แชร์

บทที่ 56

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยพยักหน้าอย่างจริงจัง

ฉงชูโม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย พึมพำกับตัวเองว่า “เหตุใดข้างในจึงเงียบเช่นนี้เล่า?”

นางรู้สึกสงสัย จึงยื่นมือไปเคาะประตู

แต่ทันทีที่มือแตะประตู ประตูห้องตำราก็เปิดออกอย่างง่ายดาย ปรากฏว่ามิได้ล็อก

เห็นฉินซูในตอนนี้หันหลังให้ประตูห้องตำรา นั่งอยู่หน้าโต๊ะด้วยความตั้งใจจดจ่อ มิรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่

เมื่อเห็นดังนั้น ฉงชูโม่ก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้น อดมิได้ที่จะถามว่า “องค์รัชทายาท ท่านกำลังทำ…”

นางยังพูดมิทันจบ ฉินซูที่กำลังยุ่งอยู่ก็มือสั่น จากนั้นก็มีเสียง “ตู้ม” ดังขึ้น!

ควันหนาทึบพวยพุ่งขึ้นตรงหน้าฉินซู กลิ่นฉุนดินปืนฟุ้งกระจายไปทั่วห้องตำราในทันที

ทั้งฉงชูโม่และตู๋กูโฉ่วเยวี่ยต่างตกตะลึง อ้าปากค้างจ้องมองฉินซู

ฉินซูหันกลับมา บ่นด้วยน้ำเสียงตัดพ้อว่า “ฉงชูโม่ ตัวข้าไปทำอะไรให้เจ้าแค้นหรือไร? ถึงได้ร้องโวยวายอย่างนั้น!”

ตอนนี้เขาดูมอมแมม มิหล่อเหลาเหมือนอย่างเคย

ที่น่าขันยิ่งกว่านั้นคือ ตอนที่เขาพูด ยังมีควันพวยพุ่งออกมาจากปากเขาอีกด้วย

“พรวด... ฮ่าฮ่าฮ่า!”

ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยกลั้นหัวเราะไว้ได้ครู่หนึ่ง ก็ทนมิไหว ต้องเอามือกุมท้องหัวเราะออกมาเสียงดัง

ฉง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 57

    “เหตุใดข้าต้องอายด้วย? ชิงเหยาเป็นสตรีของข้า ข้าจะทำสิ่งใดกับนางก็เป็นเรื่องปกติ!”ฉินซูพูดจบก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วพูดหยอกล้อว่า “ว่าแต่ เจ้าอยากจะร่วมด้วยหรือไม่? เหมือนอย่างเมื่อคืน…”สีหน้าของฉงชูโม่เปลี่ยนเป็นเย็นชา นางสะบัดแส้ในมือออกมาโดยไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆรูม่านตาของฉินซูหดเล็กลง และถอยหลังไปครึ่งก้าวโดยสัญชาตญาณ!เมื่อเห็นว่าฉินซูหลบได้อีกครั้ง ฉงชูโม่ก็อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ “ตอบสนองได้เร็วเพียงนี้ ยังจะอ้างว่ามิรู้วรยุทธอีกรึ วันนี้หม่อมฉันจะสัมผัสทักษะอันน่าประทับใจขององค์รัชทายาทสักหน่อย!”พูดจบ นางก็สะบัดข้อมือ แส้ในมือก็พุ่งเข้าใส่ฉินซูราวกับผ้าไหมที่กำลังโบกสะบัดฉินซูรีบพูดว่า “ฉงชูโม่ ตัวข้าแค่ล้อเล่นกับเจ้า เจ้าจะต้องจริงจังถึงเพียงนี้เชียวหรือ? หากเจ้ายังมิหยุด ข้าจะเอาเรื่องเมื่อคืนไปพูดแล้ว!”ได้ยินดังนั้น ฉงชูโม่ก็หยุดทันที แล้วดุว่า “องค์รัชทายาท ท่านเป็นถึงรัชทายาท ยังมาข่มขู่หม่อมฉัน ท่านทำเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้ได้อย่างไร!”“เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นรัชทายาท ยังกล้าลงมือกับข้า เจ้ามิไร้ยางอายหรือไร?”“หึ ก็แค่รัชทายาทที่รอวันถูกปลด!”“ถึงอย่างไรก็เป็นร

