Share

บทที่ 323

Author: ชาผลไม้
ฉู่เนี่ยนซีดึงขากระต่ายออกมาแล้วยื่นให้เด็ก จากนั้นก็พยุงศรีษะของเขาเพื่อให้เขาดื่มน้ำ

เด็กกระหายน้ำมากจึงดื่มไปจนเกือบครึ่งในคราเดียว

“เจ้าชื่ออะไร?”ฉู่เนี่ยนซีรับกาน้ำกลับมาแล้วถามเด็ก

“ข้าชื่อจู้จื่อ” เด็กน้อยมองไปรอบ ๆ แต่ไม่เห็นแม่ของเขาตน น้ำตาหยดใหญ่ไหลออกมาจากดวงตาของเด็กน้อยทันที “แม่ของข้าอยู่ที่ไหน?”

“น้ำซัดพวกเรากระจายจากกันไปหมด แม่ของเจ้าก็คงปลอดภัยดี ตอนนี้เราต้องรีบคิดหาวิธีกลับไปโดยเร็วที่สุด กินข้าวก่อนเถอะ พอพวกเรามีแรงแล้วจะได้กลับไปทันที”

ฉู่เนี่ยนซีไม่ค่อยเก่งในการกล่อมเด็ก ดังนั้นจึงมองไปที่เย่เฟยหลีเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ก็เห็นเขาส่ายหน้าด้วยสีหน้ากระอักระอ่วน

หลังจากที่เย่เฟยหลีกินอิ่มแล้ว เขาก็ออกไปสำรวจเส้นทาง ฉู่เนี่ยนซีหยิบเข็มทิศออกมาและแยกทิศ คิดย้อนกลับไปในทิศทางที่ถูกพัดมา ตอนนี้น่าจะถูกพัดมาทางใต้สุดของเมืองหนานหลิน อาจจะเป็นทางใต้ หรือนอกชายแดนก็เป็นได้

หลังจากที่อวี๋ตงหาฉู่เนี่ยนซีไม่พบ เขาก็ได้รับการช่วยเหลือจากทหารที่กระโดดลงไปในน้ำ

เขาทรุดตัวลงบนพื้น กำหมัดทั้งสองข้างแน่น และชกพื้นอย่างแรง

ในใจอดเสียใจไม่ได้ที่เขาไม่สามารถคว้าจับฉู่เนี่ย
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 324

    การเดินทางกลับเมืองหลวงใช้เวลาหลายวัน เนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอฉู่เนี่ยนซีจึงหลับบนรถม้าไปครึ่งทาง เพียงรอให้เย่เฟยหลีและคนอื่น ๆ หาโรงเตี๊ยมก่อนจะลงจากรถม้าและเดินแค่ไม่กี่ก้าวหลังจากนั้นไม่นาน ขบวนรถก็ค่อย ๆ มาถึงชานเมืองอาณาจักรแห่งรัตติกาลเย่เฟยหลีเหลือบมองฉู่เนี่ยนซีที่ง่วงงุน ร่องรอยความเจ็บปวดใจปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา เมื่อเห็นนางลืมตาขึ้นเล็กน้อย เขาก็กล่าวขึ้นว่า“หลังจากเข้าเมืองแล้ว ไปโรงเตี๊ยมอาบน้ำสักหน่อยจะได้รู้สึกสบายตัวขึ้น จะได้กลับจวนวังอย่างมีชีวิตชีวา”ฉู่เนี่ยนซีพยักหน้า เสี่ยวเถาเดินตามนางเข้าไปในห้อง ให้พนักงานเติมน้ำร้อนจนเต็มถังก่อนจะให้รางวัลเขา แล้วสั่งให้เขากลับออกไป “นายหญิง ข้าจะเฝ้าอยู่นอกประตู หากท่านต้องการอะไรเรียกหาข้าได้เสมอ” อวี๋ตงยังคงคอยปกป้องฉู่เนี่ยนซีเพราะกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกเย่เหลียนเดินมาพร้อมกับกล่องในมือ แต่ถูกอวี๋ตงขวางไว้ และบอกเขาว่าหากมีธุระอะไรไว้ค่อยกลับมาใหม่ เย่เหลียนมองไปที่ท่านผู้ดูแลของหอการแพทย์ และคิดย้อนไปว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นเจ้านายของทุกสิ่งในหอการแพทย์ และจ้องมองเขาด้วยสายตาสงสัยเป็นเวลานาน“ข้าเองชักส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 325

