อย่าว่าแต่หยุนเจิงเลย ตอนนี้แม้แต่ตัวเขาเองก็สงสัยเว่ยเหวินจง!เพราะอย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เขาเคยบอกกับเว่ยเหวินจงเพียงผู้เดียวเท่านั้นตัวเขาเองไม่ได้เอาแผนการไปบอกกับคนของเป่ยหวน แล้วเขาจะไม่รู้ได้อย่างไร?ในเมื่อไม่ใช่เขา เช่นนั้นก็ต้องเป็นเว่ยเหวินจงแล้ว!“ใส่ร้าย! เจ้ากำลังใส่ร้ายข้า!”เว่ยเหวินจงโกรธจัด “คิดจะป้ายความผิดฐานร่วมมือกับศัตรูให้กับข้า ถามหรือยังว่าพลทหารสองแสนนายของกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือตกลงหรือไม่?”“ใส่ร้าย?”หยุนเจิงหัวเราะแห้ง “ก่อนหน้านี้มีคนบอกว่าเจ้าคิดจะฆ่าข้า ข้ายังไม่เชื่อ! บัดนี้ เจ้ากระโดดออกมาเองแล้ว ข้าไม่เชื่อไม่ได้จริงๆ!”สีหน้าของเว่ยเหวินจงมึดมน “ใครบอกว่าข้าคิดจะฆ่าท่านอ๋อง? ให้มันออกมาซะ!”“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องยุ่ง!”หยุนเจิงแค่นเสียงเย็นชา แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นเยือกว่า “เว่ยเหวินจง แม้แต่ข้าที่นำทหารไม่เป็นคนหนึ่งยังรู้เลยว่าทันทีที่เป่ยหวนครอบครองซั่วฟาง ทั้งซั่งเป่ยก็จะถูกกดขี่ทันที!”“เจ้าที่เป็นถึงแม่ทัพใหญ่ของมณฑลจะมองไม่ออกเลยหรือไง?”“ดาบในมือข้าเล่มนี้ เสด็จพ่อพระราชทานให้กับข้าต่อหน้าขุนนางและเมืองหลวง! เจ้ากล้านำความปลอดภัยของ
ได้ยินหยุนเจิงเอ่ยมุ่งมั่นเช่นนี้แล้ว ตู๋กูเช่อก็อดไม่ได้ขมวดคิ้วมุ่นหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ตู๋กูเช่อพลันเอ่ยจริงจังว่า “ท่านอ๋อง ท่านวางดาบลงก่อน เราค่อยๆ คุยกัน ในนี้จะต้องมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรแน่ๆ!”“ได้! ข้าจะคอยดูว่าพวกเจ้าจะคุยอย่างไร!”หยุนเจิงเก็บดาบในมือ แล้วชี้ไปที่ทหารข้างกายของทั้งสอง “มัดตัวพวกเขาไว้ก่อน! แล้วข้าจะค่อยๆ คุยกับพวกเจ้า!”เว่ยเหวินจงกำลังจะห้าม แต่ตู๋กูเช่อกลับส่ายหน้าเบาๆ “ให้ท่านอ๋องมัดไปเถอะ! ขอแค่เราไม่ได้กระทำผิด ข้าเชื่อว่าท่านอ๋องไม่ทำอะไรเราแน่นอน!”เว่ยเหวินจงเงียบอยู่พักหนึ่ง แล้วส่ายศีรษะให้กับทหารข้างกายเหล่านั้นหลังจากได้รับคำสั่งของเว่ยเหวินจงแล้ว คนเหล่านั้นจึงระงับความต้องการต่อต้านเอาไว้ แล้วยอมปล่อยให้ทหารของหยุนเจิงมัดตัว“พวกเจ้าเองก็ถอยไปก่อน!”หยุนเจิงโบกมือให้กับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่น“ถ้าพวกเขาคิดจะทำร้ายท่านจะทำอย่างไร?”เสิ่นลั่วเยี่ยนเอ่ยหงุดหงิด“พวกเขาไม่กล้าหรอก!”หยุนเจิงส่ายศีรษะ “ถึงแม้พวกเข้าคิดจะฆ่าข้า ก็กล้าใช้แค่วิธีลอบสังหารเท่านั้น! ข้ามอบความกล้าให้กับพวกเขา พวกเขาก็ไม่กล้าฆ่าข้าโดยตรงหรอก!”“หวัง
