Share

บทที่ 515

Author: เหลียงซานเหลากุ่ย
ปานปู้ไม่กล้าเสี่ยง แน่นอนว่าอู้เลี่ยก็ไม่กล้าเช่นกัน

ทั้งสองเจรจากันอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็ตอบตกลงคำขอของหยุนเจิง

วินาทีนี้ อู้เลี่ยรู้สึกเสียใจและโกรธมาก

รู้เช่นนี้ พวกเขาแลกเปลี่ยนศพดีๆ ไม่ดีหรอกหรือ?

ทำเช่นนั้นยังสามารถแลกม้าศึกชราอ่อนแอสองพันตัวกับร่างศพเหล่านั้นได้ด้วย

แต่ทว่าครั้งนี้พวกเขาตั้งใจมาซุ่มโจมตีซั่วฟาง ดังนั้นจึงไม่ได้นำม้าศึกชราอ่อนแอเหล่านั้นมาด้วย

แถมพวกเขาก็ไม่สามารถเสียเวลากับหยุนเจิงต่อไปได้จึงทำได้เพียงทำตามข้อตกลงของหยุนเจิงก่อน

บัญชีนี้ค่อยคิดกันภายหลัง!

ทหารม้าสองพันนายถูกบังคับให้ลงจากม้า

ปานปู้เก็บซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ แล้วเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง “ม้าศึกให้พวกเจ้าได้! แต่ขณะที่พวกข้าเคลื่อนย้ายศพ พวกเขาต้องถอยหลัง!”

กล่าวจบ ปานปู้พลันชี้ไปยังมือธนูสองพันนายบริเวณปากทางเข้านั่น

“ไม่ต้องรอให้ถึงตอนที่พวกเจ้าเคลื่อนย้ายศพหรอก”

หยุนเจิงกล่าวยิ้มๆ “ขอแค่พวกเจ้าส่งม้าศึกมา ข้าจะสั่งให้พวกเขาถอยหลังทันที!”

“เป็นเช่นนั้นดีที่สุด!”

ปานปู้กัดฟันเอ่ยเสียงต่ำ จากนั้นโบกมือ ทหารม้ากลุ่มหนึ่งก็นำม้าศึกสองพันตัวส่งไปบริเวณปากทางเข้านั่น

เมื่อเห็นม้าศึกที่พึ่
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 516

    ปานปู้หัวเราะแห้ง “รอให้พวกเขาส่งเครื่องยิงธนูมาถึง พวกข้าคงขนศพพวกนี้กลับไปตั้งนานแล้ว!”“ได้ ข้าให้โอกาสเจ้า!”หยุนเจิงหัวเราะฮ่าๆ แล้วสั่งการให้ทหารเปลี่ยนองศาไปยังตำแหน่งที่ยิงไม่ถึงทหารม้าเป่ยหวน แล้วพูดกับปานปู้ว่า “ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะสามารถย้ายศพพวกนี้ไปได้หรือไม่!”เห็นการกระทำของหยุนเจิงแล้ว ปานปู้พลันแอบสงสัยอยู่ในใจหยุนเจิงทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ปานปู้ก็ได้สั่งให้ทหารข้างกายสองคนเข้าไปใกล้ศพไม่มีเครื่องยิงธนูแล้ว ทหารข้างกายจึงเดินไปข้างหน้าอย่างใจกล้าแต่แล้ว ขณะที่พวกเขาไปเคลื่อนย้ายศพอยู่นั้น ถึงจะพบว่าไม่สามารถขยับร่างศพเหล่านั้นได้เลยไม่ว่าจะออกแรงมากเพียงใด ก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายศพได้ไม่นาน ทหารข้างกายทั้งสองคนก็เดินไปหาปานปู้มือเปล่าเมื่อเห็นท่าทีของทั้งสองแล้ว ทหารต้าเฉียนจึงหัวเราะเยาะขึ้นมา“เกิดอะไรขึ้น?”ปานปู้ถามด้วยสีหน้านิ่งขรึม“ศพถูกคนใช้น้ำรดทุกร่างจึงแข็งตัวรวมกัน ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้เลยขอรับ!”ทหารข้างกายกัดฟันกล่าว แล้วมองไปที่หยุนเจิงด้วยสีหน้าโหดร้ายได้ยินคำพูดของทหารข้างกายแล้ว สีหน้าของปานปู้ก็ย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 517