    องค์จักรพรรดิยิ้มกว้าง จนรอยย่นที่มุมดวงตาชัดเจน เขายกย่องบุตรชายทั้งสองของตนซ้ำแล้วซ้ำเล่า สำหรับความฉลาดและความสามารถของพวกเขา และมอบทองคำหนึ่งร้อยตำลึงและเงินหนึ่งหมื่นตำลึงเป็นรางวัล“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ” ทั้งสี่คนขอบคุณจักรพรรดิพร้อมกันฉู่เนี่ยนซีสวมผ้าคลุมหน้า เป็นที่จับตามองมากในหมู่คนเหล่านี้ หลังจากที่เย่เฟยหลีอธิบายเรื่องนี้ จักรพรรดิก็ชื่นชมฉู่เนี่ยนซีและยกย่องนางสำหรับการจัดการที่ยอดเยี่ยมของนาง ครั้งนี้นายังมีส่วนร่วมอย่างมาก จึงตบรางวัลนางด้วยเงินหนึ่งพันตำลึงและผ้าทอหลายร้อยผืน“ขอบพระทัยเสด็จพ่อเพคะ” ฉู่เนี่ยนซีกล่าวอย่างสง่างามอีกครั้ง และจักรพรรดิก็ดูพอใจมากเจี่ยงจาวอวิ๋นที่อยู่ข้าง ๆ กำลังขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเกลียดชัง ครั้งที่แล้วนางยืมมือใช้องค์หญิงห้าลงโทษฉู่เนี่ยนซีไม่สำเร็จ ฉู่เนี่ยนซีกลับเปล่งประกายในวิกฤติน้ำท่วมครั้งนี้อีก ได้ยินมาว่ามีบุคคลสำคัญระดับสูงหลายคนในเมืองหลวงที่เคยไม่ชื่นชอบฉู่เนี่ยนซี ต่างก็ชื่นชมนางไม่หยุด แถมยังเปลี่ยนทัศนคติต่อนางด้วย เจี่ยงจาวอวิ๋นกระแอมในลำคอ เหลือบมองฉู่เนี่ยนซีเล็กน้อย ก่อนจะทักทายจักรพรรดิ “เสด็จพ่อเพคะ พระชายาห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 326

    หลังจากทักทายอีกรอบ ฉู่เนี่ยนซีก็เห็นว่าแม่ของนางดูอ่อนแรงและเหนื่อยล้าเพราะเป็นห่วงนาง นางจึงหยิบน้ำแร่ขึ้นมาให้เสี่ยวเถานำไปต้มชา ก่อนที่นางจะยืนนวดให้ท่านแม่อยู่ด้านข้าง“พระชายายังมีความสามารถในการนวดอีกด้วยหรือ? ได้ยินมาว่าการนวดสามารถกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ แถมยังกำจัดสารพิษได้ด้วย แค่ข้ามองดูอยู่เฉย ๆ ก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากแล้ว” หลิวซื่อหัวเราะ ลังเลอยู่นานกว่าจะพูดขึ้นฉู่เนี่ยนซีได้ยินอะไรบางอย่างจากคำพูดของหลิวซื่อ เมื่อเห็นนางมีท่าทีที่ดี จึงรู้ว่าหลิวซื่อคงอยากได้รับการรักษาจากนาง จึงให้อวี๋ตงไปเตรียมของที่จำเป็น และให้คุณหญิงฉู่เตรียมห้องว่างไว้ให้เพื่อจะรักษาให้หลิวซื่อขณะนี้ในห้องมีคนอยู่เพียงสี่คนคือฮูหยินฉู่ ฉู่เนี่ยนซี หลิวซื่อและจ้าวม่อเหยียนหลิวซื่อถามว่าตัวเองเป็นโรคอะไร ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองหน้าอกของนางแล้วกล่าวว่า "ตรงนี้เจ้าค่ะ ไม่สามารถอธิบายรายละเอียดได้ แต่ตอนนี้มันแย่ลงเรื่อย ๆ แล้ว อาจจะต้องเอามันออกเท่านั้นถึงจะช่วยชีวิตท่านป้าไว้ได้"เมื่อหลิวซื่อได้ยินสิ่งนี้ นางก็ลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ คนอื่น ๆ ต่างก็เบิกตากว้างมองไปที่ฉู่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 327

