Share

บทที่ 138

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
เมื่อได้ยินคำพูดของหูก่วงเผิง สีหน้าของหูเฟิงก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความโหดเหี้ยม

แววตาของเขาเป็นประกายอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเขาก็พยักหน้าอย่างแน่วแน่!

“เจ้ารักษาตัวให้หายดี เดี๋ยวเรื่องนี้พ่อจะจัดการเอง!”

หลังจากพูดจบ หูเฟิงก็หันไปกำชับเม่ยเหนียงว่า “สิ่งที่ก่วงเผิงพูดเมื่อครู่นี้ เจ้าจำไว้ว่าอย่าแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว มิเช่นนั้นตระกูลหูของเราจะต้องเผชิญกับหายนะ”

ใบหน้างดงามของเม่ยเหนียงซีดเผือด รีบส่ายหัว “นายท่าน เมื่อครู่นี้ข้ามิได้ยินอะไรเลย และจะมิพูดอะไรออกไปอย่างแน่นอน”

“เช่นนั้นก็ดี เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เจ้ากลับไปพักผ่อนให้สบาย เลี้ยงดูลูกในท้องให้ดี คลอดลูกชายอ้วนท้วนสมบูรณ์ให้ข้า”

เม่ยเหนียงพยักหน้าซ้ำ ๆ แล้วรีบออกไป

หูเฟิงเดินไปที่ห้องโถงใหญ่ แล้วถามจางเฉวียนว่า “คนของสำนักเบญจพิษ พักอยู่ที่ใด?”

“ผู้ว่าการมณฑล พวกเขาพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมสี่เยวี่ย อยู่มิไกลจากที่นี่ขอรับ”

“ไป เชิญพวกเขามาที่นี่ รีบไป!”

“ข้าน้อยรับคำสั่งขอรับ!”

จางเฉวียนรับคำสั่งด้วยความเคารพ แล้วรีบออกไป

สองเค่อต่อมา

จางเฉวียนก็กลับมา!

มีชายหลายคนสวมเสื้อคลุมสีดำเดินตามหลังเขา

ชายเหล่านี้มีส
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 139

    “ท่านรองเจ้าสำนักเฝิง ขอถามว่าท่านรับคำสั่งจากใคร?”“ใต้เท้าหู สิ่งที่มิควรถามก็อย่าถาม ท่านเพียงแค่ต้องรู้ว่า ผู้ที่สามารถทำให้สำนักเบญจพิษของเราสยบยอมได้ ย่อมมีสถานะที่มิธรรมดา”หูเฟิงครุ่นคิดเล็กน้อย ก็เดาได้ว่าคนที่สำนักเบญจพิษรับคำสั่ง คงเป็นหนึ่งในบรรดาองค์ชายหลาย ๆ พระองค์ มิเช่นนั้น ใครจะกล้าบังอาจมาลอบสังหารองค์รัชทายาทกัน!เขาพูดอย่างช้า ๆ ว่า “ข้าเข้าใจแล้ว แล้วมิทราบว่า พวกท่านวางแผนจะลงมือเมื่อใด?”“เร็วที่สุดก็ต้องรอวันพรุ่ง คนของเรายังมามิครบ”“เช่นนั้น ทางการจะต้องให้ความร่วมมืออย่างไร ท่านบอกมาได้เลย”เฝิงไป่จงลูบคางแล้วพูดว่า “ตอนแรก พวกเราก็ลังเลว่าจะลงมือตรง ๆ เลยดีหรือไม่ แต่ในเมื่อใต้เท้าหูจะเข้าร่วมด้วย เช่นนั้นก็…”เขาโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูของหูเฟิงเบา ๆ สองสามประโยคหูเฟิงเบิกตากว้าง แล้วก็ตบต้นขาตัวเองดังลั่น!“ดี! ทำตามนี้เลย! ถึงเวลาหากความแตกขึ้นมา ข้าก็มีข้อแก้ตัวแล้ว!”“หากใต้เท้าหูตกลง วันพรุ่งข้าจะส่งคนมาแจ้งข่าว แต่ข้าขอพูดให้ชัดเจนก่อน หากใต้เท้าหูคิดหักหลังพวกเรา ถึงองค์รัชทายาทจะมิฆ่าท่าน พวกเราสำนักเบญจพิษก็จะมิปล่อยท่านไปแน่”“ท่าน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 140