    ปานปู้ไม่เคยคิดว่าตนจะเสียเปรียบถึงเพียงนี้แถมยังเสียเปรียบให้กับหยุนเจิงคนปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี่ด้วยสารเลวคนนี้ วางแผนพวกเขาตั้งแต่แรกเริ่มแต่พวกเขากลับถูกไอ้สารเลวนี่ทำให้สับสน ไม่คิดเลยว่าไอ้สารเลวนี่จะลอบกัดถึงเพียงนี้ตอนนี้ พวกเขาสามารถจากไปโดยไม่รับผิดชอบใดๆ เลยก็ได้แต่พวกเขามอบม้าศึกจำนวนสองพันตัวไปแล้ว!หากกลับไปมือเปล่าเช่นนี้ เขาไม่รู้เลยว่าจะรายงานต่อแม่ทัพคนอื่นๆ อย่างไรหรือเขาจะเสียเวลาต่อกับหยุนเจิงก็ได้แต่ทว่าหยุนเจิงมีปัญญานั้น เขาไม่มีถึงแม้องค์ชายใหญ่จะนำกองทหารม้าครึ่งหนึ่งกลับไปชายแดนเว่ยก่อนแล้ว แต่ทหารม้าที่เหลือของพวกเขาไม่มีเสบียงเหลือมากนัก!เดิมทีพวกเขาเพียงแค่คิดว่าจะบุกอย่างรวดเร็ว แล้วโจมตีซั่วฟางค่อยชิงเสบียงมา!เสบียงที่เหลืออยู่ในตอนนี้ คนยังพอว่า เพราะสามารถกินอาหารแห้งได้แต่ทว่าม้าไม่สามารถทนได้มากกว่าสองวันแน่นอน!อย่างมากก็เสียเวลาอยู่ที่นี่หนึ่งวัน พวกเขาก็จะเดินทางกลับกันแล้ว!เพราะอย่างไร เดินทางกลับชายแดนเว่ยก็ต้องใช้เวลาเช่นกัน!ถึงพวกเขาจะไป ศพพวกนี้ก็ยังคงตกอยู่ในมือหยุนเจิง!แต่ทว่าหากพวกเขามอบม้าศึกอีกหนึ่งพันตัวให้

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 518

    ไอ้สุนัขนี่!แม้แต่ม้าของตนก็จะเอา?เหตุใดไม่ไปตายเสียเล่า?“ราชครูคงไม่ได้ตัดใจไม่ลงหรอกกระมัง?”หยุนเจิงหัวเราะ “ม้าศึกสามพันตัว ราชครูจะยอมให้ได้เลย บัดนี้ข้าขอเพียงม้าศึกตัวเดียวเท่านั้น แต่ราชครูกลับตัดใจให้ไม่ได้? ราชครูไม่กลัวว่าแม่ทัพเป่ยหวนจะบอกว่าเจ้า…”“พอแล้ว!”ปานปู้คัดคำพูดของหยุนเจิง “ข้าให้เจ้า!”กล่าวจบ ปานปู้พลันลงจากม้าอย่างลำบากใจ“ราชครู ให้ไม่ได้นะขอรับ!”ทหารข้างกายห้ามปราม “ไอ้สารเลวคนนี้เป็นคนถ่อยไม่รักษาคำพูด เขา…”“หุบปาก!”ปานปู้ขัดคำพูดของทหารข้างกายอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยเสียงต่ำว่า “หากข้าไม่ให้ เจ้าจะให้แม่ทัพทหารเหล่านี้มองข้าอย่างไร?”หยุนเจิงจับทางเรื่องนี้ได้ถึงได้กล้าขอม้าของเขาเขาเองก็ไม่อยากให้เช่นกัน แต่เขาไม่ให้ไม่ได้!เหมือนอย่างที่หยุนเจิงบอกว่าม้าศึกสามพันตัวเขายังมอบให้ได้!แต่พอมาของตนเอง ตนกลับไม่ยอมมอบม้าออกไป เช่นนั้นต่อไปจะควบคุมฝูงชนได้อย่างไร?ปานปู้จะไม่อยากมอบให้แค่ไหน ก็ทำได้เพียงส่งมอบออกไปเท่านั้นไม่นาน ม้าก็ถูกส่งไปยังหุบเขา“ม้านั่นติดตามข้ามามากกว่าสามปีแล้ว องค์ชายหก ขอให้โชคดี!”ปานปู้ไม่กล้ามองดูม้าสุดที่ร

