แชร์

บทที่ 500

ผู้เขียน: เหลียงซานเหลากุ่ย
ในเมื่อเรื่องนี้กำหนดได้แล้ว ต่อไปก็ย่อมต้องปรึกษากันว่าจะแลกเปลี่ยนเช่นไร

ตอนที่อู้เลี่ยเรียกคนไปแจ้งนายกองทุกคนมาปรึกษาหารือในกระโจม องครักษ์คนสนิทคนหนึ่งวิ่งเข้ามา “องค์ชายใหญ่ จั่วเสียนอ๋องซู่ลี่ของเมืองชายแดนชิงส่งรายงานด่วนมา!”

กล่าวจบ องครักษ์คนสนิทก้มโค้งมอบรายงานด่วน

อู้เลี่ยเปิดรายงานด่วนอ่าน

อ่านไปอ่านมา สีหน้าของอู้เลี่ยพลันเปลี่ยนเป็นความดีใจ

เวลานี้ ปานปู้และเหล่ามาทัพทยอยกันเข้ามาในกระโจมใหญ่

“ดูสินี่คือสิ่งใด!”

อู้เลี่ยดีใจยื่นรายงานด่วนในมือมอบให้ปานปู้

ปานปู้รับรายงานด่วนด้วยความสงสัย เพียงกวาดตาอ่านคร่าวๆ หนังตาก็พลันกระตุก

เมื่อเห็นความผิดปกติของปานปู้ คนอื่นพากันล้อมวง

อ่านเนื้อหาในรายงานด่วน ทุกคนพากันหน้าเปลี่ยนสิ

กับดัก!

หยุนเจิงขอร้องให้เป่ยหวนแลกเปลี่ยนม้าศึก มันก็คือกับดักที่สมบูรณ์!

เดิมทีพวกหยุนเจิงไม่ได้คิดจะแลกเปลี่ยน แต่เพื่อจงใจรบกวนสายตาของพวกเขา

จุดประสงค์ที่แท้จริงของหยุนเจิงก็คือฉวยโอกาสตอนพวกเขาไม่ทันระวัง ใช้ทหารม้าสามพันคนบวกกับทหารราบสองหมื่นคนลอบโจมตีกองทหารรักษาการณ์เป่ยหวนที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่า จากนั้น ทหารราบคอยอยู่ข้างหลังเพื่อ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 501

    จวนจิ้งเป่ยอ๋องซั่วฟางหยุนเจิงเรียกคนสนิมมาที่บ้านเขาเพื่อก่อเตาเล็กแม้จะบอกว่าก่อเตาเล็ก ความจริงก็คือกินหม้อไปถึงเช่นไรตอนนี้เนื้อม้าของพวกเขาก็เพียงพอ นำมาทำหม้อไฟเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้แต่ว่า ต้าเฉียนและเป่ยหวนต่างก็ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าพริก กินเข้าไปก็ยังรู้สึกขาดบางอย่างไปกลุ่มคนนั่งอยู่กันท้ายสวน ท้องฟาพันเกล็ดหิมะลอยมา พวกเขากำลังกินหม้อไฟที่เดือดปุดๆ ดื่มสุราจางกงเมาทาย สุราเข้มข้นเช่นนี้ บอกได้แค่สบายมาก“องค์ชายคิดว่าคนของเราจะบอกแผนการนี้กับเป่ยหวน?”ขณะที่กำลังกิน หลูซิ่งถามออกมากะทันหันหลูซิ่งรู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างโชคดีหากเขามารับใช้หยุนเจิงช้ากว่านี้หน่อย เขาเกรงว่าเขาจะไม่มีสิทธิ์นั่งอยู่ตรงนี้แล้ว คนที่นั่งอยู่ที่นี่ นอกจากคนรอบกายหยุนเจิงแล้ว ก็คือทหารคนสนิทของหยุนเจิงหยุนเจิงเรียกเขามา ย่อมเห็นเขาเป็นทหารสนิท“ข้ากำลังทดสอบอยู่นี่ไม่ใช่หรือ?”หยุนเจิงยักไหล่ “หากเป่ยหวนเพิ่มกำลังทหารที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่า เช่นนั้นก็เป็นยืนยันการคาดการณ์ของข้า!”“ข้าคิดว่าเป็นไปได้มาก!”เสิ่นลั่วเยี่ยนฮึมฮัม “หากตู๋กูเช่อนำแผนการบอกกับเว่ยเหวินตง เป็นไปได้มากว่าเว่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 502

