Share

บทที่ 424

Penulis: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ฉินซูได้ยินแค่เสียงก็รู้ว่าใครเป็นผู้พูด

เขาพูดอย่างมิสบอารมณ์ “ข้ามิใช่คนประเภทที่กินมิเลือก ทว่าหากคนที่นอนอยู่บนเตียงในยามนี้คือเจ้า นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง”

กู้เสวี่ยเจี้ยนหน้าแดง แต่ฉับพลันก็เอ่ยเสียงเย็น “ฝันไปเถิดเพคะ แม้บุรุษในใต้หล้านี้จะตายกันไปหมด หม่อมฉันก็มิเลือกท่าน”

ฉินซูยักไหล่ “ข้าแค่ล้อเล่นเอง เจ้าจะจริงจังอะไรปานนั้น!”

“เลิกพูดนอกเรื่องเถิด ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรกันต่อไปหรือเพคะ?”

กู้เสวี่ยเจี้ยนเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว

ฉินซูพูดอยางมิลังเล “ตอนนี้ยังมิดึกมาก รอให้ทุกคนในจวนผู้ว่าการเข้านอนกันหมดก่อนค่อยลงมือ เช่นนี้จะทำอะไรได้จะสะดวกกว่า”

“นึกว่าท่านจะให้หม่อมฉันไปค้นคลังสมบัติของเฉินจางเพียงลำพังเสียแล้ว ท่านยังมีจิตสำนึกอยู่บ้างสินะเพคะ”

“ปกติข้าก็มิใช่คนใจแข็งหรอก ยิ่งไปกว่านั้น เฉินจางก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อยื้อให้ข้าอยู่ที่นี่ หากข้าหาคลังสมบัติของเขามิเจอ มันจะถือเป็นการละเลยเจตนาดีของเขามิใช่หรือไร?”

กู้เสวี่ยเจี้ยนกลอกตาใส่เขา “หากเฉินจางรู้จุดประสงค์ของท่าน เขาคงจะโมโหเป็นบ้าเป็นหลัง”

ฉินซูยิ้มและมิพูดอะไร

ขณะนั้นก็มีเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังมาจากนอกป
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 425

    ในขณะนี้ ดวงตาทั้งสองข้างของพวกเขาเบิกกว้าง และดูเหมือนว่าลมหายใจของพวกเขาจะหยุดลงหลังจากที่กู้เสวี่ยเจี้ยนได้สติ ใบหน้าที่งดงามของนางก็แดงมากนางกำลังจะลุกขึ้นด้วยสีหน้าเขินอายแต่ทันใดนั้น ฉินซูก็เอื้อมมือออกไปและกอดรัดเอวบางของนางเอาไว้!กู้เสวี่ยเจี้ยนก็ตัวสั่นและคิดจะระเบิดอารมณ์โมโหออกมาฉินซูอดมิได้ที่จะจูบนางกู้เสวี่ยเจี้ยนตัวแข็งทื่อในทันทีและลืมต่อต้านไปโดยสิ้นเชิงการรุกเร้าของฉินซูทำให้ในหัวของนางเกิดความสับสนวุ่นวาย และสุดท้ายก็ค่อย ๆ สูญสิ้นสติไปมินานหลังจากนั้น เสื้อผ้าของพวกเขาก็กระจัดกระจายอยู่บนพื้นเสียงที่แต่เดิมตั้งใจสร้างขึ้นกลับกลายเป็นการแสร้งทำที่กลายเป็นจริงขึ้นมามิรู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร ทั้งคู่ต่างนอนเงียบ ๆ อยู่บนเตียงโดยไม่มีใครพูดอะไรตอนนี้ เฉินจางได้ไปจากหน้าประตูแล้วส่วนเฉินหว่านเอ๋อร์ซึ่งเดิมนอนอยู่บนเตียงก็ถูกกู้เสวี่ยเจี้ยนถีบลงไปอยู่บนพื้นฉินซูมองไปเรือนร่างบอบบางนวลเนียนขาวใสของกู้เสวี่ยเจี้ยน สีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความรู้สึกที่บ่งบอกว่ายังมิเสร็จสมอารมณ์หมายเขาอดมิได้ที่จะเอื้อมมือไปสัมผัสร่างกายอันงดงามของกู้เสวี่ยเจี้ยน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 426