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 519

    ติ้งเป่ย!“ชัยชนะอันยิ่งใหญ่! ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของซั่วฟาง!”ทหารส่งสารที่มีธงสีแดงสามธงบนหลังรีบวิ่งไปที่ประตูทิศตะวันตกของติ้งเป่ยเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของทหารส่งสารแล้ว ทหารเฝ้าป้อมปราการเมืองต่างก็เริ่มวิจารณ์กันขึ้นมา“ซั่วฟางประกาศชัยชนะอีกแล้ว?“ไม่ใช่หรอกกระมัง?”“ไม่แน่อาจจะประกาศชัยชนะครั้งก่อนก็ได้?”“จะเป็นไปได้อย่างไร? ครั้งนั้นผ่านมาสิบกว่าวันแล้ว! ไม่มีทางประกาศซ้ำห่างกันนานเพียงนี้หรอก!”“แล้วนี่เป็นชัยชนะจากไหนกัน? ทหารธรรมดาของซั่วฟางกลุ่มหนึ่งทำสงครามชนะทุกครั้ง แต่เรากลับอยู่แต่ในเมืองไม่ออกไปไหน นี่มันขายหน้าชะมัด!”“เฮ้อ ใครว่าไม่จริงล่ะ?”ทหารกลุ่มหนึ่งวิจารณ์กันพลัน ชาวบ้านในเมืองก็เช่นกันในขณะที่ทหารส่งสารวิ่งเข้าไปในจวนแม่ทัพใหญ่มณฑลฝ่ายเหนือ ข่าวเกี่ยวกับชัยชนะอันยิ่งใหญ่อีกครั้งของซั่วฟางก็แพร่กระจายไปราวกับไฟป่าเมื่อเห็นรายงานการต่อสู้ที่ทหารส่งสารส่งมา เว่ยเหวินจงก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างคนของหยุนเจิง อวี๋ซื่อจง และเฝิงอวี้ทั้งสองคน อ่านแผนการที่จะโจมตีค่ายของเป่ยหวนได้ทะลุปรุโปร่ง และใช้ไฟกวาดล้างทหารที่มาโจมตีค่ายจำนวนหนึ่งหมื่นนายของเป่ย

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 520

    “ประเดี๋ยวตอนพบท่านอ๋องค่อยพูดกับเขาอีกทีแล้วกัน!”เว่ยเหวินจงกล่าว “รอดูความเห็นของท่านอ๋องก่อน ข้าเชื่อว่าท่านอ๋องเป็นคนมีเหตุผลอยู่แล้ว”“อื้ม!”ตู๋กูเช่อพยักหน้าเบาๆ ไม่พูดอะไรใดๆเร่งม้ามาตลอดทั้งทาง ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงหุบผาชันช่องลมก่อนที่ฟ้าจะมืดวินาทีนี้ คนของหยุนเจิงกำลังทำความสะอาดสนามรบอยู่ใช้คำพูดของหยุนเจิงนั่นคือ ศพพวกนี้ให้คนอื่นดูประเดี๋ยวเดียวก็ต้องกำจัดทันทีมิเช่นนั้นจะเกิดโรคระบาดได้มองดูร่างษพที่เต็มเกลื่อนเป็นภูเขาตรงหน้านี้ ทั้งสองจำต้องเชื่อเนื้อหาในรายงานผลสงคราม“ท่านอ๋องอยู่หรือไม่?”เว่ยเหวินจงหยุดทหารคนหนึ่งไว้แล้วถาม“ท่านอ๋องอยู่ในป้อมทหารลาดตระเวนขอรับ”ทหารชี้ไปยังป้อมทหารลาดตระเวนที่ผุพังป้อมทหารลาดตระเวนนี่ถือเป็นสถานที่หลบภัยที่สมบูรณ์ที่สุดในบริเวณรอบๆ แล้วเพราะกระโจมค่ายเหล่านั้นไหม้เป็นผุยผงไปหมดแล้ว“บริเวณผิวแม่น้ำนั่นเกิดอะไรขึ้น?”ทันใดนั้น เว่ยเหวินจงสังเกตเห็นหลุมขนาดใหญ่บริเวณบนแม่น้ำอุณหภูมิที่สูงทำให้ชั้นน้ำแข็งบนผิวแม่น้ำละลายร่างศพที่ไม่ถูกเผาล้วนจมลงไปในแม่น้ำทั้งหมด“ข้าพอจะเดาออกแล้วล่ะ”ตู๋กูเช่อกล่าว “แ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 521

    การกระทำของหยุนเจิงกะทันหันเกินไปแม้ว่าเว่ยเหวินจงจะฝีมือดี แต่ก็ไม่ได้ทำการป้องกันตัวจึงไม่ได้หลบหลีกเลยแม้แต่น้อยทั้งตู๋กูเช่อและทหารข้างกายล้วนอ้ำอึ้งแม้แต่ทหารอารักขาของหยุนเจิงเองก็อึ้งด้วยเช่นกันไม่มีใครคาดคิดว่าหยุนเจิงจะกล้าเตะเว่ยเหวินจงลงพื้นแม้ว่าหยุนเจิงจะเป็นท่านอ๋อง แต่อย่างไรเว่ยเหวินจงก็เป็นถึงผู้บังคับบัญชาของกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือเชียวนะ!ปกติเขามักใช้สถานะที่เป็นท่านอ๋องมาโต้เถียงกับเว่ยเหวินจง ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรแต่เขาเตะเว่ยเหวินจงให้ล้มลงกับพื้นต่อหน้าสาธารณชนเช่นนี้มันข้ามหัวกันชัดๆ!หากอยู่ในกองทหารล่ะก็ อย่างต่ำก็ต้องโบยยี่สิบทีแล้ว!เว่ยเหวินจงเองก็ถูกเตะจนมึนงง ผ่านไปนานกว่าจะได้สติไม่ใช่เพราะเจ็บ แต่เพราะมึนงงจริงๆ!“หยุนเจิง!”เว่ยเหวินจงพ่นเสียงตะคอกออกมาแล้วลุกขึ้นด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก “เจ้ากล้ารังแกข้า? คิดว่าเจ้าเป็นท่านอ๋องแล้วข้าจะไม่กล้าทำอะไรเจ้าหรือ?”“เด็กๆ!”ด้วยเสียงตะคอกของหยุนเจิง ทหารที่อยู่ข้างนอกพลันวิ่งพรวดเข้ามาทันที“หยุด!”เว่ยเหวินจงและทหารข้างกายของตู๋กูเช่อเรียกสติกลับมาได้ แล้วรีบชักดาบคุ้มกันทั้งสองในบัดดล

