สาแก่ใจ!สาแก่ใจเกินไปแล้ว!น่าเสียดาย เซียวเม่ยเอ๋อร์เป็นเพียงองค์หญิงคนหนึ่ง!หากเป็นหัวหน้าชนเผ่าของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือคุกเข่าหน้าป้ายวิญญาณกองทัพสกุลซู นี่ถึงจะนับว่าสาแก่ใจจริงๆ!“ไสหัวไปเถอะ!”หลี่หลงหลินเก็บวิหคมังกรแห่งต้าเซี่ย สีหน้าเย็นชาหลี่จือและเซียวเม่ยเอ๋อร์ขายหน้า จากไปคล้ายกำลังหลบหนีก็มิปาน“ใช่แล้ว!”หลี่หลงหลินยิ้มเย็นออกมา “ข้าขอเดิมพันกับพวกเจ้า! งานแต่งของพวกเจ้า ไม่มีวันจัดได้! เชื่อหรือไม่?”หลี่จือถูกประโยคนี้ทำให้โมโหแล้ว “เจ้าเก้า เจ้าโอหังเกินไปแล้ว...”ยังพูดไม่จบ ก็ถูกเซียวเม่ยเอ๋อร์ลากออกไปแล้วผู้กล้าไม่ยอมให้ใครดูถูก!ล่วงเกินหลี่หลงหลินตอนนี้ ไม่มีข้อได้เปรียบอะไร!หลังทุกคนแยกย้ายไปแล้วหลี่หลงหลินเข้ามาในศาลบรรพบุรุษ จุดธูปให้วีรบุรุษผู้กล้าสกุลซู โขกคำนับอย่างเคารพนับถือซูเฟิ่งหลิงไม่รู้มาถึงหน้าประตูตั้งแต่ยามใด เปล่งเสียงแผ่วเบา “องค์ชายเก้า ขอบคุณท่าน...”หากไม่ใช่หลี่หลงหลินยื่นมือออกมา วันนี้สกุลซูจะต้องขายหน้า ตกตะลึงเสียขวัญ!ชนิดที่ว่า ขวัญกำลังใจของต้าเซี่ย จะได้รับผลกระทบไปด้วย“หรือว่าท่านไม่คิดว่า...”“แปลกมา
ความเห็นนี้ของลั่วอวี้จู๋ กลับไม่ถือว่าเป็นความผิดช่วงเวลาของการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง ก็คือช่วงเวลาที่ราคาข้าวต่ำที่สุดของปีปีหน้ากองทัพสกุลซู จะต้องจัดทัพ ออกไปปราบชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือทหารม้าไม่เคลื่อนไหว ธัญพืชเดินทางไปก่อนแม้พูดว่าธัญพืชเป็นความรับผิดชอบของราชสำนักแต่ตนเองเตรียมตัวล่วงหน้า เตรียมการให้พรักพร้อมก่อนเวลา ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร!อย่างไรเสียราชสำนักในเวลานี้ แม้แต่เงินชดเชยของเหล่าทหารก็ไม่สามารถแจกจ่ายได้ ไม่อาจพึ่งพาได้อย่างแท้จริง!“ช้าก่อน!”จู่ๆ หลี่หลงหลินก็กระตือรือร้นขึ้นมา จับมือหยกบอบบางของลั่วอวี้จู๋ไว้แน่นใบหน้าอ่อนโยนของลั่วอวี้จู๋แดงเรื่อ พูดเสียงค่อย “องค์ชาย ท่านกำลังทำอะไร? รีบปล่อยเร็วเข้า! ถูกคนอื่นเห็นจะไม่ดี!”หลี่หลงหลินรู้ว่าตนเองเสียอาการไป รีบคลายมือลั่วอวี้จู๋ออก “พี่สะใภ้ใหญ่ เมื่อครู่ท่านพูดว่าอะไร? สามารถพูดอีกครั้งได้หรือไม่ สำคัญมากนัก!”ลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้ว “ข้าเองก็ไม่ได้พูดอะไรพิเศษ พูดว่าพวกเราน่าจะกักตุนธัญพืช”หลี่หลงหลินรีบพูด “ประโยคก่อนหน้า...”ลั่วอวี้จู๋ใคร่ครวญครู่หนึ่ง “ข้าพูดว่าระยะนี้ธัญพืชขึ้
