Share

บทที่ 428

Author: ชาผลไม้
last update Last Updated: 2024-03-06 16:00:00
เย่หลิงเอ๋อร์มองไปที่เหยียนจือซินอย่างเงียบ ๆ และฉู่เนี่ยนซีก็ถอนหายใจให้นาง และจากเนื้อหาในบทสนทนาของพวกนาง ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย

มุมปากของนางยิ้มแย้มแจ่มใส และดวงตาของนางสุกสกาว

“ว่ากันว่าสตรีมักจะแต่งตัวพิถีพิถันเพื่อคนที่ตนชอบ นี่เป็นเรื่องจริง แต่ที่จริงยิ่งกว่านั้นคือสตรีที่ดูแลตัวเองเพื่อตัวเอง รูปร่างหน้าตาเป็นของตัวเอง ไม่ใช่ของผู้อื่น ใช้ชีวิตด้วยตัวเองไม่ใช่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขจากถ้อยคำของผู้อื่น แม้ว่าข้าจะร่างกายอ่อนแอ และอาศัยอยู่ในวังหลังมาเป็นเวลานาน แต่หากข้าเอาแต่โทษทุกสิ่งทุกอย่าง ชีวิตก็คงไม่มีความสุข ”

คำพูดของเย่หลิงเอ๋อร์ทำให้เหยียนจือซินเงยหน้าขึ้น นางมองไปยังองค์หญิงฉางเล่อแล้วมองไปที่ฉู่เนี่ยนซี ทุกคนไม่ได้สมบูรณ์แบบ

แต่องค์หญิงฉางเล่อมีชีวิตอิสระและอีกทั้งยังอยู่อย่างสุขกายสบายใจ ส่วนฉู่เนี่ยนซีเองก็ได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระตามอำเภอใจ

“หม่อมฉัน…”

“ข้ารู้ว่าเจ้าอาจจะยังทำใจยอมรับไม่ได้ เหตุใดเราไม่ลองแก้ปัญหาอื่นกันก่อนล่ะ?”

ฉู่เนี่ยนซีมองเหยียนจือซินด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ แล้วพูดกับเย่หลิงเอ๋อร์ว่า "ขอบพระทัยองค์หญิงสำหรับการต้อนรับเพคะ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 429

    เมื่อค่อย ๆ ได้ฟังสิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูด ฮูหยินเหยียนก็หันหน้าไปมองบุตรสาวและอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ“ลูกสาวของหม่อมฉันเก่งทุกอย่าง เว้นเสียแต่เป็นคนใจอ่อนเกินไป”“ในพระตำหนักอันชิ่ง ท่านกล่าวว่าตระกูลซ่างกวานถูกรื้อค้น หากไม่ได้พิจารณาอย่างรอบคอบและให้นางออกเรือนกับตระกูลร่ำรวยอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า ทั้งที่อีกฝ่ายเป็นคนไม่ดี เกรงว่าอนาคตของนางคงจะมืดมน และไม่ได้ดีไปกว่าตระกูลซ่างกวาน ฮูหยินเหยียน แม่ทุกคนย่อมรู้ดีว่าสำหรับสตรีไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ควรเตรียมพร้อมให้บุตรสาวมากกว่านี้หรือ?”คำพูดของฉู่เนี่ยนซีทั้งจริงใจและสมเหตุสมผลจนฮูหยินเหยียนเริ่มไตร่ตรองในความพูดของนาง “หม่อมฉันยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะ...”“ข้าไม่รู้ว่าจะมีใครมาสู่ขอหรือไม่ ไม่ต้องพูดถึงว่าใครจะมาสู่ขอเลย ข้าแค่ถือว่าจือซินเป็นสหาย ดังนั้นจึงได้พูดสิ่งมากมายกับท่านเช่นนี้ ฮูหยินเหยียน ท่านเองก็เคยเป็นบุตรสาวของบ้านเดิมตนเองมาก่อน แน่นอนว่าย่อมหวังให้จือซินได้ตบแต่งกับคนที่นางรักและดูแลนางได้”ฉู่เนี่ยนซีพูดแทรกฮูหยินเหยียน นางไม่ได้กลัวเย่เหลียน และไม่กลัวฮองเฮา เพียงแต่ไม่ต้องการสร้างปัญหาให้กับเย่เฟยหลีอีก เพราะนางสร้า

