แชร์

บทที่ 63

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-09-03 19:17:00
จากนั้นน้ำเสียงของนางก็เย็นชาลงอย่างกะทันหัน แล้วพูดต่อว่า “แน่นอน หากองค์รัชทายาทอยากตายเอง ข้าก็ก้าวก่ายมากมายขนาดนั้นมิได้”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินชิงเหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย มิพูดอะไรอีก

ดวงตาของฉงชูโม่กลอกกลับไปมองอย่างรวดเร็ว และพูดอย่างแผ่วเบาว่า “องค์รัชทายาท หม่อมฉันจะล่วงหน้าไปก่อน พวกเราจะพบกันที่ป่าท้อนอกประตูเมืองทิศใต้”

พูดจบนางก็หันหลังกลับและเดินออกไปก่อน

หลินชิงเหยาถามด้วยความสับสนเล็กน้อย “องค์รัชทายาท ไฉนพี่หญิงชูโม่ถึงมิรอท่านเล่าเพคะ?”

“ใครจะไปรู้ บางทีนางอาจจะไปบอกลาเซี่ยหลาน เพราะพวกนางมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน”

ฉินซูอยู่กับหลินชิงเหยาสักพัก จากนั้นจึงกลับไปที่ห้องเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดลำลอง

ภายใต้สายตาที่ลังเลขอหลินชิงเหยา ในที่สุด ฉินซูวางห่อผ้าไว้บนหลังม้าแล้วขี่ม้าออกไป

มินาน เขาก็มาถึงป่าท้อนอกเมืองทิศใต้

เห็นฉงชูโม่รออยู่ที่นั่นแล้ว

“องค์รัชทายาท เวลาล่วงเลยมามากแล้ว พวกเราออกเดินทางกันเถิด พยายามไปให้ถึงเมืองอวี๋หางก่อนตะวันตกดิน”

“ได้ ไปกันเถอะ”

ฉินซูสะบัดแส้ ควบม้าตะบึงไปทางทิศใต้

“พี่ใหญ่สวี รอข้าก่อนนะ!”

ฉงชูโม่พึมพำ มองไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่ ค
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 64

    “ข้าน้อยแน่ใจว่ามีองค์รัชทายาทคนเดียว จะว่าไปก็แปลกจริง องค์รัชทายาทออกไปโดยไม่มีองครักษ์หรือผู้ติดตาม...”ฉินเหยี่ยนมีสีหน้าเหี้ยมโหด กล่าวด้วยเจตนาสังหาร “อยู่คนเดียว ถือว่าเป็นเรื่องดี!”ขุนนางประจำจวนอ๋องซุนฉีที่อยู่ข้าง ๆ ได้ยินดังนั้นก็ถามด้วยความตกใจ “ท่านอ๋อง หรือว่าท่านทรงจะ…”ระหว่างที่พูดอยู่นั้น เขาก็ทำท่าปาดคอเมื่อเห็นเช่นนั้น สีหน้าขององครักษ์ก็ซีดเผือดการลอบปลงพระชนม์องค์รัชทายาท เป็นอาชญากรรมร้ายแรง!แต่เขาก็มิกล้าพูดอะไร รีบก้มหน้าลง ทำเหมือนมิเห็นมิได้ยินสิ่งใด ฉินเหยี่ยนหัวเราะอย่างเย็นชา “เรื่องนี้เรามิสามารถลงมือเองได้ ซุนฉี เจ้าเอาป้ายของข้าไปที่สำนักอาทิตย์อัสดง”“ข้าน้อยรับบัญชา!”ซุนฉีรับคำสั่งด้วยความเคารพ จากนั้นก็ควบม้าออกจากเมืองหลงเฉิง ตรงไปยังสำนักอาทิตย์อัสดงที่ชานเมือง ในเวลาเดียวกัน จวนอ๋องหนิง จวนอ๋องฉี และจวนอ๋องอื่น ๆ ก็ส่งคนออกจากเมืองไปยังทิศทางต่าง ๆ กันหนึ่งชั่วยามต่อมาสำนักบู๊ลิ้มรอบเมืองหลงเฉิง ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวนกพิราบสื่อสารจำนวนมากบินขึ้นไปบนฟ้า มุ่งหน้าไปทางทิศใต้......ดวงอาทิตย์เคลื่อนต่ำลง แสงสุดท้ายของวันย้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-03
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 65