“ข้ารู้!”รังสีเย็นชาบนใบหน้าของหยุนเจิงหายไปในฉับพลัน “หากข้าไม่ทำเช่นนี้ เว่ยเหวินจงจะคิดหาทุกวิถีทางทำให้เราไปประจำการอยู่ที่สองป้อมเมือง! ตอนนี้เกิดเรื่องนี้ขึ้นแล้ว หากเขายังกล้าทำเช่นนี้อีก ก็เท่ากับว่าเขายอมรับว่าเขาคิดจะฆ่าข้า”“แค่นี้?”เมี่ยวอินขมวดคิ้ว “หากท่านไม่อยากไปสองป้อมเมือง ก็ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้หรอกกระมัง?”เพราะอย่างไร จักรพรรดิเหวินก็เป็นคนสั่งให้เขามาฝึกซ้อมทหารเองหากเขาเอ่ยถึงจักรพรรดิเหวิน เว่ยเหวินจงก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี!“แน่นอนว่าไม่เพียงเท่านั้น!”หยุนเจิงส่ายหน้ายิ้ม “หากไม่ใช่เว่ยเหวินจงพวกเขาเป็นคนแพร่ข่าว เช่นนั้นก็ต้องเป็นคนรอบกายของพวกเขา! เราถูกลอบกัดแล้วครั้งหนึ่ง ก็ห้ามปล่อยให้คนกระทำอยู่อย่างเป็นสุขอีกต่อไปสิใช่หรือไม่?”“แค่นี้?”เมี่ยวอินยังคงไม่เชื่อ “ถึงจะเป็นเช่นนั้น ท่านเองก็ไม่ต้องถึงขนาดผิดใจกับเว่ยเหวินจงหรอกกระมัง?”หยุนเจิงส่ายหน้ายิ้ม “ไม่ถึงกับผิดใจหรอก เพียงแค่ใจร้อนควบคุมไม่อยู่เท่านั้น”ควบคุมไม่อยู่?ได้ยินดังนั้น สตรีทั้งสองเกือบจะถอดรองเท้าฟาดหน้าเขาแล้วเขาควบคุมไม่อยู่เนี่ยนะ?เขาน่ะมีแผนมากกว่ารังผึ้งเสียด้
ด้วยความโกรธ เว่ยเหวินจงและตู๋กูเช่อจึงรีบกลับไปติ้งเป่ยในชั่วข้ามคืน“ทหารข้างกายของเจ้ามีใครรู้เรื่องแผนการนั่นหรือไม่?”บริเวณหน้าประตู จู่ๆ เว่ยเหวินจงก็ดึงตู๋กูเช่อไว้ แล้วเอ่ยถามเบาๆ“เอ่อ…”เปลือกตาตู๋กูเช่อกระตุกเล็กน้อย แล้วตอบเสียงเบา “ข้าจะกลับจวนไปสืบดูเดี๋ยวนี้แหละ!”เขาไม่เคยบอกแผนการของหยุนเจิงให้กับทหารข้างกายมาก่อนแต่ขณะที่เขาพูดคุยกับหยุนเจิงอยู่นั้นยังมีทหารข้างกายอีกสองคนที่ติดตามอยู่ไม่แน่พวกเขาอาจจะแอบได้ยินก็เป็นได้แค่สองคน สืบไม่ยากหรอก!เว่ยเหวินจงพยักหน้าเบาๆ แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าเข้มงวดว่า “ดี! ข้าเองก็จะสืบดูเช่นกัน! เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ต้องสืบให้แน่ชัด!”“อื้ม!”ตู๋กูเช่อตอบด้วยสีหน้าเย็นชา แล้วรีบพาทหารข้างกายจากไปทันทีเมื่อกลับมาถึงจวน เว่ยเหวินจงก็สั่งการให้คนล้อมรอบจวนไว้ ไม่มีคำสั่งจากเขา ห้ามผู้ใดก้าวเท้าเข้าออกจากจวนเป็นอันขาด!สถานการณ์เช่นนี้ ทำให้คนในจวนรู้ทันทีว่าเกิดเรื่องไม่ดีเข้าแล้วเมื่อฟ้าสว่าง เว่ยเหวินจงไม่สนว่าไม่ได้หลับทั้งคืน เพียงแค่สั่งให้คนรายงานตู๋กูเช่อ แล้วนำทหารข้างกายหนึ่งร้อยนายออกเดินทางไปยังป้อมเมืองจิ้ง
เว่ยซั่วพยายามลุกแล้วคุกเข่าดีๆ อีกครั้ง “แม่ทัพใหญ่ มารดาของติงต้าชิวป่วยหนัก เขาร่วมทุกข์ร่วมสุขกับข้ามาหลายปี ข้าจะไม่อนุญาตให้เขาไปเจอหน้ามารดาครั้งสุดท้ายได้อย่างไร!”“ร่วมทุกข์ร่วมสุขหลายปี?”เว่ยเหวินจงระเบิดโทสะพลันตะคอกเสียงดุ “พวกเขาสองพี่น้องเป็นไส้ศึกของเป่ยหวน!”“อะไรนะ?”เว่ยซั่วแสร้งทำเป็นตกใจ แล้วลุกยืนขึ้น “เป็นไปไม่ได้! ไม่มีทาง! พี่ใหญ่ นี่ต้องเป็นเรื่องเหลวไหลแน่! ติงต้าชิวไม่มีทางเป็นไส้ศึกของเป่ยหวนแน่!”