Share

บทที่ 377

Auteur: ชาผลไม้
ในที่สุดนางก็เห็นสตรีในอาภรณ์ขาวนั่งสง่างามอยู่ในห้องด้านหลัง พลางมองนางอย่างเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม ราวกับว่านางกำลังดูตลกฉากใหญ่อยู่

เมื่อเห็นว่าไทเฮาทรงตื่นตระหนก องค์จักรพรรดิจึงก้าวไปข้างหน้าและทักทาย “เสด็จแม่ เหตุใดท่านถึงมาที่นี่?”

“เหตุใดคนข้างนอกถึง…?”

“ฝีมือข้าเอง มีอะไรไหม?” หัวหน้าหุบเขาตอบอย่างหยิ่งยโส ไม่อยากแม้แต่จะมองสีหน้าลังเลใจของเขา

องค์จักรพรรดิหันกลับมาเตือนนางอย่างจนใจ แต่หัวหน้าหุบเขาจ้องมองเข้าไปในดวงตาขององค์จักรพรรดิอย่างไม่แยแส

ฮองเฮาเห็นใบหน้าของนางชัดเจน นางเหยียดนิ้วหยกของนางออกด้วยความหวาดกลัว และตะโกนไปที่ประตูด้วยเสียงที่เข้มงวด “ใครก็ได้รีบมาจับนางหัวขโมยคนนี้เร็ว!”

ภาพที่ข้างกายฉู่เคอมีหญิงสาวคนหนึ่งคอยติดตามอย่างใกล้ชิดยังคงปรากฏอยู่ในใจของฮองเฮา และผู้หญิงคนนั้นก็คือคนที่อยู่ตรงหน้านาง ฮองเฮาคว้าแขนของไทเฮาแล้วกำชุดผ้าปักโดยไม่รู้ตัว “เสด็จแม่ คนผู้นั้นมีเลือดของฝั่งมณฑลตะวันตกไหลเวียนอยู่ ไม่รู้ว่าวันนี้นางต้องการจะทำอะไรถึงได้บุกมาที่วังอย่างอุกอาจเช่นนี้เพคะ”

“ฮองเฮา!” องค์จักรพรรดิมองฮองเฮาด้วยความไม่พอใจและเตือนนางว่าอย่าพูดอะไรพล่อ
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 378

    เมื่อเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ องค์จักรพรรดิก็รีบดึงหัวหน้าหุบเขาออกไปทันทีและพูดว่า “หนิงเจิน อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม”หัวหน้าหุบเขาลูบหน้าผากของตัวเองพลางหลับตาอย่างเหนื่อยหน่าย นางพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “หยุดพูดเพ้อเจ้อได้แล้ว วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อสิ่งเดียวเท่านั้น ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าสามวัน ไม่ว่าหนึ่งในพวกเจ้าจะเป็นใคร ต้องไปที่หุบเขาสมุนไพรของข้าแล้วขอโทษเนี่ยนซี แล้วจึงพานางกลับมาอย่างสมเกียรติ”“ฝันไปเถอะ!” ฮองเฮาโต้กลับอย่างดุเดือด“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ให้เจ้าเป็นคนไปก็แล้วกัน จำไว้ว่าเจ้ามีเวลาแค่สามวันเท่านั้น ถ้าไม่ทำตามที่เธอเสนอ ข้าจะทำให้เจ้าไม่มีสิทธิ์ได้ฝันอีกต่อไป!” หลังจากพูดจบ หัวหน้าหุบเขาก็มองฮองเฮาอย่างพินิจพิเคราะห์“เสนียดนัก ฉู่เนี่ยนซีเป็นนักโทษ ยังทั้งยังปั่นหัวองค์จักรพรรดิ ข้าต้องการตัดหัวนาง แต่เจ้าก็ยังให้ฮองเฮาไปเชิญนางกลับมาน่ะหรือ?!” ไทเฮาพูดด้วยความเหลือเชื่อและโกรธเคือง“ถ้าเจ้าฆ่าฉู่เนี่ยนซี ข้าจะทำให้อาณาจักรรัตติกาลแห่งนี้ล่มจมฝังลงไปพร้อมกับนางด้วย ข้าพูดอะไรย่อมทำได้ตามนั้น! นอกจากนี้ข้าคือหนิงเจิน หัวหน้าหุบเขาสมุนไพร หากพวกเจ้ายังยัดเยียดข้อห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 379

