แชร์

บทที่ 486

ผู้เขียน: ชาผลไม้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-05-03 16:00:00
นางกำนัลที่อยู่ข้าง ๆ คลุมผ้าห่มให้เย่เซวียนเล่อและพูดด้วยความโกรธ “องค์หญิงอย่าปล่อยนางไปนะเพคะ!"

"ไปพระตำหนักอันชิ่งกัน ข้าจะให้เสด็จย่าลงโทษนางสารเลวคนนั้นให้สาสม!"

เย่เซวียนเล่อโกรธจนร่างกายร้อนจัด ดังนั้นนางจึงเลิกผ้าห่มออกและเตรียมออกไปข้างนอก

“องค์หญิงต้องสวมเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกหนา ๆ ด้วยนะเพคะ ไม่เช่นนั้นจะป่วยเอาได้ แล้วจะทรงเห็นไทเฮาลงโทษนางด้วยตาตัวได้อย่างไรกันล่ะเพคะ?”

นางกำนัลดึงเย่เซวียนเล่อไว้พร้อมกับเกลี้ยกล่อมนาง จากนั้นจึงหยิบเสื้อคลุมออกมาจากตู้แล้วสวมให้เย่เซวียนเล่อ ก่อนจะคลุมศีรษะของนางด้วยหมวกคลุมขนาดใหญ่ จากนั้นก็ติดตามเย่เซวียนเล่อไปยังพระตำหนักอันชิ่ง

เมื่อเย่เซวียนเล่อมาถึงพระตำหนักอันชิ่งด้วยความโกรธ สี่เชว่นางกำนัลรับใช้ซุนจื่อซีก็รออยู่ที่ประตูแล้ว เมื่อนางเห็นเย่เซวียนเล่อก็รีบเอ่ยทักทายทันที “ถวายบังคมองค์หญิงห้าเพคะ”

เย่เซวียนเล่อมองนางอย่างไม่อดทน “มีเรื่องอะไร?”

“คุณหนูซีเอ๋อร์บอกว่า นางคาดไว้แล้วว่าท่านจะเสด็จมาที่พระตำหนักอันชิ่ง จึงสั่งให้บ่าวมารอต้อนรับองค์หญิงห้าที่นี่เพคะ คุณหนูซีเอ๋อร์มีเรื่องอยากจะพูดคุยกับองค์หญิงหน้าเพคะ” สี่เชว่ต
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 487

    นางคิดว่าซุนจื่อซีเกลียดฉู่เนี่ยนซีเพราะเย่เฟยหลี แต่ไม่คิดเลยว่าแท้จริงแล้วนางจะเป็นคนตีสองหน้า ด้านหนึ่งทำเป็นอยู่ฝ่ายเดียวกับนางแต่ในเวลาเดียวกันก็ประจบประแจงฉู่เนี่ยนซี “ซีเอ๋อร์จะขัดแย้งกับองค์หญิงห้าได้อย่างไรกันเพคะ? อย่างไรเสียหม่อมฉันก็เติบโตมาได้เพราะเสด็จย่า และหม่อมฉันก็รักและเคารพองค์หญิงมาก แต่องค์หญิงห้าก็ทราบดีว่าเวลานั้นความจริงเป็นเช่นไร”เย่เซวียนเล่อจ้องมองใบหน้าของนางด้วยแววตาเฉียบคมทันที“นี่ท่านกำลังข่มขู่ข้าอย่างนั้นรึ? ซุนจื่อซี ท่านก็เป็นแค่คนที่ถูกเสด็จย่าเก็บมาเลี้ยงเท่านั้น อย่าลืมว่าตัวเองเป็นใครสิ”“ซีเอ๋อร์มิกล้า หม่อมฉันเพียงแค่อยากเป็นพยานให้กับองค์หญิงห้า เพื่อป้องกันไม่ให้ชายาหลีโกรธและทำร้ายองค์หญิงห้าก็เท่านั้นนะเพคะ”เย่เซวียนเล่อดูถูกการแสดงออกถึงความมีน้ำใจและความเป็นห่วงเป็นใยของซุนจื่อซี“ข้ายังต้องกลัวด้วยงั้นรึ?”“องค์หญิงห้าเป็นองค์หญิงเชื้อพระวงศ์ เช่นนั้นย่อมเป็นที่รักใคร่โดยธรรมชาติ แต่ท่านเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าเหตุใดองค์จักรพรรดิถึงเปลี่ยนทัศนคติทันทีเมื่อชายาหลีถูกตัดสินโทษ หม่อมฉันเกรงว่าหากองค์จักรพรรดิทราบเรื่องนี้ นอกจากจะไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-04
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 488

