เว่ยซวินพาทั้งสองคนไปยังห้องโถงข้างๆ ตำหนักหยั่งซิน บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารหลากหลายชนิด ทุกอย่างยังอยู่ดี ไม่มีใครแตะต้อง หลี่หลงหลินประหลาดใจ: "เว่ยกงกง นี่คืออะไร?" เว่ยซวินยิ้มอย่างขมขื่น: "นี่คืออาหารที่ห้องครัวหลวงเตรียมไว้ให้ฮ่องเต้! พระองค์แทบไม่ได้ทานเลย ก็เลยนำกลับมา ที่จริงตั้งใจจะทิ้ง แต่ในเมื่อท่านหมอเทวดาซุนหิว ถ้าไม่รังเกียจ ข้าจะให้คนไปอุ่นให้!" ซุนชิงไต้เห็นอาหารอร่อยๆ มากมาย ก็รอไม่ไหวแล้ว นางโบกมือเล็กๆ: "ไม่ต้องอุ่นแล้ว! ข้ากินได้เลย!" สำหรับเรื่องการกิน ซุนชิงไต้ไม่เรื่องมาก กินได้ทั้งอาหารบ้านๆ และอาหารเลิศรส แม้ว่าจะให้แค่ซาลาเปาขาวธรรมดาไม่กี่ลูก นางก็สามารถแทะได้อย่างมีความสุขไปเป็นครึ่งวัน "นี่คืออาหารที่ฮ่องเต้ทานนะ!" "ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะอร่อยขนาดไหน!" ซุนชิงไต้มองอาหารบนโต๊ะ แล้วน้ำลายก็ไหลไม่หยุด นางคว้าขาเป็ดใส่ปากทันที โดยไม่ต้องใช้ตะเกียบ "ถุย ถุย ถุย..." ซุนชิงไต้เคี้ยวไปสองสามคำ ก็คายออกมาทันที แล้วแลบลิ้นเล็กๆ ออกมา: "ไม่อร่อย!" นางไม่ยอมแพ้ ตักอาหารอีกหลายอย่างมาอีก แล้วใบหน้าเล็กๆ ก็บู้บี้ขึ้นมา: "ไม่อร่อยเลย!" ทันใดนั้น ซ
โชคร้ายที่เว่ยซวินสูญเสียความสามารถในการรับรส เขาจึงไม่สามารถรับรู้รสชาติอาหารได้เลย หลี่หลงหลินตกอยู่ในห้วงความคิด และออกจากวังไปพร้อมกับซุนชิงไต้ นั่งรถม้ากลับไปยังเขาประจิม บนรถม้า ซุนชิงไต้ขมวดคิ้วด้วยความสับสน: "แปลกจัง! ทำไมอาหารในห้องเครื่องหลวงถึงไม่อร่อยขนาดนี้? แล้วฝ่าบาทล่ะ ทำไมไม่พูดตรงๆ ว่าเปลี่ยนพ่อครัวแล้ว" หลี่หลงหลินถอนหายใจ: "นี่แหละคือความเมตตาของเสด็จพ่อ! ถ้าพระองค์บอกว่าอาหารไม่อร่อย จะมีคนต้องถูกตัดหัว!" ซุนชิงไต้ตัวสั่น: "ร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือ?" หลี่หลงหลินมีสีหน้าเคร่งขรึมและพูดต่อ: "นอกจากนี้ ยังมีอีกอย่างหนึ่ง! นั่นคืออาหารในห้องเครื่องหลวงไม่อร่อยมาโดยตลอด! แม้ว่าจะเปลี่ยนพ่อครัว ก็แค่แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ! หรืออาจจะตรงกันข้าม กลายเป็นว่าไม่อร่อยยิ่งกว่าเดิม!" ซุนชิงไต้สับสน: "ทำไมล่ะ? ไม่ใช่ว่าต้องเป็นพ่อครัวที่เก่งที่สุดในแผ่นดินเท่านั้น ถึงจะเข้าไปในห้องเครื่องหลวงและทำอาหารในวังได้หรือ?" หลี่หลงหลินยิ้มอย่างขมขื่น: "นี่คือความเข้าใจผิดของคนทั่วไปเกี่ยวกับห้องเครื่องหลวง! อันที่จริง ไม่ใช่ว่ายิ่งทำอาหารเก่งก็จะได้เข้าห้องเ