    “ได้ ข้าจะกลับไปเขียนเอง” ไทเฮาเงยหน้ามองฮองเฮาอย่างเย็นชา “ฮองเฮา เก็บของแล้วเตรียมออกเดินทาง”เล็บของนางแทงเข้าไปในเนื้อแต่นางก็ไม่รู้สึกเจ็บปวด ไฟในอกของนางก็ปะทุอย่างรุนแรงจนภายในใจของนางบิดเบี้ยว ฮองเฮาทำเพียงกำผ้าเช็ดหน้าและตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจฮองเฮาไม่ได้แข็งแกร่งเท่าผู้ที่ฝึกฝนวรยุทธ์ ร่างกายของนางอ่อนแอหลังจากอยู่ในวังหลังมาหลายปี นางใช้เวลาหนึ่งวันเต็มในการไปถึงป่าพิษ เมื่อนางลงจากรถม้า เท้าของนางก็อ่อนแรงมากจนแทบจะประคองตัวเองไม่ไหว โชคดีที่นางกำนัลอาวุโสฮวยเหรินคอยพยุงนางไว้ไม่ให้ล้มลงไปเหล่าองครักษ์หลายคนยกกล่องหนักหลายใบมาวางไว้ตรงหน้าฮองเฮา แล้วต่างประสานมือทูลว่า “ฮองเฮา ของทุกอย่างอยู่ที่นี่หมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฮองเฮาสั่งให้พวกเขาเปิดมันออก และอัญมณีที่อยู่ในนั้นก็ทำให้ดวงตาของผู้คนพร่ามัวทันที ฮองเฮามองดูกล่องที่ใส่ทอง เงิน เครื่องประดับ ของโบราณ ภาพเหมือนบุคคล และผ้าไหม พลางกัดกรามแน่น ระงับความโกรธของตัวเอง“ไปแจ้งหัวหน้าหุบเขาของพวกเจ้าว่าข้ามาที่นี่เพื่อนำของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้แทนคำขอโทษจากราชวงศ์ และขอให้หัวหน้าหุบเขาและพระชายาหลียอมรับมันไว้ด้วย” ฮองเฮา

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 380

    ฮองเฮายืนอยู่เป็นเวลาสามชั่วยาม และนางแทบไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของขาของตัวเอง ที่กำลังรองรับทั้งร่างกายของนางเหมือนเสาสองต้นเสียงซุบซิบคุยกันข้าง ๆ ทำให้นางรู้สึกราวกับถูกตบหน้า ศักดิ์ศรีของฮองเฮาหายไปแล้ว นางเพียงรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในหล่มและทุกคนสามารถขึ้นมาเหยียบบนศีรษะของนางได้“ฮองเฮา เหตุใดไม่ทรงไปพักผ่อนในรถม้าเล่าเพคะ? หากยังยืนต่อไปเช่นนี้จะเหนื่อยเอาได้นะเพคะ”นางกำนัลอาวุโสฮวยเหรินมองไปยังกลุ่มคน นางกัดฟันด้วยความโกรธ แต่นางก็ไม่กล้าที่จะโกรธต่อหน้าคนของหุบเขาสมุนไพร ทำได้เพียงกระซิบเพื่อปลอบฮองเฮาเท่านั้นทันใดนั้นม่านตาของฮองเฮาก็หดตัวลง และมีแสงอันคมชัดแวบขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง แต่นางไม่มีทางเลือกนอกจากต้องระงับความโกรธและยืนต่อไปเดือนสิบสองสิ้นสุดลงแล้ว ลมหนาวที่พัดแรงผสมกับเกล็ดหิมะพัดผ่านใบหน้าของทุกคนฮองเฮาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากให้ฮวยเหรินคอยประคอง ขณะที่นางเดินไปที่รถม้า ขาและเท้าของนางก็เจ็บปวดอย่างรุนแรง และรู้สึกเหมือนเข่าจะหักในตอนที่งอขา ดังนั้นนางจึงต้องเอนตัวทิ้งน้ำหนักส่วนใหญ่ไปที่ร่างกายของฮวยเหรินหิมะตกทั้งคืนก่อนที่จะหยุด รอบกายมองเห็นทุกสิ่งเป็นส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 381