“เป็นไปไม่ได้งั้นหรือ?”เว่ยเหวินจงโกรธ “ข้าตรวจสอบแล้ว หลักฐานทนโท่! ตอนนี้เจ้ารีบสั่งให้คนไปดูที่โม่หยางดู ดูว่าจะตามหาติงต้าชิวพบหรือไม่!”“เอ่อ…”เว่ยซั่วหน้าถอดสี แล้วตะคอกใส่ผู้บังคับบัญชาทหารข้างกายด้วยความโกรธ “เจ้ารีบพาคนห้าสิบคนเดินทางไปที่โม่หยางให้เร็วที่สุด ต้องตามหาติงต้าชิวให้เจอจงได้!”ผู้บังคับบัญชาทหารข้างกายไม่กล้ารอช้ารีบไปเรียกกำลังคนทันที“หยุดก่อน!”เว่ยเหวินจงกล่าว “ข้าจะให้คนไปตามหาติงต้าชิวด้วย! ข้าบอกแล้วว่านับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ทุกคนในจวนจะเข้าได้อย่างเดียว ออกไม่ได้! จนกระทั่งข้าจะสืบเรื่องให้เสร็จสิ้นค่อยว่ากัน!”กล่าวจบ
ภายใต้คำเกลี้ยกล่อมของฝูงชน สุดท้ายเว่ยเหวินจงก็ไม่ได้รับการโบยหกสิบทีคนเดียวแต่ทว่า เว่ยเหวินจงได้ตัดศีรษะทหารม้าของตนต่อหน้าสาธารณชนพร้อมเตือนทุกคนอย่างหนักแน่นว่าหากมีผู้ใดกล้าขายชาติร่วมือกับศัตรู มีแต่ตายสถานเดียว!ส่วนเว่ยซั่วไม่ได้โชคดีขนาดนั้นเว่ยซั่วถูกโบยสามสิบทีเต็มๆ ทำเอาเว่ยซั่ยถูกตีจนเนื้อตัวแตกยับหลังจากนั้น เว่ยเหวินจงก็สั่งการตู๋กูเช่อให้รับผิดชอบสอดส่องดูว่าป้อมเมืองจิ้งอันและป้อมเมืองสุยหนิงยังมีไส้ศึกของเป่ยหวนอีกหรือไม่ตกดึก เว่ยเหวินจงอยู่ต่อที่จวนแม่ทัพของเว่ยซั่วชั่วคราวคนรับใช้เพิ่งทายาให้กับเว่ยซั่วเสร็จสรรพ เว่ยเหวินจงก็เดินเข้ามาแล้วเมื่อเห็นท่าทีจะเป็นจะตายของเว่ยซั่วแล้ว ในใจเว่ยเหวินจงก็โกรธขึ้นมา“พี่ใหญ่ ท่าน…ท่านจะทำอะไรน่ะ?”เว่ยซั่วสัมผัสได้ว่าสีหน้าอารมณ์ของเว่ยเหวินจงผิดปกติจึงถามด้วยความกังวลใจ“แม่ทัพใหญ่มณฑลฝ่ายเหนือลงโทษเจ้าเสร็จแล้ว แต่เว่ยเหวินจงพี่ใหญ่เจ้ายังไม่เสร็จ!”เว่ยเหวินจงตะคอกทีหนึ่ง ไม่สนว่าเว่ยซั่วยังมีบาดแผลติดตัวพลันพุ่งเข้าไปทุบตีเว่ยซั่วอีกยกหนึ่งเว่ยซั่วถูกตีจนกรีดร้องด้วยความทรมาน อดไม่ได้ที่จะร้องขอชีวิต
ทันใดที่น้ำแข็งในแม่น้ำละลาย แม้เป่ยหวนจะแอบข้ามมาอย่างไร ก็มีแต่ต้องสร้างเรือเท่านั้นแต่เป่ยหวนไม่มีทางโง่ขนาดจะสร้างเรือขึ้นมา เรือลำใหญ่ขนาดนั้น ยังไม่ทันแอบข้ามมาถึงก็จะถูกจับได้!หลังจากจัดแจงงานให้กับแม่ทัพผู้นำกองทหารเสร็จสรรพ เว่ยเหวินจงก็รีบเดินทางกลับซั่วฟางทันที“ท่านอ๋อง เรื่องก่อนหน้านั้นสืบรู้ชัดแล้ว”เว่ยเหวินจงเองก็ไม่อ้อมค้อมต่อหยุนเจิง พร้อมบอกผลสรุปที่ตนสืบมาได้ให้กับหยุนเจิงทันทีแล้วแจ้งเรื่องที่ตู๋กูเช่อยังคงสืบหาไส้ศึกของสองป้อมเมืองอยู่ด้วย“เช่นนี้แสดงว่าข้าเข้าใจเจ้าผิดไปจริงๆ หรือนี่?”หยุนเจิงขมวดคิ้วเบาๆ “ดูท่าแล้ว ข้าควรจะขอโทษเจ้านะเนี่ย?”“ไม่จำเป็นๆ!”เว่ยเหวินจงส่ายศีรษะต่อเนื่อง “จะว่าไป ข้าควรจะขอบใจท่านอ๋องด้วยซ้ำ! หากไม่ใช่แผนการของท่านอ๋องล่ะก็ ข้าคงไม่รู้ว่าคนของเป่ยหวนจะส่งไส้ศึกมาที่จวนข้าด้วย! คิดไปคิดมา ครั้งก่อนก็เป็นไส้ศึกในจวนข้าที่แพร่ตกแหน่งที่ตั้งออกไป เพราะเช่นนั้นเป่ยหวนถึงได้กล้าลอบโจมตีหุบผาชันช่องลมโดยไม่เกรงกลัวได้!”“อืม ก็จริง!”หยุนเจิงยิ้มเยาะๆ “ไม่แน่ แม้แต่เหตุการณ์ชิงเสบียงระหว่างเป่ยหวนกับเป่ยหยวนก่อนหน้านั้นก็เก
