แชร์

บทที่ 58

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ฉงชูโม่ตกใจสุดขีด นางรีบรวบรวมพลังปราณในร่างกาย และถอยกลับอย่างรวดเร็ว

แต่ถึงกระนั้น อาภรณ์ของนางก็ยังถูกแรงระเบิดจนทำให้ขาดวิ่น แขนของนางยังถูกเศษเหล็กบาดจนเป็นแผลอีกด้วย!

แม้แต่ต้นไม้ใหญ่รอบ ๆ ลำต้นก็ยังถูกแรงระเบิดจนเป็นรูพรุนไปหมด!

หลังจากคลื่นระเบิดสงบลง นางก็ยืนตะลึงอยู่กับที่ด้วยความตกใจ

นี่...นี่มันดอกไม้ไฟงั้นหรือ?

ในขณะเดียวกันกับที่เสียงระเบิดดังขึ้น

ที่กำแพงเมือง เหล่าทหารยามก็ตกใจกับเสียงระเบิดที่ดังขึ้นอย่างฉับพลัน

หลังจากได้สติ หัวหน้ากองรักษาการณ์ก็ตะโกนทันทีว่า “ข้าศึกบุกโจมตี! ตั้งรับเร็วเข้า! พวกเจ้า จงตามข้าไปตรวจตราสถานการณ์!”

เมื่อพูดจบ เขาก็รีบพาลูกน้องวิ่งไปยังทิศทางที่เสียงดังมา

มินาน พวกเขาก็เห็นคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น สภาพมอมแมม อาภรณ์ขาดรุ่งริ่ง

หัวหน้ากองรักษาการณ์ชักดาบออกมาทันที พร้อมตะโกนเสียงดังว่า “เฮ้ย! ใครกัน กล้ามาสร้างความวุ่นวายขนาดนี้ที่เชิงเขาเมืองหลงเฉิง จับตัวมา!”

“ขอรับ!”

เหล่าทหารกองรักษาการณ์กำลังจะเข้าไป แต่ในตอนนั้นคนผู้นั้นก็หันกลับมา ตะโกนเสียงเย็นชาว่า “เบิกตาของพวกเจ้าดูให้ดีว่าข้าเป็นใคร!”

เมื่อได้ยินดังนั้น หัวหน้ากองรักษา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 59

    “อ้อ เจ้าดูท่าทางโทรมมาก ไปอาบน้ำที่โรงอาบน้ำเถอะ ไม่มีคำสั่งของข้า ไม่มีใครไปรบกวนเจ้าหรอก”“ท่าน… ฮึ่ม องค์รัชทายาท หม่อมฉันจะจำเรื่องนี้ไว้ ท่านควรจะระวังตัวไว้ให้ดี อย่าให้หม่อมฉันจับได้ว่าท่านทำสิ่งใดมิดีเถอะ”ฉงชูโม่จ้องฉินซูด้วยสายตาคุกคามแล้วหันหลังเดินออกไปฉินซูรู้สึกมิพอใจเล็กน้อย และบ่นพึมพำว่า “ทำเป็นหยิ่งไปได้ หากไม่มีอำนาจขององค์จักรพรรดิหนุนหลัง ข้าจะจับเจ้ากดลงพื้นแล้วถูไถให้ดู เชื่อหรือไม่!”วันรุ่งขึ้นฉินซูสั่งให้ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปตลาดอีกครั้ง เพื่อซื้อวัตถุดิบสำหรับทำดินปืนครั้งนี้ ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยได้ดินประสิวมาสองก้อนใหญ่เท่ากำปั้นด้วยประสบการณ์จากครั้งก่อน ฉินซูจึงสามารถผสมดินปืนได้อย่างง่ายดาย หลังจากผสมลูกเหล็กและเศษเหล็กเข้าไป เขาก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจหลังจากนั้น เขาก็ส่งคนไปที่ร้านตีเหล็กเพื่อทำลูกเหล็กทรงรีขนาดเท่ากำปั้นประมาณเจ็ดหรือแปดลูกแม้ว่างานฝีมือในยุคนั้นจะหยาบ แต่ก็ยังสามารถตอบสนองความต้องการของฉินซูได้เมื่อเขาได้ลูกเหล็กเล็ก ๆ มา เขาก็เอามันมาตอกตะปูที่ด้านบนของลูกเหล็กเพื่อทำรูจากนั้น เขาก็เทดินปืนสีดำที่ผสมกับเศษเหล็กเข้าไป หล

