แชร์

บทที่ 38

ผู้เขียน: จันทร์กระจ่างภูผา
หลี่หลงหลินทราบว่าพระชายาโหรวอยู่ในวังหลัง ถูกผู้คนกลั่นแกล้ง แม้แต่ตำหนักฉางเล่อที่อาศัยมานานยังถูกฉินกุ้ยเฟยแย่งไป ก็โมโหทันที

เมื่อชุนเถากับชิวเย่นางกำนัลสองคนเห็นดังนั้น ก็ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ รีบคุกเข่าลงไปกล่าววิงวอน “องค์ชาย ท่านอย่าได้วู่วามเด็ดขาดนะเพคะ!”

“ที่วังหลังฉินกุ้ยเฟยอิทธิพลกว้างขวาง ไม่ใช่คนที่ท่านจะจัดการได้เพคะ!”

“ยิ่งไปกว่านั้น วังหลังมีกฎของวังหลัง ถ้าหากท่านมุทะลุ ทำลายความกลมเกลียวของวังหลัง ทำให้ฝ่าบาททรงกริ้ว เกรงว่าสถานการณ์ของพระสนมที่อยู่ในตำหนัก จะยิ่งลำบากมากกว่าเดิมเพคะ!”

“ใช่เพคะ องค์ชาย! ถ้าหากเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา พระสนมจะต้องตำหนิหม่อมฉันสองคนแน่เพคะ!”

หลี่หลงหลินโบกมือ “พวกเจ้าลุกขึ้นเถอะ! กฎของในวัง ข้าเข้าใจ! ชอบเล่นสกปรกกันไม่ใช่หรือ? ใครกลัวใครกัน!”

วังหลังก็เป็นแบบนี้

ภายนอกบรรดานางสนมปรองดองกัน ปฏิบัติตัวต่อกันดั่งพี่น้อง

เบื้องหลัง พวกนางกลับเล่นสกปรก เพื่อแย่งชิงความโปรดปราน

พระชายาโหรวนิสัยอ่อนโยน ไม่ชอบแก่งแย่งชิงดีกับบรรดานางสนมพวกนี้ ยอมไปเสียทุกเรื่อง

ผลสุดท้าย พระสนมยิ่งหนักข้อกว่าเดิม แม้แต่ที่พักอาศัยของพระชายาโหรวก็
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 39

    “รอให้ทหารรักษาพระองค์หนึ่งแสนนายของเราเอาชนะเผ่าหมานได้ เจ้าจะมีความชอบเป็นครั้งแรก!”หลี่หลงหลินขมวดคิ้วเล็กน้อย “มีเพียงแค่หนึ่งล้านตำลึงจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้หวู่งุนงงทันที “ใช่! ไม่อย่างนั้นล่ะ? เบี้ยเลี้ยงทหารที่เราต้องการ ก็แค่หนึ่งล้านตำลึง จะเป็นเท่าไหร่ได้หรือ?”หลี่หลงหลินพูดไม่ออกเป็นอย่างยิ่งพ่อคนนี้ของตน บางครั้งก็หน้าเลือดสุดขีด บางครั้งก็โง่เขลาแบบน่าเอ็นดูในเมื่อครั้งนี้จะจัดการเว่ยซวิน ก็ควรจะต้องให้เขากระอักเลือด!ไม่ผิด!ทหารรักษาพระองค์หนึ่งแสนนายต้องการเบี้ยเลี้ยงหนึ่งล้านตำลึงแต่ถ้าหากทันทีที่การศึกเจรจาไม่ได้ ทหารรักษาพระองค์ต้องการเบี้ยเลี้ยงมากกว่านี้จะทำอย่างไร?อีกทั้งทั้งราชสำนัก ที่ที่ต้องการใช้เงินมีมากมายให้เว่ยซวินรวบรวมเงินเพียงแค่หนึ่งล้านตำลึง!นี่มันจะดูถูกเขามากเกินไปแล้ว!ใครไม่รู้บ้างว่า พระเก้าพันปีมั่งคั่งร่ำรวย จนเทียบกับทั้งแคว้นได้?ต่อไปเว่ยซวินจะเตรียมการป้องกัน อยากจะเล่นงานเขา เกรงว่าคงจะยากแล้ว!หลี่หลงหลินถอนหายใจทีหนึ่ง “เสด็จพ่อ เช่นนั้นเงินของลูกจะทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้หวู่งุนงง “เงินอะไรหรือ?”หลี่ห

