Share

บทที่ 124

Author: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ใบหน้าของฉงชูโม่พลันมืดมน นางจ้องเขม็งไปที่ฉินซูด้วยความดุดัน

ฉินซูทำท่าทีราวกับมิกลัวอันตรายใด เขาพูดด้วยน้ำเสียงเอาจริงเอาจังว่า “โธ่เมียรัก ท่านนี้คือคุณชายจากจวนผู้ว่าการมณฑล เรามิอาจล่วงเกินได้จริง ๆ เจ้าก็แค่ตามเขาไปสักหน่อยเถิด อย่าได้ทำให้ข้าลำบากเลย”

"ท่าน..." ฉงชูโม่โกรธจนแทบระเบิด

นางกลอกตาไปมา แล้วจู่ ๆ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็เผยขึ้นบนใบหน้า

"ได้ เจ้าคนใจดำ ข้าถูกคนรังแก ท่านกลับนิ่งเฉยมิสนใจ เช่นนั้นรอดูไปเถอะ!"

นางหันไปพูดกับหูก่วงเผิง "คุณชายหู หากท่านช่วยข้าสั่งสอนเจ้าสามีใจดำคนนี้ให้ข้า ข้าก็จะยินยอมตามท่านไปแต่โดยดี"

"เจ้าพูดจริงหรือ?!" หูก่วงเผิงแทบมิเชื่อหูตัวเอง

ฉงชูโม่พยักหน้าจริงจัง "จริงแท้แน่นอน คนใจจืดใจดำเยี่ยงเขา ข้าคิดจะลาจากไปตั้งนานแล้ว"

หูก่วงเผิงดีใจจนตัวแทบลอย เขารีบตอบรับทันทีว่า "ไม่มีปัญหา ข้าจะสั่งสอนเขาให้เจ้าอย่างสาสมทีเดียว!"

เขาโบกมือใหญ่ของเขา พลางสั่งว่า "ท่านอาจาง หักขาเจ้าหนุ่มนี่แล้วโยนมันทิ้งที่นอกเมืองเสียเถอะ ปล่อยให้เผชิญยถากรรมเอาเอง"

“ได้!” จางเฉวียนรับคำแล้วก้าวเท้าตรงเข้าหาฉินซู

ฉินซูขมวดคิ้วและหันไปพูดกับฉงชูโ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 125

    หากคนธรรมดา ถูกจางเฉวียนโจมตีเพียงครั้งเดียว กระดูกคงหักในทันทีแต่สำหรับฉงชูโม่แล้ว ท่าทางที่ดูแข็งแกร่งและดุดันของจางเฉวียนนั้น เป็นเพียงการแสดงปาหี่เท่านั้นนางมิอยากเสียเวลาอีกต่อไป จึงฝ่ามือฟาดออกไปโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า“ปัง!!”ร่างของจางเฉวียนพลันลอยขึ้นไปกลางอากาศ และหล่นลงไปอย่างแรงที่ระเบียงนอกห้อง! เขาพยายามตะเกียกตะกายจะลุกขึ้น แต่ร่างกายเหมือนจะแหลกละเอียด และมิสามารถขยับได้เลยแต่ที่ทำให้เขาตกใจยิ่งกว่านั้นคือ เขารู้สึกว่าลมปราณในกายปั่นป่วนอย่างรุนแรง และมิสามารถควบคุมลมปราณได้ เขากระอักเลือดออกมาคำใหญ่!ภาพนี้ทำให้หูก่วงเผิงและพรรคพวกถึงกับตะลึงงัน! พวกเขารู้ดีถึงความแข็งแกร่งของจางเฉวียน ซึ่งเป็นถึงจอมยุทธขั้นสูงสุดระดับซวน แต่ตอนนี้จอมยุทธขั้นสูงสุดระดับซวนผู้นี้ กลับถูกหญิงสาวที่ดูไม่มีแรงแม่แต่จะฆ่าไก่คนนี้ซัดจนกระเด็น และยังดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บภายในอีกด้วย!หากมิได้เห็นกับตาตัวเอง พวกเขาคงไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด!ฉงชูโม่ตบมือเบา ๆ สองสามที แล้วกล่าวอย่างดูถูกว่า “ไสหัวไปซะ หากยังกล้ามาวุ่นวายอีก ตาย!”หูก่วงเผิงที่เพิ่งรู้สึกตัวอยากจะเอ่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 126

