Share

บทที่ 357

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
“ในเมืองหลงเฉิงแห่งนี้พวกเขาคงมิกล้า ทว่าหากองค์จักรพรรดิทรงส่งท่านไปตรวจสอบพื้นที่ภัยพิบัติเล่าเพคะ?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซี่ยหลานก็รู้สึกกังวล “องค์รัชทายาท หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ท่านก็จะตกอยู่ในอันตรายนะเพคะ มิเช่นนั้น วันพรุ่งหากองค์จักรพรรดิทรงส่งท่านไป ก็ทรงหาข้ออ้างหลบเลี่ยงเถิดเพคะ”

ฉินซูพูดด้วยความโกรธ “หากเสด็จพ่อประสงค์ให้ข้าไปจริง ๆ ข้าจะปฏิเสธได้อย่างไร นอกจากนี้ หากข้ามิไป นั่นก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้ฉินเซียวได้กลับมาผงาดน่ะสิ!”

เซี่ยหลานพูดอย่างกังวล “แต่หากทางหอดารารักษ์ส่งยอดฝีมือไปสกัดกั้นและสังหารท่านระหว่างทาง ท่านจะมิตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายหรอกหรือเพคะ?”

“มิเป็นไร ข้าโชคดีมาโดยตลอด และข้าก็มีชูโม่คอยปกป้อง ไม่มีปัญหาใหญ่อะไรเกิดขึ้นกับข้าหรอก”

ฉงชูโม่ถอนหายใจเบา ๆ และพูดว่า “ช่างเถิดเพคะ ถึงตอนนั้นพวกเราแค่ระมัดระวังกันให้มากขึ้นก็พอ”

“เอาเถอะ นี่ก็ดึกแล้ว พวกเจ้ารีบไปพักผ่อนได้แล้ว”

“เพคะ เช่นนั้นท่านก็ทรงพักผ่อนเถิดเพคะ”

หลังจากที่ฉงชูโม่พูดจบ นางก็ดึงเซี่ยหลานเดินจากไป

ฉินซูส่งสายตาให้เซี่ยหลานอย่างมิแสดงอารมณ์ใด

เซี่ยหลานลังเล แต่สุดท้ายก็แอบพยักหน้า
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 358

    วันรุ่งขึ้นภายในพระตำหนักจินหลวนเมื่อเห็นฉินเซียวยืนนิ่ง ทุกคนก็เริ่มกระซิบกระซาบกัน“นี่ ๆ ฝู่กั๋วกงมาที่นี่ได้อย่างไรกัน?”“นั่นสิ ตามหลักแล้ว ฝู่กั๋วกงไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมงานปกครองของทางราชสำนักนี่”“เฮ้อ ยังต้องถามอีกหรือ แน่นอนว่าองค์จักรพรรดิทรงมีพระราชโองการไว้ล่วงหน้าแล้ว มิเช่นนั้นฝู่กั๋วกงจะกล้าฝ่าฝืนเช่นนี้ได้อย่างไร”“ก็ถือว่าถูก ดูเหมือนความมุ่งมั่นขององค์จักรพรรดิที่ทรงคิดจะฟื้นฟูสถานะของจวิ้นอ๋องนั้นจะชัดเจนแจ่มแจ้งมากทีเดียว”“...”เมื่อได้ยินเสียงซุบซิบที่อยู่รอบตัว ฉินเซียวก็ยืนตัวตรงและมิเปลี่ยนสีหน้าแต่อย่างใดขณะนั้นเองฉินซูก็ได้เข้ามาขุนนางระดับสูงทุกคนต่างทักทายฉินซูฉินเซียวเดินมาหาฉินซูพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า พลางยกมือขึ้นประสานคารวะเล็กน้อยแล้วพูดอย่างจองหอง “องค์รัชทายาท ท่านคงคาดมิถึงใช่หรือไม่ ที่คราวนี้เสด็จพ่อทรงมีพระราชโองการพิเศษให้กระหม่อมมาเข้าร่วมประชุมราชสำนักช่วงเช้า!”“ก็น่าประหลาดใจจริง ๆ นั่นแหละ ว่าแต่ เจ้ามีอะไรให้ภูมิใจนักรึ?”“ฮ่า ๆ กระหม่อมก็แค่ตื้นตันใจในความไว้วางพระทัยของเสด็จพ่อ ไม่มีอะไรน่าภาคภูมิใจหรอก เมื่อถึงค

