ครืด ครืด ครืด!!ในขณะที่ผมกำลังจะอ้าปากพูดบางประโยคออกไป จู่ๆโทรศัพท์ที่อยู่ในกางเกงก็สั่นขึ้นขัดจังหวะซะก่อน แล้วพอหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นควีนที่โทรเข้ามา“ทำไมไม่รับสายหละคะ” พราวฟ้ากอดอกมองหน้าผมอย่างไม่ยอมละสายตาไปไหน“ควีนโทรมา” ผมชูโทรศัพท์ไปให้คนตรงหน้าดูด้วยความบริสุทธิ์ใจ“รับสายสิคะ พราวอยากรู้เหมือนกันว่าโทรมาทำไม” สิ้นเสียงพราวฟ้าผมก็รับสายควีนทันที ก่อนจะกดเปิดลำโพงให้คนที่นั่งอยู่ด้านข้างฟังด้วย(องศา อยู่ไหนคะ ควีนไลน์ไปไม่อ่านเลย)“ผมอยู่ต่างจังหวัด ควีนมีอะไร?” (ควีนอยากจะขอโทษเรื่องเมื่อคืนก่อน) เรื่องเมื่อคืนก่อนก็คือเรื่องที่เธอดึงผมไปจูบนั่นแหละ หลังจากคืนนั้นผมก็ไม่ได้คุยกับควีนอีกเลย จนกระทั่งวันนี้ที่เธอโทรมา แถมยังโทรมาได้เหมาะเจาะซะจริงๆ“อืม คราวหลังก็อย่าทำแบบนั้นอีก”(องศาไม่โกรธควีนใช่มั้ย?)“ครั้งนี้ผมจะไม่ว่าอะไร แต่อย่าให้มีครั้งต่อไปนะควีน คุณก็รู้ว่าผมมีแฟนแล้ว” (อืม ควีนจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก ขอโทษด้วยนะ)“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมวางนะ พอดีตอนนี้อยู่กับแฟนไม่ค่อยสะดวกคุย” ผมมองหน้าพราวฟ้าที่ตอนนี้เอาแต่นั่งจ้องหน้าผมอยู่ (อะ อืม งั้นควีนไม่กวนองศาแล้ว
สามสิบนาทีต่อมา….@ห้องพัก 20.00 น. “อีพราว นี่มันกี่โมงแล้วคะ…กว่าจะมา” ทันทีที่ฉันเปิดประตูห้องพักเข้ามา เสียงยัยแตงกวาก็ดังมาแต่ไกล“มึงก็อย่าว่ามัน คนเค้ากำลังปรับความใจกันอยู่” ยัยนัทตี้เอ่ยแซวอย่างรู้ทัน“นี่ก็ทำเวลาที่สุดแล้วนะ ขอเปลี่ยนชุดแป๊บ” ฉันว่าพลาง พร้อมกับเดินไปยังตู้เสื้อผ้า ก่อนจะหยิบชุดของตัวเองออกมาแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว“จะใส่ชุดนี้โชว์รอยคิสมาร์กตรงด้านหลังจริงเหรอ?” ยัยแตงกวาถามฉันหลังจากที่ฉันเข้าไปเปลี่ยนชุดมาเมื่อกี้“ด้านหลังก็มีเหรอแก?” ฉันไม่ทันได้สังเกตตัวเองในกระจกไง อีกอย่างไม่ให้โชว์หลังแล้วจะให้โชว์ตรงไหน เพราะด้านหน้าพี่องศาก็เล่นดูดเป็นรอยซะเยอะเลย“มีที่อื่นอีกเหรอ?” “เนินอกตรงนี้ เต็มหมดเลย” ฉันบอกยัยแตงกวาไปลังจากที่มันพูดจบ“มา เดี๋ยวกูเอาคอลซิลเลอร์ทาทับให้” ยัยนัทตี้เอ่ยขึ้น ก่อนจะหันไปหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางมันขึ้นมา….“จัดกันไปกี่ยกวะเนี่ย แป๊บเดียวรอยเต็มตัวเลย” ฉันได้แต่ยิ้มแหยๆให้เพื่อนไป ถ้านับรวมกับในห้องน้ำเมื่อกี้ก็น่าจะห้ายกเห็นจะได้“แล้วนี่สรุปคืนดีกันแล้วใช่มั้ย?” ยัยนัทตี้เอ่ยถามหลังจากที่ยัยแตงกวาพูดจบ“ก็อืม พี่อ