    หลังจากนั้นมินานประตูห้องนอนของเฉินหว่านเอ๋อร์ก็เปิดออกมีเงาร่างสองเงาเดินออกมาจากความมืดนั่นคือฉินซูและกู้เสวี่ยเจี้ยน!ในตอนแรก กู้เสวี่ยเจี้ยนคิดจะปล่อยให้ฉินซูอยู่ในห้องนอนของเฉินหว่านเอ๋อร์และไปที่คลังสมบัติของเฉินจางเพียงลำพังแต่นางมิรู้ว่าเป็นเพราะนางกลายเป็นสตรีของฉินซูแล้วหรือไม่ ตอนนี้นางจึงทนมิได้ที่ต้องเห็นสตรีอื่นอยู่รอบกายฉินซูยิ่งไปกว่านั้น เฉินหว่านเอ๋อร์ก็แต่งตัวได้น่าดึงดูดและงดงามนัก ดังนั้นนางจึงกังวลยิ่งกว่าเดิมที่จะปล่อยให้ฉินซูอยู่ที่นี่หากฉินซูมีความปรารถนาขึ้นมาอีกครั้งและมีสัมพันธ์กับเฉินหว่านเอ๋อร์ เช่นนั้นจะมิทำให้นางโกรธมากหรอกหรือไรดังนั้นนางจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพาฉินซูไปค้นหาความลับของเฉินจางด้วยกันพวกเขาทั้งสองเดินไปที่ประตูหลังของห้องโถงด้านข้าง และกู้เสวี่ยเจี้ยนก็กอดเอวของฉินซูเอาไว้จากนั้นนางก็ใช้เท้าแตะพื้นเบา ๆ เพื่อใช้วิชาตัวเบาพาฉินซูมายังเรือนหลังอย่างเงียบ ๆฉินซูถามเสียงต่ำ “มาทำอะไรที่เรือนหลัง? ทางเข้าคลังสมบัติลับของเฉินจางน่าจะอยู่ในห้องตำราหรือห้องของเขานี่”“หม่อมฉันได้ตรวจค้นห้องตำราและห้องนอนของเขาแล้ว และ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 427

    นางขมวดคิ้วและถามว่า “ห้ามหม่อมฉันหาปะไรเล่า ประตูหินนี่มันหนักมากถึงเพียงนี้ หรือว่าท่านเปิดเองได้?”ฉินซูกลอกตาใส่นางแล้วถามว่า “เจ้ามิกังวลเลยหรือว่าที่ประตูหินอาจจะเต็มไปด้วยพิษ?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของกู้เสวี่ยเจี้ยนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย นางหยิบเข็มเงินออกมาแล้วถูไปที่ประตูหินหลายครั้งเข็มเงินในมือของนางเปลี่ยนเป็นสีดำทันที!“มีพิษจริง ๆ หรือนี่?!”ใบหน้าของกู้เสวี่ยเจี้ยนเต็มไปด้วยความมิอยากเชื่อ “ท่านรู้ได้อย่างไรว่าที่ประตูหินมีพิษ?”ฉินซูพูดอย่างจริงจัง “ตาแก่เฉินจางนั่นเป็นคนเจ้าเล่ห์ หากนี่คือคลังสมบัติของเขาจริง เขาจะมิเตรียมการอะไรไว้เลยหรือไร ดังนั้นต่อจากนี้มิว่าเจ้าจะท่องยุทธภพหรือจัดการคดีต่าง ๆ เจ้าจะต้องระมัดระวังและอย่าได้ประมาทเด็ดขาด”กู้เสวี่ยเจี้ยนมองฉินซูอย่างลึกซึ้งพลางสงสัยว่า เหตุใดฉินซูถึงดูมีประสบการณ์ชีวิตมากราวกับคนแก่ที่ผ่านโลกมามากก็มิปานขณะนั้นเอง ฉินซูที่ใช้มือคลำกำแพงอยู่ครู่หนึ่งก็พบกลไกเขากดก้อนหินที่ปูดออกมาบนผนังเบา ๆ และแล้วประตูหินแผ่นหนาทั้งสองบานก็เปิดออกอย่างช้า ๆเมื่อทั้งสองเห็นสิ่งที่อยู่ด้านหลังประตูหิน ทั้งคู่ต่างก็ตก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 428