“พอดี พวกเขาปล้นทองเหลืองเงินขาวมากมายที่แดนเหนือ ยังมีเงินอีกด้วย!”“แน่นอนว่าต้องคิดหาหนทาง นำเงินทองชุดนี้เข้ามา ไปซื้อธัญพืช!”สีหน้าลั่วอวี้จู๋ตกตะลึงพรึงเพริด “คณะทูตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ? ท่านหมายความว่า พวกเขาใช้คณะทูตปิดบัง นำทรัพย์สินที่ปล้นจากแดนเหนือ ทั้งหมดขนส่งมายังต้าเซี่ยเพื่อซื้อธัญพืช?”หลี่หลงหลินพยักหน้า เปล่งเสียงเครียด “นี่ก็คือภารกิจที่แท้จริงของคณะทูตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ! เพื่อทำให้ภารกิจนี้สำเร็จ พวกเขาจะต้องทำทุกวิธี อยู่ที่ต้าเซี่ยไม่ยอมจากไป!”ลั่วอวี้จู๋ตกตะลึงพรึงเพริดจนไม่มีอะไรให้พูดเสริมอีก ดวงตาเบิกกว้างเดิมทีต้าเซี่ยก็ขาดแคลนธัญพืช!กอปรกับมีผู้ลี้ภัยมาจากแดนเหนือหนึ่งแสนคน ต่อให้รวมธัญพืชทั้งหมดแล้ว ก็ยังกระเบียดกระเสียรหนัก ไม่หิวตายก็ไม่เลวแล้ว!ในช่วงเวลาสำคัญนี้ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือถึงขั้นอ้างการแต่งงาน แท้จริงแล้วเพื่อมาซื้อธัญพืชธัญพืชปริมาณมาก เข้าสู่ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือเช่นนั้นต้าเซี่ยจะทำเยี่ยงไร?จะต้องมีคนมากมายหิวตาย!คนหิวตายมากมายนับหมื่นลี้ แลกลูกประทังชีวิต ไม่ใช่เรื่องเกินจริง!น่าแค้นใจที่สุดคื
ลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้ว ใคร่ครวญครู่หนึ่ง พยักหน้าเห็นด้วยถ้อยคำนี้ของหลี่หลงหลิน ไม่ใช่กำลังทำให้คนตกใจหากราชสำนักเข้าร่วมด้วย ตรงข้ามกันอาจเกิดความโกลาหลชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือจะฉวยโอกาสนี้ก่อความไม่สงบ ดึงราคาธัญพืชให้สูงขึ้นราษฎร์ซื้อธัญพืชราคาสูงไม่ไหว เว้นเสียแต่ก่อกบฏแล้ว ก็ไม่มีทางเลือกอื่นลั่วอวี้จู๋พูดเสียงสั่น “เช่น...เช่นนั้นพวกเราจะทำเยี่ยงไร? หรือว่า ทำได้เพียงรอความตาย? รอดูชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือก่อความไม่สงบ ขโมยธัญพืชของต้าเซี่ยไป?”หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ “ไม่! ที่พวกเราต้องทำนั้นง่ายมาก! นำเงินทุนทั้งหมดของภูเขาทิศประจิมออกมา ช่วงชิงธัญพืชกับชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ!”ลั่วอวี้จู๋ลังเลอยู่บ้าง “องค์ชายเก้า ทำเช่นนี้ จะได้แน่หรือ? หรือว่า จะไม่ทำให้ราคาธัญพืชสูงขึ้น?”หลี่หลงหลินมั่นใจมาก พูดยิ้มๆ “พี่สะใภ้ใหญ่วางใจเถอะ! ทำตามคำสั่งข้า พวกเราจะต้องชนะ! จำไว้ นี่คือสงครามการแย่งชิง!”ร่างอรชรของลั่วอวี้จู๋สั่นสะท้าน สีหน้าเคร่งขรึมไม่ผิด!นี่คือสงครามการแย่งชิง!การค้าดุจสนามรบยิ่งไปกว่านั้นยังเกี่ยวข้องกับความเป็นตายของราษฎร์มากมายในต้าเซี่ย!จะต
