Share

บทที่ 508

Author: เหลียงซานเหลากุ่ย
หากพวกเขาซุ่มโจมตีเป่ยหวนจากปากเขาเขี้ยวหมาป่าจริง แล้วถูกเป่ยหวนกวาดล้างแทน ถึงครานั้นใครจะคุ้มกันซั่วฟาง?

เมื่อใดที่กองทัพใหญ่เป่ยหวนฆ่าเข้ามา เว่ยเหวินจงจะเอาอะไรมาป้องกัน?

ไอ้สุนัข!

เพื่อที่จะฆ่าตน ถึงขนาดไม่สนใจความปลอดภัยของซั่วเป่ยเลย!

ขณะที่หยุนเจิงกำลังโมโหฉุนเฉียวอยู่นั้น ภูตสามและภูตห้าก็เข้ามารายงานว่ากองทัพใหญ่เป่ยหวนเคลื่อนไหวแล้ว!

เป่ยหวนคิดจะเล่นตุกติกจริงหรือ?

หยุนเจิงขมวดคิ้ว แล้วถาม “กองทัพใหญ่เป่ยหวนไปรวมตัวกันที่ใด?”

“เหมือนจะไปทางปากเขาเขี้ยวหมาป่าขอรับ!”

ภูตสามตอบ

“ปากเขาเขี้ยวหมาป่า?”

หยุนเจิงขมวดคิ้วมุ่น สัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากล

เป่ยหวนส่งคนไปที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่ามากมายเพียงนั้นแล้วยังจะไปเสริมทัพที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่าอีก?

เป่ยหวนต้องคิดซุ่มโจมตีพวกเขาที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่าครั้งหนึ่งแน่

เพียงแค่ซุ่มโจมตีต้องใช้กำลังคนมากเพียงนี้เชียวหรือ?

“สอดแนมต่อไป!”

หยุนเจิงสั่งการทั้งสอง แล้วรีบลุกขึ้นดูภาพแผนที่ทันที

เป่ยหวนส่งคนมาซุ่มโจมตีทหารทั่วไปของพวกเขามากมายเพียงนี้เลยหรือ?

ประเมินพวกเขาสูงเกินไปแล้วกระมัง?

“เป็นไปได้หรือไม่ที่ปานปู้จะมองแผนการข
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 509

    ไม่นาน จั่วเริ่นและคนอื่นๆ ก็มาถึงกระโจมของหยุนเจิง“โจมตีค่าย?”เมื่อได้ยินถึงการวิเคราะห์ของหยุนเจิง ฝูงชนพลันอ้ำอึ้งในบัดดล“พวกเขาจะโจมตีค่ายจากที่ใดกัน?”เสิ่นลั่วเยี่ยนตามไม่ทันจึงถามต่อว่า “พวกเขาเป็นทหารม้าเชียวนะ! นอกจากปากเขาเขี้ยวหมาป่าและหุบผาชันช่องลมแล้ว ยังมีที่ใดที่พวกเขาจะ…”“พวกเขาสามารถละทิ้งม้ารบได้!”หลูซิ่งได้สติก่อน “ทหารม้าเปลี่ยนมาเป็นทหารราบง่ายมาก! ทว่าทหารราบจะเปลี่ยนไปเป็นทหารม้านั้นยากมาก!”หลูซิ่งเอ่ยคำนี้ออกไป ฝูงชนพลันทุบศีรษะของตนทันใดนั่นน่ะสิ!ทหารม้าลงจากม้าก็กลายเป็นทหารราบแล้วนี่!ปัญหาง่ายๆ เช่นนี้ พวกเขากลับนึกไม่ออกสถานที่ที่ทหารม้าไม่สามารถปีนขึ้นไปได้ แต่ทหารราบทำได้!ทันใดนั้นพวกเขาก็ตระหนักได้ว่าความคิดพวกเขาเริ่มเปลี่ยนไปพวกเขาคอยคิดมาตลอดว่าทหารม้าของเป่ยหวนเก่งกาจแค่ไหน แต่กลับละเลยปัญหาที่ง่ายที่สุดไปได้“ดังนั้น จุดประสงค์ของพวกเขาคือซุ่มโจมตีหุบผาชันช่องลม และครอบครองหุบผาทั้งสองฝั่ง จากนั้นค่อบนำทหารม้าใหญ่เดินทางผ่านหุบผาชันช่องลมตรงมาที่ซั่วฟาง! พวกเขาคิดจะใช้ซั่วฟางเป็นฐานที่มั่นในการเอาชนะกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือ!”