    ฉินซูพูดโดยมิต้องคิด “แน่นอนว่าต้องกลับไปยังที่ว่าการมณฑลสิ!”“ทว่าหากเช้าวันพรุ่งเฉินจางมิเห็นท่าน เขาจะมิสงสัยเอาหรือเพคะ?”“ในสายตาของเขา ข้าได้มีสัมพันธ์กับลูกสาวของเขาไปแล้ว ด้วยสถานะของข้า หากออกมากลางดึกหลังจากสร่างเมาก็ถือว่าสมเหตุสมผลแล้ว”กู้เสวี่ยเจี้ยนพยักหน้าเบา ๆ แล้วเดินไปที่ประตูหลังพร้อมกับฉินซูทันทีที่นางออกมาจากประตูหลัง นางก็อุทานด้วยความประหลาดใจ “หืม? แล้วคนที่นอนคว่ำอยู่ตรงนี้ด้วยอาวุธลับของท่านไปไหนเสียแล้วเพคะ?”“คงจะถูกตงฟางโซ่วเอาตัวไปแล้วกระมัง ข้าสั่งให้เขาคอยจับตาดูอยู่ในที่มืด”เมื่อได้ยินเช่นนั้น กู้เสวี่ยเจี้ยนก็มิสงสัยอะไรและแล้วทั้งสองก็จากไปอย่างเงียบ ๆระหว่างทางกลับไปยังที่ว่าการมณฑล ฉินซูอยากจะจับมือกู้เสวี่ยเจี้ยนหลายครั้งแต่กลับถูกกู้เสวี่ยเจี้ยนสะบัดทิ้งอย่างไร้เยื่อใยทุกครั้งไปสุดท้ายเมื่อเห็นว่าฉินซูยังมิลดละความพยายาม กู้เสวี่ยเจี้ยนก็โมโหขึ้นมา!“หากท่านกล้าแตะต้องหม่อมฉันอีก หม่อมฉันจะดึงเล็บของท่านออก เชื่อหรือไม่เพคะ?”ฉินซูมิมีทางเลือกนอกจากต้องดึงมือของตัวเองออกอย่างมิสบอารมณ์เขามิเข้าใจว่าเหตุใดจู่ ๆ กู้เสวี่ยเจี้ยนถ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 429

    ใบหน้าของเฉินหว่านเอ๋อร์เต็มไปด้วยความสับสน ทว่านางลังเลที่จะพูดเฉินจางตำหนิ “เหตุใดเจ้าถึงมีท่าทีลังเล จากนี้ไปเจ้าเป็นคนขององค์รัชทายาทแล้ว มีความมั่นใจหน่อยสิ”“ท่านพ่อ เมื่อคืนองค์รัชทายาทมิได้แตะต้องข้าเลย เมื่อครู่ที่ตื่นขึ้นมาข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้น อีกทั้งเสื้อผ้าก็มิเลอะเทอะเปรอะเปื้อนเลยเจ้าค่ะ”“เป็นไปได้อย่างไร? ก็เมื่อคืนพ่อได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวในห้องของลูกนี่”“แต่เมื่อคืนข้ามิได้ส่งเสียงดังเลยนะเจ้าคะ ข้าจำได้แค่ว่าองค์รัชทายาททรงอุ้มข้าไปที่เตียง จากนั้นข้าก็เป็นลมไป”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฉินจางก็อดมิได้ที่จะเต็มไปด้วยความสงสัยหากเป็นจริงอย่างที่เฉินหว่านเอ๋อร์พูด แล้วเสียงความเคลื่อนไหวเมื่อคืนคืออะไรกัน?เขาสงสัยว่าบุตรีของตัวเองอาจโกหก เพราะถึงอย่างไรมันก็สมเหตุสมผลที่ฝ่ายหญิงจะรู้สึกเขินอายและมิยอมรับเรื่องเช่นนี้แต่ดูเหมือนว่าเฉินหว่านเอ๋อร์จะมิได้โกหกดังนั้นเขาจึงถามอย่างจริงจัง “หว่านเอ๋อร์ เจ้าแน่ใจหรือว่าเมื่อคืนเจ้ากับองค์รัชทายาทมิได้มีสัมพันธ์กันจริง ๆ ”เฉินหว่านเอ๋อร์ส่ายหัวเบา ๆ “ข้าก็มิแน่ใจ แต่เหมือนจะ… ไม่เจ้าค่ะ”“เด็กน้อยเช่น

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 430

    เฉินจางยิ้มแห้ง ๆ “ข้าน้อยมิกล้า ข้าน้อยเพียงพูดจ้อไปเรื่อยพ่ะย่ะค่ะ”“มิต้องห่วง ข้าเป็นคนที่กล้าทำกล้ารับ หากเกิดอะไรขึ้นกับบุตรีของเจ้า ข้าย่อมมิพูดปด ใต้เท้าเฉินจะหาคนมาตรวจร่างกายของนางก็ได้”“หามิได้พ่ะย่ะค่ะ หามิได้ ข้าน้อยจะคิดเช่นนั้นได้อย่างไร องค์รัชทายาททรงกังวลมากเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ”กู้เสวี่ยเจี้ยนแค่นเสียงเย็น “ใต้เท้าเฉินหาคนมาตรวจสอบจะดีกว่านะ เพราะจะให้ชื่อเสียงขององค์รัชทายาทเป็นที่กังขามิได้เด็ดขาด!”หัวใจของเฉินจางเต้นรัว เขารีบอธิบายว่า “มิจำเป็นจริง ๆ ขอรับ เมื่อเช้านี้บุตรีของข้าน้อยก็พูดเองด้วยว่าเมื่อคืนหาได้มีอะไรเกิดขึ้นไม่ ข้าน้อยรับรองว่าจะไม่มีการนำเรื่องนี้ไปซุบซิบนินทาที่ไหนแน่นอนขอรับ”กู้เสวี่ยเจี้ยนแค่นเสียงเย็นอีกครั้ง “หึ ก็มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นตั้งแต่แรก แน่นอนว่าย่อมไม่มีเรื่องให้ซุบซิบนินทา!”เฉินจางตกใจและรู้สึกว่าปฏิกิริยาของกู้เสวี่ยเจี้ยนดูเหมือนจะมากเกินไปด้วยแต่เขาก็มิกล้าถามอะไรไปมากกว่านี้ เขาจึงได้แต่พยักหน้าเห็นด้วยขณะนั้นเองเจ้าหน้าที่ของทางการผู้หนึ่งก็มารายงานว่า “ท่านใต้เท้าเฉิน ผู้ว่าการอำเภอหลายคนเมื่อวานพากันมาอีกแล้ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 431