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 40

    ใช่ว่าฮ่องเต้หวู่จะไม่คุ้นเคยกับการสู้รบเบี้ยเลี้ยงทหารรักษาพระองค์หนึ่งแสนนาย ยังต้องการเงินหนึ่งล้านตำลึงแค่คิดก็รู้ การสร้างกองทัพทหารใหม่กองหนึ่ง เริ่มจากศูนย์ ต้องการเงินเท่าไหร่อย่างน้อยก็ต้องใช้สิบล้านตำลึง หรืออาจจะมากกว่านั้นฮ่องเต้หวู่ไม่อยากสร้างกองทัพทหารใหม่งั้นหรือ?แน่นอนว่าไม่ใช่!ประเด็นหลักคือจน!ต้าเซี่ยในวันนี้ บรรดาขุนนางตระกูลใหญ่แต่ละคนร่ำรวยเป็นอย่างยิ่งแต่ราชสำนักและฮ่องเต้ยากจนจริง ๆ !ฮ่องเต้หวู่แทบจะใช้ชีวิตอย่างกัดก้อนเกลือกิน!ฮองเฮายังทอผ้าอยู่ในวัง เพื่ออุดหนุนค่าใช้จ่ายในครอบครัว!เมื่อหลี่หลงหลินเห็นว่าฮ่องเต้หวู่สนใจ รีบฉวยโอกาสตีเหล็กตอนยังร้อน “เสด็จพ่อ ไม่เพียงเท่านี้! เงินห้าแสนตำลึงก้อนนี้ ลูกไม่ขอจากพระองค์โดยเปล่าประโยชน์ ให้ถือว่าพระองค์เป็นผู้ลงทุน!”“ลูกจะแบ่งเงินปันผลตามกำไร ให้พระองค์สองส่วน”“พระองค์คิดเห็นเป็นอย่างไร?”ฮ่องเต้หวู่ไม่กล้าเชื่อหูตัวเองเลยจริง ๆเงินห้าแสนตำลึง ไม่เพียงสร้างกองทัพทหารใหม่ได้หนึ่งกอง ยังแบ่งเงินปันผลให้ตนได้อีกสองส่วนทุกปีคิดไม่ถึงว่าใต้หล้านี้จะมีเรื่องดี ๆ แบบนี้ด้วย?ตนไม่ได้ฝันไปใช

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 41

    หรือว่าเจ้าจะให้ข้าไปขู่เข็ญเว่ยซวินอีก? ใช่!เว่ยซวินมีจิตใจทะเยอทะยานก็จริง เขาอ้างชื่อของข้ารีดไถความมั่งคั่งที่ได้มาด้วยเลือดและหยาดเหงื่อของราษฎรไปไม่น้อย แต่อย่างไรเว่ยซวินก็รับใช้ข้ามาหลายปี หากไม่มีคุณูปการก็ยังมีความมานะบากบั่นเจ้าให้ข้าขู่เข็ญเว่ยซวินเพียงครั้งเดียวก็ยังพอทนแต่เจ้ายังอยากให้ข้าขู่เข็ญเว่ยซวินเป็นครั้งที่สองอีกหรือ?แม้ว่าจะเป็นการถอนขนแกะ แต่เจ้าก็ไม่สามารถจับแกะตัวเดียวมาถอนขนได้หลี่หลงหลินเห็นสีหน้าของฮ่องเต้หวู่แปรเปลี่ยนไป จึงรีบพูดว่า “เสด็จพ่อ พระองค์ทรงเข้าพระทัยลูกผิดแล้ว! ลูกไม่ได้มีเจตนาไม่ดีกับเว่ยกงกง! แต่ว่าหลังจากที่พี่หกถูกยึดทรัพย์แล้ว เหลือจวนเพียงหลังเดียว”“เป็นการดีกว่าหากพระองค์มอบจวนหลังนี้ให้ลูกจัดการ มันจะได้ราคาถึงห้าแสนตำลึงแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อฮ่องเต้หวู่ได้ยินเช่นนั้น เขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่แท้ก็ไม่ได้ต้องการให้ข้าไปถอนขนแกะของเว่ยซวินต่อ แต่ต้องการจวนของเจ้าหกนี่เอง!เช่นนั้นก็ตกลงกันง่ายหน่อย!เพียงแต่จวนหนึ่งหลังในเมืองหลวง อย่างมากที่สุดก็มีมูลค่าห้าหมื่นตำลึงเท่านั้นแต่หลี่หลงหลินกลับพูดว่า จวนหลั

