ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้ากล่าวว่า “จำได้สิ! องค์ชายเก้าจะขอเงินสนับสนุนกองทัพสองแสนตำลึงจากฮ่องเต้ให้ได้ภายในสามวัน...”ลั่วอวี้จู๋ส่ายหัวกล่าวว่า “ไม่ใช่! เจ้าจำผิดแล้ว! สิ่งที่พวกเราพนันไปก็คือภายในสามวันนี้ฮ่องเต้จะรวมเงินหนึ่งร้อยล้านตำลึง และอีกสองแสนตำลึงมาสร้างกองทัพตระกูลซู!”“องค์ชายเก้าไม่ได้ขอเงินสองแสนตำลึง ในครึ่งหลังถือว่าเขาแพ้จริงๆ”“แต่ฮ่องเต้จะรวบรวมเงินสนับสนุนกองทัพหนึ่งร้อยล้านตำลึงมาให้ได้ภายในสามวันจริงๆ!”ซูเฟิ่งหลิงตกใจ “จริงหรือ?”ลั่วอวี้จู๋พยักหน้า “นี่คือข่าวที่เพิ่งส่งออกมาจากวัง ไม่ผิดแน่นอน!”ซูเฟิ่งหลิงตื่นเต้นมาก “ดีจริงๆ! ทหารรักษาพระองค์หนึ่งแสนนาย เป็นทหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดในต้าเซี่ย! ตราบใดที่เบี้ยเลี้ยงทหารมาถึง ขวัญกำลังใจของพวกเขาจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน และชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือจะต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบ ต้องกลัวจนฉี่ราดแน่นอน!”“แต่ว่า...”“องค์ชายเก้าผู้นี้เกี่ยวอันใดด้วย?”ดวงตางดงามของลั่วอวี้จู๋จ้องไปที่หลี่หลงหลินแล้วเอ่ยว่า “เกี่ยวมากเลยล่ะ! ถ้าข้าเดาไม่ผิด คนที่ช่วยวางแผนรวบรวมเงินเสบียงทหารผู้นั้น! ก็อยู่ใกล้ๆ เพียงตรงหน้านี้
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลี่หลงหลินกล่าว สตรีทุกคนในตระกูลซูต่างก็ตะลึงงันลั่วอวี้จู๋ขมวดคิ้ว “องค์ชาย ที่เจ้าพูดมา ข้าไม่เข้าใจ...”หลี่หลงหลินกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “ง่ายมาก! เงินก้อนนี้ ข้าองค์ชายเก้าจะเป็นคนออกเองคนเดียว! และไม่ใช่สองแสนตำลึง แต่เป็นห้าแสนตำลึง!”ห้าแสนตำลึง!เงินจำนวนนี้ ทำให้ทุกคนประหลาดใจ!ต้องรู้ว่าเงินเสบียงทหารของทหารกองทัพรักษาพระองค์หนึ่งแสนนาย มีเพียงหนึ่งล้านตำลึงเท่านั้น!แต่ฮ่องเต้ใจกว้างถึงขนาดทุ่มเงินจำนวนห้าแสนตำลึงเพื่อฟื้นฟูกองทัพของตระกูลซูขึ้นมาใหม่เลยหรือ?ยิ่งไปกว่านั้น การเงินในราชสำนักจำกัดเพียงใด ทุกคนต่างก็รู้กันดีฮ่องเต้จะไปเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหน?ใบหน้าที่หยาดเยิ้มของลั่วอวี้จู๋ก็ดูแย่ลงเล็กน้อย นางพูดอย่างไม่พอใจว่า “องค์ชาย ข้าให้เจ้าพูดเรื่องจริงจัง!”หลี่หลงหลินหัวเราะเบา ๆ “ใช่ ข้าก็ไม่ได้ล้อท่านเล่นเสียหน่อย!”ลั่วอวี้จู๋มองหลี่หลงหลินด้วยความประหลาดใจ พูดไม่ออกชั่วขณะองค์ชายเก้าคนนี้ชอบคุยโวโอ้อวดเกินไป!มิน่าล่ะ ซูเฟิ่งหลิงถึงได้มีอคติกับเขา แล้วบอกว่าเขาคนนี้ไม่น่าเชื่อถือ!เงินห้าแสนตำลึงนั้น การคุยโวโอ้อวดระดับ