    หูก่วงเผิงบ่นพึมพำอย่างโกรธแค้นว่า "นางแพศยา คอยดูเถอะ คืนนี้ข้าคุณชายผู้นี้จะทำให้เจ้าเชื่อฟังอย่างดีเลย!" เมื่อพูดจบ เขาก็นำพรรคพวกออกไปในโรงเตี๊ยม ฉงชูโม่เรียกเสี่ยวเอ้อร์เข้ามา เมื่อเห็นว่าฉงชูโม่และฉินซูก็ยังอยู่ดีไม่มีอันตราย เสี่ยวเอ้อร์ก็ทำหน้าประหลาดใจอย่างมากฉินซูเลิกคิ้วแล้วถามว่า "พี่เสี่ยวเอ้อร์ เหตุใดเจ้าจึงมองเราด้วยสายตาเช่นนี้เล่า?""หา… หามิได้ขอรับ ข้าน้อยเพียงแต่รู้สึกเหลือเชื่อเล็กน้อยเท่านั้น""โอ้? ไยถึงพูดเช่นนั้นเล่า?"เสี่ยวเอ้อร์มองไปรอบ ๆ ก่อนหันไปมองนอกประตู เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ด้านนอก จากนั้นเขาจึงลดเสียงลงแล้วพูดว่า "คุณชายอาจจะมิทราบมาก่อน คุณชายหูเป็นคนยโสโอหังและเจ้าเผด็จการ ในเมืองหลงโย่วนี้ มีสตรีจากตระกูลดี ๆ หลายคนถูกเขาล่วงละเมิด ผู้ใดกล้าขัดใจเขา ไม่มีใครมีจุดจบที่ดีสักคน ข้าน้อยเห็นว่าพวกท่านมีปัญหากับเขา แต่กลับยังคงปลอดภัยดี จึงรู้สึกว่าเหลือเชื่อน่ะขอรับ"ฉงชูโม่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า "สตรีที่ถูกเขาล่วงละเมิด พวกนางมิไปแจ้งความหรือ?""เฮ้อ บิดาของเขา หูเฟิงเป็นถึงผู้ว่าการมณฑลของหลงโย่ว หากไปแจ้งความ นั่น

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 127

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ห้าปีแล้ว ในที่สุดก็มีข่าวของเขา!ฉินซูถามด้วยความสงสัยว่า "เหตุใดพวกเจ้าถึงเรียกเขาว่าสวีผู้ผดุงธรรม?" เสี่ยวเอ้อร์ก็เริ่มเล่าเรื่องราวอย่างลื่นไหลทันทีเรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อหนึ่งปีก่อน มีหมู่บ้านนอกเมืองหลงโย่วถูกกลุ่มโจรภูเขาบุกปล้น ชาวบ้านหลายคนถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม และทรัพย์สินทั้งหมดก็ถูกโจรปล้นไป ทางการส่งกองทหารออกไปปราบ แต่พวกโจรหลบหนีเข้าไปในภูเขาลึก จับตัวมิได้นับแต่นั้นมา พวกโจรภูเขาก็ออกมาอาละวาดเป็นระยะ ๆ เหตุการณ์ที่สร้างความวุ่นวายที่สุดครั้งหนึ่ง คือพวกโจรปะทะกับทหารที่ประจำการในเมือง ผลลัพธ์คือทั้งสองฝ่ายต่างมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ไม่มีฝ่ายไหนได้เปรียบ หลังจากนั้นสองเดือน โจรเหล่านั้นก็กลับมาบุกอีกครั้ง และทหารที่ประจำการในเมืองก็ออกไปต่อสู้ แต่ใครจะคาดคิดว่า นั่นเป็นกับดักของพวกโจรภูเขา เมื่อพวกทหารไล่ตามไปถึงเนินเขาสิบหลี่ พวกโจรที่ซุ่มอยู่ก็ปรากฏตัวออกมาล้อมพวกทหารเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าทหารเหล่านั้นถูกล้อมและกำลังจะถูกสังหาร แต่ในตอนนั้นเอง ชายผู้กล้าหาญคนหนึ่งก็ปรากฏตัวราวกั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 128

