แชร์

บทที่ 120

ผู้เขียน: ชาผลไม้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2023-12-19 15:19:08
จากนั้นเขาก็มองตรงไปและโค้งคำนับทำความเคารพ “กระหม่อมน้อมรับคำสั่ง”

“ส่วนฉู่เนี่ยนซีที่กล้าพูดและเสนอคำแนะนำ เจ้าจะได้ป้ายทองคำเป็นรางวัลพิเศษ ป้ายทองก็เหมือนตัวแทนของจักรพรรดิ เจ้ามีสิทธิ์เข้าออกวังได้ตลอดเมื่อมีป้ายนั้น ไม่ต้องเกรงกลัวศาลอาญา ไม่ต้องคุกเข่าเคารพต่อศาล”

ฉู่เนี่ยนซีตกใจและรีบมองไปยังจักรพรรดิ จึงเห็นว่าจักรพรรดิกำลังยิ้มอยู่ และหยิบป้ายทองออกมายื่นให้นาง “รีบรับไปสิ!”

ฉู่เนี่ยนซีจึงเริ่มตอบสนอง สองมือยื่นไปรับป้ายทองนั้นไว้ คิดถึงเรื่องที่หลังจากนี้ไม่ต้องคุกเข่าทำความเคารพใครอีก รอยยิ้มจริงใจที่ปรากฎได้ยากก็ผุดขึ้นบนริมฝีปากนาง “ขอบพระทัยองค์จักรพรรดิเพคะ”

“ทุกคนจงลุกขึ้น งานเลี้ยงพระราชวังเสร็จสิ้นลงแล้ว!”

“ทรงพระเจริญ หมื่นปี หมื่น หมื่นปี”

จากนั้นจักรพรรดิก็เสด็จขึ้นรถม้า โดยมีกลุ่มคนคอยตามอยู่ด้านหลัง

เนื่องจากครั้งนี้ไทเฮาไม่ได้อยู่ที่นี่

ตัวเด่นของงานเลี้ยงจึงเปลี่ยนจากไทเฮาเป็นตระกูลฉู่แทน

รอบกายของฉู่เนี่ยนซีมีคนทยอยกันมาดื่มอวยพรให้ แม้ว่าเย่เฟยหลีจะกันออกไปไม่น้อยแล้ว แต่ความหิวและกระหายของฉู่เนี่ยนซีนับว่าไม่อาจควบคุมได้เลย นางดื่มสุราไปแก้วแล้วแก้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 121

    ฉู่เนี่ยนซีดูเหมือนจะหลับไม่สบาย ส่งเสียงงึมงำ เอาหัวมาถูกับไหล่ของเขา อีกทั้งขมวดคิ้วทำหน้าเหมือนของหายและสุดท้ายก็เลื่อนจากหัวไหล่ลงไปนอนบนตักเขา จากนั้นก็ยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ คิ้วที่ขมวดมุ่นจึงคลายลงมือของเย่เฟยหลีค้างอยู่กลางอากาศตลอดเวลา เฝ้าดูนางทุกการเคลื่อนไหว เมื่อเย่เฟยหลีเห็นนางนอนอยู่บนตักของเขา ประสาทสัมผัสทั้งหมดในร่างกายของเย่เฟยหลีก็เริ่มเกร็งขึ้นมา เนื่องจากเสื้อผ้าฤดูร้อนที่เบาบาง ประกอบกับลมหายใจอุ่น ๆ ของนางที่เกือบจะทะลุผ่านผ้าและซึมเข้าสู่ผิวหนังบริเวณช่องท้องน้อย ทำให้เกิดความรู้สึกเสียวซ่านไปเกือบทั่วร่างกายของเขา จู่ ๆ จังหวะหายใจของเย่เฟยหลีก็เริ่มผิดปกติ เขาสูดหายใจเข้าแรง ๆ ความปรารถนาค่อย ๆ บังเกิดขึ้นในดวงตาของเขา “ให้ตายเถอะ!” เย่เฟยหลีสบถเล็กน้อยและพยายามขยับศีรษะของนางออกไป ขณะนั้นก็มีเสียงดัง ‘ฟิ้ว’ ของลูกดอกผ่านหน้าของเขาไปและปักอยู่บนผนังของรถม้าอย่างแรง ทันใดนั้น เย่เฟยหลีก็ตื่นตัว เขากลั้นหายใจ และแตะใบหน้าของฉู่เนี่ยนซีเบา ๆ พยายามปลุกนางให้ตื่น ฉู่เนี่ยนซีรู้สึกถึงสัมผัสบนใบหน้าของนาง ก็ปัดมือเขาออกแล้วทำหน้าบูดบึ้งไม่พอใจ “อืม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-19
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 122