หลี่หลงหลินยักไหล่ “อย่างไรเสียชีวิตของข้าก็ไม่ดี อะไรก็ไม่มี! หากว่าข้าแพ้ เช่นนั้นข้าก็จะเป็นเลขาส่วนตัวของท่าน”ซูเฟิ่งหลิงกัดฟันสีเงินของตนด้วยความโกรธ ก่อนจะเอ่ยอย่างเดือดดาล “เจ้ามันคนไร้ประโยชน์ เขียนหนังสือก็ไม่ได้ ต่อยหมัดก็ไม่เป็น ใครอยากจะให้เจ้าเป็นเลขาส่วนตัวกัน! ถุย!”ลั่วอวี้จู๋กลับตอบไปโดยไม่คิด นางพยักหน้ากล่าวว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะขอรับการเดิมพันนี้!”ซูเฟิ่งหลิงมีสีหน้าตะลึงงัน นางแทบไม่อยากจะเชื่อหูของตนเองเลยสมองของพี่สะใภ้มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?เหตุใดถึงได้โง่ยิ่งกว่าตนเช่นนี้?เห็นได้ชัดว่าหลี่หลงหลินกำลังจะเล่นลูกไม้อย่างหน้าด้านๆ!การเดิมพันกับคนขี้โกงมีอะไรดี?มือหยกของลั่วอวี้จู๋กำแน่น แล้วเอ่ยกระซิบเบาๆ “น้องสาว เจ้าไม่เข้าใจ! ต่อให้จะมีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งในหมื่น! ข้าก็ต้องสร้างกองทัพตระกูลซูขึ้นมาใหม่ให้ได้ เพื่อแก้แค้นให้กับความจงรักภักดีของตระกูลซู!”“ไม่ว่าเจ้าจะดูถูกองค์ชายเก้ามากเพียงใด!”“ แต่เจ้าก็ต้องยอมรับว่าความหวังทั้งหมดของตระกูลซูล้วนอยู่ที่เขา!”“ดังนั้น ไม่ว่าโอกาสชนะจะน้อยแค่ไหน ข้าก็ต้องเดิมพัน!”ซูเฟิ่งหลิงตะลึง นา
ใบหน้าที่งดงามหยาดเยิ้มของลั่วอวี้จู๋ก็เต็มไปด้วยความเศร้าโศก “คนจริงไม่พูดอ้อมค้อม ในเมื่อองค์ชายมองออกแล้ว เช่นนั้นข้าก็จะพูดตามตรง”“ตอนนี้ ตระกูลซูกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่ มาถึงช่วงเวลาความเป็นความตาย”“เงินห้าหมื่นตำลึงเหล่านี้เป็นทรัพย์สินของตระกูลซูทั้งหมด...”หลี่หลงหลินขมวดคิ้ว “ตระกูลซูยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แต่ได้แค่ห้าหมื่นตำลึงเท่านั้นหรือ? ทุกคนในตระกูลก็ต้องใช้ชีวิต ล้วนต้องใช้เงิน เงินจำนวนนี้ช่วยพยุงได้ไม่กี่วัน!”“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”“สถานการณ์ในตระกูลซู เหตุใดถึงได้มาถึงจุดที่เลวร้ายเช่นนี้?”เรือผุพังก็ยังมีตะปูสามจิน อูฐที่ซูบผอมใกล้ตายก็ยังใหญ่กว่าม้าตระกูลที่ร่ำรวยเช่นตระกูลซูได้รับการสืบทอดมาหลายร้อยปี ผ่านประสบการณ์มากมายมานับไม่ถ้วน ตามหลักแล้ว ควรมีรากฐานที่หยั่งลึกและมีศักยภาพที่แข็งแกร่งในการต้านทานอันตรายอย่างเช่นตอนนี้ บุรุษตระกูลซูล้วนตายในสนามรบหมดแล้ว ทั้งตระกูลเหลือเพียงเด็กกำพร้าและแม่ม่ายแม้ว่าจะลำบาก แต่ก็ยังยืนหยัดนอกจากว่าจะมีคนที่ไม่เอาไหนใช้จ่ายฟุ่มเฟือย นั่นถึงจะเป็นการทำลายกิจการของตระกูลซูภายในระยะเวลาสั้นๆ ได้แต่ลั่วอวี้จู๋กลับด
