สามวันต่อมา…..@กรุงเทพมหานคร คอนโด 19.25 น.“คิดถึงที่นอนจะแย่”ฟุ่บ!!ทันทีที่ฉันก้าวขาเข้ามาในห้องนอนของพี่องศาฉันก็ทิ้งตัวลงบนเตียงนอนขนาดใหญ่ด้วยความเหนื่อยล้าเหนื่อยล้าจากการที่ต้องนั่งรถนานๆเป็นระยะเวลารวมเกือบสิบชั่วโมง ถ้ารวมกับรถติดในกรุงเทพ ครั้งหน้าถ้าจะไปเที่ยวเชียงใหม่อีกนะขอนั่งเครื่องไปแบบสวยๆดีกว่า คือตอนนี้ฉันกลับมาจากเชียงใหม่แล้วนะ นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้พี่องศามาตลอดทาง ส่วนยัยแตงกวากับยัยนัทตี้มันยังไม่กลับ เห็นว่าจะอยู่เที่ยวต่ออีกสองสามวัน ถ้าจะถามหาพี่ชายของฉัน รายนั้นบินกลับมาตั้งแต่วันก่อนแล้วค่ะ นี่ก็งงว่าทำไมถึงรีบกลับ“พราวจะอาบน้ำก่อนมั้ย?” คนที่เดินลากกระเป๋าเข้ามาในห้องเอ่ยถามฉันที่่ยังคงนอนแผ่หลาอยู่บนที่นอนตอนนี้“พี่องศาอาบก่อนเลยค่ะ พราวขอนอนสักยี่สิบนาที” คือตอนนี้ไม่อยากทำอะไรสักอย่างเลย อยากจะนอนอย่างเดียว รู้สึกมึนหัวนิดๆด้วย “งั้นพี่อาบน้ำก่อนนะครับ” “ค่ะ!” ฉันพยักหน้าตอบพี่องศากลับไป ก่อนจะมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินเข้าห้องน้ำไปตอนนี้ ครืด ครืด ครืด!!แล้วจู่ๆโทรศัพท์ของพี่องศาตรงโต๊ะบนหัวเตียงก็สั่นขึ้นมา พอฉันหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็น
สามสิบนาทีต่อมา……“พี่องศาทำอะไรกินคะ?” หลังจากที่ฉันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ฉันก็เดินมาดูพี่องศาที่รับบทเป็นพ่อครัวทำอาหารอยู่ในครัว “ข้าวต้มปลาที่พราวชอบ” ฉันฉีกยิ้มกว้างให้คนตรงหน้าทันที ก่อนจะฝังจมูกลงไปบนแก้มข้างนึงของเขาฟอดดด!!!“พี่องศาน่ารักที่สุดเลย” “แล้วรักมั้ยครับ หืม”“รักค่ะ รักมากด้วย” ฉันตอบพี่องศาไปทันทีโดยที่ไม่ต้องคิดเลย เพราะฉันตอบมันด้วยหัวใจกับความรู้สึกของฉันจริงๆ“งั้น….”พรึ่บจู่ๆพี่องศาก็หันหน้ากลับมาหาฉัน ก่อนจะอุ้มฉันขึ้นไปนั่งบนเคาน์เตอร์บาร์ที่ใช้ทำอาหาร “ทำอะไรคะ?” ฉันถามคนตรงหน้าออกไปด้วยความสงสัย“อยากลองตรงนี้บ้าง”“เดี๋ยวนะคะ นี่พี่กะจะเอาทุกซอกทุกมุมในห้องนี้เลยเหรอ?” “ไม่ได้เหรอครับ หืม” แล้วคือทำน้ำเสียงอ้อนขนาดนี้ ฉันจะปฏิเสธลงยังไง “วันอื่นได้มั้ยคะ วันนี้ร่างกายพราวยังไม่พร้อม” นี่ก็พึ่งจะหายไข้เองนะ ที่สำคัญหิวข้าวมากด้วยตอนนี้“หึ พี่ก็ไม่ได้บอกว่าวันนี้” “แล้วพี่จะอุ้มพราวขึ้นมาทำไมคะ” แถมยังแทรกตัวมาอยู่กลางหว่างขาของฉันอีก“ก็ซ้อมไว้ อยากรู้ว่ามันจะพอดีกันหรือเปล่า” พี่องศายกยิ้มมุมปากเล็กน้อย หลังจากที่เขาพูดออกมาเมื่อกี้ คือไม่ต้องบอก
