Share

บทที่ 137

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
หูก่วงเผิงอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างมิอยากจะเชื่อ “ว่า ว่ากระไรนะ? องค์รัชทายาท?! ท่านพ่อ ท่านจำคนผิดหรือไม่? คนผู้นั้นจะเป็นองค์รัชทายาทได้อย่างไร?”

“ข้าก็อยากจะจำผิดเหมือนกัน ตอนต้นปีก่อนที่ข้าไปเมืองหลวง ข้าเคยเห็นองค์รัชทายาทในห้องทรงพระอักษร แถมยังมิใช่แค่ครั้งเดียว ข้าจะจำผิดได้อย่างไร! เจ้าลูกอกตัญญู คนอื่นตั้งมากมายเจ้ามิไปหาเรื่อง ดันไปหาเรื่ององค์รัชทายาท เจ้าว่าตอนนี้จะทำอย่างไรดี? บอกข้ามาสิ!”

“ข้า… ฮือ ๆ จบแล้ว องค์รัชทายาทต้องมิปล่อยข้าไปแน่ ท่านพ่อ ข้ามิอยากตาย ท่านรีบคิดหาวิธีหน่อย ข้ามิอยากตาย”

“ตอนนี้รู้จักร้องไห้แล้วหรือ? ก่อนหน้านี้ข้าก็บอกเจ้าให้รู้จักยับยั้งชั่งใจบ้าง เจ้ากลับเอาคำพูดของข้าไปทิ้งหูซ้ายทะลุหูขวา เจ้าลูกมิรักดี กล้าแม้กระทั่งวางยาพิษองค์รัชทายาท หากองค์รัชทายาทเอาเรื่องขึ้นมา นี่มันเป็นความผิดร้ายแรงถึงขึ้นประหารเก้าชั่วโคตร ตระกูลหูของเราต้องถูกเจ้าทำลายจนย่อยยับ”

หูเฟิงทุบอกตบเท้า ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหล

“ฮือ ๆ ท่านพ่อ ลูกสำนึกผิดแล้ว ช่วยหาวิธีหน่อยเถอะ ถ้าลูกตายไป ตระกูลหูของเราก็จะสิ้นสูญแล้ว!”

หูเฟิงพึมพำด้วยความเศร้าโศกว่า “ต่อให้เจ้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
witbbl
ยอดเยี่ยมมากๆๆๆ
goodnovel comment avatar
witbbl
เราคิดว่านิยายจีน เป็นอะไรที่สวรรค์มาโปรดชัดๆ เมื่อก่อนนี้ เราอ่านนิยายการ์ตูนจีน มังกรอหังการค่ะ มีข้อคิดดีๆมากเลย มันทำให้เรารู้อะไรหลายๆข้อ ที่เรายังไม่รู้อีกมากมาย และต่อมา เราก็ดูหนังจีน ดูซีรี่ส์จีน จนติดแจเลยค่ะ มีซีรี่ส์จีนใหม่ๆออกมา เราก็จะดูตัวอย่าง ว่ามันมีเนื้อเรื่องอย่างไรบ้าง ถ้าถูกใจก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 138

    เมื่อได้ยินคำพูดของหูก่วงเผิง สีหน้าของหูเฟิงก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความโหดเหี้ยมแววตาของเขาเป็นประกายอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเขาก็พยักหน้าอย่างแน่วแน่!“เจ้ารักษาตัวให้หายดี เดี๋ยวเรื่องนี้พ่อจะจัดการเอง!”หลังจากพูดจบ หูเฟิงก็หันไปกำชับเม่ยเหนียงว่า “สิ่งที่ก่วงเผิงพูดเมื่อครู่นี้ เจ้าจำไว้ว่าอย่าแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว มิเช่นนั้นตระกูลหูของเราจะต้องเผชิญกับหายนะ”ใบหน้างดงามของเม่ยเหนียงซีดเผือด รีบส่ายหัว “นายท่าน เมื่อครู่นี้ข้ามิได้ยินอะไรเลย และจะมิพูดอะไรออกไปอย่างแน่นอน”“เช่นนั้นก็ดี เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เจ้ากลับไปพักผ่อนให้สบาย เลี้ยงดูลูกในท้องให้ดี คลอดลูกชายอ้วนท้วนสมบูรณ์ให้ข้า”เม่ยเหนียงพยักหน้าซ้ำ ๆ แล้วรีบออกไปหูเฟิงเดินไปที่ห้องโถงใหญ่ แล้วถามจางเฉวียนว่า “คนของสำนักเบญจพิษ พักอยู่ที่ใด?”“ผู้ว่าการมณฑล พวกเขาพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมสี่เยวี่ย อยู่มิไกลจากที่นี่ขอรับ”“ไป เชิญพวกเขามาที่นี่ รีบไป!”“ข้าน้อยรับคำสั่งขอรับ!”จางเฉวียนรับคำสั่งด้วยความเคารพ แล้วรีบออกไปสองเค่อต่อมาจางเฉวียนก็กลับมา!มีชายหลายคนสวมเสื้อคลุมสีดำเดินตามหลังเขาชายเหล่านี้มีส