“ยิ่งไปกว่านั้น เหล่าทหารต่างก็เสียสละชีวิตเพื่อบ้านเมือง ต่างก็เป็นวีรบุรุษ!”“ข้ายิ่งไม่ต้องการให้ภรรยาของพวกเขาเกิดไม่พอใจต่อฝ่าบาท เพียงเพราะเงินบำนาญเหล่านั้น...”ร่างกายของหลี่หลงหลินสั่นเทา พูดอย่างร้อนรน “พี่สะใภ้ใหญ่! หรือว่าช่วงนี้ ตระกูลซูแจกจ่ายเงินบำนาญให้กับครอบครัวของทหารที่พลีชีพในสงครามไปในนามของราชสำนัก?”ลั่วอวี้จู๋พยักหน้าเบาๆ “นี่ก็คือความต้องการของฮูหยินผู้เฒ่า แต่น้องเล็กยังไม่รู้เรื่อง ยังถูกปิดบังความจริงเอาไว้เพคะ”จมูกของหลี่หลงหลินแสบซ่า น้ำตาพลันไหลออกมา!ขุนนางภักดีคืออะไร?ตระกูลซูก็คือขุนนางภักดี!แม้ว่าบุรุษในตระกูลซูทุกคนจะเสียชีวิตเพื่อบ้านเมือง ทว่าสตรีของตระกูลซูก็ยังคงยืนหยัดขึ้นมา จัดหาเงินบำนาญให้กับหญิงม่ายและเด็กกำพร้า ให้พวกนางมีอาหารกินไปอีกมื้อ ไม่ถึงกับต้องอดอยาก เร่ร่อนอยู่ข้างถนน!สิ่งที่ทำให้หลี่หลงหลินประทับใจมากยิ่งขึ้นก็คือตระกูลซูสามารถใช้ชื่อของตน สร้างชื่อเสียงในหมู่ประชาด้วยการแจกจ่ายเงินบำนาญได้!ผลลัพธ์เล่า?เพื่อระงับข้อร้องเรียนของเหล่าประชา ตระกูลซูได้ชักเงินจากกระเป๋าของตนเองมาจ่ายเป็นเงินบำนาญในนามของราชสำนัก!
เจ้าคนไร้ประโยชน์ที่มือสะอาด?หลี่หลงหลินอับอายเหลือทน!คำพูดนี้ไม่ว่าจะฟังอย่างไร ก็ไม่ได้คล้ายว่ากำลังชื่นชมเขาอยู่เลยไม่ว่าอย่างไร เขาก็ต้องทำตัวดีๆ ต่อหน้าพี่สะใภ้ใหญ่เอาไว้ ขุดรากถอนโคนความรู้สึกแย่ๆ ที่นางมีต่อเขาอย่างลึกซึ้งนั่นทิ้งไปให้ได้!“ข้าเข้าใจแล้ว!”“ในเมื่อข้าเป็นเขยตระกูลซู กิจของตระกูลซูก็เป็นกิจของข้า!”“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านบอกให้ฮูหยินผู้เฒ่าวางใจได้เลย เรื่องของตระกูลซูข้าดูแลเอง!”หลี่หลงหลินตบหน้าอก เอ่ยปากสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะลั่วอวี้จู๋งงงวย มองไปที่หลี่หลงหลินอย่างว่างเปล่าองค์ชายเก้าพระองค์นี้ โง่จริงๆ หรือไร?ตนพูดอยู่นานจนน้ำลายแห้ง แต่เขาดูเหมือนจะไม่ได้เข้าใจเลย!และตอนนี้ ตระกูลซูตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากจำนวนเงินที่ต้องการนั้นมากเกินไปจริงๆ อย่างน้อยก็หนึ่งล้านตำลึง!ต่อให้ฮ่องเต้จะเสด็จมาเอง แต่หากไร้ฟืนฟาง สตรีหลักแหลมก็ยากจะทำอาหาร[footnoteRef:1]! [1: หมายความว่าหากไม่มีเงื่อนไขหรือวัตถุสิ่งของที่จำเป็น ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีความสามารถเพียงใด ก็จะเป็นเรื่องยากที่จะทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ] ยิ่งกว่านั้น หลี่หลงหลินยังเป็นเพียงองค์ชายไร้ประ