    “หึ ไม่คิดว่าท่านอ๋องหลีจะมีรสนิยมแบบนี้ สตรีหน้าตาเช่นนี้ก็ยังจะลิ้มรสลง หลังจากจัดการท่านแล้ว ข้าก็จะส่งสตรีในอ้อมแขนของท่านตามกันไปด้วย เหล่าพี่น้องเอ๋ย จัดการมันเสีย!” พูดจบ ชายสวมหน้ากากก็ขยับมือเป็นสัญญาณให้โจมตีอีกครา เย่เฟยหลีต่อสู้กับพวกเขาอีกครั้ง ก่อนใช้แรงอันทรงพลังเตะคนคนหนึ่งให้ล้มลงกับพื้นภายในหนเดียว จากนั้นจึงหยิบมีดขึ้นมาจากพื้นและแทงเข้าไปตรงกลางอกของเขาอย่างแรง ดวงตาที่พร่ามัวของฉู่เนี่ยนซีเบิกกว้างขึ้น นางมองไปรอบ ๆ อย่างไม่เชื่อสายตา และสร่างเมาไปกว่าครึ่งของที่เคย “คะ...คนพวกนี้...” เย่เฟยหลีรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของคนในอ้อมแขน แต่ก็ไม่ได้หยุดการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด เขากระซิบว่า “เราถูกลอบสังหาร เจ้าสร่างเมาแล้วหรือ? อีกเดี๋ยวข้าจะปล่อยเจ้าลง หลังจากนั้นเจ้าก็วิ่งไปทางใต้ซะ ข้าจะถ่วงเวลาคนพวกนี้ไว้ให้” แม้ว่าฉู่เนี่ยนซียังคงเวียนหัวเล็กน้อย แต่สติสัมปชัญญะของนางก็คืนกลับมาได้บ้างแล้ว “ปล่อยข้าลง เราจะจัดการกับพวกมันด้วยกัน” ขณะที่นางพูด จิตใจของนางก็รู้สึกวูบวาบ จึงหยิบยาแก้เมาค้างออกมาจากความว่างเปล่าแล้วโยนใส่ปาก จากนั้นก็โยนยาอีกเม็ดใส่ปากของเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-19
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 123