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 58

    ฉงชูโม่ตกใจสุดขีด นางรีบรวบรวมพลังปราณในร่างกาย และถอยกลับอย่างรวดเร็ว แต่ถึงกระนั้น อาภรณ์ของนางก็ยังถูกแรงระเบิดจนทำให้ขาดวิ่น แขนของนางยังถูกเศษเหล็กบาดจนเป็นแผลอีกด้วย!แม้แต่ต้นไม้ใหญ่รอบ ๆ ลำต้นก็ยังถูกแรงระเบิดจนเป็นรูพรุนไปหมด!หลังจากคลื่นระเบิดสงบลง นางก็ยืนตะลึงอยู่กับที่ด้วยความตกใจนี่...นี่มันดอกไม้ไฟงั้นหรือ?ในขณะเดียวกันกับที่เสียงระเบิดดังขึ้นที่กำแพงเมือง เหล่าทหารยามก็ตกใจกับเสียงระเบิดที่ดังขึ้นอย่างฉับพลันหลังจากได้สติ หัวหน้ากองรักษาการณ์ก็ตะโกนทันทีว่า “ข้าศึกบุกโจมตี! ตั้งรับเร็วเข้า! พวกเจ้า จงตามข้าไปตรวจตราสถานการณ์!”เมื่อพูดจบ เขาก็รีบพาลูกน้องวิ่งไปยังทิศทางที่เสียงดังมามินาน พวกเขาก็เห็นคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น สภาพมอมแมม อาภรณ์ขาดรุ่งริ่งหัวหน้ากองรักษาการณ์ชักดาบออกมาทันที พร้อมตะโกนเสียงดังว่า “เฮ้ย! ใครกัน กล้ามาสร้างความวุ่นวายขนาดนี้ที่เชิงเขาเมืองหลงเฉิง จับตัวมา!”“ขอรับ!”เหล่าทหารกองรักษาการณ์กำลังจะเข้าไป แต่ในตอนนั้นคนผู้นั้นก็หันกลับมา ตะโกนเสียงเย็นชาว่า “เบิกตาของพวกเจ้าดูให้ดีว่าข้าเป็นใคร!”เมื่อได้ยินดังนั้น หัวหน้ากองรักษา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 59

    “อ้อ เจ้าดูท่าทางโทรมมาก ไปอาบน้ำที่โรงอาบน้ำเถอะ ไม่มีคำสั่งของข้า ไม่มีใครไปรบกวนเจ้าหรอก”“ท่าน… ฮึ่ม องค์รัชทายาท หม่อมฉันจะจำเรื่องนี้ไว้ ท่านควรจะระวังตัวไว้ให้ดี อย่าให้หม่อมฉันจับได้ว่าท่านทำสิ่งใดมิดีเถอะ”ฉงชูโม่จ้องฉินซูด้วยสายตาคุกคามแล้วหันหลังเดินออกไปฉินซูรู้สึกมิพอใจเล็กน้อย และบ่นพึมพำว่า “ทำเป็นหยิ่งไปได้ หากไม่มีอำนาจขององค์จักรพรรดิหนุนหลัง ข้าจะจับเจ้ากดลงพื้นแล้วถูไถให้ดู เชื่อหรือไม่!”วันรุ่งขึ้นฉินซูสั่งให้ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปตลาดอีกครั้ง เพื่อซื้อวัตถุดิบสำหรับทำดินปืนครั้งนี้ ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยได้ดินประสิวมาสองก้อนใหญ่เท่ากำปั้นด้วยประสบการณ์จากครั้งก่อน ฉินซูจึงสามารถผสมดินปืนได้อย่างง่ายดาย หลังจากผสมลูกเหล็กและเศษเหล็กเข้าไป เขาก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจหลังจากนั้น เขาก็ส่งคนไปที่ร้านตีเหล็กเพื่อทำลูกเหล็กทรงรีขนาดเท่ากำปั้นประมาณเจ็ดหรือแปดลูกแม้ว่างานฝีมือในยุคนั้นจะหยาบ แต่ก็ยังสามารถตอบสนองความต้องการของฉินซูได้เมื่อเขาได้ลูกเหล็กเล็ก ๆ มา เขาก็เอามันมาตอกตะปูที่ด้านบนของลูกเหล็กเพื่อทำรูจากนั้น เขาก็เทดินปืนสีดำที่ผสมกับเศษเหล็กเข้าไป หล