ณ เมืองจักรพรรดิจักรพรรดิเหวินกำลังทำการประชุมเหมือนปกติช่วงนี้จักรพรรดิเหวินอารมณ์ดีไม่น้อยเจ้าหกได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่ซั่วฟาง และสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับเป่ยหวนด้วยการสูญเสียที่น้อยที่สุดนี่เองก็เป็นสงครามกับเป่ยหวนที่ซะใจที่สุดในประวัติศาสตร์ของต้าเฉียนสงครามครั้งนี้ถือว่าได้แก้แค้นให้กับทหารดูแลเสบียงของเป่ยหยวนเหล่านั้นด้วยทำให้ต้าเฉียนปล่อยวางได้สักที!แต่ทว่า เขาเองก็มีเรื่องต้องปวดหัวเช่นกันตบรางวัล!หยุนเจิงนำทัพจนได้รับชัยชนะครั้งใหญ่เช่นนี้ หากไม่ตบรางวัลให้ล่ะก็ ไม่รู้จะพูดอย่างไรเช่นกัน!หลายวันมานี้ เซียวว่านโฉววพวกเขาได้ขอรางวัลแทนหยุนเจิงไม่ใช่ครั้งเดียวแล้ววันนี้ แม่ทัพอาวุโสเหล่านี้ก็เอ่ยถึงเรื่องนี้อีกครั้งบัดนี้ ทางราชสำนักได้โกลาหลวุ่นวายไปทั่วเพราะเรื่องตบรางวัลให้กับผู้สร้างผลงานเหล่านี้“สร้างผลงาน ไม่ตบรางวัลให้ แล้วจะซื้อใจทหารได้อย่างไร?”“นั่นน่ะสิ บัดนี้แคว้นเรากำลังเผชิญหน้ากับเป่ยหวนตาต่อตา หากฝ่าบาททรงตบรางวัลให้แก่ทหารที่สร้างผลงานเหล่านั้นให้ตอนนี้จะสามารถเพิ่มกำลังใจให้กับกองทหารมณฑลฝ่ายเหนือเป็นอย่างมาก!”“ไร้สาระ
“ลูก…ลูกสาวเพคะ”หมอตำแยที่ตกใจกับท่าทางของหยุนเจิงก่อนหน้านี้ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกสาวดี! ลูกสาวดี!”หยุนเจิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนก้มลงมองเด็กน้อยที่ยังคงร้องไห้เสียงดังไม่เหมือนหยุนชางเลย เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เกิดมาโดยแทบไม่มีริ้วรอยบนผิวเลย เพียงแค่ตัวแดงระเรื่อเท่านั้น“เจ้าตัวน้อย เจ้านี่เกือบทำให้แม่ของเจ้าสิ้นชีวิตเลยนะ…”เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หัวใจของหยุนเจิงยังคงสั่นไหวเขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า หากเขาสูญเสียเยี่ยจื่อไป เขาจะต้องเจ็บปวดเพียงใดโชคดีที่มันเป็นเพียงความหวาดกลัวลวงตา!“อุแว๊ๆ…”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ และดูเหมือนเสียงของนางจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆหยุนเจิงลูบแผ่วเบาบนผ้าห่อตัวของนาง ก่อนหันไปมองหมอตำแยทั้งสามที่ยังยืนไม่มั่นใจ “ให้รางวัล! ให้รางวัลทุกคน! คนละห้าร้อยตำลึง!”ห้าร้อยตำลึง!?หมอตำแยทั้งสามแทบไม่เชื่อหูตัวเองท่านอ๋องผู้นี้ ช่างใจกว้างนัก!แค่เอ่ยปาก ก็แจกเงินรางวัลมากมายถึงเพียงนี้!“เอาล่ะ พวกเจ้าทำความสะอาดให้เรียบร้อยเถิด”หยุนเจิงเรียกสติหมอตำแย “เสร็จแล้วก็ไปรับรางวัลได้เลย”หยุนเจิงกล่าวจบ ก็กอดลูกสาวไปนั่งลงที่