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 42

    หลังจากหลี่หลงหลินจากไป สีหน้าของฮ่องเต้หวู่พลันมืดมน จ้องมองไปที่เว่ยซวิน แล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา “มิน่าล่ะ วันนี้ข้าอยากให้พระชายาโหรวมาปรนนิบัติ แต่เจ้ากลับขัดขวางทุกวิถีทาง! ที่แท้พระชายาโหรวก็ไม่อยู่ที่ตำหนักฉางเล่อ เพราะถูกคนขับไล่ให้ไปอยู่ที่เรือนสุ่ยอวิ๋นนี่เอง!”“เป็นถึงพระชายา กลับไปอยู่รวมกับพวกบ่าวรับใช้!”“เว่ยซวิน เจ้าทำแบบนี้เหมือนตบหน้าข้าชัดๆ!”ประโยคนี้ของฮ่องเต้หวู่ เป็นการพูดแรงเกินไปเว่ยซวินตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่าง รีบคุกเข่าโน้มตัวเอาหัวโขกบนพื้นราวกับโขลกกระเทียม “ฝ่าบาท! กระหม่อมก็ไม่ทราบเช่นกันว่าพระชายาโหรวย้ายไปที่เรือนสุ่ยอวิ๋น...”“ไม่ทราบ?”ฮ่องเต้หวู่เดือดดาลยิ่งนัก “เจ้าเป็นหัวหน้าผู้ดูแลฝ่ายใน! เจ้ากลับบอกว่าเจ้าไม่รู้? หากเจ้าเป็นข้า ควรจะลงโทษเจ้าโทฐานละเลยหน้าที่นี้อย่าง?”ตุบ ตุบ ตุบ...เว่ยซวินโขกหัวอย่างสุดชีวิตจนหน้าผากถลอกและมีเลือดซึมออกมา “กระหม่อมสมควรตาย! กระหม่อมสมควรตาย...”ฮ่องเต้หวู่หรี่ตามองเว่ยซวิน “เจ้าสมควรตาย! แต่ข้าเองก็รู้ว่าเจ้าเป็นแค่ขันที ต่อให้บ้าบิ่นเพียงใด ในฐานะบ่าวรับใช้ย่อมไม่กล้ารังแกเจ้านาย! เจ้าบอกความจริงข้

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 43

    ฮ่องเต้หวู่เอามือไพล่หลัง แววตาเย็นเยือก “เดิมทีข้าไม่คิดที่จะมาที่นี่ตั้งแต่แรก แต่ข้าได้ยินว่าเจ้าปล้นตำหนักฉางเล่อไป แล้วขับไล่พระชายาโหรวไปที่เรือนสุ่ยอวิ๋น! ข้าอยากจะเห็นนัก ว่าสตรีโหดเหี้ยมอำมหิตมีหน้าตาอย่างไร ถึงได้กล้ามาวางอำนาจบาตรใหญ่ กำเริบเสิบสานในวังหลังของข้าได้!”สีหน้าของฉินกุ้ยเฟยเปลี่ยนไปอย่างมากฮ่องเต้ไม่ได้มาที่นี่เพื่อแสดงความยินดีกับตน แต่มาเพื่อหาเรื่อง!พูดตามตรง ฉินกุ้ยเฟยมัวแต่กังวลกับความปลอดภัยขององค์ชายหก จนแทบไม่ได้ใส่ใจเรื่องยึดตำหนักฉางเล่อและนางก็ยิ่งคิดไม่ถึงว่าฮ่องเต้จะมาซักไซ้เอาความในเรื่องนี้กับนางช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้!ฉินกุ้ยเฟยไม่ใช่ลูกนกที่เพิ่งออกจากรังตั้งนานแล้ว นางอยู่ในวังหลังมาหลายปี การต่อสู้แบบไหนบ้างที่นางยังไม่เคยเห็น?ไม่นานนางก็สงบสติอารมณ์ลงได้ ก่อนจะอธิบายว่า “ฝ่าบาท พระองค์ตรัสเช่นนี้ก็ไม่ถูกนะเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ใช้กำลังปล้นตำหนักฉางเล่อของน้องโหรวมา! แต่พระชายาโหรวเป็นฝ่ายยกตำหนักฉางเล่อให้หม่อมฉันเอง!”“ถ้าพระองค์ไม่เชื่อ เว่ยกงกงเป็นพยานได้”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินกุ้ยเฟยก็ขยิบตาให้กับเว่ยซวินแต่เว่ยซวินกลับเหมือ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 44

    ฉินกุ้ยเฟยรักองค์ชายหกเป็นอย่างมาก และเป็นจุดอ่อนของนางเมื่อได้ยินว่าฮ่องเต้หวู่กำลังจะสังหารเจ้าหก ฉินกุ้ยเฟยตกใจจนหน้าซีด ก่อนจะเอ่ยขอร้องว่า “ฝ่าบาท ได้โปรดท่านเห็นแก่ความเป็นสามีของพวกเราด้วยเถอะ ไว้ชีวิตหม่อมฉันสักครั้ง!”ฮ่องเต้หวู่พูดอย่างเย็นชา “ข้าไม่อยากจะพูดไร้สาระกับเจ้า! เก็บข้าวแล้วไสหัวออกไปจากตำหนักฉางเล่อเดี๋ยวนี้! อีกอย่างหากภายหน้าเจ้ากล้าไปหาเรื่องพระชายาโหรว ระวังหัวของเจ้าหกจะหลุดจากบ่า!”เมื่อพูดจบแล้วฮ่องเต้หวู่ก็ไม่ได้ให้โอกาสฉินกุ้ยเฟยได้พูด เขาหันหลังเดินออกไปจากตำหนักฉางเล่อทันทีฉินกุ้ยเฟยทรุดตัวลงบนพื้น แล้วร้องไห้จนหน้ามืดเว่ยซวินมองเงาหลังที่เดินจากไปของฮ่องเต้หวู่ ก่อนจะพึมพำอย่างเหม่อลอย “ดูเหมือนว่าวังหลังจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว!”ร้องไห้ก็ร้องไห้ไปการครอบครองตำหนักฉางเล่อ มันเกี่ยวข้องกับชีวิตขององค์ชายหกฉินกุ้ยเฟยไม่กล้าที่จะชะล่าใจ นางรีบเก็บของทั้งคืนแล้วย้ายออกไปจากตำหนักฉางเล่อในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น เว่ยซวินสารภาพผิดที่เรือนสุ่ยอวิ๋นด้วยตนเอง ขอร้องให้พระชายาโหรวกลับไปที่ตำหนักฉางเล่อพระชายาโหรวทนคำขอร้องของเว่ยซวินไม่ไหว นางนั่งเ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 45