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 60

    ฉงชูโม่ตอบกลับด้วยสายตาแน่วแน่ว่า “ไปหาสหาย เป็นสหายที่สำคัญมากคนหนึ่ง”แม่ทัพใหญ่อันดับหนึ่งเดินทางไกลนับพันลี้เพื่อไปหาสหาย แสดงว่าสหายคนนี้ต้องสำคัญมากขนาดไหน ฉินซูก็พอจะนึกออกดังนั้นเขาจึงถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า “แฟนหรือ?”ฉงชูโม่ถามกลับด้วยความสับสนมิเข้าใจว่า “องค์รัชทายาท แฟนคืออะไรหรือ?”“เอ่อ... หมายความว่า คนที่อยู่ในใจ เจ้าจะไปหลงโย่วเพื่อตามหาคนที่อยู่ในใจเจ้าใช่หรือไม่?”ฉงชูโม่มีแววตาสั่นไหว มิได้ยอมรับ แต่ก็มิได้ปฏิเสธเมื่อเห็นดังนั้น ฉินซูจึงเบ้ปากพูดว่า “เจ้าจะไปตามหาคนที่อยู่ในใจ แต่กลับต้องการให้ตัวข้าไปเป็นเพื่อน เจ้า เห็นตัวข้าเป็นเครื่องมือหรือไร ตีให้ตายข้าก็มิไป”ฉงชูโม่ใจร้อนขึ้น กระทืบเท้าและพูดว่า “องค์รัชทายาท อย่างน้อยหม่อมฉันก็ช่วยท่านกำจัดแขนขาของอ๋องจิ้นไปข้างหนึ่ง ท่านตอบแทนผู้มีพระคุณเช่นนี้หรือ? อีกอย่าง ที่หลงโย่วก็มีที่เที่ยวมากหลาย ท่านไปเที่ยวสักหน่อยก็มิเสียหายอะไร ไฉนท่านมิไปเล่า?”“ไม่มีเหตุผลอะไร ตัวข้ามิอยากไป หากเจ้าอยากไป เจ้าก็เข้าวังไปขอเสด็จพ่อเองก็สิ้นเรื่อง ด้วยฐานะของเจ้า พระองค์ต้องทรงอนุญาตอยู่แล้ว”“เรื่องที่หม่อมฉ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 61

    ด้วยรูปร่างหน้าตาและสัดส่วนที่สวยงามของฉงชูโม่ บุรุษปกติคงมีมิกี่คนที่สามารถต้านทานเสน่ห์ของนางได้ แต่สวีหลายกลับมองนางเป็นแค่น้องสาวเสมอมา นับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าประหลาดใจ“ดังนั้น องค์รัชทายาท ท่านพอจะเสด็จไปกับหม่อมฉันสักครั้งได้หรือไม่? เพียงแค่ท่านตอบตกลง หม่อมฉัน ฉงชูโม่ จะติดหนี้บุญคุณท่าน ท่านน่าจะทรงทราบดีว่า หนี้บุญคุณของหม่อมฉัน ฉงชูโม่ มิใช่สิ่งที่หาได้ง่าย ๆ”“ในเมื่อเจ้าพูดมาถึงเพียงนี้ หากตัวข้ายังมิตอบตกลง ก็คงดูเป็นคนไร้น้ำใจเกินไปแล้ว”ฉงชูโม่ถามด้วยสีหน้าที่ดีใจว่า “ท่านตอบตกลงแล้วใช่หรือไม่เพคะ?”ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย และเตือนว่า “ข้าตอบตกลงก็จริง แต่มีข้อแม้ว่า ในการเดินทางไปหลงโย่วครั้งนี้ เจ้าต้องเชื่อฟังข้า”ฉงชูโม่ดีใจจนออกนอกหน้า รีบตอบตกลงทันที “แน่นอน ไม่มีปัญหาเพคะ เพียงแค่องค์รัชทายาทตอบตกลง หม่อมฉันจะเชื่อฟังท่านทุกอย่าง!”“เช่นนั้นก็ตกลง รอตู๋กูโฉ่วเยวี่ยมาถึง ตัวข้าจะให้เขาเตรียมการ”สีหน้าของฉงชูโม่เปลี่ยนไปเล็กน้อย “องค์รัชทายาท เรื่องนี้มิสามารถให้ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยรู้ได้ และมิสามารถให้เขาตามไปได้เพคะ!”“เหตุใดเล่า?”“ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยป็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 62