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 60

    ฉงชูโม่ตอบกลับด้วยสายตาแน่วแน่ว่า “ไปหาสหาย เป็นสหายที่สำคัญมากคนหนึ่ง”แม่ทัพใหญ่อันดับหนึ่งเดินทางไกลนับพันลี้เพื่อไปหาสหาย แสดงว่าสหายคนนี้ต้องสำคัญมากขนาดไหน ฉินซูก็พอจะนึกออกดังนั้นเขาจึงถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า “แฟนหรือ?”ฉงชูโม่ถามกลับด้วยความสับสนมิเข้าใจว่า “องค์รัชทายาท แฟนคืออะไรหรือ?”“เอ่อ... หมายความว่า คนที่อยู่ในใจ เจ้าจะไปหลงโย่วเพื่อตามหาคนที่อยู่ในใจเจ้าใช่หรือไม่?”ฉงชูโม่มีแววตาสั่นไหว มิได้ยอมรับ แต่ก็มิได้ปฏิเสธเมื่อเห็นดังนั้น ฉินซูจึงเบ้ปากพูดว่า “เจ้าจะไปตามหาคนที่อยู่ในใจ แต่กลับต้องการให้ตัวข้าไปเป็นเพื่อน เจ้า เห็นตัวข้าเป็นเครื่องมือหรือไร ตีให้ตายข้าก็มิไป”ฉงชูโม่ใจร้อนขึ้น กระทืบเท้าและพูดว่า “องค์รัชทายาท อย่างน้อยหม่อมฉันก็ช่วยท่านกำจัดแขนขาของอ๋องจิ้นไปข้างหนึ่ง ท่านตอบแทนผู้มีพระคุณเช่นนี้หรือ? อีกอย่าง ที่หลงโย่วก็มีที่เที่ยวมากหลาย ท่านไปเที่ยวสักหน่อยก็มิเสียหายอะไร ไฉนท่านมิไปเล่า?”“ไม่มีเหตุผลอะไร ตัวข้ามิอยากไป หากเจ้าอยากไป เจ้าก็เข้าวังไปขอเสด็จพ่อเองก็สิ้นเรื่อง ด้วยฐานะของเจ้า พระองค์ต้องทรงอนุญาตอยู่แล้ว”“เรื่องที่หม่อมฉ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 61

    ด้วยรูปร่างหน้าตาและสัดส่วนที่สวยงามของฉงชูโม่ บุรุษปกติคงมีมิกี่คนที่สามารถต้านทานเสน่ห์ของนางได้ แต่สวีหลายกลับมองนางเป็นแค่น้องสาวเสมอมา นับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าประหลาดใจ“ดังนั้น องค์รัชทายาท ท่านพอจะเสด็จไปกับหม่อมฉันสักครั้งได้หรือไม่? เพียงแค่ท่านตอบตกลง หม่อมฉัน ฉงชูโม่ จะติดหนี้บุญคุณท่าน ท่านน่าจะทรงทราบดีว่า หนี้บุญคุณของหม่อมฉัน ฉงชูโม่ มิใช่สิ่งที่หาได้ง่าย ๆ”“ในเมื่อเจ้าพูดมาถึงเพียงนี้ หากตัวข้ายังมิตอบตกลง ก็คงดูเป็นคนไร้น้ำใจเกินไปแล้ว”ฉงชูโม่ถามด้วยสีหน้าที่ดีใจว่า “ท่านตอบตกลงแล้วใช่หรือไม่เพคะ?”ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย และเตือนว่า “ข้าตอบตกลงก็จริง แต่มีข้อแม้ว่า ในการเดินทางไปหลงโย่วครั้งนี้ เจ้าต้องเชื่อฟังข้า”ฉงชูโม่ดีใจจนออกนอกหน้า รีบตอบตกลงทันที “แน่นอน ไม่มีปัญหาเพคะ เพียงแค่องค์รัชทายาทตอบตกลง หม่อมฉันจะเชื่อฟังท่านทุกอย่าง!”“เช่นนั้นก็ตกลง รอตู๋กูโฉ่วเยวี่ยมาถึง ตัวข้าจะให้เขาเตรียมการ”สีหน้าของฉงชูโม่เปลี่ยนไปเล็กน้อย “องค์รัชทายาท เรื่องนี้มิสามารถให้ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยรู้ได้ และมิสามารถให้เขาตามไปได้เพคะ!”“เหตุใดเล่า?”“ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยป็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 62

    “มิใช่อย่างนั้นเพคะ หม่อมฉันแค่รู้สึกแปลกใจกับคำพูดเมื่อครู่ของท่าน 'หากความรักของทั้งสองนั้นมั่นคงและยืนยาว จะต้องคำนึงถึงการอยู่ใกล้ชิดกันทุกเช้าค่ำไปด้วยเหตุใดกัน' องค์รัชทายาท คำนี้ช่างไพเราะเหลือเกินเพคะ”แววตาที่หลินชิงเหยาจ้องมองฉินซู เปี่ยมไปด้วยความชื่นชมฉินซูอดมิได้ที่จะยิ้มออกมาประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้ แตกต่างจากโลกที่เขาข้ามมิติมาอย่างมากด้วยเหตุนี้ ความรู้ที่เขามีจึงมีประโยชน์ในโลกใบนี้เขาหัวเราะแล้วพูดว่า “มิใช่เรื่องใหญ่อันใด แต่ครั้งนี้ข้าอาจจะต้องออกไปสิบวันครึ่งเดือน ดังนั้นตอนนี้…”เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาก็ยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วอุ้มหลินชิงเหยาขึ้นในอ้อมแขนหลินชิงเหยาร้องออกมา แต่เมื่อตั้งสติได้ นางก็หน้าแดงเล็กน้อยและโอบแขนรอบคอของฉินซูฉินซูมิพูดอะไร หันหลังแล้วเดินก้าวใหญ่ไปทางโรงอาบน้ำตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่เขาได้ลองเล่นในน้ำพุร้อน เขาก็ตกหลุมรักความรู้สึกนั้นไปแล้วหลังจากเข้าไปในโรงอาบน้ำ เขาก็จูบไปที่ริมฝีปากเล็ก ๆ ที่สวยงามของหลินชิงเหยา ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบสนองอย่างรู้ใจมินานนัก อาภรณ์ก็กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นข้าง ๆ บ่ออาบน้ำผิวน้ำในบ่ออาบน้ำที่เคยสงบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 63

