ฉู่เนี่ยนซีรินชาให้ตัวเองด้วยท่าทีเรียบเฉยและดื่มอย่างเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไร ดวงตาของเถ้าแก่เคร่งขรึม จากนั้นก็มีความชื่นชมปรากฎขึ้นในดวงตา และเขาก็ฝ่ายพูดก่อนว่า “คุณหนูจะไม่ถามหรือว่าเหตุใดข้าน้อยถึงได้เรียกท่านมาที่นี่?” ฉู่เนี่ยนซีค่อย ๆ จิบชาหยดสุดท้ายในถ้วยเข้าไปในปากแล้วพูดว่า “ในเมื่อท่านก็สามารถบอกความต้องการของตัวเองได้โดยที่ข้าไม่ต้องถาม แล้วเหตุใดข้าจะต้องเสียเวลาถามด้วยเล่า?” "..." “ฮ่าฮ่า...เอาล่ะ ไม่เลวเลย เช่นนั้นข้าน้อยจะไม่อ้อมค้อม” เถ้าแก่พูดพร้อมกับรินชาให้ฉู่เนี่ยนซีด้วยตัวเอง แล้วค่อย ๆ พูดออกมา “ข้าอยากจะขอให้คุณหนูรักษาอาการป่วยให้!” ฉู่เนี่ยนซีหยดชะงักขณะถือถ้วยชา มองชายตรงหน้าผ่านผ้าคลุม และขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว หรือเขาจะรู้ว่านางคือซีซานเซิงผู้เป็นเจ้าของหอการแพทย์...? แต่รูปร่างหน้าตาของนางในชุดผู้ชายคงไม่มีใครมองออกหรอก! นางสงบลง วางถ้วยชาเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ดูเหมือนท่านจะขอผิดคนแล้ว” ฉู่เนี่ยนซีมองเขาแล้วพูดอีกครั้ง “หอการแพทย์อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ หากท่านต้องการพบหมอ ที่นั่นถึงจะมีคนที่ท่านต้องการ” ท่าทางของเถ้าแก่ดูไม่รีบร้
“ไม่ว่าสิ่งที่ท่านพูดจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ตอนนี้ข้าก็ไม่สนใจแล้ว! เชิญตามสบายเถอะ!” ฉู่เนี่ยนซีกล่าวเป็นเชิงไล่ เถ้าแก่เห็นสีหน้าเย็นชาของฉู่เนี่ยนก็ดูเหมือนจะคิดอะไรออก เขาลุกขึ้นยืนทันทีและพูดว่า "ในเมื่อคุณหนูไม่เชื่อในสิ่งที่ข้าน้อยพูด เช่นนั้นเราก็มาทำข้อตกลงกันเถอะ!” “ท่านกับข้าไม่มีข้อตกลงอะไรที่ต้องทำร่วมกันแล้ว หากท่านต้องการเล่นพนันกรุณาเชิญไปเล่นด้านนอก” ฉู่เนี่ยนซีผายมือไปทางประตูเพื่อเชิญให้เขาออกไป เถ้าแก่ไม่ได้มีท่าทีโกรธพลางยกมุมปากเบา ๆ “คุณหนูไม่ต้องห่วง ข้าน้อยไม่ได้ประสงค์ร้ายจริง ๆ! หากท่านช่วยรักษาคน ข้าน้อยจะจ่ายเงินให้ท่านแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีหญ้าไป๋หลิงที่ข้าน้อยจะใช้เป็นค่ามัดจำ! อีกทั้งหากท่านยินดี ข้าก็เต็มใจที่จะแจ้งข่าวทางโรงเต้นรำให้ด้วย หญ้าไป๋หลิง? ตามบันทึกโบราณ หญ้าไป๋หลิงเป็นยาอายุวัฒนะที่มีค่าอย่างยิ่ง และระดับความหายากก็ไม่น้อยไปกว่าผลทุกข์ระทมเลย เหยียนตั่วได้มอบเมล็ดพันธุ์ผลทุกข์ระทมให้กับฉู่เนี่ยนซีมาก่อนหน้านี้ แต่นางไม่รู้ว่ามันเป็นของจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่เถ้าพูดถึงหญ้าไป๋หลิงนั้นไม่สามารถปลอมแปลงได้ หญ้าแห่งจิตวิญญาณ