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 510

    นั่นน่ะสิ!พวกเขากำลังคนเพียงเท่านี้ในเมื่อเป่ยหวนคิดจะโจมตีค่ายแล้ว อย่างไรก็ต้องส่งคนนับหมื่นมาแน่นอนพูดถึงความสามารถในการสู้รบแล้ว ทหารทั่วไปของพวกเขาสู้ของเป่ยหวนไม่ได้แน่นอนถึงแม้พวกเขาจะสู้ไม่ถอยจนกำจัดคนของเป่ยหวนที่ถูกส่งมาซุ่มโจมตีได้ทั้งหมด คนสองหมื่นกว่าคนของพวกเขาก็คงเหลือรอดอยู่ไม่มากแล้ว!นี่คือทุกอย่างของหยุนเจิง!ห้ามทำให้สูญเสียไปทั้งหมดภายในสงครามเดียว!สิ่งสำคัญคือ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะไม่ทำให้คนของเป่ยหวนหลุดไปได้!หากกองกำลังของพวกเขาสู้จนหมดแล้ว ทหารม้าใหญ่ของเป่ยหวนฆ่าผ่านหุบผาชันช่องลมมา เช่นนั้นก็จะคุ้มกันซั่วฟางไม่ได้อีกต่อไป!เช่นนี้ดูเสี่ยงมากจริงๆ!หยุนเจิงกล่าวยิ้มๆ “ข้าพอมีวิธีที่จะกำจัดพวกมันทั้งหมด แต่ทำได้เพียงกำจัดพวกมันทั้งหมด ไม่สามารถทำเงียบๆ ได้ และไม่สามารถซุ่มโจมตีพวกมันเป็นครั้งที่สองได้ด้วย…”“วิธีอะไร?”เสิ่นลั่วเยี่ยนถามทันที“ข้าเองก็มีวิธีเช่นกัน!”อวี๋ซื่อจงกล่าว “เพียงแต่ว่า เราอาจจะต้องสูญเสียของบางอย่างไป”“ใช่!”หยุนเจิงพยักหน้าเบาๆ “แต่ทว่า สูญเสียสิ่งของย่อมดีกว่าสูญเสียคน!”ทั้งสองพลางกล่าวพลางสบตากันย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 511

    ในช่วงเวลานี้ น้ำแข็งบนแม่น้ำไป๋สุ่ยมีความหนาเกือบหนึ่งเมตรแล้ว!แม้ว่าจะเป็นกองทหารหลายพันคน น้ำแข็งก็สามารถรับน้ำหนักได้!เมื่อเห็นความดุเดือดในการนำกองทัพลงสู่หุบผาแม่น้ำ ในที่สุดปานปู้ก็แสดงรอยยิ้มโล่งใจบนใบหน้าของเขาชนะแล้ว!พวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่าอีกต่อไปไม่ว่ากองกำลังหลักของหยุนเจิงจะอยู่ที่นี่หรือที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่าล้วนไม่สำคัญอีกต่อไป!ไม่ว่ากองกำลังหลักของหยุนเจิงจะอยู่ที่ไหน พวกเขาก็หนีไม่พ้นชะตากรรมที่จะถูกกวาดล้างไปได้!ทหารราบหมื่นนาย และทหารม้าสามหมื่นนาย!ขอเพียงแค่ผ่านหุบผาชันช่องลมไปได้ ทหารสนามที่แก่ชราอ่อนแอ ป่วย และพิการเหล่านั้นไม่มีทางหยุดพวกเขาได้เลย!ตอนนี้ พวกเขาสามารถประกาศได้แล้วว่าเมืองซั่วฟางเป็นของพวกเขา!ขอเพียงพวกเขายึดครองซั่วฟางได้สำเร็จ ต่อจากนี้ก็เป็นกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือที่ต้องตื่นตระหนกแล้ว!“เหล่าสหาย! ตามข้าไปโจมตี!”ปานปู้คำรามอย่างตื่นเต้นและพุ่งเข้าไปในหุบผาแม่น้ำตามไปด้วยทั้งสองฝั่งของหุบผาอูถูเป็นผู้นำทหารข้างกายหลายคนตรงไปที่ค่ายด้วยจิตสังหารพวยพุ่งเมื่อเห็นทหารเป่ยหวนที่พุ่งเข้า