    ฝานชุ่นรู้สึกสงสัยในใจ ถามขึ้นว่า “ที่แท้ก็เป็นใต้เท้าจากสำนักหอดูดาวหลวง มิทราบว่าใต้เท้าตู๋กูมีธุระอะไรกับข้าน้อยหรือ?”“บริเวณเทือกเขาทางทิศตะวันตกของหลงโย่ว เมื่อเร็ว ๆ นี้มีสิ่งผิดปกติอะไรเกิดขึ้นหรือไม่?”“ไม่มีนะ ชาวหรงตะวันตกมิได้มารุกรานเลยตลอดหนึ่งเดือนมานี้”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยขมวดคิ้ว กล่าวว่า “ข้ามิได้ถามถึงชาวหรงตะวันตก แต่ถามถึงเทือกเขาทางทิศตะวันตกอันกว้างใหญ่นี้ ช่วงที่ผ่านมามีเรื่องแปลก ๆ อะไรเกิดขึ้นในนั้นหรือไม่?”สีหน้าของฝานชุ่นแสดงความสงสัยมากยิ่งขึ้น เพื่อความมั่นใจ เขาจึงเรียกผู้ช่วยมาสอบถาม“ซุนถง พวกเจ้าเพิ่งรับผิดชอบตรวจตราทางทิศตะวันตกของเมือง ในเทือกเขาแถวนั้นมีสิ่งผิดปกติหรือเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นบ้างหรือไม่?”ซุนถงส่ายหัว บ่งบอกว่าไม่มีฝานชุ่นจึงโค้งคำนับให้ตู๋กูโฉ่วเยวี่ย กล่าวว่า “ใต้เท้าตู๋กู เทือกเขาทางทิศตะวันตก มิน่าจะมีเรื่องแปลก ๆ อะไรเกิดขึ้นขอรับ”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหรี่ตาลง ยืนอยู่บนกำแพงเมืองมองไปทางทิศตะวันตก เงียบไปครู่หนึ่งฝานชุ่นถามอย่างระมัดระวัง “ใต้เท้าตู๋กู มีอะไรหรือ?”“อย่าถามสิ่งที่มิควรถาม ส่งคนไปจับตาดูทางทิศตะวันตกให้ดี หากมี

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 141

    “หึ หลงโย่วมิใช่ของสำนักเบญจพิษพวกเจ้าหรอกกระมัง? พวกเจ้ามาได้ เหตุใดพวกเราจะมามิได้?”เฝิงไป่จงจงยิ้มและโบกมือพร้อมกล่าวว่า “พี่หยางอย่าเข้าใจผิด ข้ามิได้มีความหมายอื่น เพียงแต่คิดว่า หากจุดประสงค์ของพี่หยางเหมือนกับสำนักเบญจพิษพวกเรา พวกเราทั้งสองฝ่ายอาจจะร่วมมือกันได้”เมื่อได้ยินดังนั้น หยางเจียนมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่ลึกซึ้งว่า “ขอถามพี่เฝิง พวกสำนักเบญจพิษมาที่นี่ มีจุดประสงค์อันใด?”เฝิงไป่จงมิได้ตอบ แต่กลับหันหลังไปมองนอกหน้าต่าง พร้อมกับพยักพเยิดไปทางโรงเตี๊ยมซุ่นเฟิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเมื่อเห็นดังนั้น หยางเจียนถามเบา ๆ ว่า “หรือว่าพวกเจ้าก็มาเพื่อองค์รัชทายาทผู้ถูกปลด?”“ใช่แล้ว ดูเหมือนว่าพรรคเพลิงผลาญพวกเจ้าก็กำลังทำงานให้กับองค์ชายบางองค์เช่นกัน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเรามิลองร่วมมือกันหน่อยหรือ ส่วนเรื่องหลังจากนี้ ค่อยว่ากันอีกที เป็นอย่างไร?”“ได้สิ พวกเรากำลังกังวลว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี ในเมื่อเป็นพวกเดียวกัน ข้าก็ตกลงที่จะร่วมมือกับพวกเจ้า”“พี่หยางพูดจาตรงไปตรงมาดีจริง ๆ เช่นนั้นก็ไปกับพวกเราตอนเที่ยงเลยก็แล้วกัน!” หยางเจียนถามด้วยคว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 142