“เอาล่ะ รถม้ารออยู่ด้านนอกแล้ว แต่เมื่อลงจากรถม้า คงต้องขอให้ท่านและน้องชายคนนี้ปิดตาไว้ด้วย”ฉู่เนี่ยนซีชะงักไปชั่วคราวก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น แต่นางก็ไม่สังเกตเห็นความผิดปกติใด ๆ เพราะที่หอการแพทย์ของนางมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนหรือที่อยู่ของตนเอง ก็จะทำแบบนี้เช่นเดียวกันอย่างไรก็ตาม นางอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าใต้เท้าเป่ยถู ผู้นี้อาศัยอยู่ที่ใด?แต่...ก็ไม่รีบร้อน เพราะแค่ผ้าผืนเดียวที่ปิดตาอยู่ไม่อาจหยุดนางไว้ได้นางมีห้วงว่างเปล่าอยู่ข้างกาย นางสามารถขยายขอบเขตการรับรู้ต่อโลกภายนอกของนางได้ไม่รู้จบหากต้องการ ตราบใดที่มีลม ต้นไม้ ใบหญ้า สายน้ำ และสิ่งมีชีวิตรอบตัว นางก็สามารถหาตำแหน่งใหม่ได้อีกครั้งผ่านการคำนวณ!ฉู่เนี่ยนซีครุ่นคิด ดวงตาของนางประกายความมีไหวพริบ แต่เสียงของนางยังคงนิ่งสงบอย่างน่าประหลาดใจ "ตกลง!"เมื่อฉู่เนี่ยนซีพูดเช่นนี้ เป่ยถูก็ยิ้มและยื่นมือออกมาเหมือนสุภาพบุรุษ "เชิญคุณหนูตามลงมาได้เลย"พวกเขาทั้งสามเดินออกจากโรงพนันหุยหุนผ่านทางประตูด้านข้าง และก้าวขึ้นไปบนรถม้าที่เตรียมไว้รถม้าขับไปโดยไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วก่อนจะค่อย ๆ หยุดลงเป่ยถูหยิ
ฉู่เนี่ยนซีเดินเข้าไปหาชายคนนั้นช้า ๆ ก่อนจะตรวจชีพจรให้เขาแล้วถามขึ้นว่า "เขามีอาการนี้มานานแค่ไหนแล้ว?"“เจ็ดวันแล้ว!”“ชีพจรของเขาคงที่ราวกับกำลังหลับอยู่ อะไรทำให้เขาเกิดอาการเช่นนี้กัน?”“ชายผู้นี้เป็นสหายของกระหม่อม ชื่อเฉินเกอ เขาออกไปทำธุรกิจเมื่อเจ็ดวันก่อน พอกลับมาคืนนั้นเขาก็ดูเจ็บปวดสาหัสและรู้สึกร้อนวูบวาบ วันรุ่งขึ้นเขาก็หลับไป มันเป็นแบบนี้มาตลอดเจ็ดวัน ตอนกลางวันนอนหลับ ตอนกลางคืนเป็นไข้!"เป่ยถูกล่าว ใบหน้าของเขาดูเคร่งขรึมเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่เหนียนซีเห็นว่าไม่มีรอยยิ้มบนริมฝีปากของเขาฉู่เนี่ยนซีครุ่นคิด และพบว่ามันแปลกเล็กน้อย ไม่มีบาดแผล แต่กลับล้มป่วยกระทันหันแถมยังมีอาการที่แปลกมากซึ่งทำให้ฉู่เนี่ยนซีอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว“อาการของเขาไม่เหมือนโรคร้าย แต่ดูเหมือนถูกพิษมากกว่า! เพียงแต่ข้าไม่รู้ว่ามันเป็นพิษชนิดใด!”“กระหม่อมก็เคยคิดว่าเป็นเพราะถูกพิษเช่นกัน แต่หากถูกพิษเหตุใดจึงไม่มีบาดแผล หรือหากสูดดมเข้าไปทางปากหรือจมูกพิษก็จะต้องออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว อีกอย่างอาการรุนแรงเช่นนี้มันไม่น่ากลัวเกินไปหน่อยหรือ! "ดวงตาของเป่ยถูเย็นชาเล็กน้อย ภายในใจรู้ส