“อ๊าก…”เสียงกรีดร้องของเยี่ยจื่อสะท้อนก้องอยู่ในหูของหยุนเจิง ราวกับสามารถฉีกหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ“พอแล้ว! อย่าคลอดแล้ว! ข้าไม่ต้องการลูกแล้ว! ข้าต้องการแค่เจ้า!”หยุนเจิงน้ำตาคลอเบ้า ส่ายศีรษะไปมาอย่างร้อนรน ก่อนจะหันไปตะโกนลั่นใส่หมอตำแยข้างๆ “ช่วยนางไว้! อย่าไปสนใจเด็ก!”เขากลัว!เขากลัวจริงๆ!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่เขาก็รู้ดีว่า หากพลาดแม้แต่นิดเดียว นางอาจตกเลือดหนักได้แม้แต่ในยุคปัจจุบัน การตกเลือดมากก็ยังยากที่จะรักษา แล้วนี่เป็นยุคโบราณ“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้ว!”ขณะนั้นเอง หมอตำแยก็ร้องขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้น“อุแว๊…”เสียงร้องแหลมใสของทารกดังขึ้นภายในห้องคลอด แต่ในขณะเดียวกัน เสียงของเยี่ยจื่อกลับเงียบลงอย่างกะทันหัน!หมอตำแยคนหนึ่งรีบเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวทารก ขณะที่อีกคนเตรียมห่อทารกในผ้าห่ม และหันไปแสดงความยินดีกับหยุนเจิง “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เด็กน้อยเป็น…”“ช่างลูกก่อน! ดูจื่อเอ๋อร์ก่อนว่านางเป็นอย่างไรบ้าง!”หยุนเจิงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น มือของเขาที่กุมมือเยี่ยจื่อไว้สั่นเทาอย่างรุนแรงตอน
เสียงร้องของเยี่ยจื่อ ทำให้หัวใจของหยุนเจิงบีบรัดตามไปด้วย“จื่อเอ๋อร์! ข้ากลับมาแล้ว!”หยุนเจิงไม่สนใจพูดคุยกับเสิ่นลั่วเยี่ยนและคนอื่นๆ เขารีบพุ่งไปที่ประตู แล้วตะโกนเข้าไปข้างใน“สามี!”เสียงร้องเจ็บปวดของเยี่ยจื่อดังขึ้นอีกครั้งแม้หยุนเจิงจะมองไม่เห็นสถานการณ์ภายในห้อง แต่เขาก็นึกภาพออกว่าเยี่ยจื่อต้องเจ็บปวดเพียงใดหากเป็นไปได้ เขาอยากจะแบ่งเบาความเจ็บปวดของนาง“จื่อเอ๋อร์ อย่ากลัว! สามีอยู่ที่นี่กับเจ้า!”หยุนเจิงกล่าวปลอบ แล้วรีบหันไปถามเสิ่นลั่วเยี่ยน “จื่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?”เสิ่นลั่วเยี่ยนที่ดวงตาแดงก่ำ แอบมองไปทางประตูห้อง ก่อนจะตอบเสียงแผ่วเบา “หมอตำแยบอกว่า ตำแหน่งของทารกไม่ค่อยปกติ อาจคลอดได้ยาก เมี่ยวอินก็กำลังช่วยอยู่ เราเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างนอก……”ตำแหน่งทารกผิดปกติ!เมื่อได้ยินคำนี้ หัวใจของหยุนเจิงพลันเต้นรัวขึ้นมาทันที เขาหันขวับไปมองฮูหยินเสิ่นและเว่ยซวงที่ยืนอยู่ใกล้ๆพบว่าทั้งสองต่างมีดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายใจไม่น้อยหยุนเจิงเข้าใจทันทีว่า เสิ่นลั่วเยี่ยนคงไม่อยากให้เขากังวลเกินไป จึงบอกเพียงว่าคลอ
