เจ้าเก้าอัจฉริยะจริง ๆ! ระยะเวลาสั้น ๆภายในสามวัน ก็สามารถคลี่คลายปัญหาเบี้ยเลี้ยงทหารได้แล้ว!หากเป็นเช่นนี้ หลังจากที่ทหารรักษาพระองค์หนึ่งแสนนายได้รับเบี้ยเลี้ยงทหาร ขวัญกำลังใจจะต้องเพิ่มขึ้นมาแน่!ถ้าหากทหารรักษาพระองค์ได้รับชัยชนะ ปราบเผ่าหมานชนะ เช่นนั้นก็จะเป็นความชอบครั้งแรกของหลี่หลงหลิน!ฮ่องเต้หวู่รีบเรียกจางไป่เจิงมาทันที “นี่คือเบี้ยเลี้ยงทหารหนึ่งล้านตำลึง เจ้ารีบส่งไปให้แนวหน้า เพื่อปูนบำเหน็จรางวัลให้เหล่าทหาร! การศึกครั้งนี้ เกี่ยวพันกับชะตาของต้าเซี่ย ต้องชนะเท่านั้น ห้ามพ่ายแพ้!”เมื่อจางไป่เจิงเห็นเงินเยอะมากมายขนาดนี้ ก็เบิกตากว้างทันทีเดิมทีเขาคิดว่า ราชสำนักคงไม่สามารถนำเบี้ยเลี้ยงทหารจำนวนมากมายขนาดนี้ออกมาได้ ถึงไม่ยอมไปที่แนวหน้าเสียทีคาดไม่ถึงว่าฝ่าบาทจะทรงพระปรีชาเช่นนี้ สามารถรวบรวมเบี้ยเลี้ยงทหารหนึ่งล้านตำลึงได้จนครบ!จางไป่เจิงดีใจออกนอหน้า “มีเบี้ยเลี้ยงทหาร เหล่าพลทหารจะต้องยอมสู้จนตัวตาย ด้วยความจงรักภักดีต่อประเทศชาติแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หวู่พยักหน้า “ดี! จะชักช้าไม่ได้ เจ้ารีบออกเดินทางเดี๋ยวนี้!”จางไป่เจิงดีใจ รับราชโองการพร้อมออ
ฮ่องเต้หวู่ยิ้มเยาะ “มารดาพึ่งพาลูก! ตอนนั้นที่พระชายาโหรวอยู่วังหลัง ถูกบรรดาพระสนมกลั่นแกล้ง เป็นเพราะเจ้าเก้าไม่เปิดเผยความสามารถ แสร้งทำเป็นโง่เขลา ไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีจากเรา! บัดนี้ เจ้าเก้าได้เผยความสามารถ ได้รับความสำคัญจากเรา! เราไม่เชื่อว่า ยังจะมีผู้ใดกล้ากลั่นแกล้งพระชายาโหรวอีก!”“เจ้าพยายามขัดขวางเรา ไม่ให้เราไปพบพระชายาโหรว หรือว่าเจ้ามีเหตุผลอื่น?”เว่ยซวินเหงื่อแตกพลั่กทันที รีบคุกเข่าลงบนพื้น “ฝ่าบาท กระหม่อมมิกล้า! กระหม่อมเป็นเพราะว่า...ใช่แล้ว! เป็นเพราะ วันนี้องค์ชายเก้าจะเข้าวังหลวง มาถวายพระพรพระชายาโหรวพ่ะย่ะค่ะ”“พระชายาโหรวดีพระทัยเป็นอย่างยิ่ง สองคนแม่ลูกกำลังระบายความในใจกันอยู่ ยังให้องค์ชายเก้าค้างคืนในตำหนักด้วยพ่ะย่ะค่ะ”“ถ้าหากฝ่าบาททรงเสด็จไป เกรงว่าจะไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่พ่ะย่ะค่ะ..”เมื่อฮ่องเต้หวู่ได้ยินดังนั้น บนใบหน้าก็เผยสีหน้าปีติยินดี “งั้นหรือ? เจ้าเก้าเพิ่งได้รับการแต่งตั้ง งานราชการยุ่งมาก ยังเข้าวังมาถวายพระพรเสด็จแม่อีกหรือ? เด็กคนนี้กตัญญูน่าสรรเสริญ เราปลื้มใจยิ่งนัก!”ต้าเซี่ยปกครองใต้หล้าด้วยความกตัญญูเป็นเวลาหลายสิบปีแล้