    ผู้ว่าการอำเภอซุนเยวี่ยแห่งอำเภอฉงซานเอ่ยว่า “องค์รัชทายาท อำเภอฉงซานของเรานอกจากขาดแคลนเสบียงข้าวแล้ว ยังขาดแคลนน้ำอย่างหนัก ข้าน้อยตั้งใจที่จะซ่อมแซมการชลประทาน แต่คลังของที่ว่าการอำเภอนั้นไม่มีเงินเหลือนานแล้วพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยจึงบังอาจขอความช่วยเหลือจากพระองค์พ่ะย่ะค่ะ!” “ที่ว่าการอำเภอขาดเงินแล้วเจ้ามิไปขอจากที่ว่าการมณฑลงั้นหรือ?” “ข้าน้อยเดินทางไปที่ว่าการมณฑลรวมทั้งสิ้นแปดครั้ง ทว่าทุกครั้งนายทะเบียนจางล้วนบอกว่าที่ว่าการมณฑลเองก็ไม่มีเงินเช่นกัน ทำให้ข้าน้อยต้องกลับมามือเปล่าพ่ะย่ะค่ะ” ได้ยินเช่นนั้น หัวใจของเฉินจางและจางก็เฟิงรู้สึกเย็นวาบแล้วแอบร้องในใจว่า แย่แล้ว! ฉินซูแค่นเสียงเย็นชาและตวาดว่า “นายทะเบียนจางอยู่ที่ใด?” “องค์รัชทายาท ข้าน้อยอยู่ที่นี่พ่ะย่ะค่ะ!” จางเฟิงพรวดออกมาอย่างล้มลุกคลุกคลานจากด้านหลังของเฉินจางก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าฉินซู ฉินซูมองเขาอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ผู้ว่าการอำเภอเหล่านี้ต่างเคยมาขอเสบียงจากพวกเจ้า พวกเจ้าก็บอกว่าไม่มี พอมาขอเงินไปซ่อมบำรุงการชลประทาน ที่ว่าการมณฑลของพวกเจ้าก็บอกไม่มีอีกงั้นรึ?” จางเฟิงกล่าวด้วยใบหน้าเศร้าโศก “อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 432

    เฉินจางมีสีหน้าลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยเสียงเบาว่า “ส่งคนไปแจ้งกลุ่มยักษ์รากษสและคนอื่น ๆ ให้รีบไปแอบซุ่มอยู่ที่จวนของข้าให้ดีแล้วรอฟังคำสั่งข้า” “ขอรับ!” โจวเซินตอบรับทันทีก่อนส่งสัญญาณทางสายตาให้ชายคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ ชายคนนั้นจึงลอบถอนตัวออกจากกลุ่มและไปแจ้งข่าว เมื่อมาถึงหน้าประตูจวนผู้ว่าการมณฑล เฉินจางก็แสร้งยิ้มและต้อนรับฉินซูกับคนอื่น ๆ เข้าไปด้านใน เขากำลังคิดจะพาทุกคนเข้าไปในห้องโถงใหญ่ แต่กลับพบว่าฉินซูนำคนเดินตรงไปยังลานหลังจวนทันที เมื่อเห็นภาพนี้ หัวใจของเฉินจางก็แทบล่วงลงตาตุ่ม! หรือว่า ความลับของตนจะถูกเปิดเผยแล้ว?! เขาถามอย่างกระวนกระวายใจว่า “องค์รัชทายาท เส้นทางนี้นำไปยังสวนหลังบ้าน ท่านจะไปทำอะไรที่นั่นหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ฉินซูหรี่ตาลงแล้วถามกลับว่า “เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า?” “เอ่อ… ความคิดขององค์รัชทายาท ข้าน้อยจะมิอาจล่วงรู้พ่ะย่ะค่ะ”เฉินจางแสร้งทำเป็นจิตใจสงบ แต่ในใจกลับร้อนรนอย่างยิ่ง เขารู้ว่าการที่ฉินซูพาคนไปยังสวนหลังบ้านเวลานี้ ย่อมมิใช่เรื่องธรรมดาเป็นแน่ ครั้นแล้วก็เห็นฉินซูยิ้มบาง ๆ “มิต้องร้อนใจไป อีกเดี๋ยวเจ้าก็รู้เอง” ขณะที่พูด