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 139

    “ท่านรองเจ้าสำนักเฝิง ขอถามว่าท่านรับคำสั่งจากใคร?”“ใต้เท้าหู สิ่งที่มิควรถามก็อย่าถาม ท่านเพียงแค่ต้องรู้ว่า ผู้ที่สามารถทำให้สำนักเบญจพิษของเราสยบยอมได้ ย่อมมีสถานะที่มิธรรมดา”หูเฟิงครุ่นคิดเล็กน้อย ก็เดาได้ว่าคนที่สำนักเบญจพิษรับคำสั่ง คงเป็นหนึ่งในบรรดาองค์ชายหลาย ๆ พระองค์ มิเช่นนั้น ใครจะกล้าบังอาจมาลอบสังหารองค์รัชทายาทกัน!เขาพูดอย่างช้า ๆ ว่า “ข้าเข้าใจแล้ว แล้วมิทราบว่า พวกท่านวางแผนจะลงมือเมื่อใด?”“เร็วที่สุดก็ต้องรอวันพรุ่ง คนของเรายังมามิครบ”“เช่นนั้น ทางการจะต้องให้ความร่วมมืออย่างไร ท่านบอกมาได้เลย”เฝิงไป่จงลูบคางแล้วพูดว่า “ตอนแรก พวกเราก็ลังเลว่าจะลงมือตรง ๆ เลยดีหรือไม่ แต่ในเมื่อใต้เท้าหูจะเข้าร่วมด้วย เช่นนั้นก็…”เขาโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูของหูเฟิงเบา ๆ สองสามประโยคหูเฟิงเบิกตากว้าง แล้วก็ตบต้นขาตัวเองดังลั่น!“ดี! ทำตามนี้เลย! ถึงเวลาหากความแตกขึ้นมา ข้าก็มีข้อแก้ตัวแล้ว!”“หากใต้เท้าหูตกลง วันพรุ่งข้าจะส่งคนมาแจ้งข่าว แต่ข้าขอพูดให้ชัดเจนก่อน หากใต้เท้าหูคิดหักหลังพวกเรา ถึงองค์รัชทายาทจะมิฆ่าท่าน พวกเราสำนักเบญจพิษก็จะมิปล่อยท่านไปแน่”“ท่าน

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 140

    ฝานชุ่นรู้สึกสงสัยในใจ ถามขึ้นว่า “ที่แท้ก็เป็นใต้เท้าจากสำนักหอดูดาวหลวง มิทราบว่าใต้เท้าตู๋กูมีธุระอะไรกับข้าน้อยหรือ?”“บริเวณเทือกเขาทางทิศตะวันตกของหลงโย่ว เมื่อเร็ว ๆ นี้มีสิ่งผิดปกติอะไรเกิดขึ้นหรือไม่?”“ไม่มีนะ ชาวหรงตะวันตกมิได้มารุกรานเลยตลอดหนึ่งเดือนมานี้”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยขมวดคิ้ว กล่าวว่า “ข้ามิได้ถามถึงชาวหรงตะวันตก แต่ถามถึงเทือกเขาทางทิศตะวันตกอันกว้างใหญ่นี้ ช่วงที่ผ่านมามีเรื่องแปลก ๆ อะไรเกิดขึ้นในนั้นหรือไม่?”สีหน้าของฝานชุ่นแสดงความสงสัยมากยิ่งขึ้น เพื่อความมั่นใจ เขาจึงเรียกผู้ช่วยมาสอบถาม“ซุนถง พวกเจ้าเพิ่งรับผิดชอบตรวจตราทางทิศตะวันตกของเมือง ในเทือกเขาแถวนั้นมีสิ่งผิดปกติหรือเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นบ้างหรือไม่?”ซุนถงส่ายหัว บ่งบอกว่าไม่มีฝานชุ่นจึงโค้งคำนับให้ตู๋กูโฉ่วเยวี่ย กล่าวว่า “ใต้เท้าตู๋กู เทือกเขาทางทิศตะวันตก มิน่าจะมีเรื่องแปลก ๆ อะไรเกิดขึ้นขอรับ”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหรี่ตาลง ยืนอยู่บนกำแพงเมืองมองไปทางทิศตะวันตก เงียบไปครู่หนึ่งฝานชุ่นถามอย่างระมัดระวัง “ใต้เท้าตู๋กู มีอะไรหรือ?”“อย่าถามสิ่งที่มิควรถาม ส่งคนไปจับตาดูทางทิศตะวันตกให้ดี หากมี