    ฉินซูพูดโดยมิต้องคิด “แทนที่จะไปหาตัวเขา สู้ทำเรื่องที่นี่ให้เอิกเกริกขึ้นหน่อย แล้วเขาจะมาหาเราเอง”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเห็นด้วยกับความคิดของฉินซู "ได้ งั้นทำตามที่ท่านว่า เช่นนั้นพวกเรามาก่อเรื่องใหญ่กันเถอะ!" เมื่อเห็นนางแสดงท่าทางร้อนใจเช่นนั้น ฉินซูก็พูดอย่างหมดความอดทนว่า "ตัวการยังมิมาเลย เจ้าจะร้อนใจหาปะไร รอให้พวกเขามาก่อนเถอะ ถึงตอนนั้นเจ้าก็แค่ปล่อยให้ตัวเองไปวุ่นวายเท่านั้น ถ้าเรื่องแพร่กระจายออกไป เจ้าคิดหรือว่าสวีหลายจะมิโผล่มาเอง" ฉงชูโม่ถอนหายใจเบา ๆ แล้วก็นั่งลง ฉินซูหันไปถามเสี่ยวเอ้อร์ว่า "เมื่อครู่ข้าขึ้นบันไดมา ข้าสังเกตว่าที่นี่ดูเหมือนจะมีที่พักด้วยใช่หรือไม่?" "มีขอรับ แขกผู้มีเกียรติ ที่ชั้นสามและชั้นสี่เป็นห้องพักทั้งหมด และเป็นห้องชั้นดีทั้งสิ้น หากท่านทั้งสองต้องการ ข้าน้อยจะจัดการให้เดี๋ยวนี้ขอรับ" "ดี ไปเถอะ" ฉินซูมิอยากเสียเวลาไปหาที่พักที่อื่นแล้ว มินานนัก ฉินซูกับฉงชูโม่ก็ขึ้นไปยังชั้นสาม และแยกกันเข้าห้องพักของตัวเอง ขณะที่ฉินซูกำลังจะเอนกายลงนอน ก็มีคนเปิดประตูเข้ามาอย่างกะทันหัน เขา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 129

    มิทันที่ฉินซูจะพูดจบ ฉงชูโม่ก็ขมวดคิ้วแล้วขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย "หากท่านพูดปลอบใจมิเป็น ก็อย่าพูดเลย ฟังท่านพูดจบ หม่อมฉันยิ่งรู้สึกแย่กว่าเดิมอีก" ฉินซูยักไหล่ "เช่นนั้นข้ามิพูดแล้ว เหล้านี่ก็แย่เกินจะดื่ม ข้าขอมิดื่มกับเจ้าแล้วกัน เดินทางมาตั้งไกล ข้าของีบสักหน่อยก่อน" พูดจบ ฉินซูก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงและหลับตาพักผ่อน ฉงชูโม่จ้องมองเขาด้วยความมิพอใจ ก่อนจะหันกลับมาดื่มเหล้าต่อไปเพียงคนเดียว มิรู้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่จู่ ๆ ฉินซูก็ได้กลิ่นหอมละมุนลอยมาจากข้างกายเขาลืมตาขึ้น แต่แล้วก็ต้องตกใจจนตาเบิกกว้าง! ฉงชูโม่นอนอยู่ข้างเขา! มิเพียงแค่นั้น นางยังพลิกตัวพาดแขนขาวเนียนเหมือนรากบัวมาพาดไว้ที่คอของเขาอีกด้วย ร่างกายที่นุ่มนวลและอบอุ่นของนางแนบชิดกับเขาเต็มที่เมื่อได้สัมผัสถึงความอุ่นที่แผ่มาจากร่างของนาง ฉินซูรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ เลือดลมในร่างกายพลันร้อนระอุ เขากลืนน้ำลายแล้วพูดกระซิบเบา ๆ "ชูโม่ ชูโม่ เจ้าตื่นสิ..." ฉงชูโม่ที่กำลังเมามายพูดเสียงอ้อแอ้ "อือ... ท่านจะอะไรนักหนา น่ารำคาญ อย่ากวนสิ" "มิใช่ ไยเจ้ามานอนเตียงข้าเล่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 130