    ฉินกุ้ยเฟยพยักหน้ากล่าวว่า “เช่นนั้นก็ดี”หลี่จือโค้งตัวคำนับกล่าวว่า “หากไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ลูกขอทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”ฉินกุ้ยเฟยก็รีบพูดว่า “ช้าก่อน! ยังมีอีกเรื่อง! ระวังเจ้าเก้าเอาไว้ด้วย...”หลี่จือหัวเราะเย็นชาทันที แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าดูแคลน “เจ้าเก้าคนไร้ประโยชน์นั่น มีอะไรดีให้กังวลใจ! ลูกสามารถขยี้เขาให้ตายเหมือนกับขยี้มดตัวหนึ่งก็ได้!”......หลี่หลงหลินมาที่จวนตระกูลซูตั้งแต่เช้าตรู่สิ่งที่ทำให้เขานึกไม่ถึงเลยก็คือหญิงสาวในตระกูลซูต่างก็มารวมตัวกันอยู่ในจวนเพื่อรอตนเองฮูหยินผู้เฒ่าซูในมือถือไม้เท้าหัวมังกร กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือลั่วอวี้จู๋ยืนอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ สวมชุดกระโปรงสีเขียว ใบหน้าขาวบริสุทธิ์ ราวกับแกะสลักมาจากผลึกน้ำแข็ง ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายเสน่ห์ที่เย้ายวนของฤดูใบไม้ร่วงซูเฟิ่งหลิงสวมชุดเกราะ ในมือถือหอกเงิน ยืนอยู่ข้างๆ ฮูหยินผู้เฒ่าซูอย่างสง่างาม ท่าทางดูคันไม้คันมืออยากจะซักไซ้เอาความหลี่หลงหลินบุ้ยปาก “ไม่ว่าอย่างไร! ข้าก็เป็นลูกเขยของตระกูลซู ไม่จำเป็นต้องเด็ดขาดขนาดนี้ก็ได้กระมัง!”ซูเฟิ่งหลิงกล่าวด้วยความโกรธ “พูดไร้สาระให้มันน้อยๆ ห

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 46

    หลี่หลงหลินตะลึงงันเขาคิดไม่ถึงเลยว่าลั่วอวี้จู๋จะขายทรัพย์สินส่วนใหญ่ของตระกูลซู รวบรวมเงินได้ห้าหมื่นตำลึงเพื่อฟื้นฟูกองทัพตระกูลซูขึ้นมาต้องรู้ว่าเงินห้าหมื่นตำลึงนี้ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ!ราชวงศ์ของต้าเซี่ยที่ยิ่งใหญ่ มีกี่คนที่สามารถหาเงินได้ห้าหมื่นตำลึง?เพื่อก่อกบฏ องค์ชายหกรวบรวมเงินได้เพียงหนึ่งแสนตำลึง!ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ตระกูลซูกำลังตกต่ำ!ลั่วอวี้จู๋ทำเช่นนี้ เท่ากับทุ่มสุดตัวที่สุดแล้ว!ฮูหยินผู้เฒ่าซูก็ยิ่งเด็ดขาดพูดคำว่าขายจวนออกมาได้ในทันที เพื่อจะมารวบรวมเงินเสบียงทหารให้หลี่หลงหลิน!หากขายจวนตระกูลซูไปจริงๆ แล้วเด็กกำพร้าและแม่ม่ายในตระกูลซูจะทำอย่างไร?หรือว่าพวกนางจะต้องระเหเร่ร่อนอยู่ตามท้องถนนจริงๆ?นอกจากความตกใจในใจของหลี่หลงหลินแล้ว ก็ยังมีความสะเทือนใจด้วย!ในราชสำนักต้าเซี่ยปัจจุบัน ขุนนางที่ไร้ความสามารถเหล่านั้นกำลังทุจริตกันอย่างกำเริบเสิบสานขุนนางใหญ่แต่ละคนสามารถหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำ ตระกูลมั่งคั่งร่ำรวยฮ่องเต้หวู่ต้องการให้พวกเขาออกเงินเพื่อเติมเสบียงให้กองทัพ แต่พวกเขาแต่ละคนกลับโวยวายร้องไห้หาพ่อหาแม่ พยายามคิดฆ่าตัวตายพวกเขาแทบไ