    แม้กำลังรบของคนเหล่านั้นจะสู้กองทัพประจำการที่มีการฝึกซ้อมอย่างชำนาญไม่ได้ แต่ใช้ซุ่มโจมตีก็ยังเพียงพอเป็นหลักการเดียวกันกับหยุนเจิงที่ใช้ทหารชาวนาเหล่านั้นซุ่มโจมตีทหารของพวกเขาหยุนเจิงซุ่มโจมตีพวกเขาในหุบผาชันช่องลมหนึ่งครั้งแล้วพวกเขาก็อยากจะซุ่มโจมตีกองกำลังหยุนเจิงเช่นกัน!แล้วก็ยังเป็นการไม่เสียมารยามโต้ตอบกลับไป!อย่างไรก็ตาม เวลาที่จะแลกม้าศึกกับศพใกล้เข้ามาแล้ว ปานปู้ยิ่งรู้สึกไม่สงบใจปานปู้มักรู้สึกว่าการตั้งค่ายซุ่มโจมตีที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่ามีที่ใดไม่ถูกต้องทว่าตั้งแต่ต้นจนจบก็ยังไม่เข้าใจว่าที่ใดไม่ถูกต้องความรู้สึกเช่นนี้ ทำให้ปานปู้เหมือนนั่งอยู่บนปลายเข็ม รู้สึกไม่สงบสุขถึงที่สุดแทบทั้งวัน ปานปู้เอาแต่จ้องแผนที่แนวหน้าอยู่ภายในกระโจม ขณะเดียวกันก็มีคำสั่งให้เพิ่มคนลาดตระเวนบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเป่ยสุ่ย ป้องกันไม่ให้กองกำลังของหยยุนเจิงแอบย่องเข้ามาสร้างปัญหาในเขตแคว้นตอนที่ปานปู้กำลังกลัดกลุ้มคิ้วขมวด อู้เลี่ยเปิดผ้าบ้าน ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเดินเข้ามา“ราชครู ข้าคิดแผนที่ยอดเยี่ยมได้แผนหนึ่ง!”อู้เลี่ยเดินเข้ามา กล่าวขึ้นด้วยความดีใจ“อ้อ?”ปา

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 503

    ไม่นาน อู้เลี่ยก็บอกแผนการของตนเองละทิ้งทหารม้า!ภูมิประเทศริมแม่น้ำไป๋สุ่ยสูงชันทุกแห่ง การบุกด้วยทหารม้า แน่นอนต้องบุกในพื้นที่ค่อนข้างเรียบจึงจะได้ผลแต่ทหารราบไม่เหมือนกัน!ทหารราบสามารถปีกหน้าผาสูงชันเหล่านั้นได้ไม่จำเป็นต้องใช้ทหารราบมากมาย เพียงแค่หทารหนึ่งหมื่นคนแบ่งเป็นสองกองแบ่งกองละห้าร้อยคน ปีนขึ้นไปตามหน้าผาทั้งสองด้านของหุบเขา ยึดตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ทั้งสองด้านของหุบผาชันช่องลมอย่างรวดเร็ว เช่นนี้ ทหารม้าด้านหลังของพวกเขาก็สามารถข้ามผ่านหุบผาชันช่องลมได้อย่างปลอดภัย บุกเข้าสู่ดินแดนต้าเฉียน ยึดซั่วฟาง!”อู้เลี่ยกล่าวด้วยความภูมิใจกับแผนการของตัวเองมุมมองของเขา แผนการนี้ช่างยอดเยี่ยมล้ำเลิศทันทีที่สำเร็จ พวกเขาจะสามารถเอาชนะกองทหารมณฑลทางเหนือได้ในคราวเดียว!แม้กระทั่งครอบครองทั้งซั่วเป่ย ทำให้กองทหารมณฑลทางเหนือเป็นเต่าหดหัวอยู่ด่านเป่ยลู่ถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า เพียงเท่านี้พวกเขาก็ยึดเมืองเพื่อป้องกันไว้ได้แล้ว!ถึงเวลา ต้าเฉียนไม่กล้าโจมตีแน่นอน!หากพวกเขาใช้กลยุทธแย่งชิงด่านเป่ยลู่ได้สำเร็จอีกครั้ง ทั้งต้าเฉียนล้วนตกเป็นของพวกเขาแล้ว!ต่อให้ไม่อาจครอบค