ฮ่องเต้หวู่พูดอย่างไม่สบอารมณ์ “รับซื้อธัญพืชก็คือก่อกบฏ! เช่นนั้นคนทั่วหล้า ยังจะมีคนดีอยู่อีกหรือ! ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าเก้าพูดกับเราตั้งแต่แรกแล้ว วางแผนกักตุนธัญพืชและหญ้า ปีหน้าจะไปปราบชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ!”“เจ้าเก้านี่คือกำลังขจัดความกังวลแทนเรา!”เว่ยซวินไม่พูดมากอีก โค้งคำนับ “กระหม่อมน้อมรับพระราชโองการ!”อย่างไรเสียผู้ตรวจการก็เป็นขุนนางบุ๋น ปลดออกหรือไม่ เกี่ยวอันใดกับขันทีคนหนึ่งอย่างข้ากันเล่า?แท้จริงแล้ว เว่ยซวินอยากปลดผู้ตรวจการออกอีกสองสามคนด้วยซ้ำหลีกเลี่ยงมิให้พวกเขาเป็นแมลงวัน ส่งเสียงหึ่งๆ ทั้งวัน ซ้ายก็พูดว่าสุนัขถูกตอน ขวาก็พูดว่าขันทีบัดซบ คิดๆ ดูแล้วก็อึดอัดรำคาญใจ.........ณ จวนองค์ชายสี่นับตั้งแต่หลี่จือและเซียวเม่ยเอ๋อร์กำหนดการแต่งงานแล้วคณะทูตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือก็ย้ายออกจากเสนาบดีกรมพิธีการทูต เข้ามาอยู่ในจวนขององค์ชายสี่อ้างเหตุผลน่าฟัง ทั้งคู่ต้องการสานสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นแท้จริงแล้ว เพราะเสนาบดีกรมพิธีการทูตมีคนมาก เรื่องที่ไม่สามารถทำอย่างเปิดเผยออกมาได้มากมาย ย่อมไม่สะดวกไปทำเทียบกับจวนขององค์ชายสี่แล้ว ปลอดภัยมากก
ล้อรถสั่นสะเทือนรถม้าหรูหรานับสิบกว่าคัน กำลังมุ่งหน้าสู่ภูเขาทิศประจิมเจ้าของร้านแต่ละคนล้วนสวมใส่ผ้าไหม ลงจากรถม้า รวมตัวกันที่ห้องรับแขก สนทนาทักทายปราศรัยกัน“เจ้าของร้านหลี่ เจ้าเองก็มาแล้ว!”“คิกๆ เจ้าของร้านอู๋ พวกเราไม่ได้พบหน้ากันเสียนาน!”คนเหล่านี้ล้วนเป็นพ่อค้าธัญพืชมีหน้ามีตาในเมืองหลวง ต่างรู้จักกันดีเบื้องหลังของพ่อค้าธัญพืชเหล่านี้ ล้วนมีขุนนางใหญ่ในราชสำนักคุ้มครองอยู่แต่หน้าตาขององค์ชายเก้า พวกเขายังต้องมอบให้เพราะเหตุนี้ พวกเขาได้รับคำเชิญจากภูเขาทิศประจิม ก็รีบเดินทางมาตอนนี้เอง ผู้เฒ่าจิตใจแจ่มใสมีชีวิตชีวา ผมขาวรัศมีไม่ธรรมดา เดินเนิบนาบเข้ามาภายในห้องรับแขกพวกพ่อค้าธัญพืชต่างตกตะลึง ลุกขึ้นโค้งคำนับ “สวี่เหล่า ลมอะไร หอบท่านมาได้เล่า!”“คารวะสวี่เหล่า!”“สวี่เหล่า ร่างกายท่านยังแข็งแรงดีจริงๆ!”พวกพ่อค้าธัญพืชต่างเรียกขานกันว่าเจ้าของร้าน เว้นเสียแต่ผู้เฒ่าท่านนี้ถูกเรียกว่าสวี่เหล่า มองออกถึงความน่าเลื่อมใสและสูงศักดิ์ส่วนสาเหตุนั้น กลับง่ายมากหลังแปดหอการค้าใหญ่ล้มลงแล้วสวี่เหล่าท่านนี้ก็โดดเด่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน กลายเป็นผู้นำของพวกพ่