    หัวใจของหูเฟิงจมดิ่งลง แต่เขาก็ยังคงพูดด้วยความอดทนและหวังดีว่า “องค์รัชทายาท เมื่อวานข้าน้อยมิได้ตั้งใจจะล่วงเกินจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่เห็นลูกชายได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรีบร้อนพาคนมาด้วยความโมโห ขอองค์รัชทายาทโปรดอภัยให้ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”“เรื่องที่เจ้าพาคนมาเมื่อวาน ตัวข้ามิถือสา แต่ประเด็นสำคัญคือ ลูกชายของเจ้าที่อวดดี หากตัวข้ามิใช่รัชทายาท ในตอนนี้อาจจะโดนพวกเจ้าฆ่าไปแล้วกระมัง”“เอ่อ... เอ่อ...”หูเฟิงทำหน้าลำบากใจ มิรู้จะตอบอย่างไร ในที่สุด เขาจึงแอบลอบส่งสายตาไปให้หูก่วงเผิงหูก่วงเผิงเข้าใจความหมายในทันที และเริ่มร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดใจ“ฮือ ๆ… องค์รัชทายาท ข้าน้อยผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยสาบานว่าจะมิกล้าทำอีก ท่านเป็นผู้มีน้ำพระทัยกว้างขวาง โปรดยกโทษให้ข้าน้อยสักครั้งเถิดพ่ะย่ะค่ะ ยิ่งไปกว่านั้น ข้าน้อยตอนนี้ก็เป็นขันทีแล้ว ถึงอยากจะทำมิดีมิร้ายกับพวกสตรี ก็ไม่มีปัญญาแล้วพ่ะย่ะค่ะ ขอองค์รัชทายาทโปรดอภัยให้ข้าน้อยด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”พูดจบ เขาก็โขกหัวคำนับกับพื้นมิหยุดเขาเอาหัวโขกพื้นจนดังสนั่น“องค์รัชทายาท ข้าน้อยรู้ดีว่าตัวข้าน้อยสั่งสอนลูกมิดี ก็ไม่มีหน้าจะด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 143

    ฉงชูโม่กลับดูสง่างามและมีพลัง แม้จะแต่งกายเรียบง่ายและไร้เครื่องประทินโฉม แต่ก็ยังคงสวยงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์เมื่อเห็นฉงชูโม่ ร่องรอยความโลภและความชั่วร้ายก็ฉายขึ้นมาในส่วนลึกของแววตาของก่วงเผิง เขาตัดสินใจอย่างรวดเร็วในใจ!หากมิได้มา ก็ทำลายนางซะ!หูเฟิงถามอย่างใจเย็นว่า “องค์รัชทายาท ท่านทรงต้องการเสด็จไปที่ใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“ข้ามิคุ้นเคยกับหลงโย่ว เจ้ามีคำแนะนำอะไรหรือไม่?”หูเฟิงลูบเคราที่คางของเขาแกล้งทำเป็นครุ่นคิด จากนั้นจึงค่อย ๆ พูดออกมา“องค์รัชทายาท เพลานี้เข้าสู่สารทฤดูมาได้สักพักแล้ว ป่าต้นเฟิง[footnoteRef:0]นอกเมืองตะวันตกกำลังงดงามเลยทีเดียว ที่นั่นยังมีทะเลสาบให้พายเรือ และมีโรงเตี๊ยมอยู่ริมทะเลสาบด้วย อาหารที่นั่นขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในใต้หล้า หากองค์รัชทายาทมิทรงรังเกียจ พวกเราไปเที่ยวที่นั่นกันสักหน่อย แล้วไปทานอาหารที่โรงเตี๊ยมนั้นกันดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” [0: ต้นเฟิง หมายถึง ต้นเมเปิล] หูก่วงเผิงเสริมว่า “ใช่แล้ว องค์รัชทายาท ตอนนี้เป็นเดือนสิบพอดี ปลาหอมหมื่นลี้ในทะเลสาบชิงเยวี่ยกำลังอ้วนท้วนสมบูรณ์ที่สุด องค์รัชทายาทเสด็จมาถึงหลงโย่วแล้ว ต้องลองเสวยอา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 144