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 504

    สูญเสียทหารประจำการหนึ่งหมื่นคน จำเป็นต้องรับสมัครนักรบสองหมื่นคน จึงสามารถเทียบกับกำลังรบของทหารประจำการได้รับสมัครนักรบ ก็ไม่อาจไม่ให้อาหารพวกเขาได้กระมัง?ปานปู้คิดไม่ตกเนิ่นนาน ปานปู้เงยหน้ามองอู้เลี่ย “องค์ชายใหญ่ ข้าขอแนะนำ สามารถเตรียมทหารหนึ่งหมื่นคนไว้ให้พร้อม พวกเรารอดูสถาณการณ์ก่อน หรือไม่ก็คิดพิจารณาอีกสักหน่อย ค่อยดูว่าจะดำเนินการหรือไม่!”บอกตามตรง ต่อให้ต้องสูญเสียคนและม้าอีกหนึ่งหมื่นคน ก็ไม่ใช้ฟ้าจะถล่มลงมาแต่หากพวกเขาพ่ายแพ้อีก สำหรับขวัญกำลังใจของเป่ยหวนนั้นค่อนข้างร้ายแรงดังนั้น เรื่องนี้ต้องพิจารณาให้รอบคอบมากขึ้นคิดให้ครอบคลุมที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยการตกหลุมพรางของศัตรูอีกอู้เลี่ยกล่าว “ให้รอก็ใช่ว่าจะไม่ได้ แต่เวลาของพวกเรามีไม่มากแล้ว อย่างมากสุดก็รอได้แค่หนึ่งวัน ทหารราบหนึ่งหมื่นคนนี้ต้องเคลื่อนทัพแล้ว!”ต่อให้ทหารม้าหนึ่งหมื่นคนไปถึงฝั่งแม่น้ำไป๋สุ่ย ก็ต้องเวลารอครึ่งค่อนวันจากฝั่งแม่น้ำไป๋สุ่ยลอบขึ้นไปบนหุบผาชันช่องลม ก็ต้องใช้เวลาเช่นกันแล้วเวลาที่พวกเขากับหยุนเจิงนัดกันแลกเปลี่ยนศพ เหลือเพียงอีกแค่สามวันรอหนึ่งวัน ก็เป็นขีดจำกันของพวกเขา

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 505

    ออกจากค่ายใหญ่ ปานปู้รีบรุดหน้าไปยังหุบผาชันช่องลมม้าที่ปานปู้ขี่เป็นสีขาวหิมะตลอดตัว เป็นอาชาสีขาวที่ไม่มีขนยุ่งเหยิงแม้แต่เส้นเดียวม้านี้มีชื่อเรียกหว่าเหยียบเหมันต์ เป็นม้าที่พบเห็นได้ยากม้าชนิดนี้แม้จะไม่สามารถเดินทางไกลได้วันละพันลี้ แต่ก็ยังสามารถเดินทางได้เจ็ดแปดร้อยลี้โดยไม่มีปัญหาปานปู้พากลุ่มทหารคนสนิท เวลาช่วงบ่ายก็รุดหน้ามาถึงยังบริเวณหุบผาชันช่องลมวันนี้ไม่มีหิมะ แล้วก็ไม่หมอกน้ำแข็งระยะห่างไกลมาก ปานปูก็เห็นศพเหล่านั้นที่กองอยู่ไม่ไกลจากบริเวณปากหุบผาชันช่องลมทั้งสองข้าของหุบผาชันช่องลม มีกระโจมมากมายตั้งอยู่เห็นได้ชัดว่า ต้าเฉียนเข้าประจำการกองทัพอีกครั้ง“ไป ลงไปดู!”ปานปู้เรียกกลุ่มทหารองครักษ์“ราชครู อันตราย!”ทหารองครักษ์กล่าวเตือนทันที“ไม่เป็นไร!”ปานปู้กล่าวอย่างไม่เห็นด้วย “วิสัยทัศน์ที่นี่กว้างมาก พวกเขาไม่อาจซุ่มโจทตีพวกเราได้! ข้าอยากจะดูว่าหยุนเจิงอยู่ที่นี่หรือไม่!”กล่าวจบ ปานปู้ไม่สนใจคำทัดทานขององครักษ์ เข้าสู่หุบเขาแม่น้ำจากทางที่ค่อนข้างราบเรียบ“องค์ชายหกอยู่ในค่ายหรือไม่? ข้าปานปู้ ตั้งใจมาเยี่ยมเยียน!”เมื่อถึงระยะห่างประมาณ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 506

    “อืม ใช่ๆ!”หยุนเจิงกล่าวไม่จริงจัง “บอกความจริงกับเจ้าก็ได้ ข้าคือแม่ทัพอันดับหนึ่งในใต้หล้ากลับชาติมาเกิดน่ะ!”“…”ได้ยินคำพูดของหยุนเจิงแล้ว ใบหน้าของปานปู้พลันกระตุกเล็กน้อยแม่ทัพอันดับหนึ่งในใต้หล้ากลับชาติมาเกิดนั้นร?บอกว่าเขาเป็นดาวบู๊เข็กกลับชาติมาเกิดยังน่าเชื่อถือกว่า!ปานปู้ครุ่นคิดในใจอย่างขบขัน พลางเอ่ยเยาะเย้ยว่า “บางที อนาคตองค์ชายหกอาจกลายเป็นแม่ทัพอันดับหนึ่งในใต้หล้าก็เป็นได้! แต่ข้าจะบีบคอสังหารเจ้าให้ตายอยู่ในเปล!”ปานปู้ไม่เก็บซ่อนความรู้สึกอยากสังหารหยุนเจิงเลยแม้แต่น้อยทว่าเรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเก็บซ่อนนักเพียงแค่หยุนเจิงไม่โง่เขลา ก็ย่อมสามารถคาดเดาได้ว่าตนอยากสังหารเขา“เช่นนั้นก็ต้องดูว่าเจ้ามีความสามารถนั้นหรือไม่!”หยุนเจิงเย้ยหยัน “ราชครู ไหนๆ ก็มาแล้ว ข้าอยากถามว่าร่างศพพวกนี้ พวกเจ้าจะแลกหรือไม่? หากไม่แลก ข้าจะได้ลำบากสั่งให้คนนำศพพวกนี้ไปส่งที่ป้อมเมืองสุยหนิง”“แลก! จะไม่แลกได้อย่างไร?”ปานปู้กวาดมองร่างศพเหล่านั้น แล้วกัดฟันเอ่ยว่า “คนพวกนี้ล้วนแต่เป็นวีรบุรุษแห่งเป่ยหวน! ใช้ม้ารบเพียงสองพันตัวแลกร่างศพของพวกเขากลับมา เป่ยหวนของข้าไม