พระชายาโหรวสมัยสาวๆ งดงามและเยาว์วัย สวยแต่กำเนิดแม้ว่าบัดนี้นางจะอายุสามสิบกว่าปีแล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นหญิงวัยกลางคนแล้ว แต่ความงดงามยังคงอยู่ มีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของหญิงสาวที่เป็นผู้ใหญ่ แต่ว่าหลี่หลงหลินยกขาเรียวยาวของพระชายาโหรว หัวใจกลับไม่วอกแวก ตั้งใจจัดการบาดแผลพระชายาโหรวจ้องมองใบหน้าด้านข้างของหลี่หลงหลิน อดไม่ได้ที่จะน้ำตาคลอเบ้า น้ำตาไหลออกมาเงียบ ๆ เมื่อหลี่หลงหลินเห็นว่าพระชายาโหรวร้องไห้ แสดงสีหน้ากล่าวโทษตนเอง “ท่านแม่ เหตุใดท่านจึงร้องไห้? เป็นเพราะข้ามือหนักเกินไปใช่หรือไม่? เช่นนั้นข้าจะเบามือลงหน่อย...”พระชายาโหรวปาดคราบน้ำตา กล่าวเสียงอ่อนโยน “องค์ชาย ไม่ใช่ความผิดเจ้า เป็นเพราะจู่ ๆ แม่ก็นึกถึงตอนที่เจ้าเป็นเด็กดื้อรั้น ตอนที่เจ้าสะดุดล้มอยู่ในสวน แม่เป็นคนทายาให้เจ้าด้วยตนเอง”“เพียงแค่พริบตาเดียว ก็ผ่านไปนานหลายปีขนาดนี้แล้ว”“ลูกชายของข้าเติบโตแล้ว ยังได้เป็นแม่ทัพใหญ่อีกด้วย!”“ถ้าหากท่านตาของเจ้ารู้ เขาจะต้องดีใจมากแน่ ๆ!”ภายในหัวสมองของหลี่หลงหลิน มีภาพความทรงจำตอนเด็กปรากฏขึ้นตอนนั้น ตนเป็นเด็กดื้อคนหนึ่ง ใช้ชีวิตอย่างไร้ความกังวล เอาแต่
หลี่หลงหลินทราบว่าพระชายาโหรวอยู่ในวังหลัง ถูกผู้คนกลั่นแกล้ง แม้แต่ตำหนักฉางเล่อที่อาศัยมานานยังถูกฉินกุ้ยเฟยแย่งไป ก็โมโหทันทีเมื่อชุนเถากับชิวเย่นางกำนัลสองคนเห็นดังนั้น ก็ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ รีบคุกเข่าลงไปกล่าววิงวอน “องค์ชาย ท่านอย่าได้วู่วามเด็ดขาดนะเพคะ!”“ที่วังหลังฉินกุ้ยเฟยอิทธิพลกว้างขวาง ไม่ใช่คนที่ท่านจะจัดการได้เพคะ!”“ยิ่งไปกว่านั้น วังหลังมีกฎของวังหลัง ถ้าหากท่านมุทะลุ ทำลายความกลมเกลียวของวังหลัง ทำให้ฝ่าบาททรงกริ้ว เกรงว่าสถานการณ์ของพระสนมที่อยู่ในตำหนัก จะยิ่งลำบากมากกว่าเดิมเพคะ!”“ใช่เพคะ องค์ชาย! ถ้าหากเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา พระสนมจะต้องตำหนิหม่อมฉันสองคนแน่เพคะ!”หลี่หลงหลินโบกมือ “พวกเจ้าลุกขึ้นเถอะ! กฎของในวัง ข้าเข้าใจ! ชอบเล่นสกปรกกันไม่ใช่หรือ? ใครกลัวใครกัน!”วังหลังก็เป็นแบบนี้ภายนอกบรรดานางสนมปรองดองกัน ปฏิบัติตัวต่อกันดั่งพี่น้องเบื้องหลัง พวกนางกลับเล่นสกปรก เพื่อแย่งชิงความโปรดปรานพระชายาโหรวนิสัยอ่อนโยน ไม่ชอบแก่งแย่งชิงดีกับบรรดานางสนมพวกนี้ ยอมไปเสียทุกเรื่องผลสุดท้าย พระสนมยิ่งหนักข้อกว่าเดิม แม้แต่ที่พักอาศัยของพระชายาโหรวก็