    เมื่อริมฝีปากของทั้งสองได้สัมผัสกัน ฉงชูโม่ถึงกับมึนงงไปทันที ในขณะนั้นสมองของนางว่างเปล่า หัวใจเต้นรัวอย่างมิรู้ตัว ฉินซูเองก็ถูกการกระทำที่มิทันตั้งตัวของฉงชูโม่ทำให้ตกใจเช่นกัน เมื่อสติกลับคืนมา ดวงตาของเขาเบิกกว้าง เต็มไปด้วยความตกตะลึงทั้งสองคนต่างนิ่งค้างอยู่อย่างนั้นสักพัก ฉงชูโม่ก็เริ่มรู้สึกตัว ใบหน้านางเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ก่อนที่จะคิดถอยออกไป แต่ในตอนนั้นฉินซูโอบรัดเอวนางไว้ แล้วจุมพิตอย่างลึกซึ้งและอ่อนโยน แรกเริ่ม ฉงชูโม่ยังคงพยายามผลักเขาออกตามสัญชาตญาณ แต่ภายใต้การรุกของฉินซู นางพบว่าร่างกายของนางอ่อนยวบไปหมด ไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อต้านแม้แต่น้อย พร้อมกันนั้น นางยังรู้สึกว่า ความรู้สึกนี้ช่างน่าพิศวงนักจนอดมิได้ที่จะโอนอ่อนตามไป สองแขนงามประหนึ่งหยกของนางคล้องคอฉินซูไว้โดยมิรู้ตัวเมื่อได้รับการตอบสนองจากฉงชูโม่ ฉินซูก็โอบรัดนางและล้มตัวลงบนเตียงไปตามธรรมชาติใบหน้าของฉงชูโม่แดงซ่านราวกับกลีบเมฆที่ต้องแสงอาทิตย์อัสดงภายใต้จูบของฉินซู ร่างของนางอ่อนระทวยราวกับคล้ายกับธารน้ำใสที่ดูเหมือนค่อย ๆ หลอมละลาย ฉินซูไปด้วยฉินซูจูบไปพลาง มือทั้งสองข้างไ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 131