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 512

    เวลานี้ ทหารของเป่ยหวนโกลาหลวุ่นวายกันพลันทุกคนต่างแย่งกันวิ่งหนีจากทะเลเพลิงบางคนวิ่งไปถึงชายขอบของหุบผา ก็กระโดดลงไปในหุบผาด้วยความตื่นตระหนก โดยไม่สนว่าหน้าผาจะสูงชันหรือไม่ เพียงเพื่อจะหนีจากทะเลเพลิงที่อยู่ข้างหลังแต่หลังจากที่กระโดดลงไป พวกเขาก็รู้สึกเสียใจทันทีเพราะในหุบเขา มีทหารต้าเฉียนจำนวนมากรออยู่ก่อนแล้วทันทีที่พวกเขากระโดดลงไป ก็ถูกทหารต้าเฉียนปิดล้อมบางคนก็วิ่งออกไปนอกค่ายด้วยความตื่นตระหนกทว่าทันทีที่พวกเขารอดพ้นจากทะเลเพลิง ก็มีธนูอันแหลมคมมาต้อนรับพวกเขาทหารม้าที่นำโดยอวี๋ซื่อจงไม่รู้โผล่มาตอนไหน"รักษาระยะห่าง!"“อย่าสู้ระยะประชิด!”“ยิงได้!”อวี๋ซื่อจงงอคันธนูและตั้งศรธนูพร้อมตะโกนใส่ทหารม้าที่ต้องการต่อสู้ระยะประชิดกับศัตรูจนตาแดงตาดำหลังจากที่อวี๋ซื่อจงตะโกนใส่ คนเหล่านั้นก็รู้สึกตัวและรีบถอยห่างจากศัตรู แล้วเริ่มยิ่งธนูใหม่อีกครั้งเสียงคำรามปลุกชายหนุ่มที่กำลังตกตะลึงอยู่ อวี๋ซื่อจงรีบงอคันธนูและตั้งศรธนูอย่างรวดเร็วอวี๋ซื่อจงเคยเป็นหนึ่งในสมาชิกของกองทหารโลหิตมาก่อน ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดถึงทักษะการยิงธนูของเขาเขายิงธนูออกไปถูกคอของทหาร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 513

    ทหารม้าเป่ยหวนที่นำโดยอู้เลี่ยและปานปู้จ้องมองที่ด้านบนของหุบเขาอย่างว่างเปล่าใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความโกรธแต่กลับทำอะไรไม่ได้เลยถึงพวกเขาจะพุ่งเข้าไปในตอนนี้ ก็ไม่มีความหมายอะไรนอกจากรนหาที่ตายยิ่งไปกว่านั้น กำแพงไฟที่ปากหุบเขายังขวางทางพวกเขาอยู่ ทำให้พวกเขาไม่สามารถเร่งผ่านเข้าไปได้!“ทิ้งม้า! แล้วปีนขึ้นไปซะ!”“เรายังไม่แพ้!”“ปีนขึ้นไปและฆ่าคนต้าเฉียนไอ้เวรพวกนี้ให้หมด!”อู้เลี่ยตะโกนอย่างบ้าคลั่ง“องค์ชายใหญ่ ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ!คนที่อยู่ข้างๆ กดมือของอู้เลี่ย และพูดอย่างกังวลว่า "ในเมื่อศัตรูรู้แล้วว่าเราจะโจมตีค่าย ดังนั้นพวกเขาย่อมต้องเตรียมการซุ่มโจมตีอย่างแน่นอน หากเราปีนขึ้นไปตอนนี้ก็มีแต่ตายเท่านั้น!"หากพวกเขาทิ้งม้าแล้วปีนขึ้นไปบนหุบเขา เกรงว่ายังขึ้นไปไม่ถึงครึ่งทาง ฝนธนูคงจะตกลงมาก่อนแล้ว!ถึงครานั้น คนของพวกเขาไม่ก็ตกผาตาย ไม่ก็ถูกยิงตาย!ในเวลานี้ ห้ามทำให้สูญกองกำลังทหารไปเปล่าๆ อีกต่อไป“แล้วจะดูพวกเขาตายอยู่อย่างนี้หรือ?”ดวงตาสีแดงเลือดของอู้เลี่ยดุร้ายราวกับสัตว์ร้ายกินคน"ถอยทัพเถอะ!"คนข้างๆ หันหน้าไปด้านข้างอย่างเจ็บปวดใจแล

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 514

    ปานปู้ได้ยินดังนั้น ปราณโลหิตในใจพลันพวยพุ่งอย่างห้ามไม่อยู่แต่ทว่าเขาเองก็รู้ว่าหยุนเจิงจงใจแทงใจดำเขา จึงทำได้เพียงระงับปราณโลหิตในใจแล้วกัดฟันกล่าวว่า “หยุนเจิง อย่าดีใจเร็วไปหน่อยเลย คนที่เจ้าสั่งให้ไปซุ่มโจมตีที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่าเหล่านั้น เกรงว่าบัดนี้ก็คงถูกกวาดล้างแล้วเช่นกัน!”“ราชครู เจ้าเองก็อายุปูนนี้แล้ว เหตุใดถึงยังใสซื่อเช่นนี้เล่า?”หยุนเจิงไม่แยแส กล่าวหัวเราะว่า “บอกความจริงกับเจ้าก็ได้ ข้าไม่เคยคิดจะซุ่มโจมตีพวกเจ้าเลยด้วยซ้ำ! ข้าเพียงแค่ทดสอบดูว่ามีคนของเราร่วมมือคิดจะสังหารข้าหรือไม่เท่านั้น! คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีจริงๆ!”อะไรนะ?ได้ยินคำพูดของหยุนเจิงแล้ว สีหน้าของปานปู้พลันเปลี่ยนไปในทันทีหยุนเจิงเพียงแค่ทดสอบดูเท่านั้น?เขารู้อยู่แล้วว่ามีคนในกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือคิดจะสังหารเขานั้นหรือ?ให้ตายเถอะ!ถูกหลอกจนได้!ตนถูกไอ้สารเลวคนนี้หลอกอีกครั้งแล้ว!“วันนี้ ข้าพ่ายแล้ว! แต่ข้าไม่มีทางพ่ายตลอดแน่!”ปานปู้ระงับความรู้สึกอยากกระอักเลือดเอาไว้ แล้วเอ่ยดุดันว่า “วันหลัง ข้าจะตัดศีรษะของเจ้าเองกับมือให้ได้!”“ได้ๆ! เจ้าจะทำอย่างไรก็ได้!”หยุนเจิงกล่าวอย่างไ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 515