    เหมือนฉู่เนี่ยนซีรู้ว่าเขาจะพูดอะไร จึงตอบทันทีว่า “ข้าจะไม่ไปไหน ไม่ต้องคิดเรื่องนี้แล้ว” “พิษในร่างกายอาจทำให้ท่านใช้แรงไม่ได้อีกต่อไป ข้ายังมีเข็มยาสลบนับสิบเล่ม หลังจากปล่อยเข็มโจมตีแล้วเราจะวิ่งเข้าไปในป่าลึกด้วยกันและหาที่ซ่อน” ฉู่เนี่ยนซีกล่าวพลางจับมือของเย่เฟยหลีเอาไว้ เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่มือของตัวเอง แววตาก็อบอุ่นอบอุ่นก็เด่นชัดขึ้นมา เขาก็พยักหน้าอย่างเงียบ ๆ “วิ่ง!” ฉู่เนี่ยนซีตะโกนเสียงดังทันทีที่เข็มเงินหลุดออกไปจากมือของนาง เย่เฟยหลีจับนางไว้แน่นแล้ววิ่งไปยังป่าลึกด้วยกัน ชายสวมหน้ากากหลีกเลี่ยงการถูกเข็มเงินโจมตี จากนั้นจึงตามหลังไปอย่างกระชั้นชิด ทั้งสองคนวิ่งไปข้างหน้าพลางสังเกตพื้นที่รอบข้างไปด้วย ด้วยความที่ฉู่เนี่ยนซีเมา นางจึงรู้สึกว่าเท้าของตัวเองอ่อนแรงลงเล็กน้อยหลังจากวิ่งมาระยะหนึ่งและเกือบจะล้มลงหลายครั้ง โชคดีที่เย่เฟยหลีคอยสังเกตสีหน้าของนางและจับนางไว้ได้ทัน ก่อนที่นางจะล้ม แต่พิษในร่างกายของเย่เฟยหลีก็แพร่กระจายไปทีละนิด หากไม่ใช่เพราะความอดทนอันน่าทึ่งและความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของตัวเอง เขาคงล้มไปนานแล้ว เมื่อฉู่เนี่ยนซีได้ยิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-19
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 124

    พูดจบ เท้านางก็ลื่นในทันที “อ๊า” นางกลิ้งไปตามทางลาดชัน เย่เฟยหลีสะดุ้ง เขารีบใช้กำลังภายในทะยานไปคว้าฉู่เนี่ยนซีมาไว้ในอ้อมแขนของเขาอย่างแน่นหนา ทั้งสองกลิ้งไปตามทางลาดชันด้วยกัน เย่เฟยหลีกอดฉู่เนี่ยนซีไว้แน่น ทันใดนั้นเมื่อมองไปที่พื้น และรูม่านตาของเขาก็หดตัวลงอย่างฉับพลัน ด้วยมืออันแข็งแกร่ง เขาพลิกตัวมาอยู่ใต้ร่างของฉู่เนี่ยนซี ทันทีที่ลงสู่พื้น เย่เฟยหลีก็ตัวสั่นและมีเลือดพุ่งออกมาเต็มปาก ฉู่เนี่ยนซีเงยหน้าขึ้นและเห็นเขานอนอยู่ข้างใต้นาง ดวงตาของเขาปิดสนิทและใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด ทันใดนั้นรูม่านตาของนางก็ขยายออก ความกลัว ความกังวล และความรู้สึกยากอธิบาย ล้วนผสมปนเปกันภายในใจของนาง “เย่เฟยหลี…” นางเรียกชื่อเขาอย่างค่อย ๆ และใช้มือตบหน้าเขาเบา ๆ “เย่เฟยหลี ท่านตื่นสิ...” เมื่อไม่ได้รับการตอบสนองใดใด นางก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น พลางวางมือที่สั่นเทาบนชีพจรของเขา ชีพจรที่อ่อนแรงทำให้นางหายใจด้วยความโล่งอกปนกังวลในเวลาเดียวกัน นางระงับอารมณ์เหล่านั้น และพยายามดึงสติกลับมา นางประคองศีรษะของเขาและค่อย ๆ พยุงเย่เฟยหลีขึ้น โดยวางแผนที่จะพาเขาไปยังสถานที่ปลอดภัย ทัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-19
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 125