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 141

    “หึ หลงโย่วมิใช่ของสำนักเบญจพิษพวกเจ้าหรอกกระมัง? พวกเจ้ามาได้ เหตุใดพวกเราจะมามิได้?”เฝิงไป่จงจงยิ้มและโบกมือพร้อมกล่าวว่า “พี่หยางอย่าเข้าใจผิด ข้ามิได้มีความหมายอื่น เพียงแต่คิดว่า หากจุดประสงค์ของพี่หยางเหมือนกับสำนักเบญจพิษพวกเรา พวกเราทั้งสองฝ่ายอาจจะร่วมมือกันได้”เมื่อได้ยินดังนั้น หยางเจียนมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่ลึกซึ้งว่า “ขอถามพี่เฝิง พวกสำนักเบญจพิษมาที่นี่ มีจุดประสงค์อันใด?”เฝิงไป่จงมิได้ตอบ แต่กลับหันหลังไปมองนอกหน้าต่าง พร้อมกับพยักพเยิดไปทางโรงเตี๊ยมซุ่นเฟิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเมื่อเห็นดังนั้น หยางเจียนถามเบา ๆ ว่า “หรือว่าพวกเจ้าก็มาเพื่อองค์รัชทายาทผู้ถูกปลด?”“ใช่แล้ว ดูเหมือนว่าพรรคเพลิงผลาญพวกเจ้าก็กำลังทำงานให้กับองค์ชายบางองค์เช่นกัน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเรามิลองร่วมมือกันหน่อยหรือ ส่วนเรื่องหลังจากนี้ ค่อยว่ากันอีกที เป็นอย่างไร?”“ได้สิ พวกเรากำลังกังวลว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี ในเมื่อเป็นพวกเดียวกัน ข้าก็ตกลงที่จะร่วมมือกับพวกเจ้า”“พี่หยางพูดจาตรงไปตรงมาดีจริง ๆ เช่นนั้นก็ไปกับพวกเราตอนเที่ยงเลยก็แล้วกัน!” หยางเจียนถามด้วยคว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 142

    หัวใจของหูเฟิงจมดิ่งลง แต่เขาก็ยังคงพูดด้วยความอดทนและหวังดีว่า “องค์รัชทายาท เมื่อวานข้าน้อยมิได้ตั้งใจจะล่วงเกินจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่เห็นลูกชายได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรีบร้อนพาคนมาด้วยความโมโห ขอองค์รัชทายาทโปรดอภัยให้ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”“เรื่องที่เจ้าพาคนมาเมื่อวาน ตัวข้ามิถือสา แต่ประเด็นสำคัญคือ ลูกชายของเจ้าที่อวดดี หากตัวข้ามิใช่รัชทายาท ในตอนนี้อาจจะโดนพวกเจ้าฆ่าไปแล้วกระมัง”“เอ่อ... เอ่อ...”หูเฟิงทำหน้าลำบากใจ มิรู้จะตอบอย่างไร ในที่สุด เขาจึงแอบลอบส่งสายตาไปให้หูก่วงเผิงหูก่วงเผิงเข้าใจความหมายในทันที และเริ่มร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดใจ“ฮือ ๆ… องค์รัชทายาท ข้าน้อยผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยสาบานว่าจะมิกล้าทำอีก ท่านเป็นผู้มีน้ำพระทัยกว้างขวาง โปรดยกโทษให้ข้าน้อยสักครั้งเถิดพ่ะย่ะค่ะ ยิ่งไปกว่านั้น ข้าน้อยตอนนี้ก็เป็นขันทีแล้ว ถึงอยากจะทำมิดีมิร้ายกับพวกสตรี ก็ไม่มีปัญญาแล้วพ่ะย่ะค่ะ ขอองค์รัชทายาทโปรดอภัยให้ข้าน้อยด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”พูดจบ เขาก็โขกหัวคำนับกับพื้นมิหยุดเขาเอาหัวโขกพื้นจนดังสนั่น“องค์รัชทายาท ข้าน้อยรู้ดีว่าตัวข้าน้อยสั่งสอนลูกมิดี ก็ไม่มีหน้าจะด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 143

    ฉงชูโม่กลับดูสง่างามและมีพลัง แม้จะแต่งกายเรียบง่ายและไร้เครื่องประทินโฉม แต่ก็ยังคงสวยงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์เมื่อเห็นฉงชูโม่ ร่องรอยความโลภและความชั่วร้ายก็ฉายขึ้นมาในส่วนลึกของแววตาของก่วงเผิง เขาตัดสินใจอย่างรวดเร็วในใจ!หากมิได้มา ก็ทำลายนางซะ!หูเฟิงถามอย่างใจเย็นว่า “องค์รัชทายาท ท่านทรงต้องการเสด็จไปที่ใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“ข้ามิคุ้นเคยกับหลงโย่ว เจ้ามีคำแนะนำอะไรหรือไม่?”หูเฟิงลูบเคราที่คางของเขาแกล้งทำเป็นครุ่นคิด จากนั้นจึงค่อย ๆ พูดออกมา“องค์รัชทายาท เพลานี้เข้าสู่สารทฤดูมาได้สักพักแล้ว ป่าต้นเฟิง[footnoteRef:0]นอกเมืองตะวันตกกำลังงดงามเลยทีเดียว ที่นั่นยังมีทะเลสาบให้พายเรือ และมีโรงเตี๊ยมอยู่ริมทะเลสาบด้วย อาหารที่นั่นขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในใต้หล้า หากองค์รัชทายาทมิทรงรังเกียจ พวกเราไปเที่ยวที่นั่นกันสักหน่อย แล้วไปทานอาหารที่โรงเตี๊ยมนั้นกันดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” [0: ต้นเฟิง หมายถึง ต้นเมเปิล] หูก่วงเผิงเสริมว่า “ใช่แล้ว องค์รัชทายาท ตอนนี้เป็นเดือนสิบพอดี ปลาหอมหมื่นลี้ในทะเลสาบชิงเยวี่ยกำลังอ้วนท้วนสมบูรณ์ที่สุด องค์รัชทายาทเสด็จมาถึงหลงโย่วแล้ว ต้องลองเสวยอา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 144