    คนนี้มิใช่ใครอื่น นอกจากลูกน้องของหูก่วงเผิงที่ชื่อหวังอู่“ว่ามา คุณชายของเจ้าตอนนี้อยู่ที่ใด?”หวังอู่กัดฟันแน่น ส่ายหัวมิหยุด“มิพูดใช่หรือไม่? ดีมาก ข้าจะดูว่าเจ้าจะปากแข็งได้นานแค่ไหน”ฉงชูโม่แสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย ยกเท้าขึ้นอีกครั้งหวังอู่ตกใจกลัว รีบพูดว่า “ท่านจอมยุทธหญิงโปรดไว้ชีวิต ไว้ชีวิตด้วย คุณชายของพวกเราอยู่ที่โรงเตี๊ยมที่ท่านพักอาศัย รอให้พวกท่านถูกพิษสลบแล้วจะพังประตูเข้ามา…”“ดีเลย จะได้มิต้องไปหาเขาที่จวนผู้ว่าการมณฑล!”ได้ยินคำพูดของฉงชูโม่ หวังอู่ถึงกับตกตะลึงเขาประหลาดใจมากว่า เหตุใดอีกฝ่ายถึงกล้าหาญเพียงนี้ ทั้งที่รู้ว่าหูก่วงเผิงเป็นบุตรชายของผู้ว่าการมณฑล แต่ยังกล้าที่จะต่อต้านฉงชูโม่เตะด้วยขาเพียงครั้งเดียว หวังอู่ก็เหมือนว่าวที่เชือกป่านขาด พลันลอยละลิ่วออกไปจากนั้นก็ตกลงมาจากชั้นสามของโรงน้ำชา มิรู้ว่าเป็นหรือตายฉงชูโม่ก็ก็เคลื่อนไหวร่างกาย เหาะกลับไปที่โรงเตี๊ยมอย่างรวดเร็วในเวลาเดียวกันประตูห้องที่ฉินซูอยู่นั้นก็ถูกคนข้างนอกเตะจนเปิดออกชายร่างใหญ่หลายคนกระโดดเข้ามาผู้นำมิใช่ใครอื่นนอกจากหูก่วงเผิง!เขาเพิ่งเข้ามา ก็เห็นฉินซูที่ยังก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 132

    หนึ่งในนั้นตะโกนเสียงเข้มว่า “เจ้าอย่าทำอะไรบุ่มบ่าม คุณชายของเราเป็นบุตรชายคนเดียวของผู้ว่าการหูโจว หากเขาเป็นอะไรไป เจ้ามีชีวิตอีกร้อยชีวิตก็ยังชดใช้มิพอ!”“งั้นก็ลองดูสิ!”ฉงชูโม่หน้าเปลี่ยนสีและกำลังจะลงมือทันใดนั้น ฉินซูก็ลุกขึ้นยืนและโบกมือว่า “ชูโม่ ช่างเถอะ อย่าฆ่าเขาเลย!”ฉงชูโม่ขมวดคิ้วและถามด้วยความสับสน “เขาหาเรื่องเรามาหลายครั้งแล้ว แถมยังวางยาพิษอีก เหตุใดต้องปล่อยเขาไปง่าย ๆ เช่นนี้?”ก่อนที่ฉินซูจะตอบ หูก่วงเผิงก็ฝืนความเจ็บปวดและพูดขึ้นก่อนว่า “เจ้าหนู ตอนนี้รู้สึกกลัวขึ้นมาแล้วใช่หรือไม่? สายไปแล้ว! ข้าบอกเจ้าไว้เลย เรื่องนี้ยังมิจบ พวกเจ้าสองคนเตรียมตัวติดคุกได้เลย รอข้าหายดีก่อนเถอะ ข้าจะคิดบัญชีกับพวกเจ้าทีละเรื่อง!”ฉินซูพูดอย่างมิใส่ใจว่า “ฆ่าคนก็แค่ตัดหัว ทว่าหากปล่อยให้เจ้าตายง่าย ๆ เช่นนั้นก็คงเสียเปล่า”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หัวใจของหูก่วงเผิงก็จมดิ่งลง และลางสังหรณ์ที่มิดีก็ผุดขึ้นมาฉินซูพยักหน้าไปทางฉงชูโม่ แล้วพูดเบา ๆ ว่า “ไว้ชีวิตสุนัขอย่างเขา ให้เขาได้ลิ้มรสชาติของการเป็นขันทีเถอะ”ฉงชูโม่ยิ้มและพยักหน้า มองไปที่หูก่วงเผิงด้วยสายตาเย็นชาร่างก