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 522

    อย่าว่าแต่หยุนเจิงเลย ตอนนี้แม้แต่ตัวเขาเองก็สงสัยเว่ยเหวินจง!เพราะอย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เขาเคยบอกกับเว่ยเหวินจงเพียงผู้เดียวเท่านั้นตัวเขาเองไม่ได้เอาแผนการไปบอกกับคนของเป่ยหวน แล้วเขาจะไม่รู้ได้อย่างไร?ในเมื่อไม่ใช่เขา เช่นนั้นก็ต้องเป็นเว่ยเหวินจงแล้ว!“ใส่ร้าย! เจ้ากำลังใส่ร้ายข้า!”เว่ยเหวินจงโกรธจัด “คิดจะป้ายความผิดฐานร่วมมือกับศัตรูให้กับข้า ถามหรือยังว่าพลทหารสองแสนนายของกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือตกลงหรือไม่?”“ใส่ร้าย?”หยุนเจิงหัวเราะแห้ง “ก่อนหน้านี้มีคนบอกว่าเจ้าคิดจะฆ่าข้า ข้ายังไม่เชื่อ! บัดนี้ เจ้ากระโดดออกมาเองแล้ว ข้าไม่เชื่อไม่ได้จริงๆ!”สีหน้าของเว่ยเหวินจงมึดมน “ใครบอกว่าข้าคิดจะฆ่าท่านอ๋อง? ให้มันออกมาซะ!”“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องยุ่ง!”หยุนเจิงแค่นเสียงเย็นชา แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นเยือกว่า “เว่ยเหวินจง แม้แต่ข้าที่นำทหารไม่เป็นคนหนึ่งยังรู้เลยว่าทันทีที่เป่ยหวนครอบครองซั่วฟาง ทั้งซั่งเป่ยก็จะถูกกดขี่ทันที!”“เจ้าที่เป็นถึงแม่ทัพใหญ่ของมณฑลจะมองไม่ออกเลยหรือไง?”“ดาบในมือข้าเล่มนี้ เสด็จพ่อพระราชทานให้กับข้าต่อหน้าขุนนางและเมืองหลวง! เจ้ากล้านำความปลอดภัยของ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 523

    ได้ยินหยุนเจิงเอ่ยมุ่งมั่นเช่นนี้แล้ว ตู๋กูเช่อก็อดไม่ได้ขมวดคิ้วมุ่นหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ตู๋กูเช่อพลันเอ่ยจริงจังว่า “ท่านอ๋อง ท่านวางดาบลงก่อน เราค่อยๆ คุยกัน ในนี้จะต้องมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรแน่ๆ!”“ได้! ข้าจะคอยดูว่าพวกเจ้าจะคุยอย่างไร!”หยุนเจิงเก็บดาบในมือ แล้วชี้ไปที่ทหารข้างกายของทั้งสอง “มัดตัวพวกเขาไว้ก่อน! แล้วข้าจะค่อยๆ คุยกับพวกเจ้า!”เว่ยเหวินจงกำลังจะห้าม แต่ตู๋กูเช่อกลับส่ายหน้าเบาๆ “ให้ท่านอ๋องมัดไปเถอะ! ขอแค่เราไม่ได้กระทำผิด ข้าเชื่อว่าท่านอ๋องไม่ทำอะไรเราแน่นอน!”เว่ยเหวินจงเงียบอยู่พักหนึ่ง แล้วส่ายศีรษะให้กับทหารข้างกายเหล่านั้นหลังจากได้รับคำสั่งของเว่ยเหวินจงแล้ว คนเหล่านั้นจึงระงับความต้องการต่อต้านเอาไว้ แล้วยอมปล่อยให้ทหารของหยุนเจิงมัดตัว“พวกเจ้าเองก็ถอยไปก่อน!”หยุนเจิงโบกมือให้กับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่น“ถ้าพวกเขาคิดจะทำร้ายท่านจะทำอย่างไร?”เสิ่นลั่วเยี่ยนเอ่ยหงุดหงิด“พวกเขาไม่กล้าหรอก!”หยุนเจิงส่ายศีรษะ “ถึงแม้พวกเข้าคิดจะฆ่าข้า ก็กล้าใช้แค่วิธีลอบสังหารเท่านั้น! ข้ามอบความกล้าให้กับพวกเขา พวกเขาก็ไม่กล้าฆ่าข้าโดยตรงหรอก!”“หวัง