    นอกเมืองทางตะวันตกของหลงโย่ว ภายในป่าต้นเฟิงฉินซูเดินเล่นชมทัศนียภาพอันสวยงามทั้งสองข้างทางหูเฟิงเดินไปกับเขาครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างระมัดระวังว่า “องค์รัชทายาท แถวนี้มักจะมีชาวหรงตะวันตกปรากฏตัว พวกเขาเป็นคนดุร้ายและมองว่าคนต้าเหยียนของเราเป็นศัตรู เพื่อความปลอดภัย ข้าน้อยจะส่งองครักษ์ออกไป เพื่อมิให้ชาวหรงตะวันตกฉวยโอกาสเข้ามา”ฉินซูยิ้มอย่างมีเลศนัย “ก็ดี ให้พวกเขาไปเฝ้าอยู่ข้างนอกป่าก็แล้วกัน อย่าให้ใครมารบกวนอารมณ์ข้า”“ข้าน้อยก็คิดเช่นนั้น ข้าน้อยขอทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”หูเฟิงโค้งคำนับอย่างนอบน้อม แล้วก็หันหลังเตรียมจะจากไปทันใดนั้น ฉงชูโม่ก็พูดขึ้นมาว่า “ใต้เท้าหู ท่านออกคำสั่งให้พวกเขาโดยตรงก็ได้ใช่หรือไม่ เหตุใดต้องไปด้วยตัวเองด้วยเล่า?”หูเฟิงชะงักฝีเท้า ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มประจบประแจง อธิบายว่า “ข้าน้อยเพียงกังวลว่าพวกเขาจะทำผิดพลาด เนื่องจากองค์รัชทายาททรงมีฐานันดรสูงส่ง ความปลอดภัยจึงมิอาจละเลยได้”“จริงหรือ? ข้าเห็นท่านรีบร้อนจากไปเช่นนี้ คงต้องการให้บางคนลงมือได้สะดวกขึ้นกระมัง?”เมื่อได้ยินคำพูดของฉงชูโม่ หัวใจของหูเฟิงก็เต้นแรงด้วยความตกใจ เขาแอบคิดในใจว่า แผนกา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 145

    เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นลูกธนูจำนวนมากดุจดังฝนห่าใหญ่ที่โปรยปรายลงมาอย่างมิขาดสาย พุ่งตรงมายังพวกเขาม่านตาของฉงชูโม่หดตัวลงในทันใด พลันคว้าแขนของฉินซูแล้วหลบไปด้านหลังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง “ฉึก ฉึก…”ลูกธนูเหล่านั้นปักเข้าไปในลำต้นของต้นไม้ ทำให้เกิดเสียงทื่อฉินซูบ่นพึมพำ “โจรพวกนี้สมองมิค่อยดีหรือไร ปล่อยธนูในป่าแบบนี้ มิได้เปลืองลูกธนูหรอกรึ”ขณะที่เขากำลังพูด เสียงแหวกอากาศก็ดังขึ้นอีกครั้งคราวนี้ลูกธนูถูกยิงมาพร้อมกันจากสองทิศทาง ด้านหลังต้นไม้ใหญ่ดูเหมือนจะหลบมิพ้นแล้วฉงชูโม่ตวัดฝ่ามือออกไปสองครั้ง ปัดลูกธนูที่พุ่งเข้ามาด้านหน้าให้กระเด็นออกไป พร้อมกับตะโกนเบา ๆ “กอดหม่อมฉันไว้แน่น ๆ!”ฉินซูอึ้งไป นี่มันเรื่องดีอะไรอย่างเยี่ยงนี้?!เขามิลังเลเลย สอดมือทั้งสองข้างโอบรอบเอวบางของฉงชูโม่ ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงสัมผัสที่นุ่มนวลบนหน้าอกฉงชูโม่ขมวดคิ้ว แต่ตอนนี้ก็มิสนใจอะไรมากนัก นางกระทืบเท้าลงบนพื้นอย่างแรง ร่างกายของนางก็ลอยขึ้นไปในอากาศระหว่างทาง นางใช้ปลายเท้าทั้งสองข้างยันกิ่งไม้ พาฉินซูไปที่ยอดไม้สูง“ท่านอยู่ที่นี่ กอดกิ่งไม้ไว้ให้แน่น หากท่านตกลงมาตาย ก็อย่าหาได้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 146

    หลังเฝิงไป่จงพูดจบ เขาก็สะบัดมือออกโดยมิทันให้สัญญาณเตือนใด ๆ ทันใดนั้น ผงสีขาวกลุ่มหนึ่งก็พุ่งเข้าไปหาฉงชูโม่ ผงสีขาวเหล่านี้ส่งกลิ่นฉุนแสบจมูก ระหว่างทางที่มันกระทบกับลำต้นของต้นไม้ ต้นไม้นั้นก็เกิดเสียง "ร้อนฉ่า" ขึ้นมา และถูกกัดกร่อนจนเป็นรอยลึกในพริบตา ผงสีขาวที่ดูเหมือนไร้พิษสง กลับซ่อนพิษร้ายแรงเอาไว้! ฉงชูโม่มิกล้าประมาท นางถอยร่น พร้อมกับฟาดกระแสพลังฝ่ามือออกไปสองสาย ผงสีขาวเหล่านั้นหมุนวนกลางอากาศ ก่อนจะพุ่งกลับไปทางเดิม เฝิงไป่จงร้องออกมาอย่างตกใจ จากนั้นจึงฟาดฝ่ามือออกไปอย่างแรง สองผู้อาวุโสที่อยู่ข้างกายเขาก็ลงมือพร้อมกัน มวลผงสีขาววิ่งเป็นสายอย่างไร้หารควบคุมในอากาศ และในที่สุดก็พุ่งเข้าใส่ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ข้าง ๆ "ฉ่า ฉ่า!" ลำต้นของต้นไม้นั้นปล่อยควันสีน้ำเงินเข้มออกมา ในชั่วพริบตานั้น ลำต้นมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งกว้างเท่ากับปากชามถูกกัดกร่อนจนโค่นลงด้วยเสียง "แกร๊บ!" แสดงให้เห็นว่า ผงสีขาวนี้มิใช่พิษธรรมดา เฝิงไป่จงตะโกนออกมามิดังนัก "พี่หยาง ท่านพาคนเข้าไปสังหารองค์รัชทายาทผู้รอวันถูกปลดเสีย ส่วนแม่นางนี่ข้าจะจัดการเอง!" "ดี