“รอให้ทหารรักษาพระองค์หนึ่งแสนนายของเราเอาชนะเผ่าหมานได้ เจ้าจะมีความชอบเป็นครั้งแรก!”หลี่หลงหลินขมวดคิ้วเล็กน้อย “มีเพียงแค่หนึ่งล้านตำลึงจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้หวู่งุนงงทันที “ใช่! ไม่อย่างนั้นล่ะ? เบี้ยเลี้ยงทหารที่เราต้องการ ก็แค่หนึ่งล้านตำลึง จะเป็นเท่าไหร่ได้หรือ?”หลี่หลงหลินพูดไม่ออกเป็นอย่างยิ่งพ่อคนนี้ของตน บางครั้งก็หน้าเลือดสุดขีด บางครั้งก็โง่เขลาแบบน่าเอ็นดูในเมื่อครั้งนี้จะจัดการเว่ยซวิน ก็ควรจะต้องให้เขากระอักเลือด!ไม่ผิด!ทหารรักษาพระองค์หนึ่งแสนนายต้องการเบี้ยเลี้ยงหนึ่งล้านตำลึงแต่ถ้าหากทันทีที่การศึกเจรจาไม่ได้ ทหารรักษาพระองค์ต้องการเบี้ยเลี้ยงมากกว่านี้จะทำอย่างไร?อีกทั้งทั้งราชสำนัก ที่ที่ต้องการใช้เงินมีมากมายให้เว่ยซวินรวบรวมเงินเพียงแค่หนึ่งล้านตำลึง!นี่มันจะดูถูกเขามากเกินไปแล้ว!ใครไม่รู้บ้างว่า พระเก้าพันปีมั่งคั่งร่ำรวย จนเทียบกับทั้งแคว้นได้?ต่อไปเว่ยซวินจะเตรียมการป้องกัน อยากจะเล่นงานเขา เกรงว่าคงจะยากแล้ว!หลี่หลงหลินถอนหายใจทีหนึ่ง “เสด็จพ่อ เช่นนั้นเงินของลูกจะทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้หวู่งุนงง “เงินอะไรหรือ?”หลี่ห
ใช่ว่าฮ่องเต้หวู่จะไม่คุ้นเคยกับการสู้รบเบี้ยเลี้ยงทหารรักษาพระองค์หนึ่งแสนนาย ยังต้องการเงินหนึ่งล้านตำลึงแค่คิดก็รู้ การสร้างกองทัพทหารใหม่กองหนึ่ง เริ่มจากศูนย์ ต้องการเงินเท่าไหร่อย่างน้อยก็ต้องใช้สิบล้านตำลึง หรืออาจจะมากกว่านั้นฮ่องเต้หวู่ไม่อยากสร้างกองทัพทหารใหม่งั้นหรือ?แน่นอนว่าไม่ใช่!ประเด็นหลักคือจน!ต้าเซี่ยในวันนี้ บรรดาขุนนางตระกูลใหญ่แต่ละคนร่ำรวยเป็นอย่างยิ่งแต่ราชสำนักและฮ่องเต้ยากจนจริง ๆ !ฮ่องเต้หวู่แทบจะใช้ชีวิตอย่างกัดก้อนเกลือกิน!ฮองเฮายังทอผ้าอยู่ในวัง เพื่ออุดหนุนค่าใช้จ่ายในครอบครัว!เมื่อหลี่หลงหลินเห็นว่าฮ่องเต้หวู่สนใจ รีบฉวยโอกาสตีเหล็กตอนยังร้อน “เสด็จพ่อ ไม่เพียงเท่านี้! เงินห้าแสนตำลึงก้อนนี้ ลูกไม่ขอจากพระองค์โดยเปล่าประโยชน์ ให้ถือว่าพระองค์เป็นผู้ลงทุน!”“ลูกจะแบ่งเงินปันผลตามกำไร ให้พระองค์สองส่วน”“พระองค์คิดเห็นเป็นอย่างไร?”ฮ่องเต้หวู่ไม่กล้าเชื่อหูตัวเองเลยจริง ๆเงินห้าแสนตำลึง ไม่เพียงสร้างกองทัพทหารใหม่ได้หนึ่งกอง ยังแบ่งเงินปันผลให้ตนได้อีกสองส่วนทุกปีคิดไม่ถึงว่าใต้หล้านี้จะมีเรื่องดี ๆ แบบนี้ด้วย?ตนไม่ได้ฝันไปใช
หรือว่าเจ้าจะให้ข้าไปขู่เข็ญเว่ยซวินอีก? ใช่!เว่ยซวินมีจิตใจทะเยอทะยานก็จริง เขาอ้างชื่อของข้ารีดไถความมั่งคั่งที่ได้มาด้วยเลือดและหยาดเหงื่อของราษฎรไปไม่น้อย แต่อย่างไรเว่ยซวินก็รับใช้ข้ามาหลายปี หากไม่มีคุณูปการก็ยังมีความมานะบากบั่นเจ้าให้ข้าขู่เข็ญเว่ยซวินเพียงครั้งเดียวก็ยังพอทนแต่เจ้ายังอยากให้ข้าขู่เข็ญเว่ยซวินเป็นครั้งที่สองอีกหรือ?