แชร์

บทที่ 356

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-30 18:00:01
ฉินหยางพยักหน้า “ถูกต้อง ตอนนี้ความมิพอใจของราษฎรในพื้นที่ภัยพิบัติได้ขยายเป็นวงกว้าง และการเดินทางในครั้งนี้จะเต็มไปด้วยอันตราย จึงมิใช่เรื่องง่ายที่องค์รัชทายาทจะกลับมาอย่างปลอดภัย!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ท่าทางของฉินหงและคนอื่น ๆ ก็เปลี่ยนไป!

“เสด็จพี่สามต้องการยืมมือราษฎรที่ประสบภัยเพื่อทำให้องค์รัชทายาท…”

ฉินหงพูดพร้อมกับทำท่าทางเชือดคอตัวเอง

ฉินหยางเผยรอยยิ้มชั่วร้ายและพยักหน้าช้า ๆ

หลินซีขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ท่านอ๋องซิ่น ความคิดนี้ช่างดีเสียจริง เพียงแต่ก่อนหน้านี้อ๋องจิ้นได้ส่งยอดฝีมือจากยุทธภพไปลอบสังหารองค์รัชทายาท ทว่าก็คว้าน้ำเหลวกลับมา ยามนี้อาศัยเพียงราษฎรที่ประสบภัยเหล่านั้น แล้วจะทำสำเร็จได้อย่างไรกัน?”

“คำพูดของใต้เท้าหลินมีเหตุผล เกรงว่าการลอบสังหารอาจมิสำเร็จ อีกทั้งอาจทำให้องค์รัชทายาทได้หน้าไปมิน้อย หากเป็นเช่นนั้น พวกเราก็จะสูญเสียทั้งขึ้นทั้งล่อง”

ฉินหยางพูดอย่างมั่นใจ “ที่ฉินเหยี่ยนพลาดครั้งที่แล้วเป็นเพราะชูโม่อยู่ข้างกายองค์รัชทายาท แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากครั้งนี้นางมิสามารถติดตามเขาไปได้?”

“หากเป็นเช่นนั้นจริง ข้าน้อยก็คิดว่ามันเป็นไปได้พ่ะย่ะค่ะ!”

เซี่ยเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 357

    “ในเมืองหลงเฉิงแห่งนี้พวกเขาคงมิกล้า ทว่าหากองค์จักรพรรดิทรงส่งท่านไปตรวจสอบพื้นที่ภัยพิบัติเล่าเพคะ?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซี่ยหลานก็รู้สึกกังวล “องค์รัชทายาท หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ท่านก็จะตกอยู่ในอันตรายนะเพคะ มิเช่นนั้น วันพรุ่งหากองค์จักรพรรดิทรงส่งท่านไป ก็ทรงหาข้ออ้างหลบเลี่ยงเถิดเพคะ”ฉินซูพูดด้วยความโกรธ “หากเสด็จพ่อประสงค์ให้ข้าไปจริง ๆ ข้าจะปฏิเสธได้อย่างไร นอกจากนี้ หากข้ามิไป นั่นก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้ฉินเซียวได้กลับมาผงาดน่ะสิ!”เซี่ยหลานพูดอย่างกังวล “แต่หากทางหอดารารักษ์ส่งยอดฝีมือไปสกัดกั้นและสังหารท่านระหว่างทาง ท่านจะมิตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายหรอกหรือเพคะ?”“มิเป็นไร ข้าโชคดีมาโดยตลอด และข้าก็มีชูโม่คอยปกป้อง ไม่มีปัญหาใหญ่อะไรเกิดขึ้นกับข้าหรอก”ฉงชูโม่ถอนหายใจเบา ๆ และพูดว่า “ช่างเถิดเพคะ ถึงตอนนั้นพวกเราแค่ระมัดระวังกันให้มากขึ้นก็พอ”“เอาเถอะ นี่ก็ดึกแล้ว พวกเจ้ารีบไปพักผ่อนได้แล้ว”“เพคะ เช่นนั้นท่านก็ทรงพักผ่อนเถิดเพคะ”หลังจากที่ฉงชูโม่พูดจบ นางก็ดึงเซี่ยหลานเดินจากไปฉินซูส่งสายตาให้เซี่ยหลานอย่างมิแสดงอารมณ์ใดเซี่ยหลานลังเล แต่สุดท้ายก็แอบพยักหน้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 358