    เจ้าของโรงเตี๊ยมทำหน้าลำบากใจพลางพูดว่า “ท่านทั้งสอง ขออภัยอย่างยิ่ง ตอนนี้โรงเตี๊ยมของเรามีห้องว่างเหลือเพียงห้องเดียวเท่านั้น”“เหลือห้องเดียว?!”ฉงชูโม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วหันไปพูดกับฉินซูว่า “องค์… เอ่อ นายท่าน พวกเราไปหาโรงเตี๊ยมที่อื่นกันเถิด”ฉินซูพยักหน้าเล็กน้อย กำลังจะหันหลังกลับแต่ในเวลานั้น เจ้าของโรงเตี๊ยมก็เตือนว่า “ท่านทั้งสอง บอกตามตรง ตอนนี้โรงเตี๊ยมในเมืองนี้ส่วนใหญ่ก็เต็มหมดแล้ว”ฉงชูโม่มิเชื่อเลยสักนิด เยาะเย้ยว่า “เจ้าหลอกใครกัน เมืองนี้มีขนาดเท่านี้ โรงเตี๊ยมก็ต้องมีอย่างน้อยแปดหรือสิบแห่ง แค่นี้ก็เต็มแล้วงั้นหรือ?”เจ้าของโรเตี๊ยมพูดอย่างจริงจังว่า “ท่านมิทราบ ทางราชสำนักได้ส่งข่าวมาว่า องค์จักรพรรดิจะรวมเหล่าบัณฑิตทั่วแคว้นมาสักการะขงจื๊อในวันผู้สูงอายุ”“ดังนั้น บัณฑิตจากบริเวณใกล้เคียงก็เลยมาที่นี่ทั้งหมด แล้วยังมีคนจากสำนักบู๊ลิ้มบางส่วน พวกเขาก็มาพักที่เมืองอวี๋หางของเราด้วยเช่นกัน”“มิใช่ข้าจะคุยโม้ ทว่าหากมาช้ากว่านี้อีกนิด ห้องพักที่ดีที่สุดห้องสุดท้ายของเราก็จะไม่มีเหลือแล้ว”เขายังพูดมิทันจบ ก็มีชายหนุ่มสองคนสวมชุดบัณฑิตเดินเข้ามาจากนอกประตู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-03
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 66

    “ฟิ้ว!”ทันใดนั้นก็มีเสียงแหลมคมแหวกผ่านอากาศ ลูกธนูแหลมคมพุ่งตรงเข้ามาจากนอกหน้าต่างราวกับสายฟ้าม่านตาของฉงชูโม่หดตัวเล็กน้อย มือเรียวดั่งหยกยื่นออกไปคว้าลูกธนูที่พุ่งเข้ามาไว้ในมือทันที!นางขว้างลูกธนูกลับไปเพียงชั่วพริบตา เสียงร้องโหยหวนก็ดังมาจากภายนอกทันใดนั้น ก็มีคนตะโกนว่า “แย่แล้ว ถูกจับได้ หนีเร็ว!”ฉงชูโม่ยิ้มเย็นชาและพูดกับฉินซู “ท่านอยู่ที่นี่เงียบ ๆ อย่าออกมา”หลังจากที่นางพูดจบ นางก็คว้าดาบยาวขึ้นมา พลันกระโดดข้ามหน้าต่างออกไปด้วยความคล่องแคล่วราวกับมังกรทะลวงประตูเมื่อเห็นสิ่งนี้ฉินซูได้แต่ส่ายหน้าอย่างช่วยมิได้และพูดว่า “แม้จะเป็นแม่ทัพอันดับหนึ่ง แต่ยังไร้ประสบการณ์ในยุทธภพนัก มองมิออกด้วยซ้ำว่านี่เป็นแผนล่อเสือออกจากถ้ำ”และเป็นเช่นนั้นจริง ๆมินานหลังจากที่ฉงชูโม่ออกไป ร่างสองร่างก็พุ่งเข้ามาจากนอกหน้าต่างอย่างว่องไว!เป็นคนชุดดำสองคน แม้ว่าจะปิดหน้าไว้ แต่แววตาของพวกเขากลับเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร!ฉินซูเพียงแค่เหลือบมองพวกเขาด้วยแววตาเรียบเฉย และถามอย่างมิใส่ใจว่า “มีเพียงพวกเจ้าสองคนเองรึ?”หนึ่งในนั้นหัวเราะเยาะ “ฮ่าฮ่า องค์รัชทายาท ทรงกล้าหาญมากจริ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-03
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 67