บทล่าสุด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1260

    เช้าวันรุ่งขึ้นทะเลคราม ฟ้าสีฟ้า ท้องฟ้าปลอดโปร่งไร้เมฆ ไกลสุดสายตาเรือใหญ่ลำหนึ่งแล่นออกจากท่าเรือตงไห่อย่างโอ่อ่า ท่วงทีองอาจไม่ธรรมดาการออกทะเลครั้งนี้ หลี่หลงหลินไม่เพียงแต่พาเหล่าพี่สะใภ้มาด้วยหลายคน แต่ยังคัดเลือกทหารยอดฝีมือของตระกูลซูมาเป็นพิเศษอีกสามร้อยนายซูเฟิ่งหลิงยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ ทอดสายตามองไปยังเส้นขอบฟ้าที่ผืนน้ำจรดกับผืนฟ้า แววตาเต็มไปด้วยความกังวล ลมทะเลพัดผ่าน ผ้าคลุมสีแดงสดด้านหลังนางปลิวสะบัดพลิ้วไหว!หลี่หลงหลินบิดขี้เกียจ กระทืบเท้าลงบนดาดฟ้าเรือเบาๆเรือของเมืองตงไห่แข็งแรงกว่าที่ข้าคิดไว้มากตอนนี้หลี่หลงหลินทำได้เพียง มีอะไรก็ใช้อย่างนั้นไปก่อนแม้จะเทียบไม่ได้กับเรือประมงหมื่นตันในจินตนาการแต่แค่จับปลาหลายพันชั่งขึ้นมาก็ยังถือว่าสบายมากหลี่หลงหลินหยิบคันเบ็ดออกมานั่งลงข้างๆ ซูเฟิ่งหลิง ด้วยท่าทางสบายๆ ราวกับไม่ได้กังวลแม้แต่น้อยซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วงาม กล่าวเสียงขรึม "รัชทายาท ท่านบอกว่าจะพาพวกเราออกมาจับปลา คงไม่ได้คิดจะใช้แค่คันเบ็ดนี่ตกปลาหรอกนะเพคะ?"เหล่าพี่สะใภ้ก็รู้สึกว่ามันเหลือเชื่ออยู่บ้างอาศัยเพียงคันเบ็ดคันเดียวของหลี่หลงหลิน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1259

    ลั่วอวี้จู๋ก็ตกตะลึงไปเช่นกัน นางส่ายหน้าไม่หยุดกล่าวว่า “ไม่ได้ น้องหญิง เจ้าอย่าพูดอะไรพล่อยๆ บัญชีมันไม่ได้คำนวณแบบนั้น! ตอนนี้ประชาชนหลายแสนคนในตงไห่กำลังรอเสบียงอาหารอยู่ นี่ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เพียงแค่พึ่งพาการล่าสัตว์ อย่างไรก็ไม่พอ!”ตอนนี้ไม่เพียงแต่ต้องคำนึงถึงค่ากินอยู่ใช้สอยของเหล่าทหารกองทัพตระกูลซูทั้งหมด แต่ที่สำคัญกว่าคือการแก้ปัญหาความต้องการเสบียงอาหารของประชาชนตงไห่ทั้งหมดซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วเรียวงาม “ถ้าไม่ไหวจริงๆ ข้าจะนำกองทัพตระกูลซูไปปล้นยุ้งฉางของพวกพ่อค้าเหล่านั้นเสียเลย! แบบนี้พวกเราก็จะมีเสบียงอาหารแล้วไม่ใช่รึ?”ลั่วอวี้จู๋ตกใจ รีบกล่าวว่า “น้องหญิง! เจ้าอย่าทำเรื่องเหลวไหล!”“เจ้าทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ แล้วชื่อเสียงของกองทัพตระกูลซูจะทำอย่างไร! ชื่อเสียงอันดีงามที่ตระกูลซูผู้จงรักภักดีสืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษจะถูกทำลายในพริบตาได้อย่างไร?”“อีกอย่าง ท่านย่าก็คงไม่อนุญาตให้เจ้าทำตามอำเภอใจเช่นนี้แน่!”ซูเฟิ่งหลิงเบ้ปาก พึมพำว่า “ข้าก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง...”ตระกูลซูรับราชการทหารมาหลายชั่วอายุคน ทั้งตระกูลจงรักภักดี ไม่เคยทำเรื่องผิดต่อมโนธรรมใดๆ แม้กระทั