    ปานปู้ไม่กล้าเสี่ยง แน่นอนว่าอู้เลี่ยก็ไม่กล้าเช่นกันทั้งสองเจรจากันอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็ตอบตกลงคำขอของหยุนเจิงวินาทีนี้ อู้เลี่ยรู้สึกเสียใจและโกรธมากรู้เช่นนี้ พวกเขาแลกเปลี่ยนศพดีๆ ไม่ดีหรอกหรือ?ทำเช่นนั้นยังสามารถแลกม้าศึกชราอ่อนแอสองพันตัวกับร่างศพเหล่านั้นได้ด้วยแต่ทว่าครั้งนี้พวกเขาตั้งใจมาซุ่มโจมตีซั่วฟาง ดังนั้นจึงไม่ได้นำม้าศึกชราอ่อนแอเหล่านั้นมาด้วยแถมพวกเขาก็ไม่สามารถเสียเวลากับหยุนเจิงต่อไปได้จึงทำได้เพียงทำตามข้อตกลงของหยุนเจิงก่อนบัญชีนี้ค่อยคิดกันภายหลัง!ทหารม้าสองพันนายถูกบังคับให้ลงจากม้าปานปู้เก็บซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ แล้วเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง “ม้าศึกให้พวกเจ้าได้! แต่ขณะที่พวกข้าเคลื่อนย้ายศพ พวกเขาต้องถอยหลัง!”กล่าวจบ ปานปู้พลันชี้ไปยังมือธนูสองพันนายบริเวณปากทางเข้านั่น“ไม่ต้องรอให้ถึงตอนที่พวกเจ้าเคลื่อนย้ายศพหรอก”หยุนเจิงกล่าวยิ้มๆ “ขอแค่พวกเจ้าส่งม้าศึกมา ข้าจะสั่งให้พวกเขาถอยหลังทันที!”“เป็นเช่นนั้นดีที่สุด!”ปานปู้กัดฟันเอ่ยเสียงต่ำ จากนั้นโบกมือ ทหารม้ากลุ่มหนึ่งก็นำม้าศึกสองพันตัวส่งไปบริเวณปากทางเข้านั่นเมื่อเห็นม้าศึกที่พึ่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 516

    ปานปู้หัวเราะแห้ง “รอให้พวกเขาส่งเครื่องยิงธนูมาถึง พวกข้าคงขนศพพวกนี้กลับไปตั้งนานแล้ว!”“ได้ ข้าให้โอกาสเจ้า!”หยุนเจิงหัวเราะฮ่าๆ แล้วสั่งการให้ทหารเปลี่ยนองศาไปยังตำแหน่งที่ยิงไม่ถึงทหารม้าเป่ยหวน แล้วพูดกับปานปู้ว่า “ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะสามารถย้ายศพพวกนี้ไปได้หรือไม่!”เห็นการกระทำของหยุนเจิงแล้ว ปานปู้พลันแอบสงสัยอยู่ในใจหยุนเจิงทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ปานปู้ก็ได้สั่งให้ทหารข้างกายสองคนเข้าไปใกล้ศพไม่มีเครื่องยิงธนูแล้ว ทหารข้างกายจึงเดินไปข้างหน้าอย่างใจกล้าแต่แล้ว ขณะที่พวกเขาไปเคลื่อนย้ายศพอยู่นั้น ถึงจะพบว่าไม่สามารถขยับร่างศพเหล่านั้นได้เลยไม่ว่าจะออกแรงมากเพียงใด ก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายศพได้ไม่นาน ทหารข้างกายทั้งสองคนก็เดินไปหาปานปู้มือเปล่าเมื่อเห็นท่าทีของทั้งสองแล้ว ทหารต้าเฉียนจึงหัวเราะเยาะขึ้นมา“เกิดอะไรขึ้น?”ปานปู้ถามด้วยสีหน้านิ่งขรึม“ศพถูกคนใช้น้ำรดทุกร่างจึงแข็งตัวรวมกัน ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้เลยขอรับ!”ทหารข้างกายกัดฟันกล่าว แล้วมองไปที่หยุนเจิงด้วยสีหน้าโหดร้ายได้ยินคำพูดของทหารข้างกายแล้ว สีหน้าของปานปู้ก็ย