    “มิใช่อย่างนั้นเพคะ หม่อมฉันแค่รู้สึกแปลกใจกับคำพูดเมื่อครู่ของท่าน 'หากความรักของทั้งสองนั้นมั่นคงและยืนยาว จะต้องคำนึงถึงการอยู่ใกล้ชิดกันทุกเช้าค่ำไปด้วยเหตุใดกัน' องค์รัชทายาท คำนี้ช่างไพเราะเหลือเกินเพคะ”แววตาที่หลินชิงเหยาจ้องมองฉินซู เปี่ยมไปด้วยความชื่นชมฉินซูอดมิได้ที่จะยิ้มออกมาประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้ แตกต่างจากโลกที่เขาข้ามมิติมาอย่างมากด้วยเหตุนี้ ความรู้ที่เขามีจึงมีประโยชน์ในโลกใบนี้เขาหัวเราะแล้วพูดว่า “มิใช่เรื่องใหญ่อันใด แต่ครั้งนี้ข้าอาจจะต้องออกไปสิบวันครึ่งเดือน ดังนั้นตอนนี้…”เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาก็ยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วอุ้มหลินชิงเหยาขึ้นในอ้อมแขนหลินชิงเหยาร้องออกมา แต่เมื่อตั้งสติได้ นางก็หน้าแดงเล็กน้อยและโอบแขนรอบคอของฉินซูฉินซูมิพูดอะไร หันหลังแล้วเดินก้าวใหญ่ไปทางโรงอาบน้ำตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่เขาได้ลองเล่นในน้ำพุร้อน เขาก็ตกหลุมรักความรู้สึกนั้นไปแล้วหลังจากเข้าไปในโรงอาบน้ำ เขาก็จูบไปที่ริมฝีปากเล็ก ๆ ที่สวยงามของหลินชิงเหยา ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบสนองอย่างรู้ใจมินานนัก อาภรณ์ก็กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นข้าง ๆ บ่ออาบน้ำผิวน้ำในบ่ออาบน้ำที่เคยสงบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 63

    จากนั้นน้ำเสียงของนางก็เย็นชาลงอย่างกะทันหัน แล้วพูดต่อว่า “แน่นอน หากองค์รัชทายาทอยากตายเอง ข้าก็ก้าวก่ายมากมายขนาดนั้นมิได้”เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินชิงเหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย มิพูดอะไรอีกดวงตาของฉงชูโม่กลอกกลับไปมองอย่างรวดเร็ว และพูดอย่างแผ่วเบาว่า “องค์รัชทายาท หม่อมฉันจะล่วงหน้าไปก่อน พวกเราจะพบกันที่ป่าท้อนอกประตูเมืองทิศใต้”พูดจบนางก็หันหลังกลับและเดินออกไปก่อนหลินชิงเหยาถามด้วยความสับสนเล็กน้อย “องค์รัชทายาท ไฉนพี่หญิงชูโม่ถึงมิรอท่านเล่าเพคะ?”“ใครจะไปรู้ บางทีนางอาจจะไปบอกลาเซี่ยหลาน เพราะพวกนางมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน”ฉินซูอยู่กับหลินชิงเหยาสักพัก จากนั้นจึงกลับไปที่ห้องเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดลำลองภายใต้สายตาที่ลังเลขอหลินชิงเหยา ในที่สุด ฉินซูวางห่อผ้าไว้บนหลังม้าแล้วขี่ม้าออกไป มินาน เขาก็มาถึงป่าท้อนอกเมืองทิศใต้เห็นฉงชูโม่รออยู่ที่นั่นแล้ว“องค์รัชทายาท เวลาล่วงเลยมามากแล้ว พวกเราออกเดินทางกันเถิด พยายามไปให้ถึงเมืองอวี๋หางก่อนตะวันตกดิน”“ได้ ไปกันเถอะ”ฉินซูสะบัดแส้ ควบม้าตะบึงไปทางทิศใต้“พี่ใหญ่สวี รอข้าก่อนนะ!”ฉงชูโม่พึมพำ มองไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่ ค

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 64

    “ข้าน้อยแน่ใจว่ามีองค์รัชทายาทคนเดียว จะว่าไปก็แปลกจริง องค์รัชทายาทออกไปโดยไม่มีองครักษ์หรือผู้ติดตาม...”ฉินเหยี่ยนมีสีหน้าเหี้ยมโหด กล่าวด้วยเจตนาสังหาร “อยู่คนเดียว ถือว่าเป็นเรื่องดี!”ขุนนางประจำจวนอ๋องซุนฉีที่อยู่ข้าง ๆ ได้ยินดังนั้นก็ถามด้วยความตกใจ “ท่านอ๋อง หรือว่าท่านทรงจะ…”ระหว่างที่พูดอยู่นั้น เขาก็ทำท่าปาดคอเมื่อเห็นเช่นนั้น สีหน้าขององครักษ์ก็ซีดเผือดการลอบปลงพระชนม์องค์รัชทายาท เป็นอาชญากรรมร้ายแรง!แต่เขาก็มิกล้าพูดอะไร รีบก้มหน้าลง ทำเหมือนมิเห็นมิได้ยินสิ่งใด ฉินเหยี่ยนหัวเราะอย่างเย็นชา “เรื่องนี้เรามิสามารถลงมือเองได้ ซุนฉี เจ้าเอาป้ายของข้าไปที่สำนักอาทิตย์อัสดง”“ข้าน้อยรับบัญชา!”ซุนฉีรับคำสั่งด้วยความเคารพ จากนั้นก็ควบม้าออกจากเมืองหลงเฉิง ตรงไปยังสำนักอาทิตย์อัสดงที่ชานเมือง ในเวลาเดียวกัน จวนอ๋องหนิง จวนอ๋องฉี และจวนอ๋องอื่น ๆ ก็ส่งคนออกจากเมืองไปยังทิศทางต่าง ๆ กันหนึ่งชั่วยามต่อมาสำนักบู๊ลิ้มรอบเมืองหลงเฉิง ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวนกพิราบสื่อสารจำนวนมากบินขึ้นไปบนฟ้า มุ่งหน้าไปทางทิศใต้......ดวงอาทิตย์เคลื่อนต่ำลง แสงสุดท้ายของวันย้อ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 65