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1258

    ตกเย็น จวนอ๋องตงไห่สว่างไสวไปด้วยแสงไฟเหล่าพี่สะใภ้รวมตัวกันอยู่ในห้อง ใบหน้างดงามซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล ทุกคนต่างกลัดกลุ้มกับสถานการณ์ปัจจุบันของตงไห่ลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้วเรียวเล็กน้อย ถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “รัชทายาท ตอนนี้พวกเราควรทำเช่นไรดี? ท่านสัญญาว่าจะทำให้ราษฎรตงไห่ทุกคนได้กินเนื้อสัตว์ภายในเจ็ดวัน แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่เนื้อเลย เกรงว่าแม้แต่การกินให้อิ่มท้องธรรมดาๆ ก็ยังยาก”เมื่อตอนเย็น ลั่วอวี้จู๋ได้ส่งคนไปสืบราคาเสบียงอาหารในตลาดแล้วและก็เป็นไปตามคาด หลังจากที่ราษฎรตื่นตระหนก ราคาเสบียงอาหารก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก ถึงขนาดที่ว่าในตลาดตงไห่ไม่มีข้าวสารขายในทันทีแล้ว หากต้องการซื้อทันทีก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มพิเศษ!เหล่าราษฎรต่างพากันส่งเสียงก่นด่าอย่างคับแค้น สถานการณ์เริ่มจะดำเนินไปในทิศทางที่ควบคุมไม่ได้แล้วลั่วอวี้จู๋มองไปยังหลี่หลงหลิน ถอนหายใจกล่าวว่า “รัชทายาท ตอนนี้วิธีที่ง่ายที่สุดคือการขายทรัพย์สมบัติทั้งหมด แล้วนำเงินไปแลกเป็นเสบียงอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย”“แต่ข้าคำนวณดูแล้ว ต่อให้ขายทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลซู ก็ทำได้เพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1257

    เหล่าราษฎรจ้องเขม็งไปยังหลี่หลงหลิน ต้องการคำอธิบายจากเขา หากไม่ได้ความในวันนี้ พวกเขาสาบานว่าจะไม่ยอมเลิกรา!หลี่หลงหลินเชิดหน้าอกผาย กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ปากท้องของราษฎรคือเรื่องสำคัญที่สุด ในเมื่อตงไห่เป็นดินแดนในอาณัติของข้า เช่นนั้นพวกท่านก็คือราษฎรของข้า หลี่หลงหลิน”“แม้จะมีภัยพิบัติทางธรรมชาติและภัยจากมนุษย์ แต่ข้ารับรองว่าจะไม่ปล่อยให้พวกท่านต้องอดอยากหิวโหยเป็นอันขาด เรื่องเสบียงอาหารนั้นขอให้ราษฎรวางใจ ภายในเจ็ดวัน ข้าจะทำให้พวกท่านได้กินอิ่มท้องอย่างแน่นอน!”น้ำเสียงของหลี่หลงหลินทรงพลังอย่างยิ่ง ถ้อยคำดังก้องกังวานอยู่ในโสตประสาทของเหล่าราษฎรผู้คนต่างส่งเสียงฮือฮา“ขี้โม้!”“พี่น้องทั้งหลาย อย่าได้หลงเชื่อคำโอ้อวดของเขาเลย! ดูสิ ยุ้งฉางเหล่านี้ล้วนว่างเปล่า! จะเอาข้าวที่ไหนมาให้พวกเรา!”“หากวันนี้ไม่ให้คำตอบที่ชัดเจนกับพวกเรา แล้วอีกเจ็ดวันพวกเราจะไปเรียกร้องความเป็นธรรมกับใคร!”“ใช่แล้ว!”“หากวันนี้ไม่ยอมมอบเสบียงอาหารออกมา ก็อย่าหวังว่าจะได้ก้าวเท้าออกจากยุ้งฉางนี้ไปได้!”ชายฉกรรจ์ผู้เป็นหัวหน้าโบกแขนตะโกนปลุกระดมเหล่าราษฎร ผู้คนต่างขานรับเป็นเสียงเดี