“พี่องศา พราวจะนั่งตรงนี้ค่ะ” หลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำ ฉันก็เดินตรงดิ่งมาที่โต๊ะของพี่องศาทันที แล้วที่ว่านั่งตรงนี้คือนั่งที่เก้าอี้ข้างๆพี่องศานี่แหละ “ไม่นั่งกับเพื่อนแล้วเหรอครับ?” “เดี๋ยวค่อยกลับไปนั่งค่ะ” เพราะตอนอยู่ในห้องน้ำเมื่อกี้ฉันแชทมาบอกยัยพวกนั้นในกลุ่มแล้ว ว่าขอมานั่งกับพี่องศาแป๊บนึง ซึ่งพวกมันก็ไม่ได้ว่าอะไร อีกอย่างโต๊ะฉันกับโต๊ะพี่องศาก็ไม่ได้อยู่ไกลกันขนาดนั้น เดินสามสี่ก้าวก็ถึงแล้ว“เป็นอะไร ทำไมหน้างอ” “เบื่อคนฮอตค่ะ” ฉันตอบพี่องศากลับไปทันทีหลังจากที่พี่เขาถามคำถามเมื่อกี้ “หืม” “แค่มาดื่มเหล้าจำเป็นต้องแต่งหล่อกันขนาดนี้เลยเหรอคะ?” ฉันเอ่ยถามคนด้านข้าง ก่อนจะหันไปมองพี่ชายตัวเองที่ตอนนี้กำลังมองฉันอยู่“อะไรของแก มาถึงก็ฟาดงวงฟาดงา” ฉันไม่ตอบแต่เลือกที่จะยกแก้วเหล้าของพี่องศาที่วางอยู่ด้านหน้าขึ้นมาดื่มแทน อึกอึกอึก!!“เห้ยๆ ยัยพราว เบาได้เบาเว้ย เดี๋ยวก็ได้เมาตายห่า” คนอย่างพราวฟ้าไม่มีคำว่าเมาในพจนานุกรมค่ะ ฉันไม่สนใจเสียงห้ามของพี่เพทาย ก่อนจะหันไปคว้าขวดเหล้าที่วางอยู่เพื่อจะเอามาเทใส่แก้วตรงหน้า แต่……หมับ!!“เป็นอะไรหืม บอกพี่ได้มั้ย?” พี่องศาคว้
สามวันต่อมา…..@กรุงเทพมหานคร คอนโด 19.25 น.“คิดถึงที่นอนจะแย่”ฟุ่บ!!ทันทีที่ฉันก้าวขาเข้ามาในห้องนอนของพี่องศาฉันก็ทิ้งตัวลงบนเตียงนอนขนาดใหญ่ด้วยความเหนื่อยล้าเหนื่อยล้าจากการที่ต้องนั่งรถนานๆเป็นระยะเวลารวมเกือบสิบชั่วโมง ถ้ารวมกับรถติดในกรุงเทพ ครั้งหน้าถ้าจะไปเที่ยวเชียงใหม่อีกนะขอนั่งเครื่องไปแบบสวยๆดีกว่า คือตอนนี้ฉันกลับมาจากเชียงใหม่แล้วนะ นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้พี่องศามาตลอดทาง ส่วนยัยแตงกวากับยัยนัทตี้มันยังไม่กลับ เห็นว่าจะอยู่เที่ยวต่ออีกสองสามวัน ถ้าจะถามหาพี่ชายของฉัน รายนั้นบินกลับมาตั้งแต่วันก่อนแล้วค่ะ นี่ก็งงว่าทำไมถึงรีบกลับ“พราวจะอาบน้ำก่อนมั้ย?” คนที่เดินลากกระเป๋าเข้ามาในห้องเอ่ยถามฉันที่่ยังคงนอนแผ่หลาอยู่บนที่นอนตอนนี้“พี่องศาอาบก่อนเลยค่ะ พราวขอนอนสักยี่สิบนาที” คือตอนนี้ไม่อยากทำอะไรสักอย่างเลย อยากจะนอนอย่างเดียว รู้สึกมึนหัวนิดๆด้วย “งั้นพี่อาบน้ำก่อนนะครับ” “ค่ะ!” ฉันพยักหน้าตอบพี่องศากลับไป ก่อนจะมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินเข้าห้องน้ำไปตอนนี้ ครืด ครืด ครืด!!แล้วจู่ๆโทรศัพท์ของพี่องศาตรงโต๊ะบนหัวเตียงก็สั่นขึ้นมา พอฉันหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็น