    วันรุ่งขึ้นภายในพระตำหนักจินหลวนเมื่อเห็นฉินเซียวยืนนิ่ง ทุกคนก็เริ่มกระซิบกระซาบกัน“นี่ ๆ ฝู่กั๋วกงมาที่นี่ได้อย่างไรกัน?”“นั่นสิ ตามหลักแล้ว ฝู่กั๋วกงไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมงานปกครองของทางราชสำนักนี่”“เฮ้อ ยังต้องถามอีกหรือ แน่นอนว่าองค์จักรพรรดิทรงมีพระราชโองการไว้ล่วงหน้าแล้ว มิเช่นนั้นฝู่กั๋วกงจะกล้าฝ่าฝืนเช่นนี้ได้อย่างไร”“ก็ถือว่าถูก ดูเหมือนความมุ่งมั่นขององค์จักรพรรดิที่ทรงคิดจะฟื้นฟูสถานะของจวิ้นอ๋องนั้นจะชัดเจนแจ่มแจ้งมากทีเดียว”“...”เมื่อได้ยินเสียงซุบซิบที่อยู่รอบตัว ฉินเซียวก็ยืนตัวตรงและมิเปลี่ยนสีหน้าแต่อย่างใดขณะนั้นเองฉินซูก็ได้เข้ามาขุนนางระดับสูงทุกคนต่างทักทายฉินซูฉินเซียวเดินมาหาฉินซูพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า พลางยกมือขึ้นประสานคารวะเล็กน้อยแล้วพูดอย่างจองหอง “องค์รัชทายาท ท่านคงคาดมิถึงใช่หรือไม่ ที่คราวนี้เสด็จพ่อทรงมีพระราชโองการพิเศษให้กระหม่อมมาเข้าร่วมประชุมราชสำนักช่วงเช้า!”“ก็น่าประหลาดใจจริง ๆ นั่นแหละ ว่าแต่ เจ้ามีอะไรให้ภูมิใจนักรึ?”“ฮ่า ๆ กระหม่อมก็แค่ตื้นตันใจในความไว้วางพระทัยของเสด็จพ่อ ไม่มีอะไรน่าภาคภูมิใจหรอก เมื่อถึงค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 359

    ฉินเหยี่ยนออกมายืนและพูดว่า “เป็นเรื่องจริงพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินอู๋ต้าวโกรธจัดและตำหนิว่า “บังอาจ! ที่นี่พระตำหนักจินหลวน แต่เจ้ากลับทำร้ายผู้อื่น ซ้ำคนที่เจ้าทำร้ายก็เป็นพี่ของเจ้า เจ้าเห็นข้าอยู่ในสายตาบ้างหรือไม่ เคารพบ้างหรือไม่!”“เสด็จพ่อ พระองค์ทรงต้องการให้ลูกพูดเรื่องสกปรกที่ฉินเซียวทำจริง ๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ?”เมื่อได้ยินคำพูดของฉินเหยี่ยน ดวงตาของฉินอู๋ต้าวก็วูบไหวเล็กน้อย จากนั้นเขาก็รีบโบกมือและพูดอย่างจริงจัง “เรื่องนั้นก็ให้มันจบที่ตรงนี้ อย่าให้มีครั้งต่อไปอีก!”ฉินเหยี่ยนประสานมือขึ้นคารวะเล็กน้อยพลางถอยออกไปก่อนที่จะลงมือเขารู้อยู่แล้วว่าองค์จักรพรรดิจะทรงเปลี่ยนเรื่องใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องเล็กอย่างแน่นอนเพราะเรื่องที่ฉินเซียวส่งคนไปสังหารชายารองของเขานั้นมีเพียงมิกี่คนในราชสำนักที่รู้เรื่องนี้หากเรื่องนี้แดงขึ้นมา ราชวงศ์ก็จะเสียหน้า เห็นได้ชัดว่านี่มิใช่สิ่งที่จักรพรรดิต้องการเห็นคงต้องบอกว่าเขาได้เดิมพันถูกแล้วเมื่อเห็นฉินอู๋ต้าวจัดการเรื่องเช่นนี้ ฉินเซียวก็รู้สึกมิสบอารมณ์อย่างมากเขาแอบถลึงตาใส่ฉินเหยี่ยน สายตาของเขามีความขุ่นเคืองแวบผ่านเข้ามาครู่หนึ่งฉิน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 360

    ฉินหยางพยักหน้าและพูดว่า “ใช่พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ พระองค์ทรงได้ยินถูกต้องแล้ว ลูกแนะนำองค์รัชทายาทจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”หลังจากพูดจบ เขาก็แอบเหลือบมองฉินหงเจ้าตัวก้าวไปข้างหน้าอย่างเข้าใจและกล่าวด้วยความเคารพว่า “เสด็จพ่อ ลูกคิดว่าสิ่งที่เสด็จพี่สามพูดนั้นถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาทเป็นว่าที่กษัตริย์ของแผ่นดิน หากเขาสามารถไปตรวจสอบพื้นที่ภัยพิบัติแทนเสด็จพ่อได้ ราษฎรในพื้นที่ภัยพิบัติจะต้องประทับใจมากเป็นแน่ และความมิพอใจของราษฎรก็ย่อมลดลงไปด้วยพ่ะย่ะค่ะ”เซี่ยเหอพูดเสริม “ฝ่าบาท สิ่งที่องค์ชายทั้งสองพูดนั้นเป็นความจริงอย่างยิ่ง อีกทั้งเมื่อวานองค์รัชทายาทก็ทรงเอาชนะคณะทูตเป่ยเยี่ยนด้วยกำลังของพระองค์เอง ในเวลานี้ ชื่อเสียงขององค์รัชทายาทได้แพร่กระจายไปทั่วต้าเหยียน ราษฎรในพื้นที่ประสบภัยเองย่อมชื่นชมและให้ความเคารพพระองค์เป็นแน่หากองค์รัชทายาทสามารถไปยังพื้นที่ประสบภัยพิบัติได้ แม้จะมีความยากลำบากแต่พระองค์ก็จะกู้หน้าให้กับทางราชวงศ์ได้อย่างแน่นอน และราษฎรทั่วหล้าก็จะสนับสนุนราชวงศ์มากยิ่งขึ้นพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินเหยี่ยนรู้สึกประหลาดใจมากที่เห็นฉินหยางและคนอื่น ๆ ขอความช่วยเหลือจากองค์