ซูเฟิ่งหลิงโกรธอย่างยิ่ง นางชี้ไปที่จมูกของหลี่หลงหลินแล้วตะโกน “ข้าเป็นบุตรีภรรยาเอกของตระกูลซู เจ้าคิดจะขายบ้านบรรพบุรุษของตระกูลซู เจ้าบอกว่าไม่เกี่ยวกับข้าเช่นนั้นหรือ?”“ข้าจะฆ่าเจ้า...”ซูเฟิ่งหลิงไม่พูดไม่จาก็หยิบหอกเงินขึ้นมา พุ่งเข้าแทงหลี่หลงหลินทันที!เมื่อเหล่าเจ้าของหอเห็นเหตุการณ์นี้ พวกเขาก็ตกใจกลัว หน้าซีดเผือดซูเฟิ่งหลิงผู้นี้เป็นสิงโตเหอตง[footnoteRef:1]ดังคำว่าจริงๆ ระเบิดอารมณ์ออกมาแล้ว! [1: หมายถึง ภรรยาที่ขี้หึง อารมณ์ร้าย] โชคดีที่องค์ชายของพวกตนไม่ได้ตกลงอภิเษกตามที่ฮ่องเต้ประทานให้หากเหล่าองค์ชายเลอะเลือนไปชั่วครู่ แต่งเสือโคร่งตัวนี้ไป ไม่เพียงแต่ตนเองต้องทุกข์ทรมาน แต่ยังกระทบไปถึงผู้น้อยใต้อาณัติด้วยเฮ้อ!องค์ชายเก้าน่าอนาถโดยแท้!พวกเขาหลับตากันทีละคน คร่ำครวญถึงหลี่หลงหลินอยู่ในใจควั่บ!หลี่หลงหลินใจเย็นไม่เร่งร้อน หยิบโฉนดที่ดินขององค์ชายหกออกมาจากอ้อมแขน แล้วกางออกต่อหน้าธารกำนัล “ซูเฟิ่งหลิง เจ้าเบิกตาแล้วดูให้ชัด! ข้าในนามของเสด็จพ่อ กำลังทำการขายจวนของพี่หก! นี่มันกิจของเจ้าหรืออย่างไร?!”หอกเงินในมือของซูเฟิ่งหลิงฉายแสงเย็นเยียบ กำ
ซูเฟิ่งหลิงที่ถูกชมจนเขินอาย ใบหน้างดงามแดงก่ำขึ้นกว่าเดิมนางมองหลี่หลงหลินอย่างลึกซึ้งหนึ่งครั้ง รู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งคิดไม่ถึงในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน เป็นหลี่หลงหลินที่ก้าวเข้ามาช่วยนางแก้ปัญหาเขาคนนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด...หลี่หลงหลินสองมือเท้าเอว ดูราวบุรุษที่ชอบออกคำสั่ง และตะโกนว่า “ข้าให้เจ้ารำหอก เจ้ายังยืนนิ่งอยู่ด้วยเหตุใด?”จมูกของซูเฟิ่งหลิงเกือบจะบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ ความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่นี้หายวันไปทันที!ควั่บ ควั่บ ควั่บ...ซูเฟิ่งหลิงพลิกตัวไปมา หอกเงินในมือพลิ้วไหวเริงระบำจนไม่เหลือช่องว่างอากาศ ถ่ายเทเจตนาฆ่าทั้งหมดที่มีต่อหลี่หลงหลินลงไปในการแสดงรำหอกครั้งนี้!หลังจากนั้นไม่นานหลังจากการรำหอกเสร็จสิ้น ซูเฟิ่งหลิงก็ยืนถือหอกไว้ในมือ หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง ดวงตามองเขม็งไปที่หลี่หลงหลิน!หลี่หลงหลินไม่ไหวติง “รำเสร็จแล้วหรือ?”ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้าหลี่หลงหลินดุเข้าว่า “รำเสร็จแล้วยังไม่รีบออกไปอีก? นิ่งอยู่เป็นเสาไม้หรือ? ไปเฝ้าประตูเสีย อย่ารบกวนการค้าขายของข้ากับบรรดาเจ้าของหอทั้งหลาย”“ท่าน...”ซูเฟ
เพียงแค่พริบตาเดียว เหยลวี่เกอนักรบอันดับหนึ่งของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ ถูกซูเฟิ่งหลิงตัดหัว ศีรษะที่เปื้อนเลือดของเขาถูกทวนเงินยกขึ้นสูง การจับกุมผู้นำท่ามกลางกองทัพนับหมื่นนั้น เหมือนหยิบของในถุง! หืม... ฉากการฆ่าที่น่าสยดสยองนี้ทำให้คนจำนวนมากถอนหายใจด้วยความตกใจ เหล่าขุนนางข้าราชการต่างก็ตกตะลึง มองไปที่ซูเฟิ่งหลิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคารพ แม่เสือโคร่งช่างน่ากลัว! โชคดีที่นางเป็นผู้หญิง ถ้าเป็นผู้ชายล่ะก็ จะน่ากลัวขึ้นอีกเท่าไหร่ ฮ่องเต้หวู่ดวงตาเป็นประกายขึ้นมา แล้วเอ่ยชมว่า “หญิงแกร่งที่ไม่แพ้ชาย เป็นเทพีสงครามที่แท้จริง!” แต่มีเพียงเว่ยซวินเท่านั้นที่มองไปที่หลี่หลงหลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเห็นใจ และเอ่ยด้วยเบาว่า “องค์ชายเก้าลำบากท่านแล้ว” ในทันใดนั้น หลี่หลงหลินก็รู้สึกอยากจะร้องไห้ เพื่อนรู้ใจจริงๆ! เขาอยากเชิญเว่ยซวินไปที่หอเซียนเมามาย และดื่มกันสักสามร้อยจอกเพื่อให้ลืมทุกข์! เมื่อเห็นเหยลวี่เกอรบจนตัวตาย กองทัพชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือก็เสียขวัญทันที! ทหารใหม่ตระกูลซูบดขยี้ไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง สังหารคนไปนับไม่ถ้วน เลือดไหลนอ
หลี่จือหน้าซีดเผือด! จบแล้ว! ลูกธนูอยู่บนสายธนู ต้องยิงออกไปแล้ว! เขาไม่อยากก่อการกบฏ แต่ตอนนี้ก็ต้องทำแล้ว! “ฆ่า” เหยลวี่เกอยกดาบงอสูงขึ้น ตะโกนเสียงดัง พลางนำทัพม้าฝ่าไปข้างหน้า มุ่งตรงไปยังซูเฟิ่งหลิง! ทหารชั้นยอดของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือจำนวนหนึ่งพันนายตามหลังมาด้วยความเร็วและพลังที่น่าทึ่ง ราวกับคลื่นยักษ์! จางเฉวียนตาเบิกกว้าง ขมวดคิ้วและตะโกนเสียงดังว่า “ยิงธนู!” พรวดๆๆ... ลูกธนูพุ่งลงมาเหมือนพายุฝนที่โหมกระหน่ำ ทหารชั้นยอดแถวแรกของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือล้มลงราวกับต้นข้าวที่ถูกเคียวเกี่ยว อย่างไรก็ตาม ทหารชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือที่อยู่ข้างหลัง ก็ต้องเหยียบศพของสหายร่วมรบ ยังคง เดินหน้าบุกเข้าอย่างไม่เกรงกลัวความตาย ฉากนี้ทำให้ทหารห้าพันนายของจางเฉวียนรู้สึกขนลุกซู่ นี่คือชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือหรือ? แค่พันนาย แต่มีพลังเหมือนกับกองทัพล้านนาย! สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือ พวกเขาไม่กลัวความตาย! นี่มันยังเป็นคนอยู่หรือ? แทบจะเหมือนสัตว์ประหลาดแล้ว! กองทัพตระกูลซูที่ปกป้องเขตเหนือมาหลายปี ต้องต่อสู้กับศัตรูที่น่ากล
เซียวเซวียนเช่อมองหลี่จือด้วยสายตาเย็นชาและดูถูก เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว องค์ชายสี่ท่านคิดจะถอยแล้วหรือ? มันสายเกินไปแล้ว!ถึงแม้ฮ่องเต้หวู่อาจจะยังมีใจอ่อนและปล่อยท่านไป แต่หลี่หลงหลินล่ะ? ตอนนี้เขาคือรัชทายาทที่ตัดสินโทษอย่างเด็ดขาด เขาจะต้องชำระบัญชีกับท่านจนหมดสิ้น ถอยไปก็เท่ากับตาย! ไม่สู้ลองต่อสู้ไป! อาจจะยังมีโอกาสรอด! หลี่จือตัวสั่นสะท้าน สีหน้าแสดงความโลภออกมา ใช่แล้ว! บัลลังก์ฮ่องเต้ใกล้แค่เอื้อม แค่ฆ่าฮ่องเต้หวู่และเจ้าเก้า เขาก็สามารถขึ้นครองบัลลังก์ได้แล้ว ส่วนการฆ่าพ่อหรือ? ตอนนี้หลี่จือไม่สนใจแล้ว