    ในเวลานี้ป้าหยางเหอรีบเดินเข้ามาจากด้านนอก หลังจากทักทายทั้งสองแล้วก็กล่าวขึ้นว่า “ท่านอ๋องหลีเสด็จมาถวายความเคารพต่อพระนางเพคะ”ฉู่กุ้ยเฟยเคาะจมูกฉู่เนี่ยนซีพลางยิ้มหยอกล้อ “มาถวายความเคารพข้า หรือว่ามาดูเด็กนี่กันแน่?”“แน่นอนว่าต้องมาถวายความเคารพต่อท่านป้าสิเจ้าคะ”รอยยิ้มของฉู่เนี่ยนซีบานสะพรั่งราวกับดอกแพร์สีขาวบริสุทธิ์ ที่ดูอ่อนโยนและขี้อายผ่านไปไม่นานแสงสีดำก็แวบเข้ามาในห้องบรรทมและสบตาของฉู่เนี่ยนซี ทันใดนั้นห้องก็เต็มไปด้วยกลิ่นหอมสดชื่นราวกับสนเขียวชอุ่มเย่เฟยหลีเม้มริมฝีปากบางและไม่พูดอะไร เขามองฉู่เนี่ยนซีที่ผมดำเปียกปอนนั่งอยู่หัวเตียงราวกับลูกแมว ความอ่อนโยนและความโกรธในใจของเขาพันกันราวกับเถาวัลย์สองต้นเขารีบสาวเท้าเดินไปด้านข้างของฉู่เนี่ยนซี และกอดนางไว้ในอ้อมแขน ฉู่เนี่ยนซีรีบดึงยาออกไปอีกทาง“ยาหกหมดแล้วเจ้าค่ะ...”เย่เฟยหลีหยิบชามยาจากมือของนางมา แล้วให้นางพิงหน้าอกตัวเองก่อนจะป้อนยาให้นางฉู่เนี่ยนซีรู้สึกถึงแรงกระเพื่อมที่หน้าอกของบุรุษที่อยู่ข้างหลังอย่างชัดเจน ท่าทางดังกล่าวมันค่อนข้างคลุมเครือเป็นพิเศษ ซึ่งทำให้นางทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย นางไม่มี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-05
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 489

    “บ่าวเชิญหมอหลวงแล้วเพคะ ท่านหมอกล่าวว่าพิษไข้สามารถลดลงได้ แต่จำเป็นต้องใช้เวลา บ่าวเป็นห่วงคุณหนูจึงได้มาเชิญพระชายาให้ช่วยไปตรวจดูอีกครั้งเพคะ”สี่เชว่หลีกเลี่ยงดวงตาอันเย็นชาของเย่เฟยหลี และตอบกลับชนิดก้มหน้าก้มตา“ข้าขอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วจะไปพระตำหนักอันชิ่งพร้อมกันกับเจ้า”ฉู่เนี่ยนซีจำได้ว่าตนเคยพูดไว้เช่นนั้นจริง จึงได้ตกปากรับคำทันทีหลังจากที่สี่เชว่ออกไป เย่เฟยหลีก็กดฉู่เนี่ยนซีที่กำลังจะลุกขึ้นเอาไว้ “ข้าจะไปกับเจ้า หากไปพระตำหนักอันชิ่งย่อมต้องได้พบเสด็จย่า ข้ากลัวว่าเจ้าจะรับมือไม่ไหว”“หากท่านไปด้วย ไทเฮาคงจะทำให้ข้าลำบากยิ่งกว่า”ฉู่เนี่ยนซียิ้มเบา ๆ คิ้วและดวงตาของนางโค้งงอราวกับดาวตกที่โผลบินและส่องแสงเจิดจ้าอยู่บนท้องฟ้า “เจ้าแน่ใจหรือว่าสภาพร่างกายปัจจุบันของเจ้าสามารถไปที่นั่นเองได้ ไม่ใช่ว่ารักษานางจนหายดี แต่เจ้ากลับล้มป่วยเสียเองเล่า”เย่เฟยหลียังคงกังวลและพยายามโน้มน้าวนางอีกสองสามประโยคฉู่เนี่ยนซีถอนหายใจและมองดูเขาอย่างช่วยไม่ได้ “อ๋องหลีผู้ผ่านศึกได้อย่างเด็ดเดี่ยว มาเป็นร้อยเป็นพันครั้ง ก็ขี้บ่นเหมือนกันนะเจ้าคะ”“ข้าเพียงแค่…” เย่เฟยหลียิ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-06
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 490