    เจ้าของโรงเตี๊ยมทำหน้าลำบากใจพลางพูดว่า “ท่านทั้งสอง ขออภัยอย่างยิ่ง ตอนนี้โรงเตี๊ยมของเรามีห้องว่างเหลือเพียงห้องเดียวเท่านั้น”“เหลือห้องเดียว?!”ฉงชูโม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วหันไปพูดกับฉินซูว่า “องค์… เอ่อ นายท่าน พวกเราไปหาโรงเตี๊ยมที่อื่นกันเถิด”ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย กำลังจะหันหลังกลับแต่ในเวลานั้น เจ้าของโรงเตี๊ยมก็เตือนว่า “ท่านทั้งสอง บอกตามตรง ตอนนี้โรงเตี๊ยมในเมืองนี้ส่วนใหญ่ก็เต็มหมดแล้ว”ฉงชูโม่มิเชื่อเลยสักนิด เยาะเย้ยว่า “เจ้าหลอกใครกัน เมืองนี้มีขนาดเท่านี้ โรงเตี๊ยมก็ต้องมีอย่างน้อยแปดหรือสิบแห่ง แค่นี้ก็เต็มแล้วงั้นหรือ?”เจ้าของโรเตี๊ยมพูดอย่างจริงจังว่า “ท่านมิทราบ ทางราชสำนักได้ส่งข่าวมาว่า องค์จักรพรรดิจะรวมเหล่าบัณฑิตทั่วแคว้นมาสักการะขงจื๊อในวันผู้สูงอายุ”“ดังนั้น บัณฑิตจากบริเวณใกล้เคียงก็เลยมาที่นี่ทั้งหมด แล้วยังมีคนจากสำนักบู๊ลิ้มบางส่วน พวกเขาก็มาพักที่เมืองอวี๋หางของเราด้วยเช่นกัน”“มิใช่ข้าจะคุยโม้ ทว่าหากมาช้ากว่านี้อีกนิด ห้องพักที่ดีที่สุดห้องสุดท้ายของเราก็จะไม่มีเหลือแล้ว”เขายังพูดมิทันจบ ก็มีชายหนุ่มสองคนสวมชุดบัณฑิตเดินเข้ามาจากนอกประตู

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 66

    “ฟิ้ว!”ทันใดนั้นก็มีเสียงแหลมคมแหวกผ่านอากาศ ลูกธนูแหลมคมพุ่งตรงเข้ามาจากนอกหน้าต่างราวกับสายฟ้าม่านตาของฉงชูโม่หดตัวเล็กน้อย มือเรียวดั่งหยกยื่นออกไปคว้าลูกธนูที่พุ่งเข้ามาไว้ในมือทันที!นางขว้างลูกธนูกลับไปเพียงชั่วพริบตา เสียงร้องโหยหวนก็ดังมาจากภายนอกทันใดนั้น ก็มีคนตะโกนว่า “แย่แล้ว ถูกจับได้ หนีเร็ว!”ฉงชูโม่ยิ้มเย็นชาและพูดกับฉินซู “ท่านอยู่ที่นี่เงียบ ๆ อย่าออกมา”หลังจากที่นางพูดจบ นางก็คว้าดาบยาวขึ้นมา พลันกระโดดข้ามหน้าต่างออกไปด้วยความคล่องแคล่วราวกับมังกรทะลวงประตูเมื่อเห็นสิ่งนี้ฉินซูได้แต่ส่ายหน้าอย่างช่วยมิได้และพูดว่า “แม้จะเป็นแม่ทัพอันดับหนึ่ง แต่ยังไร้ประสบการณ์ในยุทธภพนัก มองมิออกด้วยซ้ำว่านี่เป็นแผนล่อเสือออกจากถ้ำ”และเป็นเช่นนั้นจริง ๆมินานหลังจากที่ฉงชูโม่ออกไป ร่างสองร่างก็พุ่งเข้ามาจากนอกหน้าต่างอย่างว่องไว!เป็นคนชุดดำสองคน แม้ว่าจะปิดหน้าไว้ แต่แววตาของพวกเขากลับเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร!ฉินซูเพียงแค่เหลือบมองพวกเขาด้วยแววตาเรียบเฉย และถามอย่างมิใส่ใจว่า “มีเพียงพวกเจ้าสองคนเองรึ?”หนึ่งในนั้นหัวเราะเยาะ “ฮ่าฮ่า องค์รัชทายาท ทรงกล้าหาญมากจริ