    “พี่หญิงเจ้าคะ หุบเขาสมุนไพรได้เตรียมรถม้าให้ท่านไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่เพียงแต่ปิดทุกมุมด้วยกระดาษน้ำมันหนา ๆ เท่านั้น แต่ยังเตรียมผ้าห่มขนสุนัขจิ้งจอกสีขาวไว้ท่านด้วยนะเจ้าคะ”ฉู่เนี่ยนซีบีบแก้มของเหยียนตั่ว จากนั้นก็โดนนางดึงขึ้นไปบนรถม้า มันดูสวยงามมากเมื่อมองจากด้านข้าง และเมื่อเปิดม่านออกก็พบกับโลกอีกใบที่อยู่ด้านในมีโซฟานุ่ม ๆ ให้ฉู่เนี่ยนซีได้นอน และโต๊ะสี่เหลี่ยมก็มีผลไม้และขนมอบเตรียมไว้ แถมยังวาง ตำราทางการแพทย์สองเล่มไว้เผื่อว่านางจะเบื่อด้วย เหยียนตั่วเลือกเองเป็นพิเศษหลังจากรู้เรื่องราวการรักษาและการช่วยชีวิตผู้คนของชายาหลี ฉู่เนี่ยนซีกล่าวขอบคุณหัวหน้าหุบเขาด้วยความเคารพ “ขอบพระทัยท่านอามากเจ้าค่ะ หากซีเอ๋อร์จัดการเรื่องในเมืองหลวงเรียบร้อยแล้ว จะกลับขอบคุณท่านอาอย่างเป็นทางการอีกครั้งเจ้าค่ะ”“เจ้าไปจัดการเถิด หุบเขาสมุนไพรจะคอยสนับสนุนอยู่ข้างหลังเจ้าเอง!”คำพูดที่ที่แน่วแน่ของหัวหน้าหุบเขา ไม่เพียงแต่พูดให้ฉู่เนี่ยนซีฟังเท่านั้น แต่ยังจงใจพูดให้ฮองเฮาได้ยินด้วย “ข้าล่ะ ข้าล่ะ?”เหยียนตั่วรีบยื่นหน้าไปข้างหน้าฉู่เนี่ยนซี โดยกลัวว่าฉู่เนี่ยนซีจะลืมความตั้งใจของนา