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 707

    ฉงชูโม่พยักหน้าหนักแน่น “ถูกต้องแล้วเพคะ เรื่องนี้มิใช่แค่ข้าน้อยคนเดียวที่เห็นกับตา ทหารทั้งสามทัพหลายนายก็เห็นเช่นกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของฉินอู๋ต้าวก็มิสู้ดีขึ้นมาทันตาอดีตองค์รัชทายาทสำมะเลเทเมาบัดนี้กลับสร้างคุณงามความดีครั้งยิ่งใหญ่ อีกทั้งวรยุทธ์ก็ยังลึกล้ำเกินหยั่งถึง นี่มัน… เกินความคาดหมายของเขาไปมาก!ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาคิดว่าเบื้องหลังฉินซูต้องมียอดฝีมือคอยชี้แนะแต่จากที่เห็นในเวลานี้ ยอดฝีมือที่ว่านั้น แท้จริงแล้วก็คือฉินซูเองกล่าวคือ ฉินซูมิเพียงแต่มีกลยุทธ์ที่เหนือชั้น แต่วรยุทธ์ก็ยังก้าวเข้าสู่ระดับที่น่าตกตะลึงซ้ำร้ายฉินซูยังจงใจปิดบังวรยุทธ์ของตนอีกด้วย!เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ความระแวงที่ฉินอู๋ต้าวมีต่อฉินซูก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเห็นฉินอู๋ต้าวนิ่งอึ้งไป ฉงชูโม่ก็กล่าวต่ออย่างมีนัยแฝงว่า “ฝ่าบาท ข่าวลือเรื่ององค์รัชทายาททรงทักษะยอดเยี่ยม เกรงว่าอีกมินานคงจะแพร่สะพัดไปทั่วหลงเฉิงเพคะแต่ก็ดีเหมือนกันเพคะ เหล่าคนชั่วที่คิดจะลอบสังหารองค์รัชทายาทจะได้ประมาณตนก่อนจะลงมือ เช่นนี้แล้ว ก็จะได้มิต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยขององค์รัชทายาทให้มา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 706

    สวี่จิ้นเสนาบดีกรมโยธาธิการกล่าวว่า “องค์รัชทายาท พระองค์ได้นำหนานเยวี่ยทั้งเจ็ดมณฑลสามสิบแปดเมืองมาอยู่ภายใต้ต้าเหยียนของเรา คุณูปการอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ สมควรได้รับการประทานเครื่องยศเก้าประการแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฉินซูส่ายหน้าเล็กน้อย “ใต้เท้าสวี่ ท่านกล่าวผิดแล้ว มีคำกล่าวว่า ใต้หล้าไพศาลล้วนเป็นแผ่นดินขององค์จักรพรรดิ บนแผ่นดินนี้ล้วนเป็นข้ารองพระบาทขององค์จักรพรรดิ ข้าในฐานะองค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน ย่อมถือเอาความผาสุกของราษฎรเป็นภารกิจของตน ทุกสิ่งที่ทำล้วนเป็นหน้าที่”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉินซูก็ประสานมือคำนับฉินอู๋ต้าวอีกครั้ง “เสด็จพ่อ ดังนั้นรางวัลอันยิ่งใหญ่อย่างเครื่องยศเก้าประการนี้ลูกมิกล้ารับไว้จริง ๆ หวังว่าเสด็จพ่อจะทรงเข้าพระทัยพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหล่าขุนนางระดับสูงก็อุทานด้วยความประหลาดใจอีกครั้งรางวัลอันยิ่งใหญ่เช่นเครื่องยศเก้าประการนี้ องค์รัชทายาทกลับปฏิเสธจริง ๆ หรือ?ต้องเท้าความว่า หากฉินซูในฐานะเป็นองค์รัชทายาทรับรางวัลนี้ ในภายภาคหน้า สถานะความสำคัญของเขาในสายตาของขุนนางและราษฎรแห่งต้าเหยียนก็แทบจะเทียบเท่ากับฉินอู๋ต้าวผู้เป็นองค์จักรพรรดิได้เลยทีเ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 705