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 361

    ฉินซูตอบโดยมิต้องคิด “ทูลเสด็จพ่อ ลูกทำได้พ่ะย่ะค่ะ!”“ดี เช่นนั้นก็ว่ากันตามนี้!”ขณะนั้น ทหารสวมชุดเกราะนายหนึ่งก็เดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“รายงานพ่ะย่ะค่ะ!”นายทหารคุกเข่าลงบนพื้นอย่างกังวลและพูดอย่างร้อนใจ “ฝ่าบาท จู่ ๆ แคว้นหนานเยวี่ยก็ส่งทหารบุกมายังชายแดนทางใต้ของเรา และตอนนี้อยู่ห่างจากเมืองเจียวโจวมิถึงร้อยลี้แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“ว่ากระไรนะ! หนานเยวี่ยยกทัพมาอีกแล้วรึ?!”สีหน้าของขุนนางทุกคนเปลี่ยนไปทันที!ฉินอู๋ต้าวโกรธเกรี้ยว “หนานเยวี่ยกระจ้อยร่อยนั่นกล้าดีอย่างไรถึงมาบุกรุกเขตแดนของราชวงศ์ต้าเหยียนของข้า ชูโม่!”ฉงชูโม่ออกมายืนพร้อมทำสีหน้าเคร่งขรึม “เพคะ!”“ข้าขอสั่งให้เจ้าไปรวบรวมกองทัพที่ชายแดนทางใต้โดยด่วน หนานเยวี่ยล่วงล้ำพรมแดนเยี่ยงนี้ เจ้าคงรู้ว่าต้องทำอย่างไร!”“ขอฝ่าบาทโปรดวางพระทัย หากหนานเยวี่ยข้ามชายแดนมาแม้แต่ครึ่งก้าว ข้าน้อยจะทำให้พวกเขาไม่มีวันกลับมาได้อีก! สถานการณ์ทางการทหารเป็นเรื่องเร่งด่วน ข้าน้อยจึงต้องขอทูลลาก่อนเพคะ!”ฉินอู๋ต้าวพยักหน้าเบา ๆ “ไปเถิด ขอฝากเรื่องชายแดนทางใต้ไว้กับเจ้าด้วย!”ฉงชูโม่ประสานมือขึ้นคารวะให้ฉินอู๋ต้าวแล้วหั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 362

    เมื่อเห็นว่าฉงชูโม่ต้องการจะคืนห่อสัมภาระ ฉินซูจึงพูดอย่างจริงจัง “ชูโม่ ข้ามิจำเป็นต้องใช้เกราะพวกนี้หรอก สนามรบมีการเปลี่ยนแปลงมากมายในพริบตา ดังนั้นเจ้านำมันติดตัวไปด้วยเถิด เช่นนั้นข้าถึงจะวางใจขึ้นมาได้บ้าง”ฉงชูโม่ตกตะลึงและโพล่งออกมา “องค์รัชทายาท นี่ท่านเป็นห่วงหม่อมฉันหรือเพคะ?”“เจ้าจะกลับไปทำสงครามที่ชายแดนทางใต้นะ จะมิให้ข้าเป็นกังวลได้อย่างไร? ดังนั้นเพื่อให้ข้ารู้สึกสบายใจ เจ้าต้องนำเกราะพวกนี้ไปยังชายแดนทางใต้ด้วย”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงออกคำสั่งขณะที่ฉงชูโม่กำลังจะปฏิเสธ แต่แล้วนางก็สังเกตเห็นว่านอกจากเกราะป้องกันแล้ว ก็ยังมีลูกกลมที่ทำจากเหล็กขนาดเล็กอีกหลายลูกอยู่ในห่อด้วยและมีสายชนวนติดอยู่ที่ด้านบนของลูกกลม!เมื่อเห็นสิ่งนี้ นางก็ประหลาดใจและพูดว่า “องค์รัชทายาท นี่เป็นดอกไม้ไฟที่ท่านเคยทำมิใช่หรือ? เหตุใดถึงมอบสิ่งนี้ให้หม่อมฉันเล่าเพคะ?”“นี่มิใช่ดอกไม้ไฟหรอก เรียกมันว่าระเบิดมือดีกว่า แม้เจ้าจะมีวรยุทธ์ที่กล้าแกร่งมาก แต่เจ้าจะต้องเผชิญอันตรายท่ามกลางกองทหารนับหมื่นอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ เมื่อถึงเวลานั้น เพียงจุดสิ่งนี้แล้วโยนมันออกไป เจ้าก็จะสามารถพลิกสถา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 363