Latest chapter

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1410

    แต่ที่น่าเสียดายคือ เจียเหยาไม่ใช่สตรีแบบนั้น! ทุกความยินยอมและการประนีประนอมของเจียเหยาต่อเขาล้วนเกิดจากสถานการณ์บีบบังคับ เยี่ยจื่อย่อมชื่นชมเจียเหยาอย่างแน่นอน เรื่องนี้ไม่มีข้อสงสัยใดๆ แต่หากเจียเหยาเป็นสตรีที่หลงใหลในความรักอย่างเดียว เยี่ยจื่ออาจไม่รู้สึกชื่นชมนาง และคงไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่ว่านางกับหยุนเจิงจะได้อยู่ด้วยกันหรือไม่ "ไม่แน่หรอก" เยี่ยจื่อยิ้มบาง "เรื่องของความรัก ไม่มีใครในโลกนี้สามารถอธิบายได้ชัดเจน! เช่นเดียวกับข้า ข้าไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งข้าจะไม่สนใจสายตาของผู้คนในแผ่นดิน และรักชายคนหนึ่งอย่างไม่ลังเล พร้อมทั้งให้กำเนิดบุตรธิดาแก่เขา..." "เรื่องของพวกเจ้ามันไม่เหมือนกัน" หยุนเจิงบีบเบาๆ ที่ตัวเยี่ยจื่อ "พอแล้ว อย่าคิดถึงเรื่องพวกนี้เลย! รีบลุกขึ้นเถิด ไม่เช่นนั้นพอคนในจวนมาเรียกเราไปกินข้าวเย็น เจ้าคงอายอีกแน่" "ก็เพราะเจ้านั่นแหละ!" เยี่ยจื่อเอ่ยตำหนิด้วยความอาย ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นและสวมเสื้อผ้า เมื่อเห็นเยี่ยจื่อสวมชุดชั้นใน หยุนเจิงก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาอีก "ยังมองอยู่อีกหรือ?" เยี่ยจื่อปรายตามองหยุนเจิงด้วยความเข

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1409

    เนื่องจากเยี่ยจื่อกำลังตั้งครรภ์ หยุนเจิงจึงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงเกินไป อย่างไรก็ตาม พายุที่โหมกระหน่ำมีเสน่ห์ในแบบของมัน และสายฝนที่โปรยปรายก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ หลังจากหยุดยั้งความเร่าร้อน เยี่ยจื่อซบอยู่ในอ้อมอกของหยุนเจิงอย่างแมวน้อยเชื่องๆ "คืนนี้ข้าจะนอนที่ห้องของเจ้า" หยุนเจิงกอดร่างอ่อนนุ่มของเยี่ยจื่อไว้ ด้วยท่าทีที่ดูยังไม่พอใจ "อย่าเลย!" เยี่ยจื่อเอื้อมมือมาตบหน้าอกของหยุนเจิงเบาๆ "หากเจ้ามาอยู่ที่นี่ ข้าก็ต้องโดนเจ้ารังแกอีก หากเกิดอะไรขึ้นกับลูก เราคงร้องไห้ไม่ออก เจ้าไปห้องเมี่ยวอินเถิด!" จากนิสัยของหยุนเจิง ต่อให้ใช้ปลายเท้าคิด นางก็รู้ว่าเขาต้องรังแกนางอีกสักหนึ่งหรือสองรอบหากเขาอยู่ในห้องนี้ แม้ว่าช่วงตั้งครรภ์จะไม่ใช่ว่าจะใกล้ชิดกันไม่ได้ แต่ก็ไม่ควรทำบ่อยเกินไป "ลูกของข้าหยุนเจิง จะอ่อนแอขนาดนั้นได้อย่างไร?" หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะวางมือลงบนหน้าท้องของเยี่ยจื่อโดยไม่รู้ตัว "เจ้ายังมีหน้ามาพูดอีก!" เยี่ยจื่อเอ่ยตำหนิอย่างเขินอาย "เมื่อสองวันก่อน ลั่วเยี่ยนยังแอบมาบอกข้าเลยว่าเจ้าไปรังแกนางอีก จวนนี้มิใช่มีเพียงข้ากับลั่วเยี่ยนสองค