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 507

    ณ หุบผาชันช่องลมเวลานี้ท้องฟ้าได้มืดลงแล้วท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดมิด ทหารต้าเฉียนแต่ละฝ่ายต่างกำลังทุบเปิดชั้นน้ำแข็งของแม่น้ำออก แล้วตักน้ำจากแม่น้ำไปรดบนร่างศพเหล่านั้นหยุนเจิงและคนอื่นๆ รวมตัวกันอยู่ในกระโจมใหญ่ของหยุนเจิง พลางย่างเนื้อม้าพลางพูดคุยเรื่องหลังจากนี้เทียบกับการซุ่มโจมตีก่อนหน้านั้นแล้ว ตอนนี้พวกเขามีชีวิตสุขสบายกว่ามากครั้งนี้พวกเขาไม่ได้ซุ่มโจมตี แต่เป็นการใช้ร่างศพแลกม้ารบพวกเขาไม่จำเป็นต้องหลบซ่อน ดังนั้นจึงสามารถตั้งค่ายและจุดไฟเพิ่มความอุ่นได้ตามใจถึงแม้ข้างนอกจะหนาวเหน็บเพียงใด แต่ภายในค่ายถือว่าอบอุ่นพอสมควร“ท่านคิดว่าเป่ยหวนจะแลกม้ารบกับท่านจริงหรือ?”เสิ่นลั่วเยี่ยนกังวลใจเล็กน้อยพวกเขาขนย้ายร่างศพพวกนี้ไปมา ก็ลำบากมากเช่นกันไม่ใช่ว่าเสียแรงไปมากเพียงนี้ แต่ถึงครานั้นคนเป่ยหวนกลับไม่โผล่หัวมา เช่นนั้นก็เสียแรงไปเปล่าๆ แล้ว“เรื่องนี้ข้าไม่กังวลนัก!”หยุนเจิงกล่าวยิ้มแย้ม “สิ่งที่ข้ากังวลในตอนนี้คือ เป่ยหวนจะเล่นตุกติกอะไรระหว่างที่แลกร่างศพหรือไม่”เล่นตุกติก?ได้ยินคำพูดของหยุนเจิงแล้ว แต่ละคนพลันเผยสีหน้าเรียบนิ่งแม้แต่ท่านเองยังรู้

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 508

    หากพวกเขาซุ่มโจมตีเป่ยหวนจากปากเขาเขี้ยวหมาป่าจริง แล้วถูกเป่ยหวนกวาดล้างแทน ถึงครานั้นใครจะคุ้มกันซั่วฟาง?เมื่อใดที่กองทัพใหญ่เป่ยหวนฆ่าเข้ามา เว่ยเหวินจงจะเอาอะไรมาป้องกัน?ไอ้สุนัข!เพื่อที่จะฆ่าตน ถึงขนาดไม่สนใจความปลอดภัยของซั่วเป่ยเลย!ขณะที่หยุนเจิงกำลังโมโหฉุนเฉียวอยู่นั้น ภูตสามและภูตห้าก็เข้ามารายงานว่ากองทัพใหญ่เป่ยหวนเคลื่อนไหวแล้ว!เป่ยหวนคิดจะเล่นตุกติกจริงหรือ?หยุนเจิงขมวดคิ้ว แล้วถาม “กองทัพใหญ่เป่ยหวนไปรวมตัวกันที่ใด?”“เหมือนจะไปทางปากเขาเขี้ยวหมาป่าขอรับ!”ภูตสามตอบ“ปากเขาเขี้ยวหมาป่า?”หยุนเจิงขมวดคิ้วมุ่น สัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลเป่ยหวนส่งคนไปที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่ามากมายเพียงนั้นแล้วยังจะไปเสริมทัพที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่าอีก?เป่ยหวนต้องคิดซุ่มโจมตีพวกเขาที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่าครั้งหนึ่งแน่เพียงแค่ซุ่มโจมตีต้องใช้กำลังคนมากเพียงนี้เชียวหรือ?“สอดแนมต่อไป!”หยุนเจิงสั่งการทั้งสอง แล้วรีบลุกขึ้นดูภาพแผนที่ทันทีเป่ยหวนส่งคนมาซุ่มโจมตีทหารทั่วไปของพวกเขามากมายเพียงนี้เลยหรือ?ประเมินพวกเขาสูงเกินไปแล้วกระมัง?“เป็นไปได้หรือไม่ที่ปานปู้จะมองแผนการข