สามสิบนาทีต่อมา……“พี่องศาทำอะไรกินคะ?” หลังจากที่ฉันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ฉันก็เดินมาดูพี่องศาที่รับบทเป็นพ่อครัวทำอาหารอยู่ในครัว “ข้าวต้มปลาที่พราวชอบ” ฉันฉีกยิ้มกว้างให้คนตรงหน้าทันที ก่อนจะฝังจมูกลงไปบนแก้มข้างนึงของเขาฟอดดด!!!“พี่องศาน่ารักที่สุดเลย” “แล้วรักมั้ยครับ หืม”“รักค่ะ รักมากด้วย” ฉันตอบพี่องศาไปทันทีโดยที่ไม่ต้องคิดเลย เพราะฉันตอบมันด้วยหัวใจกับความรู้สึกของฉันจริงๆ“งั้น….”พรึ่บจู่ๆพี่องศาก็หันหน้ากลับมาหาฉัน ก่อนจะอุ้มฉันขึ้นไปนั่งบนเคาน์เตอร์บาร์ที่ใช้ทำอาหาร “ทำอะไรคะ?” ฉันถามคนตรงหน้าออกไปด้วยความสงสัย“อยากลองตรงนี้บ้าง”“เดี๋ยวนะคะ นี่พี่กะจะเอาทุกซอกทุกมุมในห้องนี้เลยเหรอ?” “ไม่ได้เหรอครับ หืม” แล้วคือทำน้ำเสียงอ้อนขนาดนี้ ฉันจะปฏิเสธลงยังไง “วันอื่นได้มั้ยคะ วันนี้ร่างกายพราวยังไม่พร้อม” นี่ก็พึ่งจะหายไข้เองนะ ที่สำคัญหิวข้าวมากด้วยตอนนี้“หึ พี่ก็ไม่ได้บอกว่าวันนี้” “แล้วพี่จะอุ้มพราวขึ้นมาทำไมคะ” แถมยังแทรกตัวมาอยู่กลางหว่างขาของฉันอีก“ก็ซ้อมไว้ อยากรู้ว่ามันจะพอดีกันหรือเปล่า” พี่องศายกยิ้มมุมปากเล็กน้อย หลังจากที่เขาพูดออกมาเมื่อกี้ คือไม่ต้องบอก
สามวันต่อมา 07.20 น.“พราวมาเป็นเลขาให้พี่ดีกว่ามั้ย ไม่ต้องไปทำงานกับไอ้เพทายมันหรอก” ทันทีที่ฉันก้าวขาออกจากประตูห้องน้ำมา คนที่นอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ก็พูดขึ้นทันที ที่พี่องศาพูดแบบนี้เพราะตอนนี้ฉันกำลังจะเข้าไปทำงานกับพี่ชายของฉันที่บริษัทค่ะ ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกของการทำงานคือหลังจากที่ฝึกงานเสร็จ พี่เพทายก็สั่งให้ฉันเข้าไปทำงานกับเขาที่บริษัททันทีเลยจ้า ไม่ถงไม่ถามเลยว่าฉันอยากไปทำกับเขาหรือเปล่าครอบครัวของฉันทำธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกสินค้า ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำหรือทางอากาศ พวกเราก็ให้บริการได้หมดเลย ซึ่งตอนนี้พ่อกับแม่ก็ดูแลในส่วนของต่างประเทศ ส่วนพี่เพทายก็ดูแลในส่วนของที่นี่ “เดี๋ยวพี่เพทายก็ได้กินหัวพราวหรอกค่ะ อีกอย่างพราวก็รับปากเพื่อนสุดที่รักของพี่องศาไปแล้วด้วย”“งั้นให้พี่ไปส่งพราวนะ”“พี่องศาไม่ต้องรีบเข้าบริษัทเหรอคะ?”“พี่เคลียร์งานพี่เสร็จหมดแล้วเมื่อวาน วันนี้พี่ว่างทั้งวัน” ก็ว่าทำไมถึงไม่ยอมแต่งตัวไปทำงานสักที เพราะงี้นี่เอง“งั้นเดี๋ยวพราวขอแต่งตัวแป๊บนึงนะคะ” ฉันว่าพลางเดินไปยังตู้เสื้อผ้าเพื่อจะหยิบชุดทำงานออกมา แต่……หมับ!!“จะรีบไปไหน หืม” ร่
@บริษัทเพทาย 09.30 น.“ยัยพราว นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ทำไมพึ่งมา?” เสียงพี่เพทายเอ่ยถามหลังจากที่ฉันเดินเข้ามาในห้องทำงานของเขา “พราวตื่นสายค่ะ นาฬิกาไม่ปลุก” ฉันยิ้มแหยๆส่งให้พี่ชายตัวเองไป คือถ้าจะให้บอกว่าโดนพี่องศาจับเยแต่เช้าก็จะกระไรอยู่“เรานี่นะ อยากจะทุบเข้าให้ นี่พี่ต้องรีบออกไปดูสินค้าที่โกดังอีก” “แล้วทำไมไม่ไปหละคะ อย่าบอกนะว่ารอพราวอยู่” “ก็รอไง