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 359

    ฉินเหยี่ยนออกมายืนและพูดว่า “เป็นเรื่องจริงพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินอู๋ต้าวโกรธจัดและตำหนิว่า “บังอาจ! ที่นี่พระตำหนักจินหลวน แต่เจ้ากลับทำร้ายผู้อื่น ซ้ำคนที่เจ้าทำร้ายก็เป็นพี่ของเจ้า เจ้าเห็นข้าอยู่ในสายตาบ้างหรือไม่ เคารพบ้างหรือไม่!”“เสด็จพ่อ พระองค์ทรงต้องการให้ลูกพูดเรื่องสกปรกที่ฉินเซียวทำจริง ๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ?”เมื่อได้ยินคำพูดของฉินเหยี่ยน ดวงตาของฉินอู๋ต้าวก็วูบไหวเล็กน้อย จากนั้นเขาก็รีบโบกมือและพูดอย่างจริงจัง “เรื่องนั้นก็ให้มันจบที่ตรงนี้ อย่าให้มีครั้งต่อไปอีก!”ฉินเหยี่ยนประสานมือขึ้นคารวะเล็กน้อยพลางถอยออกไปก่อนที่จะลงมือเขารู้อยู่แล้วว่าองค์จักรพรรดิจะทรงเปลี่ยนเรื่องใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องเล็กอย่างแน่นอนเพราะเรื่องที่ฉินเซียวส่งคนไปสังหารชายารองของเขานั้นมีเพียงมิกี่คนในราชสำนักที่รู้เรื่องนี้หากเรื่องนี้แดงขึ้นมา ราชวงศ์ก็จะเสียหน้า เห็นได้ชัดว่านี่มิใช่สิ่งที่จักรพรรดิต้องการเห็นคงต้องบอกว่าเขาได้เดิมพันถูกแล้วเมื่อเห็นฉินอู๋ต้าวจัดการเรื่องเช่นนี้ ฉินเซียวก็รู้สึกมิสบอารมณ์อย่างมากเขาแอบถลึงตาใส่ฉินเหยี่ยน สายตาของเขามีความขุ่นเคืองแวบผ่านเข้ามาครู่หนึ่งฉิน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 360

    ฉินหยางพยักหน้าและพูดว่า “ใช่พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ พระองค์ทรงได้ยินถูกต้องแล้ว ลูกแนะนำองค์รัชทายาทจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”หลังจากพูดจบ เขาก็แอบเหลือบมองฉินหงเจ้าตัวก้าวไปข้างหน้าอย่างเข้าใจและกล่าวด้วยความเคารพว่า “เสด็จพ่อ ลูกคิดว่าสิ่งที่เสด็จพี่สามพูดนั้นถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาทเป็นว่าที่กษัตริย์ของแผ่นดิน หากเขาสามารถไปตรวจสอบพื้นที่ภัยพิบัติแทนเสด็จพ่อได้ ราษฎรในพื้นที่ภัยพิบัติจะต้องประทับใจมากเป็นแน่ และความมิพอใจของราษฎรก็ย่อมลดลงไปด้วยพ่ะย่ะค่ะ”เซี่ยเหอพูดเสริม “ฝ่าบาท สิ่งที่องค์ชายทั้งสองพูดนั้นเป็นความจริงอย่างยิ่ง อีกทั้งเมื่อวานองค์รัชทายาทก็ทรงเอาชนะคณะทูตเป่ยเยี่ยนด้วยกำลังของพระองค์เอง ในเวลานี้ ชื่อเสียงขององค์รัชทายาทได้แพร่กระจายไปทั่วต้าเหยียน ราษฎรในพื้นที่ประสบภัยเองย่อมชื่นชมและให้ความเคารพพระองค์เป็นแน่หากองค์รัชทายาทสามารถไปยังพื้นที่ประสบภัยพิบัติได้ แม้จะมีความยากลำบากแต่พระองค์ก็จะกู้หน้าให้กับทางราชวงศ์ได้อย่างแน่นอน และราษฎรทั่วหล้าก็จะสนับสนุนราชวงศ์มากยิ่งขึ้นพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินเหยี่ยนรู้สึกประหลาดใจมากที่เห็นฉินหยางและคนอื่น ๆ ขอความช่วยเหลือจากองค์

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 361

    ฉินซูตอบโดยมิต้องคิด “ทูลเสด็จพ่อ ลูกทำได้พ่ะย่ะค่ะ!”“ดี เช่นนั้นก็ว่ากันตามนี้!”ขณะนั้น ทหารสวมชุดเกราะนายหนึ่งก็เดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“รายงานพ่ะย่ะค่ะ!”นายทหารคุกเข่าลงบนพื้นอย่างกังวลและพูดอย่างร้อนใจ “ฝ่าบาท จู่ ๆ แคว้นหนานเยวี่ยก็ส่งทหารบุกมายังชายแดนทางใต้ของเรา และตอนนี้อยู่ห่างจากเมืองเจียวโจวมิถึงร้อยลี้แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“ว่ากระไรนะ! หนานเยวี่ยยกทัพมาอีกแล้วรึ?!”สีหน้าของขุนนางทุกคนเปลี่ยนไปทันที!ฉินอู๋ต้าวโกรธเกรี้ยว “หนานเยวี่ยกระจ้อยร่อยนั่นกล้าดีอย่างไรถึงมาบุกรุกเขตแดนของราชวงศ์ต้าเหยียนของข้า ชูโม่!”ฉงชูโม่ออกมายืนพร้อมทำสีหน้าเคร่งขรึม “เพคะ!”“ข้าขอสั่งให้เจ้าไปรวบรวมกองทัพที่ชายแดนทางใต้โดยด่วน หนานเยวี่ยล่วงล้ำพรมแดนเยี่ยงนี้ เจ้าคงรู้ว่าต้องทำอย่างไร!”“ขอฝ่าบาทโปรดวางพระทัย หากหนานเยวี่ยข้ามชายแดนมาแม้แต่ครึ่งก้าว ข้าน้อยจะทำให้พวกเขาไม่มีวันกลับมาได้อีก! สถานการณ์ทางการทหารเป็นเรื่องเร่งด่วน ข้าน้อยจึงต้องขอทูลลาก่อนเพคะ!”ฉินอู๋ต้าวพยักหน้าเบา ๆ “ไปเถิด ขอฝากเรื่องชายแดนทางใต้ไว้กับเจ้าด้วย!”ฉงชูโม่ประสานมือขึ้นคารวะให้ฉินอู๋ต้าวแล้วหั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 362