แม้ว่าจะเป็นการถอนขนแกะ แต่เจ้าก็ไม่สามารถจับแกะตัวเดียวมาถอนขนได้หลี่หลงหลินเห็นสีหน้าของฮ่องเต้หวู่แปรเปลี่ยนไป จึงรีบพูดว่า “เสด็จพ่อ พระองค์ทรงเข้าพระทัยลูกผิดแล้ว! ลูกไม่ได้มีเจตนาไม่ดีกับเว่ยกงกง! แต่ว่าหลังจากที่พี่หกถูกยึดทรัพย์แล้ว เหลือจวนเพียงหลังเดียว”“เป็นการดีกว่าหากพระองค์มอบจวนหลังนี้ให้ลูกจัดการ มันจะได้ราคาถึงห้าแสนตำลึงแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อฮ่องเต้หวู่ได้ยินเช่นนั้น เขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่แท้ก็ไม่ได้ต้องการให้ข้าไปถอนขนแกะของเว่ยซวินต่อ แต่ต้องการจวนของเจ้าหกนี่เอง!เช่นนั้นก็ตกลงกันง่ายหน่อย!เพียงแต่จวนหนึ่งหลังในเมืองหลวง อย่างมากที่สุดก็มีมูลค่าห้าหมื่นตำลึงเท่านั้นแต่หลี่หลงหลินกลับพูดว่า จวนหลั
หลังจากหลี่หลงหลินจากไป สีหน้าของฮ่องเต้หวู่พลันมืดมน จ้องมองไปที่เว่ยซวิน แล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา “มิน่าล่ะ วันนี้ข้าอยากให้พระชายาโหรวมาปรนนิบัติ แต่เจ้ากลับขัดขวางทุกวิถีทาง! ที่แท้พระชายาโหรวก็ไม่อยู่ที่ตำหนักฉางเล่อ เพราะถูกคนขับไล่ให้ไปอยู่ที่เรือนสุ่ยอวิ๋นนี่เอง!”“เป็นถึงพระชายา กลับไปอยู่รวมกับพวกบ่าวรับใช้!”“เว่ยซวิน เจ้าทำแบบนี้เหมือนตบหน้าข้าชัดๆ!”ประโยคนี้ของฮ่องเต้หวู่ เป็นการพูดแรงเกินไปเว่ยซวินตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่าง รีบคุกเข่าโน้มตัวเอาหัวโขกบนพื้นราวกับโขลกกระเทียม “ฝ่าบาท! กระหม่อมก็ไม่ทราบเช่นกันว่าพระชายาโหรวย้ายไปที่เรือนสุ่ยอวิ๋น...”“ไม่ทราบ?”ฮ่องเต้หวู่เดือดดาลยิ่งนัก “เจ้าเป็นหัวหน้าผู้ดูแลฝ่ายใน! เจ้ากลับบอกว่าเจ้าไม่รู้? หากเจ้าเป็นข้า ควรจะลงโทษเจ้าโทฐานละเลยหน้าที่นี้อย่าง?”ตุบ ตุบ ตุบ...เว่ยซวินโขกหัวอย่างสุดชีวิตจนหน้าผากถลอกและมีเลือดซึมออกมา “กระหม่อมสมควรตาย! กระหม่อมสมควรตาย...”ฮ่องเต้หวู่หรี่ตามองเว่ยซวิน “เจ้าสมควรตาย! แต่ข้าเองก็รู้ว่าเจ้าเป็นแค่ขันที ต่อให้บ้าบิ่นเพียงใด ในฐานะบ่าวรับใช้ย่อมไม่กล้ารังแกเจ้านาย! เจ้าบอกความจริงข้
ระดับเทคโนโลยีเครื่องทำความร้อนใต้พื้นนั้นไม่ได้สูงมากนักเป็นเพียงท่อทองแดง แต่มีราคาแพงมากไม่ต้องพูดถึงชาวบ้านทั่วไป เกรงว่าแม้แต่เชื้อพระวงศ์ก็ยังไม่มีปัญญาใช้มีเพียงสถานที่อย่างพระราชวังเท่านั้นที่สามารถติดตั้งเครื่องทำความร้อนใต้พื้นเพื่อป้องกันความหนาวเย็นได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายหลี่หลงหลินไม่ได้พูดอะไรมาก เขาจ้องมองขาเรียวเล็กและตรงของกงซูหว่านอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับไปด้วยความพึงพอใจ......ตำหนักฉือหนิงองค์ชายใหญ่หลี่เทียนฉี่นำของขวัญมากมายมาเข้าเฝ้าฮองไทเฮา“เด็กดี!”