พี่จะให้พราวไปกับพี่ ไปดูงาน ไปดูสินค้ากับเอกสาร” “ห๊ะ วันแรกก็จะให้พราวออกนอกสถานที่แล้วเหรอคะ” นี่พึ่งวันแรกเองนะ อีกอย่างชุดที่ฉันใส่มาวันนี้ก็ไม่เหมาะกับการทำงานนอกสถานที่ด้วย ที่สำคัญรองเท้าที่ฉันใส่สูงเกือบสองนิ้ว“มีปัญหาเหรอ?” “มี” ไม่ใช่ฉันนะที่เป็นคนพูด แต่เป็นเสียงพี่องศาที่พึ่งเดินเข้ามาต่างหาก แล้วนี่เขามาทำไมนึกว่ากลับไปแล้วคือพี่องศาเป็นคนขับรถมาส่งฉันที่หน้าบริษัทค่ะ พอฉันลงรถปุ๊บ ฉันก็รีบตรงดิ่งขึ้นมายังห้องทำงานพี่เพทายเลย “มึงมาทำไม? ไม่ทำงานทำการ” “มาส่งพราว วันนี้กูว่าง” พี่องศาตอบพี่เพทายกลับไปทันทีก่อนจะมาหยุดยืนอยู่ด้านข้างของฉัน และ….“โทรศัพท์พราวครับ ลืมไว้ในรถ” คนตัวสูงด้านข้างยื่นโทรศัพท์มือถื
“แล้วพราวหละครับ รักพี่จริงมั้ย หรือเพียงแค่ต้องการร่างกายของพี่ หืม” พี่องศาเอ่ยถามฉันด้วยน้ำเสียงจริงจัง โดยที่สายตาคมคู่นั้นยังคงจับจ้องมาที่ฉันอย่างไม่ยอมละสายตาไปไหนว่าแต่นี่เขายังไม่ได้ตอบฉันเลยนะ คือฉันเป็นคนถามเค้าก่อนป่ะ“พี่องศาตอบพราวมาก่อนสิคะ แล้วเดี๋ยวพราวจะตอบพี่เหมือนกัน”“เดี๋ยวนี้ต่อลองเก่ง”“อย่างอื่นก็เก่งนะคะ”“อย่างไหนครับที่ว่าเก่ง”“กินเก่งค่ะ” กินเก่งที่ว่านี่กินลาวาจากไอติมของพี่องศานะ แต่ฉันไม่พูดออกไปหรอก เขิน =\\\\=“หึ หมั่นเขี้ยว” เขาว่าพลางยื่นมือมาบีบจมูกโด่งๆของฉัน ที่ไม่เคยผ่านมีดหมอมาก่อน พ่อแม่ให้มาล้วนๆเลย“โอ้ย เจ็บนะคะ มาบีบจมูกพราวทำไม”“ไม่ให้บีบ งั้นกัดแทนได้มั้ย หืม”“หยุดเลยค่ะ ไม่ต้องขยับหน้าเข้ามาเลยนะ” ฉันว่าพลางยกมือขึ้นห้ามคนตรงหน้า ที่กำลังจะโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ “พี่ให้บีบคืนก็ได้” พี่องศายังคงยื่นหน้ามาใกล้ฉัน ก่อนจะหลับตาลงช้าๆ เห็นแบบนั้นฉันก็เลย….จุ๊บ!“เอารางวัลนี้ไปก่อนนะคะ” ฉันแตะริมฝีปากของตัวเองลงไปบนริมฝีปากหนาของคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา ก่อนจะรีบผละออกมาด้วยความรวดเร็วพรึ่บ!!!ฟุ่บ!!แต่ก็ต้องตกใจเมื่อจู่ๆพี่องศาก็โถมตัวลง
ตอนเย็น “พราว เดินเบาๆสิครับ เดี๋ยวก็กระทบกระเทือนกับลูกในท้องหรอก” ฉันที่เดินจ้ำอ้าวออกมาจากห้องนอน ถึงกับต้องกรอกตามองบน เมื่อได้ยินเสียงพี่องศาพูดประโยคแบบนี้อีกแล้ว“แค่เดินเองค่ะ ไม่ได้วิ่งสักหน่อย” นี่เอาจริงๆนะ ตั้งแต่ที่เขารู้ว่าฉันท้องลูกของเขาอยู่ ตัวนี่แทบไม่ยอมห่างจากฉันไปไหนเลย “เดินก็เดินระวังๆหน่อยสิพราว คุณหมอก็บอกแล้วนี่นาว่าครรภ์แรกต้องดูแลให้ดีๆ”“พี่องศามาท้องเองมั้ยคะ?” “ไม่หัวร้อนสิครับคนดี มาเดี๋ยวพี่นวดเท้าให้ พราวจะได้ผ่อนคลาย ดีมั้ย” “ไม่เอาค่ะ พี่อายุมากกว่าพราวอีกนะ จะมานวดเท้าให้พราวได้ยังไง”“พี่ไม่ถือครับพราว เดี๋ยวพราวนั่งรอพี่อยู่ตรงนี้ก่อนนะ พี่ไปเอาน้ำอุ่นแป๊บนึง” คือไม่ว่าฉันจะพูดยังไง พี่องศาก็ไม่ยอมฟังอยู่ดี แล้วตอนนี้เขาก็นั่งนวดเท้าให้ฉันแล้วเรียบร้อย“เป็นไงบ้างพราว ผ่อนคลายขึ้นมั้ย หืม” “ค่ะ บีบตรงข้อเท้าพราวด้วยได้มั้ยคะ” “ตรงนี้เหรอครับ”“ค่ะ ตรงนั้นแหละ” ฉันพยักหน้าตอบพี่เขาไป ก่อนจะเอนหลังอิงไปกับพนักโซฟาแล้วค่อยๆหลับตาลงช้าๆ ก่อนจะเผลอหลับไปในที่สุด————————ผมนั่งมองหน้าเรียวสวยได้รูปของพราวฟ้าที่นั่งหลับตาพริ้มอยู่บนโซฟาตอนนี้ ก่อ
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา@คอนโดองศา 22.40 น.“พราวครับ คิดถึงจังเลย ไม่ได้นอนกอดพราวมาอาทิตย์นึงแล้วนะ” (พราวก็คิดถึงพี่องศาเหมือนกันค่ะ) เสียงหวานเอ่ยตอบผมกลับมาทันที หลังจากที่ผมพูดจบ นี่ก็ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วนะ พ่อกับแม่ของพราวฟ้ายังไม่มีทีท่าว่าจะกลับเลย ทำไมรอบนี้กลับมานานจัง“เปิดกล้องได้มั้ย อยากเห็นหน้าพราวใจจะขาด”(ได้สิคะ) สิ้นเสียงของพราวฟ้า ผมก็กดเปิดกล้องอย่างไว ทำให้ตอนนี้ผมเห็นร่างบางที่อยู่ในชุดนอนสีขาวตัวบางกำลังนอนฉีกยิ้มกว้างให้ผมอยู่“ยั่วพี่เหรอครับ” (พราวเปล่ายั่วนะคะ พี่องศานั่นแหละยั่วพราวเหรอ)“พี่ยั่วตรงไหน หืม”(ตรงที่ไม่ใส่เสื้อนี่แหละค่ะ เห็นแล้วอยากกัดหัวนมให้ขาดเลย) “มากัดสิครับ พี่นอนรอพราวอยู่ห้องไม่ไปไหนเลย”(รออีสองสามวันนะคะ รอให้พ่อกับแม่พราวกลับก่อน)“มาตอนนี้เลยไม่ได้เหรอหืม เดี๋ยวพี่ไปรับ”(อย่างอแงสิคะ อีกไม่กี่วันเองนะ) แต่อีกไม่กี่นาทีผมจะลงแดงแล้วนะ ยิ่งมาเห็นพราวฟ้าในชุดนอนแบบนี้อีก“พี่อยากอะพราว ปวดหนึบไปหมดเลย” (อยากก็ช่วยตัวเองไปก่อนนะคะ เพราะพราวคงช่วยพี่องศาไม่ได้)“พราวช่วยพี่ได้นะ อยากช่วยมั้ย หืม” (ช่วยยังไงคะ?)“แค่พราวถอดชุดพราว
@คอนโด 18.20 น.“พี่องศาคะ พรุ่งนี้พราวจะต้องกลับไปนอนบ้านนะ” ฉันเอ่ยบอกคนที่กำลังยืนทำอาหารอยู่ในครัว ซึ่งพอพี่องศาได้ยินก็รีบหันมามองหน้าฉันทันที“กลับทำไมครับ?”“พ่อกับแม่จะกลับมาพรุ่งนี้ค่ะ แม่พึ่งไลน์มาบอกพราวเมื่อเช้า” ฉันตอบคนที่ยืนคิ้วขมวดชนกันอยู่ตอนนี้ไป“แล้วไปนอนกี่วัน?”“ก็จนกว่าพ่อกับแม่จะกลับค่ะ พี่องศานอนคนเดียวได้ใช่มั้ย?” “ถ้าบอกว่าไม่ได้หละครับ พราวยังจะทิ้งให้พี่นอนคนเดียวอยู่มั้ย หืม”“ก็พราวไม่ได้เจอพ่อกับแม่มาหลายเดือนแล้วนี่คะ พี่องศาเข้าใจพราวหน่อยนะ” ฉันเดินเข้าไปสวมกอดคนตรงหน้า ก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นไปจุ๊บแก้มเค้าทีนึง“ถ้าพ่อกับแม่พราวมาอยู่เป็นเดือน พี่ก็ต้องนอนคนเดียวเป็นเดือนเลยใช่มั้ย?”“ไม่นานขนาดนั้นหรอกค่ะ อย่างมากก็แค่อาทิตย์เดียวเอง” เพราะปกติเวลาที่พ่อกับแม่กลับมาบ้านพวกท่านจะอยู่แค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น ซึ่งฉันคิดว่ารอบนี้ก็น่าจะเหมือนกัน“แล้วใครไปรับพวกท่านที่สนามบินครับ ไอ้เพทายเหรอ?”“พราวว่าจะไปรับเองค่ะ เพราะพรุ่งนี้พี่เพทายมีนัดคุยกับลูกค้าที่จะส่งอุปกรณ์ไฟฟ้าไปยังเพื่อนบ้าน”“งั้นพรุ่งนี้ให้พี่ไปส่งพราวนะ จะได้ถือโอกาสนี้แนะนำตัวอย่างเป็