    จากนั้นน้ำเสียงของนางก็เย็นชาลงอย่างกะทันหัน แล้วพูดต่อว่า “แน่นอน หากองค์รัชทายาทอยากตายเอง ข้าก็ก้าวก่ายมากมายขนาดนั้นมิได้”เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินชิงเหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย มิพูดอะไรอีกดวงตาของฉงชูโม่กลอกกลับไปมองอย่างรวดเร็ว และพูดอย่างแผ่วเบาว่า “องค์รัชทายาท หม่อมฉันจะล่วงหน้าไปก่อน พวกเราจะพบกันที่ป่าท้อนอกประตูเมืองทิศใต้”พูดจบนางก็หันหลังกลับและเดินออกไปก่อนหลินชิงเหยาถามด้วยความสับสนเล็กน้อย “องค์รัชทายาท ไฉนพี่หญิงชูโม่ถึงมิรอท่านเล่าเพคะ?”“ใครจะไปรู้ บางทีนางอาจจะไปบอกลาเซี่ยหลาน เพราะพวกนางมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน”ฉินซูอยู่กับหลินชิงเหยาสักพัก จากนั้นจึงกลับไปที่ห้องเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดลำลองภายใต้สายตาที่ลังเลขอหลินชิงเหยา ในที่สุด ฉินซูวางห่อผ้าไว้บนหลังม้าแล้วขี่ม้าออกไป มินาน เขาก็มาถึงป่าท้อนอกเมืองทิศใต้เห็นฉงชูโม่รออยู่ที่นั่นแล้ว“องค์รัชทายาท เวลาล่วงเลยมามากแล้ว พวกเราออกเดินทางกันเถิด พยายามไปให้ถึงเมืองอวี๋หางก่อนตะวันตกดิน”“ได้ ไปกันเถอะ”ฉินซูสะบัดแส้ ควบม้าตะบึงไปทางทิศใต้“พี่ใหญ่สวี รอข้าก่อนนะ!”ฉงชูโม่พึมพำ มองไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่ ค

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 64

    “ข้าน้อยแน่ใจว่ามีองค์รัชทายาทคนเดียว จะว่าไปก็แปลกจริง องค์รัชทายาทออกไปโดยไม่มีองครักษ์หรือผู้ติดตาม...”ฉินเหยี่ยนมีสีหน้าเหี้ยมโหด กล่าวด้วยเจตนาสังหาร “อยู่คนเดียว ถือว่าเป็นเรื่องดี!”ขุนนางประจำจวนอ๋องซุนฉีที่อยู่ข้าง ๆ ได้ยินดังนั้นก็ถามด้วยความตกใจ “ท่านอ๋อง หรือว่าท่านทรงจะ…”ระหว่างที่พูดอยู่นั้น เขาก็ทำท่าปาดคอเมื่อเห็นเช่นนั้น สีหน้าขององครักษ์ก็ซีดเผือดการลอบปลงพระชนม์องค์รัชทายาท เป็นอาชญากรรมร้ายแรง!แต่เขาก็มิกล้าพูดอะไร รีบก้มหน้าลง ทำเหมือนมิเห็นมิได้ยินสิ่งใด ฉินเหยี่ยนหัวเราะอย่างเย็นชา “เรื่องนี้เรามิสามารถลงมือเองได้ ซุนฉี เจ้าเอาป้ายของข้าไปที่สำนักอาทิตย์อัสดง”“ข้าน้อยรับบัญชา!”ซุนฉีรับคำสั่งด้วยความเคารพ จากนั้นก็ควบม้าออกจากเมืองหลงเฉิง ตรงไปยังสำนักอาทิตย์อัสดงที่ชานเมือง ในเวลาเดียวกัน จวนอ๋องหนิง จวนอ๋องฉี และจวนอ๋องอื่น ๆ ก็ส่งคนออกจากเมืองไปยังทิศทางต่าง ๆ กันหนึ่งชั่วยามต่อมาสำนักบู๊ลิ้มรอบเมืองหลงเฉิง ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวนกพิราบสื่อสารจำนวนมากบินขึ้นไปบนฟ้า มุ่งหน้าไปทางทิศใต้......ดวงอาทิตย์เคลื่อนต่ำลง แสงสุดท้ายของวันย้อ