“ในที่สุดเจ้าก็กลับมาเมืองหลวงแล้ว!”“ข้าคิดว่าจะไม่ได้เจอเจ้าอีกแล้ว!”ฮองไทเฮาโอบกอดหลี่เทียนฉี่ไว้แน่นหลี่เทียนฉี่บีบน้ำตาออกมาสองสามหยดและพูดอย่างเสแสร้งว่า “เสด็จย่า ในตงไห่ ไม่มีวันไหนเลยที่ข้าจะไม่คิดถึงท่าน...”“กลับมาก็ดีแล้ว! กลับมาก็ดีแล้ว!”ฮองไทเฮาหลั่งน้ำตา ร้องไห้สะอึกสะอื้นหลี่เทียนฉี่เป็นบุตรชายคนโตที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด เขาถูกแต่งตั้งให้เป็นรัชทายาทเมื่ออายุได้สามขวบ และเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ของต้าเซี่ยเรียกได้ว่าเขาได้รับความรักมากมายสิ่งนี้ทำให้หลี่เทียนฉ
การกำหนดเครื่องแต่งกายให้เป็นแบบเดียวกัน ก็เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งตัวอย่างเช่น การสวมกระโปรง ไว้ผมยาว ล้วนเป็นข้อห้ามกงซูหว่าน ในฐานะบุคคลอันดับสองของสถาบันวิจัยซีซาน กลับไม่สนใจเรื่องนี้เลย สวมชุดสีดำทั้งวัน ช่างฝีมือด้านล่างอยากใส่อะไรก็ใส่ แต่ละคนสวมชุดคลุมยาว นี่ไม่ใช่การเอาชีวิตของตนเองมาล้อเล่นหรอกหรือ?กงซูหว่านใจเต้นแรง แววตาเป็นประกาย “กำหนดชุดทำงาน กำหนดกฎระเบียบที่เข้มงวด! รัชทายาท ความคิดของเจ้าดีมาก! แต่... ชุดทำงานที่เจ้าพูด มีลักษณะอย่างไร? ไม่ใช่กระโปรงที่สั้นกว่านี้ใช่หรือไม่?”ช่างฝีมือส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ชุดทำงานของพวกเขาพูดง่าย ทำความสะอาดให้เรียบร้อยก็พอแต่ในสถาบันวิจัย ยังมีช่างฝีมือหญิงสาวอีกส่วนหนึ่งดูท่าทางเจ้าชู้ของหลี่หลงหลิน หากออกแบบเสื้อผ้าที่ไม่เหมาะสม ให้พวกนางสวมใส่ จะต้องอับอายขายหน้าแน่!หลี่หลงหลินกล่าวอย่างชอบธรรม “สะใภ้รอง เจ้าคิดอะไร? อะไรคือกระโปรงที่สั้นกว่านี้ ข้าลามกขนาดนั้นหรือ? ใครไม่รู้บ้างว่า ข้าหลี่หลงหลินเป็นคนซื่อตรง ไม่สนใจสตรี!”กงซูหว่านเบ้ปากเสแสร้ง เจ้าเสแสร้งทั้งนั้น!เจ้าหลอกน้องสาวข้าก็พอ หากข้าเชื่อเจ้าสักคำ ก็ไม่ใ
“ซี้ดๆ...”หลี่หลงหลินมองใต้กระโปรงดำของกงซูหว่าน น่องขาขาวดุจหยก ดวงตาเบิกกว้าง ขมุบขมิบปากอย่างอดไม่ได้เพียงน่าเสียดาย กระโปรงยังยาว ถึงเพียงหัวเข่าเท่านั้น...กงซูหว่านพบว่าหลี่หลงหลินจับจ้องขาของตนอยู่ตลอด ใบหน้าแดงเรื่อ “ท่านกำลังมองอันใด?”หลี่หลงหลินเงยหน้า เผยรอยยิ้มไร้พิษสง “ข้าคิดว่ากระโปรงของพี่สะใภ้รองยังยาวอยู่บ้าง”ยังยาว?กงซูหว่านอึ้งงันอยู่กับที่ ดวงตาสองข้างจับจ้องหลี่หลงหลิน ใบหน้าร้อนผะผ่าวตนเองดีชั่วอย่างไรก็เป็นสตรีในครอบครัวมีศีลธรรม มิใช่สตรีในโลกีย์ขายยิ้มยั่วยวนคน เผยน่องขาออกมาได้นี่ก็ถึงขีดจำกัดแล้ว หลี่หลงหลินถึงขั้นได้คืบเอาศอก ยังอยากให้กระโปรงสั้นขึ้นอีกนิด?ไร้สาระ!