    เมื่อเห็นว่าฉงชูโม่ต้องการจะคืนห่อสัมภาระ ฉินซูจึงพูดอย่างจริงจัง “ชูโม่ ข้ามิจำเป็นต้องใช้เกราะพวกนี้หรอก สนามรบมีการเปลี่ยนแปลงมากมายในพริบตา ดังนั้นเจ้านำมันติดตัวไปด้วยเถิด เช่นนั้นข้าถึงจะวางใจขึ้นมาได้บ้าง”ฉงชูโม่ตกตะลึงและโพล่งออกมา “องค์รัชทายาท นี่ท่านเป็นห่วงหม่อมฉันหรือเพคะ?”“เจ้าจะกลับไปทำสงครามที่ชายแดนทางใต้นะ จะมิให้ข้าเป็นกังวลได้อย่างไร? ดังนั้นเพื่อให้ข้ารู้สึกสบายใจ เจ้าต้องนำเกราะพวกนี้ไปยังชายแดนทางใต้ด้วย”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงออกคำสั่งขณะที่ฉงชูโม่กำลังจะปฏิเสธ แต่แล้วนางก็สังเกตเห็นว่านอกจากเกราะป้องกันแล้ว ก็ยังมีลูกกลมที่ทำจากเหล็กขนาดเล็กอีกหลายลูกอยู่ในห่อด้วยและมีสายชนวนติดอยู่ที่ด้านบนของลูกกลม!เมื่อเห็นสิ่งนี้ นางก็ประหลาดใจและพูดว่า “องค์รัชทายาท นี่เป็นดอกไม้ไฟที่ท่านเคยทำมิใช่หรือ? เหตุใดถึงมอบสิ่งนี้ให้หม่อมฉันเล่าเพคะ?”“นี่มิใช่ดอกไม้ไฟหรอก เรียกมันว่าระเบิดมือดีกว่า แม้เจ้าจะมีวรยุทธ์ที่กล้าแกร่งมาก แต่เจ้าจะต้องเผชิญอันตรายท่ามกลางกองทหารนับหมื่นอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ เมื่อถึงเวลานั้น เพียงจุดสิ่งนี้แล้วโยนมันออกไป เจ้าก็จะสามารถพลิกสถา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 363

    “พวกเขาก็รอบคอบใช้ได้ ก็ได้ เช่นนั้นเจ้าไปรอข้าที่ประตูทิศเหนือ ข้าจะกลับไปเอาของที่ตำหนักบูรพาเสียหน่อย เรียบร้อยแล้วข้าจะไปที่นั่น”กู้เสวี่ยเจี้ยนพยักหน้าเบา ๆ จากนั้นก็หันหลังจากไปส่วนฉินซูก็ควบม้ากลับไปยังตำหนักบูรพาเมื่อได้รู้ว่าฉินซูกำลังจะไปที่เมืองเป่ยเหลียงเพื่อตรวจสอบพื้นที่ภัยพิบัติ ใบหน้าของหลินชิงเหยาและเซี่ยหลานก็เต็มไปด้วยความกังวลพวกนางทั้งสองต่างพูดพร้อมกัน “องค์รัชทายาท หม่อมฉันก็อยากไปด้วยเพคะ!”ทันทีที่พูดจบ หลินชิงเหยาก็ถามด้วยความประหลาดใจ “เซี่ยหลาน เจ้าจะตามไปทำอะไร?”เซี่ยหลานอธิบายด้วยใบหน้าสงบนิ่ง “เจ้าถามได้น่าขันแล้ว ข้าเป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาท เป็นเรื่องปกติที่ข้าต้องติดตามพระองค์ไป นอกจากนี้ ข้าก็พอจะมีวรยุทธ์อยู่บ้าง อย่างน้อยก็สามารถปกป้ององค์รัชทายาทได้บ้าง”แต่เจ้านี่สิ ไม่มีวรยุทธ์ ซ้ำยังหาได้มีตำแหน่งขุนนางไม่ เจ้าจะตามไปทำอะไรมิทราบ?”“ข้า…”หลินชิงเหยาพูดมิออกและไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากก้มหน้าลงขณะนั้น ตงฟางไป๋ก็เดินเข้ามา “องค์รัชทายาท มีคนมาจากพระราชวังพ่ะย่ะค่ะ พวกเขาบอกว่า ฝ่าบาททรงมีเรื่องสำคัญที่ต้องเรียกตัวท่านใต้เท้าเซี่ยเข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 364