ไม่กี่วันต่อมา ขณะที่หยุนเจิงอยู่ที่จิงหยางฝู่ เขาได้รับข่าวสารฮั่วเหวินจิ้งตายแล้ว!ไม่ได้ถูกฆ่าปิดปาก แต่ตายเพราะป่วย!หยุนเจิงคาดว่า ฮั่วเหวินจิ้งคงเสียชีวิตเพราะบาดแผลติดเชื้อเมื่อได้รับข่าวนี้ หยุนเจิงแทบอยากจะด่าหยุนลี่ว่าโง่เง่าเป็นหมูเสียจริงทำไมเขาถึงไม่ใช้วิธีทรมานก่อน แล้วค่อยให้หมอรักษาไว้ล่ะ?อีกแค่ก้าวเดียว เขากำลังจะสาวไปถึงตัวการเบื้องหลังได้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ฮั่วเหวินจิ้งกลับมาตายเสียก่อนมันเหมือนกับฟ้ากำลังเล่นตลกกับเขา!สิ่งเดียวที่พอทำให้โล่งใจได้บ้างคือ อีกาดำและอีกาขาวต่างได้รับความเสียหายหนัก คนของเขาที่แทรกซึมอยู่ในอีกาดำ น่าจะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้หากสามารถทำให้คนของเขากลายเป็นหัวหน้าของอีกาดำได้ ก็คงดี!แต่ไม่รู้ว่าเงาสอง ที่ร่วมเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อฆ่าปิดปาก ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ขอให้รอดปลอดภัยเถอะ!หยุนเจิงถอนหายใจเงียบๆ ก่อนลุกขึ้นยืนในเมื่อฮั่วเหวินจิ้งตายไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องรอสอบสวนอะไรอีกเรื่องที่เหลือ ก็ปล่อยให้ทัวฮวนจัดการไปก็แล้วกัน!“ส่งคำสั่งถึงอวี่ซื่อจง ให้เหลือทหารห้าพันนายประจำการอยู่ที่นี่ ภายใต้การบัญชาของรองแม่ท
“ลูกเข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”หยุนลี่รีบรับคำสั่ง“จำไว้! ฮั่วเหวินจิ้งถูกนักฆ่าสังหาร ไม่ใช่ตายเพราะป่วย!”จักรพรรดิเหวินกล่าวเตือนหยุนลี่ด้วยใบหน้าเย็นชา ก่อนเสด็จออกจากจวนองค์รัชทายาทแม้จะนั่งอยู่ในเกี้ยวแล้ว แต่เพลิงโทสะของจักรพรรดิเหวินยังคงลุกโชนไม่มอดอย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวในพระทัย ก็ยังมีความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างซ่อนอยู่เขารู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งไม่ใช่คนของหยุนเจิงหากสามารถเค้นเอาความจริงจากฮั่วเหวินจิ้งได้ จนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง บางทีพระองค์เองอาจไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรหากเป็นพระโอรสองค์ใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่นางสนมคนใดคนหนึ่งของพระองค์ พระองค์จะต้องลงพระอาญาสังหารพวกเขาด้วยพระองค์เองอย่างนั้นหรือ?หากเรื่องนี้ทำให้คนที่รอดพ้นจากเคราะห์ครั้งนี้ได้สำนึกและเลิกล้มความคิดที่จะก่อความวุ่นวาย นั่นก็คงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวการเบื้องหลังของฮั่วเหวินจิ้ง จักรพรรดิเหวินเองก็พอมีข้อสันนิษฐานอยู่ในพระทัยแต่เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน พระองค์ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดยิ่งไปกว่านั้น คนที่พระองค์สงสัยมีอยู่หลายคน ทำให้ไม่อาจฟันธงได้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ดูเหมือ