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1256

    เหล่าราษฎรที่อยู่ด้านนอกยุ้งฉางต่างชูกำปั้นตะโกนก้อง เสียงดังสะท้อนไปทั่วฟ้า “แจกจ่ายเสบียง! แจกจ่ายเสบียง!”ข่าวราคาเสบียงอาหารในเมืองตงไห่พุ่งสูงขึ้นได้แพร่กระจายออกไปแล้ว ราษฎรต่างตื่นตระหนกหวาดกลัว จึงนัดหมายกันมารวมตัวที่หน้ายุ้งฉางเพื่อเรียกร้องขอเสบียง ก่อเกิดเป็นพลังมหาศาลหากไม่ใช่เพราะเหล่าทหารที่คอยขัดขวางไว้ เกรงว่าป่านนี้เหล่าราษฎรคงบุกเข้าไปในยุ้งฉางแล้วลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย กล่าวเสียงเบา “รัชทายาท เช่นนี้จะทำอย่างไรดี ตอนนี้ยังไม่ได้ขาดแคลนเสบียงอาหารถึงที่สุด แต่ความโกรธแค้นของราษฎรก็รุนแรงถึงเพียงนี้แล้ว หากมีวันใดที่เสบียงหมดลงจริงๆ...”ใบหน้างามของลั่วอวี้จู๋ซีดขาว ริมฝีปากแดงเม้มแน่น ยืนนิ่งตะลึงงันอยู่กับที่ นางไม่อาจจินตนาการถึงภาพนั้นได้ราษฎรที่ก่อความวุ่นวายนอกยุ้งฉางมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆเหล่าทหารยามเริ่มชักดาบประจำกายออกมา แต่สำหรับเหล่าราษฎรแล้ว หากไม่มีเสบียงให้กิน ในภายภาคหน้าก็มีแต่ความตายสถานเดียว!ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วงามเล็กน้อย แววตาหงส์ฉายประกายดุดัน “รัชทายาท หากปล่อยให้พวกเขาอาละวาดต่อไปเช่นนี้ ต้องเกิดเรื่องแน่เพค

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1255

    ลั่วอวี้จู๋เดินเข้ามาก่อนสองก้าว กล่าวว่า “องค์รัชทายาท ตอนนี้แม้จะจัดการกับพวกพ่อค้าเศรษฐี แต่ก็ยังต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาเรื่องเสบียงอาหารก่อน มิฉะนั้นเมื่อถึงเวลา ราษฎรอาจตื่นตระหนก ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อพวกเราได้”หลี่หลงหลินเพียงแค่แย้มยิ้มบางเบาซูเฟิ่งหลิงกล่าวว่า “องค์รัชทายาท ยุ้งฉางเมืองตงไห่ถือเป็นสถานที่สำคัญยิ่งของต้าเซี่ย ข้างในย่อมต้องมีเสบียงเก็บไว้แน่นอน ตอนนี้สามารถนำเสบียงในยุ้งฉางออกมาแจกจ่ายช่วยเหลือราษฎร เพื่อให้พวกเขาคลายกังวลได้แล้วเพคะ”ลั่วอวี้จู๋พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้วเพคะ องค์รัชทายาท ทำให้ราษฎรคลายกังวลลงก่อน แล้วค่อยว่ากันถึงแผนขั้นต่อไป”หลี่หลงหลินส่ายหน้า กล่าวเสียงเรียบ “ไม่ต้องเสียแรงเปล่าแล้ว ยุ้งฉางเมืองตงไห่ถูกขนย้ายไปจนหมดสิ้นนานแล้ว ไม่เหลือแม้แต่เมล็ดเดียว ตอนนี้เหลือเพียงแค่ยุ้งฉางเปล่าๆ เท่านั้น”ทั้งสองคนตกตะลึง“เป็นไปได้อย่างไร? ยุ้งฉางนั้นเป็นเสบียงช่วยชีวิตที่ราชสำนักเก็บไว้ เพื่อรับประกันว่าราษฎรจะไม่อดตายในปีที่เกิดภัยพิบัติ จะมีคนกล้าบ้าบิ่นถึงเพียงนี้ มาคิดการใหญ่กับมันได้อย่างไร?”ซูเฟิ่งหลิงไม่อยากจะเชื่อคำพูดของหลี่หลงหลินหลี่

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1254

    ตำหนักอ๋องตงไห่หลี่หลงหลินเดินออกจากห้องก็พบกับลั่วอวี้จู๋และซูเฟิ่งหลิงที่รีบร้อนเข้ามาพอดีลั่วอวี้จู๋มีสีหน้าตื่นตระหนก รีบกล่าวว่า “องค์รัชทายาท เกิดเรื่องใหญ่แล้วเพคะ!”หลี่หลงหลินหาว กล่าวเรียบๆ ว่า “พี่สะใภ้ ไม่ต้องรีบร้อน มีอะไรค่อยๆ พูด”ลั่วอวี้จู๋หอบหายใจเล็กน้อย กล่าวว่า “เมื่อครู่ข้ากับน้องหญิงกำลังดูแลร้านค้าของตระกูลซูในตงไห่ที่ถนน ได้ยินเถ้าแก่บอกว่า ตอนนี้ราคาธัญพืชในตงไห่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว วันเดียวเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว!”“เรื่องผิดปกติย่อมมีเบื้องหลัง ดังนั้นจึงรีบกลับมารายงานองค์รัชทายาท”ปากท้องของประชาชนคือเรื่องสำคัญที่สุดราคาธัญพืชเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร หากราคาธัญพืชผิดปกติ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก!ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้า ตอบว่า “องค์รัชทายาท ตอนนี้เป็นปีแห่งภัยพิบัติอยู่แล้ว เกิดภัยแล้งติดต่อกันหลายปี ผลผลิตธัญพืชลดลงทุกปี บ้านเรือนของราษฎรแทบไม่มีเสบียงสำรอง ต้องอาศัยการซื้อธัญพืชประทังชีวิตทั้งสิ้น”“แต่ตอนนี้ถ้าหากราคาธัญพืชพุ่งสูงขึ้น แล้วราษฎรในตงไห่เหล่านี้จะทำอย่างไร?”หลี่หลงหลินมองลั่วอวี้จู๋ กล่าวเรียบๆ ว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่าน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1253