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1408

    ชุดนี่มันชั้นแล้วชั้นเล่า ถอดออกแต่ละครั้งช่างเสียเวลาเสียจริง หยุนเจิงบ่นในใจพลางจัดการอยู่นาน กว่าจะถอดอาภรณ์ออกหมด แล้วรีบก้าวลงไปในถังอาบน้ำขนาดใหญ่ด้วยความกระตือรือร้น "ดูท่าทางเจ้าสิ!" เยี่ยจื่อจ้องมองหยุนเจิงด้วยความเขินอาย พลางหัวเราะเบาๆ "หากคนอื่นมาเห็นเข้า คงคิดว่าเจ้าคือโจรขโมยดอกไม้จริงๆ!" "ต่อหน้าเจ้า ข้าก็เป็นโจรขโมยดอกไม้ดีๆ นี่เอง!" หยุนเจิงหัวเราะเสียงดัง แล้วดึงเยี่ยจื่อเข้ามาในอ้อมกอด เกรงว่าเยี่ยจื่อจะหนาว หยุนเจิงจึงราดน้ำอุ่นลงบนตัวนาง แน่นอนว่า ระหว่างนี้มือเจ้าเล่ห์ของหยุนเจิงก็ไม่วายลวนลามบนตัวเยี่ยจื่อ เยี่ยจื่อปล่อยให้หยุนเจิงทำตามใจ พลางยื่นนิ้วเรียวขาวลูบไล้รอยแผลเป็นที่เอวของเขา นางจำได้ว่ารอยแผลนี้เกิดขึ้นจากศึกที่หยุนเจิงสังหารฮูเจี๋ยฉานอวี่ นั่นน่าจะเป็นการบาดเจ็บที่หนักที่สุดของหยุนเจิงนับตั้งแต่คุมทัพมา โชคดีที่เป็นเพียงบาดแผล ไม่ได้ถึงแก่ชีวิต ตอนนี้บาดแผลนั้นสมานแล้ว แต่รอยแผลเป็นยังคงปรากฏอย่างชัดเจน "ข้าหวังว่าเจ้าจะเป็นแบบนี้ตลอดไป" เยี่ยจื่อก้มหน้าพลางพึมพำ "หากวันใดเจ้ามิได้เป็นเช่นนี้ คงเพราะเราชราและห

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1407

    หลังจากส่งสาวรับใช้หน้าประตูไปแล้ว หยุนเจิงเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทันที ก่อนจะผลักประตูเข้าไป "อิงเถา ข้าเหมือนจะได้ยินเสียงใครผลักประตูเข้ามา" เสียงของเยี่ยจื่อดังมาจากหลังฉากกั้น "บ่าวก็เหมือนจะได้ยินเหมือนกัน บ่าวจะไปดูเจ้าค่ะ" อิงเถาตอบรับแล้วรีบวิ่งออกมาจากหลังฉากกั้น นางเพิ่งจะออกมาก็เห็นหยุนเจิงยืนอยู่ในห้อง เมื่อแน่ใจว่าไม่ใช่คนอื่นที่บังอาจบุกรุกเข้ามา อิงเถาถึงได้คลายความกังวลก่อนจะรีบคำนับ แต่ก่อนที่อิงเถาจะทันได้พูดอะไร หยุนเจิงก็ทำท่าทางให้เงียบ และโบกมือเบาๆ ส่งสัญญาณให้อิงเถาออกไป ดูเหมือนอิงเถาจะเดาได้ว่าหยุนเจิงตั้งใจจะทำอะไร ใบหน้าของนางพลันขึ้นสีแดงเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเท้าออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว หยุนเจิงปิดกลอนประตูจากด้านใน แล้วค่อยๆ ย่องไปทางหลังฉากกั้น "อิงเถา มีคนผลักประตูหรือไม่?" เยี่ยจื่อเอ่ยถาม ความคิดซุกซนของหยุนเจิงเริ่มเล่นงาน เดิมทีเขาตั้งใจจะจู่โจมเยี่ยจื่ออย่างไม่ให้ทันตั้งตัว แต่คิดได้ว่านางกำลังตั้งครรภ์ เกรงว่าจะทำให้นางตกใจจนเกิดเรื่องไม่คาดคิด จึงเอ่ยขึ้นว่า "มีสิ มีโจรขโมยดอกไม้คนหนึ่ง" เมื่อได้ยิน เยี่ยจื่อหน้าถ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1406