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 382

    ไทเฮานั่งลงและจับที่จับเก้าอี้เพื่อยึดเหนี่ยวร่างกาย นางกวาดสายตามองดูทั่วท้องพระโรง ความน่าเกรงขามที่สะสมมาหลายปีก็กลับมาหานางอีกคราเมื่อคิดว่าองค์จักรพรรดิได้อธิบายความจริงไปแล้ว และกังวลเกี่ยวกับอำนาจของหุบเขาสมุนไพร แม้ไทเฮาจะสง่างามแต่ก็ไม่ได้เฉียบแหลมมากนัก นางมองไปที่ฉู่เนี่ยนซีด้วยสายตาที่ไม่พอใจอย่างมาก“ชายาหลี โปรดรับราชโองการ”ขันทีเฉินมาที่ ฉู่เนี่ยนซี ด้วยความเคารพพร้อมกับม้วนสีเหลืองสดใสในมือของเขา โค้งคำนับและกล่าวว่าหลังจากที่ฉู่เนี่ยนซีคุกเข่าลง ขันทีเฉินก็เปิดราชโองการและอ่านออกเสียงอย่างมั่นคง“ตามราชโองการของไทเฮา ชายาหลี ฉู่เนี่ยนซีโค้งคำนับด้วยความเคารพและภักดี นางไม่ได้มีการสมรู้ร่วมคิดกับมณฑลตะวันตกเพื่อก่อกบฏ จึงประกาศให้ทุกคนทราบโดยทั่วกัน”“ขอบพระทัยไทเฮา”หลังจากที่ฉู่เนี่ยนซีคุกเข่าลง นางก็ลุกขึ้นยืนโดยมีขันทีชวี่ช่วยพยุงเข้ามารับราชโองการ และนางก็ยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่แสดงสีหน้าใด ๆ“องค์ชายหลีเสด็จ” ขันทีที่อยู่นอกประตูตะโกนขึ้นเสียงดังสายตาของทุกคนหันมองไปที่เขาทันทีท้องฟ้าด้านนอกเป็นสีเทา ราวกับมีเงาปกคลุมอยู่หลายชั้น มันมืดมากจนทำให้ผู้คนร

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 383

    “เสด็จย่า ขุนนางที่ประจบประแจงพยายามทุกวิถีทางเพื่อหาทางออกให้กับตัวเอง แต่ขุนนางผู้ภักดีต้องตายหากพระราชาต้องการให้ขุนนางตาย และขุนนางต้องตายเท่านั้นหรือ? ในความคิดของกระหม่อม มันคือความภักดีที่โง่เขลา ยิ่งไปกว่านั้น การที่ซีเอ๋อร์ได้รับการช่วยเหลือนั้นไม่ใช่แผนการของนาง ดังนั้นเรื่องนี้จะโทษว่าเป็นความผิดของนางไม่ได้”เย่เฟยหลีพูดช้า ๆ อย่างฉะฉาน แต่น้ำเสียงสงบของเขาผสมกับความเยือกเย็นเล็กน้อย ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวสั่นเมื่อฉู่เนี่ยนซีได้ยินดังนั้น รอยยิ้มจาง ๆ ก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของนาง ก่อนหายไปอย่างรวดเร็ว ไทเฮาไม่กล้าตำหนิว่าเป็นความผิดของหุบเขาสมุนไพร ราวกับว่านางได้กินผลไม้เน่าเต็มปาก กลืนไม่ได้ คายไม่ออก แต่รู้สึกไม่สบายและอึดอัดเป็นอย่างมาก“เสด็จพ่อ กระหม่อมคิดว่าเรื่องที่ชายาเหลียนนำทหารไปจับกุมซีเอ๋อร์ ตอนนี้ก็ควรเชิญอ๋องเหลียนและชายามาขอโทษซีเอ๋อร์ต่อหน้าเสด็จพ่อด้วยพ่ะย่ะค่ะ”เย่เฟยหลีพูดอย่างเฉียบคม และจ้องไปที่ฮองเฮาโดยตรง ราวกับว่าเขากำลังบอกอะไรบางอย่างด้วยสายตา“ส่งข่าวให้อ๋องเหลียนและชายาเหลียน”เย่เฟยหลีหันศีรษะมองไปที่ฉู่เนี่ยนซี จากนั้นก็กระซิบข้างหูข