ประวัติศาสตร์จะถูกเขียนโดยผู้ชนะ ยิ่งไปกว่านั้น เหล่าขุนนางข้าราชการทั้งหมดล้วนสนับสนุนเขา รวมทั้งผู้บันทึกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ด้วยแค่สาดน้ำสกปรกโยนความผิดไปที่หลี่หลงหลิน แล้วยืนยันว่าเขาคือคนที่ฆ่าพ่อ เป็นขุนนางกบฏ ส่วนตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์! อย่างไรก็ตาม ด้วยทหารชั้นยอดของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือเพียงหนึ่งพันนาย ยังไม่พอที่จะสู้กับทหารใหม่จากตระกูลซูสองพันนายได้ หลี่จือจึงรู้สึกไม่มั่นใจ ดีที่สุดคือขอความช่วยเหลือจากจางเฉวียนที่มีท
โดยเฉพาะขุนนางกลุ่มข้าราชการ สีหน้าของพวกเขาซีดเหมือนกระดาษ พวกเขายืนข้างผิดแล้ว! หากหลี่หลงหลินขึ้นครองราชย์ สำหรับพวกเขาก็จะมีแต่ความเดือดร้อน! หลี่จือมึนงงไปหมด ตัวเขาเสียสติไปครู่หนึ่งและพูดออกมา “ทำไม? เสด็จพ่อ ทำไมพระองค์ถึงลำเอียงขนาดนี้ ประกาศให้เจ้าเก้าเป็นองค์รัชทายาท? พระองค์โดนเจ้าเก้าขู่หรือเปล่า ถ้าเป็นเช่นนั้น พระองค์ก็เพียงแค่กะพริบตาให้ข้าหน่อย!” ฮ่องเต้หวู่โกรธจัด และตะคอกออกมา “กะพริบตาหรือ? ไปตายซะ! เจ้าบอกว่าข้าลำเอียง! เจ้าเก้าได้ทำความดีมา ผลงานของพวกองค์ชายไร้ประโยชน์ทั้งแปดคนรวมกันแล้ว ยังไม่เท่าผลงานของเขาเลย!” “ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นเลย เพียงแค่ครั้งนี้ ข้าถูกพิษของสารหนู!” “หากไม่ใช่เพราะเจ้าเก้ามีฝีมือการแพทย์สูงส่ง ช่วยให้ฟื้นคืนชีพได้!” “ข้าคงจะสิ้นไปแล้ว!” เหล่าขุนนางข้าราชการทั้งหลายต่างตกตะลึง แท้จริงแล้ว ฮ่องเต้หวู่ถูกพิษสารหนูจริงๆ! ข่าวลือนี้ไม่ผิด! สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือ หลี่หลงหลินสามารถแก้พิษสารหนูได้ด้วย? นี่มันไม่น่าเชื่อเลย! การช่วยชีวิตคนคนหนึ่งเป็นการสร้างคุณงามความดีที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะก
ฮ่องเต้หวู่ยังไม่ตาย? เหล่าขุนนางข้าราชการทั้งหลายแทบไม่เชื่อหูตัวเอง พวกเขาได้รับข่าวที่แน่ชัดว่า ฮ่องเต้หวู่ถูกวางยาพิษจากยาพิษสารหนู ใครเป็นคนวางยานั้นไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือ ยาพิษสารหนูไม่มีทางรักษาได้ และต้องตายอย่างแน่นอน! เพียงแค่ฮ่องเต้หวู่สิ้นพระชนม์ หลี่หลงหลินก็จะกลายเป็นกบฏ! แต่... ถ้าฮ่องเต้หวู่ยังไม่ตาย นั่นก็จะเป็นปัญหาใหญ่แล้ว! หลี่จือหัวเราะลั่น “เจ้าเก้า เจ้ากำลังจะตายแล้ว ยังทำอวดเก่งอยู่หรือ! เสด็จพ่อของข้าเสวยยาพิษและสิ้นพระชนม์ไปแล้ว เจ้าจะอวดเก่งอะไร? ยังจะพาเสด็จพ่อมาออกมาอีกหรือ? คงจะเป็นแค่ร่างไร้วิญญาณที่ถูกพามาใช่หรือไม่? ฮ่าฮ่าฮ่า…” ทันใดนั้น เสียงเอ่ยอย่างโกรธจัดก็ดังขึ้น “เจ้าสี่ ข้าตายแล้วเจ้าดูมีความสุขมากนะ!” ทุกคนหันไปมอง ต่างก็ตกตะลึง เห็นชายคนหนึ่งในชุดมังกรเดินออกมาช้าๆ โดยมีเว่ยซวินคอยพยุง ใบหน้าขมวดคิ้วเต็มไปด้วยความโกรธ ฮ่องเต้หวู่? เหล่าขุนนางข้าราชการทั้งหมดต่างตกตะลึง แม้สีหน้าจะซีดเซียวและดูอ่อนเพลีย แต่ก็ชัดเจนว่าเป็นฮ่องเต้หวู่! และไม่ใช่ใครมาปลอมเป็นคนอื่น รูปลักษณ์อาจสามารถปลอมได้ แต่ความย