“สัญญาหนี้ขององค์ชายเก้า อย่างไรข้าก็ไม่สามารถยอมรับได้!”“พวกเจ้าไปคิดหาวิธีกันเองเถอะ!”พวกพ่อค้าข้าวได้ยินอย่างนั้นก็เข้าใจแล้วสวี่เหล่าได้แสดงความตั้งใจแล้วว่าต้องการจัดการกับองค์ชายเก้าแน่นอนว่าพวกเขาอยากจะยืนข้างสวี่เหล่า!อย่างที่สวี่เหล่าเคยพูดเอาไว้เดิมทีพวกเขาก็ได้กำไรน้อยอยู่แล้ว เงินทุนหมุนเวียนยาก และจำเป็นต้องการเงินสดก้อนใหญ่เพื่อซื้อข้าวใหม่!การทำสัญญาหนี้ พวกเขาไม่มีทางรับได้จริงๆ“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็มาร่วมแรงร่วมใจกัน หักหน้าองค์ชายเก้าผู้นั้นกันเถอะ!”“ทุกคนเชื่อฟังท่านสวี่เหล่าก็พอแล้ว!”“เบื้องหลังของสวี่เหล่ามีผู้ช่วยเสนาบดีกรมคลัง! ต่อให้เป็นองค์ชายเก้า ก็ต้องไว้หน้าผู้ช่วยเสนาบดีกรมคลัง!”พวกพ่อค้าข้าวรวมตัวกันทันทีในเวลานี้ลั่วอวี้จู๋สวมชุดกระโปรงสีขาว ยิ้มอย่างอ่อนโยน เดินมาที่ห้องรับแขก ดวงตาคู่งามนั้นกวาดมองทุกคน “เถ้าแก่ร้านทุกท่าน องค์ชายเก้าเชิญไปพบ! ตามข้ามาเจ้าค่ะ!”เหล่าพ่อค้าข้าวต่างก็มองหน้ากัน ตามหลังลั่วอวี้จู๋ไป เดินผ่านโรงเรียนทหารซีซาน มุ่งหน้าไปยังอาคารสูงบนยอดเขาที่ลานฝึกซูเฟิ่งหลิงกำลังพาเหล่าทหารฝึกซ้อมกันอยู่
หลี่หลงหลินกวาดตามองกลุ่มพ่อค้าข้าว แล้วพูดเข้าประเด็น “ข้าเรียกพวกเจ้ามาเพื่อจะเรียกเก็บข้าว!”เรียกเก็บข้าว?เมื่อเหล่าพ่อค้าข้าวได้ยินอย่างนั้น ก็ตกใจจนหน้าถอดสีอย่างอดไม่ได้ ดูโศกเศร้าราวกับบิดรมารดาตายจากไปไม่ได้ซื้อ?แต่คือเรียกเก็บหรือ!หรือพูดอีกอย่าง พวกเขานั้นค่อนข้างอนุรักษนิยมเกินไป คิดว่าหลี่หลงหลินจะออกสัญญาหนี้!แต่ปรากฏว่า หลี่หลงหลินโหดเหี้ยมกว่านั้น!ต้องการเรียกกลับทันที!แบบนี้ไม่เท่ากับว่าทำการค้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลยหรือ?ลั่วอวี้จู๋ตกใจมาก ใบหน้างดงามของนางถอดสี “องค์ชายเก้า เจ้าคิดจะปล้นกันอย่างเปิดเผยหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้า “ข้าได้รับพระกฤษฎีกาของเสด็จพ่อ ให้เรียกเก็บข้าวและเบี้ยหวัด ทำไม? ไม่ได้หรือ?”เขาหยิบราชโองการเปล่าของฮ่องเต้ออกมาจากช่องว่าง แล้วโบกไปตรงหน้าพ่อค้าข้าวหลี่หลงหลินขอราชโองการเปล่าของฮ่องเต้มาจากฮ่องเต้หวู่สองฉบับฉบับหนึ่งใช้เพื่อถ่ายทอดราชโองการเท็จ ให้จางไป่เจิงยอมมอบเมืองเพื่อแลกกับการช่วยเหลือเมืองซั่วเป่ยจากวิกฤติหลี่หลงหลินยังเหลืออีกหนึ่งฉบับราชโองการเปล่าของฮ่องเต้นี้ ถ้าใช้มันเป็นป้ายทองเว้นโทษตาย เหรีย
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็