    หลังจากล้างแผลแล้ว นางใช้เข็มเงินห้ามเลือดเพื่อป้องกันไม่ให้พิษแพร่กระจาย จากนั้นก็ใช้เข็มเงินเพื่อจิ้มลงตรงจุดฝังเข็มอีกครั้ง หลังจากจิ้มเข็มเงินเข้าไปในจุดฝังเข็ม ความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีก็บรรเทาลงและสีหน้าของเขาก็เริ่มดีขึ้น ฉู่เนี่ยนซีหยิบยาแก้อักเสบและน้ำจากลำธารที่นางเตรียมไว้ล่วงหน้าจากห้วงว่างเปล่าและป้อนให้เขา ผ่านไปประมาณสิบห้านาที ฉู่เนี่ยนซีก็ดึงเข็มเงินออกและทายาตามบาดแผล จากนั้นก็ค่อย ๆ ประคองให้เขาเอนนอนลงบนฟาง แม้ว่าจะควบคุมพิษไว้ได้แล้ว แต่ผลข้างเคียงจากพิษยังไม่ถูกกำจัดออกไป ประกอบกับยังมีอาการบาดเจ็บสาหัสอยู่ หลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวของเย่เฟยหลีเองแล้ว ฉู่เนี่ยนซีเหนื่อยมาทั้งวัน แต่เพราะกลัวว่าเย่เฟยหลีจะอาการกำเริบอีกครั้ง นางจึงระงับความง่วงงุนและนั่งพิงกำแพงถ้ำมองดูเขาอย่างใกล้ชิด “ท่านแม่...” ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เย่เฟยหลีขมวดคิ้วขณะหลับและเริ่มพึมพำกับตัวเอง เย่เฟยหลีที่แสนฉลาดหลักแหลมผู้ที่ทำให้นางต้องรุดไปอยู่ข้าง ๆ คอยสังเกตอาการบาดเจ็บของเขา “ท่านแม่...” “เจ้าพูดอะไร?” “อย่าทิ้งลูกไป!” เย่เฟยหลีขมวดคิ้วแน่นมากกว่าเดิมและปัดป่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-19
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 126

    ฉู่เนี่ยนซีพูดไปพลางพยุงเย่เฟยหลีให้นั่งพิงกำแพงแล้วยื่นผลไม้ให้เขา เย่เฟยลี่หยิบผลไม้ขึ้นมา เหลือบมองมัน แล้วมองไปยังปลาตัวอ้วนที่อยู่ไม่ไกล “ได้ปลาพวกนี้มาจากไหน?” “มีแม่น้ำอยู่ตรงนั้น อยากกินอะไรก็ไปจับได้...” นางคงไม่มีทางบอกไปว่านี่เป็นปลาที่นางเลี้ยงในบ่อน้ำพุในห้วงว่างเปล่าแน่ ๆ เย่เฟยหลีพยักหน้า แต่ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่กระโปรงของนางซึ่งไม่มีคราบน้ำโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ถามต่อ ฉู่เนี่ยนซีจุดไฟอย่างรวดเร็วและวางปลาที่เตรียมไว้ลงบนไฟ เนื่องจากนี่คือปลาที่เลี้ยงในบ่อน้ำพุจากห้วงว่างเปล่า แม้จะไม่ได้ปรุงรสใดใด แต่ก็อร่อยกว่าปลาย่างธรรมดา นั่นจึงช่วยให้ฉู่เนี่ยนซีพ้นจากเรื่องยุ่งยากไปได้มาก หลังจากจัดการทุกอย่างแล้ว ฉู่เนี่ยนซีก็ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของเย่เฟยหลีและเปลี่ยนยาบนแผลให้เขา จากนั้นทั้งสองก็นั่งพิงกำแพงด้วยความหลงใหลในประกายไฟที่พุ่งออกมาเป็นครั้งคราว ในที่สุด ฉู่เนี่ยนซีก็เป็นคนแรกที่ทำลายความเงียบ นางหันไปมองเย่เฟยหลีด้วยสายตาแสดงความขอบคุณ “ขอบคุณสำหรับเรื่องเมื่อคืน!” “เจ้าช่วยข้าไว้ ข้าต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายขอบคุณ” “นั่นไม่เหมือนกั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-19
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 127