สามวันต่อมา 07.20 น.“พราวมาเป็นเลขาให้พี่ดีกว่ามั้ย ไม่ต้องไปทำงานกับไอ้เพทายมันหรอก” ทันทีที่ฉันก้าวขาออกจากประตูห้องน้ำมา คนที่นอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ก็พูดขึ้นทันที ที่พี่องศาพูดแบบนี้เพราะตอนนี้ฉันกำลังจะเข้าไปทำงานกับพี่ชายของฉันที่บริษัทค่ะ ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกของการทำงานคือหลังจากที่ฝึกงานเสร็จ พี่เพทายก็สั่งให้ฉันเข้าไปทำงานกับเขาที่บริษัททันทีเลยจ้า ไม่ถงไม่ถามเลยว่าฉันอยากไปทำกับเขาหรือเปล่าครอบครัวของฉันทำธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกสินค้า ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำหรือทางอากาศ พวกเราก็ให้บริการได้หมดเลย ซึ่งตอนนี้พ่อกับแม่ก็ดูแลในส่วนของต่างประเทศ ส่วนพี่เพทายก็ดูแลในส่วนของที่นี่ “เดี๋ยวพี่เพทายก็ได้กินหัวพราวหรอกค่ะ อีกอย่างพราวก็รับปากเพื่อนสุดที่รักของพี่องศาไปแล้วด้วย”“งั้นให้พี่ไปส่งพราวนะ”“พี่องศาไม่ต้องรีบเข้าบริษัทเหรอคะ?”“พี่เคลียร์งานพี่เสร็จหมดแล้วเมื่อวาน วันนี้พี่ว่างทั้งวัน” ก็ว่าทำไมถึงไม่ยอมแต่งตัวไปทำงานสักที เพราะงี้นี่เอง“งั้นเดี๋ยวพราวขอแต่งตัวแป๊บนึงนะคะ” ฉันว่าพลางเดินไปยังตู้เสื้อผ้าเพื่อจะหยิบชุดทำงานออกมา แต่……หมับ!!“จะรีบไปไหน หืม” ร่
บ้านพราวฟ้า 21.50 น. “ยัยพราว”“ว่าไงคะ”“ขึ้นไปตามไอ้องศาที่ห้องพี่ให้ทีดิ๊…..มันตายอยู่ข้างบนแล้วมั้งนั่น” ฉันที่กำลังนั่งดูรายการวาไรตี้โชว์อยู่ที่ตรงโซฟากลางห้องโถงบ้าน ถึงกับทำหน้ามุ่ย เมื่อถูกคนเป็นพี่ชายเรียกให้ไปตามเพื่อนสนิทของเขาที่หายขึ้นไปบนชั้นสามของบ้านซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าหายไปนานเท่าไหร่ แต่ก็คงจะนานพอที่ทำให้พี่เพทายถึงกับต้องใช้ฉันขึ้นไปตาม“ทำไมพี่เพทายไม่ขึ้นไปตามเองหละคะ พราวกำลังดูวาไรตี้โชว์อยู่” นี่ฉันก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมพี่ชายฉันถึงไม่ขึ้นไปตามเอง“ขี้เกียจเดิน มันเหนื่อยแล้วก็เมาด้วย” อ่าว แล้วไม่คิดว่าฉันจะเหนื่อยบ้างหรือไง ห้องพี่เพทายอยู่ชั้นสามของบ้านเลยนะ บันไดแต่ละชั้นก็มีเกือบยี่สิบขั้นเข้าให้ ไม่รู้ว่าใครมันเป็นคนออกแบบบ้าน แล้วใครใช้ให้ดื่มเยอะแยะขนาดนั้นกัน นั่งดื่มกันตั้งแต่ห้าโมงเย็น จนตอนนี้จะสี่ทุ่มอยู่แล้ว ก็ยังไม่เลิกสักทีถึงจะบ่นพี่ชายตัวเองแบบนั้น แต่ตอนนี้เท้าทั้งสองข้างของฉันก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องพี่เพทายแล้วเรียบร้อยก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!“พี่องศาคะ พี่เพทายให้มาตาม” ฉันเคาะบานประตูห้องนอนขนาดใหญ่ไปอยู่สองสามที แต่ก็เงียบ ไม่มีใครออกมาเป