Bab terbaru

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 702

    เซวียหมิงมองไปยังทิศทางที่ฉินซูและพรรคพวกจากไปพลางพึมพำกับตัวเอง“คิดมิถึงเลยว่าจะได้เจอกับคนที่สามารถกลืนกินปราณเลือดอาถรรพ์ได้ จีอันหรือ? ข้าจะจำเจ้าเอาไว้!”“แล้วก็ฉินซู เจ้าคอยข้าก่อนเถอะ สักวันข้าจะทำให้เจ้าทุกข์ทรมานจนอยู่ต่อมิไหว จะตายก็มิได้!”“แค่นี้ก็น่าจะพอให้ข้าใช้แล้ว”เขาพูดพลางมองลูกแก้วสีแดงอมม่วงในมือภายในลูกแก้วนั้นคือปราณเลือดอาถรรพ์จุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ของเขาคือต้องการหามหาปุโรหิตแห่งสำนักจันทราโรหิต เพื่อขอยืมปราณเลือดอาถรรพ์มาใช้แต่เมื่อเข้าใกล้บริเวณนี้ ก็เห็นเฉินซีถูกฉงชูโม่ล่อลวงไปแล้ว ส่วนสาวกของสำนักจันทราโรหิตก็บาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ เขาจึงฉวยโอกาสจัดการสาวกที่เหลือของสำนักจันทราโรหิต จากนั้นก็เข้าไปในถ้ำจนได้พบกับแท่นบูชาต่อมาก็ฉวยโอกาสที่ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยมิทันระวังจัดการอีกฝ่ายจนสลบไป และเก็บรวบรวมปราณเลือดอาถรรพ์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดายจากนั้นเซวียหมิงก็หันหลังเดินออกจากที่นี่ไปเช่นกันขณะที่เขาเดินผ่านป่าแห่งหนึ่ง จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเท้าเหยียบเข้ากับบางสิ่งบางอย่างเมื่อก้มลงมอง ก็พบว่าเป็นขลุ่ยกระดูกสีขาวบริสุทธิ์เขายกมันขึ้นมาด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 701

    ในเวลานี้ แสงสีเลือดใต้รอยแตกของผนึกได้หายไปหมดจนแล้ว เหลือเพียงความมืดมิดจีอันลูบก้นพลางเดินเข้ามาเขาหยิบกระดาษยันต์สีเหลืองสองแผ่นออกมาจากอกเสื้อแล้วแปะลงบนรอยแตกของผนึกนั้นลงไปจากนั้นก็เดินไปข้าง ๆ ยกก้อนหินขนาดใหญ่กว่าวัวทั้งตัวขึ้นมาวางทับกระดาษยันต์ทั้งสองแผ่นนั้นไว้ฉินซูได้แต่มองตาค้าง ก้อนหินนั้นอย่างน้อยก็หนักสักตันสองตันกระมัง แต่จีอันกลับยกมันขึ้นมาได้ด้วยมือเปล่าเขามองด้วยความสงสัยเต็มใบหน้าแล้วถามว่า “จีอัน ตอนนี้เจ้าอยู่ระดับใด?”“ข้าน้อยมิรู้ อาจารย์มิได้บอกข้าน้อย”“มิจริงน่า? ระดับของตัวเจ้าเอง เจ้าจะมิรู้ได้อย่างไร?”จีอันพยักหน้าอย่างซื่อ ๆ แล้วถามกลับว่า “ปราณบริสุทธิ์ภายในของท่านเข้มข้นและประหลาดถึงเพียงนี้ พระองค์เล่าอยู่ระดับใด?”ฉินซูยักไหล่ “ข้าก็มิแน่ใจ”“หึ มิพูดก็ช่าง ท่านแข็งแกร่งเพียงนี้ อาจารย์คงแก่จนเลอะเลือนแล้ว ถึงให้ข้าน้อยลงใต้มาคุ้มครองท่าน”จีอันบ่นพึมพำแล้วย่อเข่าลง จากนั้นร่างก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าดุจกระสุนปืนใหญ่ ชั่วพริบตาก็กระโจนขึ้นไปข้างบนฉินซูอดสงสัยมิได้ว่า เจ้านี่น่าจะเลือกเส้นทางสายฝึกกาย มิฉะนั้นจะหนังหนาถึงเพียงนี้ได้อย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 700