หลี่หลงหลินมองไปที่ซุนชิงไต้: "แต่ข้าทำคนเดียวไม่ได้! ท่านต้องช่วยข้า!" ซุนชิงไต้ตอบตกลงทันทีโดยไม่ลังเล: "ตกลง!" เพื่ออาหาร จะขึ้นภูเขาหรือลงทะเลนางก็ไม่หวั่น ยิ่งไปกว่านั้น แค่ช่วยเหลือและเป็นลูกมือ ซุนชิงไต้กะพริบตากลมโต และถามว่า: "ท่านอยากให้ข้าช่วยอะไร?" หลี่หลงหลินครุ่นคิด แล้วพูดว่า: "พี่สะใภ้สาม ท่านเข้าไปเก็บสมุนไพรบนภูเขาบ่อยๆ น่าจะคุ้นเคยกับเห็ดหลายชนิดใช่หรือไม่!" ซุนชิงไต้พูดอย่างภาคภูมิใจ: "แน่นอน! ไม่มีเห็ดชนิดไหนที่ข้าไม่รู้จัก!" หลี่หลงหลินตบต้นขาดังฉาด: "ถ้าอย่างนั้นก็ง่ายมาก! ตอนนี้ท่านช่วยขึ้นเขาไป เก็บเห็ดป่ามาให้ข้าหนึ่งตะกร้า!" ซุนชิงไต้พูดอย่างดูถูก: "แค่นี้เองหรือ? รอเดี๋ยว ข้าจะไปเก็บมาให้ท่านสองตะกร้าเลย!" รถม้าจอดอยู่หน้าประตูเขาประจิม ซุนชิงไต้กระโดดลงจากรถม้าอย่างใจร้อน สะพายตะกร้าไม้ไผ่ใบใหญ่ วิ่งเข้าไปในภูเขาเพื่อเก็บเห็ด หลี่หลงหลินไปที่โรงอาหารของเขาประจิม เพื่อตั้งใจที่จะแสดงฝีมือ เป้าหมายของเขาชัดเจนมาก คือการปรับปรุงอาหารของฮ่องเต้ ทำให้ฮ่องเต้รักการกินข้าวและกลายเป็นคนตะกละ! ในยุคนี้ของต้าเซี่ย เครื่องปรุงรสมีอยู่อย่างจำ
“ลูกรัก”“ดื่มเหล้าพิษจอกนี้!”“แม่ร่วมเดินสู่ยมโลกพร้อมกับเจ้า!”หลี่หลงหลินลืมตาขึ้น พบว่าตนอยู่ในชุดนักโทษ ถูกขังอยู่ในคุกที่มืดมิดหญิงงามในชุดชาววังแสนสง่า ร่ำไห้ดั่งสาลี่ต้องหยาดพิรุณ น้ำตานองหน้า มือถือจอกทอง ดวงหน้างามสะพรั่งเปี่ยมไปด้วยความสิ้นหวังชั่วพริบตา ความทรงจำมากมายพรั่งพรูเข้ามาในความคิด!ราชวงศ์ต้าเซี่ย ราชวงศ์หนึ่งที่ไม่มีในหน้าประวัติศาสตร์!ข้าทะลุมิติกลายมาเป็นองค์ชายเก้า!หญิงงามในชุดชาววังตรงหน้า คือมารดาของข้า พระชายาโหรวสตรีที่ฮ่องเต้หวู่ทรงโปรดปรานมากที่สุด!ผู้สืบเชื้อสายแห่งราชวงศ์ สมาชิกราชสกุล ร่ำรวยสมบัติวิบูลย์ทรัพย์ สระสุราเมรัยพงไพรเนื้อ หญิงงามละลานตา ช่างเป็นสิ่งที่ผู้คนเสาะแสวงเสียเนี่ยกระไร!ทว่าหลี่หลงหลินกลับไม่ดีใจแม้แต่น้อยชื่อเสียงเรียงนามขององค์ชายเก้าแย่มาก เป็นเศษสวะที่ทุกคนทราบกัน!ไม่เพียงแค่นี้เขายังทำความผิดร้ายแรง ทำให้ฮ่องเต้หวู่พิโรธ สังหารสายเลือดเพื่อธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม!เสือถึงร้ายก็ไม่กินลูกตัวเอง!ต้องเป็นความผิดบาปใดกัน ทำให้ฮ่องเต้หวู่ไม่เห็นแก่ความเป็นพ่อเป็นลูก จำต้องสังหารตนให้ได้?ความทรงจำของหลี่