    หลังจากนั้นมินาน เซี่ยหลานที่ตกใจก็ตั้งสติได้ขึ้นมานางถามอย่างลังเล “ฝ่าบาท จำเป็นต้องทำเช่นนี้หรือเพคะ? มิเช่นนั้น…”ก่อนที่นางจะพูดจบ ฉินอู๋ต้าวก็โบกมือและพูดขัด“เจ้าเพียงแค่ต้องทำตามคำสั่งของข้า นอกจากนี้ ข้าอยากจะเตือนเจ้าสักหน่อย เจ้าคือสายลับที่ข้าส่งไปอยู่ข้างกายองค์รัชทายาท เจ้าต้องคำนึงถึงภารกิจของเจ้าอยู่เสมอ เข้าใจหรือไม่?”เซี่ยหลานลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบเสียงเบา “ข้าน้อยเข้าใจแล้วเพคะ”“เอาเถอะ ไปได้แล้ว ข้าจะรอข่าวดีจากเจ้า”“ข้าน้อยขอทูลลาเพคะ”เซี่ยหลานทำความเคารพและหันหลังจากไปฉินอู๋ต้าวชำเลืองมองเฉาฉุนและพูดเสียงเรียบ “เซี่ยหลานเชื่อถือมิได้ เจ้าส่งคนไปแฝงตัวปะปนอยู่ในคณะเดินทางเสีย ระหว่างนั้นก็ให้จัดการตามสถานการณ์” เฉาฉุนรับคำสั่งด้วยความเคารพ “กระหม่อมรับพระราชบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”……ตำหนักบูรพาฉินซูกล่าวลากับหลินชิงเหยาก่อนที่จะออกมาแต่ทันทีที่ออกมานอกประตู ก็เห็นว่าหวังฉือและเนี่ยหงกำลังรออยู่เขาถามด้วยความประหลาดใจ “ใต้เท้าหวัง ใต้เท้าเนี่ย นี่พวกท่าน…”หวังฉือและเนี่ยหงทำความเคารพก่อนจะพูดว่า “ข้าน้อยรู้ว่าวันนี้องค์รัชทายาทจะเสด็จไปยังเมือ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 365

    ฉินซูหรี่ตาลงเล็กน้อยและถามด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “เหตุใดเล่า กู้เสวี่ยเจี้ยน เจ้ามีความคิดเห็นอะไรรึ?”“ท่านเป็นถึงองค์รัชทายาท หม่อมฉันจะกล้าออกความคิดเห็นได้อย่างไรกันเพคะ พวกเราไปยังเป่ยเหลียงในครั้งนี้ก็เพื่อบรรเทาภัยพิบัติ อีกทั้งต้องนำเงินห้าแสนตำลึงไปส่งด้วย ดังนั้นจึงเพียงแค่อยากเตือนให้ท่านระมัดระวังมากขึ้นเท่านั้นเองเพคะ”“ข้าก็มีเจ้าอยู่อย่างไรเล่า เจ้าเป็นลูกศิษย์สายตรงของเจ้าสำนักหอดูดาวหลวง แม้จะมีหัวขโมยบางคนที่โลภอยากได้เงิน พวกเขาก็จะต้องชั่งน้ำหนักคิดให้ดีก่อนจะลงมือ”กู้เสวี่ยเจี้ยนพูดเสียงเรียบ “ท่านอาจต้องผิดหวังเสียแล้ว ว่ากันว่าความโลภจะนำมนุษย์ไปสู่หายนะ เงินห้าแสนตำลึงนั่นก็เพียงพอที่จะทำให้บางคนยอมเสี่ยงเพคะ”ฉินซูยักไหล่และมิออกความเห็นขณะนั้น บุรุษวัยกลางคนที่สวมชุดขุนนางสีแดงผู้หนึ่งก็เดินเข้ามาเขาคารวะฉินซูอย่างอ่อนน้อมและกล่าวด้วยความเคารพ “กระหม่อมเสนาบดีกรมพระคลัง ถานเหวย ขอคารวะองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูมองไปที่อีกฝ่ายแล้วถามว่า “ตรวจสอบเงินช่วยบรรเทาภัยพิบัติทั้งหมดแล้วหรือยัง?”“ทูลองค์รัชทายาท ตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้วพ่ะย่ะค่ะ นี่คือหนังสือที่เกี