Latest chapter

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1410

    แต่ที่น่าเสียดายคือ เจียเหยาไม่ใช่สตรีแบบนั้น! ทุกความยินยอมและการประนีประนอมของเจียเหยาต่อเขาล้วนเกิดจากสถานการณ์บีบบังคับ เยี่ยจื่อย่อมชื่นชมเจียเหยาอย่างแน่นอน เรื่องนี้ไม่มีข้อสงสัยใดๆ แต่หากเจียเหยาเป็นสตรีที่หลงใหลในความรักอย่างเดียว เยี่ยจื่ออาจไม่รู้สึกชื่นชมนาง และคงไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่ว่านางกับหยุนเจิงจะได้อยู่ด้วยกันหรือไม่ "ไม่แน่หรอก" เยี่ยจื่อยิ้มบาง "เรื่องของความรัก ไม่มีใครในโลกนี้สามารถอธิบายได้ชัดเจน! เช่นเดียวกับข้า ข้าไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งข้าจะไม่สนใจสายตาของผู้คนในแผ่นดิน และรักชายคนหนึ่งอย่างไม่ลังเล พร้อมทั้งให้กำเนิดบุตรธิดาแก่เขา..." "เรื่องของพวกเจ้ามันไม่เหมือนกัน" หยุนเจิงบีบเบาๆ ที่ตัวเยี่ยจื่อ "พอแล้ว อย่าคิดถึงเรื่องพวกนี้เลย! รีบลุกขึ้นเถิด ไม่เช่นนั้นพอคนในจวนมาเรียกเราไปกินข้าวเย็น เจ้าคงอายอีกแน่" "ก็เพราะเจ้านั่นแหละ!" เยี่ยจื่อเอ่ยตำหนิด้วยความอาย ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นและสวมเสื้อผ้า เมื่อเห็นเยี่ยจื่อสวมชุดชั้นใน หยุนเจิงก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาอีก "ยังมองอยู่อีกหรือ?" เยี่ยจื่อปรายตามองหยุนเจิงด้วยความเข

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1409

    เนื่องจากเยี่ยจื่อกำลังตั้งครรภ์ หยุนเจิงจึงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงเกินไป อย่างไรก็ตาม พายุที่โหมกระหน่ำมีเสน่ห์ในแบบของมัน และสายฝนที่โปรยปรายก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ หลังจากหยุดยั้งความเร่าร้อน เยี่ยจื่อซบอยู่ในอ้อมอกของหยุนเจิงอย่างแมวน้อยเชื่องๆ "คืนนี้ข้าจะนอนที่ห้องของเจ้า" หยุนเจิงกอดร่างอ่อนนุ่มของเยี่ยจื่อไว้ ด้วยท่าทีที่ดูยังไม่พอใจ "อย่าเลย!" เยี่ยจื่อเอื้อมมือมาตบหน้าอกของหยุนเจิงเบาๆ "หากเจ้ามาอยู่ที่นี่ ข้าก็ต้องโดนเจ้ารังแกอีก หากเกิดอะไรขึ้นกับลูก เราคงร้องไห้ไม่ออก เจ้าไปห้องเมี่ยวอินเถิด!" จากนิสัยของหยุนเจิง ต่อให้ใช้ปลายเท้าคิด นางก็รู้ว่าเขาต้องรังแกนางอีกสักหนึ่งหรือสองรอบหากเขาอยู่ในห้องนี้ แม้ว่าช่วงตั้งครรภ์จะไม่ใช่ว่าจะใกล้ชิดกันไม่ได้ แต่ก็ไม่ควรทำบ่อยเกินไป "ลูกของข้าหยุนเจิง จะอ่อนแอขนาดนั้นได้อย่างไร?" หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะวางมือลงบนหน้าท้องของเยี่ยจื่อโดยไม่รู้ตัว "เจ้ายังมีหน้ามาพูดอีก!" เยี่ยจื่อเอ่ยตำหนิอย่างเขินอาย "เมื่อสองวันก่อน ลั่วเยี่ยนยังแอบมาบอกข้าเลยว่าเจ้าไปรังแกนางอีก จวนนี้มิใช่มีเพียงข้ากับลั่วเยี่ยนสองค