    นอกเมืองทางตะวันตกของหลงโย่ว ภายในป่าต้นเฟิงฉินซูเดินเล่นชมทัศนียภาพอันสวยงามทั้งสองข้างทางหูเฟิงเดินไปกับเขาครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างระมัดระวังว่า “องค์รัชทายาท แถวนี้มักจะมีชาวหรงตะวันตกปรากฏตัว พวกเขาเป็นคนดุร้ายและมองว่าคนต้าเหยียนของเราเป็นศัตรู เพื่อความปลอดภัย ข้าน้อยจะส่งองครักษ์ออกไป เพื่อมิให้ชาวหรงตะวันตกฉวยโอกาสเข้ามา”ฉินซูยิ้มอย่างมีเลศนัย “ก็ดี ให้พวกเขาไปเฝ้าอยู่ข้างนอกป่าก็แล้วกัน อย่าให้ใครมารบกวนอารมณ์ข้า”“ข้าน้อยก็คิดเช่นนั้น ข้าน้อยขอทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”หูเฟิงโค้งคำนับอย่างนอบน้อม แล้วก็หันหลังเตรียมจะจากไปทันใดนั้น ฉงชูโม่ก็พูดขึ้นมาว่า “ใต้เท้าหู ท่านออกคำสั่งให้พวกเขาโดยตรงก็ได้ใช่หรือไม่ เหตุใดต้องไปด้วยตัวเองด้วยเล่า?”หูเฟิงชะงักฝีเท้า ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มประจบประแจง อธิบายว่า “ข้าน้อยเพียงกังวลว่าพวกเขาจะทำผิดพลาด เนื่องจากองค์รัชทายาททรงมีฐานันดรสูงส่ง ความปลอดภัยจึงมิอาจละเลยได้”“จริงหรือ? ข้าเห็นท่านรีบร้อนจากไปเช่นนี้ คงต้องการให้บางคนลงมือได้สะดวกขึ้นกระมัง?”เมื่อได้ยินคำพูดของฉงชูโม่ หัวใจของหูเฟิงก็เต้นแรงด้วยความตกใจ เขาแอบคิดในใจว่า แผนกา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 145

    เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นลูกธนูจำนวนมากดุจดังฝนห่าใหญ่ที่โปรยปรายลงมาอย่างมิขาดสาย พุ่งตรงมายังพวกเขาม่านตาของฉงชูโม่หดตัวลงในทันใด พลันคว้าแขนของฉินซูแล้วหลบไปด้านหลังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง “ฉึก ฉึก…”ลูกธนูเหล่านั้นปักเข้าไปในลำต้นของต้นไม้ ทำให้เกิดเสียงทื่อฉินซูบ่นพึมพำ “โจรพวกนี้สมองมิค่อยดีหรือไร ปล่อยธนูในป่าแบบนี้ มิได้เปลืองลูกธนูหรอกรึ”ขณะที่เขากำลังพูด เสียงแหวกอากาศก็ดังขึ้นอีกครั้งคราวนี้ลูกธนูถูกยิงมาพร้อมกันจากสองทิศทาง ด้านหลังต้นไม้ใหญ่ดูเหมือนจะหลบมิพ้นแล้วฉงชูโม่ตวัดฝ่ามือออกไปสองครั้ง ปัดลูกธนูที่พุ่งเข้ามาด้านหน้าให้กระเด็นออกไป พร้อมกับตะโกนเบา ๆ “กอดหม่อมฉันไว้แน่น ๆ!”ฉินซูอึ้งไป นี่มันเรื่องดีอะไรอย่างเยี่ยงนี้?!เขามิลังเลเลย สอดมือทั้งสองข้างโอบรอบเอวบางของฉงชูโม่ ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงสัมผัสที่นุ่มนวลบนหน้าอกฉงชูโม่ขมวดคิ้ว แต่ตอนนี้ก็มิสนใจอะไรมากนัก นางกระทืบเท้าลงบนพื้นอย่างแรง ร่างกายของนางก็ลอยขึ้นไปในอากาศระหว่างทาง นางใช้ปลายเท้าทั้งสองข้างยันกิ่งไม้ พาฉินซูไปที่ยอดไม้สูง“ท่านอยู่ที่นี่ กอดกิ่งไม้ไว้ให้แน่น หากท่านตกลงมาตาย ก็อย่าหาได้