    “พวกเขาก็รอบคอบใช้ได้ ก็ได้ เช่นนั้นเจ้าไปรอข้าที่ประตูทิศเหนือ ข้าจะกลับไปเอาของที่ตำหนักบูรพาเสียหน่อย เรียบร้อยแล้วข้าจะไปที่นั่น”กู้เสวี่ยเจี้ยนพยักหน้าเบา ๆ จากนั้นก็หันหลังจากไปส่วนฉินซูก็ควบม้ากลับไปยังตำหนักบูรพาเมื่อได้รู้ว่าฉินซูกำลังจะไปที่เมืองเป่ยเหลียงเพื่อตรวจสอบพื้นที่ภัยพิบัติ ใบหน้าของหลินชิงเหยาและเซี่ยหลานก็เต็มไปด้วยความกังวลพวกนางทั้งสองต่างพูดพร้อมกัน “องค์รัชทายาท หม่อมฉันก็อยากไปด้วยเพคะ!”ทันทีที่พูดจบ หลินชิงเหยาก็ถามด้วยความประหลาดใจ “เซี่ยหลาน เจ้าจะตามไปทำอะไร?”เซี่ยหลานอธิบายด้วยใบหน้าสงบนิ่ง “เจ้าถามได้น่าขันแล้ว ข้าเป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาท เป็นเรื่องปกติที่ข้าต้องติดตามพระองค์ไป นอกจากนี้ ข้าก็พอจะมีวรยุทธ์อยู่บ้าง อย่างน้อยก็สามารถปกป้ององค์รัชทายาทได้บ้าง”แต่เจ้านี่สิ ไม่มีวรยุทธ์ ซ้ำยังหาได้มีตำแหน่งขุนนางไม่ เจ้าจะตามไปทำอะไรมิทราบ?”“ข้า…”หลินชิงเหยาพูดมิออกและไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากก้มหน้าลงขณะนั้น ตงฟางไป๋ก็เดินเข้ามา “องค์รัชทายาท มีคนมาจากพระราชวังพ่ะย่ะค่ะ พวกเขาบอกว่า ฝ่าบาททรงมีเรื่องสำคัญที่ต้องเรียกตัวท่านใต้เท้าเซี่ยเข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 364

    หลังจากนั้นมินาน เซี่ยหลานที่ตกใจก็ตั้งสติได้ขึ้นมานางถามอย่างลังเล “ฝ่าบาท จำเป็นต้องทำเช่นนี้หรือเพคะ? มิเช่นนั้น…”ก่อนที่นางจะพูดจบ ฉินอู๋ต้าวก็โบกมือและพูดขัด“เจ้าเพียงแค่ต้องทำตามคำสั่งของข้า นอกจากนี้ ข้าอยากจะเตือนเจ้าสักหน่อย เจ้าคือสายลับที่ข้าส่งไปอยู่ข้างกายองค์รัชทายาท เจ้าต้องคำนึงถึงภารกิจของเจ้าอยู่เสมอ เข้าใจหรือไม่?”เซี่ยหลานลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบเสียงเบา “ข้าน้อยเข้าใจแล้วเพคะ”“เอาเถอะ ไปได้แล้ว ข้าจะรอข่าวดีจากเจ้า”“ข้าน้อยขอทูลลาเพคะ”เซี่ยหลานทำความเคารพและหันหลังจากไปฉินอู๋ต้าวชำเลืองมองเฉาฉุนและพูดเสียงเรียบ “เซี่ยหลานเชื่อถือมิได้ เจ้าส่งคนไปแฝงตัวปะปนอยู่ในคณะเดินทางเสีย ระหว่างนั้นก็ให้จัดการตามสถานการณ์” เฉาฉุนรับคำสั่งด้วยความเคารพ “กระหม่อมรับพระราชบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”……ตำหนักบูรพาฉินซูกล่าวลากับหลินชิงเหยาก่อนที่จะออกมาแต่ทันทีที่ออกมานอกประตู ก็เห็นว่าหวังฉือและเนี่ยหงกำลังรออยู่เขาถามด้วยความประหลาดใจ “ใต้เท้าหวัง ใต้เท้าเนี่ย นี่พวกท่าน…”หวังฉือและเนี่ยหงทำความเคารพก่อนจะพูดว่า “ข้าน้อยรู้ว่าวันนี้องค์รัชทายาทจะเสด็จไปยังเมือ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 492