    ซ่างกวานเยียนกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ปูด้วยเบาะขนห่านหนา ๆ ดูเหมือนนางกำลังคิดอะไรบางอย่าง มุมปากจึงเผยรอยยิ้มขึ้นอย่างอดไม่อยู่เมื่อเห็นเย่เฟยหลี่และฉู่เนี่ยนซีมาที่ห้องโถง ซ่างกวานเยียนก็ลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ และทำความเคารพง่าย ๆ ก่อนที่ดวงตาของนางจะค่อย ๆ เปลี่ยนไป“เยียนเอ๋อร์ไม่ค่อยสะดวกจึงไม่สามารถทำความเคารพแบบเป็นพิธีได้ ท่านอ๋องและพระชายาโปรดประธานอภัยให้หม่อมฉันด้วยนะเพคะ”เสียงที่มีเสน่ห์ของซ่างกวานเยียนทำให้ฉู่เนี่ยนซีรู้สึกขนลุกเมื่อฉู่เนี่ยนซีได้ยินว่านางไม่ค่อยสะดวก รวมกับคำพูดของคนรับใช้เมื่อครู่ที่บอกว่านางมีเรื่องที่น่ายินดีจะบอก ทันใดนั้นนางก็นึกถึงบางสิ่ง และนางก็เหมือนมีก้อนหินขนาดใหญ่จมลงในใจของนางอย่างควบคุมไม่ได้ นางเหลือบมองเย่เฟยหลี และเห็นว่าเขาเต็มไปด้วยสงสัยอย่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธ ‘ตัวเองทำอะไรไว้ยังไม่รู้ตัวอีกหรือ?’เมื่อเย่เฟยหลีเห็นว่าฉู่เนี่ยนซีเพิกเฉยต่อเขาและนั่งลงไป เขาก็โบกเสื้อคลุมและนั่งบนที่นั่งหลัก ก่อนจะถามขึ้นมา "เกิดอะไรขึ้น?"“เยียนเอ๋อร์อาเจียนและรู้สึกอ่อนแรง จึงเชิญหมอสามท่านมาตรวจดู ทุกคนต่างก็บอกว่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 328