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 514

    เมื่อเห็นหยกครึ่งซีกนี้ ดวงตาของซ่างกวนอวิ๋นซีก็หดเล็กลง ใบหน้างดงามฉายแววตกใจ!หยกนี้เป็นหยกที่นางมอบให้ซือคงเหยียนเมื่อครานั้นพลังที่อยู่ภายในนั้นเทียบเท่ากับการลงมือของนางหนึ่งครั้งหลังจากฉินซูขว้างหยกนี้ออกไป พลันอุ้มกู้เสวี่ยเจี้ยนขึ้นมา แล้วร่างก็วูบหายไปในป่าเขาใช้ปราณบริสุทธิ์ในร่างกายอย่างเต็มที่ ความเร็วของเขาเร็วมากจนน่าตกตะลึงในขณะเดียวกันหลังจากที่หยกนั้นชนเข้ากับฝ่ามือลวงตาน่าสะพรึงกลัวนั้น มันก็แตกออกพลังอันน่าพรั่นพรึงระดับเดียวกันก็ปะทุออกมาจากภายในตู้ม...เสียงดังสนั่นหวั่นไหวระเบิดออก พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ปรากฏรอยแตกคล้ายใยแมงมุมมากมายภายใต้แรงกดดันมหาศาลนี้ ทำให้กลางลำต้นของต้นไม้เกือบทั้งหมดในรัศมีหลายลี้หักลง!โครม!จากป่าที่อยู่ไกลออกไปนั้นมีนกจำนวนนับมิถ้วนบินหนีออกกระจัดกระจายไปทุกทิศทางส่วนฉินซูและกู้เสวี่ยเจี้ยนหลบพ้นจากรัศมีของแรงระเบิดไปอย่างฉิวเฉียดเมื่อเห็นป่าด้านหลังถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง กู้เสวี่ยเจี้ยนก็ตกใจจนพูดมิออกฉินซูเองก็รู้สึกเสียวสันหลังมิแพ้กันแต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาให้คิดมาก พลันใช้ปราณทั้งหมดไปกับวิชาตัวเบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 513

    เมื่อเห็นภาพนั้นฉินซูก็ขมวดคิ้ว รู้สึกได้ถึงลางร้ายซ่างกวนอวิ๋นซีส่งเสียงหึ "เจ้าฉินซู เจ้าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลด กล้าสังหารบุตรแห่งนักปราชญ์และผู้อาวุโสหอดารารักษ์ของข้า วันนี้ ข้าจะให้เจ้าชดใช้ด้วยเลือด ตอบแทนด้วยชีวิต!"เมื่อสิ้นเสียง กลิ่นอายสังหารน่าสะพรึงกลัวก็พุ่งออกมาจากร่างของนางจากนั้นนางก็สะบัดสองนิ้ว ลำแสงกระบี่ราวกับจับต้องได้สายหนึ่งก็พุ่งตรงมาหาฉินซูฉินซูผลักกู้เสวี่ยเจี้ยนออกไป จากนั้นก็กำหมัดกระแทกออกทันใดเงาหมัดแฝงด้วยปราณวายุอันพลุ่งพล่านพุ่งเข้าปะทะกับปราณแห่งกระบี่ของซ่างกวนอวิ๋นซีตูม...หลังจากเสียงระเบิดดังขึ้น ฉินซูและซ่างกวนอวิ๋นซีก็ถอยหลังไปคนละก้าว!เมื่อเห็นดังนั้น กู้เสวี่ยเจี้ยนก็อ้าปากค้างจนกรามแทบหลุด!ซ่างกวนอวิ๋นซีเป็นถึงเจ้าสำนักหอดารารักษ์ วรยุทธ์ของนางกล้าแกร่ง เกรงว่าจะมิด้อยไปกว่าหัวหน้าโหรหลวงทีเดียวแต่บัดนี้ฉินซูกลับต่อสู้กับนางได้อย่างสูสี แล้วจะมิให้นางตกใจได้อย่างไร!นางย่อมมิรู้ว่า ตอนนี้พลังในร่างของซ่างกวนอวิ๋นซีถูกหัวหน้าโหรหลวงสะกดเอาไว้ วรยุทธ์จึงอยู่ที่ระดับสวรรค์ขั้นสูงสุดเท่านั้นส่วนฉินซูขมวดคิ้วและรู้สึกงุนงงเล็ก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 512