    “หากองค์หญิงห้าสะดุดก้อนหินจริง นางก็คงตกลงไปในสระน้ำด้วย แต่นางกลับยืนอย่างมั่นคง และไม่มีสีหน้าตื่นตระหนก เห็นได้ชัดว่านั่นเป็นความตั้งใจของนาง”ดวงตาของฉู่เนี่ยนซีดูเหมือนชั้นน้ำแข็งบาง ๆ ที่ปกคลุมพื้นในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง แม้ว่ามันจะไม่ได้แช่แข็งทุกอย่าง แต่ก็ยังให้ความรู้สึกหนาวเหน็บ “หม่อมฉันอยากจะช่วยชายาหลีจริง ๆ แต่ไม่คิดว่าจะดึงท่านเอาไว้ไม่ได้”ซุนจื่อซีแสดงสีหน้ารู้สึกผิด เรียวคิ้วอันงดงามของนางขมวดเข้าหากันเล็กน้อย จนทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกสงสารฉู่เนี่ยนซีเพียงมองดูนางอย่างไม่แสดงออก และไม่ได้พูดอะไร“แต่ชายาหลีอย่าได้สงสัยว่าหม่อมฉันมีเจตนาชั่วร้ายหรือมีเจตนาแอบแฝงเลย ไม่ว่าเป็นผู้ใดหม่อมฉันก็จะเข้าไปช่วยอยู่วันยันค่ำ เพียงแค่วันนี้บังเอิญเป็นชายาหลีพอดีเท่านั้น”ซุนจื่อซีสังเกตเห็นความสับสนในดวงตาของฉู่เนี่ยนซีจึงอธิบาย“แต่หม่อมฉันไม่อาจช่วยชายาหลีเอาผิดองค์หญิงห้าได้ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของราชวงศ์ จักรพรรดิยังต้องเกรงปากประชาชนจะแพร่กระจายข่าวออกไปว่าองค์หญิงและพระชายาไม่ถูกกัน นั่นเป็นเรื่องน่าอายจริง ๆ ตอนนั้นซีเอ๋อร์อยู่ข้างเสด็จย่า จึงทราบดีว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-07
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 491