Pinakabagong kabanata

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 707

    ฉงชูโม่พยักหน้าหนักแน่น “ถูกต้องแล้วเพคะ เรื่องนี้มิใช่แค่ข้าน้อยคนเดียวที่เห็นกับตา ทหารทั้งสามทัพหลายนายก็เห็นเช่นกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของฉินอู๋ต้าวก็มิสู้ดีขึ้นมาทันตาอดีตองค์รัชทายาทสำมะเลเทเมาบัดนี้กลับสร้างคุณงามความดีครั้งยิ่งใหญ่ อีกทั้งวรยุทธ์ก็ยังลึกล้ำเกินหยั่งถึง นี่มัน… เกินความคาดหมายของเขาไปมาก!ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาคิดว่าเบื้องหลังฉินซูต้องมียอดฝีมือคอยชี้แนะแต่จากที่เห็นในเวลานี้ ยอดฝีมือที่ว่านั้น แท้จริงแล้วก็คือฉินซูเองกล่าวคือ ฉินซูมิเพียงแต่มีกลยุทธ์ที่เหนือชั้น แต่วรยุทธ์ก็ยังก้าวเข้าสู่ระดับที่น่าตกตะลึงซ้ำร้ายฉินซูยังจงใจปิดบังวรยุทธ์ของตนอีกด้วย!เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ความระแวงที่ฉินอู๋ต้าวมีต่อฉินซูก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเห็นฉินอู๋ต้าวนิ่งอึ้งไป ฉงชูโม่ก็กล่าวต่ออย่างมีนัยแฝงว่า “ฝ่าบาท ข่าวลือเรื่ององค์รัชทายาททรงทักษะยอดเยี่ยม เกรงว่าอีกมินานคงจะแพร่สะพัดไปทั่วหลงเฉิงเพคะแต่ก็ดีเหมือนกันเพคะ เหล่าคนชั่วที่คิดจะลอบสังหารองค์รัชทายาทจะได้ประมาณตนก่อนจะลงมือ เช่นนี้แล้ว ก็จะได้มิต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยขององค์รัชทายาทให้มา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 706

    สวี่จิ้นเสนาบดีกรมโยธาธิการกล่าวว่า “องค์รัชทายาท พระองค์ได้นำหนานเยวี่ยทั้งเจ็ดมณฑลสามสิบแปดเมืองมาอยู่ภายใต้ต้าเหยียนของเรา คุณูปการอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ สมควรได้รับการประทานเครื่องยศเก้าประการแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูส่ายหน้าเล็กน้อย “ใต้เท้าสวี่ ท่านกล่าวผิดแล้ว มีคำกล่าวว่า ใต้หล้าไพศาลล้วนเป็นแผ่นดินขององค์จักรพรรดิ บนแผ่นดินนี้ล้วนเป็นข้ารองพระบาทขององค์จักรพรรดิ ข้าในฐานะองค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน ย่อมถือเอาความผาสุกของราษฎรเป็นภารกิจของตน ทุกสิ่งที่ทำล้วนเป็นหน้าที่”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉินซูก็ประสานมือคำนับฉินอู๋ต้าวอีกครั้ง “เสด็จพ่อ ดังนั้นรางวัลอันยิ่งใหญ่อย่างเครื่องยศเก้าประการนี้ลูกมิกล้ารับไว้จริง ๆ หวังว่าเสด็จพ่อจะทรงเข้าพระทัยพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหล่าขุนนางระดับสูงก็อุทานด้วยความประหลาดใจอีกครั้งรางวัลอันยิ่งใหญ่เช่นเครื่องยศเก้าประการนี้ องค์รัชทายาทกลับปฏิเสธจริง ๆ หรือ?ต้องเท้าความว่า หากฉินซูในฐานะเป็นองค์รัชทายาทรับรางวัลนี้ ในภายภาคหน้า สถานะความสำคัญของเขาในสายตาของขุนนางและราษฎรแห่งต้าเหยียนก็แทบจะเทียบเท่ากับฉินอู๋ต้าวผู้เป็นองค์จักรพรรดิได้เลยทีเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 705