    "ว่ากระไรนะ? เจ้าสำนักหอดารารักษ์?!"ฉินซูเบิกตากว้าง แทบมิเชื่อสายตา!ไฉนเจ้าสำนักหอดารารักษ์จึงได้อ่อนเยาว์เช่นนี้?ในดวงตาคู่สวยของซ่างกวนอวิ๋นซีเผยความประหลาดใจ นางเหลือบมองกู้เสวี่ยเจี้ยนเมื่อเห็นลายปักกลุ่มดาวหมีใหญ่ที่ปักอยู่บนชุดของนาง ก็แค่นเสียงหัวเราะเย็นชา "ตาเจ้ายังพอมีแววอยู่บ้าง มิเสียทีที่เป็นศิษย์ของตาเฒ่าเหลยเจิ้นนั่น!"กู้เสวี่ยเจี้ยนหัวใจเย็นวาบ รีบกระซิบบอกกับฉินซู "เจ้าสำนักหอดารารักษ์มีพลังลึกล้ำเกินหยั่งถึง ควานหาทั่วต้าเหยียน มีเพียงอาจารย์ของหม่อมฉันเท่านั้นที่ต้านทานนางได้ ท่านหนีไปเถิด หม่อมฉันจะพยายามถ่วงเวลานางไว้ให้นานที่สุด"เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินซูก็เผยรอยยิ้มขมขื่นตั้งแต่ที่ซ่างกวนอวิ๋นซีปรากฏตัว เขาก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันรุนแรงที่แผ่ซ่านมาจากนางนี่แสดงให้เห็นว่า พลังของอีกฝ่ายแข็งแกร่งจนน่าตกใจกู้เสวี่ยเจี้ยนต้องการถ่วงเวลานางก็มิต่างกระไรจากเรื่องเพ้อฝันเมื่อเห็นฉินซูนิ่งเฉย กู้เสวี่ยเจี้ยนก็เร่งเร้าอย่างร้อนรน "ไยท่านยังยืนอยู่อีก รีบไปเร็วเข้า"ฉินซูส่ายหน้าอย่างจนปัญญา "เจ้าถ่วงเวลานางมิได้หรอก อีกทั้งเป้าหมายของนางคือข้า เจ้าหลบไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 511

    ฉินซูชะงักไป และจำใจต้องทำภารกิจอีกครั้งผ่านไปอีกกว่าสองเค่อ กู้เสวี่ยเจี้ยนจึงลุกขึ้นแต่งตัวอย่างพอใจนางมองฉินซูด้วยสายตาอ่อนโยน แล้วเร่งเร้า "ข้างนอกฝนหยุดแล้ว พวกเราเร่งเดินทางกันเถิด มิเช่นนั้นฟ้าจะมืดเสียก่อนไปถึงเป่ยเซียง"ดวงตาของฉินซูเป็นประกาย เขาเสนอ "หรือว่าเราจะออกเดินทางวันพรุ่งนี้?"กู้เสวี่ยเจี้ยนมองออกว่าฉินซูคิดอะไรอยู่ในใจ ทีแรกนางตั้งใจจะปฏิเสธ แต่แล้วกลับพยักหน้าตกลงอย่างน่าประหลาดเมื่อเห็นดังนั้นฉินซูก็ลิงโลด พลันรีบพูดต่อ "เช่นนั้นข้าจะไปจับกระต่ายป่าสักสองสามตัว คืนนี้พวกเรากินกระต่ายย่างกันเถอะ"ฉินซูรีบแต่งตัวแล้วเหาะออกไปกู้เสวี่ยเจี้ยนถอนหายใจเบา ๆ ดวงตาคู่งามเต็มไปด้วยความโศกเศร้ามินานฉินซูก็กลับมาพร้อมกับกระต่ายป่าที่ทำความสะอาดแล้วสองสามตัวหลังจากกินอิ่ม ท้องฟ้าก็มืดลงทั้งสองจึงนอนบนพื้นข้างกองไฟแต่ยังมิทันผล็อยหลับ กู้เสวี่ยเจี้ยนก็ปีนขึ้นคร่อมร่างฉินซูอีกครั้งคืนนั้น ฉินซูแทบมิได้นอนทั้งคืน!วันรุ่งขึ้นฉินซูขอบตาดำคล้ำและหาวมิหยุดส่วนกู้เสวี่ยเจี้ยนมีใบหน้าแดงเปล่งปลั่ง ดูสดชื่นกระปรี้กระเปร่าหลังจากออกจากถ้ำกู้เสวี่ยเจี้ยนก็ข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 510

    ด้านนอกถ้ำ พายุฝนยังคงตกกระหน่ำอย่างต่อเนื่องภายในถ้ำ เวลาเหมือนจะหยุดนิ่งฉินซูนอนอยู่บนพื้นราวกับกลายเป็นหิน มือทั้งสองยังกอดเอวบางของกู้เสวี่ยเจี้ยนไว้ส่วนกู้เสวี่ยเจี้ยนทอดกายบนร่างของเขา ริมฝีปากแดงอ่อนหวานของนางแนบสนิทกับริมฝีปากของเขาเข้าพอดีทั้งสองสบตากัน รู้สึกได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่เร็วขึ้นเรื่อย ๆ!อุณหภูมิระหว่างกันก็ยิ่งชัดเจน!ฉินซูกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก กำลังจะทำอะไรบางอย่างแต่เมื่อสังเกตเห็นกระบี่ยาวข้าง ๆ กู้เสวี่ยเจี้ยน เขาก็เกิดลังเลหากเผลอทำให้กู้เสวี่ยเจี้ยนโกรธแล้วนางเกิดคิดฆ่าเขาขึ้นมาจะทำอย่างไร?เพราะท้ายที่สุดแล้ว นี่มิใช่ครั้งแรกกับกู้เสวี่ยเจี้ยน หากครั้งนี้ยังมิสามารถทำให้นางยอมจำนนด้วยใจจริงได้ ก็คงจะมีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่านางจะทำเรื่องระห่ำอะไรออกมาแต่โอกาสดีเช่นนี้ ฉินซูมิอยากพลาดไปเลยจริง ๆในขณะที่เขากำลังลังเล ริมฝีปากแดงของกู้เสวี่ยเจี้ยนก็เริ่มขยับ!เห็นเพียงจมูกโด่งของนางเต็มไปด้วยลมหายใจร้อนระอุ ริมฝีปากคู่สวยจุมพิตลงบนริมฝีปากของฉินซูอย่างตะกละตะกลามฉินซูมีหรือจะทนไหว รีบตอบสนองอย่างกระตือรือร้นโดยมิรู้ตัว ทั้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 509

