย จนกระทั่งวันนี้ที่เธอโทรมา แถมยังโทรมาได้เหมาะเจาะซะจริงๆ“อืม คราวหลังก็อย่าทำแบบนั้นอีก”(องศาไม่โกรธควีนใช่มั้ย?)“ครั้งนี้ผมจะไม่ว่าอะไร แต่อย่าให้มีครั้งต่อไปนะควีน คุณก็รู้ว่าผมมีแฟนแล้ว” (อืม ควีนจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก ขอโทษด้วยนะ)“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมวางนะ พอดีตอนนี้อยู่กับแฟนไม่ค่อยสะดวกคุย” ผมมองหน้าพราวฟ้าที่ตอนนี้เอาแต่นั่งจ้องหน้าผมอยู่ (อะ อืม งั้นควีนไม่กวนองศาแล้ว
สามสิบนาทีต่อมา….@ห้องพัก 20.00 น. “อีพราว นี่มันกี่โมงแล้วคะ…กว่าจะมา” ทันทีที่ฉันเปิดประตูห้องพักเข้ามา เสียงยัยแตงกวาก็ดังมาแต่ไกล“มึงก็อย่าว่ามัน คนเค้ากำลังปรับความใจกันอยู่” ยัยนัทตี้เอ่ยแซวอย่างรู้ทัน“นี่ก็ทำเวลาที่สุดแล้วนะ ขอเปลี่ยนชุดแป๊บ” ฉันว่าพลาง พร้อมกับเดินไปยังตู้เสื้อผ้า ก่อนจะหยิบชุดของตัวเองออกมาแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว“จะใส่ชุดนี้โชว์รอยคิสมาร์กตรงด้านหลังจริงเหรอ?” ยัยแตงกวาถามฉันหลังจากที่ฉันเข้าไปเปลี่ยนชุดมาเมื่อกี้“ด้านหลังก็มีเหรอแก?” ฉันไม่ทันได้สังเกตตัวเองในกระจกไง อีกอย่างไม่ให้โชว์หลังแล้วจะให้โชว์ตรงไหน เพราะด้านหน้าพี่องศาก็เล่นดูดเป็นรอยซะเยอะเลย“มีที่อื่นอีกเหรอ?” “เนินอกตรงนี้ เต็มหมดเลย” ฉันบอกยัยแตงกวาไปลังจากที่มันพูดจบ“มา เดี๋ยวกูเอาคอลซิลเลอร์ทาทับให้” ยัยนัทตี้เอ่ยขึ้น ก่อนจะหันไปหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางมันขึ้นมา….“จัดกันไปกี่ยกวะเนี่ย แป๊บเดียวรอยเต็มตัวเลย” ฉันได้แต่ยิ้มแหยๆให้เพื่อนไป ถ้านับรวมกับในห้องน้ำเมื่อกี้ก็น่าจะห้ายกเห็นจะได้“แล้วนี่สรุปคืนดีกันแล้วใช่มั้ย?” ยัยนัทตี้เอ่ยถามหลังจากที่ยัยแตงกวาพูดจบ“ก็อืม พี่อ