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 580

    เมื่อได้ยินคำพูดของฉินซู ทุกคนก็ชะงักไป และมองเขาด้วยสายตาที่แปลกไปเล็กน้อยสวี่จิ้นกล่าวด้วยความสงสัยว่า "องค์รัชทายาท พระองค์เข้าพระทัยผิดเกี่ยวกับธนูสองหินแล้วกระมังพ่ะย่ะค่ะ? ธนูที่แข็งแกร่งเช่นนี้ แม้แต่ทหารป้อมปราการที่กรำศึกมาอย่างโชกโชนก็แทบจะไม่มีใครดึงได้ นับประสากระไรกับคนธรรมดา"เหวินเยวี่ยนซานกล่าวสำทับ "ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ ธนูสองหินต้องใช้กำลังแขนสองร้อยชั่งจึงจะดึงได้ ทหารป้อมปราการที่มีกำลังแขนแข็งแรงบางคนอาจจะทำได้ ทว่าหากใช้มันยิงศัตรู ยิงได้มิกี่ดอกก็หมดแรงเสียแล้ว ยากที่จะใช้ต่อเนื่องได้พ่ะย่ะค่ะ"ฉินซูโบกมือ "ใต้เท้าทั้งสอง ธนูของข้ามิเหมือนกับธนูทั่วไป นอกจากจะมีอานุภาพดุจธนูสองหินแล้ว ยังรับประกันได้ว่าคนธรรมดาก็ดึงได้ เพียงแต่มิรู้ว่ากรมโยธาธิการต้องใช้เวลานานเพียงใดจึงจะสร้างออกมาได้"เมื่อได้ยินดังนั้น เหล่าขุนนางระดับสูงต่างก็มองหน้ากันด้วยความสับสนธนูสองหินที่คนธรรมดาก็ดึงได้?เป็นไปได้อย่างไร!ฉินอู๋ต้าวบนบัลลังก์มังกรใบหน้าฉายแววประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่าเขาสนใจธนูที่ฉินซูพูดมากสวี่จิ้นกล่าวอย่างมั่นใจว่า "องค์รัชทายาท ตราบใดที่มีแบบจำลอง กรมโยธาธิการข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 579

    ฉินซูเหลือบมองหวังฉือโดยมิรู้ตัวหวังฉือเองก็มองมาที่เขาด้วยท่าทีครุ่นคิดในเวลาเดียวกันทั้งสองสบตากัน ก็เข้าใจสิ่งที่อยู่ในใจของอีกฝ่ายหลังจากที่ฉินซูส่งซุยหลีไปแล้ว เขาก็กระซิบกับหวังฉือว่า "ซุยหลีเพิ่งทูลกับเสด็จพ่อว่า บุตรสาวของใต้เท้าหลิวมีดวงชะตาหยินสุดขั้ว ตกกลางคืนบุตรสาวของใต้เท้าหลิวก็ถูกลักพาตัวไปทันที หากบอกว่าทั้งสองเรื่องนี้มิเกี่ยวข้องกัน ท่านเชื่อหรือไม่?""ข้าน้อยมิเชื่อ แต่ประเด็นคือ ตอนนี้เราไม่มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรม คงนำเรื่องนี้ไปตั้งคำถามกับฝ่าบาทมิได้ถูกหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?""แน่นอนว่ามิได้ แต่ตัวข้ากับท่านจำต้องรู้ว่าเสด็จพ่อทรงซ่อนความลับที่หาได้มีใครล่วงรู้ไม่เท่านั้น ส่วนร่างหยินบริสุทธิ์มีประโยชน์อย่างไร ข้าจะหาโอกาสถามหัวหน้าโหรหลวงในภายหลัง""ข้าน้อยเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ แต่หัวหน้าโหรหลวงขอลาพักกับฝ่าบาท ช่วงนี้คงจะมิมาเข้าเฝ้า"ฉินซูชะงักไปเล็กน้อย แล้วเอ่ยถาม "เพราะเหตุใด?""เรื่องนี้ข้าน้อยเองก็มิทราบ เดาว่าเพราะท่านหัวหน้าโหรหลวงจะไปกักตนบำเพ็ญเพียรกระมังพ่ะย่ะค่ะ"เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาฉินซูก็ฉายประกายเล็กน้อย และมิได้พูดอะไรอีกครู่ต่อมาในพระต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 578