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 670

    “องค์รัชทายาท ทางนั้นมีกระไรผิดปกติหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ชิวก่วนเห็นฉินซูขมวดคิ้วมองไปยังฝูงชนฝั่งซ้ายก็เอ่ยถามขึ้นฉินซูยิ้มบาง ๆ “ไม่มีกระไร ออกเดินทางเถิด”เขาควบม้าเดินนำหน้าไปช้า ๆเมื่อครู่เขารับรู้ถึงกลิ่นอายสังหารเฉียบคมมาจากฝูงชน ทว่ามิได้ใส่ใจกระไรมากนักด้วยวรยุทธ์ในปัจจุบันของเขา ตราบใดที่มิใช่ยอดฝีมือระดับเดียวกับเจ้าสำนักหอดารารักษ์ เขาก็มั่นใจว่าจะรับมือได้เมื่อนึกถึงเจ้าสำนักหอดารารักษ์ ฉินซูก็รู้สึกเหนื่อยใจเล็กน้อย เพราะอีกมินานเขาก็ต้องเดินทางไปเป่ยเยี่ยนตามสัญญาแล้วเขาอดมิได้ที่จะพึมพำในใจ “มิรู้ว่าไปถึงหอดารารักษ์แล้ว นางปีศาจซ่างกวนอวิ๋นซีจะถลกหนังข้าหรือไม่ เฮ้อ หวังว่าก่อนเดินทางหัวหน้าโหรหลวงจะให้ของกำนัลที่มิคาดฝันแก่ข้าบ้าง”ฉินซูแทบจะมั่นใจได้ว่า วรยุทธ์ของเหลยเจิ้นนั้นมิได้ด้อยกว่าซ่างกวนอวิ๋นซีเป็นแน่ ดังนั้นเขาจึงฝากความหวังไว้กับหัวหน้าโหรหลวงเป็นส่วนใหญ่ หวังว่าอีกฝ่ายจะให้ของวิเศษไว้ป้องกันตัวบ้างจากนั้นเขาก็นึกถึงกู้เสวี่ยเจี้ยน และหวนถึงช่วงเวลาที่ทั้งคู่ใช้ชีวิตด้วยกันในถ้ำอย่างสงบและไร้กังวลในเวลาเดียวกันท่ามกลางฝูงชน จ้าวอวี้เสวียนเอ่ยลอ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 669

    ฉินซูเรียกแม่ทัพนายกองทัพหลักมา สั่งการเรื่องต่าง ๆ ที่จะตามมาให้พวกเขาเรียบร้อยแล้ว จึงหันไปสั่งชิวก่วนว่า “จงไปจัดสรรเงินจากคลังหลวงมาหนึ่งล้านตำลึง และเสบียงอาหารหนึ่งหมื่นต้าน เพื่อเป็นรางวัลแก่ทหารทั้งสามทัพ ส่วนที่เหลือทั้งหมดให้บรรจุหีบขนกลับหลงเฉิง!”“ข้าน้อยรับพระบัญชา!”แม่ทัพนายกองที่เหลือต่างก็ดีใจจนเนื้อเต้น คุกเข่าลงข้างหนึ่งแล้วกล่าวพร้อมกันว่า “ข้าน้อยขอขอบพระทัยองค์รัชทายาท!”เที่ยงวันนั้น ฉินซูก็พาชิวก่วนและทหารชั้นยอดห้าพันนายขนเงินและสิ่งของอื่น ๆ จากคลังหลวงแคว้นหนานเยวี่ยออกจากพระราชสถาน และเตรียมตัวเดินทางกลับต้าเหยียนทว่าเพิ่งออกมาจากพระราชสถาน ฉินซูก็พบว่าข้างนอกเต็มไปด้วยราษฎรแคว้นหนานเยวี่ยเมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินซูก็อดมิได้ที่จะขมวดคิ้ว นึกว่าราษฎรเหล่านั้นจะมาขว้างปาไข่เน่าใส่ตนแต่กลับพบว่า ทันทีที่เขาก้าวออกมา ราษฎรเหล่านั้นก็พากันคุกเข่าลงฉินซูชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถามหลิวผู่ว่า “เกิดกระไรขึ้นกับพวกเขา?”หลิวผู่ตอบด้วยความเคารพ “องค์รัชทายาท พระองค์ทรงมีพระบัญชาให้ยกเว้นภาษีและการเกณฑ์แรงงานในแคว้นหนานเยวี่ยเป็นเวลาสามปี ราษฎรเหล่านี้จึงตั้งใ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 668