    อีกด้านหนึ่ง ซ่างกวานเยียนยิ้มขึ้นช้า ๆ เมื่อเห็นว่าเย่เฟยหลีไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ นางจึงค่อย ๆ เดินไปด้านข้างของเขา ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือของเย่เฟยหลีโดยตั้งใจที่จะให้เขาสัมผัสท้องของนางนางเห็นความเยือกเย็นบนใบหน้าที่ไม่แยแสของเย่เฟยหลี และทันใดนั้นก็รู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย และยิ่งไม่เข้าใจ ‘นี่คือลูกของเขานะ แถมยังเป็นลูกคนแรกของเขาเสียด้วย เหตุใดเขาจึงดูไม่มีความสุขเลยเล่า?’“ท่านอ๋อง ตกใจเกินไปหรือเปล่าเพคะ? เยียนเอ๋อร์เองก็ไม่คิดว่าจะประสบความสำเร็จในคราวเดียวเช่นนี้ บางทีอาจเป็นเพราะพระเจ้าสวรรค์ทรงโปรดปราน ดังนั้นจึงมอบของขวัญชิ้นนี้ให้แก่เราน่ะเพคะ”ซ่างกวานเยียนยิ้มอย่างไม่เป็นธรรมชาติ แต่ก็ยังคงเต็มไปด้วยปิติความสุข นางเพียงเดาว่าเย่เฟยหลีคงแค่ตกใจและยังปรับอารมณ์ไม่ได้เท่านั้นเย่เฟยหลียกมือขึ้นแล้วเหวี่ยงมันออกไปอย่างแรง เขาหรี่ตาลงแล้วมองไปที่ซ่างกวานเยียน หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เปิดริมฝีปากบาง ๆ แล้วกล่าวขึ้นว่า "ข้ากับเจ้าไม่เคยมีอะไรเกินเลยกัน แล้วเจ้าไปเอาเด็กคนนี้มาจากไหน?"เมื่อซ่างกวานเยียนได้ยินคำพูดเหล่านี้ นางก็รู้สึกราวกับว่ามีอ่างน้ำเย็นไหลลงมาบนหน้า ซึ่งทำใ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 329

    ซ่างกวานเยียนร้องไห้อย่างหนัก นางถอยกลับไปหนึ่งก้าว ก่อนจะคุกเข่าลงด้วยกำลังทั้งหมด จนเกิดเสียงดัง คราบเลือดเปรอะบนกระเบื้องปูพื้นเย่เฟยหลีก็กลัวว่านางจะตายที่นี่ ดังนั้นเขาจึงรีบคว้านางเอาไว้ซ่างกวานเยียนคิดว่าเย่เฟยหลีกำลังจะยกโทษให้ตน ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาของนางก็สว่างขึ้นอย่างรวดเร็ว นางมองไปที่เย่เฟยหลีอย่างคาดหวัง มีทั้งความสุข ความหวาดกลัว และความหวัง วินาทีต่อมานางนึกอยากจะขอบคุณเย่เฟยหลีที่ไม่สืบสาวเอาความ“เจ้าไม่เพียงทรยศข้า แต่ยังนำความอัปยศมาสู่ราชวงศ์อีก เพียงแต่เจ้าเคยช่วยข้าไว้ เห็นแก่ที่เจ้าเคยมีบุญคุณต่อข้า ข้าจะให้สองทางเลือกกับเจ้า จะปลงผมบวชชีหรือจะหย่า?" เย่เฟยหลีมองซ่างกวานเยียนอย่างเย็นชา ราวกับกำลังมองวัชพืช ปราศจากความแยแสนางตาโต อ้าปากค้างมองเย่เฟยหลีอย่างพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียวนางรู้สึกหนาวเหน็บไปทั่วร่างกาย และคำพูดของเย่เฟยหลีไม่ต่างไปจากมีดคม ๆ ที่แทงเข้ามาในหัวใจของนาง“เย่เฟยหลี พระองค์จะทำเช่นนี้กับหม่อมฉันไม่ได้! พระองค์ลืมความรักระหว่างเราไปแล้วหรือเพคะ?” เสียงของซ่างกวานเยียนเปลี่ยนน้ำเสียงทำให้มันฟังดูเจ็บปวดยิ่งขึ้น ท่ามกลางห้องโถงท