    "อะแฮ่ม… อะไรกันเล่า ฝนจะตก หญิงสาวจะออกเรือน เป็นเรื่องที่ห้ามมิได้ เจ้าจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟไปหาปะไร?""หม่อมฉันโกรธเพราะกระไร เจ้ามิรู้อยู่แก่ใจหรอกหรือ!""แค่ก ๆ ข้าไปหาฟืนแห้งมาดีกว่า"ฉินซูกล่าวจบก็เดินหลบไปตามผนังหินที่ยื่นออกมาด้านนอกถ้ำกู้เสวี่ยเจี้ยนแค่นเสียงเย็นชา "หึ ฝนตกหนักขนาดนี้ จะมีฟืนแห้งที่ไหน… ฮัดชิ้ว!"ยังมิทันสิ้นคำ นางก็จามออกมาช่วงต้นเหมันตฤดูผ่านไป อีกมิกี่วันก็จะเป็นช่วงหิมะโปรยปราย ดังนั้นเมื่อฝนตกจึงทำให้รู้สึกหนาวเป็นพิเศษกู้เสวี่ยเจี้ยนย่อตัวลงกับพื้น เอามือกอดอกแน่นลมหนาวพัดมาวูบหนึ่ง นางก็ตัวสั่นสะท้านอย่างห้ามมิได้นางอดมิได้ที่จะมองออกไปนอกถ้ำ ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยความหวังแม้จะรู้สึกว่าเป็นไปได้ยาก ทว่ายามนี้นางก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าฉินซูจะหาฟืนแห้งมาจุดไฟได้มิฉะนั้นแม้ฝนข้างนอกจะหยุดตก ก็เป็นไปมิได้ที่จะเดินทางต่อด้วยอาภรณ์ที่เปียกชุ่มเช่นนี้ผ่านไปครู่หนึ่ง ฉินซูก็กลับมาเขาหอบฟืนแห้งกองใหญ่ในอ้อมแขนมาด้วย!เมื่อเห็นดังนั้น กู้เสวี่ยเจี้ยนก็ลุกขึ้นอย่างตื่นเต้น พลันรีบเร่งเร้า "เร็ว ๆ เข้า รีบจุดไฟเร็วเพคะ หม่อมฉันหนาวจะตายอยู่แล้ว!

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 508

    ซ่างกวนอวิ๋นซีร่ายมือ โล่สีเขียวอ่อนก่อตัวรวมกันอยู่ตรงหน้านางในทันใดทว่าปราณดัชนีที่เหลยเจิ้นปล่อยออกมา กลับมิสนใจโล่ตรงหน้านาง พลันผ่าทะลุเข้าไปภายใต้สายตาตกตะลึงของซ่างกวนอวิ๋นซี ปราณดัชนีนั้นหายวับเข้าไปในร่างของนางในพริบตาในชั่วพริบตาต่อมานั้น ซ่างกวนอวิ๋นซีก็รู้สึกว่ามีพลังต้องห้ามบางอย่างเพิ่มเข้ามาในร่างเมื่อได้สติกลับคืนมา นางก็กระทืบเท้าด้วยโทสะ "เหลยเจิ้น เจ้าเฒ่าไร้สัจจะ ปลิ้นปล้อนกลับกลอก!""ข้าเพียงแต่สะกดการบ่มเพาะตนของเจ้าไว้เท่านั้น มิได้บอกว่าจะมิให้เจ้าไปหาองค์รัชทายาท แล้วจะหาว่าข้ากลับกลอกได้อย่างไร?""เจ้า!!"ซ่างกวนอวิ๋นซีโมโหจนแทบจะระเบิดอารมณ์ ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองเหลยเจิ้นเหลยเจิ้นยักไหล่ "แม้การบ่มเพาะตนของเจ้าจะถูกข้าสะกดไว้ แต่อย่างน้อยก็ยังสามารถใช้วรยุทธ์ระดับสวรรค์ได้ เท่านี้ก็เพียงพอให้เจ้าจัดการกับผู้ฝึกยุทธ์ระดับสวรรค์ที่อาจปรากฏตัวในต้าเหยียนได้แล้ว""แล้วองค์รัชทายาทผู้รอวันถูกปลดของพวกเจ้าเล่า? เขาอยู่ในระดับใดกันแน่?"เหลยเจิ้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้าซ่างกวนอวิ๋นซีขมวดคิ้ว ถามอย่างมิพอใจ "เจ้าส่ายหน้าหมายความว่าอย่างไร?"