    เพียงใช้กลอุบายเล็กน้อยก็ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยได้สำเร็จ เพียงยกมือขึ้นก็สามารถตบยอดฝีมือระดับปฐพีให้กลายเป็นหมอกเลือดได้หากองค์รัชทายาทเช่นนี้มิได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์ต่อไป สวรรค์ก็ไร้แววอย่างแท้จริงในเวลานี้ ชิวก่วนมีแต่ความคิดที่จะติดตามรับใช้ฉินซูเท่านั้น นอกจากนั้นแล้วเขาก็ไม่มีความต้องการอื่นใดอีกฉินซูกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้ามิได้ออกรบอยู่บ่อย ๆ มิจำเป็นต้องให้เจ้ามาคอยรับใช้ใกล้ชิด ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดี ราชสำนักต้าเหยียนของข้าจะมิทำให้เจ้าผิดหวังแน่นอน”เมื่อชิวก่วนเห็นฉินซูปฏิเสธ ในใจก็อดมิได้ที่จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแต่เมื่อคิดอีกที ในภายภาคหน้าราชสำนักต้าเหยียนก็คงต้องฟังคำสั่งของฉินซูอยู่ดีมิใช่หรือ?นั่นหมายความว่า ตราบใดที่ตนตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ จักรพรรดิองค์ต่อไปนี้ก็จะมิทำให้ตนต้องลำบากเมื่อคิดได้ดังนั้น ชิวก่วนก็เผยสีหน้ายินดีปรีดาในทันทีพร้อมพยักหน้ารัว “องค์รัชทายาทโปรดวางพระทัย ข้าน้อยจะทุ่มเทสุดกำลังจนกว่าชีวิตจะหาไม่พ่ะย่ะค่ะ!”ฉินซูมองชิวก่วนด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็มิได้พูดสิ่งใดอีกเขามองไปรอบ ๆ แล้วสั่งการ “ทำความสะอาดเสียหน่อยเถิด ข

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 667

    ตบฝ่ามือทีเดียวก็ทำให้คนกลายเป็นหมอกเลือด แม้แต่ยอดฝีมือระดับสวรรค์ก็ทำมิได้ แต่ฉินซูกลับทำได้อย่างง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ หากมิใช่ผีแล้วจะเป็นกระไรไปได้เล่า?จอมยุทธ์หลายคนใช้วิชาตัวเบา พยายามเหาะข้ามหลังคาเพื่อหนีเอาตัวรอดทว่าร่างของพวกเขาเพิ่งจะทะยานขึ้นไปในอากาศ กระแสพลังฝ่ามืออันน่าสะพรึงกลัวจนขนลุกก็พุ่งเข้ามาพวกเขายังมิทันได้ร้องขอชีวิต ก็ถูกตบจนกลายเป็นหมอกเลือดไปเสียแล้วดังนั้นการต่อสู้ที่ดูเหมือนจะเป็นการล้อมโจมตี กลับกลายเป็นการสังหารหมู่แต่เพียงฝ่ายเดียว!ในเวลานี้ ผู้ที่ตายด้วยน้ำมือของฉินซูมีจำนวนมากถึงยี่สิบสามสิบคนซึ่งในจำนวนนั้นยังมียอดฝีมือระดับปฐพีอยู่มิน้อย“องค์รัชทายาท ข้าน้อยผิดไปแล้ว ขอร้อง ได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วย!”ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งเห็นฝ่ามือของฉินซูกำลังพุ่งตรงมา ก็ตกใจจนรีบคุกเข่าลงร้องขอชีวิตฉินซูเก็บมือกลับจริง แล้วหันไปตบอีกคนที่หมายจะหนีจนตายตกไปหลายคนสังเกตเห็นภาพนั้น เมื่อเห็นว่าหนีไปก็ไร้หวัง พวกเขาจึงพากันเลียนแบบชายวัยกลางคน คุกเข่าลงร้องขอชีวิต“องค์รัชทายาท พวกข้าน้อยยอมแล้ว พวกข้าน้อยยอมแพ้แต่โดยดีแล้ว ขอพระองค์โปรดไว้ชีวิตพ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 666