    ฉงชูโม่กำลังจะกล่าวต่อ แต่กลับสังเกตเห็นว่าฉินซูกำลังส่ายหน้าให้นางเล็กน้อยเมื่อเห็นดังนั้น คิ้วเรียวก็ขมวดเล็กน้อยด้วยความสงสัยจากนั้นเสียงของฉินซูก็ดังขึ้นในหูของนาง “สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว หลักฐานสำคัญหายไป”ฉินซูใช้วิชาแห่งกระแสจิต ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตได้นอกจากฉงชูโม่เมื่อได้ยินถ้อยคำของฉินซู แววตาของฉงชูโม่ก็พลันไหววูบ จากนั้นจึงกล่าวกับฉินอู๋ต้าวว่า “ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยไม่มีสิ่งใดจะกล่าวทูลแล้วเพคะ”เมื่อเห็นเช่นนั้น ฉินอู๋ต้าวก็มองฉงชูโม่ด้วยความสงสัยผาดหนึ่งแล้วหันไปมองฉินซูแทน“องค์รัชทายาท รายงานเรื่องคลังหลวงของหนานเยวี่ยหน่อยซิ”“ลูกน้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินซูประสานมือแล้วพูดต่อ “ทูลเสด็จพ่อ ในการตรวจค้นคลังหลวงของหนานเยวี่ยครั้งนี้ ลูกพบผ้าไหมแพรพรรณสูงค่ามากมายนับมิถ้วน เงินแท้รวมทั้งสิ้นสิบสามล้านกว่าตำลึง ทองคำสองล้านตำลึง เสบียงอาหารก็มีมากถึงเกือบแสนต้านพ่ะย่ะค่ะ”“ลูกได้จัดสรรเงินจำนวนหนึ่งล้านตำลึงจากทั้งหมดในพระนามของเสด็จพ่อ เพื่อใช้เป็นรางวัลแก่ทหารทั้งสามทัพ ส่วนพืชพรรณธัญหารก็ได้สั่งให้คนนำกลับไปเก็บไว้ที่เจียวโจวแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ยังมีอีกเรื่

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 704

    ฉินอู๋ต้าวผงกศีรษะให้ฉินอวี่เล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “อ๋องฉู่ ในเมื่อชูโม่เข้าใจตัวเจ้าผิดไป เจ้าก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้งเถิด”“ลูกรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินอวี่ประสานมือคำนับ แล้วกล่าวช้า ๆ ว่า “ชูโม่ ตอนที่ลงใต้ไปยังเจียวโจว ยามนั้นข้าประมาทเลินเล่อ ถูกคนสนิทขโมยตราประจำตัวไป ภายหลังจึงได้ทราบว่าเจ้าคนสารเลวนั่นถูกเติ้งหม่างซื้อตัวไปนานแล้วแม้แต่หูก่วงเซิงและคนอื่น ๆ ก็ยังแปรพักตร์ไปเข้าข้างหนานเยวี่ย กว่าข้าจะรู้ตัวทัพหนานเยวี่ยก็บุกเข้าประตูเมืองเจียวโจวแล้วด้วยความจำเป็น ข้าจึงต้องถอยกลับมาก่อน จากนั้นก็เดินทางทั้งวันทั้งคืน เมื่อกลับมาถึงหลงเฉิงก็รีบทูลเรื่องนี้ให้เสด็จพ่อทรงทราบในทันที”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็แค่นยิ้มหยันทันที “ท่านอ๋องฉู่ ท่านทรงคิดว่าแค่โยนความผิดทั้งหมดไปให้คนสนิทขอท่านแล้วเรื่องก็จะจบลงง่าย ๆ เช่นนั้นหรือ?”ฉินอวี่โต้กลับว่า “สิ่งที่ตัวข้าพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง จะเรียกว่าโยนความผิดได้อย่างไร?”ฉงชูโม่มิได้โต้เถียงกับเขาต่อ แต่หันไปกล่าวกับฉินอู๋ต้าวว่า “ฝ่าบาท ที่ทะเลตงไห่ ท่านอ๋องฉู่...”ยังมิทันที่นางจะพูดจบ ขันทีน้อยคนหนึ่งก็วิ่งเข้าม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status