    “แต่ทุกท่านกลับมองข้ามเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งไป นั่นคือโอกาสที่จะร่ำรวยมหาศาล”แววตาละโมบปรากฏขึ้นในดวงตาของหลู่จงหมิง“นั่นก็คือเสบียงอาหาร”พอหลู่จงหมิงกล่าวคำนี้ออกมา ทั่วทั้งห้องก็เกิดเสียงฮือฮา พูดคุยวิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่พ่อค้าร่ำรวยไม่อาจปิดบังความดีใจอย่างบ้าคลั่งในใจ “ท่านพระเชษฐภาดา ท่านหมายความว่าจะลงมือกับราคาธัญพืชหรือ?”หลู่จงหมิงเผยรอยยิ้มเย็นชา “ถูกต้อง”ปัจจุบันต้าเซี่ยประสบภัยแล้งติดต่อกันหลายปี ผลผลิตธัญพืชลดลงทุกปี แม้แต่ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์อย่างตงไห่ ยุ้งฉางก็ร่อยหรอเต็มทีแล้วยิ่งไปกว่านั้น หลี่หลงหลินนำกองทัพใหญ่มาปักหลักที่ตงไห่ ค่ากินอยู่ใช้สอยล้วนต้องเบิกจ่ายจากท้องพระคลังตงไห่แม้ว่ากบฏจะถูกปราบปรามจนสงบ ก็จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันด้านเสบียงอาหารให้กับตงไห่มากขึ้นเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้น อาจมีสถานการณ์กบฏที่รุนแรงกว่าเกิดขึ้นได้อีกถึงตอนนั้น เสบียงอาหารของตงไห่ก็จะยิ่งน้อยลงเรื่อยๆของยิ่งน้อยยิ่งมีค่า ราคาธัญพืชย่อมต้องถูกปั่นสูงขึ้นปากท้องของประชาชนคือเรื่องสำคัญที่สุดพ่อค้าร่ำรวยย่อมรู้หนทางสู่ความร่ำรวยด้วยการกักตุนธัญพืช ปั่นราคา แต่ไม่มีใครกล

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1252

    จวนตระกูลหลู่คานแกะสลัก เสากรอบวาดลวดลาย วิจิตรตระการตา ทองเหลืองเรืองรอง หลู่จงหมิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตากวาดมองเหล่าพ่อค้าที่มาถึง “มากันครบแล้วหรือ?”เงียบสงั ดจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงเข็มตกพ่อค้าเหล่านี้หูตาสว่าง รู้เรื่องที่พระเชษฐภาดาเจอในจวนอ๋องนานแล้ว ไม่กล้าราดน้ำมันบนกองไฟในจังหวะสำคัญนี้ พ่อค้าที่ปกติหยิ่งยโสโอหังต่างก็สงบเสงี่ยมเจียมตัวต่อหน้าหลู่จงหมิง ไม่กล้าพูดมาก เกรงว่าจะล่วงเกินแม้หลู่จงหมิงจะเสียหน้าอย่างหนักในจวนอ๋อง แต่ก็ไม่ใช่คนที่พ่อค้าอย่างพวกเขาจะดูเบาได้พ่อบ้านจวนตระกูลหลู่เดินเข้ามากล่าวเสียงเบา “นายท่าน ยังมีคนจากตระกูลซุนและตระกูลจ้าวที่ยังไม่มา ท่านจะว่าอย่างไร...”หลู่จงหมิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ตวาดว่า “ไม่มาก็ไม่ต้องมาแล้ว! กล้าดีอย่างไรไม่เห็นคำพูดของข้าผู้เป็นพระเชษฐภาดาอยู่ในสายตา”หลู่จงหมิงมองเหล่าพ่อค้ามั่งคั่งที่อยู่ ณ ที่นั้น กล่าวเสียงเย็นชา “นับแต่นี้ไป ทุกท่านที่อยู่ที่นี่ห้ามทำการค้าใดๆ กับสองตระกูลนี้ หากข้าพบเข้า... หึหึ!”แววตาอำมหิตวาบผ่านดวงตาของหลู่จงหมิงนี่คือเขาต้องการแสดงอำนาจ สร้างบารมี กู้หน้าตาที่เสียไปกลับคืนมาพ่อค

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status