    หวังฉือขมวดคิ้ว กล่าวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความงุนงงว่า "องค์รัชทายาท ข้าน้อยยังมิเข้าใจว่าใครเป็นคนสังหารกู้ตงเฟิงกันแน่?""วรยุทธ์ของเจ้าปีศาจเฒ่าผู้นี้หาได้อ่อนด้อยไม่ หลังจากพักฟื้นหลายวัน อาการบาดเจ็บของเขาคงจะหายดีเจ็ดถึงแปดส่วนแล้ว คนที่สังหารเขาได้ อย่างน้อยก็ต้องเป็นจอมยุทธ์ระดับปฐพีขั้นกลางขึ้นไป มองไปทั่วเมืองหลงเฉิง เห็นจะมีจอมยุทธ์ระดับนี้อยู่เพียงหยิบมือ!""มีมิมากจริงดังท่านว่า ช่วงนี้ไม่มียอดฝีมือจากยุทธภพเข้ามาในเมือง นอกจากศิษย์ของหัวหน้าโหรหลวงสำนักหอดูดาวหลวงแล้ว คนที่มีฝีมือระดับนี้ก็มีแต่ยอดฝีมือในวังหลวงเท่านั้น..."พูดถึงตรงนี้ หวังฉือก็เบาเสียงลงเนื่องจากเพิ่งรู้ตัว "องค์รัชทายาท หรือนี่จะเป็นฝีมือของราชองครักษ์พ่ะย่ะค่ะ?""หากมีส่วนเกี่ยวข้องกับราชองครักษ์ เรื่องนี้คงหนีมิพ้นเสด็จพ่อ ตอนนี้เรายังไม่มีหลักฐานใด ๆ ท่านอย่าเพิ่งแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด""วางพระทัยเถิดพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท คำพูดเหล่านี้ข้าน้อยกล้าพูดกับพระองค์เท่านั้น""เช่นนั้นก็ดีแล้ว ให้พวกเขาค้นหาเบาะแสต่อไป ดูว่าจะพบบุตรสาวของใต้เท้าหลิวหรือไม่""รับพระบัญชา!"หวังฉือประสานมือคารวะแล้ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 577

    "ได้ เช่นนั้นเจ้าก็ระวังตัวด้วย"หลิวเว่ยโบกมือให้ผู้ใต้บังคับบัญชายกร่างไร้วิญญาณของกู้ตงเฟิงไปสองเค่อต่อมาในห้องเก็บศพของศาลต้าหลี่ร่างไร้วิญญาณของกู้ตงเฟิงนอนอยู่บนแท่นหินเย็นเยียบหวังฉือมองดูอีกฝ่ายหลายครั้ง แต่ก็ยังมิอยากเชื่อสายตาตนเองเขาถามตงฟางไป๋ว่า "ใต้เท้าตงฟาง เจ้าแน่ใจหรือว่าเขาคือกู้ตงเฟิง?"ตงฟางไป๋พยักหน้าหนักแน่น "แน่ใจขอรับ เมื่อก่อนตอนที่พวกข้าท่องยุทธภพ เคยเจอเจ้าโจรเฒ่าผู้นี้หลายครา ข้าไม่มีทางจำหน้าตาของเขาผิดเป็นแน่"ในขณะนั้นเอง ฉินซูก็มาถึงทุกคนคารวะต่อเขาฉินซูโบกมือแล้วเดินเข้าไปอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณของกู้ตงเฟิงบนแท่นหิน เขาก็แสดงสีหน้าประหลาดใจกู้ตงเฟิงตายแล้วจริง ๆ กระนั้นหรือ?!หากมิใช่เพราะรูปร่างหน้าตาน่าขนลุกของกู้ตงเฟิงตราตรึงจิตใจผู้พบเห็นเกินไป และแขนซ้ายที่ถูกทำลายไป ฉินซูคงอดสงสัยมิได้ว่าเขาจำผิดคนหรือไม่ฉินซูเลิกคิ้วถาม "พบศพของกู้ตงเฟิงที่ใด?""ทูลองค์รัชทายาท พบที่ตรอกผิงอี่ในตลาดหย่งเล่อพ่ะย่ะค่ะ! ข้าน้อยสำรวจบริเวณใกล้เคียงแล้ว มิพบเบาะแสอื่นใดเลยพ่ะย่ะค่ะ""แล้วพวกเจ้าพบศพของเขาได้อย่างไร?"ตงฟางไป๋จึงเล