    เมื่อเห็นการโจมตีที่ทรงพลัง เหล่าชาวยุทธภพหนานเยวี่ยก็อุทานด้วยความทึ่ง“สมแล้วที่เป็นเจ้าสำนักดาบพิฆาต วิชาดาบช่างทรงพลังยิ่งนัก!”“นึกมิถึงเลยว่า เพียงขั้นกลางระดับปฐพี กลับสามารถระเบิดพลังการต่อสู้ที่น่าสะพรึงเช่นนี้ออกมาได้ วิชาดาบพิฆาตสมชื่อจริง ๆ”“กระบวนท่าของเขา แม้แต่ยอดฝีมือระดับสวรรค์ก็คงมิกล้ารับดาบโดยตรงกระมัง?”“รัชทายาทผู้รอวันปลดนี่ต้องตายแน่ พวกเราคงมาเสียเที่ยวแล้ว”“...”ท่ามกลางเสียงอุทานของฝูงชน ฉินซูกลับเดินทอดน่องสบายอารมณ์ และตบฝ่ามือออกไปช้า ๆเมื่อเห็นภาพนั้น บางคนก็หัวเราะเยาะขึ้นมาทันที“รัชทายาทผู้รอวันปลดนี่คิดจะรับดาบด้วยมือเปล่ารึ? ช่างมิรู้ประสีประสาจริง ๆ!”“รนหาที่ตายก็ดีแล้ว อย่างน้อยความแค้นของแคว้นหนานเยวี่ยของพวกเราจะได้ถูกชำระล้าง”คนอื่น ๆ กำลังจะเอ่ยปากถมถุยตาม ทว่าบัดนั้นเอง...'ปุ้ง!'หลังจากสิ้นเสียงแผ่วเบา ร่างกำยำของเจ้าสำนักดาบพิฆาตก็ระเบิดออกเป็นหมอกเลือด!ทุกคนตกตะลึงกับภาพอันน่าเหลือเชื่อนี้ ต่างยืนงงงันอยู่กับที่ราวกับถูกสาปให้กลายเป็นหินรวมถึงชิวก่วนและพรรคพวกด้วยเช่นกัน!ตบฝ่ามือเดียวทำให้จอมยุทธ์ระดับปฐพีขั้นกลางกลา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 665

    แต่ในวินาทีต่อมา รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็แข็งค้างในทันที ร่างกายสั่นสะท้านก่อนจะหงายหลังล้มตึง!แม้แต่ถานซินหลานที่อยู่ข้าง ๆ ก็มิรอด พลันล้มลงจมกองเลือดด้วยสีหน้าคับแค้นใจร่างของศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสองเต็มไปด้วยรอยเข็มเล็ก ๆ นับมิถ้วนเลือดสีดำสนิทราวกับหมึกค่อย ๆ ไหลซึมออกมาจากบาดแผลเล็กจิ๋วเหล่านั้นทั้งสองสงสัยจนถึงลมหายใจเฮือกสุดท้ายว่า ฉินซูมิได้ขยับนิ้วแม้แต่น้อย เหตุใดเข็มพิษเหล่านั้นถึงพุ่งกลับมาเองโดยไร้สาเหตุเมื่อเดินออกจากตรอก เสียงฝีเท้าอึกทึกก็ดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ พร้อมกับเสียงกีบม้าบาดหู“ใครมาทะเลาะวิวาทกันแถวนี่?”กลุ่มทหารก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าฉินซูพร้อมกับเสียงตวาดดังลั่นคนที่อยู่บนหลังม้าสวมชุดเกราะพร้อมถือหอกยาว ชิวก่วนนั่นเอง!เมื่อเขาเห็นฉินซูก็ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็รีบลงจากม้าเพื่อทำความเคารพ“คารวะองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินซูโบกมือ กล่าว “พวกเจ้ามาได้อย่างไร?”“ข้าน้อยลาดตระเวนยามวิกาลอยู่ทางฝั่งใต้ของเมือง และได้ยินเสียงเคลื่อนไหวทางนี้จึงนำคนมาพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท ข้างนอกอันตราย พระองค์เสด็จกลับเถิดพ่ะย่ะค่ะ”“คนอื่น ๆ อุตส่าห์เดินทางมา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 664

    ฉินซูสะบัดแขน ภาพเหตุการณ์พลันหยุดนิ่ง!เห็นเพียงปลายกระบี่ของมือกระบี่ชุดดำถูกสกัดไว้ด้วยนิ้วชี้ของฉินซู!ปราณแห่งกระบี่รุนแรงที่แผ่ซ่านไปทั่วเมื่อครู่นั้นได้พลันอันตรธานหายไปในบัดดลมือกระบี่ชุดดำเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดผวาในฐานะมือกระบี่ระดับปฐพีขั้นต้น เขาไร้คู่ต่อสู้ในหนานเยวี่ย ทว่าการโจมตีเต็มกำลังในครั้งนี้ กลับถูกอีกฝ่ายปัดป้องได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังใช้นิ้วเพียงนิ้วเดียวสกัดกระบี่ที่ทำจากเหล็กกล้าได้หากมิได้เห็นกับตา ใครเล่าจะเชื่อว่าภาพเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นเรื่องจริง?“เจ้า อ่อนแอเกินไป!”น้ำเสียงเหยียดหยามของฉินซูดังขึ้น จากนั้นก็มีเสียง 'กร๊อบ กร๊อบ' ดังขึ้นสองครา กระบี่ยาวในมือมือกระบี่ชุดดำพลันหักเป็นท่อน ๆมือกระบี่ชุดดำได้สติกลับมาในทันทีพร้อมหมายจะถอยหนี ทว่าบัดนี้กลับรู้สึกถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ทะลวงออกมาจากกระบี่ที่หักนั้น“แย่แล้ว!”รูม่านตาของเขาหดเล็กลงในทันใด ในใจร้องเตือนลางร้ายแต่เขายังมิทันได้ตอบสนองอะไร ร่างทั้งร่างก็ถูกพละกำลังมหาศาลอัดกระแทกจนกระเด็นออกไปส่วนแขนข้างที่เขากำกระบี่ไว้ก็กลายเป็นหมอกโลหิตไปแล้ว'โค