กงซูหว่านโมโหบ้างแล้ว สบถเสียงเย็นยามหลี่หลงหลินเป็นองค์ชาย ยังมีความเคารพตนหลายส่วน ทุกวันร้องเรียกพี่สะใภ้อย่างนั้น พี่สะใภ้อย่างนี้บัดนี้เขาเป็นรัชทายาท อุปนิสัยเจ้าชู้มักมากก็เผยออกมาแล้ว“คนลามก!”กงซูหว่านเผยสีหน้าเย็นชา สบถด่าทีหนึ่ง หันหลังจากไปหลี่หลงหลินจับข้อมือขาวนวลของกงซูหว่านไว้ ใบหน้าจริงจัง “พี่สะใภ้รอง ท่านเข้าใจความนัยข้าผิดไปแล้ว!”กงซูหว่านขมวดคิ้ว “เ
อันที่จริง หลี่หลงหลินมีความเห็นแก่ตัวไม่เพียงติดตั้งเครื่องทำความร้อนให้ไทฮองไทเฮา แต่ยังทำเพื่อมารดาของตนฮองเฮาหลินอีกด้วยขอเพียงฝ่าบาทรับปากติดตั้งเครื่องทำความร้อนให้ตำหนักฉือหนิงหลี่หลงหลินจะใช้ประโยชน์จากภารกิจนี้ ติดตั้งเครื่องทำความร้อนที่ตำหนักฉางเล่อ ขอเพียงพระมารดาตอบตกลง ก็ไม่มีใครกล้าพูดอันใดอย่างไรเสียบัดนี้หลินซื่อก็ไม่ใช่สนมที่ใครก็สามารถรังแกได้อีก แต่เป็นมารดาของใต้หล้าฮองเฮาแห่งต้าเซี่ย!ฮองเฮาหลินชะงักไป เอ่ยถามอยากตกตะลึง “ฤดูร้อน? ทำได้จริงหรือ?”ถ้อยคำนี้ของหลี่หลงหลินอยู่เหนือความรู้ของนางเปลี่ยนแปลงฤดูกาลเป็นฤดูร้อน นี่คือวิธีการของเซียนอย่างไม่ต้องสงสัยหลี่หลงหลินอธิบายหลักการการติดตั้งเครื่องทำความร้อนหนึ่งรอบฮองเฮาหลินตกตะลึงพรึงเพริด ส่ายหน้าอย่างต่อเนื่อง “เจ้าพูดว่าใช้ท่อทองแดง วางไว้ใต้พื้นตำหนักฉางเล่อ? ไม่ได้ ไม่ได้! นี่ต้องจ่ายเงินมากน้อยเพียงใด? ฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว!”“หากมีเงินเหล่านี้ มิสู้นำไปบรรเทาทุกข์ให้ราษฎรจะดีกว่า!”“หากข้ารู้สึกหนาว สวมใส่เสื้อผ้าหนาหน่อยก็พอ หากไม่ไหวจริงๆ ก็เดินให้มากหน่อย ร่างกายก็อบอุ่นแล้ว”หลี่หลงห
“เครื่องทำความร้อน?”ฮ่องเต้หวู่ได้ยินคำศัพท์แปลกใหม่นี้ ก็ชะงักไปเล็กน้อยเจ้าเก้าเจ้าเด็กคนนี้ คิดจะเล่นพิเรนทร์อันใดอีก?หลี่หลงหลินอธิบาย “ภายในวังล้วนใช้ถ่านให้ความอบอุ่น ไม่เพียงราคาสูง อีกทั้งยังเย็น ใกล้เกินไปก็สำลักควัน ลูกอายุน้อย ยังมิอาจทนต่อควันได้ นับประสาอะไรกับเสด็จย่าเล่า?”ถ้อยวาจานี้ พูดเสียจนฮ่องเต้หวู่ใจอ่อนแท้จริงแล้ว เขาเองก็คิดว่าเผาถ่านให้ความอบอุ่น ไม่สบายอย่างมากระยะนี้ไทฮองไทเฮาไออย่างรุนแรงเคยตามหมอหลวงมาตรวจอาการ นี่เกี่ยวข้องกับผิงถ่านให้ความอบอุ่นจริงๆ เสียด้วยแต่หากไม่เผาก็จะหนาวฮ่องเต้หวู่เฟ้นหาวิธีการ กลับไม่พบวิธีที่ดีอะไรเขาเป็นลูกกตัญญูคนหนึ่ง กำลังกังวลเพราะเรื่องนี้อยู่เชียวหลี่หลงหลินคิดหาวิธีการออกแล้ว?ฮ่องเต้หวู่พยักหน้า พูดอย่างแปลกใจ “ใช่ ถ่านไร้ควันทำให้สำลัก เสด็จย่าของเจ้าไออยู่ตลอด ทว่าเครื่องทำความร้อนนี้ ตกลงคืออันใด ทั้งให้ความอบอุ่น ทั้งไม่สำลัก?”หลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “กราบทูลเสด็จพ่อ เครื่องทำความร้อนนี้ อุ่นยิงกว่าถ่านไร้ควัน! ใช้ท่อโลหะเชื่อมต่อ ภายในมีน้ำร้อนส่งผ่านต่อเนื่องไม่หยุด!”ฮ่องเต้หวู่สงสัย “น้ำร้อน