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 576

    เมื่อครู่ที่อยู่ในพระที่นั่งหย่างซิน ฉินซูมิเห็นสิ่งผิดปกติใด ๆ จากฉินอู๋ต้าวเขาอดคิดมิได้ว่า หรือเขาคิดมากไปเองจริง ๆ ?เขาหันกลับไปมองพระที่นั่งหย่างซิน ก่อนจะเดินจากไปหลังจากที่ฉินซูจากไปได้มินาน ชายคนหนึ่งก็เข้ามาในพระที่นั่งหย่างซินฉินอู๋ต้าวสั่งกับเขาว่า “ทำตามแผนที่วางไว้ จำไว้ให้ขึ้นใจว่า ห้ามทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้เป็นอันขาด!”“รับพระบัญชา!”หวงเฉาขานรับด้วยความเคารพ!หลังจากออกจากพระที่นั่งหย่างซิน หวงเฉาก็มาถึงนอกพระราชวังอย่างรวดเร็วเขาเหลือบมองซ้ายขวา เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครเห็น เขาก็หันหลังเข้าไปในร้านค้าแห่งหนึ่งมินานนัก เขาก็เดินออกมาจากข้างในตอนนี้เขาอยู่ในชุดท่องราตรีสีดำ ใบหน้าถูกปกคลุมด้วยผ้าสีดำ บนบ่าของเขามีกระสอบป่านใบหนึ่งพาดอยู่หลังจากออกจากร้านค้า เขาก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งตัวไปทางศาลต้าหลี่ในเวลาเดียวกันตงฟางไป๋และคนอื่น ๆ กำลังสำรวจตรอกแห่งหนึ่งในขณะนั้นเอง หางตาของตงฟางไป๋กระตุกเล็กน้อย เขาเหลือบไปเห็นเงาร่างหนึ่งพลิกตัวข้ามกำแพงมิไกลออกไปเขาพูดเสียงต่ำ “อยู่ตรงนั้น ตามไปเร็ว!”เหล่าทหารรักษาตำหนักได้ยินดังนั้นก็รีบติดตามไปอย่างรวดเร็วคนก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 575

    แต่จากตัวอักษรที่ปรากฏ มองออกมิยากว่านี่คือวิชายุทธขั้นสุดยอดชายชุดคลุมดำพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ดีมาก มิเสียแรงที่ข้าอุตส่าห์ลำบากช่วยเจ้า”กู้ตงเฟิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามอย่างระมัดระวัง “ท่านผู้มีพระคุณ เมื่อไรข้าน้อยจะออกไปจากที่นี่ได้หรือขอรับ?”ชายชุดคลุมดำมองเขาด้วยสายตาเย็นชา แล้วถามกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “กระไรกัน? อยู่ที่นี่กับข้ามันทำให้เจ้าอึดอัดหรือ?”“หามิได้ ๆ ขอรับ ข้าน้อยมิได้หมายความเช่นนั้น เพียงแต่กังวลว่าศัตรูจะมาพบเข้า แล้วจะทำให้ท่านผู้มีพระคุณพลอยเดือดร้อนไปด้วยขอรับ”“เรื่องนี้เจ้าวางใจได้ ที่นี่เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในใต้หล้า เจ้าแค่ตั้งใจกักตนบำเพ็ญเพียรอยู่ที่นี่ รอจนกว่าเรื่องซาลง ข้าจะปล่อยเจ้าไปเอง”ได้ยินดังนั้น กู้ตงเฟิงก็พยักหน้าอย่างครุ่นคิดในใจกลับคิดว่า สถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในใต้หล้า ดูเหมือนว่าที่นี่จะอยู่ในพระราชวังจริง ๆ เช่นนั้นแล้วคนที่อยู่ตรงหน้าเขา… หรือว่าจะเป็น...เขามิกล้าคิดต่อไป เพราะมิว่าเขาจะเดาถูกหรือไม่ก็ตาม ล้วนแต่ส่งผลต่อสภาพจิตใจของเขา......“องค์รัชทายาท ดึกดื่นป่านนี้แล้ว เหตุใดพระองค์ถึงเสด็จมาที่นี่พ่ะ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 574

    "องค์รัชทายาท เกิดเรื่องแล้วพ่ะย่ะค่ะ!"หวังฉือมาถึงตำหนักบูรพา ก็กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดฉินซูพอจะคาดเดาได้จากสีหน้าวิตกกังวลของเขา "หรือว่ามีเด็กสาวถูกลักพาตัวไปอีกแล้ว?""ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ คราวนี้เป็นบุตรสาวของหลิวเหวินซิน เสนาบดีกรมกลาโหมพ่ะย่ะค่ะ!""ท่านว่ากระไรนะ? บุตรสาวของเสนาบดีกรมกลาโหมรึ?!""ถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ ก่อนที่ข้าน้อยจะมาที่นี่ หลิวเหวินซินได้ไปแจ้งความต่อศาลต้าหลี่ด้วยตนเอง ตอนนี้ผู้ตรวจการศาลต้าหลี่และทหารรักษาจวนของเขากำลังออกค้นหากันอยู่ แต่มิแน่ใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ..."พูดถึงตรงนี้ หวังฉือก็หยุดพูด พร้อมกับชี้ขึ้นไปยังท้องฟ้าเหนือศีรษะฉินซูเข้าใจความหมายของเขาในทันที หากเป็นฝีมือขอองค์จักรพรรดิ บุตรสาวของเสนาบดีกรมกลาโหมต้องตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวงเป็นแน่เขาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า "เช่นนั้นตัวข้าจะใช้ข้ออ้างนี้ไปขอเข้าเฝ้าเพื่อหยั่งเชิงเสด็จพ่อดูสักหน่อย""มิได้พ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท หากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฝ่าบาทจริง ๆ และฝ่าบาททรงล่วงรู้เรื่องนี้เข้า ฝ่าบาทอาจกระทำการบางอย่างก็เป็นได้"ที่หวังฉือมาถึงที่นี่ นอกจากกังวลว่าฉินซูจะรีบไ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 573