บทล่าสุด

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1410

    แต่ที่น่าเสียดายคือ เจียเหยาไม่ใช่สตรีแบบนั้น! ทุกความยินยอมและการประนีประนอมของเจียเหยาต่อเขาล้วนเกิดจากสถานการณ์บีบบังคับ เยี่ยจื่อย่อมชื่นชมเจียเหยาอย่างแน่นอน เรื่องนี้ไม่มีข้อสงสัยใดๆ แต่หากเจียเหยาเป็นสตรีที่หลงใหลในความรักอย่างเดียว เยี่ยจื่ออาจไม่รู้สึกชื่นชมนาง และคงไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่ว่านางกับหยุนเจิงจะได้อยู่ด้วยกันหรือไม่ "ไม่แน่หรอก" เยี่ยจื่อยิ้มบาง "เรื่องของความรัก ไม่มีใครในโลกนี้สามารถอธิบายได้ชัดเจน! เช่นเดียวกับข้า ข้าไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งข้าจะไม่สนใจสายตาของผู้คนในแผ่นดิน และรักชายคนหนึ่งอย่างไม่ลังเล พร้อมทั้งให้กำเนิดบุตรธิดาแก่เขา..." "เรื่องของพวกเจ้ามันไม่เหมือนกัน" หยุนเจิงบีบเบาๆ ที่ตัวเยี่ยจื่อ "พอแล้ว อย่าคิดถึงเรื่องพวกนี้เลย! รีบลุกขึ้นเถิด ไม่เช่นนั้นพอคนในจวนมาเรียกเราไปกินข้าวเย็น เจ้าคงอายอีกแน่" "ก็เพราะเจ้านั่นแหละ!" เยี่ยจื่อเอ่ยตำหนิด้วยความอาย ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นและสวมเสื้อผ้า เมื่อเห็นเยี่ยจื่อสวมชุดชั้นใน หยุนเจิงก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาอีก "ยังมองอยู่อีกหรือ?" เยี่ยจื่อปรายตามองหยุนเจิงด้วยความเข

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1409

    เนื่องจากเยี่ยจื่อกำลังตั้งครรภ์ หยุนเจิงจึงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงเกินไป อย่างไรก็ตาม พายุที่โหมกระหน่ำมีเสน่ห์ในแบบของมัน และสายฝนที่โปรยปรายก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ หลังจากหยุดยั้งความเร่าร้อน เยี่ยจื่อซบอยู่ในอ้อมอกของหยุนเจิงอย่างแมวน้อยเชื่องๆ "คืนนี้ข้าจะนอนที่ห้องของเจ้า" หยุนเจิงกอดร่างอ่อนนุ่มของเยี่ยจื่อไว้ ด้วยท่าทีที่ดูยังไม่พอใจ "อย่าเลย!" เยี่ยจื่อเอื้อมมือมาตบหน้าอกของหยุนเจิงเบาๆ "หากเจ้ามาอยู่ที่นี่ ข้าก็ต้องโดนเจ้ารังแกอีก หากเกิดอะไรขึ้นกับลูก เราคงร้องไห้ไม่ออก เจ้าไปห้องเมี่ยวอินเถิด!" จากนิสัยของหยุนเจิง ต่อให้ใช้ปลายเท้าคิด นางก็รู้ว่าเขาต้องรังแกนางอีกสักหนึ่งหรือสองรอบหากเขาอยู่ในห้องนี้ แม้ว่าช่วงตั้งครรภ์จะไม่ใช่ว่าจะใกล้ชิดกันไม่ได้ แต่ก็ไม่ควรทำบ่อยเกินไป "ลูกของข้าหยุนเจิง จะอ่อนแอขนาดนั้นได้อย่างไร?" หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะวางมือลงบนหน้าท้องของเยี่ยจื่อโดยไม่รู้ตัว "เจ้ายังมีหน้ามาพูดอีก!" เยี่ยจื่อเอ่ยตำหนิอย่างเขินอาย "เมื่อสองวันก่อน ลั่วเยี่ยนยังแอบมาบอกข้าเลยว่าเจ้าไปรังแกนางอีก จวนนี้มิใช่มีเพียงข้ากับลั่วเยี่ยนสองค