    เพราะทุกสิ่งในสระอวี้ฮวาได้รับการปรับปรุงใหม่ตามความต้องการของฉู่เคอหลังยามค่ำมาเยือน ทุกสรรพสิ่งล้วนตกอยู่ในความเยือกเย็น แต่ความอบอุ่นภายในสระอวี้ฮวาให้ความรู้สึกราวกับฤดูร้อนความร้อนที่แสนอบอ้าวทำให้ร่างกายเซื่องซึม ไอน้ำเหนียว ๆ ก่อตัวเป็นแผ่นเคลือบผิวหนัง ทั้งร่างถูกห่อหุ้มด้วยคลื่นความร้อนและถูกบีบอัดอย่างแรงจนดูราวกับแทบจะไม่มีอากาศเหลืออยู่ในอกขันทีและนางกำนัลทุกคนไม่ได้อยู่ปรนนิบัติ อีกทั้งองครักษ์เฝ้ายามทั้งหมดก็ถูกถอนกำลังออกไป องค์จักรพรรดิอยู่เพียงลำพัง พระองค์ทรงอยู่ในฉลองพระองค์สำหรับบรรทมสีขาว พระเกศายุ่งเหยิงและเปียกโชกไปด้วยน้ำร้อนไอร้อนลอยอบอวลไปทั่วในอากาศจนเป็นหมอกสีขาว มีเพียงกลิ่นจาง ๆ ของดอกฉาฮวาที่แทรกซึมอยู่ในหมอกผ่านทะลุช่องว่างของหน้าต่าง กลายเป็นกลุ่มควันรูปร่างราวกับมีนางสวรรค์ที่มองไม่เห็นกำลังร่ายรำอยู่องค์จักรพรรดิทรงหลับตาเพื่อฟื้นฟูร่างกาย ราวกับตนได้ย้อนเวลากลับไปในตอนที่ทัดดอกฉาฮวาไว้บนผมของนางผู้นั้นสตรีที่ยืนอยู่ตรงประตูตำหนักโซ่วคัง สีหน้าของนางมีความกังวลเล็กน้อย ดวงตาของนางเย็นชาดุดดวงจันทร์ที่ส่องสว่างบนท้องฟ้า สายลมยามค่ำคืนส่งเสี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-08
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 492

    ความร้อนกระจายบริเวณรอบ ๆ สระอวี้ฮวา ขณะที่ฉู่เนี่ยนซีมาถึงทางเข้านางกลับไม่เห็นฉู่กุ้ยเฟย อีกทั้งยังไม่มีขันทีหรือนางกำนัลอยู่เลยเมื่อนางเปิดประตูเข้าไปด้วยความสงสัย อากาศร้อนก็พุ่งมาปะทะหน้านาง ลางสังหรณ์ไม่ดีในใจของนางก็รุนแรงมากขึ้น แต่คราวนี้นางอาจจะจับคนที่ว่าจ้างนักฆ่ามาสังหารนางได้ ดังนั้นฉู่เนี่ยนซีจึงไม่ได้ส่งเสียงถามออกไป เพียงแต่ระมัดระวังตัวยิ่งขึ้นกว่าเดิมความร้อนปกคลุมใบหน้าของฉู่เนี่ยนซี ประกอบกับเสื้อผ้าหนา ๆ ที่ใส่อยู่ ทำให้มีเม็ดเหงื่อมากมายผุดขึ้นมาบนใบหน้าของนางผ้าม่านสีเขียวผืนบางที่อยู่โดยรอบอยู่นิ่งไม่ไหวติง เสาหนาที่รองรับคานนั้นถูกแกะสลักด้วยลวดลายที่ซับซ้อนและประณีตฉู่เนี่ยนซีพยายามไม่ให้มีเสียงเดินจากรองเท้าปักผ้าต่วน พร้อมกระชับเข็มเงินที่อยู่ในแขนเสื้อ พลางมองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวังยิ่งเดินเข้าใกล้เท่าไหร่ก็ยิ่งมีกลิ่นหอมโชยมามากขึ้นเท่านั้น ขณะที่เดินไปยังทิศทางของกลิ่นหอมที่ว่า ก็พบว่าหลังกลุ่มไอน้ำลอยขึ้นมาจากบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ตรงหน้า มีบุรุษผมยุ่งเหยิงผู้หนึ่งอยู่ในม่านไอน้ำ ยังไม่ทันมองได้ชัดเจนว่าเป็นใคร ก็ได้ยินเสียงคนจากข้างนอกตะโกนเข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-09
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 493