“แค่กๆ...”ฮ่องเต้หวู่ผิงไฟเพียงครู่เดียวก็ไอออกมาอย่างต่อเนื่อง โบกมือ “เอาไปๆ...”ตอนนี้เอง หลี่หลงหลินในชุดคลุมตัวใหญ่ มาหยุดหน้าประตูห้องทรงพระอักษร ค้อมตัวลงพูดว่า “ลูกถวายบังคมเสด็จพ่อ!”ใบหน้าฮ่องเต้หวู่ประดับรอยยิ้ม รีบโบกมือ “เจ้าเก้า ข้างนอกหนาว เจ้ารีบเข้ามาเถอะ!”เพียงหลี่หลงหลินผ่านประตูเข้ามา ก็ได้กลิ่นเผาไหม้สายหนึ่งแม้ว่าถ่านไร้ควันไม่ก่อให้เกิดควัน แต่อย่างไรเสียก็เป็นถ่าน ครั้นจุดขึ้นมาก็ย่อมมีกลิ่นแปลกอยู่บ้างอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง ทำให้คนรู้สึกไม่สบายทว่า ความเป็นอยู่ภายในวังหลวงดีกว่าราษฎร์มากนักครั้นถึงฤดูหนาว ราษฎร์ทำได้เพียงก่อกองไฟรับความอบอุ่น ควันมีมาก ทำให้คนสำลักฤดูหนาวหลายปีที่ผ่านมา มักมีราษฎร์หนาวตายปีนี้มีผ้าฝ้ายที่ทอขึ้นมาเป็นปริมาณมากของหลี่หลงหลิน สถานการณ์จึงดีขึ้นเล็กน้อยหลี่หลงหลินค้อมตัวลง “เสด็จพ่อ ท่านเรียกตัวลูกเข้าวังด้วยเหตุใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้หวู่คลี่ยิ้มมีเมตตา มองหลี่หลงหลิน “เราได้ยินว่าหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยฉบับล่าสุดมียอดขายทะลุหนึ่งล้านฉบับแล้ว? เจ้าจะต้องหาเงินได้ไม่น้อยกระมัง?”หัวใจหลี่หลงหลินสั่นไหว อยากส
แท้จริงแล้ว หลี่เทียนฉี่เองก็เกิดความกลัวภายในใจหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยเจ้าสิ่งนี้ ช่างชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริดโดยแท้!ซ่งชิงหลวนเป็นบัณฑิต สูงส่งบริสุทธิ์ พูดว่าปรักปรำก็ปรักปรำไปแล้ว ถูกขานับหมื่นข้างเหยียบไว้ ไม่อาจพลิกสถานการณ์ได้อีกตนเองเล่า?ต้องรู้ว่าตนเองเป็นรัชทายาทถูกปลด ก่อกบฏจริง บุกยึดวังหลวง เกิดเงามืดภายในใจฮ่องเต้หวู่หากหลี่หลงหลินเด็กคนนี้เขียนส่งเดชในหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ย พูดว่าตนมีเจตนาชั่ว เตรียมการก่อกบฏฮ่องเต้หวู่จะทำเช่นไร?อิงตามอุปนิสัยไร้เยื่อใยของเขา ก็ไม่แน่ว่าจะฆ่าคนในครอบครัวเพื่อรักษาคุณธรรมหลี่เทียนฉียิ่งคิดก็ยิ่งกลัว สั่นสะท้านทั่วทั้งสรรพางค์กาย เสิ่นชิงโจวเงียบงันครู่หนึ่ง พูดว่า “ทีแรกข้าวางแผนลอกเลียนแบบหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ย ท้าทายหลี่หลงหลิน ตอนนี้มองดูแล้วเส้นทางสายนี้มิอาจเดินได้อีก! พวกเรากลับไปเดินบนเส้นทางแห่งอำนาจและกลอุบายนี้อีกครั้ง”ภายในสมองของเขาปรากฏฉากเผชิญหน้ากับหลี่หลงหลินทั้งๆ ที่เป็นหมากล้อม หลี่หลงหลินกลับทำลายกฎ เล่นหมากห้าแถวหนังสือพิมพ์เองก็เฉกเดียวกันตนเองวางแผนใช้สิ่งแปลกใหม่นี้ ต่อสู้กับ