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 707

    ฉงชูโม่พยักหน้าหนักแน่น “ถูกต้องแล้วเพคะ เรื่องนี้มิใช่แค่ข้าน้อยคนเดียวที่เห็นกับตา ทหารทั้งสามทัพหลายนายก็เห็นเช่นกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของฉินอู๋ต้าวก็มิสู้ดีขึ้นมาทันตาอดีตองค์รัชทายาทสำมะเลเทเมาบัดนี้กลับสร้างคุณงามความดีครั้งยิ่งใหญ่ อีกทั้งวรยุทธ์ก็ยังลึกล้ำเกินหยั่งถึง นี่มัน… เกินความคาดหมายของเขาไปมาก!ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาคิดว่าเบื้องหลังฉินซูต้องมียอดฝีมือคอยชี้แนะแต่จากที่เห็นในเวลานี้ ยอดฝีมือที่ว่านั้น แท้จริงแล้วก็คือฉินซูเองกล่าวคือ ฉินซูมิเพียงแต่มีกลยุทธ์ที่เหนือชั้น แต่วรยุทธ์ก็ยังก้าวเข้าสู่ระดับที่น่าตกตะลึงซ้ำร้ายฉินซูยังจงใจปิดบังวรยุทธ์ของตนอีกด้วย!เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ความระแวงที่ฉินอู๋ต้าวมีต่อฉินซูก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเห็นฉินอู๋ต้าวนิ่งอึ้งไป ฉงชูโม่ก็กล่าวต่ออย่างมีนัยแฝงว่า “ฝ่าบาท ข่าวลือเรื่ององค์รัชทายาททรงทักษะยอดเยี่ยม เกรงว่าอีกมินานคงจะแพร่สะพัดไปทั่วหลงเฉิงเพคะแต่ก็ดีเหมือนกันเพคะ เหล่าคนชั่วที่คิดจะลอบสังหารองค์รัชทายาทจะได้ประมาณตนก่อนจะลงมือ เช่นนี้แล้ว ก็จะได้มิต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยขององค์รัชทายาทให้มา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 706

    สวี่จิ้นเสนาบดีกรมโยธาธิการกล่าวว่า “องค์รัชทายาท พระองค์ได้นำหนานเยวี่ยทั้งเจ็ดมณฑลสามสิบแปดเมืองมาอยู่ภายใต้ต้าเหยียนของเรา คุณูปการอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ สมควรได้รับการประทานเครื่องยศเก้าประการแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูส่ายหน้าเล็กน้อย “ใต้เท้าสวี่ ท่านกล่าวผิดแล้ว มีคำกล่าวว่า ใต้หล้าไพศาลล้วนเป็นแผ่นดินขององค์จักรพรรดิ บนแผ่นดินนี้ล้วนเป็นข้ารองพระบาทขององค์จักรพรรดิ ข้าในฐานะองค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน ย่อมถือเอาความผาสุกของราษฎรเป็นภารกิจของตน ทุกสิ่งที่ทำล้วนเป็นหน้าที่”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉินซูก็ประสานมือคำนับฉินอู๋ต้าวอีกครั้ง “เสด็จพ่อ ดังนั้นรางวัลอันยิ่งใหญ่อย่างเครื่องยศเก้าประการนี้ลูกมิกล้ารับไว้จริง ๆ หวังว่าเสด็จพ่อจะทรงเข้าพระทัยพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหล่าขุนนางระดับสูงก็อุทานด้วยความประหลาดใจอีกครั้งรางวัลอันยิ่งใหญ่เช่นเครื่องยศเก้าประการนี้ องค์รัชทายาทกลับปฏิเสธจริง ๆ หรือ?ต้องเท้าความว่า หากฉินซูในฐานะเป็นองค์รัชทายาทรับรางวัลนี้ ในภายภาคหน้า สถานะความสำคัญของเขาในสายตาของขุนนางและราษฎรแห่งต้าเหยียนก็แทบจะเทียบเท่ากับฉินอู๋ต้าวผู้เป็นองค์จักรพรรดิได้เลยทีเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 705