หลายชั่วโมงต่อมา 10.30 น.“พี่องศาคะ วันนี้เราจะไปล่องเรือกันใช่มั้ยคะ?” “ครับ เดี๋ยวคนขับรถจะมารับแล้วพาพวกเราไปที่ท่าเรือ” นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาที่นัดกับคนขับรถไว้แล้วนะ ผมก้มมองดูนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเอง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาไอ้คามินตู๊ดดดดด!!!ตู๊ดดดดด!!ทำไมมันยังไม่รับสายสักทีวะ มัวแต่ทำอะไรของมันตู๊ดดดดด!!!ตู๊ดดดดด!!!(ว่าไง) เสียงปลายสายดังขึ้นทันทีหลังจากที่มันกดรับสายของผม“เดี๋ยวอีกยี่สิบนาทีไปเจอกันที่ล็อบบี้นะ คนขับรถใกล้จะมาแล้ว” (ยี่สิบนาทีเหรอ ซี๊ดดด ไม่น่าทัน อ๊า)“ไอ้เชี่ย มึงทำเหี้ยอะไรอยู่วะ?” เสียงแบบนี้มีอยู่อย่างเดียวเลยนะในหัวผมตอนนี้(อย่างที่มึงคิดนั่นแหละ แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวกูทำเวลาก่อน อ๊า อย่าดูดแรง) พูดจบมันก็กดตัดสายผมทิ้งทันที แล้วนี่มันเอากับใครอยู่ คงไม่ได้ลากผู้หญิงแถวนั้นขึ้นมากินบนห้องพักหรอกนะ“มีอะไรเหรอคะ? พี่คามินเป็นอะไรเหรอ?” พราวฟ้าที่กำลังเตรียมเสื้อผ้ากับชุดว่ายน้ำหันมาเอ่ยถามผมอย่างสงสัย“มันกำลังจะขึ้นสวรรค์ครับ พราวอยากขึ้นสวรรค์กับพี่ตอนนี้มั้ย?” ผมแกล้งถามคนตรงหน้าออกไป เธอเองก็รู้แหละว่าผมหมายถึงอะไร หึ“หยุดความคิดบ้าๆเลยน
วันต่อมา 06.00 น.จึกจึกจึก!!“พี่องศาคะ ตื่นได้แล้ว” ฉันใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่แก้มของร่างหนาที่กำลังนอนกอดฉันอยู่ตอนนี้“อื้อ พราวกี่โมงแล้วครับ” “หกโมงเช้าแล้วค่ะ เมื่อวานพี่องศาบอกจะพาพราวไปดูพระอาทิตย์ขึ้นจำได้มั้ยคะ?”“จำได้สิครับ ทำไมจะจำไม่ได้” พี่องศาพยักหน้าตอบกลับมา แต่เปลือกตายังคงปิดสนิทอยู่“จำได้ก็ลุกสิคะ เดี๋ยวไม่ทันนะ” “จุ๊บพี่ก่อน” เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้พร้อมกับทำปากจู๋ ซึ่งพอเห็นแบบนั้นก็อดที่จะขำไม่ได้จริงๆ“เป็นเด็กอยู่หรือไงคะ” ถึงจะพูดแบบนั้นฉันก็ยื่นปากไปจุ๊บกับปากพี่เค้าอยู่ดี แล้วตอนนี้พี่องศาก็ลืมตาขึ้นมามองหน้าฉันแล้ว“ทำไมวันนี้สวย” อะไรของเค้า จู่ๆก็พูดแบบนี้ แล้วที่ว่าสวยนี่สวยตรงไหน หน้าสดยิ่งกว่าซากศพอีก“อะไรของพี่?”“ก็พราวสวย สวยจนพี่แทบคลั่ง อยากจะกดพราวให้จมเตียง”ปึก!!ฉันใช้กำปั้นน้อยๆทุบลงไปบนแผงอกกว้างของคนตรงหน้า ตื่นมาก็เอาแต่พูดจาแบบนี้ “สมองพี่นี่ไม่คิดอะไรแล้วนะ วันๆคิดแต่เรื่องบนเตียง”“เรื่องอื่นพี่ก็คิดนะ” พี่องศาว่าพลางใช้นิ้วเขี่ยปลายจมูกของฉันเล่น“คิดเรื่องอะไรคะ?” “คิดว่ามุมไหนในห้องนี้ที่เรายังไม่ได้ลองบ้าง” เพี๊ยะ!!! สิ้นเสียงพ