    “แกร๊ง!”ดาบใหญ่เล่มนั้นหักเป็นชิ้น ๆ ร่างของเขาปลิวออกไปเหมือนกับว่าวป่านขาดก่อนที่เขาจะตกถึงพื้น เขาก็กระอักเลือดออกมาหลายคำเมื่อร่างกระแทกพื้น เขาก็สิ้นใจไปแล้ว!ฉงชูโม่มิรีรอ พลันกระโดดขึ้นไปในอากาศ ชักดาบคมกริบออกจากฝัก!“ฟึ่บ!”แสงเย็นวาบผ่าน ปราณแห่งดาบอันแหลมคมหลายสายพุ่งตรงไปยังคนชุดดำเหล่านั้น“อ๊าก!!”หลังจากกรีดร้องดังขึ้นหลายครั้ง คนชุดดำเหล่านั้นก็ล้มลงไปกองกับพื้นทั้งหมด!ที่ขาของพวกเขามีรูเลือดอยู่ เลือดสดไหลออกมาอย่างควบคุมมิได้ฉงชูโม่ยกดาบคมกริบของนางขึ้น และถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “บอกมา! ใครส่งพวกเจ้ามา?”คนชุดดำคนหนึ่งทนความเจ็บปวดและตะเบ็งเสียงออกมาว่า “จะฆ่าก็ฆ่าเลย ไยต้องพูดให้มากความ!”“คิดว่าข้ามิกล้าฆ่าเจ้ารึ!”ฉงชูโม่ยกดาบขึ้นและฟันลงไป ศีรษะของคนที่เพิ่งพูดเมื่อครู่ก็กลิ้งไปกับพื้นทันที!เมื่อคนอื่นเห็นสิ่งนี้ คนที่เหลือก็ต่างหวาดกลัวพวกเขามิคาดคิดว่า ฉงชูโม่ที่เป็นเพียงสตรีจะมีความเด็ดขาด และฆ่าคนโดยมิลังเลเช่นนี้ฉงชูโม่จ้องมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา เอ่ยเสียงเย็น “ข้าจะถามเป็นครั้งสุดท้าย บอกข้ามาใครอยู่เบื้องหลังพวกเจ้า มิเช่นนั้นก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-03
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 68

    ฉินซูกางมือออกแล้วพูดว่า “ไม่มี เจ้าไล่ตามคนพวกนั้นไปแล้ว จะเกิดอะไรได้อีกเล่า”ฉงชูโม่อดมิได้ที่จะขมวดคิ้วจากลักษณะของคนกลุ่มเมื่อครู่ ชัดเจนว่าพวกเขากำลังใช้กลยุทธ์ล่อเสือออกจากถ้ำแต่เหตุใดถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่โรงเตี๊ยมเลยเล่า?ฉินซูบิดขี้เกียจแล้วพูดว่า “นี่ก็เริ่มดึกแล้ว ข้าจะนอนพักสักประเดี๋ยว หากอาหารมาส่งเมื่อไรเจ้าก็ปลุกข้าด้วย”หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงไปอย่างที่ว่าเมื่อเห็นสิ่งนี้ ฉงชูโม่ก็เบะปาก คร้านเกินกว่าจะพูดอะไรสองเค่อ(1)ต่อมา ทางโรงเตี๊ยมก็นำอาหารมาให้เมื่อมองดูอาหารอร่อย ๆ บนโต๊ะ ฉงชูโม่ก็รู้สึกหิวขึ้นมาบ้างนางเรียกฉินซูสองครั้ง จากนั้นจึงหยิบชามและตะเกียบขึ้นมา ตั้งใจจะกินฉินซูเอ่ยอย่างเมินเฉย “เจ้านี่กล้ากินดีจริง ๆ มิกลัวว่าอาหารจะมีพิษหรือ?”ฉงชูโม่พูดอย่างมั่นใจ “ไม่มีพิษในอาหาร ถ้ามีพิษหม่อมฉันก็ต้องได้กลิ่นแล้ว”“โอ้? จมูกดีเพียงนั้นเชียว เกิดปีจอหรือ?” “ท่านน่ะสิเกิดปีจอ หม่อมฉันฝึกวิชายุทธที่ทำให้ประสาทรับกลิ่นคมชัด หม่อมฉันสามารถได้กลิ่นสารพิษทุกชนิด”ฉินซูลุกขึ้นนั่งและถามอย่างสงสัยว่า “ดมกลิ่นพิษได้ทุกชนิดจริง ๆ ห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-03
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 69

    ฉินซูเย้ยหยันและพูดว่า “เจ้าคิดว่านี่เป็นเพียงเรื่องจวิ้นอ๋องติดต่อกับสำนักบู๊ลิ้มเท่านั้นหรือ?”"แล้วมิใช่หรือ?"“หึ เช่นนี้เอง สตรีหน้าอกใหญ่ มักไร้สมอง”ขณะที่ฉินซูพูด ดวงตาของเขาก็เลื่อนลงไปมองที่หน้าอกของฉงชูโม่ฉงชูโม่พูดด้วยท่าทางสับสน “สตรีมีสมองหรือไม่... เกี่ยวอะไรกับขนาดตรงนั้นว่าเล็กหรือใหญ่ด้วยเล่า?”“นี่มิใช่ประเด็น ประเด็นก็คือ หากจวิ้นอ๋องคนใดต้องการเสริมตำแหน่งของเขา หรืออยากจะก้าวขึ้นสูงกว่านี้ จำเป็นต้องมีอำนาจหนุนหลัง อำนาจนี้อาจมาจากขุนนาง หรือไม่ก็จากสำนักบู๊ลิ้มพวกนี้”“ท่านพูดเช่นนี้ พี่น้องของท่านแต่ละพระองค์ต่างก็ติดต่อกับสำนักในยุทธภพด้วยกันทุกพระองค์ แล้วท่านเล่า? สำนักใดสนับสนุนท่านอยู่?”ฉินซูยักไหล่และพูดว่า "แย่หน่อย ตัวข้าไม่มีสำนักบู๊ลิ้มใดอยู่ในมือเลย""ไม่มีจริงหรือ?"“แน่นอนสิ ทุกคนรู้ดีว่าข้าจะถูกปลดหลังจากวันชุนเฟินปีหน้า สำนักบู๊ลิ้มใดจะโง่มาคบค้าสมาคมกับข้าที่เป็นองค์รัชทายาทรอวันปลดเล่า? เพี้ยนไปแล้วหรือ?”ฉงชูโม่ขมวดคิ้วและมิพูดอะไรเพราะนางค้นพบว่า แม้ว่าสิ่งที่ฉินซูพูดจะฟังดูแปลก ๆ แต่ทั้งหมดก็เป็นเรื่องจริงแม้ว่าสำนักบู๊ลิ้มเหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-03
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 70