แม้ว่าปัจจุบันหอการแพทย์จะเป็นเพียงศูนย์การแพทย์ที่รักษาโรคและจำหน่ายยา แต่เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างซีซานเซิงและเฮ่อหลานหมอมหัศจรรย์ ที่นั่นจึงได้รับการคุ้มครองโดยกองกำลังเกือบทั่วทุกทิศ และกองกำลังหลักหลายแห่งก็ได้รับการรักษามาจากหอการแพทย์อีกด้วยแม้ว่าแพทย์จะไม่ได้มีพละกำลังมากนัก แต่มีน้อยคนที่กล้ารุกรานพวกเขา เพราะใครบ้างล่ะที่จะไม่เจ็บไม่ป่วยเพียงแต่...เป่ยถูอดไม่ได้ที่จะมองดูชายที่นอนอยู่บนเตียง คิ้วของเขาขมวดแน่นขึ้นถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขา...ก็...เป่ยถูคิดก่อนจะส่ายหัวไม่หยุด เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน“คุณหนูมีวิธีรักษาหรือไม่?”ฉู่เนี่ยนซีไม่ตอบคำถามของเขา และยังคงจดจ่ออยู่กับการตรวจสอบสภาพของผู้ป่วยบนเตียงจากนั้นนางก็มองไปที่ศีรษะของเฉินเกอ ดวงตาของนางค่อย ๆ แน่วแน่นางหยิบเข็มเงินขึ้นมาแล้วสอดเข้าไปที่ขมับของเขาอย่างรวดเร็วทันใดนั้นเฉินเกอที่นอนราบอยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้นมา!พวกเขาทั้งสามอดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีดีใจ แต่เพียงครู่เดียวเฉินเกอก็ค่อย ๆ หลับตาลงอีกครั้ง“เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดจึงหลับไปอีกแล้ว?” เป่ยถูถามอย่างเป็นกังวลฉันเห็นฉู่เนี่ยนซีดึงเข็มออก แล้
ฉู่เนี่ยนซีมองตามนิ้วของเขาแล้วพยักหน้า "รบกวนใต้เท้านำทางให้ด้วยเจ้าคะ"ทั้งสามมาถึงสวนที่เป่ยถูพูดถึงอย่างรวดเร็ว ในสวนมีหญิงคนหนึ่งที่แต่งตัวเหมือนสาวใช้ นางกำลังดูแลดอกไม้และต้นไม้ เมื่อเห็นว่ามีคนมา นางจึงลุกขึ้นยืนทันที ก่อนจะทักทายด้วยความเคารพ“นายท่าน มาแล้วหรือเจ้าคะ?”“อืม ทำไมมีเจ้าแค่คนเดียวล่ะ?!”เป่ยถูมองไปที่สวนขนาดใหญ่และอดไม่ได้ที่จะถาม“ดอกไม้และต้นไม้ในสวนนี้จำเป็นต้องได้รับการปรับแต่งใหม่ พี่ฉ่ายเตี๋ยจึงไปขอความช่วยเหลือแล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้ก้มหน้าลงและตอบอย่างสุภาพฉู่เนี่ยนซีอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เมื่อสาวใช้เห็นนางสวมหมวกไม้ไผ่ ก็มีสีหน้าประหลาดใจอย่างชัดเจน แต่นางก็ไม่ได้มองสำรวจมากเกินไป สาวใช้ที่นี่มีมารยาทดีกว่าเหล่าสาวใช้ในวังเสียอีกเป่ยถูคนนี้คือใครกันแน่? เขาเป็นเพียงแค่ผู้ที่มีอำนาจในยุทธภพจริงหรือ?“เราไปเดินดูทางนั้นกันเถิด!”เป่ยถูพูดกับฉู่เนี่ยนซีฉู่เนี่ยนซีพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะเดินตามเขาไปสาวใช้ที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะแสดงความประหลาดใจในดวงตา นายท่านแสดงท่าทางใจดีกับสตรีตรงหน้ามาก อีกทั้งเสียงของสตรีนางนี้ก็ฟังดูเรียบนิ่ง ซึ่งหาได้ยากยิ่งน