“นี่...”“นี่คืออะไรกัน!”“บทความเหลวไหลไร้สาระ!”เว้นเสียแต่นวนิยายของหลิ่วหรูเยียนแล้ว เรื่องอื่นล้วนเป็นเรียงที่ความเกี่ยวข้องกับซ่งชิงหลวนพาดหัวข่าวใหญ่ที่สุด ‘สัมพันธ์ฉาบฉวยของบัณฑิตซ่งชิงหลวนและนางคณิกา’สำหรับพาดหัวข่าวอื่น ไม่มีอันใดน่าสนใจมิน่าเล่าซ่งชิงหลวนอ่านแล้ว ก็กระอักโลหิตหมดสติไปแม้แต่เสิ่นชิงโจวได้อ่านแล้ว ก็รู้สึกอึดอัดคับข้องใจนี่ต่ำช้าเกินไป เหลวไหลเกินไปแล้วดีชั่วอย่างไรซ่งชิงหลวนก็เป็นบัณฑิต ต่อให้ละโมบไปบ้าง อีกทั้งยังเลี้ยงดูอนุ แต่เรื่องนางคณิกาสำนักการสังคีตนี้ คือการถูกใส่ร้าย!“ช่างเหลวไหลสิ้นดี!”“หลี่หลงหลินอ้างฐานะรัชทายาทของตน ถึงขั้นเขียนเรื่องเหลวไหล ปรักปรำความบริสุทธิ์ของคนอื่น!”“มิอาจทนไหวอีกต่อไปแล้ว!”เสิ่นชิงโจวโมโหเกรี้ยวกราด เกือบสิ้นสติไปเหตุผลง่ายมากแม้ว่าหลี่หลงหลินปรักปรำซ่งชิงหลวน แต่แท้จริงแล้วกำลังโจมตีสำนักปราชญ์ชัดๆ!หากไม่มีหนัง ไฉนเลยจะมีขน?หากชื่อเสียงสำนักปราชญ์ถูกทำลาย เช่นนั้นเสิ่นชิงโจวอยู่ในสำนักปราชญ์ก็สูญเสียสิทธิ์ในการพูดแล้ว!นี่คือดึงฟืนใต้หม้ออย่างแท้จริง!ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้หลี่หลงหลินสามาร
คุกเสิ่นชิงโจวอยู่เพียงลำพังคนเดียว กำลังวางหมากอย่างผ่อนคลายเสียงฝีเท้าลนลานพลันดังขึ้น องค์ชายใหญ่หลี่เทียนฉี่โผล่พรวดพราดเข้ามา สีหน้าตกตะลึงรับมือไม่ทัน“จะกระวนกระวายอะไร?”“บัณฑิต ต้องสุขุมเยือกเย็น”เสิ่นชิงโจวเผยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ตะคอกใส่ “ยิ่งไปกว่านั้น ท่านเป็นผู้ที่จะเป็นฮ่องเต้ เหตุใดจึงได้ลนลานถึงเพียงนี้ ไม่มีความล้ำลึกเลยแม้แต่น้อย?”หลี่เทียนฉี่ถูกสั่งสอน ก้มหน้าลงพูดว่า “อาจารย์ ท่านสั่งสอนถูกแล้ว”เสิ่นชิงโจววางหมาก เอ่ยปากเสียงเรียบ “หนังสือพิมพ์ปรัชญาขงจื๊อต้าเซี่ยของพวกเราขายได้กี่ฉบับ?”หลี่เทียนฉี่เอ่ยตอบตามสัตย์จริง “หนี่ง...หนึ่งร้อยฉบับ”หนึ่งร้อย?ได้ยินจำนวนนี้ เสิ่นชิงโจวตกตะลึงพรึงเพริดในทันใดอิงตามที่เขารู้ หนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยของหลี่หลงหลิน ฉบับแรกขายได้ถึงหนึ่งแสนฉบับแม้ว่าหนังสือพิมพ์ปรัชญาขงจื๊อต้าเซี่ยเป็นของเลียนแบบ ต่างกันเพียงคำเดียว ยิ่งไปกว่านั้นยังตั้งใจวางขายก่อนหนังสือพิมพ์วิชาการต้าเซี่ยอีกด้วยอย่างน้อยยอดขายก็ควรขายได้หนึ่งหมื่นฉบับกระมัง?ต่อให้เป็นห้าพันฉบับ ก็ถือว่ายังดี!หนึ่งร้อยฉบับคืออะไรกัน?เสิ่นชิงโจวใค