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 507

    เหลยเจิ้นส่ายหน้าเบา ๆ “ขออภัย ทว่าคงทำเช่นนั้นมิได้”ใบหน้างดงามของซ่างกวนอวิ๋นซีเย็นชาลง นางกล่าวเสียงต่ำ “เจ้าจะบังคับให้ข้าลงมือใช่หรือไม่?”“ข้าเพียงต้องการเกลี้ยกล่อมให้เจ้ากลับไป หากเจ้าต้องการลงมือ ข้าก็พร้อมจะเป็นคู่มือ!”“ดี ถ้าเช่นนั้นข้าจะดูว่า วรยุทธ์ของเจ้าก้าวหน้าไปมากเพียงใดเมื่อเทียบกับห้าสิบปีก่อน!”เมื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวจบ ก็ยื่นนิ้วเรียวสวยชี้ไปยังเหลยเจิ้นที่อยู่กลางเวหา!ทันใดนั้นพื้นที่โดยรอบก็ถูกบีบเข้าหากันอย่างกะทันหัน คล้ายกับกรงที่หดตัวเข้าหาเหลยเจิ้น“กลอุบายตื้น ๆ!”เหลยเจิ้นหัวเราะเยาะ เหยียบพื้นเบา ๆ ด้วยฝ่าเท้า“เคร้ง!”เสียงแตกดังขึ้น กรงไร้รูปธรรมของซ่างกวนอวิ๋นซีแตกสลายในทันใดเมื่อเห็นดังนั้น ดวงตาคู่งามของซ่างกวนอวิ๋นซีก็ฉายแววเคร่งขรึม ฉับพลันร่างของนางสั่นไหว กลายเป็นแสงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า!หลังจากหมุนตัวหนึ่งตลบ ก็พุ่งไปทางใต้เหลยเจิ้นส่งเสียงหึ ร่างของเขาก็กลายเป็นแสงวาบไล่ตามไปอย่างมิลดละ!บนห้วงเวหายามราตรีแสงสองสายคล้ายดาวตกไล่ตามดวงจันทร์พาดผ่านท้องฟ้าระหว่างนั้น แสงนุ่มนวลหลายสายพลันพุ่งออกมาจากแสงดาวตกสองสาย จากนั้นก็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 506

    สวีหลายเอ่ยถาม “มีเรื่องอันใด?”เฉิงผิงครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ตอบ “มินานมานี้ทั้งในและนอกราชสำนักต่างร่ำลือกันว่า องค์จักรพรรดิจะทรงปลดองค์รัชทายาทออกจากตำแหน่งหลังจากวันชุนเฟินปีหน้า ข่าวลือนี้เป็นจริงหรือเท็จ?”“จริงแท้แน่นอน”“แต่ข้ามิเข้าใจ หากองค์รัชทายาทจะถูกปลดในปีหน้า เหตุใดอ๋องฉีและอ๋องซิ่นต้องเสียเวลาหาเรื่องใส่ร้ายองค์รัชทายาทด้วย? แค่รอให้ถึงวันชุนเฟินปีหน้าก็พอแล้วมิใช่หรือ?”เฉิงอิงกล่าว “คงเป็นเพราะช่วงนี้องค์รัชทายาททรงโดดเด่นขึ้นมา พวกเขาจึงอยู่เฉยมิได้กระมัง”สวีหลายพยักหน้าเล็กน้อย “ถูกต้อง สถานการณ์ในราชสำนักเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในพริบตา แม้ว่าฝ่าบาทจะทรงตัดสินพระทัยปลดองค์รัชทายาทออกจากตำแหน่งรัชทายาทหลังจากวันชุนเฟินปีหน้า ทว่าตราบใดที่วันนั้นยังมิมาถึง ทุกอย่างย่อมมีโอกาสพลิกผัน อ๋องซิ่นและอ๋องฉีจะร้อนใจก็เป็นเรื่องปกติ”เฉิงผิงขมวดคิ้วบ่นพึมพำ “แต่ข้ายังสงสัยอยู่ดี เหตุใดฝ่าบาทถึงทรงตัดสินพระทัยปลดองค์รัชทายาทในวันชุนเฟินปีหน้า? ในเมื่อทรงมีพระประสงค์เช่นนั้นแล้ว เหตุใดต้องรอถึงปีหน้า?”“ความคิดในพระทัยขององค์จักรพรรดิ ใครเลยจะคาดเดาได้”สวีหลายเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status