    ท่ามกลางสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของฉินซู ร่างของจีอันก็พุ่งลงไปราวกับกระสุนปืนใหญ่ กระแทกเข้ากับพื้นหุบเหวลึกเบื้องล่าง'ปัง' เสียงดังสนั่น พื้นดินถูกกระแทกจนเกิดหลุมขนาดใหญ่แต่จีอันกลับมิได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย!พลันเห็นเขาปีนขึ้นมาจากหลุมแล้วตบ ๆ ปัดฝุ่นออกจากตัวอย่างมิยี่หระราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเห็นภาพนั้น ฉินซูยกย่องเขาอย่างสุดซึ้ง ถามด้วยความสงสัยว่า “ชูโม่ จีอันผู้นี้หนังหนาไปหน่อยกระมัง? เขาอยู่ระดับใดหรือ?”“หม่อมฉันก็มิแน่ใจ แต่ในบรรดาศิษย์ทั้งเจ็ดคนของหัวหน้าโหรหลวงเขาแข็งแกร่งที่สุดแล้วเพคะ”“เช่นนี้นี่เอง เจ้าอยู่ดูแลตู๋กูโฉ่วเยวี่ยที่นี่ไปนะ ข้าจะลงไปช่วยเขา”ฉินซูพูดจบก็กระโดดลงไปเช่นกันต่างจากจีอัน ฉินซูในยามนี้ราวกับขนนกเบาหวิวที่ลอยลงไปอย่างแผ่วเบาเมื่อมาถึงก้นหุบเหว เขาก็ตกใจเมื่อพบว่าพื้นของแท่นบูชานี้เต็มไปด้วยอักขระเวทสีแดงในยามนี้อักขระเวทเหล่านี้ล้วนเปล่งแสงสีแดงเลือด ทั้งมีเสน่ห์แบบลึกลับและทั้งแปลกประหลาดจีอันมองฉินซูผาดหนึ่ง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ท่านคอยอยู่ตรงนั้น อย่าเข้ามา”พูดจบเขาก็สาวเท้าเข้าไปหาแสงโลหิตนั้นอย่างรวดเร็ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 699

    แรงกดดันน่าสะพรึงกลัวที่แฝงอยู่ในนั้น แม้จะอยู่ห่างไกลก็ยังรับรู้ได้อย่างชัดเจนฉินซูกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ท้องฟ้าเกิดปรากฏการณ์ประหลาด เกรงว่าจะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว มิควรอยู่ที่นี่แล้ว รีบไปกันก่อนเถิด”“มิได้ ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยยังอยู่ที่เขาหัวสิงห์ ที่นั่นต้องเกิดเรื่องกระไรขึ้นแน่ รีบไปดูกันเถิดเพคะ”ฉงชูโม่ยังมิทันจะพูดจบ ก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งไปยังทิศทางของเขาหัวสิงห์แล้วเมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินซูก็จำต้องตามไปด้วยเมื่อสังเกตว่าความเร็วของฉงชูโม่เร็วกว่าเดิมมาก ฉินซูก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “ชูโม่ มิได้เจอกันนาน พลังของเจ้าเพิ่มขึ้นเร็วถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?”“หม่อมฉันกินโอสถลับของสำนักหอดูดาวหลวง โอสถลูกกลอนนั้นสามารถเพิ่มความคล่องแคล่วของกระบวนท่าได้เพคะ”“เช่นนี้นี่เอง!”ฉินซูจดจำเรื่องนี้ไว้ในใจเงียบ ๆทั้งสองใช้ทักษะการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วราวกับภูตผี เพียงแค่ชั่วครู่ก็มาถึงตีนเขาหัวสิงห์เมื่อเงยหน้ามอง แสงสีแดงฉานที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ายังคงแรงกล้ามิได้เจือจางลงแม้แต่น้อย ในความว่างเปล่านั้นเต็มไปด้วยเมฆดำและเสียงฟ้าร้องดังสนั่นเมื่อเห็นสถานการณ์อันน่าพิศวงนี้ ฉินซูก็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 698

    ฉินซูกล่าวด้วยท่าทางจริงจังว่า “เฮ้อ เจ้าอย่าได้หึงหวงนักเลย เจ้าเป็นถึงพระชายาองค์รัชทายาทของข้านะ”“ถุย ใครเขาตอบตกลงเป็นพระชายาองค์รัชทายาทของท่านกัน อย่าแม้แต่จะคิดเชียว”“ชูโม่อย่าล้อเล่นสิ ข้าพูดจริงนะ เจ้ายังมิเข้าใจความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ้าอีกหรือ?”ฉงชูโม่หยุดเดิน พลันหันขวับกลับไปกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฉินซู หากท่านมิอยากให้ฝ่าบาททรงระแวง ท่านก็ควรกลืนคำพูดเมื่อครู่นี้กลับลงท้องไปเสีย”ฉินซูขมวดคิ้ว “ข้าชอบเจ้า แล้วมันผิดด้วยหรือ?”เมื่อเห็นฉินซูแสดงความในใจ ฉงชูโม่ก็อดมิได้ที่จะรู้สึกยินดีเล็กน้อย แต่ก็ยังคงส่ายหน้าพลางอธิบายอย่างอดทน“ผิดสิเพคะ ท่านลองไตร่ตรองดู ท่านเป็นถึงองค์รัชทายาท กลับคิดจะรับแม่ทัพขั้นหนึ่งมาเป็นพระชายาองค์รัชทายาท หากองค์จักรพรรดิทรงทราบเรื่องนี้ พระองค์จะทรงรู้สึกอย่างไร? อย่าลืมว่าเรื่องวันชุนเฟินปีหน้ายังมิจบสิ้น ดังนั้นมิว่าจะมองอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่องนี้เพคะ”“แต่… แต่ข้าได้ยึดครองหนานเยวี่ยทั้งหมดมาเป็นของต้าเหยียน ด้วยความดีความชอบเช่นนี้ การรับเจ้ามาเป็นพระชายาองค์รัชทายาทก็มิ...”ยังมิทันที่ฉินซูจะพูดจบ เขาก็เข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 697