    ดวงตาของซือคงเหยียนฉายแววสังหาร จากนั้นเขาก็เริ่มค้นหาภายในป่าแต่หลังจากค้นหาอยู่นานก็มิพบอะไรเลยสีหน้าของเขาหม่นมืดลึกลับ และพึมพำกับตัวเอง“ทั่วทั้งป่ามีเพียงตรงนี้ที่มีเลือดของจื่อชิน แต่ว่าศพของเขาไปอยู่ที่ใดกัน? ต่อให้ถูกพวกปีศาจภูเขากิน ก็เป็นไปมิได้ที่จะหายไปมิเหลือร่องรอย!”ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องน่าประหลาดเกินไปแต่ตอนนี้ที่ยังหาศพของหนานกงจื่อชินมิพบ ซือคงเหยียนจึงทำได้เพียงเก็บความคับแค้นไว้ในใจและเดินออกจากป่าไปในตอนนั้นเอง ที่ถนนหลวงด้านนอก มีพ่อค้าเร่กลุ่มหนึ่งเดินผ่านพอดีชายคนหนึ่งพูดด้วยความดีใจอย่างยิ่ง "พี่เจียง เจ้าได้ยินแล้วหรือยังว่า องค์รัชทายาทแห่งแคว้นต้าเหยียนของเราได้สังหารบุตรแห่งนักปราชญ์หออะไรนั่นของเป่ยเยี่ยนแล้ว!"เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของซือคงเหยียนพลันมืดหม่นลง ร่างของเขาวูบไหวชั่วขณะก่อนปรากฏขึ้นตรงหน้าชายผู้นั้นราวกับภูติผีชายคนนั้นตกใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของซือคงเหยียนจนขาอ่อนและเซล้มลงกับพื้นเมื่อเห็นกลิ่นอายอำมหิตบนใบหน้าของซือคงเหยียน ชายคนนั้นก็ตื่นตกใจจนพูดอะไรแทบมิออก“เจ้า… เจ้าเป็นใคร คิดจะทำ… ทำอะไร?”ซือคงเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 491

    “หวังฉือกับเนี่ยหงไอ้สุนัขสองตัวนั่น กล้าโจมตีพวกเราต่อหน้าเหล่าขุนนางเลยรึ น่าโมโหนัก!”ฉินหงปลอบใจเขา "เสด็จพี่สามใจเย็นก่อน ทั้งตุลาการศาลต้าหลี่และผู้ตรวจการฝ่ายซ้ายไม่มีทางก่อปัญหาใหญ่ได้หรอก เมื่อไหร่ที่รัชทายาทล้มลง พวกเขาก็จะกลายเป็นสุนัขไร้เจ้าของ ไยต้องไปถือสาหาความกับพวกเขาเล่า”“ข้าแค่หงุดหงิดเท่านั้นเอง อีกอย่าง เสด็จพ่อยังสั่งให้หัวหน้าสำนักจับตาดูหอดารารักษ์ แล้วคนจากหอดารารักษ์จะมีโอกาสไปแก้แค้นฉินซูได้อย่างไร?”“ความแข็งแกร่งของหอดารารักษ์มิได้ด้อยไปกว่าสำนักหอดูดาวหลวงเลย เจ้าสำนักคงมิสามารถควบคุมพวกเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จ มิว่าจะอย่างไร เรื่องนี้ต้องทำให้องค์รัชทายาทยุ่งยากแน่นอน พวกเราแค่รอดูผลลัพธ์ก็พอ”ฉินหยางพยักหน้าเล็กน้อยและถามอีกครั้ง "ว่าแต่ มีข่าวคราวจากเรือสินค้าที่มุ่งใต้ไปยังหลิ่งหนานบ้างหรือไม่?"ฉินหงถอนหายใจ “ยังไม่มีเลย แต่ถ้าคำนวณเวลา ตอนนี้เรือลำนั้นน่าจะผ่านเขตเหยี่ยนโจวแล้ว”“หึ พวกโจรสลัดในเหยี่ยนโจวนั่นช่างไร้ประโยชน์เสียจริง ข้าวแปดพันต้านกับเงินหกแสนตำลึง ทั้งหมดนี้เป็นทรัพย์สินมหาศาล แต่พวกมันกลับมิกล้าลงมือ!”“คงมิแน่เสมอไปว่าจะมิกล้าลง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 490