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1408

    ชุดนี่มันชั้นแล้วชั้นเล่า ถอดออกแต่ละครั้งช่างเสียเวลาเสียจริง หยุนเจิงบ่นในใจพลางจัดการอยู่นาน กว่าจะถอดอาภรณ์ออกหมด แล้วรีบก้าวลงไปในถังอาบน้ำขนาดใหญ่ด้วยความกระตือรือร้น "ดูท่าทางเจ้าสิ!" เยี่ยจื่อจ้องมองหยุนเจิงด้วยความเขินอาย พลางหัวเราะเบาๆ "หากคนอื่นมาเห็นเข้า คงคิดว่าเจ้าคือโจรขโมยดอกไม้จริงๆ!" "ต่อหน้าเจ้า ข้าก็เป็นโจรขโมยดอกไม้ดีๆ นี่เอง!" หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง แล้วดึงเยี่ยจื่อเข้ามาในอ้อมกอด เกรงว่าเยี่ยจื่อจะหนาว หยุนเจิงจึงราดน้ำอุ่นลงบนตัวนาง แน่นอนว่า ระหว่างนี้มือเจ้าเล่ห์ของหยุนเจิงก็ไม่วายลวนลามบนตัวเยี่ยจื่อ เยี่ยจื่อปล่อยให้หยุนเจิงทำตามใจ พลางยื่นนิ้วเรียวขาวลูบไล้รอยแผลเป็นที่เอวของเขา นางจำได้ว่ารอยแผลนี้เกิดขึ้นจากศึกที่หยุนเจิงสังหารฮูเจี๋ยฉานอวี่ นั่นน่าจะเป็นการบาดเจ็บที่หนักที่สุดของหยุนเจิงนับตั้งแต่คุมทัพมา โชคดีที่เป็นเพียงบาดแผล ไม่ได้ถึงแก่ชีวิต ตอนนี้บาดแผลนั้นสมานแล้ว แต่รอยแผลเป็นยังคงปรากฏอย่างชัดเจน "ข้าหวังว่าเจ้าจะเป็นแบบนี้ตลอดไป" เยี่ยจื่อก้มหน้าพลางพึมพำ "หากวันใดเจ้ามิได้เป็นเช่นนี้ คงเพราะเราชราและห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1407

    หลังจากส่งสาวรับใช้หน้าประตูไปแล้ว หยุนเจิงเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทันที ก่อนจะผลักประตูเข้าไป "อิงเถา ข้าเหมือนจะได้ยินเสียงใครผลักประตูเข้ามา" เสียงของเยี่ยจื่อดังมาจากหลังฉากกั้น "บ่าวก็เหมือนจะได้ยินเหมือนกัน บ่าวจะไปดูเจ้าค่ะ" อิงเถาตอบรับแล้วรีบวิ่งออกมาจากหลังฉากกั้น นางเพิ่งจะออกมาก็เห็นหยุนเจิงยืนอยู่ในห้อง เมื่อแน่ใจว่าไม่ใช่คนอื่นที่บังอาจบุกรุกเข้ามา อิงเถาถึงได้คลายความกังวลก่อนจะรีบคำนับ แต่ก่อนที่อิงเถาจะทันได้พูดอะไร หยุนเจิงก็ทำท่าทางให้เงียบ และโบกมือเบาๆ ส่งสัญญาณให้อิงเถาออกไป ดูเหมือนอิงเถาจะเดาได้ว่าหยุนเจิงตั้งใจจะทำอะไร ใบหน้าของนางพลันขึ้นสีแดงเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเท้าออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว หยุนเจิงปิดกลอนประตูจากด้านใน แล้วค่อยๆ ย่องไปทางหลังฉากกั้น "อิงเถา มีคนผลักประตูหรือไม่?" เยี่ยจื่อเอ่ยถาม ความคิดซุกซนของหยุนเจิงเริ่มเล่นงาน เดิมทีเขาตั้งใจจะจู่โจมเยี่ยจื่ออย่างไม่ให้ทันตั้งตัว แต่คิดได้ว่านางกำลังตั้งครรภ์ เกรงว่าจะทำให้นางตกใจจนเกิดเรื่องไม่คาดคิด จึงเอ่ยขึ้นว่า "มีสิ มีโจรขโมยดอกไม้คนหนึ่ง" เมื่อได้ยิน เยี่ยจื่อหน้าถ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1406