หลี่หลงหลินขมวดคิ้วเป็นปมคิดไม่ถึงว่า ตนเกิดเป็นมนุษย์มาถึงสองชาติภพ ต้องเผชิญกับเหตุการณ์สิ้นหวังเช่นนี้!ความคิดความอ่านของฮ่องเต้หวู่ยากจะหยั่งถึง จิตใจลึกลับซับซ้อนดั่งเหวเสมือนทะเลราชวงศ์ต้าเซี่ย เต็มไปด้วยขุนนางน้อยใหญ่ ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถ ฉลาดปราดเปรื่องดูไม่ออกหรือว่า ตนถูกปรักปรำ?พวกเขาต่างรู้ดีแก่ใจ!ถึงขึ้นที่ว่า แม้แต่แม่ทัพผู้เฒ่าซูก็ตระหนักรู้ว่า เป็นฝีมือของขุนนางชั้นสูงในราชสำนักที่ปล่อยข่าวรั่วไหล ทำให้ทหารตระกูลซูตกอยู่ในวงล้อม นำมาซึ่งความพ่ายแพ้!ดังนั้น แม่ทัพผู้เฒ่าซูจึงสู้สุดชีวิต ปกป้องและพาตนเองตีฝ่าวงล้อมออกมา!เพียงแต่น่าเสียดาย แม่ทัพผู้เฒ่าซูสู้รบเพียงลำพัง จนหมดแรงแล้วสิ้นใจในที่สุดก่อนตาย เขาทิ้งจดหมายเขียนด้วยเลือดไว้หนึ่งฉบับ ให้ตนนำไปให้ฮ่องเต้หวู่ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์!หลี่หลงหลินรีบกุมแผ่นอก พบว่าจดหมายเขียนด้วยเลือดยังอยู่ เขาจึงค่อยโล่งอก!จดหมายเขียนด้วยเลือดฉบับนี้ เป็นความหวังเดียวในการพลิกชะตาชีวิตของตน!ทว่าหลี่หลงหลินคิดทบทวนหลายครั้ง เขาไม่คิดจะเอาจดหมายเขียนด้วยเลือดฉบับนี้ออกมา แล้วให้ฮ่องเต้หวู่โดยตรงเหตุผลนั
เมืองหลวงจวนตระกูลซูพรึ่บ!ณ ลานกลางจวน ลำแสงสีเงินเคลื่อนผ่าน!นั่นไม่ใช่สายฟ้า แต่เป็นลำแสงสะท้อนจากหอกยาว!เงาตามติดการเคลื่อนไหวของหอก หอกพุ่งตัวดุจดั่งมังกร!นางสวมเสื้อเกราะ ด้านหลังมีผ้าคลุมสีแดงโบกสะบัด ไม่ได้สวมหมวกเกราะ ผมยาวสลวยถึงกลางหลังมัดรวบเป็นหางม้า พริ้วไหวขึ้นลงวีรชนผู้กล้าหาญ สตรีไม่แพ้บุรุษ!สตรีผู้นั้นคือซูเฟิ่งหลิงหลานสาวแม่ทัพผู้เฒ่าซู!ตึ้ง!หอกยาวในมือซูเฟิ่งหลิงทิ่มแทงด้วยความรุนแรง เจาะทะลุหุ่นไม้ แตกเป็นเสี่ยงๆ!บนศีรษะของหุ่นไม้มีแผ่นกระดาษติดไว้ สามตัวอักษร...หลี่หลงหลิน!หญิงสาวข้างกายปรบมือ “คุณหนู วิชาหอกของคุณหนูพัฒนาขึ้นอีกแล้วเจ้าค่ะ!”ซูเฟิ่งหลิงกำหมัดแน่น ทรวงอกอิ่มกระเพื่อมขึ้นลงอย่างแรง ดวงตาหงส์น้ำตารื้น พูดด้วยความโมโห “วิชาหอกเก่งกาจ มีประโยชน์อะไร? ข้าเจ็บใจที่ไม่อาจสังหารไอ้คนสารเลวหลี่หลงหลินด้วยตนเอง ไม่อาจแก้แค้นให้ตระกูลซูที่จงรักภักดีได้!”พวกสตรีได้ยินเช่นนั้น ต่างก้มหน้าลง สีหน้าฉายความโกรธเคืองตระกูลซูจงรักภักดีทุกชั่วอายุคน ภักดีต่อต้าเซี่ย!เพราะคนสารเลวหลี่หลงหลิน ทำให้ผู้ชายของตระกูลซูตายอย่างอนาถ เหลือเพียงห