    ฉินอู๋ต้าวยังมิทันได้แสดงท่าที หวังฉือก็โต้แย้งขึ้นมาทันควัน “ข้าน้อยมิเข้าใจคำพูดของอ๋องซิ่น ยามนี้ยังไม่มีหลักฐานที่แสดงว่าเป็นฝีมือขององค์รัชทายาทเลย แล้วเหตุใดท่านจึงต้องให้องค์จักรพรรดิทรงพิจารณาให้รอบคอบด้วยหรือ?”“นั่นสิ เป่ยเยี่ยนเดิมทีก็มีความตั้งใจจะล่วงล้ำพรมแดนของราชวงศ์ต้าเหยียนมาตลอด ยามนี้ยังมิได้มีการระดมทัพเลย แต่ท่านอ๋องซิ่นกลับกลัวแล้ว หากวันหนึ่งเป่นเยี่ยนระดมทัพขึ้นมาจริง ๆ ท่านจะมิสนับสนุนให้องค์จักรพรรดิแบ่งดินแดนให้เลยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฉินหยางถูกหวังฉือและเนี่ยหงโต้กลับจนหน้าซีดในที่สุดบัดนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่า หวังฉือและเนี่ยหง ทั้งสองเป็นขุนนางระดับสองที่กลายเป็นคนของฉินซูไปแล้วเขาเกิดความสงสัย ฉินซูเป็นองค์รัชทายาทผู้รอวันถูกปลด เขามีดีอะไรที่ทำให้ทั้งสองคนนั้นยอมรับเขาเป็นผู้นำ?แต่เมื่อเผชิญกับคำซักถามอย่างเข้มงวดของหวังฉือและเนี่ยหง เขาก็มิอาจอุบเงียบเอาไว้ได้ จึงแค่นเสียงเย็นชา"หึ! ข้าในฐานะจวิ้นอ๋องแห่งราชวงศ์ต้าเหยียน ต่อให้วันข้างหน้าสงครามปะทุขึ้นอีกครั้ง ก็ย่อมไม่มีทางให้เสด็จพ่อยอมสละดินแดนเพื่อขอสันติภาพ เพียงแต่ยามนี้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเร

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 489

    ข่าวที่ว่าฉินซูได้สังหารบุตรแห่งนักปราชญ์ของหอดารารักษ์นั้นแพร่กระจายราวกับไฟป่า ก่อให้เกิดความปั่นป่วนทั้งในและนอกเมืองหลงเฉิงผู้คนต่างพูดถึงเรื่องนี้ทุกมื้อหลังอาหารบางคนยกย่องฉินซูว่าเขาทำให้ต้าเหยียนมีเกียรติบางคนถึงกับแอบส่ายหัว แม้ว่าฉินซูจะเป็นรัชทายาท ทว่าการสังหารบุตรแห่งนักปราชญ์ของหอดารารักษ์โดยไร้เหตุผลนั้นคงมิเป็นที่ยอมรับของราชสำนักเป่ยเยี่ยนและหอดารารักษ์ จากนี้ไปฉินซูองค์รัชทายาทผู้นี้อาจไม่มีวันมีชีวิตที่สงบสุขอีกต่อไปคนที่รู้สึกประหลาดใจที่สุดคงเป็นมู่หรงจื่อเยียนหลังจากที่ได้ยินข่าวนี้ ใจนางก็เกิดความสงสัยว่า คนที่ฆ่าหนานกงจื่อชินคือฉินซูจริง ๆ หรือ?แต่ฉินซูเก่งแค่วิชาตัวเบาเท่านั้น แล้วเขาจะสังหารหนานกงจื่อชินได้อย่างไร?ทว่าเมื่อนึกถึงเมื่อยามหลังจากที่ออกมาจากดินแดนแห่งความฝันนั้น ฉินซูเอาชนะอันธพาลเหล่านั้นได้ในพริบตา นางก็ตระหนักว่าความแข็งแกร่งของฉินซูนั้นมิธรรมดาเมื่อคิดถึงตรงนี้ นางก็รีบสงบสติอารมณ์ และบังคับให้ตัวเองใจเย็นลงหากมู่หรงฟู่รู้ว่าฉินซูมีฝีมือที่เหนือชั้นเช่นนี้ สถานการณ์ของฉินซูคงจะอันตรายอย่างมากต่อมา มู่หรงจื่อเยียนเลือกที่จะ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 488

    ฉินหงมองเนื้อหาในจดหมายเพียงครู่เดียว สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไป!เขากล่าวเสียงทุ้มหนัก "เตรียมเกี้ยว ข้าจะไปจวนอ๋องซิ่น แล้วก็แจ้งให้ใต้เท้าหลินและใต้เท้าเซี่ยมาประชุมที่จวนอ๋องซิ่นด้วย!""พ่ะย่ะค่ะ!"สองเค่อต่อมาฉินหงพร้อมด้วยหลินซีและคนอื่น ๆ ก็มารวมตัวกันที่จวนอ๋องซิ่นฉินหยางถามอย่างสงสัย "น้องสี่ ดึกป่านนี้พวกเจ้ายังมากัน มีข่าวดีอะไรจากทางคูมู่หรือ?""ยังติดต่อคูมู่มิได้ แต่เสด็จพี่สาม พวกท่านลองดูนี่ก่อน"ฉินหงพูดพลางวางจดหมายฉบับนั้นลงบนโต๊ะฉินหยาง หลินซีและคนอื่น ๆ เข้ามาอ่านข้อความบนจดหมายโดยพร้อมเพรียงหลังจากได้อ่านแล้ว เซี่ยเหอก็เอ่ยขึ้นอย่างตกใจ "ว่ากระไรนะ? ฉินซูสังหารศิษย์เอกของหอดารารักษ์?!"ฉินหยางถามด้วยสีหน้าฉงน "น้องสี่ แน่ใจหรือว่าข่าวนี้เป็นความจริง?""น่าจะมิใช่เรื่องเท็จ ศิษย์เอกของหอดารารักษ์มีฐานะสูงส่งในแคว้นเป่ยเยี่ยน ผู้ใดจะกล้าพูดเล่นเกี่ยวกับเรื่องนี้""แต่ศิษย์เอกอย่างหนานกงจื่อชินมีพลังแข็งแกร่งนัก องค์รัชทายาทจะสังหารเขาได้อย่างไร?"หลินซีเองก็กล่าวเสริมขึ้นเช่นกัน "ใช่แล้ว แม้กู้เสวี่ยเจี้ยนแห่งสำนักหอดูดาวหลวงจะติดตามองค์รัชทายาทไปทางเหนือด้วยแต่ด้ว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 487