    “องค์จักรพรรดิไม่เพียงแต่ต้องคิดถึงตัวเองเท่านั้น แต่ยังต้องคิดถึงราษฎรในแผ่นดินด้วย การปล่อยให้พระวรกายขององค์จักพรรดิได้รับบาดเจ็บย่อมหมายถึงการทำลายชะตากรรมของบ้านเมือง ไม่ว่าเล่อเอ๋อร์จะตาฝาดหรือไม่ ก็ต้องทำการตรวจสอบสระอวี้ฮวาให้ถี่ถ้วน”เมื่อได้รับอนุญาตจากไทเฮา ดวงตาของเย่เซวียนเล่อก็เปล่งประกายด้วยความพึงพอใจ นางรีบหันไปออกคำสั่งองครักษ์ที่อยู่ด้านหลัง“ไปค้นให้ทั่ว!”“ดูสิว่าใครจะกล้า!” องค์จักรพรรดิผู้น่าเกรงขามทอดพระเนตรมองด้วยความโกรธพลางส่งสายตาเคร่งขรึม“เสด็จแม่ พระราชวังมีการป้องกันอย่างแน่นหนา หากเกิดข่าวแพร่สะพัดว่ามีนักฆ่าบุกเข้ามา จะทำให้ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับมาตรการของทางพระราชวังกันไปต่าง ๆ นานา อีกทั้ง...”องค์จักรพรรดิเข้าใกล้ไทเฮาเล็กน้อยแล้วลดเสียงลง “เสด็จแม่ ผู้ที่ได้รับความเคารพจากผู้คนนับพับนับหมื่นถึงจะเป็นจักรพรรดิที่แท้จริง ทว่าเมื่อมีข่าวแพร่ออกไปว่าลูกถูกลอบสังหาร ผู้คนก็จะตื่นตระหนกและลือไปทั่วว่าที่ลูกถูกลอบสังหารเป็นเพราะลูกไม่ใช่กษัตริย์ผู้มีคุณธรรม เรื่องนี้…”ไทเฮาหลุบสายตาลงและลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่เย่เซวียนเล่อไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้หล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-10
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 494

    “เจ้ามาที่นี่ในนามของแม่เจ้า ซึ่งถือเป็นการเติมเต็มความปรารถนาของข้า ตอนที่ข้าได้พบกับแม่ของเจ้าครั้งแรก นางบอกว่าน้ำพุร้อนควรจะสร้างเช่นไร จากนั้นสถานที่แห่งนี้ก็ได้ถือกำเนิดเกิดขึ้น”องค์จักรพรรดิทรงใช้คำพูดที่เป็นกันเอง“หม่อมฉันทราบเรื่องในอดีตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และยังทราบว่าเสด็จพ่อเคยมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับท่านแม่ หม่อมฉันเชื่อว่าท่านแม่ต้องรู้สึกขอบคุณในความปรารถนาดีของพระองค์แน่นอนเพคะ” ฉู่เนี่ยนซีกล่าว เรียบ ๆองค์จักรพรรดิหันกลับมามองฉู่เนี่ยนซี ใบหน้านั้นดูคล้ายกันมาก ถึงอย่างไรมันก็เป็นเพียงความคล้ายคลึง แต่ไม่ใช่นางดวงตาของพระองค์พร่ามัวเล็กน้อย ทรงยิ้มขมขื่นหลังจากนึกถึงฉู่เคอ“ใคร ๆ ก็เอาแต่ระแวงข้า กลัวว่าข้าจะพาเจ้าเข้ามาอยู่วังหลัง แต่ข้าไม่ใช่คนหื่นกามเช่นนั้น นางก็คือนาง เจ้าก็คือเจ้า จริงอยู่ที่ข้ายินดีที่ได้พบเจ้า แต่มันก็เป็นเพียงความยินดีที่ช่วยปลอบใจข้าเท่านั้น หากเจ้าไม่ได้แต่งงานกับหลีเอ๋อร์ ข้าก็คงจะรับเจ้ามาเป็นลูกของข้า”ดวงตาขององค์จักรพรรดิกลับมาฉายแววเจิดจ้า ทรงทอดพระเนตรมองฉู่เนี่ยนซีด้วยความเอ็นดู“ที่เสด็จพ่อทำเช่นนั้น ก็คงเป็นเพราะเห็นถึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-11

บทล่าสุด

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

DMCA.com Protection Status