    หยุนเจิงกลับมาจากโรงงานผลิตอาวุธ เพียงแค่เดินมาถึงหน้าจวนอ๋อง ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกวุ่นวายดังมาจากในจวน พอเข้าไปในจวนตามคาด เขาเห็นเหล่าเด็กซนกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานอยู่ในลานหน้า ลูกชายสองคนกับลูกสาวหนึ่งคนของฉินชีหู่ รวมถึงลูกชายของอดีตรัชทายาท มาที่จวน และกำลังเล่นปาหิมะกับเสิ่นเนี่ยนฉือและฉีเหยียน เด็กๆ เหล่านั้นต่างสวมเสื้อผ้าหนาเตอะเหมือนหมี แม้จะล้มลงบนพื้นหิมะก็ไม่รู้สึกเจ็บ “คารวะฝ่าบาท!” เมื่อเห็นหยุนเจิงกลับมา อาจารย์ที่คอยดูแลเด็กๆ รีบเข้ามาคารวะ “พอเถอะ ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าอยู่ในจวนไม่ต้องเคร่งขนาดนั้น” หยุนเจิงโบกมือพลางถามว่า “พี่สะใภ้ตระกูลฉินมาที่นี่แล้วหรือ?” “เจ้าค่ะ” ซินเซิงยิ้มบางๆ ขณะช่วยปัดหิมะออกจากเสื้อหยุนเจิง พลางตอบว่า “ช่วงบ่ายฮูหยินฉินก็มากับเด็กๆ ตอนนี้คงเล่นไพ่นกกระจอกกับเหล่าพระชายาอยู่” หยุนเจิงว่า “เช่นนั้นข้าไปดูสักหน่อย เจ้าเฝ้าเด็กๆ ไว้ อย่าให้พวกเขาเล่นจนเหงื่อออกมากนัก” “บ่าวทราบแล้วเจ้าค่ะ” ซินเซิงพยักหน้าเบาๆ หยุนเจิงมองดูเด็กซนที่กำลังเล่นอย่างบ้าคลั่ง และครุ่นคิดในใจว่าจะให้พวกเขาทำ “การบ้านช่วงปิดเทอม

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1405

    ตลอดสองวันที่ผ่านมา เจียเหยาเจรจากับกุ่ยฟางอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าข้อเสนอจากกุ่ยฟางจะเกินกว่าเงื่อนไขขั้นต่ำที่เจียเหยากำหนดไว้ในใจแล้ว แต่นางยังไม่พอใจ นางต้องการต่อรองเพื่อให้ได้ทรัพยากรมากขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดีกว่า จุดที่ยังคงเจรจากันไม่ลงตัวอยู่ที่ค่าชดเชยจากสงครามและจำนวนบรรณาการ กุ่ยฟางแสดงเจตนาอย่างชัดเจน หากต้องการค่าชดเชยเพิ่ม จำนวนบรรณาการจะต้องลดลง แต่ในเรื่องจำนวนบรรณาการ เจียเหยาไม่ยอมอ่อนข้อเลย ในที่สุด กุ่ยฟางจำต้องยอมรับข้อกำหนดของเจียเหยาในการถวายบรรณาการตามจำนวนที่นางระบุ ส่วนค่าชดเชยที่กุ่ยฟางสามารถมอบให้ได้ เมื่อคำนวณแล้วอยู่ที่ประมาณร้อยละสี่สิบห้าของข้อเรียกร้องเริ่มต้นของเจียเหยา ผลลัพธ์นี้แม้ไม่ใช่สิ่งที่นางคาดหวังไว้ แต่ก็ดีกว่าที่เจียเหยาประเมินไว้ไม่น้อย เมื่อการเจรจาสิ้นสุด เจียเหยาถอนหายใจยาวด้วยความโล่งใจ ด้วยทรัพยากรเหล่านี้ ประชาชนแห่งเป่ยหวนจะผ่านฤดูหนาวนี้ไปได้อย่างไม่ลำบากนัก “องค์หญิง เหตุใดท่านจึงไม่ยอมอ่อนข้อในเรื่องบรรณาการ?” เกออาซูถามด้วยความไม่เข้าใจ “หากเรายอมลดเงื่อนไขเรื่องบรรณาการ เราก็จะได้สิ่งอื่นเพ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1404

    ทว่า สำหรับเจียเหยาในตอนนี้ นี่อาจไม่ใช่เรื่องดีนัก เมื่อผู้ที่เข้าร่วมเจรจาจากกุ่ยฟางมีหลายคน ความเห็นของพวกเขาอาจไม่ตรงกัน การดึงกลยุทธ์นี้อาจทำให้เสียเวลาเพิ่มขึ้น เจียเหยารู้สึกกังวลในใจ แต่ใบหน้ายังคงเรียบเฉย “ท่านทูตเชิญนั่งก่อน ข้ามีเรื่องสำคัญต้องจัดการเสียก่อน!” กล่าวจบ เจียเหยาก็ก้มหน้าก้มตาเขียนจดหมายต่อ แต่ความคิดของเจียเหยาในตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่จดหมายอีกแล้ว นางดูเหมือนกำลังเขียนจดหมาย แต่แท้จริงแล้วกำลังกดดันอาเคอถูและคณะ นางรู้ว่าชื่อเหยียนต้องมอบอำนาจในการเจรจาบางส่วนให้แก่อาเคอถูและคณะ สิ่งที่นางต้องทำคือการกดดันคณะทูตกุ่ยฟางเพื่อให้ได้ผลประโยชน์มากยิ่งขึ้น การกระทำของเจียเหยาส่งผลอย่างชัดเจน เมื่อเห็นว่าเจียเหยาดูเหมือนไม่ได้รีบร้อนเจรจาเลย สมาชิกในคณะทูตกุ่ยฟางก็เริ่มมองตากันไปมา สุดท้าย สายตาของทุกคนต่างหันไปที่มู่ลี่จวี เห็นได้ชัดว่ามู่ลี่จวีเป็นผู้คุมการเจรจาครั้งนี้ มู่ลี่จวีรู้สึกโกรธกับความเย็นชาของเจียเหยา แต่เขารู้ดีว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์แสดงความไม่พอใจต่อหน้านาง ชื่อเหยียนมอบอำนาจให้เขาตัดสินใจในบางเรื่องได้จริง แต่ใ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1403