ภายในพระราชวัง จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังตรวจสอบข่าวเร่งด่วนจากเมืองฝูโจวอย่างไรก็ตาม ทั้งสองเพียงกวาดตามองก็ขว้างเอกสารฉบับนั้นทิ้งด้วยความโกรธอย่าว่าแต่หยุนลี่เลย แม้แต่จักรพรรดิเหวินก็อดด่าหยุนเจิงในใจไม่ได้ลูกอกตัญญูผู้นี้ ชักจะเหลวไหลขึ้นทุกวันเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็กล้าใช้ชื่อข่าวเร่งด่วนทางทหารส่งมาถึงเมืองหลวงนี่เป็นครั้งที่สองแล้ว!ข่าวเร่งด่วนทางทหารถูกเขาใช้เป็นของเล่นไปแล้ว!คราวหน้า ถ้าเจอตัวเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ข้าจะเตะมันให้กระอักสองทีแน่!“กราบทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทฝ่าบาท กองกำลังของกระหม่อมถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ถนนเป่ยเจีย……”ขณะที่จักรพรรดิเหวินและหยุนลี่กำลังเดือดดาลกับหยุนเจิง เฉียวเหยียนเซียนก็ส่งคนมาแจ้งข่าวนักฆ่าหลายสิบคนที่ร่วมมือกันสังหารฮั่วเหวินจิ้งและครอบครัว ถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นส่วนใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่ฉวยโอกาสความชุลมุนหลบหนีไปได้ครั้งนี้ การวางแผนของพวกเขารัดกุมยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะพลส่งสารข่าวเร่งด่วนโผล่มาขัดจังหวะ คงไม่มีทางที่นักฆ่าจะรอดไปได้เลยนอกจากนี้ พวกเขายังพบหน้าไม้ทรงอานุภาพจำนวนมากในที่เกิดเหตุเมื่อรายงานมาถ
ขณะที่เฉียวเหยียนเซียนนำกำลังคุมตัวนักโทษผ่านถนนเป่ยเจีย หน้าต่างบนหอคอยของอาคารสองหลังที่อยู่สองฟากถนนค่อยๆ เปิดออกเล็กน้อยหน้าไม้จำนวนมากถูกเล็งออกมาจากช่องหน้าต่างโดยไร้เสียง เพียงแค่รอให้กรงนักโทษเข้าสู่ระยะยิง พวกเขาก็จะลงมือทันทีขบวนคุ้มกันเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ เงาสองก็เตรียมพร้อมเช่นกันเขาไม่รู้ว่าฮั่วเหวินจิ้งมีความสำคัญต่อหยุนเจิงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากอีกาดำมากขึ้น เขาจำเป็นต้องร่วมมือสังหารเหล่านักโทษเหล่านี้แต่เขาก็รู้ดีว่า หากลงมือแล้ว การจะหลบหนีออกจากเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาต้องรอด!ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่ต้องการตาย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะ หากเขารอด เขาจะมีโอกาสพบกับผู้ที่คอยสนับสนุนการหลบหนีของพวกเขาและบุคคลนี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง!เงาสองครุ่นคิดเงียบๆ พร้อมเหลือบมองหน้าไม้ในมือพวกเขาปลอมตัวเป็นพ่อค้าเพื่อแฝงตัวเข้าเมืองหลวง ย่อมไม่สามารถพกพาอาวุธเหล่านี้มาเองได้หน้าไม้เหล่านี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า ถูกซุกซ่อนไว้ที่เนินเขาเหมียวเอ่อร์ซานสิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธของกองทัพ!แม้ทางราชสำนักจะควบคุมอาวุธประเภทนี