    นางพูดด้วยเสียงสะอื้นพร้อมถามกลับว่า "เสด็จพี่หมายความว่าอย่างไร? หรือท่านคิดว่าหม่อมฉันเป็นคนฆ่าพี่จื่อชินเช่นนั้นหรือ?"ซือคงเหยียนรีบพูดขึ้น "องค์ชาย ท่านหญิงจื่อเยียนมีใจรักใคร่กับจื่อชิน นางจะทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร? การตายของจื่อชินถือเป็นการกระทบกระเทือนใจอย่างใหญ่หลวงต่อนาง โปรดอย่าได้สงสัยในตัวนางเลยพ่ะย่ะค่ะ"มู่หรงฟู่ครุ่นคิดแล้วเห็นด้วย จากนั้นก็สงบอารมณ์ลงเขาพูดอย่างจริงจัง "จื่อเยียน ข้าหาได้มีเจตนาสงสัยเจ้าไม่ แต่เจ้าต้องบอกความจริงเกี่ยวกับการตายของจื่อชิน มิเช่นนั้นพวกเราจะล้างแค้นให้เขาได้อย่างไร?"“หม่อมฉันมิรู้จริง ๆ เดิมทีพี่จื่อชินได้ขวางเส้นทางของฉินซูไว้ในป่า หม่อมฉันกังวลว่า คนของฉินซูจะรู้เรื่องนี้เข้า จึงขอร้องพี่จื่อชินว่าอย่าทำอะไรวู่วาม สุดท้ายเขาก็ฟาดข้าจนหมดสติไปพอฟื้นขึ้นมาอีกที ก็พบว่าตัวเองอยู่ที่ใต้หน้าผา หม่อมฉันปีนขึ้นมาอย่างยากลำบากแล้วหาม้าตัวหนึ่งขี่กลับมา ส่วนเรื่องอื่นหม่อมฉันมิรู้จริง ๆ”หลังจากฟังคำพูดของมู่หรงจื่อเยียนแล้ว สีหน้าของมู่หรงฟู่และซือคงเหยียนก็ยิ่งเคร่งเครียดมากขึ้นผ่านไปครู่หนึ่ง มู่หรงฟู่ก็เอ่ยขึ้นเสียงหนักอึ้ง "

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 486

    มู่หรงจื่อเยียนตกตะลึง ก่อนถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ "เสด็จพี่ พี่จื่อชินเขายังมิได้กลับมาหรอกหรือ?"“ไม่ เกิดเรื่องอันใดขึ้น? พวกเจ้ามิได้กลับมาด้วยกันหรอกหรือ?”“เป็นไปมิได้ หากพูดตามเหตุผล เขาควรจะกลับมาเร็วกว่าหม่อมฉันสิ หรือว่าระหว่างจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นจึงทำให้เขากลับมาล่าช้า?”มู่หรงจื่อเยียนครุ่นคิดในใจ ตนและฉินซูติดอยู่ในดินแดนแห่งความฝันนานขนาดนั้น หนานกงจื่อชินก็น่าจะกลับมาตั้งนานแล้วถึงจะถูกหรือว่า เขาจะยังตามหาตนอยู่ที่บริเวณขอบผานั่น?มู่หรงฟู่มองไปรอบ ๆ แล้วพูดว่า "ที่นี่เต็มไปด้วยสายลับ เข้าไปคุยข้างในดีกว่า"มู่หรงจื่อเยียนพยักหน้าเห็นด้วย และเดินตามมู่หรงฟู่เข้าไปข้างในทันทีที่นางนั่งลง มู่หรงฟู่ก็ถามขึ้นด้วยความร้อนใจ "เป็นอย่างไรบ้าง? ทำสำเร็จหรือไม่? ฉินซูถูกกำจัดเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่?"มู่หรงจื่อเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบว่า "มิสำเร็จ ตอนที่พี่จื่อชินกำลังจะลงมือก็มีกลุ่มปีศาจภูเขาเข้ามาก่อกวน ต่อมา… หม่อมฉันก็พลัดหลงกับเขา ส่วนเรื่องหลังจากนั้น หม่อมฉันก็มิรู้แล้ว”มู่หรงฟู่ขมวดคิ้วรู้สึกว่า คำพูดของมู่หรงจื่อเยียนดูมิค่อยสมเหตุสมผลกันเขาขมวดคิ้วแ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 485