    ฉงชูโม่กำลังจะกล่าวต่อ แต่กลับสังเกตเห็นว่าฉินซูกำลังส่ายหน้าให้นางเล็กน้อยเมื่อเห็นดังนั้น คิ้วเรียวก็ขมวดเล็กน้อยด้วยความสงสัยจากนั้นเสียงของฉินซูก็ดังขึ้นในหูของนาง “สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว หลักฐานสำคัญหายไป”ฉินซูใช้วิชาแห่งกระแสจิต ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตได้นอกจากฉงชูโม่เมื่อได้ยินถ้อยคำของฉินซู แววตาของฉงชูโม่ก็พลันไหววูบ จากนั้นจึงกล่าวกับฉินอู๋ต้าวว่า “ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยไม่มีสิ่งใดจะกล่าวทูลแล้วเพคะ”เมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินอู๋ต้าวก็มองฉงชูโม่ด้วยความสงสัยผาดหนึ่งแล้วหันไปมองฉินซูแทน“องค์รัชทายาท รายงานเรื่องคลังหลวงของหนานเยวี่ยหน่อยซิ”“ลูกน้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินซูประสานมือแล้วพูดต่อ “ทูลเสด็จพ่อ ในการตรวจค้นคลังหลวงของหนานเยวี่ยครั้งนี้ ลูกพบผ้าไหมแพรพรรณสูงค่ามากมายนับมิถ้วน เงินแท้รวมทั้งสิ้นสิบสามล้านกว่าตำลึง ทองคำสองล้านตำลึง เสบียงอาหารก็มีมากถึงเกือบแสนต้านพ่ะย่ะค่ะ”“ลูกได้จัดสรรเงินจำนวนหนึ่งล้านตำลึงจากทั้งหมดในพระนามของเสด็จพ่อ เพื่อใช้เป็นรางวัลแก่ทหารทั้งสามทัพ ส่วนพืชพรรณธัญหารก็ได้สั่งให้คนนำกลับไปเก็บไว้ที่เจียวโจวแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ยังมีอีกเรื่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 704

    ฉินอู๋ต้าวผงกศีรษะให้ฉินอวี่เล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “อ๋องฉู่ ในเมื่อชูโม่เข้าใจตัวเจ้าผิดไป เจ้าก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้งเถิด”“ลูกรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินอวี่ประสานมือคำนับ แล้วกล่าวช้า ๆ ว่า “ชูโม่ ตอนที่ลงใต้ไปยังเจียวโจว ยามนั้นข้าประมาทเลินเล่อ ถูกคนสนิทขโมยตราประจำตัวไป ภายหลังจึงได้ทราบว่าเจ้าคนสารเลวนั่นถูกเติ้งหม่างซื้อตัวไปนานแล้วแม้แต่หูก่วงเซิงและคนอื่น ๆ ก็ยังแปรพักตร์ไปเข้าข้างหนานเยวี่ย กว่าข้าจะรู้ตัวทัพหนานเยวี่ยก็บุกเข้าประตูเมืองเจียวโจวแล้วด้วยความจำเป็น ข้าจึงต้องถอยกลับมาก่อน จากนั้นก็เดินทางทั้งวันทั้งคืน เมื่อกลับมาถึงหลงเฉิงก็รีบทูลเรื่องนี้ให้เสด็จพ่อทรงทราบในทันที”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็แค่นยิ้มหยันทันที “ท่านอ๋องฉู่ ท่านทรงคิดว่าแค่โยนความผิดทั้งหมดไปให้คนสนิทขอท่านแล้วเรื่องก็จะจบลงง่าย ๆ เช่นนั้นหรือ?”ฉินอวี่โต้กลับว่า “สิ่งที่ตัวข้าพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง จะเรียกว่าโยนความผิดได้อย่างไร?”ฉงชูโม่มิได้โต้เถียงกับเขาต่อ แต่หันไปกล่าวกับฉินอู๋ต้าวว่า “ฝ่าบาท ที่ทะเลตงไห่ ท่านอ๋องฉู่...”ยังมิทันที่นางจะพูดจบ ขันทีน้อยคนหนึ่งก็วิ่งเข้าม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status