    หยุนเจิงกลับมาจากโรงงานผลิตอาวุธ เพียงแค่เดินมาถึงหน้าจวนอ๋อง ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกวุ่นวายดังมาจากในจวน พอเข้าไปในจวนตามคาด เขาเห็นเหล่าเด็กซนกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานอยู่ในลานหน้า ลูกชายสองคนกับลูกสาวหนึ่งคนของฉินชีหู่ รวมถึงลูกชายของอดีตรัชทายาท มาที่จวน และกำลังเล่นปาหิมะกับเสิ่นเนี่ยนฉือและฉีเหยียน เด็กๆ เหล่านั้นต่างสวมเสื้อผ้าหนาเตอะเหมือนหมี แม้จะล้มลงบนพื้นหิมะก็ไม่รู้สึกเจ็บ “คารวะฝ่าบาท!” เมื่อเห็นหยุนเจิงกลับมา อาจารย์ที่คอยดูแลเด็กๆ รีบเข้ามาคารวะ “พอเถอะ ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าอยู่ในจวนไม่ต้องเคร่งขนาดนั้น” หยุนเจิงโบกมือพลางถามว่า “พี่สะใภ้ตระกูลฉินมาที่นี่แล้วหรือ?” “เจ้าค่ะ” ซินเซิงยิ้มบางๆ ขณะช่วยปัดหิมะออกจากเสื้อหยุนเจิง พลางตอบว่า “ช่วงบ่ายฮูหยินฉินก็มากับเด็กๆ ตอนนี้คงเล่นไพ่นกกระจอกกับเหล่าพระชายาอยู่” หยุนเจิงว่า “เช่นนั้นข้าไปดูสักหน่อย เจ้าเฝ้าเด็กๆ ไว้ อย่าให้พวกเขาเล่นจนเหงื่อออกมากนัก” “บ่าวทราบแล้วเจ้าค่ะ” ซินเซิงพยักหน้าเบาๆ หยุนเจิงมองดูเด็กซนที่กำลังเล่นอย่างบ้าคลั่ง และครุ่นคิดในใจว่าจะให้พวกเขาทำ “การบ้านช่วงปิดเทอม

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1405

    ตลอดสองวันที่ผ่านมา เจียเหยาเจรจากับกุ่ยฟางอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าข้อเสนอจากกุ่ยฟางจะเกินกว่าเงื่อนไขขั้นต่ำที่เจียเหยากำหนดไว้ในใจแล้ว แต่นางยังไม่พอใจ นางต้องการต่อรองเพื่อให้ได้ทรัพยากรมากขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดีกว่า จุดที่ยังคงเจรจากันไม่ลงตัวอยู่ที่ค่าชดเชยจากสงครามและจำนวนบรรณาการ กุ่ยฟางแสดงเจตนาอย่างชัดเจน หากต้องการค่าชดเชยเพิ่ม จำนวนบรรณาการจะต้องลดลง แต่ในเรื่องจำนวนบรรณาการ เจียเหยาไม่ยอมอ่อนข้อเลย ในที่สุด กุ่ยฟางจำต้องยอมรับข้อกำหนดของเจียเหยาในการถวายบรรณาการตามจำนวนที่นางระบุ ส่วนค่าชดเชยที่กุ่ยฟางสามารถมอบให้ได้ เมื่อคำนวณแล้วอยู่ที่ประมาณร้อยละสี่สิบห้าของข้อเรียกร้องเริ่มต้นของเจียเหยา ผลลัพธ์นี้แม้ไม่ใช่สิ่งที่นางคาดหวังไว้ แต่ก็ดีกว่าที่เจียเหยาประเมินไว้ไม่น้อย เมื่อการเจรจาสิ้นสุด เจียเหยาถอนหายใจยาวด้วยความโล่งใจ ด้วยทรัพยากรเหล่านี้ ประชาชนแห่งเป่ยหวนจะผ่านฤดูหนาวนี้ไปได้อย่างไม่ลำบากนัก “องค์หญิง เหตุใดท่านจึงไม่ยอมอ่อนข้อในเรื่องบรรณาการ?” เกออาซูถามด้วยความไม่เข้าใจ “หากเรายอมลดเงื่อนไขเรื่องบรรณาการ เราก็จะได้สิ่งอื่นเพ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1404

    ทว่า สำหรับเจียเหยาในตอนนี้ นี่อาจไม่ใช่เรื่องดีนัก เมื่อผู้ที่เข้าร่วมเจรจาจากกุ่ยฟางมีหลายคน ความเห็นของพวกเขาอาจไม่ตรงกัน การดึงกลยุทธ์นี้อาจทำให้เสียเวลาเพิ่มขึ้น เจียเหยารู้สึกกังวลในใจ แต่ใบหน้ายังคงเรียบเฉย “ท่านทูตเชิญนั่งก่อน ข้ามีเรื่องสำคัญต้องจัดการเสียก่อน!” กล่าวจบ เจียเหยาก็ก้มหน้าก้มตาเขียนจดหมายต่อ แต่ความคิดของเจียเหยาในตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่จดหมายอีกแล้ว นางดูเหมือนกำลังเขียนจดหมาย แต่แท้จริงแล้วกำลังกดดันอาเคอถูและคณะ นางรู้ว่าชื่อเหยียนต้องมอบอำนาจในการเจรจาบางส่วนให้แก่อาเคอถูและคณะ สิ่งที่นางต้องทำคือการกดดันคณะทูตกุ่ยฟางเพื่อให้ได้ผลประโยชน์มากยิ่งขึ้น การกระทำของเจียเหยาส่งผลอย่างชัดเจน เมื่อเห็นว่าเจียเหยาดูเหมือนไม่ได้รีบร้อนเจรจาเลย สมาชิกในคณะทูตกุ่ยฟางก็เริ่มมองตากันไปมา สุดท้าย สายตาของทุกคนต่างหันไปที่มู่ลี่จวี เห็นได้ชัดว่ามู่ลี่จวีเป็นผู้คุมการเจรจาครั้งนี้ มู่ลี่จวีรู้สึกโกรธกับความเย็นชาของเจียเหยา แต่เขารู้ดีว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์แสดงความไม่พอใจต่อหน้านาง ชื่อเหยียนมอบอำนาจให้เขาตัดสินใจในบางเรื่องได้จริง แต่ใ