ทุกคนล้วนตกตะลึง ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งยังไม่เคยพบเห็นแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินผู้ใดเอ่ยถึงเจ้าสิ่งนี้ซูเฟิ่งหลิงแปลกใจอยู่บ้าง “องค์ชาย เหตุใดคนสามารถทำน้ำแข็งได้เล่า? ไม่ใช่ขุดมาจากพื้นที่หนาวแดนเหนือหรอกหรือ หรือว่าสามารถทำให้อุณหภูมิของตงไห่ลดลงได้?”ซูเฟิ่งหลิงรู้ว่าน้ำแข็งเป็นผลผลิตของฤดูหนาว แต่นางนึกไม่ออกว่าคนทำน้ำแข็งที่หลี่หลงหลินพูดคือสถานการณ์เช่นไร ในสายตานางมันเป็นเรื่องเพ้อฝัน และไม่มีวันเป็นจริงได้หลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ และพูดว่า “อีกเดี๋ยวเจ้าจะได้รู้”ทุกคนมองหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึง คิดว่าเขาอาจเป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิด หาไม่แล้วจะทำเรื่องชวนให้คนรู้สึกเหลือจะเชื่อได้เยี่ยงไร?หลี่หลงหลินมองซุนชิงไต้และพูดว่า “พี่สะใภ้สาม ไม่รู้ท่านที่นั่นมีเกลือหมางเซียวหรือไม่?”เกลือหมางเซียวหรืออีกชื่อคือดินประสิว เป็นของสำคัญที่หลี่หลงหลินใช้รักษาโรคอยู่ที่ต้าเซี่ย เกลือหมางเซียวมิใช่ของหายาก เพียงแต่ถูกคนนำมาทำเป็นยาระบายขับพิษ ชนิดที่ว่ามีคนนำไปให้สัตว์ใช้แรงกิน สามารถเพิ่มความแข็งของเปลือกไข่ในสัตว์ปีกได้ สามารถพบเห็นได้ทั่วไปและราคาถูกมากซุนชิงไต้มองหลี่หลง
จวนอ๋องตงไห่ ลั่วอวี้จู๋มองเหล่าทหารที่ลำเลียงปลาหวงฮื้อใหญ่เข้ามาในวังทีละคันรถ ในดวงตาเต็มไปด้วยความยินดี “องค์รัชทายาท ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ! มีวิธีการจับปลานี้แล้ว ชาวบ้านทะเลตงไห่ทุกครัวเรือนก็จะได้กินเนื้อ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารอีกต่อไป” ความกังวลก่อนหน้านี้ของลั่วอวี้จู๋มลายหายไปสิ้น ขอเพียงชาวบ้านมีกินมีใช้ ก็จะไม่เกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นอีก ทุกคนอยู่อย่างสงบสุข ทะเลตงไห่ก็จะปรองดองสามัคคี การก่อกบฏก็จะสงบลงไปเอง มิเช่นนั้นหากมีคนชั่วก่อความวุ่นวาย คอยขัดขวางอยู่เบื้องหลัง สุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือเหล่าชาวบ้านอยู่ดี ซุนชิงไต้จ้องมองปลาหวงฮื้อใหญ่รถแล้วรถเล่าตาไม่กะพริบ น้ำลายไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้: “ปลาหวงฮื้อใหญ่นี้ทั้งอ้วนทั้งอร่อย ชาวทะเลตงไห่คราวนี้จะได้ลิ้มรสของอร่อยแล้ว!” หลังจากได้ปลาหวงฮื้อใหญ่กลับมา ซุนชิงไต้ก็ลงครัวด้วยตนเอง ไม่ว่าจะทอด ผัด ต้ม ตุ๋น ล้วนเป็นรสเลิศแห่งโลกมนุษย์ เพียงแต่หากปลาหวงฮื้อใหญ่ไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดี ด้วยอุณหภูมิของทะเลตงไห่ในตอนนี้ ยิ่งปลาอ้วนเท่าใด ปริมาณโปรตีนในตัวก็ยิ่งสูง อัตราการเน่าเสียก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น