“แม่นางเหลียนจือ ไม่ทราบว่าที่ใดมีของกินบ้าง?”นี่เป็นครั้งแรกที่เหลียนจือเห็นว่าเจ้านายและผู้ใต้บังคับบัญชามีความเท่าเทียมกันเช่นนี้ ในความคิดของนาง ระหว่างเจ้านายและคนรับใช้เปรียบเสมือนสวรรค์และพื้นดิน ผู้เป็นนายและบ่าวไม่เคยพูดคุยกันด้วยท่าทางสบาย ๆ เช่นนี้ได้ และเจ้านายเมื่อยิ่งอยู่เหนือกว่า ก็ไม่มีวันใจดีกับคนรับใช้ได้ขนาดนี้สิ่งนี้ทำให้เหลียนจืออดไม่ได้ที่จะปรับมุมมองของตัวเองใหม่ และนางก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งจนกระทั่งนางได้ยินคำพูดของฉู่เนี่ยนซีจึงกลับมามีสติอีกครั้ง!“ในสวนไม่มีเพคะ เดี๋ยวบ่าวจะรีบไปเอาจากในครัวมาให้เพคะ”“ไม่ต้องลำบากเจ้าหรอก แม่นางเหลียนจือเป็นผู้นำทางให้เราก็พอแล้วล่ะ!”“ไม่ลำบากเลยเพคะ! ที่นี่มีดอกไม้และสมุนไพรหายากมากมาย คุณหนูลองเดินชมไปก่อนนะเพคะ บ่าวจะรีบกลับมา” เหลียนจือพูดพร้อมโค้งคำนับด้วยความเคารพแล้วหันหลังเดินจากไปฉู่เนี่ยนซีมองนางที่เดินจากไปและหันกลับมามองอวี๋หนานด้วยสายตาที่ทำอะไรไม่ถูก“เดินดูรอบ ๆ รอนางกลับมาก็แล้วกัน”ฉู่เนี่ยนซีเดินไปที่สวนสมุนไพรใกล้ ๆ นางไม่ได้สนใจดอกไม้ ตลอดทางที่มาที่นี่นางสนใจแต่สมุนไพรเท่านั้น"พวกเจ้าเป
บรรยากาศตึงเครียดอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะลงมือ อวี๋หนานก็ก้าวไปข้างหน้าฉู่เนี่ยนซี และสกัดกั้นการโจมตีของอีกฝ่ายไว้ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงบุรุษดังมาจากด้านหลัง "ผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณหนูคนนี้ช่างมีวรยุทธที่น่าทึ่งจริง ๆ!"เป่ยถูเดินไปหาฉู่เนี่ยซีช้า ๆ อวี๋หนานดูระมัดระวังเมื่อเห็นสิ่งนี้ฉู่เนี่ยนซีตบไหล่อวี๋หนาน "ไม่เป็นไร!"อวี๋หนานลังเล แต่ยังคงเชื่อฟังคำสั่งของนายหญิงก่อนจะถอยออกไปด้านข้าง“นายท่าน! เมื่อครู่สองคนนี้จะขโมยสมุนไพรเจ้าคะ! แถมยังทุบตีพวกเราด้วยเจ้าคะ!” เมื่อฉ่ายเตี๋ยเห็นเป่ยถู นางก็มีสีหน้าตื่นตระหนก รีบก้าวข้างหน้าก่อนจะนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าเขาเป่ยถูหรี่ตาและมองไปที่นางด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยอันตราย ก่อนจะได้ยินเสียงดัง ‘ปัง’ ฉ่ายเตี๋ยก็ถูกกระแทกออกไปด้วยแรงบางอย่างและลอยไปไกลหลายเมตร“พวกเจ้ากล้าดียังไงมาดูถูกแขกที่ข้าเชิญมาเช่นนี้?!”น้ำเสียงที่เย็นชาและคุกคามของเป่ยถูทำให้ทุกคนสั่นสะท้านไปทั้งตัว ก่อนที่พวกเขาจะคุกเข่าลงทีละคน!“นายท่านได้โปรดยกโทษให้บ่าวด้วย!”“บ่าวไม่รู้ ได้โปรดยกโทษให้บ่าวด้วยนะเจ้าคะ!”......ตอนนี้กลุ่มคนที่หยิ่ง