    Last Updated : 2024-03-06
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 430

    “ฮ่าฮ่า เจ้าเด็กฉลาด”องค์จักรพรรดิถูกเย่เซวียนเล่อทำให้รู้สึกขบขัน จนเกิดเส้นขีดที่หางตาของเขา“เสด็จพ่อเพคะ” เมื่อเห็นว่าองค์จักรพรรดิอารมณ์ดี เย่เซวียนเล่อจึงถือโอกาสกล่าวขึ้นว่า “เสด็จพ่อและลูกมีจิตเชื่อมโยงกัน แต่เสด็จแม่และลูกก็มีจิตเชื่อมโยงกันเช่นกัน ลูกรู้สึกว่าเสด็จแม่อยู่ในตำหนักเฟิงอี้อย่างยากลำบาก ลูกขอไปพบเสด็จแม่หน่อยได้หรือไม่เพคะ เพียงครู่เดียวก็ได้”รอยยิ้มบนใบหน้าขององค์จักรพรรดิจางหายไป เขาถอนหายใจแล้วพูดว่า “แม่ของเจ้าทำผิด ก็ต้องถูกลงโทษ ข้ามีราชโองการไปแล้วว่าไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าออก เจ้ากลับไปเสียเถอะ”“เพคะ ลูกเองก็รู้ว่าเสด็จแม่ทรงทำผิด ดังนั้นจึงอยากจะไปเกลี้ยกล่อมพระองค์” เย่เซวียนเล่อส่ายแขนขององค์จักรพรรดิและพูดอย่างออดอ้อน “เสด็จพ่อ ได้โปรดให้ลูกได้ไปเกลี้ยกล่อมเสด็จแม่เถิด หากลูกไปแล้ว เสด็จแม่จะต้องฟังเล่อเอ๋อร์อย่างแน่นอนเพคะ”“เจ้าพูดฟังค่อนข้างมีเหตุผล รีบไปรีบกลับ อย่าได้อยู่นานจนเกินไป”องค์จักรพรรดิคิดว่ามันคงจะดีหากเย่เซวียนเล่อโน้มน้าวฮองเฮาได้จริง ๆเย่เซวียนเล่อรีบเข้าไปในตำหนักเฟิงอี้ทันที และร้องเรียก "เสด็จแม่" น้ำเสียงของนางกังวลมาก

    Last Updated : 2024-03-06
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 431

    “แต่เสด็จแม่เพคะ ตอนนี้พี่สามมีอำนาจสูงสุดอยู่ในมือแล้ว และอำนาจในท้องพระโรงก้กำลังรุ่งโรจน์ มีทั้งขุนนางบู๊บุ๋นคอยประจบประแจงเขา เสด็จแม่ ไม่ใช่ว่าลูกไหลตามกระแสน้ำ เพียงแต่คิดว่าเราควรพิจารณาให้รอบครอบว่าพี่สองควรค่าแก่การพึ่งพาหรือไม่?”“แน่นอนว่าพี่สองของเจ้าไม่คู่ควรกับการพึ่งพา เย่เฟยหลีเองก็เช่นกัน! เล่อเอ๋อร์ เราคนสองแม่ลูกพึ่งพาได้เพียงกันและกันเท่านั้น เจ้ามีเลือดของข้าไหลเวียนอยู่ในร่างกาย ดังนั้นก็ควรร่วมแรงร่วมใจกับข้า”ฮองเฮาก้มลงและจับไหล่ของเย่เซวียนเล่อด้วยมือทั้งสองข้างความสงบบนใบหน้าสามารถสะท้อนให้เห็นถึงการวางแผนและความยากลำบากมาหลายปี ดวงตาของนางเหมือนเปลวไฟ และพูดกับเย่เซวียนเล่อด้วยเสียงหนักแน่นว่า “เล่อเอ๋อร์เจ้าอย่าได้คิดที่จะแปรพักตร์ไปหาเย่เฟยหลีอีก เจ้าจะยอมจำนนต่อใครก็ได้ แต่ห้ามเป็นเขา”"เพราะเหตุใดเพคะ?"“เพียงจำคำของข้าไว้ก็พอ เล่อเอ๋อร์ เจ้าต้องรู้เอาไว้ว่าไม่มีใครให้พึ่งได้ มีเพียงตระกูลไป๋ของข้าเท่านั้นที่เจ้าสามารถไว้วางใจและพึ่งพาได้มากที่สุด เพราะนั่นไม่ใช่เพียงแต่เป็นตระกูลที่สนับสนุนข้า แต่ยังเป็นตระกูลที่หนุนหลังเจ้าด้วย”หลังจากได้ยินคำพ