    เจียเหยาตัดสินใจหยุดการเคลื่อนทัพต่อ กองทหารของพวกนางถูกส่งออกไปกวาดต้อนทรัพยากร ดินแดนที่พวกนางเข้ายึดครองในตอนนี้เกินกว่าห้าร้อยลี้ไปนานแล้ว แต่เจียเหยาตั้งใจเพียงให้ทัวฮวนและกองทหารยึดครองดินแดนของกุ่ยฟางเพียงสามร้อยลี้ตามเงื่อนไขขั้นต่ำของหยุนเจิงเท่านั้น การยึดครองดินแดนมากกว่านี้ ไม่เพียงเพื่อกวาดต้อนทรัพยากรและกดดันชื่อเหยียน แต่ยังเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในเจรจา ท้ายที่สุด หากนางยอมคืนดินแดนบางส่วนให้ชื่อเหยียน ชื่อเหยียนก็จะไม่สามารถเรียกร้องเงื่อนไขอื่นได้อย่างเข้มงวดนัก ดังที่เจียเหยากล่าวไว้ นางกับหยุนเจิงเป็นคนประเภทเดียวกัน และในตอนนี้ ชื่อเหยียนก็ดูคล้ายกับสถานการณ์ของนางเมื่อก่อนที่ถูกหยุนเจิงกดดันจนถึงทางตัน เพราะเหตุนี้ เจียเหยาจึงเข้าใจจิตใจของชื่อเหยียนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เจียเหยาเคยคิดอยากเป็นผู้พิฆาตมังกร แต่สุดท้ายนางกลับกลายเป็นมังกรร้ายเสียเอง สองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เจียเหยาจะได้รับคำตอบจากชื่อเหยียน นางกลับได้รับข่าวจากหยุนเจิงผ่านเหยี่ยวขาว “รีบกลับมา ก่อนสิ้นปีมาพบข้าที่ติ้งเป่ย” ข้อความจากหยุนเจิงสั้นมาก เมื่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1402

    “ตกลง เช่นนั้นข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าอีกครั้ง!” เจียเหยากล่าวพลางค่อยๆ ลุกขึ้นยืน กุ่ยฟางต้องยอมสวามิภักดิ์และถวายบรรณาการอย่างแน่นอน แต่จำนวนบรรณาการต้องเพิ่มขึ้นอีกร้อยละห้าสิบพร้อมกันนี้ กุ่ยฟางต้องเปิดการค้าเสรีกับต้าเฉียนและเป่ยหวน นอกจากนี้ กุ่ยฟางต้องชดเชยความเสียหายที่เป่ยหวนและต้าเฉียนได้รับจากศึกครั้งนี้ โดยจ่ายชดเชยเป็นทองคำ 100,000 ตำลึง แกะ 100,000 ตัว วัว 30,000 ตัว ม้า 10,000 ตัว และเสบียงอาหาร 4 ล้านตัน และเพื่อเป็นการตอบแทน เจียเหยาจะไม่เรียกร้องให้กุ่ยฟางยกดินแดน 500 ลี้ แต่ลดลงเหลือเพียง 300 ลี้เท่านั้น! ส่วนข้อที่ให้กุ่ยฟางถวายหญิงงาม 100 คนแก่ต้าเฉียนนั้น เจียเหยาได้ยกเว้นให้โดยตรง สำหรับเงื่อนไขปลีกย่อยอื่นๆ เจียเหยาก็ยอมรับตามที่กุ่ยฟางเสนอมา เมื่อได้ยินเงื่อนไขของเจียเหยา อาเคอถูรู้สึกราวกับสมองของตนกำลังอื้ออึง การเพิ่มบรรณาการขึ้นร้อยละห้าสิบยังพอว่า แต่เจียเหยากลับเรียกร้องให้กุ่ยฟางจ่ายค่าชดเชยจำนวนมหาศาลในคราวเดียว? อย่าว่าแต่ปศุสัตว์และเสบียงเลย เพียงแค่ทองคำ 100,000 ตำลึง กุ่ยฟางก็แทบจะสิ้นเนื้อประดาตัว ทองคำ 100,000 ตำลึง

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status