“มีเพียงหลี่หลงหลินเท่านั้นที่ไม่ควรเป็นฮ่องเต้!” ถ้าเขาเป็นฮ่องเต้แล้วจะมีชีวิตรอดได้อย่างไร? ต้องรู้ว่าไม่ว่าจะอยู่ข้างตู้เหวินยวนหรือองค์ชายสี่ ทุกๆ อย่างฝ่ายเป็นศัตรูกับหลี่หลงหลิน ฎีการ้องเรียนเขามีเป็นกองๆ! ปัญหาคือหลี่หลงหลินมีพระราชโองการในมือ แบบนี้แล้วจะทำอย่างไรดี? ในขณะนั้น พระราชโองการได้ถูกส่งมาถึงหลี่จือ หลี่จือปรายสายตามองแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยยิ้มเยาะ “เจ้าเก้า กลอุบายนี้ของเจ้า หลอกคนอื่นได้ แต่หลอกข้าไม่ได้หรอก! พระราชโองการนี้ต้องเป็นของปลอมแน่! เจ้ากับพวกนักโทษเว่ยซวินร่วมมือกันทำพระราชโองการปลอมขึ้นมา สมควรถูกลงโทษเช่นไรดี!” เมื่อเหล่าขุนนางข้าราชการได้ยิน ก็เหมือนตื่นจากความฝันทันที ไม่ว่าจะเป็นราชโองการจริงหรือเท็จ แต่พระราชโองการนี้ต้องเป็นของปลอม! ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น... หลี่หลงหลินจะไม่เพียงแต่ได้เป็นองค์รัชทายาท แต่ยังได้เป็นฮ่องเต้ด้วย! วันสิ้นโลกของพวกเขากำลังมาถึง “ใช่แล้ว มันต้องเป็นของปลอม!” “เว่ยซวิน! เจ้ากล้าร่วมมือกับเจ้าเก้า วางแผนล้มล้างอำนาจหรือ?” “ฆ่าล้างพวกขันที กำจัดคนชั่ว!” “องค์ชายเก้า ท่านคือกบฏ รีบมอบตัวซะ!” เหล่าข
“ดีจริงๆ เลยนะ เจ้าเก้า!”“ถึงขั้นกล้าประกาศตัวเป็นรัชทายาท เป็นการกระทำที่เลวร้ายและไร้ศีลธรรมอย่างยิ่ง!”บนใบหน้าของหลี่จือ นอกจากความตกตะลึงแล้ว ยังปรากฏความยินดีจนแทบปิดไม่มิด!ทำไมเจ้าหกถึงล้มเหลวในการก่อกบฏ?นอกจากถูกหลี่หลงหลินคนต่ำช้ากลั่นแกล้งแล้วยังมีอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญยิ่ง นั่นคือ เจ้าหกหมายจะปลงพระชนม์ฮ่องเต้เพื่อขึ้นครองบัลลังก์!ถึงแม้จะสำเร็จ แต่บัลลังก์เขาก็ไม่มั่นคง!เพราะเขาไม่มีฐานะที่ชอบธรรมแม้แต่หลี่เฟิงอวิ๋น ซีเหลียงอ๋องผู้มีความสามารถมาก เคยบุกเข้าไปถึงตำหนักหยั่งซินได้สำเร็จ เหตุใดถึงล้มเหลวทั้งที่ใกล้จะสำเร็จอยู่แล้ว?เพราะขาดฐานะที่ชอบธรรมเช่นกัน!จริงๆ แล้ว หลี่จือเองที่ไม่กล้าก่อกบฏมาตลอด ก็เพราะการไม่มีฐานะที่ชอบธรรม เกรงว่าจะถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ขึ้นครองบัลลังก์อย่างไม่ถูกต้อง!แต่ตอนนี้มันได้เปลี่ยนไปแล้วเจ้าเก้าช่างโง่เขลานัก! ไม่เพียงแต่ใช้พิษสังหารฮ่องเต้ แต่ยังกล้าประกาศตัวเป็นรัชทายาท และสวมชุดรัชทายาท!นี่มันไม่ต่างอะไรกับการมอบคำว่าฐานะที่ชอบธรรมมาให้ตนถึงมือ!ตราบใดที่ตนกำจัดเจ้าเก้าผู้ทรยศคนนี้ได้ ก็สามารถขึ้นครองบัลลังก์ได้อย่างส