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1403

    เจียเหยาตัดสินใจหยุดการเคลื่อนทัพต่อ กองทหารของพวกนางถูกส่งออกไปกวาดต้อนทรัพยากร ดินแดนที่พวกนางเข้ายึดครองในตอนนี้เกินกว่าห้าร้อยลี้ไปนานแล้ว แต่เจียเหยาตั้งใจเพียงให้ทัวฮวนและกองทหารยึดครองดินแดนของกุ่ยฟางเพียงสามร้อยลี้ตามเงื่อนไขขั้นต่ำของหยุนเจิงเท่านั้น การยึดครองดินแดนมากกว่านี้ ไม่เพียงเพื่อกวาดต้อนทรัพยากรและกดดันชื่อเหยียน แต่ยังเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในเจรจา ท้ายที่สุด หากนางยอมคืนดินแดนบางส่วนให้ชื่อเหยียน ชื่อเหยียนก็จะไม่สามารถเรียกร้องเงื่อนไขอื่นได้อย่างเข้มงวดนัก ดังที่เจียเหยากล่าวไว้ นางกับหยุนเจิงเป็นคนประเภทเดียวกัน และในตอนนี้ ชื่อเหยียนก็ดูคล้ายกับสถานการณ์ของนางเมื่อก่อนที่ถูกหยุนเจิงกดดันจนถึงทางตัน เพราะเหตุนี้ เจียเหยาจึงเข้าใจจิตใจของชื่อเหยียนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เจียเหยาเคยคิดอยากเป็นผู้พิฆาตมังกร แต่สุดท้ายนางกลับกลายเป็นมังกรร้ายเสียเอง สองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เจียเหยาจะได้รับคำตอบจากชื่อเหยียน นางกลับได้รับข่าวจากหยุนเจิงผ่านเหยี่ยวขาว “รีบกลับมา ก่อนสิ้นปีมาพบข้าที่ติ้งเป่ย” ข้อความจากหยุนเจิงสั้นมาก เมื่

  • องค์ชายหกผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 1402

    “ตกลง เช่นนั้นข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าอีกครั้ง!” เจียเหยากล่าวพลางค่อยๆ ลุกขึ้นยืน กุ่ยฟางต้องยอมสวามิภักดิ์และถวายบรรณาการอย่างแน่นอน แต่จำนวนบรรณาการต้องเพิ่มขึ้นอีกร้อยละห้าสิบพร้อมกันนี้ กุ่ยฟางต้องเปิดการค้าเสรีกับต้าเฉียนและเป่ยหวน นอกจากนี้ กุ่ยฟางต้องชดเชยความเสียหายที่เป่ยหวนและต้าเฉียนได้รับจากศึกครั้งนี้ โดยจ่ายชดเชยเป็นทองคำ 100,000 ตำลึง แกะ 100,000 ตัว วัว 30,000 ตัว ม้า 10,000 ตัว และเสบียงอาหาร 4 ล้านตัน และเพื่อเป็นการตอบแทน เจียเหยาจะไม่เรียกร้องให้กุ่ยฟางยกดินแดน 500 ลี้ แต่ลดลงเหลือเพียง 300 ลี้เท่านั้น! ส่วนข้อที่ให้กุ่ยฟางถวายหญิงงาม 100 คนแก่ต้าเฉียนนั้น เจียเหยาได้ยกเว้นให้โดยตรง สำหรับเงื่อนไขปลีกย่อยอื่นๆ เจียเหยาก็ยอมรับตามที่กุ่ยฟางเสนอมา เมื่อได้ยินเงื่อนไขของเจียเหยา อาเคอถูรู้สึกราวกับสมองของตนกำลังอื้ออึง การเพิ่มบรรณาการขึ้นร้อยละห้าสิบยังพอว่า แต่เจียเหยากลับเรียกร้องให้กุ่ยฟางจ่ายค่าชดเชยจำนวนมหาศาลในคราวเดียว? อย่าว่าแต่ปศุสัตว์และเสบียงเลย เพียงแค่ทองคำ 100,000 ตำลึง กุ่ยฟางก็แทบจะสิ้นเนื้อประดาตัว ทองคำ 100,000 ตำลึง

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status