    เมื่อเห็นสิ่งนี้ ใบหน้าของหยางเหอก็ดำมืดลง เขาตวาดว่า “ตาเฒ่าหวัง อย่าทำเรื่องให้วุ่นวาย อย่าลืมเป้าหมายของเราที่มาครั้งนี้”“ฮ่าฮ่า ก็แค่ฆ่าองค์รัชทายาทที่กำลังจะถูกปลด ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ถูกวางยาพิษแล้ว องค์รัชทายาทที่กำลังจะถูกปลดเราก็ฆ่าเขาได้ง่าย ๆ สาวงามผู้นี้ ข้าขอสนุกก่อนแล้วค่อยว่ากัน”ตาเฒ่าหวังมองไปที่ฉงชูโม่ และน้ำลายไหลออกมาจากมุมปากโดยมิรู้ตัวเขามิได้พบเจอกับคนที่มีความงามเช่นนี้มาหลายปีแล้วเมื่อเห็นมือปีศาจที่ยื่นเข้ามาใกล้ ฉงชูโม่ก็ต้องการพยายามที่จะหลบ แต่ในเวลานี้นางอ่อนแรงเสียจนมิสามารถทำอะไรได้เลยที่เลวร้ายกว่านั้นคือ ตอนนี้นางรู้สึกว่าหัวหนักเท้าลอย เปลือกตาหนักอึ้ง นึกอยากจะหลับเสียให้ได้นางหวั่นเกรง แต่นางมิรู้ว่าจะทำอย่างไรนางมิเคยคิดเลยว่า ตนซึ่งเป็นถึงแม่ทัพชั้นหนึ่งที่ได้รับการขนานนามว่า ในเมืองหลงเฉิงนางเป็นบุคคลที่เก่งเป็นรองเพียงหัวหน้าโหรหลวง จะตกไปอยู่ในมือของตาแก่ตัณหากลับพวกนี้จากนั้นนางก็กัดฟันและใช้แรงเฮือกสุดท้ายขู่ออกไปว่า “หากเจ้ากล้า… แตะ... ต้องข้า ข้ารับรองว่าพวกเจ้าจะต้องตายโดยไร้ที่ฝัง!"ตาเฒ่าหวังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง "ฮ่าฮ่าฮ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-03
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 71

    ฉินซูกล่าวด้วยสีหน้าเย้ยหยัน “แค่เบญจพิษอัมพฤกษ์ก็คิดจะโค่นข้าลงให้ได้แล้ว พวกเจ้าไร้เดียงสาเกินไป หรือกำลังดูถูกตัวข้าผู้เป็นองค์รัชทายาทกันแน่?”“นี่… เป็นไปได้อย่างไร? ท่านมิเป็นอะไรได้อย่างไร!”ตาเฒ่าหวังแทบมิเชื่อสายตาตัวเองเนื่องจากพิษของคางคกเฒ่า แม้แต่ฉงชูโม่ผู้มีฝีมือสูงส่งก็ยังเอาตัวมิรอด ฉินซูองค์รัชทายาทไร้ค่าผู้นี้ ควรจะสลบไปนานแล้วสิตอนนี้กลับกัน ฝ่ายตรงข้ามดูเหมือนมิเป็นอะไรเลย แถมดูแข็งแรงมีชีวิตชีวาอีกด้วย“ข้าอยากจะถามอะไรสักหน่อย คนกลุ่มแรกที่มาก่อนหน้านี้ เป็นพวกเดียวกับเจ้าหรือไม่?”ดวงตาของตาเฒ่าหวังกะพริบเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พึมพำด้วยท่าทางที่ตระหนักรู้บนใบหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว ท่านต้องทานยาแก้พิษสำหรับเบญจพิษอัมพฤกษ์มาล่วงหน้าแน่ ดังนั้นท่านขึงมิเป็นอะไร ใช่ ต้องเป็นอย่างนั้นแน่!”พอพูดถึงตรงนี้ ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม “ฉินซู ไปลงนรกเสีย!”ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็ส่งฝ่ามือไปที่ศีรษะของฉินซูเต็มแรง ราวกับกำลังจะทุบหัวของฉินซูให้แตกเป็นเสี่ยง ๆด้วยปราณบริสุทธิ์อันแข็งแกร่งของเขา แค่ฝ่ามือของเขาก็เพียงพอที่จะผ่าหินทลายทองคำได้แล้วดังนั้นการตบให้ห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-03