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1408

    ชุดนี่มันชั้นแล้วชั้นเล่า ถอดออกแต่ละครั้งช่างเสียเวลาเสียจริง หยุนเจิงบ่นในใจพลางจัดการอยู่นาน กว่าจะถอดอาภรณ์ออกหมด แล้วรีบก้าวลงไปในถังอาบน้ำขนาดใหญ่ด้วยความกระตือรือร้น "ดูท่าทางเจ้าสิ!" เยี่ยจื่อจ้องมองหยุนเจิงด้วยความเขินอาย พลางหัวเราะเบาๆ "หากคนอื่นมาเห็นเข้า คงคิดว่าเจ้าคือโจรขโมยดอกไม้จริงๆ!" "ต่อหน้าเจ้า ข้าก็เป็นโจรขโมยดอกไม้ดีๆ นี่เอง!" หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง แล้วดึงเยี่ยจื่อเข้ามาในอ้อมกอด เกรงว่าเยี่ยจื่อจะหนาว หยุนเจิงจึงราดน้ำอุ่นลงบนตัวนาง แน่นอนว่า ระหว่างนี้มือเจ้าเล่ห์ของหยุนเจิงก็ไม่วายลวนลามบนตัวเยี่ยจื่อ เยี่ยจื่อปล่อยให้หยุนเจิงทำตามใจ พลางยื่นนิ้วเรียวขาวลูบไล้รอยแผลเป็นที่เอวของเขา นางจำได้ว่ารอยแผลนี้เกิดขึ้นจากศึกที่หยุนเจิงสังหารฮูเจี๋ยฉานอวี่ นั่นน่าจะเป็นการบาดเจ็บที่หนักที่สุดของหยุนเจิงนับตั้งแต่คุมทัพมา โชคดีที่เป็นเพียงบาดแผล ไม่ได้ถึงแก่ชีวิต ตอนนี้บาดแผลนั้นสมานแล้ว แต่รอยแผลเป็นยังคงปรากฏอย่างชัดเจน "ข้าหวังว่าเจ้าจะเป็นแบบนี้ตลอดไป" เยี่ยจื่อก้มหน้าพลางพึมพำ "หากวันใดเจ้ามิได้เป็นเช่นนี้ คงเพราะเราชราและห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1407

    หลังจากส่งสาวรับใช้หน้าประตูไปแล้ว หยุนเจิงเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทันที ก่อนจะผลักประตูเข้าไป "อิงเถา ข้าเหมือนจะได้ยินเสียงใครผลักประตูเข้ามา" เสียงของเยี่ยจื่อดังมาจากหลังฉากกั้น "บ่าวก็เหมือนจะได้ยินเหมือนกัน บ่าวจะไปดูเจ้าค่ะ" อิงเถาตอบรับแล้วรีบวิ่งออกมาจากหลังฉากกั้น นางเพิ่งจะออกมาก็เห็นหยุนเจิงยืนอยู่ในห้อง เมื่อแน่ใจว่าไม่ใช่คนอื่นที่บังอาจบุกรุกเข้ามา อิงเถาถึงได้คลายความกังวลก่อนจะรีบคำนับ แต่ก่อนที่อิงเถาจะทันได้พูดอะไร หยุนเจิงก็ทำท่าทางให้เงียบ และโบกมือเบาๆ ส่งสัญญาณให้อิงเถาออกไป ดูเหมือนอิงเถาจะเดาได้ว่าหยุนเจิงตั้งใจจะทำอะไร ใบหน้าของนางพลันขึ้นสีแดงเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเท้าออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว หยุนเจิงปิดกลอนประตูจากด้านใน แล้วค่อยๆ ย่องไปทางหลังฉากกั้น "อิงเถา มีคนผลักประตูหรือไม่?" เยี่ยจื่อเอ่ยถาม ความคิดซุกซนของหยุนเจิงเริ่มเล่นงาน เดิมทีเขาตั้งใจจะจู่โจมเยี่ยจื่ออย่างไม่ให้ทันตั้งตัว แต่คิดได้ว่านางกำลังตั้งครรภ์ เกรงว่าจะทำให้นางตกใจจนเกิดเรื่องไม่คาดคิด จึงเอ่ยขึ้นว่า "มีสิ มีโจรขโมยดอกไม้คนหนึ่ง" เมื่อได้ยิน เยี่ยจื่อหน้าถ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1406