ในมือของหลี่จือมีกำลังชั้นยอดจากกองทัพชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือเพียงหนึ่งพันนายเท่านั้นเมื่อเทียบกับกองกำลังเขาทิศประจิมสองพันนายแล้ว จำนวนกำลังพลของเขาถือว่าด้อยกว่ามาก!หากเปิดศึกขึ้นจริง ผลแพ้ชนะย่อมยากจะคาดเดาแต่เมื่อเพิ่มกองทัพป้องกันเมืองห้าพันนายของจางเฉวียนเข้ามา สถานการณ์ก็พลิกผัน!ชัยชนะครั้งนี้ย่อมแน่นอน!หลี่จือเผยรอยยิ้มบาง ก่อนจะกล่าวว่า “หรงกั๋วกง ให้ลูกชายของเจ้าถอยไป! มิเช่นนั้น ดาบและหอกมันไร้ตา!”ในตอนนี้ จางเฉวียนเปรียบเสมือนถูกวางอยู่บนเตาร้อน ไม่มีทางเลือกอื่นใด จึงต้องกัดฟันเดินไปยังหน้าประตูวัง พลางตะโกนด่าทออย่างเกรี้ยวกราด “จางอี้ เจ้าลูกดื้อ รีบมานี่!”จางอี้ในชุดมัจฉาบิน คาดดาบปักลายที่เอว เดินมาหาจางเฉวียน แล้วกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ท่านพ่อ อย่าทำให้ลูกลำบากใจเลย!”เพี๊ยะ!จางเฉวียนตบหน้าจางอี้เต็มแรง ก่อนจะตวาดลั่น “หลีกไป! ข้าจะเข้าไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท! ใครกล้าขวางทาง ข้าจะสังหารไม่ปรานี!”เมื่อคำสั่งถูกประกาศ กองทัพป้องกันเมืองก็พุ่งเข้าไปในพระราชวังราวกับคลื่นทะเลองครักษ์เสื้อแพรซึ่งมีกำลังเพียงไม่กี่ร้อยนาย ไม่อาจต้านทานกองกำลังจำนวนมหา
จวนขององค์ชายสี่หลี่จือเงยหน้าหัวเราะลั่น “ฮ่า ฮ่า ฮ่า! เจ้าเก้าสุดท้ายก็ทนไม่ไหว ต้องเรียกกองกำลังเขาทิศประจิมเข้าวังจนได้! ดูเหมือนในวังจะเกิดเรื่องใหญ่จริงๆ! นี่แหละ โอกาสของข้ามาถึงแล้ว!”เซียวเม่ยเอ๋อร์ที่เชื่อฟังและปฏิบัติตามทุกอย่าง พิงอยู่ข้างหลี่จือ พร้อมรอยยิ้มเย้ายวน “นี่เป็นโอกาสดีที่สวรรค์ประทานให้! ข้าขออวยพรให้องค์ชายสี่ได้รับชัยชนะ และขึ้นครองบัลลังก์!”หลี่จือชะงัก “เจ้าจะไม่เข้าวังไปกับข้าหรือ หรือว่าเจ้าไม่อยากเห็นเจ้าเก้าถูกจับกุมและถูกประหารด้วยตาตัวเองหรือ?”เซียวเม่ยเอ๋อร์หัวเราะเบาๆ “ข้าเป็นเพียงสตรี! เรื่องที่ต้องเห็นเลือดขอข้ามเถอะ! ให้ท่านราชครูไปกับท่านแทนเถิด!"หลี่จือพยักหน้าเหตุผลที่เขาอยากให้เซียวเม่ยเอ๋อร์ไปด้วยก็เพราะกองทัพชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือพันนายเหล่านี้ รับคำสั่งจากเซียวเม่ยเอ๋อร์หรือเซียวเซวียนเช่อเท่านั้นในเมื่อเซียวเม่ยเอ๋อร์ไม่ไป เซียวเซวียนเช่อไปก็เหมือนกัน!ยิ่งไปกว่านั้น ราชครูชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ ยังเป็นคนที่เฉลียวฉลาดและเปี่ยมด้วยเล่ห์กลในช่วงเวลาสำคัญ เขาอาจกลายเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้แผนการสำเร็จลุล่วง!หลี่จื