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 496

    ซือคงเหยียนเองก็ตกตะลึงมิแพ้กัน!เขาเช็ดรอยเลือดที่มุมปากด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ พลางจ้องเขม็งฉินซูโดยพูดอะไรมิออกความหวาดหวั่นพรั่นพรึงวาบผ่านส่วนลึกในดวงตาของเขา!เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งที่ฉินซูเผยออกมาทำให้เขาหวาดผวา“พาเซี่ยหลานไปก่อน”เสียงของฉินซูทำลายความเงียบในบริเวณนั้นชัดเจนว่าคำพูดนี้ฉินซูกล่าวกับกู้เสวี่ยเจี้ยน แต่สายตาของเขากลับจับจ้องไปที่ซือคงเหยียนอย่างแน่วแน่เขารู้ดีว่าในฐานะผู้อาวุโสของหอดารารักษ์ วิธีการของอีกฝ่ายย่อมมิธรรมดาดังนั้นหากกู้เสวี่ยเจี้ยนและเซี่ยหลานอยู่ที่นี่ก็จะยิ่งเพิ่มความลำบากให้กับตนเท่านั้นแต่กู้เสวี่ยเจี้ยนกลับส่ายหัว "หม่อมฉันมิวางใจให้ท่านสู้เพียงลำพัง"“เขาฆ่าข้ามิได้หรอก แต่หากเจ้ามิไป ก็รังแต่จะทำให้ข้าเสียสมาธิเท่านั้น”เมื่อได้ยินคำพูดของฉินซู กู้เสวี่ยเจี้ยนก็รู้สึกหงุดหงิดในใจระหว่างทางมาที่นี่ นางคิดว่าฉินซูต้องพึ่งพาการปกป้องจากตนแต่ตอนนี้ปรากฏว่า ความแข็งแกร่งของฉินซูนั้นเหนือกว่าของตนมากนี่มันช่างน่าขายหน้าจริง ๆนางมองฉินซูอย่างลึกซึ้ง และกล่าวเสียงหนักแน่น "เช่นนั้น ท่านระวังตัวให้มากเพคะ หากสู้มิได้ก็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 495

    ฉินซูถามพลางครุ่นคิด "ลูกศิษย์ของท่านคือผู้ใด?"“ลูกศิษย์ที่รักของข้าคือบุตรแห่งนักปราชญ์ของหอดารารักษ์ หนานกงจื่อชิน!”“ท่านพูดอะไร หนานกงจื่อชินตายแล้วรึ?”สีหน้าของกู้เสวี่ยเจี้ยนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ!สำหรับนางนั้นเป็นการยากที่จะจินตนาการได้ว่า บุตรแห่งนักปราชญ์ของหอดารารักษ์จะถึงกับเสียชีวิต ยิ่งกว่านั้น เหตุใดซือคงเหยียนจึงบอกว่าเป็นฝีอขององค์รัชทายาท?ซือคงเหยียนจ้องมองฉินซูเขม็ง แล้วพูดอย่างเย็นชา "เจ้ามิแสดงท่าทีแปลกใจเลยแม้แต่น้อยเลยรึ ดูเหมือนข่าวลือข้างนอกจะมิใช่เรื่องเท็จ จื่อชินตายด้วยน้ำมือของเจ้าจริง ๆ ข้าอยากรู้ยิ่งนักว่า จื่อชินที่เป็นถึงจอมยุทธ์ขั้นกลางระดับปฐพีถูกขยะไร้ค่าเช่นเจ้าสังหารได้อย่างไร? หรือว่า… นางจะเป็นคนลงมือ?”หลังจากที่พูดจบ เขาก็มองไปยังกู้เสวี่ยเจี้ยนด้วยแววตาอำมหิตหัวใจของกู้เสวี่ยเจี้ยนหล่นวูบ นางได้กลิ่นอายอันตรายแผ่ออกมาจากซือคงเหยียนอย่างชัดเจนฉินซูพูดอย่างสงบนิ่ง "การตายของหนานกงจื่อชินมิเกี่ยวข้องกับนาง และยิ่งมิเกี่ยวกับเซี่ยหลาน ปล่อยเซี่ยหลานไป หากท่านมีเรื่องใดก็มาหาข้าได้โดยตรง ข้าเชื่อว่าผู้มีเกียรติระดับผู้อาวุโสแห่งหอดารา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 494