    ฉงชูโม่กำลังจะกล่าวต่อ แต่กลับสังเกตเห็นว่าฉินซูกำลังส่ายหน้าให้นางเล็กน้อยเมื่อเห็นดังนั้น คิ้วเรียวก็ขมวดเล็กน้อยด้วยความสงสัยจากนั้นเสียงของฉินซูก็ดังขึ้นในหูของนาง “สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว หลักฐานสำคัญหายไป”ฉินซูใช้วิชาแห่งกระแสจิต ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตได้นอกจากฉงชูโม่เมื่อได้ยินถ้อยคำของฉินซู แววตาของฉงชูโม่ก็พลันไหววูบ จากนั้นจึงกล่าวกับฉินอู๋ต้าวว่า “ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยไม่มีสิ่งใดจะกล่าวทูลแล้วเพคะ”เมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินอู๋ต้าวก็มองฉงชูโม่ด้วยความสงสัยผาดหนึ่งแล้วหันไปมองฉินซูแทน“องค์รัชทายาท รายงานเรื่องคลังหลวงของหนานเยวี่ยหน่อยซิ”“ลูกน้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินซูประสานมือแล้วพูดต่อ “ทูลเสด็จพ่อ ในการตรวจค้นคลังหลวงของหนานเยวี่ยครั้งนี้ ลูกพบผ้าไหมแพรพรรณสูงค่ามากมายนับมิถ้วน เงินแท้รวมทั้งสิ้นสิบสามล้านกว่าตำลึง ทองคำสองล้านตำลึง เสบียงอาหารก็มีมากถึงเกือบแสนต้านพ่ะย่ะค่ะ”“ลูกได้จัดสรรเงินจำนวนหนึ่งล้านตำลึงจากทั้งหมดในพระนามของเสด็จพ่อ เพื่อใช้เป็นรางวัลแก่ทหารทั้งสามทัพ ส่วนพืชพรรณธัญหารก็ได้สั่งให้คนนำกลับไปเก็บไว้ที่เจียวโจวแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ยังมีอีกเรื่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 704

    ฉินอู๋ต้าวผงกศีรษะให้ฉินอวี่เล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “อ๋องฉู่ ในเมื่อชูโม่เข้าใจตัวเจ้าผิดไป เจ้าก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้งเถิด”“ลูกรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินอวี่ประสานมือคำนับ แล้วกล่าวช้า ๆ ว่า “ชูโม่ ตอนที่ลงใต้ไปยังเจียวโจว ยามนั้นข้าประมาทเลินเล่อ ถูกคนสนิทขโมยตราประจำตัวไป ภายหลังจึงได้ทราบว่าเจ้าคนสารเลวนั่นถูกเติ้งหม่างซื้อตัวไปนานแล้วแม้แต่หูก่วงเซิงและคนอื่น ๆ ก็ยังแปรพักตร์ไปเข้าข้างหนานเยวี่ย กว่าข้าจะรู้ตัวทัพหนานเยวี่ยก็บุกเข้าประตูเมืองเจียวโจวแล้วด้วยความจำเป็น ข้าจึงต้องถอยกลับมาก่อน จากนั้นก็เดินทางทั้งวันทั้งคืน เมื่อกลับมาถึงหลงเฉิงก็รีบทูลเรื่องนี้ให้เสด็จพ่อทรงทราบในทันที”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็แค่นยิ้มหยันทันที “ท่านอ๋องฉู่ ท่านทรงคิดว่าแค่โยนความผิดทั้งหมดไปให้คนสนิทขอท่านแล้วเรื่องก็จะจบลงง่าย ๆ เช่นนั้นหรือ?”ฉินอวี่โต้กลับว่า “สิ่งที่ตัวข้าพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง จะเรียกว่าโยนความผิดได้อย่างไร?”ฉงชูโม่มิได้โต้เถียงกับเขาต่อ แต่หันไปกล่าวกับฉินอู๋ต้าวว่า “ฝ่าบาท ที่ทะเลตงไห่ ท่านอ๋องฉู่...”ยังมิทันที่นางจะพูดจบ ขันทีน้อยคนหนึ่งก็วิ่งเข้าม

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status