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 663

    ในเวลานี้ ฉินซูกำลังยืนไพล่หลังอยู่บนกำแพงเมืองพระราชวัง มองไปยังแสงไฟนับหมื่นดวงภายในเมืองถัวเฉิง!บัดนี้เขายึดครองแคว้นหนานเยวี่ยได้สำเร็จอย่างราบรื่น ทำให้เขารู้สึกราวกับเป็นราชันแห่งใต้หล้าในขณะนั้นเอง เขาสังเกตเห็นที่ประตูเมืองเบื้องล่าง กลุ่มทหารกำลังคุมตัวชายหลายคนเดินกลับมาเขาถามด้วยความสงสัย “ชิวก่วน พวกนั้นเป็นใคร?”ชิวก่วนตอบด้วยความหนักใจเล็กน้อย “ทูลองค์รัชทายาท ว่ากันว่าพวกนั้นเป็นชาวยุทธภพหนานเยวี่ย พวกเขาได้ยินว่าจ้าวควงตายด้วยน้ำมือของพระองค์ จึงมาที่ยังถัวเฉิงเพื่อลอบปลงพระชนม์แก้แค้นให้แก่ราชวงศ์จ้าวพ่ะย่ะค่ะยามนี้มิทราบแน่ชัดว่าในถัวเฉิงมีผู้ที่มีเจตนาร้ายซุ่มซ่อนตัวรอโอกาสลงมือมากน้อยเพียงใดฉะนั้นขอองค์รัชทายาทโปรดอย่าได้เสด็จออกไปข้างนอกในยามวิกาลเป็นอันขาดพ่ะย่ะค่ะ พระราชวังมีกำแพงสูงคูเมืองลึก อีกทั้งยังมีทหารรักษาการณ์แน่นหนา พวกชาวยุทธภพเหล่านั้นไม่มีทางบุกเข้ามาได้แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินซูก็หัวเราะอย่างสนใจ “ในเมื่อชาวยุทธภพหนานเยวี่ยอยากจะสังหารข้า เช่นนั้นข้าก็จะให้โอกาสพวกเขาสักครา!”ชิวก่วนชะงักไป แล้วรีบห้ามปราม “เช่นนั้นมิคว

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 662

    “ท่านอาจารย์ องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน ฉินซู นำทัพบุกยึดถัวเฉิง เสด็จและเชื้อพระวงศ์ทั้งหมดถูกสังหารด้วยน้ำมือของเขา ทหารรักษาการณ์ในแคว้นก็ยอมจำนนหมดแล้ว บัดนี้ศิษย์เหลือตัวคนเดียว ไร้ซึ่งกำลังและพวกพ้อง ขอท่านอาจารย์โปรดออกหน้าช่วยศิษย์ล้างแค้นให้วงศ์ตระกูลด้วยเถิดเจ้าค่ะ!”จ้าวอวี้เสวียนคุกเข่าลงกับพื้น กล่าวจบก็ร่ำไห้สะอึกสะอื้นด้วยความเศร้าโศกเมื่อได้ยินเช่นนั้น ซู่เสวียนก็ขมวดคิ้วพลางมองจ้าวอวี้เสวียนด้วยความมิพอใจเล็กน้อย“อวี้เสวียน ในเมื่อเจ้าได้เข้าสู่วิถีแห่งสำนักแล้วก็ควรตัดขาดจากตัณหา มุ่งมั่นบำเพ็ญเพียรเพียงอย่างเดียว เจ้าลืมคำสั่งสอนของอาจารย์ก่อนหน้านี้สิ้นแล้วหรือ?”จ้าวอวี้เสวียนกล่าวทั้งน้ำตา “ท่านอาจารย์ คำพูดของท่าน ศิษย์จดจำไว้ในใจเสมอ เพียงแต่ญาติสนิททั้งตระกูลถูกสังหารอย่างอนาถ ความแค้นใหญ่หลวงเช่นนี้หากมิได้ชำระ เกรงว่าภายหน้าต่อไปจะกินมิได้นอนมิหลับ ไหนเลยจะมีจิตตั้งมั่นบำเพ็ญเพียรบรรลุเซียนได้”“เจ้า… เฮ้อ!”ซู่เสวียนถอนหายใจยาว และหันหลังกลับไปด้วยความผิดหวังเล็กน้อยเมื่อเห็นเช่นนั้น จ้าวอวี้เสวียนก็อ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ท่านอาจารย์ โปรดช่วยศิษย์ด้ว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status