    บนกำแพงวังเต็มไปด้วยหน่วยตรวจตรา ทว่ากลับไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติใด ๆในขณะเดียวกันจวนหลังใหญ่ทางทิศตะวันตกของเมืองชายวัยห้าสิบคนหนึ่งกำลังสนทนากับเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่ที่ห้องรับรองเขาผู้นี้คือหลิวเหวินซิน เสนาบดีกรมกลาโหมเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางกล่าวพึมพำ “มิคิดว่าครั้งนี้แคว้นหนานเยวี่ยจะจริงจังถึงขั้นนี้ สงครามปะทุขึ้นแล้ว ชาวบ้านแถบชายแดนทางใต้ต้องทุกข์ยากเพราะสงครามอีกคราแล้วสินะ”“ใต้เท้าหลิว ที่ชายแดนทางใต้มีแม่ทัพฉงคุมทัพอยู่ คงจะไม่มีปัญหามากกระมังขอรับ?”“ใช่แล้ว มีแม่ทัพฉงอยู่ พวกคนนอกด่านแคว้นหนานเยวี่ยก็คงมิกล้าข้ามชายแดนแม้แต่ครึ่งก้าว”หลิวเหวินซินถอนหายใจเบา ๆ แล้วกล่าว “เมื่อเย็นนี้ กรมกลาโหมได้รับข่าวด่วนจากชายแดนทางใต้ พวกคนนอกด่านแบ่งกองทัพออกเป็นสามทางบุกโจมตีพร้อมกันสามด้านแม้ว่าจะมีแม่ทัพฉงคุมกองทัพอยู่ที่เมืองเจียวโจว แต่เวลานี้นางคงดูแลสองด้านมิไหวแน่เสนาบดีกรมกลาโหมไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทแล้ว หวังว่าฝ่าบาทจะทรงอนุญาตให้ส่งกองทัพไปเสริมกำลังที่ชายแดนใต้ หากปล่อยให้ถูกโจมตีสามด้าน เมืองเจียวโจวคงจะต้านทานได้อีกมินาน”“ใต้เท้าหลิว เมื่อมินานมา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 572

    เหลยเจิ้นตอบจริงจังว่า “ข้าน้อยมิทำเช่นนั้นแน่ ข้าน้อยให้สัญญากับองค์รัชทายาทไปแล้วว่าจะให้เสวี่ยเจี้ยนแต่งงานกับท่าน ข้าน้อยไม่มีทางผิดคำพูดเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ!”“แต่แปลกนัก เหตุใดเสด็จพ่อถึงทรงตัดสินพระทัยเช่นนี้?”ฉินซูขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิมตอนแรกเขาคิดว่าเหลยเจิ้นเปลี่ยนใจ แต่ตอนนี้กลับเห็นว่าอีกฝ่ายก็เองก็ดูมึนงงมิต่างกัน เห็นได้ชัดว่ามิทราบเรื่องราวภายในแม้แต่น้อยเขาอดสงสัยมิได้ว่า เสด็จพ่ออาจจะต้องการให้เขามีพระชายาหลายคน เพื่อมีบุตรสืบสกุลเพิ่มหรือไร?เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาจึงถามเหลยเจิ้นด้วยความสงสัยว่า “หัวหน้าโหรหลวงคิดว่า เสด็จพ่อทรงมีพระประสงค์กระไรจึงได้ออกพระราชโองการครั้งนี้?”เหลยเจิ้นยักไหล่ “องค์รัชทายาททรงถามคำถามที่ยากเกินกว่าที่ข้าน้อยจะตอบได้ พระราชดำริของฝ่าบาทข้าน้อยจะคาดเดาได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”โธ่ มาสำนักหอดูดาวหลวงเสียเที่ยวแล้วฉินซูบ่นในใจแล้วจึงลาจากไปหลังจากที่ฉินซูจากไป เหลยเจิ้นก็ขมวดคิ้วพึมพำ“จู่ ๆ ฝ่าบาทก็มีพระราชโองการเลือกชายาให้องค์รัชทายาท ฝ่าบาททรงมีแผนอันใดกันแน่?”......บ่ายวันนั้นกรมพิธีการได้รับแผนภูมิดวงชะตาหลายร้อยฉบับนี่คือ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status