    เมื่อเห็นว่าศพแห้งทำกระไรฉินซูมิได้ เสียงขลุ่ยของเฉินซีก็เปลี่ยนทำนองกะทันหัน ศพแห้งเหล่านั้นหันหลังวิ่งหนีป่าราบทันที“ชีวิตน้อย ๆ ของเจ้ากับศพแห้งเหล่านี้ ข้าจะเอาไปทั้งหมด!”เมื่อฉินซูพูดจบ ก็ตบฝ่ามือใส่เฉินซีรูม่านตาของเฉินซีหดเล็กลง ยังมิทันได้ลงมือก็ 'ฟู่' ถูกตบจนกลายเป็นหมอกเลือดในทันใดเมื่อเห็นเช่นนั้น ชายชุดดำก็ใจหายวาบ รีบวิ่งหนีสุดชีวิตโดยมิลังเลฉินซูหัวเราะเย็นชา จากนั้นก็โบกมือชายชุดดำวิ่งออกไปได้มิไกลนัก ร่างก็ชะงักกึก จากนั้นก็ถูกแรงดึงดูดลากให้ลอยกลับไปยังมิทันเข้าใจว่าเกิดอันใดขึ้น คอของเขาก็ถูกฉินซูบีบเอาไว้เสียแล้ว“บัดนี้เพิ่งคิดจะหนี มิคิดว่าสายเกินไปหน่อยรึ?” ฉินซูมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยชายชุดดำตกใจจนหน้าซีดเผือด กล่าวด้วยความยากลำบากว่า “อย่า อย่าฆ่าข้าเลย....”“ใครส่งเจ้ามา?”“ประ… ประมุขแห่งยุทธภพหนานเยวี่ย”ฉินซูหัวเราะเย็นชา “สำเนียงหลงเฉิงของเจ้าชัดถ้อยชัดคำเช่นนี้ ใกล้ตายแล้วยังคิดจะหลอกข้าอีกรึ? ในเมื่อเจ้ามิรู้สำนึก ข้าก็จะให้เจ้ารู้จักสิ่งที่เรียกว่าตายทั้งเป็น”เมื่อเขาพูดจบ ก็จิ้มไปที่จุดตันจงบนหน้าอกของชายชุดดำอย่างแรงเสี้ยวขณะต่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 696

    ชายชุดดำพยักหน้าขึงขัง “ข้าเห็นกับตาตัวเอง จะเป็นเรื่องเท็จได้อย่างไร”เฉินซีกลับหัวเราะแล้วส่ายหน้า กล่าวอย่างมิเห็นด้วยว่า “ตบยอดฝีมือระดับสวรรค์ให้กลายเป็นหมอกเลือดด้วยฝ่ามือเดียว เป็นไปได้อย่างไร ข้าว่านี่เป็นเพียงกลอุบายพวกภาพมายาเท่านั้น”ชายชุดดำคิดดูแล้วก็เห็นด้วยเฉินซีมองฉินซูอย่างดูถูก “เจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลด ยามนี้ข้างกายข้ามียอดฝีมือระดับสวรรค์เพิ่มมาอีกคน เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว เจ้ายังมิรีบยอมจำนนแต่โดยดีอีก รอกระไรอยู่เล่า?”“ใช่แล้ว ฉินซู เจ้าฆ่าตัวตายไปเสียยังดีเสียกว่า เช่นนั้นจะได้มิต้องทนทุกข์ทรมานมากนัก”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “พวกเจ้าสองคนพูดมากเกินไปแล้ว!”พูดจบ เขาก็หันกลับไปถามฉงชูโม่ว่า “จะเก็บไว้สอบปากคำหรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็ชะงักไปแต่แล้วก็ส่ายหน้าส่วนเฉินซีโกรธขึ้งจนแค่นหัวเราะออกมาแทน “เจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลด เจ้านี่ช่างปากกล้าเหลือเกิน สงสัยจะอวดอ้างเกินจริงเสียแล้วกระมัง ในเมื่อเจ้าอยากตายนัก ข้าก็จะให้เจ้าได้เห็นวิธีการอันน่าสะพรึงกลัวของสำนักจันทราโรหิตของข้า!”จากนั้นเขาก็หยิบขลุ่ยกระดูกออกมาจากอกเสื้อก่อ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 695