    ทันทีที่ทั้งสองมาถึงทางเข้าถ้ำ เหลียงหยวนและคนอื่น ๆ ที่กำลังค้นหาเห็นทั้งสองคนพวกเขาก็ดีใจและวิ่งมาอย่างรวดเร็ว “ท่านอ๋อง” เหลียงหยวนวิ่งไปหาทั้งสองคน ด้วยสีหน้าเป็นกังวล “ท่านอ๋อง พระองค์ได้รับบาดเจ็บนี่พ่ะย่ะค่ะ” เย่เฟยหลีที่ดูซีดเซียวไม่พูดอะไร เพียงแค่พยักหน้า เมื่อเห็นว่าเขาอ่อนแอเพียงใด เหลียงหยวนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนักใจ “พระชายา ให้กระหม่อมช่วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ” ขณะที่พูด เขาก็ค่อย ๆ ประคองเย่เฟยหลีที่พิงฉู่เนี่ยนซีอยู่เปลี่ยนมาพิงตนอย่างช้า ๆ กลิ่นหอมและความนุ่มนวลจากผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาหายไป ทำให้เย่เฟยหลีขมวดคิ้ว และดวงตาคู่นั้นก็จ้องมองเหลียงหยวนด้วยเจตนาสังหาร ทันใดนั้น เหลียงหยวนก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ เย่เฟยหลีที่กำลังพิงเขาอยู่มองเขาอย่างเยือกเย็น ทำให้เขาตกใจ “ท่านอ๋องรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือพ่ะย่ะค่ะ? ให้กระหม่อมดูบาดแผลให้หรือไม่? ขอพระองค์ทรงวางพระทัย กระหม่อมจะระวังให้มากขึ้น” “ไม่เป็นไร...ข้าสบายดี” เย่เฟยหลีหรี่ตาลงและกัดฟันพูด “เจ้าไม่ได้กลับไปที่สนามฝึกมานานแล้วใช่หรือไม่? ในเมื่อเจ้าว่างขนาดนี้ก็ไปได้เลย พรุ่งนี้ค่อยกลับมา” เหลียงหยวนตกตะลึง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-19
  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 128

    เหลียงหยวนยืนอยู่ข้างเย่เฟยหลี ใบหน้าของเขาสับสนอยู่ครู่หนึ่ง และสุดท้ายเขาก็กัดฟันพูดขึ้น “ท่านอ๋องคิดมากเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ บางทีชายารองซ่างกวานอาจจะแค่เป็นห่วงพระองค์เท่านั้นเอง” “นางออกจากวังมาก่อนพวกข้า หากเป็นคนธรรมดา นางก็จะรออยู่ที่จวนเงียบ ๆ นางจะขอให้เจ้าตามหาข้าทันทีที่กลับถึงจวนได้อย่างไร?” ท่าทางของเย่เฟยหลีนับว่ายากจะคาดเดา หากเป็นก่อนหน้านี้เขาคงแตกต่างออกไป เขาอาจจะไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วครั้งเล่าทำให้เขารู้ว่าซ่างกวานเยียนไม่ได้เรียบร้อยและไร้เดียงสาอย่างที่เห็น ครั้งก่อนที่นางตกลงไปในน้ำ จู่ ๆ ฮองเฮาและองค์จักรพรรดิก็เสด็จมา เขาก็คิดว่าเรื่องนี้ช่างบังเอิญเกินไป ระหว่างทางกลับวันนี้ก็ได้ยินจากเหลียงหยวนว่าเมื่อคืนนี้ซ่างกวานเยียนกลับมาด้วยท่าทีตื่นตระหนก นางเข้าไปในเรือนของเขาหลายครั้ง และเมื่อเห็นเหลียงหยวนก็ทำท่าอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ท้ายที่สุดนางก็บอกเหลียงหยวนว่าเย่เฟยหลียังไม่กลับมา กลัวว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้น จึงขอให้ออกตามหาเขา ทว่าติดสินบนคนขับรถม้าให้พาไปยังที่ห่างไกล ทั้งยังเข้าไปในป่าลึก แต่หาชายสวมหน้ากากเหล่านั้นไม่เจอ เข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-19

บทล่าสุด

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

DMCA.com Protection Status