หลายชั่วโมงต่อมา 12.30 น. “พราว เที่ยงครึ่งแล้วไปกินข้าวกัน” ฉันที่กำลังนั่งศึกษาเอกสารต่างๆ บนโต๊ะอย่างตั้งอกตั้งใจ ถึงกับต้องรีบเงยหน้าขึ้นไปตามเสียงเรียกของพี่องศาทันที “ได้เวลากินข้าวแล้วเหรอคะ?” “ครับ พราวอยากกินอะไรมั้ย เดี๋ยวพี่พาไป” อยากกินอะไรงั้นเหรอ แถวนี้มีอะไรให้กินบ้างนะ “พี่องศาเลี้ยงพราวเหรอคะ” ฉันแกล้งถามคนตรงหน้าออกไป แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้ใจของฉันสั่นระรัว “ให้เลี้ยงไปทั้งชีวิตเลยมั้ย ได้นะพี่ชอบเลี้ยงเด็ก” เลี้ยงเด็กบ้าอะไรของเขา พูดออกมาซะจนฉันคิดไปไกลแล้วเนี่ย “พราวไม่ใช่เด็กแล้วค่ะ พี่องศานี่ยิ่งแก่ยิ่งความจำเลอะเลือน” ฉันบ่นอุบอิบให้คนตรงหน้า “เดี๋ยวพี่จะบอกไอ้เพทาย ว่าพราวด่ามันแก่” “พี่องศา” “ว่าไงครับ เด็กน้อย” พอ ฉันจะเลิกพูดกับพี่เขาแล้วจริงๆหลายวันต่อมา…KM PUB 22.45 น. “น้องกูฝึกงานเป็นไงบ้าง ทำมึงปวดหัวมั้ย?” ไอ้เพทายที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ข้างๆผมตอนนี้ เอ่ยถามขึ้น “หัวไวดี สอนอะไรจำได้หมด” ผมตอบมันไปตามความจริง คือพราวฟ้าเธอเป็นคนหัวไวมาก พูดไม่กี่คำเธอก็เข้าใจหมดเลย แต่ติดอยู่อย่างเดียวเลยคือ เถียงเก่ง “ฉลาดเหมือนกูไง เลี้ยงเองมากับม
หนึ่งชั่วโมงต่อมาก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!ผมเดินไปเคาะบานประตูห้องนอนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องผม ที่มีร่างบางของพราวฟ้าวิ่งเข้าไปก่อนหน้านี้เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา คือตอนนี้ผมพาเธอมาอยู่ที่คอนโดของผมแล้วนะ “มีอะไรคะ?” เธอถามผมทันทีที่เปิดประตูออกมา“พาเราไปซื้อเสื้อผ้าไง แล้วก็ไปหาอะไรกิน พี่เริ่มหิวแล้ว” ที่บอกว่าพาไปซื้อเสื้อผ้า นั่นก็เพราะเธอไม่มีเสื้อผ้าใส่เลยสักชุด เห็นไอ้เพทายบอกว่าจะเอามาให้พรุ่งนี้“งั้นเดี๋ยวพราวไปหยิบกระเป๋าแป๊บนึงนะคะ” เธอบอกผม ก่อนจะหมุนตัวเข้าไปในห้องนอนตามเดิน ไม่ถึงนาทีเธอก็เดินออกมา“ไปค่ะ พราวพร้อมแล้ว” ยี่สิบนาทีต่อมา…..@ห้างสรรพสินค้า 18.20 น.“เราไปกินข้าวกันก่อนดีมั้ยคะ แล้วค่อยไปเดินซื้อของ เป็นการย่อยอาหารไปในตัว” เป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน เพราะตอนนี้ผมก็หิวจนแสบท้องไปหมดแล้ว“พราวอยากกินอะไร?” ผมหันไปถามเธอ คือผมกินอะไรก็ได้นะ แต่อยากให้พราวฟ้าเป็นคนเลือกร้านที่ตัวเองอยากกินมากกว่า“พี่องศาเลือกเลยค่ะ พราวกินได้หมดเลย” แล้วผมจะเสียเวลาถามเธอทำไมวะ ถ้าน้องมันจะตอบผมกลับมาแบบนี้“งั้นไปกินร้านนั้นกัน” ผมชี้ไปยังร้านชาบูชื่อดังที่อยู่บนห้าง ก่อ