    Last Updated : 2024-03-07
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 432

    ฉู่เนี่ยนซีลองชิมแล้วจึงพบว่ามันรสชาติดีมาก ขณะที่นางกำลังทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย เสี่ยวเถาก็เข้ามาส่งกระดาษใบหนึ่งให้กับฉู่เนี่ยนซี“ทูลท่านอ๋องและพระชายา ตระกูลเหยียนส่งข้อความมาว่าจะมีงานรวมตัวของผู้มีการศึกษาในวันพรุ่งนี้ และขอเชิญพระชายาไปร่วมด้วยเพคะ”“ตระกูลเหยียน?” เย่เฟยหลีมองฉู่เนี่ยนซีด้วยความสับสน “ใต้เท้าเหยียนสำเร็จการศึกษาจากเมืองหลวง และเขาเป็นข้าราชการที่ซื่อตรง เจ้าสามารถไปงานสังสรรค์ของตระกูลเขาได้ แต่เราไม่ได้ติดต่อกับตระกูลเหยียนมากนัก เหตุใดเขาถึงได้ส่งบัตรเชิญมาที่นี่กัน?”ฉู่เนี่ยนซีเล่าเรื่องเกี่ยวกับเหยียนจือซินให้เขาฟัง และบอกเขาว่าอย่าได้บอกใครในเรื่องนี้เกรงว่าวงค์ตระกูลที่มีบุตรสาวคนเดียว โดยเฉพาะคนที่ใสซื่ออย่างเหยียนจือซินมีแต่จะถูกนินทามากยิ่งขึ้น“เช่นนี้นี่เอง” เย่เฟยหลีพยักหน้าเล็กน้อย ขณะที่เขากำลังจะยกชามแกงปลาไนให้ฉู่เนี่ยนซี เย่ฉงเฉิงก็เข้ามาแล้วพูดว่า "ข้าได้กลิ่นอาหารโชยมา โชคดีที่ข้ายังไม่ได้ทานออะไรพอดี”เย่ฉงเฉิงเพิกเฉยต่อสายตาของเย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซี เขานั่งลงและเอื้อมมือไปหยิบชามน้ำแกงชามนั้นจากมือของเย่เฟยหลี“ขอบพระทัยพี่สามที่

    Last Updated : 2024-03-07
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 433