“ว้าย พี่องศาจะทำอะไรคะ?” ฉันที่กำลังนั่งคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ต้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ ที่จู่ๆคนตัวสูงก็ลุกพรวดขึ้นจากน้ำ ทำให้ตัวของฉันที่นั่งอ้าขาอยู่บนหน้าตักของเขาลอยขึ้นพร้อมกัน และที่สำคัญจุดเชื่อมต่อของเราสองคนยังไม่หลุดออกจากกันเลย“พี่ก็อยากขึ้นสวรรค์เหมือนพราวบ้าง” ว่าจบเขาก็วางตัวฉันลงบนขอบสระ ก่อนจะเริ่มขยับสะโพกของตัวเองเข้าออกปึกปึกปึก!!“อื้อ พ พี่องศา อ๊ะ อ๊ะ ฮื่อ”“เข้าลึกมั้ย?” ยังจะถามว่าเข้าลึกมั้ย นี่เค้าไม่รู้ขนาดความยาวของตัวเองรึไง“อื้อ ล ลึกค่ะ พี่อย่าดันเข้ามาสุด อ๊ะ อ๊ะ” บอกว่าจะอย่าเข้ามาสุด แต่คนตรงหน้าก็เหมือนจะแกล้งกันให้ตาย “ซี๊ดดด พราว โคตรดี อา…”ปึกปึกปึก!!!เขายังคงขยับสะโพกเข้าออกอยู่แบบนั้น ก่อนจะจับฉันให้เปลี่ยนท่า มาเป็นยืนในสระว่ายแล้วโน้มตัวพาดกับขอบสระแทน“อ๊ะ อ๊ะ พ พราว เสียวอีกแล้วค่ะ ฮื่อ ฮื่อ” เสียงครวญครางของฉันกลับมาดังแข่งกับเสียงกระเพื่อมของน้ำในสระอีกครั้ง “โอ้ย พราว พี่จะแตกแล้วครับ” “อื้อ อ๊า อ๊า อ๊า อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ขอเร็วอีกค่ะ อื้อ เร็วอีก” สิ้นเสียงของฉันพี่องศาก็ใช้ทั้งสองมือจับเอวบางของฉันเอาไว้แน่น ก่อนที่เค้าจะ
คนตรงหน้าถึงกับถลึงตาใส่ ก่อนจะทุบกำปั้นน้อยๆของเธอลงมาบนอกแกร่งของผม เสียงดังปึก!!“ทำไมถึงได้หื่นขนาดนี้คะ ตรงระเบียงห้องจะเอาได้ไง เดี๋ยวคนอื่นเค้าก็เห็นเราพอดี”“เวลานี้ทุกคนต่างปิดไฟนอนกันหมดแล้วพราว อีกอย่างพราวอย่าลืมนะว่าห้องพี่อยู่ชั้นบนสุดของตึก ใครจะมาเห็นเราสองคนรวมร่างกัน หืม” นี่พูดจริงๆนะ คือผมก็อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศแบบออกไปรับลมชมจันทร์งี้ มันคงจะฟินไม่น้อยเลย“ยังไงก็ไม่มีทางค่ะ พราวจะไปอาบน้ำนอนแล้วนะ ส่วนพี่องศาถ้ายังไม่หมดอารมณ์ก็ช่วยตัวเองต่อไปนะคะ” ว่าจบพราวฟ้าเธอก็รีบลุกออกจากเตียง แล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำทันที เห็นท่าทางแบบนี้อยากจับมากระแทกแล้วใช้ฝ่ามือฟาดตูดขาวๆอีกสักสองสามทีจริงๆ หึสามสิบนาทีต่อมา “หลับแล้วเหรอพราว” ทันทีที่เดินมาถึงเตียงนอนขนาดใหญ่ที่มีร่างบางนอนหลับตาพริ้มอยู่ ผมก็สอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับเธอ ก่อนจะกระซิบไปที่ข้างกกหูของเธอเสียงแผ่ว“หลับแล้วค่ะ” “หลับแล้วทำไมถึงตอบพี่ได้หละ หืม” “ก็เมื่อกี้พราวหลับแล้ว แต่เสียงพี่องศาปลุกให้พราวต้องตื่นขึ้นมา” ร่างบางที่นอนตะแคงข้างหันหน้ามาทางผมเอ่ยขึ้น ก่อนที่เธอจะลืมตาขึ้นมาแล้วจ้องหน้าผมอย