    เจ้าห้าเป็นจอมยุทธ์ระดับสวรรค์อย่างแท้จริง แต่กลับถูกฉินซูตบจนมิเหลือซาก แสดงให้เห็นชัดเจนว่าวรยุทธ์ของฉินซูน่าสะพรึงกลัวเพียงใดในฐานะที่เป็นจอมยุทธ์ระดับสวรรค์เช่นกัน เขาใช้วิชาตัวเบาหลบหนีอย่างสุดกำลัง ความเร็วยิ่งยวดจนน่าตกใจเช่นกันชั่วขณะหนึ่ง ฉินซูถึงกับตามมิทันได้ในทันทีแต่ยามนี้ฉินซูตั้งเป้าอีกฝ่ายไว้อย่างแน่วแน่ และไล่หลังตามติดไปอย่างมิยอมปล่อยหลังจากไล่ล่ากันไปได้ครึ่งชั่วยาม อีกด้านหนึ่งก็มีเสียงบันดาลดังขึ้นว่า “สารเลว หากมีฝีมือก็อย่าหนี ข้าจะให้เจ้าได้เห็นฤทธิ์เดชของสำนักจันทราโรหิตของข้าเสียบ้าง!”“หากเจ้ามีฝีมือก็อย่าตามมาสิ!”เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้ ฉินซูก็มิได้ไล่ตามชายชุดดำคนนั้นต่อไป แต่กลับพุ่งไปยังต้นทางของเสียงนั้นมินานนัก ร่างที่คุ้นเคยก็ปรากฏแก่สายตาฉินซูกระโดดออกมาจากหลังต้นไม้ ถามด้วยความประหลาดใจว่า “ชูโม่ เกิดอันใดขึ้น?”“องค์รัชทายาท ไฉนท่านจึงมาอยู่ที่นี่?” ฉงชูโม่หยุดชะงักอย่างอดมิได้นางล่อเฉินซีลงมาจากเขาหัวสิงห์ได้สำเร็จ แต่กลับสลัดอีกฝ่ายมิหลุดมินึกเลยว่าเมื่อวิ่งมาถึงที่นี่ กลับมาเจอเข้ากับฉินซูเมื่อเห็นนางหยุด เฉินซีก็หัวเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 694

    ด้วยปฏิกิริยาที่รวดเร็วยิ่งยวด ชายชุดดำคว้าลูกธนูที่ชิวก่วนยิงออกมาไว้ในมือได้แต่เขามองข้ามปัญหาที่ร้ายแรงไปอย่างหนึ่ง นั่นคือลูกธนูนั้นผูกติดอยู่กับระเบิดสายฟ้าไม้ไผ่ยังมิทันสิ้นถ้อยคำดูแคลนของเขา ระเบิดสายฟ้าก็ระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงร่างของเขากระเด็นออกไปทันทีพร้อมกับเสียงระเบิดดังสนั่น กระแทกลงพื้นดินที่อยู่ไกลออกไปอย่างแรงแขนขวาและแก้มครึ่งซีกของเขาถูกระเบิดจนเนื้อตัวเหวอะหวะ อาภรณ์ขาดวิ่นทั้งตัว ดูน่าสังเวชอย่างยิ่งเมื่อเห็นภาพนั้น สหายของเขามีสีหน้าตกตะลึง รีบถามว่า “เจ้าห้า เจ้าเป็นกระไรหรือไม่?”“แค่ก ๆ ...ยังมิตาย บัดซบ ข้าประมาทไปหน่อย”ชายชุดดำที่ถูกเรียกว่าเจ้าห้าสบถแล้วตะเกียกตะกายลุกขึ้น“เจ้าถ่วงเวลาเจ้ารัชทายาทผู้รอวันปลดนั่นไว้ ข้าจะจัดการเจ้าสารเลวนั่นแล้วไปช่วยเจ้า!”เมื่อเจ้าห้าพูดจบ ก็ใช้วิชาตัวเบาพุ่งเข้าใส่ชิวก่วนเมื่อเห็นเช่นนั้น ชิวก่วนก็หนังตากระตุกอย่างอดมิได้ รีบง้างธนูใส่ศรเตรียมยิงแต่ฉินซูกลับกล่าวว่า “อีกฝ่ายเป็นยอดฝีมือ หากมันตั้งรับ ลูกธนูของเจ้าก็ทำกระไรมันมิได้ จงหลบไปอยู่ห่าง ๆ”ขณะพูด ฉินซูก็กระโดดตัวลอยพุ่งเข้าหาเจ้าห้าทันทีเมื่อ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status