    หนึ่งชั่วยามต่อมาฉินซูและคนอื่น ๆ กลับมาถึงที่ว่าการอำเภอเหรากู่ พบว่ามีเหล่าเจ้าหน้าที่จำนวนมากมุงล้อมรอบอยู่หน้าประตูที่ว่าการอำเภอ ถานเหวยจึงเอ่ยถาม "ใต้เท้าเว่ย เกิดเรื่องอะไรขึ้น?"ผู้ว่าการเว่ยเห็นฉินซูและคนอื่น ๆ กลับมาก็รีบรุดหน้าเข้ามาพบเขาดูตื่นตระหนกอย่างมากและกล่าวขึ้น "องค์รัชทายาท เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! ผู้ตรวจการของเราถูกสังหารไปหลายคน ส่วนใต้เท้าเซี่ยเองก็ถูกคนชั่วนั่นจับตัวไปด้วยพ่ะย่ะค่ะ!"“ว่ากระไรนะ?!”ฉินซูเปลี่ยนสีหน้า ถามเสียงเข้มว่า “เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?”“ข้าน้อยเองก็มิทราบรายละเอียดนัก แต่คนร้ายได้เขียนข้อความทิ้งไว้ตรงหน้าประตูที่ว่าการอำเภอ หากพระองค์...”มิทันพูดจบ ฉินซูก็ก้าวยาว ๆ ผ่านฝูงชนตรงไปตรงหน้าประตูที่ว่าการอำเภอบนประตูมีข้อความถูกจารึกไว้อย่างแข็งแกร่งและทรงพลัง "ฉินซู หากอยากช่วยสตรีของเจ้าก็จงมาที่ลานหินแตกนอกเมือง หากเจ้ามิมาถึงก่อนอาทิตย์ตกดินก็รอรับศพสตรีของเจ้าซะ!"เมื่อเห็นสิ่งนี้ ใบหน้าของฉินซูก็ดุดันน่าสะพรึงกลัวกู้เสวี่ยเจี้ยนเหลือบมองฉินซูอย่างสงสัยเล็กน้อย จากนั้นก็จึงดึงปิ่นปักผมที่ปักไว้บนประตูออกมาหลังจากพินิจปิ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 493

    ผู้ตรวจการที่ประจำอยู่หน้าประตูมองเห็นชายผู้นั้น ก็เอ่ยถามขึ้น “ท่านลุง มีเรื่องอะไรจะมาแจ้งความหรือ?”ชายชราผู้มีผมขาวแต่ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สวมเสื้อคลุมสีเทา มิใช่ใครอื่นนอกจากซือคงเหยียน!เขาถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง "องค์รัชทายาทอยู่ที่ที่ว่าการอำเภอของพวกเจ้าหรือไม่?"ผู้ตรวจการหลายคนสบตากัน ก่อนที่หัวหน้ากลุ่มจะถามกลับด้วยความระมัดระวัง "ท่านเป็นใคร เหตุใดจึงสอบถามเรื่องนี้?"แววอำมหิตฉายไปทั่วใบหน้าของซือคงเหยียน มือใหญ่ของเขาพลันยื่นออกมา!เพียงชั่วพริบตา เขาก็คว้าคอผู้ตรวจการคนนั้นเอาไว้!ทันใดนั้นสีหน้าของคนอื่น ๆ ก็เปลี่ยนไป ทุกคนต่างชักดาบออกมา!“ปล่อยหัวหน้าของเราเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นพวกเราจะมิเกรงใจแล้ว!”ซือคงเหยียนเหลือบมองพวกเขาและพูดอย่างหยามหยัน "แมลงตัวกระจ้อย ยังกล้าตะโกนใส่หน้าข้า ช่างมิรู้จักความตายเสียแล้ว!"สิ้นเสียงพูด เขายกมืออีกข้างออกมาตบผู้ตรวจการคนนั้นผ่านอากาศ!ลมปราณที่รวดเร็วสายหนึ่งพุ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของเขา!ผู้ตรวจการหลายคนยังมิทันได้ขยับตัวก็ถูกแรงฝ่ามือนั้นซัดปลิวไปไกลถึงสี่หรือห้าจั้ง ก่อนจะตกกระแทกพื้นอย่างแรงหลังจากที่พวกเขาล้มลงกับ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 492

    ดวงตาของซือคงเหยียนฉายแววสังหาร จากนั้นเขาก็เริ่มค้นหาภายในป่าแต่หลังจากค้นหาอยู่นานก็มิพบอะไรเลยสีหน้าของเขาหม่นมืดลึกลับ และพึมพำกับตัวเอง“ทั่วทั้งป่ามีเพียงตรงนี้ที่มีเลือดของจื่อชิน แต่ว่าศพของเขาไปอยู่ที่ใดกัน? ต่อให้ถูกพวกปีศาจภูเขากิน ก็เป็นไปมิได้ที่จะหายไปมิเหลือร่องรอย!”ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องน่าประหลาดเกินไปแต่ตอนนี้ที่ยังหาศพของหนานกงจื่อชินมิพบ ซือคงเหยียนจึงทำได้เพียงเก็บความคับแค้นไว้ในใจและเดินออกจากป่าไปในตอนนั้นเอง ที่ถนนหลวงด้านนอก มีพ่อค้าเร่กลุ่มหนึ่งเดินผ่านพอดีชายคนหนึ่งพูดด้วยความดีใจอย่างยิ่ง "พี่เจียง เจ้าได้ยินแล้วหรือยังว่า องค์รัชทายาทแห่งแคว้นต้าเหยียนของเราได้สังหารบุตรแห่งนักปราชญ์หออะไรนั่นของเป่ยเยี่ยนแล้ว!"เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของซือคงเหยียนพลันมืดหม่นลง ร่างของเขาวูบไหวชั่วขณะก่อนปรากฏขึ้นตรงหน้าชายผู้นั้นราวกับภูติผีชายคนนั้นตกใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของซือคงเหยียนจนขาอ่อนและเซล้มลงกับพื้นเมื่อเห็นกลิ่นอายอำมหิตบนใบหน้าของซือคงเหยียน ชายคนนั้นก็ตื่นตกใจจนพูดอะไรแทบมิออก“เจ้า… เจ้าเป็นใคร คิดจะทำ… ทำอะไร?”ซือคงเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 491