    หยุนเจิงกลับมาจากโรงงานผลิตอาวุธ เพียงแค่เดินมาถึงหน้าจวนอ๋อง ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกวุ่นวายดังมาจากในจวน พอเข้าไปในจวนตามคาด เขาเห็นเหล่าเด็กซนกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานอยู่ในลานหน้า ลูกชายสองคนกับลูกสาวหนึ่งคนของฉินชีหู่ รวมถึงลูกชายของอดีตรัชทายาท มาที่จวน และกำลังเล่นปาหิมะกับเสิ่นเนี่ยนฉือและฉีเหยียน เด็กๆ เหล่านั้นต่างสวมเสื้อผ้าหนาเตอะเหมือนหมี แม้จะล้มลงบนพื้นหิมะก็ไม่รู้สึกเจ็บ “คารวะฝ่าบาท!” เมื่อเห็นหยุนเจิงกลับมา อาจารย์ที่คอยดูแลเด็กๆ รีบเข้ามาคารวะ “พอเถอะ ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าอยู่ในจวนไม่ต้องเคร่งขนาดนั้น” หยุนเจิงโบกมือพลางถามว่า “พี่สะใภ้ตระกูลฉินมาที่นี่แล้วหรือ?” “เจ้าค่ะ” ซินเซิงยิ้มบางๆ ขณะช่วยปัดหิมะออกจากเสื้อหยุนเจิง พลางตอบว่า “ช่วงบ่ายฮูหยินฉินก็มากับเด็กๆ ตอนนี้คงเล่นไพ่นกกระจอกกับเหล่าพระชายาอยู่” หยุนเจิงว่า “เช่นนั้นข้าไปดูสักหน่อย เจ้าเฝ้าเด็กๆ ไว้ อย่าให้พวกเขาเล่นจนเหงื่อออกมากนัก” “บ่าวทราบแล้วเจ้าค่ะ” ซินเซิงพยักหน้าเบาๆ หยุนเจิงมองดูเด็กซนที่กำลังเล่นอย่างบ้าคลั่ง และครุ่นคิดในใจว่าจะให้พวกเขาทำ “การบ้านช่วงปิดเทอม

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1405

    ตลอดสองวันที่ผ่านมา เจียเหยาเจรจากับกุ่ยฟางอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าข้อเสนอจากกุ่ยฟางจะเกินกว่าเงื่อนไขขั้นต่ำที่เจียเหยากำหนดไว้ในใจแล้ว แต่นางยังไม่พอใจ นางต้องการต่อรองเพื่อให้ได้ทรัพยากรมากขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดีกว่า จุดที่ยังคงเจรจากันไม่ลงตัวอยู่ที่ค่าชดเชยจากสงครามและจำนวนบรรณาการ กุ่ยฟางแสดงเจตนาอย่างชัดเจน หากต้องการค่าชดเชยเพิ่ม จำนวนบรรณาการจะต้องลดลง แต่ในเรื่องจำนวนบรรณาการ เจียเหยาไม่ยอมอ่อนข้อเลย ในที่สุด กุ่ยฟางจำต้องยอมรับข้อกำหนดของเจียเหยาในการถวายบรรณาการตามจำนวนที่นางระบุ ส่วนค่าชดเชยที่กุ่ยฟางสามารถมอบให้ได้ เมื่อคำนวณแล้วอยู่ที่ประมาณร้อยละสี่สิบห้าของข้อเรียกร้องเริ่มต้นของเจียเหยา ผลลัพธ์นี้แม้ไม่ใช่สิ่งที่นางคาดหวังไว้ แต่ก็ดีกว่าที่เจียเหยาประเมินไว้ไม่น้อย เมื่อการเจรจาสิ้นสุด เจียเหยาถอนหายใจยาวด้วยความโล่งใจ ด้วยทรัพยากรเหล่านี้ ประชาชนแห่งเป่ยหวนจะผ่านฤดูหนาวนี้ไปได้อย่างไม่ลำบากนัก “องค์หญิง เหตุใดท่านจึงไม่ยอมอ่อนข้อในเรื่องบรรณาการ?” เกออาซูถามด้วยความไม่เข้าใจ “หากเรายอมลดเงื่อนไขเรื่องบรรณาการ เราก็จะได้สิ่งอื่นเพ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1404

    ทว่า สำหรับเจียเหยาในตอนนี้ นี่อาจไม่ใช่เรื่องดีนัก เมื่อผู้ที่เข้าร่วมเจรจาจากกุ่ยฟางมีหลายคน ความเห็นของพวกเขาอาจไม่ตรงกัน การดึงกลยุทธ์นี้อาจทำให้เสียเวลาเพิ่มขึ้น เจียเหยารู้สึกกังวลในใจ แต่ใบหน้ายังคงเรียบเฉย “ท่านทูตเชิญนั่งก่อน ข้ามีเรื่องสำคัญต้องจัดการเสียก่อน!” กล่าวจบ เจียเหยาก็ก้มหน้าก้มตาเขียนจดหมายต่อ แต่ความคิดของเจียเหยาในตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่จดหมายอีกแล้ว นางดูเหมือนกำลังเขียนจดหมาย แต่แท้จริงแล้วกำลังกดดันอาเคอถูและคณะ นางรู้ว่าชื่อเหยียนต้องมอบอำนาจในการเจรจาบางส่วนให้แก่อาเคอถูและคณะ สิ่งที่นางต้องทำคือการกดดันคณะทูตกุ่ยฟางเพื่อให้ได้ผลประโยชน์มากยิ่งขึ้น การกระทำของเจียเหยาส่งผลอย่างชัดเจน เมื่อเห็นว่าเจียเหยาดูเหมือนไม่ได้รีบร้อนเจรจาเลย สมาชิกในคณะทูตกุ่ยฟางก็เริ่มมองตากันไปมา สุดท้าย สายตาของทุกคนต่างหันไปที่มู่ลี่จวี เห็นได้ชัดว่ามู่ลี่จวีเป็นผู้คุมการเจรจาครั้งนี้ มู่ลี่จวีรู้สึกโกรธกับความเย็นชาของเจียเหยา แต่เขารู้ดีว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์แสดงความไม่พอใจต่อหน้านาง ชื่อเหยียนมอบอำนาจให้เขาตัดสินใจในบางเรื่องได้จริง แต่ใ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1403