    ส่วนครอบครัวและคนสนิทของทั่วป๋าชื่อทั้งหมดถูกตวนมู่สั่งคนไปจัดการประหารจนหมดสิ้นแล้วอีกทั้งตวนมู่ยังได้แต่งตั้งคนสนิทของตนขึ้นมาควบคุมกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ภายในชนเผ่าฉินซูพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ ตวนมู่ทำงานอย่างเฉียบขาด รวดเร็ว สามารถรวบรวมกำลังอำนาจของตนได้ภายในเวลาอันสั้นเพียงนี้ อีกทั้งยังกล้าหาญ นับว่าเป็นบุคคลที่ทำการใหญ่ได้ทันใดนั้น เขาก็นึกอะไรบางอย่างได้ จึงถามอย่างสงสัย "ตวนมู่ ชนเผ่าโครยอของเจ้ามีทหารเพียงสองหมื่นนายเท่านั้น แต่ทั่วป๋าชื่อเอาความกล้าจากที่ใดมาคิดสังหารข้ากัน"“องค์รัชทายาท ก่อนที่ท่านจะเสด็จมา ทั่วป๋าชื่อได้รับจดหมายจากผู้สูงศักดิ์ท่านหนึ่ง ในนั้นมีการสัญญาว่า ขอเพียงทั่วป๋าชื่อสามารถกำจัดองค์รัชทายาทได้ วันหน้าเมื่อผู้สูงศักดิ์ท่านนั้นได้ขึ้นครองบัลลังก์ เขาจะมอบเมืองให้ชนเผ่าโครยอของเราสองสามเมืองเพื่อฟื้นฟูชนเผ่าพ่ะย่ะค่ะ”“ผู้สูงศักดิ์? คือผู้ใด?”“เรื่องนี้ ทั่วป๋าชื่อมิได้บอกอย่างชัดเจน เขาบอกเพียงว่าเป็นหนึ่งในพระโอรสขององค์จักรพรรดิ อ้อ ใช่แล้ว จดหมายฉบับนั้นน่าจะอยู่ในห้องตำราของทั่วป๋าชื่อ ข้าน้อยจะไปค้นหามาให้พ่ะย่ะค่ะ”หลังจากที่ตวนมู่พูดจ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 484

    ฉินซูโบกมือแล้วตะโกนสั่งกับทหารผู้นั้น "ไป นำตัวตวนมู่หาให้ข้า!"“รับพระบัญชา!”ทหารผู้นั้นรับคำอย่างนอบน้อมแล้วนำคนอีกสองคนเดินอย่างรวดเร็วไปยังคุกเพียงชั่วครู่ ตวนมู่ก็ถูกนำตัวมาในตอนนี้ เขาถูกใส่โซ่ตรวนที่มือและเท้า ดูคล้ายกับนักโทษอย่างไรอย่างนั้นฉินซูเลิกคิ้ว พลันถามว่า "ตวนมู่ ข้าได้ยินมาว่า ทั่วป๋าชื่อสั่งให้เจ้าฆ่าข้า มีเรื่องเช่นนี้จริงหรือ?"ตวนมู่กวาดสายตามองสถานการณ์ภายในลาน เมื่อเห็นเศษแขนขาที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น ม่านตาของเขาก็หดตัวในฉับพลันความคิดในหัวของเขาแล่นอย่างรวดเร็ว มินานก็วิเคราะห์สถานการณ์ตรงหน้าได้เมื่อตั้งสติได้ เขาจึงรีบเอ่ยตอบ "องค์รัชทายาท เป็นความจริงพ่ะย่ะค่ะ”“เช่นนั้น เหตุใดเจ้าจึงมิทำตามคำสั่งของเขา?”“องค์รัชทายาท ท่านคือรัชทายาทผู้สืบทอดราชบัลลังก์แห่งแผ่นดิน หากลงมือกับท่านก็เท่ากับการก่อกบฏ เป็นที่สาปแช่งทั้งฟ้าดิน ข้าน้อยยอมตายเสียดีกว่าทำเรื่องที่ไร้ความจงรักภักดีและอกตัญญูเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ”คำพูดของตวนมู่แฝงความมิจริงใจอยู่บ้าง แต่เขารู้ดีว่าบัดนี้ฉินซูได้กุมอำนาจในสถานการณ์นี้ไว้แล้วดังนั้นหากมิแสดงความจงรักภักดีเสียตอนนี้แล

DMCA.com Protection Status