    “หวังฉือกับเนี่ยหงไอ้สุนัขสองตัวนั่น กล้าโจมตีพวกเราต่อหน้าเหล่าขุนนางเลยรึ น่าโมโหนัก!”ฉินหงปลอบใจเขา "เสด็จพี่สามใจเย็นก่อน ทั้งตุลาการศาลต้าหลี่และผู้ตรวจการฝ่ายซ้ายไม่มีทางก่อปัญหาใหญ่ได้หรอก เมื่อไหร่ที่รัชทายาทล้มลง พวกเขาก็จะกลายเป็นสุนัขไร้เจ้าของ ไยต้องไปถือสาหาความกับพวกเขาเล่า”“ข้าแค่หงุดหงิดเท่านั้นเอง อีกอย่าง เสด็จพ่อยังสั่งให้หัวหน้าสำนักจับตาดูหอดารารักษ์ แล้วคนจากหอดารารักษ์จะมีโอกาสไปแก้แค้นฉินซูได้อย่างไร?”“ความแข็งแกร่งของหอดารารักษ์มิได้ด้อยไปกว่าสำนักหอดูดาวหลวงเลย เจ้าสำนักคงมิสามารถควบคุมพวกเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จ มิว่าจะอย่างไร เรื่องนี้ต้องทำให้องค์รัชทายาทยุ่งยากแน่นอน พวกเราแค่รอดูผลลัพธ์ก็พอ”ฉินหยางพยักหน้าเล็กน้อยและถามอีกครั้ง "ว่าแต่ มีข่าวคราวจากเรือสินค้าที่มุ่งใต้ไปยังหลิ่งหนานบ้างหรือไม่?"ฉินหงถอนหายใจ “ยังไม่มีเลย แต่ถ้าคำนวณเวลา ตอนนี้เรือลำนั้นน่าจะผ่านเขตเหยี่ยนโจวแล้ว”“หึ พวกโจรสลัดในเหยี่ยนโจวนั่นช่างไร้ประโยชน์เสียจริง ข้าวแปดพันต้านกับเงินหกแสนตำลึง ทั้งหมดนี้เป็นทรัพย์สินมหาศาล แต่พวกมันกลับมิกล้าลงมือ!”“คงมิแน่เสมอไปว่าจะมิกล้าลง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 490

    ฉินอู๋ต้าวยังมิทันได้แสดงท่าที หวังฉือก็โต้แย้งขึ้นมาทันควัน “ข้าน้อยมิเข้าใจคำพูดของอ๋องซิ่น ยามนี้ยังไม่มีหลักฐานที่แสดงว่าเป็นฝีมือขององค์รัชทายาทเลย แล้วเหตุใดท่านจึงต้องให้องค์จักรพรรดิทรงพิจารณาให้รอบคอบด้วยหรือ?”“นั่นสิ เป่ยเยี่ยนเดิมทีก็มีความตั้งใจจะล่วงล้ำพรมแดนของราชวงศ์ต้าเหยียนมาตลอด ยามนี้ยังมิได้มีการระดมทัพเลย แต่ท่านอ๋องซิ่นกลับกลัวแล้ว หากวันหนึ่งเป่นเยี่ยนระดมทัพขึ้นมาจริง ๆ ท่านจะมิสนับสนุนให้องค์จักรพรรดิแบ่งดินแดนให้เลยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฉินหยางถูกหวังฉือและเนี่ยหงโต้กลับจนหน้าซีดในที่สุดบัดนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่า หวังฉือและเนี่ยหง ทั้งสองเป็นขุนนางระดับสองที่กลายเป็นคนของฉินซูไปแล้วเขาเกิดความสงสัย ฉินซูเป็นองค์รัชทายาทผู้รอวันถูกปลด เขามีดีอะไรที่ทำให้ทั้งสองคนนั้นยอมรับเขาเป็นผู้นำ?แต่เมื่อเผชิญกับคำซักถามอย่างเข้มงวดของหวังฉือและเนี่ยหง เขาก็มิอาจอุบเงียบเอาไว้ได้ จึงแค่นเสียงเย็นชา"หึ! ข้าในฐานะจวิ้นอ๋องแห่งราชวงศ์ต้าเหยียน ต่อให้วันข้างหน้าสงครามปะทุขึ้นอีกครั้ง ก็ย่อมไม่มีทางให้เสด็จพ่อยอมสละดินแดนเพื่อขอสันติภาพ เพียงแต่ยามนี้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเร

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 489

    ข่าวที่ว่าฉินซูได้สังหารบุตรแห่งนักปราชญ์ของหอดารารักษ์นั้นแพร่กระจายราวกับไฟป่า ก่อให้เกิดความปั่นป่วนทั้งในและนอกเมืองหลงเฉิงผู้คนต่างพูดถึงเรื่องนี้ทุกมื้อหลังอาหารบางคนยกย่องฉินซูว่าเขาทำให้ต้าเหยียนมีเกียรติบางคนถึงกับแอบส่ายหัว แม้ว่าฉินซูจะเป็นรัชทายาท ทว่าการสังหารบุตรแห่งนักปราชญ์ของหอดารารักษ์โดยไร้เหตุผลนั้นคงมิเป็นที่ยอมรับของราชสำนักเป่ยเยี่ยนและหอดารารักษ์ จากนี้ไปฉินซูองค์รัชทายาทผู้นี้อาจไม่มีวันมีชีวิตที่สงบสุขอีกต่อไปคนที่รู้สึกประหลาดใจที่สุดคงเป็นมู่หรงจื่อเยียนหลังจากที่ได้ยินข่าวนี้ ใจนางก็เกิดความสงสัยว่า คนที่ฆ่าหนานกงจื่อชินคือฉินซูจริง ๆ หรือ?แต่ฉินซูเก่งแค่วิชาตัวเบาเท่านั้น แล้วเขาจะสังหารหนานกงจื่อชินได้อย่างไร?ทว่าเมื่อนึกถึงเมื่อยามหลังจากที่ออกมาจากดินแดนแห่งความฝันนั้น ฉินซูเอาชนะอันธพาลเหล่านั้นได้ในพริบตา นางก็ตระหนักว่าความแข็งแกร่งของฉินซูนั้นมิธรรมดาเมื่อคิดถึงตรงนี้ นางก็รีบสงบสติอารมณ์ และบังคับให้ตัวเองใจเย็นลงหากมู่หรงฟู่รู้ว่าฉินซูมีฝีมือที่เหนือชั้นเช่นนี้ สถานการณ์ของฉินซูคงจะอันตรายอย่างมากต่อมา มู่หรงจื่อเยียนเลือกที่จะ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 488

    ฉินหงมองเนื้อหาในจดหมายเพียงครู่เดียว สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไป!เขากล่าวเสียงทุ้มหนัก "เตรียมเกี้ยว ข้าจะไปจวนอ๋องซิ่น แล้วก็แจ้งให้ใต้เท้าหลินและใต้เท้าเซี่ยมาประชุมที่จวนอ๋องซิ่นด้วย!""พ่ะย่ะค่ะ!"สองเค่อต่อมาฉินหงพร้อมด้วยหลินซีและคนอื่น ๆ ก็มารวมตัวกันที่จวนอ๋องซิ่นฉินหยางถามอย่างสงสัย "น้องสี่ ดึกป่านนี้พวกเจ้ายังมากัน มีข่าวดีอะไรจากทางคูมู่หรือ?""ยังติดต่อคูมู่มิได้ แต่เสด็จพี่สาม พวกท่านลองดูนี่ก่อน"ฉินหงพูดพลางวางจดหมายฉบับนั้นลงบนโต๊ะฉินหยาง หลินซีและคนอื่น ๆ เข้ามาอ่านข้อความบนจดหมายโดยพร้อมเพรียงหลังจากได้อ่านแล้ว เซี่ยเหอก็เอ่ยขึ้นอย่างตกใจ "ว่ากระไรนะ? ฉินซูสังหารศิษย์เอกของหอดารารักษ์?!"ฉินหยางถามด้วยสีหน้าฉงน "น้องสี่ แน่ใจหรือว่าข่าวนี้เป็นความจริง?""น่าจะมิใช่เรื่องเท็จ ศิษย์เอกของหอดารารักษ์มีฐานะสูงส่งในแคว้นเป่ยเยี่ยน ผู้ใดจะกล้าพูดเล่นเกี่ยวกับเรื่องนี้""แต่ศิษย์เอกอย่างหนานกงจื่อชินมีพลังแข็งแกร่งนัก องค์รัชทายาทจะสังหารเขาได้อย่างไร?"หลินซีเองก็กล่าวเสริมขึ้นเช่นกัน "ใช่แล้ว แม้กู้เสวี่ยเจี้ยนแห่งสำนักหอดูดาวหลวงจะติดตามองค์รัชทายาทไปทางเหนือด้วยแต่ด้ว

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status