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 384

    เย่เฟยหลีเยาะเย้ยและมองลงไปที่ไป๋ชิงอย่างเย่อหยิ่ง “มีใครในหมู่พวกเจ้าที่เห็นข้าในที่เกิดเหตุบ้าง? เป็นเพราะบาดแผลของแม่ทัพไป๋ หรือเป็นเพราะมีคำว่าอ๋องหลีสลักอยู่บนใบหน้าของชายคนนั้น? องครักษ์ส่วนตัวของจักรพรรดิก็อยู่ในวังด้วย เหตุใดไม่เรียกมาถามให้หมดว่าใครเห็นข้าบ้างเล่า?”น้ำเสียงของเขาผ่อนคลายแต่อาฆาต ความสงบและไม่ยอมคนของเย่เฟยหลีทำให้ขันทีหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ เหงื่อแตกพลั่ก ไม่กล้าขยับตัวและทำได้เพียงปล่อยให้เหงื่อไหลลงมาบนใบหน้าฉู่เนี่ยนซีกำลังเพลิดเพลินกับการแสดง นางกอดอกและมองเยาะเย้ยคนที่อยู่ข้างหน้า นี่คือสิ่งที่เรียกว่าแมลงในฤดูใบไม้ร่วงก่อนที่มันจะสูญพันธุ์ลงหรือไม่?“พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว ข้าจำได้ว่าแม่ทัพไป๋มีหน้าที่คุ้มกันระหว่างการเดินทาง เหตุใดถึงคุ้มกันไม่อยู่เล่า? มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ แม่ทัพไป๋ แล้วโทษของเจ้าล่ะอยู่ที่ใด?”เย่เฟยหลีหรี่ตาลงและเน้นน้ำเสียงของประโยคสุดท้ายของเขา ราวกับภูเขาน้ำแข็งที่ระเบิดในน้ำจนทำให้เกิดคลื่นฮองเฮาจิกเล็บ ใบหน้าของนางดูถมึงทึง นางก็เหลือบมองสีหน้าของจักรพรรดิจากหางตา เกรงว่าเขาจะขุ่นเคืองตระกูลไป๋“มันเป็นข้อห้ามมาโดยตลอด ว่าด้ว

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 385

    เย่เฟยหลีชิงพูดก่อน และคมกริบนี้ก็ทำให้เย่เหลียนและเจี่ยงจาวอวิ๋นขมวดคิ้วทันที“เสด็จพ่อ...”ก่อนที่เย่เหลียนจะทันได้ปกป้องตัวเอง จักรพรรดิก็อธิบายขึ้นทันทีว่าฉู่เนี่ยนซีไม่มีความผิด และในกรณีนี้ พวกเขาก็ควรขอโทษนางฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นอย่างสง่า มองทั้งสองคนด้วยสีหน้าเย้ยหยัน เจี่ยงจาวอวิ๋นมองไปรอบ ๆ ด้วยความโกรธ และกัดฟันอย่างไม่เต็มใจ ก่อนจะพูดกับนางว่า “นี่เป็นความเข้าใจผิด ชายาหลีโปรดอย่าถือโทษเลยนะเพคะ”นี่เป็นครั้งแรกที่เย่เหลียนได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของฉู่เนี่ยนซี ในอดีตเขามักจะมีบาดแผลในใจอยู่เสมอเพราะรอยแผลเป็นของนาง แต่ตอนนี้นางดูเหมือนนางฟ้า เขาประหลาดใจมากจนไม่รู้ว่าควรพูดอะไร เย่เฟยหลีขอให้เขาทำเช่นนี้ และน้ำในหัวใจของเขาคงพลิกคว่ำ และคลื่นยักษ์ที่เขายกขึ้นก็รอทำลายพระตำหนักจินหลวนแทบไม่ไหว“อ๋องเหลียน ถึงคราวของท่านแล้ว”“เย่เหลียนขอประทานโทษแทนจาวอวิ๋น หวังว่าเจ้าจะไม่ถือโทษโกรธนาง”ฉู่เนี่ยนซีมองเขาอย่างไร้อารมณ์ รู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นเขายิ้มให้ทันทีที่เย่เหลียนพูดจบ เย่เฟยหลีก็ก้าวไปยืนอยู่ข้างหน้าเจี่ยงจาวอวิ๋น ดวงตาที่มืดมนของเขาเป็นดั่งทะเลสาบที่ไร้ก้นบึ

Latest chapter

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status