“เปิดยุ้งฉางแจกข้าวหรือขอรับ?” พ่อบ้านชราประหลาดใจอย่างยิ่ง ข้าวสารเหล่านี้ซื้อมาเป็นพิเศษเพื่อปั่นราคา หลายวันก่อนหลู่จงหมิงเพิ่งจะกำชับไว้ว่า หากไม่มีคำสั่งของตน ห้ามผู้ใดเปิดฉางข้าวเป็นอันขาด เพียงไม่กี่วัน สถานการณ์ก็พลิกผัน การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนน่าตกใจ ทำให้คนตั้งตัวไม่ติด พ่อบ้านยังไม่เข้าใจเจตนาของหลู่จงหมิง หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ฉวยโอกาสตอนที่พวกตระกูลขุนนางยังไม่เริ่มเทขายข้าวสารในมือ ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ! มิฉะนั้นราคาจะยิ่งต่ำลงไปอีก!” “บัดนี้จงนำข้าวสารในมือพวกเราทั้งหมดเทขายออกไปในราคาต่ำสุด! ขอเพียงขายออกไปได้ จะต่ำเพียงใดก็ได้!” หลู่จงหมิงกลัวสถานการณ์เช่นนี้ที่สุด หลี่หลงหลินสอนชาวบ้านจับปลา ไม่เพียงแต่ได้ใจประชาชน แต่ยังแก้ปัญหาเรื่องอาหารที่คับขันได้อีกด้วย สุดท้าย ก็เหลือเพียงตนเองที่ขาดทุนย่อยยับไม่เหลือแม้แต่กางเกงใน หลู่จงหมิงเอ่ยเสียงเข้ม: “ไม่ได้! ข้าจะไปขายข้าวด้วยตนเอง!” ผู้ได้ใจประชาชนย่อมได้ครอบครองแผ่นดิน ในความคิดของหลู่จงหมิง บัดนี้ขอเพียงยอมขายข้าวให้ชาวบ้าน ก็จะเป็นผู้ช่วยให้รอดในใจของชาวบ้านแล้วแม้ว่าจะช้ากว่าหลี่หลงหลิ
หญิงชรามองสุ่ยเซิง เอ่ยอย่างจริงจัง: “สุ่ยเซิง เจ้าบอกความจริงกับแม่มา เจ้าไปลักขโมยปลาของผู้อื่นมาพร้อมกับเถี่ยจู้ใช่หรือไม่?” ในความคิดของหญิงชรา หากไม่ใช่การลักขโมย วันเดียวจะหาปลาได้มากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? สุ่ยเซิงยิ้มแล้วชี้ไปยังชาวประมงที่บรรทุกปลาเต็มลำกลับมา: “ท่านแม่! ลูกจะไปลักขโมยปลาของผู้อื่นได้อย่างไร ปลาเหล่านี้ล้วนจับมาได้จากทะเลตามวิธีที่องค์รัชทายาททรงสอนด้วยพระองค์เอง ท่านดูสิ ทุกคนก็จับมาได้ไม่น้อย” หญิงชรามองไป พบว่าชาวประมงที่กลับมาต่างก็มีปลาหวงฮื้อใหญ่ติดมือมาไม่มากก็น้อย เพียงแต่สุ่ยเซิงโชคดีกว่า จับปลาได้มากกว่าเล็กน้อย “องค์รัชทายาททรงสอนพวกเจ้าด้วยพระองค์เองหรือ?” หญิงชรามีสีหน้าลังเล สุ่ยเซิงพยักหน้า ชี้ไปยังท่าเทียบเรือที่ไม่ไกลนัก: “เมื่อวานก็ที่ตรงนั้น องค์รัชทายาทไม่เพียงแต่แบ่งปลาให้พวกเรา ยังทรงสอนวิธีการจับปลาให้พวกเราโดยเฉพาะ ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้พวกเราอย่างไม่ปิดบัง” ฟุบ! หญิงชราทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พนมมือ ดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตา: “สวรรค์มีตา สวรรค์มีตาโดยแท้! ต้าเซี่ยมีองค์รัชทายาทเช่นนี้ วันคืนอันแสนลำบากของพวกเราชาวบ้าน ในที่สุดก็จ