ยี่สิบนาทีต่อมา….“อ๊า….พ พี่องศาคะ พ พราวเสียว” ร่างบางที่นอนเปลือยกายเปล่าอยู่ตรงหน้าผมถึงกับร้องครางออกมา เมื่อถูกผมระรัวปลายลิ้นร้อนใส่กลีบกุหลาบงามสีสดของเธอ ผมใช้ริมฝีปากหนาของตัวเองดูดกินน้ำหวานที่ไหลเยิ้มออกมาอย่างหื่นกระหาย ทำไมถึงหวานขนาดนี้วะ หวานจนอยากจะกลืนกินไปทั้งตัว“อื้อออ พ พราวจะ ม ไม่ไหว”“อยากเสียวกว่านี้ไหม หืม” ผมสอดแทรกนิ้วมือเข้าไปในตัวของเธอ ที่เมื่อได้สัมผัสก็รับรู้ได้เลยว่ามันไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน นี่แค่นิ้วเดียวยังแน่นซะขนาดนี้ แล้วลูกชายของผมมันจะเข้าไปยังไง“อ๊ะ อื้ออ อ๊ะ พ พี่องศา ย อย่าแกล้งค่ะ พราวใจจะขาด” อย่าว่าแต่เธอใจจะขาดเลย ตอนนี้ผมก็รู้สึกว่าตัวเองใจจะขาดเหมือนกัน ผมใช้สายตามองสำรวจไปทั่วร่างกายขาวเนียนไร้ที่ติของเธอ โดยเฉพาะหน้าอกที่มีขนาดใหญ่เกินตัวที่ผมเดาไว้ก่อนหน้านี้ว่าต้องคัพดีแน่ๆ และมันก็ใช่ ตัวก็แค่นี้นมจะใหญ่ไปไหนวะ“อ๊ะ อ๊ะ พ พราวเสียวค่ะ อ๊า….” พราวฟ้าร้องครางออกมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อผมเร่งจังหวะในการขยับนิ้วเข้าออกภายในตัวของเธอ จนในที่สุดเธอก็ปลดปล่อยน้ำสีใสให้ไหลทะลักออกมาจนล้นมือของผม“นิ้วของพี่ ลิ้นของพี่โดนน้องเปิดซิงแล้
วันต่อมา 11.50 น.“พราว ตื่น” ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ หลังจากที่ได้ยินเสียงพี่องศาเอ่ยเรียกข้างๆกกหู“อื้ออ กี่โมงแล้วคะ” “จะเที่ยงแล้วครับ ตื่นมากินข้าวก่อน” นี่ฉันหลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอ แต่ก็ไม่แปลกใจเพราะเมื่อคืนฉันเสียพลังงานมากเกินไปจริงๆ“อ๊ะ” เมื่อฉันขยับตัวลุก ถึงกับต้องอุทานออกมาเมื่อรู้สึกเจ็บแสบไปตรงกลางหว่างขาของตัวเอง ก็จะไม่ให้เจ็บได้ไง ของพี่องศาเล็กซะที่ไหนกัน“เจ็บเหรอ เมื่อคืนพี่นึกว่าพราวเริ่มชินแล้วซะอีก เห็นขย่มพี่เอา ขย่มพี่เอา” นี่พี่เขาไม่คิดว่าฉันจะอายบ้างรึไง ทำไมถึงได้ชอบพูดจาแบบนี้ตลอดเลย“ก็พี่องศาบอกให้พราวทำ” ทั้งๆที่มันเป็นครั้งแรกของฉัน แต่ฉันก็ยังยอมทำตามคำขอของเขา“หึ ว่านอนสอนง่ายดี” คนตรงหน้าพูดแล้วระบายรอยยิ้มออกมา ทำไมเขาถึงได้ดูดีขนาดนี้นะ “จ้องขนาดนี้ พราวอยากกินพี่หรืออยากให้พี่กินพราว” จะมากินพี่กินพราวอะไรของเขา บ้าจริง“พราวจะกินข้าวค่ะ หิวข้าว” ฉันยู่ปากใส่คนตรงหน้า ก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ นี่ฉันพลาดท่าให้คนร้ายกาจแบบเขาได้ยังไงกัน เฮ้อ…..หนึ่งชั่วโมงต่อมา….“จะให้พี่บอกไอ้เพทายเรื่องของเราเลยไหม” จู่ๆพี่องศาที่นั่งเงียบอยู่นา