“ฝ่าบาท เงาสามแจ้งข่าวด่วน!”จิงหยางฟู่ เสิ่นควานถือจดหมายฉบับหนึ่ง รีบรุดเข้ามาด้วยท่าทีเร่งรีบเงาสาม?นี่เป็นหนึ่งในคนที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในอีกาดำได้สำเร็จเงาสามส่งข่าวด่วนมา ดูท่าแล้ว อีกาดำคงจะลงมือแล้วแน่หากไม่มีอะไรผิดพลาด อีกาดำน่าจะต้องการสังหารฮั่วเหวินจิ้งเพื่อกำจัดภัยร้ายอย่างสิ้นซาก!หยุนเจิงครุ่นคิดไปพลาง รับจดหมายจากเสิ่นควานและเปิดออกดูเมื่อเห็นเนื้อหาในจดหมาย หยุนเจิงก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวข่าวที่เงาสามส่งมา ตรงกับที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวนำทัพมาด้วยตนเอง ต้องการฆ่าฮั่วเหวินจิ้งให้ได้!แม้แต่เงาสองก็ถูกเลือกให้เข้าร่วมภารกิจลอบสังหารครั้งนี้ตอนนี้ พวกเขาได้รับเพียงคำสั่งให้เตรียมพร้อม แต่ยังไม่รู้เวลาและสถานที่ลงมือที่แน่ชัดหัวหน้าอีกาดำและอีกาขาวตั้งใจปกปิดข้อมูล ไม่ให้ผู้ใดซักถาม ใครที่ร่วมภารกิจก็แค่ทำตามคำสั่งในขณะลงมือเท่านั้นพวกเขากลัวว่าจะถูกสงสัย จึงไม่กล้าไต่ถามอะไรมากข่าวที่เงาสามส่งกลับมา สำหรับหยุนเจิงแล้ว ไม่ใช่ข่าวดีเลยเขายอมจ่ายเงินกว่าล้านตำลึงเพื่อให้ครอบครัวฮั่วเหวินจิ้งปลอดภัยและมาถึงมือเขาแต่ตอนนี
หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำอย่างไรดี? นางเองก็อยากหาคนมาปรึกษา ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์นี้ แต่เวลานี้… เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบแก่นางได้ ไม่นึกเลยว่า… แผนการที่นางวางมาอย่างรอบคอบมายาวนาน กลับจะพังทลายลงในมือของหยุนลี่! เฮ้อ! นางทอดถอนใจยาวในใจ แต่ในดวงตากลับปรากฏประกายเย็นยะเยือก "ไม่ว่าอย่างไร… ฮั่วเหวินจิ้งต้องไม่มีชีวิตรอดไปถึงมือหยุนเจิง! หากไร้ซึ่งความกังวลเรื่องครอบครัว ฮั่วเหวินจิ้งจะต้องเปิดโปงเราทั้งหมดแน่!" นางรู้ดีว่าฮั่วเหวินจิ้งกำลังกังวลสิ่งใด สิ่งที่ฮั่วเหวินจิ้งกังวลที่สุดในตอนนี้ คือความปลอดภัยของครอบครัว เขาจึงไม่กล้าเปิดโปงนางออกไป แต่หากครอบครัวของฮั่วเหวินจิ้งถูกส่งไปถึงมือหยุนเจิงอย่างปลอดภัย เช่นนั้น เขาย่อมไม่มีเหตุผลใดให้ปิดปากอีกต่อไป! ระหว่างหยุนลี่กับหยุนเจิง นางเกรงกลัวหยุนเจิงมากกว่า เพราะหยุนเจิงคือผู้กุมอำนาจกองทัพ… หากหยุนเจิงรู้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือตัวนางเอง เช่นนั้น… นางคงหนีไม่พ้นความตาย! ไม่ใช่แค่หยุนเจิง… แม้แต่หยุนลี่ หรือแม้กระทั่งองค์จักรพรรดิ… ก็คงไม่ปล่อยนางไปเช่นกัน! เมื่อได้ยินเช่