    “ไม่ได้ยินว่าฮูหยินฉู่ป่วยนะเพคะ ท่านบอกแค่ว่าอยากให้พระชายากลับไปเยี่ยม คงแค่เพราะคิดถึงท่านกระมัง”เมื่อมาถึงประตูจวนเสนาบดีฉู่ ฉู่เนี่ยนซีก็ลงจากรถม้าก่อนจะหอบชายกระโปรงวิ่งไปยังเรือนหลัก เมื่อนางเห็นฮูหยินฉู่และจ้าวม่อเหยียนนั่งคุยกันอย่างมีความสุข นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก“ท่านแม่ พี่สะใภ้” ฉู่เนี่ยนซีร้องเรียกและวิ่งไปหาฮูหยินฉู่ ทั้งรู้สึกเป็นกังวลทั้งรีบร้อน “ท่านแม่ไม่บอกว่ามีเรื่องอะไร ข้าก็นึกว่าท่านป่วย จึงรีบมาด้วยความเป็นกังวล”“เป็นพระชายามาครึ่งปีแล้ว ยังไม่มีความน่าเกรงขามใด ๆ เลย โชคดีที่ท่านอ๋องหลีไม่ได้ใส่ใจ”ดวงตาอันเปี่ยมด้วยความรักของฮูหยินฉู่จ้องมองผมถักเปียของฉู่เนี่ยนซี นางดึงฉู่เนี่ยนซีให้ย่อตัวลงก่อนจะเสียบปิ่นหยกให้“ใช่เจ้าค่ะ ทั้งเมืองหลวงต่างก็รู้ถึงความรู้สึกของท่านอ๋องหลีที่มีต่อน้องหญิง และทุกคนต่างก็อิจฉา ไม่มีใครพูดว่าน้องหญิงไม่น่าเกรงขามเลยสักคนเจ้าค่ะ”จ้าวม่อเหยียนยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความสุข นางนั่งเอนกายพิงหมอนขนห่านสีทองและมองไปที่ฉู่เนี่ยนซีด้วยความขอบคุณฮูหยินฉู่จับมือฉู่เนี่ยนซีแล้วขอให้นางนั่งลงข้าง ๆ ก่อนจะพูดกับฉู่เนี่ยนซีด้วยคว

    Last Updated : 2024-03-07
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 434

    เหยียนจือซินดึงฉู่เนี่ยนซีไปข้างหน้าฝูงชน ไม่มีสตรีนางใดในที่นี้ที่มีสถานะสูงกว่าฉู่เนี่ยนซี ดังนั้นพวกนางจึงได้แต่โค้งคำนับและทำความเคารพ “ถวายบังคมพระชายาหลีเพคะ”ฉู่เนี่ยนซีพยักหน้าให้ทุกคนอย่างเย็นชาและนั่งลงโดยไม่พูดอะไรกับพวกนางในการรวมตัวของสตรี หลังจากแต่งบทกวีได้สองสามบทแล้วก็กลายเป็นช่วงเวลาแห่งการสนทนากันเป็นส่วนใหญ่ทุกคนรู้สึกถึงความเย็นชาที่เล็ดลอดออกมาจากฉู่เนี่ยนซี ดังนั้นพวกนางจึงไม่ได้เข้าไปยั่วยุนาง และพูดคุยกันต่อเช่นก่อนหน้านี้“จือซิน ข้าว่าผิวของเจ้าดูขาวขึ้นนะ กระจุดบนใบหน้าก็ดูจางลง ดูไม่เหมือนใช้แป้งปกปิดเสียทีเดียว”สตรีที่มีใบหน้าเป็นมิตรกล่าวขึ้น“ข้า…” เหยียนจือซินมองไปที่สตรีนางนั้น ก่อจะมองไปที่ฉู่เนี่ยนซี และรวบรวมความกล้ากล่าวขึ้นว่า “เป็นเพราะพระชายาจ่ายยาให้ข้าน่ะ หลังจากที่ข้าทาบนใบหน้าก็เห็นผลตั้งแต่วันแรก เจ้าสังเกตเห็นด้วยงั้นหรือ?”หลังจากพูดเช่นนั้นแล้วเหยียนจือซินก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องยาก ทันใดนั้นนางก็รู้สึกราวกับได้ยกก้อนหินออกจากอก สีหน้าของนางก็ดูผ่อนคลายขึ้นมากเมื่อคนอื่น ๆ ได้ยินเช่นนี้ พวกนางก็ประหลาดใจที่เหยียนจือซินซึ่งป

    Last Updated : 2024-03-08
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 435