“ฮูหยินผู้เฒ่า!”คนทั้งตระกูลซูพากันทำความเคารพหญิงชราแม้ซูเฟิ่งหลิงจะหยุดการกระทำของตน ทว่ายังเจ็บใจยิ่งนัก “ท่านย่า! แทงครั้งเดียว ข้าก็สังหารเจ้าคนสารเลวหลี่หลงหลินได้แล้ว!”ฮูหยินผู้เฒ่าซูหัวเราะในลำคอ “โชคดีที่ข้ามาทันเวลา หากเจ้าทำให้เว่ยกงกงบาดเจ็บ เช่นนั้นเจ้าก็เท่ากับว่าเจ้าทำความผิดร้ายแรง! ยังไม่รีบถอยออกไปอีก!”ซูเฟิ่งหลิงไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน กลัวแค่เพียงฮูหยินผู้เฒ่าซูเวลาโมโหเท่านั้น แม้จะเจ็บใจ แต่นางก็ถอยไปยืนข้างๆ อย่างเชื่อฟังทว่าดวงตาหงส์คู่นั้น ยังคงจ้องเขม็งไปที่หลี่หลงหลิน แทบอยากจะกลืนกินเขาทั้งเป็น!เว่ยซวินดึงสติกลับมา ก้าวขึ้นหน้าหนึ่งก้าวแล้วทำเคารพ “คารวะฮูหยินผู้เฒ่าซู! ไม่พบเจอกันนาน ฮูหยินผู้เฒ่าซูเป็นเช่นไรบ้าง สุขภาพแข็งแรงดีหรือไม่?”เว่ยกงกงเป็นขันทีคนโปรดของฮ่องเต้หวู่ ถูกขนานนามว่าเก้าพันปีแต่กระทั่งเก้าพันปีท่านนี้ ยังต้องทำความเคารพฮูหยินผู้เฒ่าซูอย่างว่าง่าย!เห็นได้ชัดว่าฮูหยินผู้เฒ่าคนนี้ไม่เพียงมีอำนาจในตระกูลซู แม้แต่ในราชสำนัก ก็น่าเกรงขามยิ่งนัก!ถึงอย่างไร ทหารรักษาแคว้นสิบแปดนายของตระกูลซู นางเป็นคนสอนมากับมือ!เมื่อครั้นฮ
ฮูหยินผู้เฒ่าซูอ่านจดหมายเลือดวนซ้ำหลายรอบ พูดด้วยความไม่เข้าใจ “หลี่หลงหลิน! เหตุใดท่านไม่เอาจดหมายเลือด ให้ฝ่าบาท เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน?”หลี่หลงหลินส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มเศร้าหมอง “ไม่มีใครรู้จักลูกชายดีเท่ากับบิดา! นิสัยของเสด็จพ่อ ข้ารู้จักเป็นอย่างดี! ด้วยความหวาดระแวงและดื้อรั้นของเสด็จพ่อ จะเชื่อข้าหรือ?”ฮูหยินผู้เฒ่าซูเงียบนางเองก็รู้ดีว่าฮ่องเต้หวู่เป็นคนอย่างไรตระกูลซู จงรักภักดีต่อต้าเซี่ย ปกป้องดินแดนทางเหนือมาหลายชั่วอายุคน ไม่รู้ว่ามีวิญญาณจงรักภักดีมากมายเพียงใดที่ถูกฝังในต่างแดน แต่ฮ่องเต้หวู่กลับยังคงหวาดระแวงและคอยกดตระกูลซูสถานการณ์ในราชสำนัก ฮูหยินผู้เฒ่าซูก็พอได้ยินมาบ้างขุนนางฝ่ายบุ๋นรักเงินทอง ขุนนางฝ่ายบู๊รักชีวิตบวกกับฮ่องเต้หวู่ไม่ยอมแต่งตั้งองค์รัชทายาทนอกจากองค์ชายเก้าหลี่หลงหลินที่เสเพลเกินไป ไม่มีขุนนางคนใดสนับสนุนขุนนางคนอื่นล้วนลอบสนับสนุนองค์ชายพระองค์ เสมือนองค์ชายทั้งเก้าในสมัยราชวงศ์ชิงช่วงชิงบัลลังก์!หลายฝ่ายในราชสำนักแก่งแย่งชิงดี โจมตีซึ่งกันและกัน จนโกลาหลเสียงร้องทุกข์ของไพร่ฟ้าท่วมท้องถนน ชีวิตลำบากข้นแค้น!เวลานี้