“อื้อ” ริมฝีปากร้อนยังคงบดขยี้ริมฝีปากบางอย่างเอาแต่ใจ เขาค่อยๆสอดแทรกปลายลิ้นร้อนเข้าไปตักตวงความหอมหวานจากโพรงปากของเธออีกครั้งลิ้นร้อนของทั้งสองเกี่ยวกระหวัดพันกันไปมา มือหนาขององศาค่อยๆลูบไล้หน้าขาเรียวสวยขึ้นมาก่อนจะเปลี่ยนทิศทางไปตรงกลางหว่างขาของเธอแทน“อื้อ” เมื่อปลายนิ้วสากสัมผัสไปตรงบริเวณจุดเสียวซ่านของพราวฟ้าผ่านกางเกงชั้นในจีสตริงตัวบาง เธอก็พยายามที่จะหุบขาเข้าหากัน ทว่าองศานั้นได้แทรกตัวเข้าไปอยู่ตรงกลางหว่างขาของเธอแล้วเรียบร้อย เขายังคงใช้นิ้วเขี่ยตรงติ่งเสียวของเธออยู่แบบนั้น จนน้ำหวานที่อยู่ด้านในเริ่มไหลทะลักออกมา เป็นเหตุให้กางเกงชั้นในของพราวฟ้าเปียกชุ่มไปด้วยน้ำกามของเธอ“อ๊า พ พี่องศา ฮื่อ” เมื่อริมฝีปากได้รับอิสระ ร่างบางก็ร้องครวญครางออกมาด้วยความกระเส่า เพราะตอนนี้เธอกำลังถูกเขาปรนเปรอด้วยนิ้วร้อนที่สอดแทรกผ่านกางเกงในตัวบางแล้วเรียบร้อยกลีบกุหลาบสีสวยที่ปิดสนิทก่อนหน้านี้ ถูกองศากรีดนิ้วลงไปตรงกลางจนมันแยกออกจากกัน ทำให้น้ำสีใสที่อยู่ในนั้นทะลักออกมามากกว่าเดิมเขาค่อยๆยัดนิ้วกลางเข้าไปด้านใน ก่อนจะเริ่มขยับมันเข้าออกช้าๆ แล้วเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น นิ้วหั
ผลั๊วะ!! พลั่ก!!“ไอ้องศาพอก่อนมึง เดี๋ยวมันก็ได้ตายขึ้นมาจริงๆหรอก”ฉันที่เดินมาถึงที่เกิดเหตุ ที่เป็นห้องโถงกว้างๆอยู่ใกล้ๆกับห้องน้ำภายในชั้นใต้ดิน ถึงกับต้องเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ เมื่อคนที่ยืนอยู่กลางวงล้อมผู้คนคือพี่องศาที่ถูกพี่คามินล็อกตัวเอาไว้ ส่วนผู้ชายอีกคนที่มีเรื่องกับพี่องศา ตอนนี้คือนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นค่ะ ไม่รู้ว่าจะตายหรือเปล่า“เกิดอะไรขึ้นคะ” ฉันรีบฝ่าวงล้อมเข้าไปหาพวกพี่เขา ก่อนจะมองสำรวจไปทั่วร่างกายของคนตัวสูง ที่มีแค่รอยฟกช้ำอยู่ตรงมุมปากที่เดียวเท่านั้น“พราว ออกมาทำไมครับ” พี่องศาที่เห็นฉันจากที่น้ำเสียงดุดันก่อนหน้านี้ แปรเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงนุ่มทุ้มน่าฟังเหมือนเดิม“พราวตามพี่เพทายออกมาค่ะ แล้วเกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมถึงมีเรื่องกัน?” ว่าแต่ตอนนี้พี่เพทายหายไปไหนแล้วนะ เมื่อกี้ฉันวิ่งตามออกมายังเห็นอยู่เลย แต่ช่างพี่เพทายก่อนตอนนี้“ไม่มีอะไรครับพราว เดี๋ยวเรากลับกันเลยนะ ไอ้คามินกูฝากเก็บซากมันด้วย เดี๋ยวกูไปก่อน ส่วนค่าเสียหายเดี๋ยวกูโอนเข้าบัญชีมึง” พี่องศาพูดกับฉัน ก่อนจะหันไปพูดกับพี่คามิน แล้วที่ว่าความเสียหายก็คือโต๊ะกระจก กับแจกกัน ที่อยู่แถวนั้นแตกกร