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 330

    “ท่านอ๋อง เราจะไปจวนมหาเสนาบดีกันไหมพ่ะย่ะค่ะ?”"ช้าก่อน"เย่เฟยหลีเงยหน้าขึ้นมองตะขอเงินที่แขวนอยู่ แสงที่เล็ดลอดออกมาดูราวกับฉู่เนี่ยนซีผู้แสนเย็นชาและยากจะเข้าใจเมื่อฉู่เนี่ยนซีกลับมาที่จวนมหาเสนาบดีก็ต้องเผชิญกับการสอบถามจากเสนาบดีฉู่และภรรยา นางบอกเพียงว่าคิดถึงท่านพ่อท่านแม่มากจึงอยากกลับมาอยู่สักสองวันแน่นอนว่าเสนาบดีฉู่และภรรยาไม่ได้ว่าอะไร และให้ฉู่เนี่ยนซีอาศัยอยู่ในห้องเดิมต่อซ่างกวานเยียนเดินโซเซกลับถึงเรือนตัวเอง และเรียกฝูหรงมา สั่งให้นางคิดให้ดีว่าเดือนที่แล้ว มีใครบ้างโดยเฉพาะบุรุษเคยมาที่เรือนของนางฝูหรงคิดอยู่ครู่หนึ่งและทันใดนั้นก็ตระหนักได้ "ลูกพี่ลูกน้องของนายหญิง ซ่างกวานชางเพคะ! บ่าวบังเอิญพบเขาในตอนนั้น แถมยังกล่าวทักทายเขาด้วยเพคะ"ซ่างกวานเยียนสั่งให้ฝูหรงกลับไปก่อน ทั้งร่างกายของนางเย็นชาและโกรธกริ้ว นิ้วของนางที่กำชุดอยู่ก็เปลี่ยนเป็นสีม่วงทันทีเรื่องคืนนี้ทำเอาคนนอนไม่หลับในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าสว่างขึ้นเล็กน้อย ฉู่เนี่ยนซีที่นอนไม่หลับทั้งคืน นอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงสั่นเทาของจ้าวม่อเหยียนดังมาจากด้านนอก "น้อง

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 331

    “แต่ว่ามนุษย์กำหนดไม่สู้ฟ้าลิขิต ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะแต่งงานกับท่านอ๋องหลีเร็วขนาดนี้ ข้าเศร้าใจมากจนทำได้เพียงดื่มเพื่อบรรเทาความเศร้า อีกทั้งยังนอนไม่หลับ เยียนเอ๋อร์ เรื่องในคืนนั้นเป็นความผิดของข้าเอง แต่ข้าก็มีใจให้เจ้าจริง ๆ หรือจะให้ข้าควักหัวใจออกมาให้เจ้าดู เช่นนั้นเจ้าจะเชื่อข้าหรือไม่?”น้ำตาไหลเปื้อนใบหน้าของซ่างกวานเยียนอย่างเงียบ ๆ และยิ่งขมขื่นมากขึ้นไปอีกเมื่อน้ำตาไหลเข้าปากของนาง นางไม่มีกำลังอีกต่อไป สุดท้ายจึงพิงเข้ากับซ่างกวานชางแล้วพูดอย่างอ่อนแรง “ข้าท้องลูกของเจ้า แล้วเจ้าจะให้ข้าอยู่ต่อไปได้อย่างไร ข้าจะมีชีวิตต่อไปได้อย่างไร?!”“ลูก เจ้าพูดจริงหรือ? เจ้าท้องลูกของข้าหรือ?”ซ่างกวานชางดีใจมาก เขาหันไปหาซ่างกวานเยียน พลางอุ้มนางขึ้นอย่างมีความสุขและหมุนตัวไปรอบ ๆ สองครั้งก่อนที่จะวางนางลง จากนั้นก็เช็ดน้ำตาและกอดนางไว้ในอ้อมแขนของเขา“เยียนเอ๋อร์ ได้มีลูกแล้วถึงข้าตายก็ไม่เสียใจ ตราบใดที่ข้าทำให้เจ้าและลูกสุขสบายได้ ข้าจะทำทุกอย่าง แม้ว่ามันจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม”ซ่างกวานเยียนทรุดตัวลงในอ้อมแขนของซ่างกวานชางและร้องไห้อย่างขมขื่น ขณะที่นางค่อย ๆ กลับคืนสู่ควา

Latest chapter

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status