    ในขณะนี้ซุนจื่อซีที่ดูอ่อนแรงราวกับต้นหลิวต้นน้อยที่โอนเอนตามสายลมกำลังยิ้มอย่างอ่อนโยนและใจดี“หม่อมฉันทำได้เพียงซุกตัวอยู่แต่ในห้องนี้เพราะอาการป่วย โชคดีที่องค์หญิงห้ามาอยู่ที่นี่คุยเป็นเพื่อน ไม่เช่นนั้นหม่อมฉันคงจะอึดอัดแย่”นางกำนัลผู้น้อยที่อยู่ข้าง ๆ ขยับผ้าห่มให้ซุนจื่อซีอย่างปวดใจพลางพูดออกมาอย่างเหน็บแหนม“จะไปอึดอัดอะไรล่ะเจ้าคะ คำพูดไม่รื่นหูมีมากเสียขนาดนั้น ไม่อยากฟังก็คงยาก คุณหนูที่เป็นผู้มีจิตใจดีเช่นนี้คงไม่ลงโทษพวกปากมาก แต่คนเหล่านั้นกลับไม่เห็นแก่ความมีน้ำใจของท่านและพูดอะไรไม่เข้าท่ายิ่งกว่าเดิม”“สี่เชว่!”ซุนจื่อซีเอ็ดเบา ๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายโกรธ นางเริ่มไอไม่หยุด ใบหน้าเล็ก ๆ ซูบเซียวของนางเริ่มแดงจากการไอ“คนชั้นต่ำพวกนั้นคงลืมไปหมดแล้วว่าใครเป็นนายใครเป็นบ่าว!”ความโกรธในใจของเย่เซวียนเล่อปะทุขึ้นมาทันที อีกทั้งในน้ำเสียงก็มีความดุดันเพิ่มขึ้น“เป็นเพราะหม่อมฉันต่ำต้อย โชคดีที่เสด็จย่าทรงสงสาร จึงไม่ปล่อยหม่อมฉันให้เดียวดาย หม่อมฉันไม่อยากสร้างปัญหาให้เสด็จย่า ขอองค์หญิงโปรดทรงเมินเฉยต่อคำพูดเหล่านั้นไปและละโทสะลงเถิดนะเพคะ”ขณะที่พูด ดวงตาของซุนจื่อซ

    Last Updated : 2024-03-13
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 436

    แม้ว่าฉู่เนี่ยนซีจะสงสัย แต่สีหน้าของนางก็สงบราวกับน้ำแข็ง นางยืนขึ้นพลางก้าวไปหาฮูหยินเหยียน “ฮูหยินเหยียน ไม่ทราบว่า…”ทันใดนั้นฮูหยินเหยียนก็ยกฝ่ามือขึ้นหมายจะฟาดลงไปบนหน้าของฉู่เนี่ยนซี แต่ฉู่เนี่ยนซีคว้ามือของนางเอาไว้ได้อย่างรวดเร็วด้วยสายตาและมือที่ว่องไวดวงตาของฉู่เนี่ยนซีเต็มไปด้วยความโกรธ น้ำเสียงของนางฟังราวกับลมฤดูหนาวที่เยือกเย็นผสมกับน้ำแข็งและหิมะ “ฮูหยินเหยียน นี่หมายความเช่นไร? ท่านจะตบข้า ท่านรู้ถึงผลที่ตามมาหรือไม่?”“จะมีผลอะไรตามมาล่ะ?! ข้าก็นึกว่าท่านเป็นสตรีบริสุทธิ์ คิดว่าบุตรีที่ถูกเลี้ยงดูโดยตระกูลฉู่จะเป็นคนดี แต่นึกไม่ถึงเลยว่าท่านจะชั่วร้ายไม่ต่างกับงูพิษเช่นนี้!”ใบหน้าของฮูหยินเหยียนถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำ ดวงตาของนางมีฟ้าแลบและฟ้าร้องปะทุอยู่ในนั้น นางมองฉู่เนี่ยนซีด้วยความโกรธมากยิ่งขึ้น“เพียงคำพูดที่ท่านพูดมา ข้าก็สามารถทำให้ท่านถูกลงโทษในข้อหาใส่ความกันได้เลย”ฉู่เนี่ยนซีเหวี่ยงมือของฮูหยินเหยียนออกไป ดวงตาที่สดใสของนางมีประกายเย็นชาราวกับนางกำลังจะแช่แข็งอีกฝ่ายในน้ำแข็งและหิมะ“ใส่ร้ายหรือ? สมแล้วที่เป็นพระชายาหลี ช่างเป็นแผนที่ดี! ข้านึกว่ากา

    Last Updated : 2024-03-14

Latest chapter

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

DMCA.com Protection Status