    เจียเหยาตัดสินใจหยุดการเคลื่อนทัพต่อ กองทหารของพวกนางถูกส่งออกไปกวาดต้อนทรัพยากร ดินแดนที่พวกนางเข้ายึดครองในตอนนี้เกินกว่าห้าร้อยลี้ไปนานแล้ว แต่เจียเหยาตั้งใจเพียงให้ทัวฮวนและกองทหารยึดครองดินแดนของกุ่ยฟางเพียงสามร้อยลี้ตามเงื่อนไขขั้นต่ำของหยุนเจิงเท่านั้น การยึดครองดินแดนมากกว่านี้ ไม่เพียงเพื่อกวาดต้อนทรัพยากรและกดดันชื่อเหยียน แต่ยังเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในเจรจา ท้ายที่สุด หากนางยอมคืนดินแดนบางส่วนให้ชื่อเหยียน ชื่อเหยียนก็จะไม่สามารถเรียกร้องเงื่อนไขอื่นได้อย่างเข้มงวดนัก ดังที่เจียเหยากล่าวไว้ นางกับหยุนเจิงเป็นคนประเภทเดียวกัน และในตอนนี้ ชื่อเหยียนก็ดูคล้ายกับสถานการณ์ของนางเมื่อก่อนที่ถูกหยุนเจิงกดดันจนถึงทางตัน เพราะเหตุนี้ เจียเหยาจึงเข้าใจจิตใจของชื่อเหยียนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เจียเหยาเคยคิดอยากเป็นผู้พิฆาตมังกร แต่สุดท้ายนางกลับกลายเป็นมังกรร้ายเสียเอง สองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เจียเหยาจะได้รับคำตอบจากชื่อเหยียน นางกลับได้รับข่าวจากหยุนเจิงผ่านเหยี่ยวขาว “รีบกลับมา ก่อนสิ้นปีมาพบข้าที่ติ้งเป่ย” ข้อความจากหยุนเจิงสั้นมาก เมื่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1402

    “ตกลง เช่นนั้นข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าอีกครั้ง!” เจียเหยากล่าวพลางค่อยๆ ลุกขึ้นยืน กุ่ยฟางต้องยอมสวามิภักดิ์และถวายบรรณาการอย่างแน่นอน แต่จำนวนบรรณาการต้องเพิ่มขึ้นอีกร้อยละห้าสิบพร้อมกันนี้ กุ่ยฟางต้องเปิดการค้าเสรีกับต้าเฉียนและเป่ยหวน นอกจากนี้ กุ่ยฟางต้องชดเชยความเสียหายที่เป่ยหวนและต้าเฉียนได้รับจากศึกครั้งนี้ โดยจ่ายชดเชยเป็นทองคำ 100,000 ตำลึง แกะ 100,000 ตัว วัว 30,000 ตัว ม้า 10,000 ตัว และเสบียงอาหาร 4 ล้านตัน และเพื่อเป็นการตอบแทน เจียเหยาจะไม่เรียกร้องให้กุ่ยฟางยกดินแดน 500 ลี้ แต่ลดลงเหลือเพียง 300 ลี้เท่านั้น! ส่วนข้อที่ให้กุ่ยฟางถวายหญิงงาม 100 คนแก่ต้าเฉียนนั้น เจียเหยาได้ยกเว้นให้โดยตรง สำหรับเงื่อนไขปลีกย่อยอื่นๆ เจียเหยาก็ยอมรับตามที่กุ่ยฟางเสนอมา เมื่อได้ยินเงื่อนไขของเจียเหยา อาเคอถูรู้สึกราวกับสมองของตนกำลังอื้ออึง การเพิ่มบรรณาการขึ้นร้อยละห้าสิบยังพอว่า แต่เจียเหยากลับเรียกร้องให้กุ่ยฟางจ่ายค่าชดเชยจำนวนมหาศาลในคราวเดียว? อย่าว่าแต่ปศุสัตว์และเสบียงเลย เพียงแค่ทองคำ 100,000 ตำลึง กุ่ยฟางก็แทบจะสิ้นเนื้อประดาตัว ทองคำ 100,000 ตำลึง

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status